Monster Paradise 1601 วินาทีที่เขาเคลื่อนไหว ศัตรูของเขาจะแพ้

Now you are reading Monster Paradise Chapter 1601 วินาทีที่เขาเคลื่อนไหว ศัตรูของเขาจะแพ้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1601 วินาทีที่เขาเคลื่อนไหว ศัตรูของเขาจะแพ้

 

หลังส่งหลินซินกับหลินซวนไป หลินฮวงก็นั่งลําพังในสวนและตรวจสอบสถานะของการ์ดมอนสเตอร์เขา

 

มันเกือบห้าเดือนแล้วตั้งแต่เขาปล่อยมอนสเตอร์ให้ไปหาทรัพยากรบ่มเพาะกันเอง ตั้งแต่นั้นมา เขาก็ไม่เคยไปดูความคืบหน้าของพวกไปเลย

 

ตอนนี้ที่เขามีเวลา เขาถึงเริ่มตรวจสอบผ่านการ์ดทีละใบ

 

การ์ดมอนสเตอร์ใบแรกที่เขาดูคือไคลี่ นางได้เป็นมอนสเตอร์ขั้นหก จิตวิญญาณบริสุทธิ์แล้ว โดยไม่ต้องสงสัย นางแข็งแกร่งสุด

 

สี่เดือนก่อนหรือนานกว่านั้น ไคลี่ได้เลื่อนเป็นเทพสวรรค์แล้ว ตอนนี้ ในเวลาแค่สี่เดือน พลังของนางกลับทะลุเป็นเทพสวรรค์ชั้นหก

 

ความเร็วเช่นนี้ถือได้ว่าน่ากลัวมาก

 

การยกระดับพลังของหลินฮวงก็ถือว่าเร็วพอเช่นกัน แต่ห้าเดือนที่ผ่านมา เขาแค่เลื่อนจากข์ นหกเป็นสิบ นอกจากนี้ เขาได้เลื่อนเป็นขั้นหกก่อนไคลี่จะปิดประตูบ่มเพาะเลื่อนเป็นเทพสวรรค์ซะอีก

 

แต่ทว่า เขารู้สึกสบายใจอีกครั้งหลังคิดให้ดี

 

ไคลี่เป็นจิตวิญญาณบริสุทธิ์ นางยังมีผู้สนับสนุนเป็นองค์กรระดับหก เผ่าเนฟิลิก

 

ถ้านางต้องการทรัพยากรบ่มเพาะใด นางแค่ต้องขอ

 

ยิ่งไปกว่านั้น ตามสถานการณ์ปัจจุบัน เผ่าเนฟิลิกได้ตั้งความหวังให้ไคลี่รีบเลื่อนเป็น เทพสวรรค์ขั้นเก้าโดยไว้เพื่อให้นางปกป้องตัวเองได้

 

เหนือสิ่งอื่นใด ความสามารถของเทพสวรรค์ชั้นเก้าจิตวิญญาณบริสุทธิ์จะเทียบได้กับกึ่งจ้าวเทวะ หรืออาจทรงพลังกว่าด้วยซ้ำ

 

สําหรับความกังวลใดเกี่ยวกับรากฐานบ่มเพาะที่อ่อนแอ ปัญหาเช่นนั้นจะไม่มีอยู่กับตัวตนระดับจิตวิญญาณบริสุทธิ์

 

ถ้าสิ่งมีชีวิตเป็นจิตวิญญาณบริสุทธิ์โดยเนื้อแท้ พวกเขาจะเกิดมาเพื่อเป็นข้าวเทวะ

 

แม้ไคลจะเพิ่งยกระดับหลังเกิด นางก็ไม่ต้องการรากฐานใดก่อนนางจะเลื่อนเป็นจ้าวเทวะ เพราะมากสุด นางแค่ต้องหาประสบการณ์ต่อสู้จริงเพื่อทําความคุ้นเคยกับการเพิ่มพลังในทุกแง่มุมอันเป็นผลจากการยกระดับพลังอย่างรวดเร็วของนางเท่านั้น

 

หลินฮวงพอใจมากกับการพัฒนาของไคลี่

 

“ด้วยอัตรานี้ นางจะเลื่อนเป็นขั้นเก้าภายในสามเดือน”

 

หลังตรวจสอบข้อมูลของไคลี่ หลินฮวงก็หันความสนใจไปยังเจ้าแดง

 

ตามคาด ระดับพลังของเจ้าแดงพุ่งทะยานเช่นกัน ตอนนี้นางเลื่อนเป็นเทพสวรรค์ขั้นห้า

 

เห็นได้ชัดว่านางได้รับผลประโยชน์จากการอยู่กับไคลี่

 

ระดับพลังของนางที่เลื่อนน่าจะเป็นเพราะทรัพยากรของเผ่าเนฟิลิก

 

ในฐานะเพื่อนคนสนิทของไคลี่ ปัจจุบัน เจ้าแดงอาจถูกมองเป็นเหมือนเจ้าหญิงเช่นกัน

 

หลินฮวงไม่กังวลว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับรากฐานของเจ้าแดงเลย เหนือสิ่งอื่นใด นางได้เลื่อนเป็นเทพสูงสุดแล้ว(ขั้นห้า)

 

ทั้งหมดที่นางต้องทําคือเสริมรากฐานตัวเองเล็กน้อยตอนนางไปถึงระดับเทพสวรรค์ชั้นเก้า

 

เมื่อเขาตรวจสอบความก้าวหน้าของเจ้าแดง หลินฮวงก็มองมอนสเตอร์ตัวอื่นที่เป็นเทพสูงสุดเช่นกัน

 

มอนสเตอร์ระดับห้า เทพสูงสุดสามตัว จอมสังหาร เกล็ดดํา และกู่หรงได้เลื่อนเป็น เทพสวรรค์ชั้นสี่

 

นี่ไม่ทําให้หลินฮวงแปลกใจอะไร ทั้งสามเป็นเทพสวรรค์แล้วก่อนเขาปลดปล่อยพวกมัน นอกจากนี้ พวกมันยังจับกลุ่มกันตอนได้รับอิสระให้เลือกกลุ่ม เนื่องจากทั้งสามคือสิ่งมีชีวิตระดับห้า ระดับพลังพวกมันจึงอยู่ที่เทพสวรรค์เช่นกัน นี่หมายความว่าความสามารถพวกมันไกลเกินมอนสเตอร์ตัวอื่น พวกมันจึงไม่สามารถจับกลุ่มกับที่เหลือได้

 

ตามคาด เมื่อพวกมันจับกลุ่มกัน การพัฒนาของพวกมันจึงเด่นชัด

 

หลังเขาตรวจสอบความก้าวหน้าของกลุ่มจอมสังหาร หลินฮวงก็ดูไปกับเถิงหราน

 

เนื่องจากไปกับเถิงหรานเป็นกึ่งเทพสูงสุด พวกมันจึงใช้เวลาเดือนหนึ่งเพื่อเลื่อนเป็นเทพสูงสุด หลังหลินฮวงใช้การ์ดเลื่อนขั้นกับพวกมัน ดังนั้น ทั้งสองจึงล่าทรัพยากรช้ากว่าคนอื่น

 

อย่างไรก็ตาม ไปกับเถิงหรานก็เลื่อนเป็นเทพสวรรค์ชั้นสี่แล้ว ซึ่งหมายความว่าพวกเขาตามทันกลุ่มของจอมสังหารทันในแง่ความก้าวหน้า

 

ไม่ต้องพูดอะไรเกี่ยวกับเถิงหราน มันเป็นเทพสวรรค์ชั้นหนึ่งอยู่แล้วก่อนเลื่อนเป็นเทพสูงสุด

 

แต่ทว่า ไป่ก็มีของ ก่อนเลื่อนเป็นเทพสูงสุด มันก็ได้เป็นเทพแท้จริงขั้นเก้าแล้ว

 

กล่าวอีกนัยหนึ่ง เขาได้ใช้เวลาไม่ถึงสี่เดือนเพื่อเลื่อนผ่านห้าขั้นพลัง

 

หลินฮวงจินตนาการได้ว่าไปต้องพยายามมากแค่ไหนเพื่อให้ไล่ตามพวกไคลี่ทัน

 

หลังหันความสนใจจากการ์ดของไป หลินฮวงก็ตรวจสอบตัวตลก ที่ระดับพลังเป็นรองแค่ไป

 

“เจ้าหมอนี่” หลินฮวงตกตะลึงตอนเห็นการ์ดของตัวตลก

 

เขาตกใจกับตัวตลกที่เลื่อนเป็นกึ่งเทพสูงสุดแล้ว

 

ตัวตลกไม่ใช่แค่ตัวเดียว แลนเซล็อตกับชาโคลก็ด้วย

 

เขานึกย้อนกลับไปและจําได้ว่าทั้งสามจับกลุ่มกัน

 

มันดูเหมือนพวกมันจะพบโชคลาภก้อนโตถึงขั้นยกระดับชั้นชีวิตได้

 

ยิ่งไปกว่านั้น การเพิ่มของระดับพลังทั้งสามยังไม่ได้ช้าไปกว่าไปนัก พวกมันเลื่อนเป็นเทพสวรรค์ขั้นสามกัน ต้องรู้ว่าห้าเดือนก่อน พวกมันเป็นแค่เทพแท้จริงขั้นเจ็ดและแปด พวกมันยังไม่ถึงขั้นเก้าเลย

 

ตัวที่ยกระดับเร็วมากก็คือราชินีเผ่าแมลงทั้งหลาย

 

เหมือนตัวตลกและอีกสอง พวกมันเลื่อนเป็นเทพสวรรค์ชั้นสาม

 

แต่ทว่า หลินฮวงไม่แปลกใจกับความก้าวหน้าของเผ่าแมลง

 

พวกมันมีทั้งเผ่าแมลงคอยสนับสนุน

 

นอกจากนี้ นอกจากราชินีเองแล้ว ราชาแมลงทั้งหลายก็เลื่อนเป็นขั้นสองด้วย ยังมีอสูรแมลงกว่าพันตัวที่เลื่อนเป็นเทพสวรรค์

 

จํานวนนี้ไกลเกินความคาดหวังของหลินฮวง

 

หลังดูความคืบหน้าของเผ่าแมลง หลินฮวงก็หันความสนใจไปยังมอนสเตอร์ที่เหลือ

 

แม้ไทแรนด์ สายฟ้า กับแม่มดจะไม่เร็วเท่าตัวตลก ไปกับตัวอื่น ความก้าวหน้าก็ไม่น่าสมเพช พวกมันเลื่อนเป็นเทพสวรรค์กันแล้ว

 

หลินฮวงพอใจกับความก้าวหน้าของเหล่ามอนสเตอร์เขามาก

 

แม้ไคลี่ ไปกับที่เหลือจะไม่สามารถเข้าร่วมในการต่อสู้ที่ระดับเขาได้ แต่ด้วยความก้าวหน้า อีกไม่นานพวกมันคงเป็นเทพสวรรค์ชั้นเก้ากัน

 

พอถึงเวลานั้น พวกมันจะกลายเป็นผู้ช่วยที่ทรงพลังของเขา

 

มอนสเตอร์อัญเชิญยังต้องการเวลาเพื่อพัฒนา แต่มันไม่ใช่ว่าหลินฮวงไม่มีลูกน้องไว้ใช้งาน 

 

ตั้งแต่เขาเลื่อนเป็นเทพแท้จริงขั้นสิบ ระดับพลังของทาสดาบแทบทั้งหมดของเขาก็ปลดผนึก เต็มที่ พวกเขาฟื้นกลับเป็นเทพสวรรค์ขั้นเก้ากันแล้ว

 

นอกจากดาบ 1-10 ที่เขายังใช้ไม่ได้ เขามีทาสดาบทั้งหมด

 

ทาสดาบทั้งหมด 358 ล้วนเป็นเทพสวรรค์ขั้นเก้า

 

ไม่ใช่แค่นั้น ยังมียอดฝีมือกึ่งเทพสูงสุด 25 คนและเทพสูงสุดถึงสองในหมู่พวกเขา

ดาบ 1กับดาบ 12 คือยอดฝีมือระดับห้าในมหาพิภพ ความสามารถพวกเขายืนอยู่ด้านบน ในความเป็นจริง พวกเขาอาจเป็นรองแค่ใต้สวรรค์

 

หลินฮวงทบทวนความสามารถตัวเองด้วยเช่นกัน โดยไม่ใช้ไพ่ตาย เขาอาจอยู่ระดับเดียวกันกับดาบ 11 และดาบ 12

 

ยังมีเส้นแบ่งระหว่างตัวเขากับยอดฝีมือเทพสวรรค์ขั้นสุดยอดอย่างดาบ 1 และใต้สวรรค์

 

ในความเป็นจริง พลังเช่นนั้นถือว่ามากพอจะครอบงําองค์กรระดับห้าทั้งหมดในมหาพิภพ

 

แต่ทว่า นี่ไม่พอสําหรับหลินฮวง

 

ยิ่งเขาทรงพลัง ยิ่งเขารู้ว่าถึงจ้าวเทวะกับจ้าวเทวะน่ากลัวแค่ไหน เขาก็ยิ่งกลัวองค์กรไรเดอร์มากเท่านั้น

 

หลินฮวงไม่เคยขี้ขลาด หรือโดนศัตรูข่มขู่ แต่ทว่า มันเป็นนิสัยของเขาที่จะเตรียมตัวก่อนลงมือ ถึงขั้นจะเอาชนะพวกมันถ้าเป็นไปได้ ตอนเขารู้สึกว่าเวลาจวนตัว เขาก็จะริเริ่มโจมตี ทําลายล้างศัตรูก่อน

 

แต่ทว่า ถ้าเขามีพลังไม่พอ เขาก็จะอดทนรอหาโอกาสโจมตี

 

เหมือนกับเกมหมากรุก วินาทีที่เขาเคลื่อนไหว คู่ต่อสู้ของเขาจะแพ้

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Monster Paradise 1601 วินาทีที่เขาเคลื่อนไหว ศัตรูของเขาจะแพ้

Now you are reading Monster Paradise Chapter 1601 วินาทีที่เขาเคลื่อนไหว ศัตรูของเขาจะแพ้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1601 วินาทีที่เขาเคลื่อนไหว ศัตรูของเขาจะแพ้

 

หลังส่งหลินซินกับหลินซวนไป หลินฮวงก็นั่งลําพังในสวนและตรวจสอบสถานะของการ์ดมอนสเตอร์เขา

 

มันเกือบห้าเดือนแล้วตั้งแต่เขาปล่อยมอนสเตอร์ให้ไปหาทรัพยากรบ่มเพาะกันเอง ตั้งแต่นั้นมา เขาก็ไม่เคยไปดูความคืบหน้าของพวกไปเลย

 

ตอนนี้ที่เขามีเวลา เขาถึงเริ่มตรวจสอบผ่านการ์ดทีละใบ

 

การ์ดมอนสเตอร์ใบแรกที่เขาดูคือไคลี่ นางได้เป็นมอนสเตอร์ขั้นหก จิตวิญญาณบริสุทธิ์แล้ว โดยไม่ต้องสงสัย นางแข็งแกร่งสุด

 

สี่เดือนก่อนหรือนานกว่านั้น ไคลี่ได้เลื่อนเป็นเทพสวรรค์แล้ว ตอนนี้ ในเวลาแค่สี่เดือน พลังของนางกลับทะลุเป็นเทพสวรรค์ชั้นหก

 

ความเร็วเช่นนี้ถือได้ว่าน่ากลัวมาก

 

การยกระดับพลังของหลินฮวงก็ถือว่าเร็วพอเช่นกัน แต่ห้าเดือนที่ผ่านมา เขาแค่เลื่อนจากข์ นหกเป็นสิบ นอกจากนี้ เขาได้เลื่อนเป็นขั้นหกก่อนไคลี่จะปิดประตูบ่มเพาะเลื่อนเป็นเทพสวรรค์ซะอีก

 

แต่ทว่า เขารู้สึกสบายใจอีกครั้งหลังคิดให้ดี

 

ไคลี่เป็นจิตวิญญาณบริสุทธิ์ นางยังมีผู้สนับสนุนเป็นองค์กรระดับหก เผ่าเนฟิลิก

 

ถ้านางต้องการทรัพยากรบ่มเพาะใด นางแค่ต้องขอ

 

ยิ่งไปกว่านั้น ตามสถานการณ์ปัจจุบัน เผ่าเนฟิลิกได้ตั้งความหวังให้ไคลี่รีบเลื่อนเป็น เทพสวรรค์ขั้นเก้าโดยไว้เพื่อให้นางปกป้องตัวเองได้

 

เหนือสิ่งอื่นใด ความสามารถของเทพสวรรค์ชั้นเก้าจิตวิญญาณบริสุทธิ์จะเทียบได้กับกึ่งจ้าวเทวะ หรืออาจทรงพลังกว่าด้วยซ้ำ

 

สําหรับความกังวลใดเกี่ยวกับรากฐานบ่มเพาะที่อ่อนแอ ปัญหาเช่นนั้นจะไม่มีอยู่กับตัวตนระดับจิตวิญญาณบริสุทธิ์

 

ถ้าสิ่งมีชีวิตเป็นจิตวิญญาณบริสุทธิ์โดยเนื้อแท้ พวกเขาจะเกิดมาเพื่อเป็นข้าวเทวะ

 

แม้ไคลจะเพิ่งยกระดับหลังเกิด นางก็ไม่ต้องการรากฐานใดก่อนนางจะเลื่อนเป็นจ้าวเทวะ เพราะมากสุด นางแค่ต้องหาประสบการณ์ต่อสู้จริงเพื่อทําความคุ้นเคยกับการเพิ่มพลังในทุกแง่มุมอันเป็นผลจากการยกระดับพลังอย่างรวดเร็วของนางเท่านั้น

 

หลินฮวงพอใจมากกับการพัฒนาของไคลี่

 

“ด้วยอัตรานี้ นางจะเลื่อนเป็นขั้นเก้าภายในสามเดือน”

 

หลังตรวจสอบข้อมูลของไคลี่ หลินฮวงก็หันความสนใจไปยังเจ้าแดง

 

ตามคาด ระดับพลังของเจ้าแดงพุ่งทะยานเช่นกัน ตอนนี้นางเลื่อนเป็นเทพสวรรค์ขั้นห้า

 

เห็นได้ชัดว่านางได้รับผลประโยชน์จากการอยู่กับไคลี่

 

ระดับพลังของนางที่เลื่อนน่าจะเป็นเพราะทรัพยากรของเผ่าเนฟิลิก

 

ในฐานะเพื่อนคนสนิทของไคลี่ ปัจจุบัน เจ้าแดงอาจถูกมองเป็นเหมือนเจ้าหญิงเช่นกัน

 

หลินฮวงไม่กังวลว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับรากฐานของเจ้าแดงเลย เหนือสิ่งอื่นใด นางได้เลื่อนเป็นเทพสูงสุดแล้ว(ขั้นห้า)

 

ทั้งหมดที่นางต้องทําคือเสริมรากฐานตัวเองเล็กน้อยตอนนางไปถึงระดับเทพสวรรค์ชั้นเก้า

 

เมื่อเขาตรวจสอบความก้าวหน้าของเจ้าแดง หลินฮวงก็มองมอนสเตอร์ตัวอื่นที่เป็นเทพสูงสุดเช่นกัน

 

มอนสเตอร์ระดับห้า เทพสูงสุดสามตัว จอมสังหาร เกล็ดดํา และกู่หรงได้เลื่อนเป็น เทพสวรรค์ชั้นสี่

 

นี่ไม่ทําให้หลินฮวงแปลกใจอะไร ทั้งสามเป็นเทพสวรรค์แล้วก่อนเขาปลดปล่อยพวกมัน นอกจากนี้ พวกมันยังจับกลุ่มกันตอนได้รับอิสระให้เลือกกลุ่ม เนื่องจากทั้งสามคือสิ่งมีชีวิตระดับห้า ระดับพลังพวกมันจึงอยู่ที่เทพสวรรค์เช่นกัน นี่หมายความว่าความสามารถพวกมันไกลเกินมอนสเตอร์ตัวอื่น พวกมันจึงไม่สามารถจับกลุ่มกับที่เหลือได้

 

ตามคาด เมื่อพวกมันจับกลุ่มกัน การพัฒนาของพวกมันจึงเด่นชัด

 

หลังเขาตรวจสอบความก้าวหน้าของกลุ่มจอมสังหาร หลินฮวงก็ดูไปกับเถิงหราน

 

เนื่องจากไปกับเถิงหรานเป็นกึ่งเทพสูงสุด พวกมันจึงใช้เวลาเดือนหนึ่งเพื่อเลื่อนเป็นเทพสูงสุด หลังหลินฮวงใช้การ์ดเลื่อนขั้นกับพวกมัน ดังนั้น ทั้งสองจึงล่าทรัพยากรช้ากว่าคนอื่น

 

อย่างไรก็ตาม ไปกับเถิงหรานก็เลื่อนเป็นเทพสวรรค์ชั้นสี่แล้ว ซึ่งหมายความว่าพวกเขาตามทันกลุ่มของจอมสังหารทันในแง่ความก้าวหน้า

 

ไม่ต้องพูดอะไรเกี่ยวกับเถิงหราน มันเป็นเทพสวรรค์ชั้นหนึ่งอยู่แล้วก่อนเลื่อนเป็นเทพสูงสุด

 

แต่ทว่า ไป่ก็มีของ ก่อนเลื่อนเป็นเทพสูงสุด มันก็ได้เป็นเทพแท้จริงขั้นเก้าแล้ว

 

กล่าวอีกนัยหนึ่ง เขาได้ใช้เวลาไม่ถึงสี่เดือนเพื่อเลื่อนผ่านห้าขั้นพลัง

 

หลินฮวงจินตนาการได้ว่าไปต้องพยายามมากแค่ไหนเพื่อให้ไล่ตามพวกไคลี่ทัน

 

หลังหันความสนใจจากการ์ดของไป หลินฮวงก็ตรวจสอบตัวตลก ที่ระดับพลังเป็นรองแค่ไป

 

“เจ้าหมอนี่” หลินฮวงตกตะลึงตอนเห็นการ์ดของตัวตลก

 

เขาตกใจกับตัวตลกที่เลื่อนเป็นกึ่งเทพสูงสุดแล้ว

 

ตัวตลกไม่ใช่แค่ตัวเดียว แลนเซล็อตกับชาโคลก็ด้วย

 

เขานึกย้อนกลับไปและจําได้ว่าทั้งสามจับกลุ่มกัน

 

มันดูเหมือนพวกมันจะพบโชคลาภก้อนโตถึงขั้นยกระดับชั้นชีวิตได้

 

ยิ่งไปกว่านั้น การเพิ่มของระดับพลังทั้งสามยังไม่ได้ช้าไปกว่าไปนัก พวกมันเลื่อนเป็นเทพสวรรค์ขั้นสามกัน ต้องรู้ว่าห้าเดือนก่อน พวกมันเป็นแค่เทพแท้จริงขั้นเจ็ดและแปด พวกมันยังไม่ถึงขั้นเก้าเลย

 

ตัวที่ยกระดับเร็วมากก็คือราชินีเผ่าแมลงทั้งหลาย

 

เหมือนตัวตลกและอีกสอง พวกมันเลื่อนเป็นเทพสวรรค์ชั้นสาม

 

แต่ทว่า หลินฮวงไม่แปลกใจกับความก้าวหน้าของเผ่าแมลง

 

พวกมันมีทั้งเผ่าแมลงคอยสนับสนุน

 

นอกจากนี้ นอกจากราชินีเองแล้ว ราชาแมลงทั้งหลายก็เลื่อนเป็นขั้นสองด้วย ยังมีอสูรแมลงกว่าพันตัวที่เลื่อนเป็นเทพสวรรค์

 

จํานวนนี้ไกลเกินความคาดหวังของหลินฮวง

 

หลังดูความคืบหน้าของเผ่าแมลง หลินฮวงก็หันความสนใจไปยังมอนสเตอร์ที่เหลือ

 

แม้ไทแรนด์ สายฟ้า กับแม่มดจะไม่เร็วเท่าตัวตลก ไปกับตัวอื่น ความก้าวหน้าก็ไม่น่าสมเพช พวกมันเลื่อนเป็นเทพสวรรค์กันแล้ว

 

หลินฮวงพอใจกับความก้าวหน้าของเหล่ามอนสเตอร์เขามาก

 

แม้ไคลี่ ไปกับที่เหลือจะไม่สามารถเข้าร่วมในการต่อสู้ที่ระดับเขาได้ แต่ด้วยความก้าวหน้า อีกไม่นานพวกมันคงเป็นเทพสวรรค์ชั้นเก้ากัน

 

พอถึงเวลานั้น พวกมันจะกลายเป็นผู้ช่วยที่ทรงพลังของเขา

 

มอนสเตอร์อัญเชิญยังต้องการเวลาเพื่อพัฒนา แต่มันไม่ใช่ว่าหลินฮวงไม่มีลูกน้องไว้ใช้งาน 

 

ตั้งแต่เขาเลื่อนเป็นเทพแท้จริงขั้นสิบ ระดับพลังของทาสดาบแทบทั้งหมดของเขาก็ปลดผนึก เต็มที่ พวกเขาฟื้นกลับเป็นเทพสวรรค์ขั้นเก้ากันแล้ว

 

นอกจากดาบ 1-10 ที่เขายังใช้ไม่ได้ เขามีทาสดาบทั้งหมด

 

ทาสดาบทั้งหมด 358 ล้วนเป็นเทพสวรรค์ขั้นเก้า

 

ไม่ใช่แค่นั้น ยังมียอดฝีมือกึ่งเทพสูงสุด 25 คนและเทพสูงสุดถึงสองในหมู่พวกเขา

ดาบ 1กับดาบ 12 คือยอดฝีมือระดับห้าในมหาพิภพ ความสามารถพวกเขายืนอยู่ด้านบน ในความเป็นจริง พวกเขาอาจเป็นรองแค่ใต้สวรรค์

 

หลินฮวงทบทวนความสามารถตัวเองด้วยเช่นกัน โดยไม่ใช้ไพ่ตาย เขาอาจอยู่ระดับเดียวกันกับดาบ 11 และดาบ 12

 

ยังมีเส้นแบ่งระหว่างตัวเขากับยอดฝีมือเทพสวรรค์ขั้นสุดยอดอย่างดาบ 1 และใต้สวรรค์

 

ในความเป็นจริง พลังเช่นนั้นถือว่ามากพอจะครอบงําองค์กรระดับห้าทั้งหมดในมหาพิภพ

 

แต่ทว่า นี่ไม่พอสําหรับหลินฮวง

 

ยิ่งเขาทรงพลัง ยิ่งเขารู้ว่าถึงจ้าวเทวะกับจ้าวเทวะน่ากลัวแค่ไหน เขาก็ยิ่งกลัวองค์กรไรเดอร์มากเท่านั้น

 

หลินฮวงไม่เคยขี้ขลาด หรือโดนศัตรูข่มขู่ แต่ทว่า มันเป็นนิสัยของเขาที่จะเตรียมตัวก่อนลงมือ ถึงขั้นจะเอาชนะพวกมันถ้าเป็นไปได้ ตอนเขารู้สึกว่าเวลาจวนตัว เขาก็จะริเริ่มโจมตี ทําลายล้างศัตรูก่อน

 

แต่ทว่า ถ้าเขามีพลังไม่พอ เขาก็จะอดทนรอหาโอกาสโจมตี

 

เหมือนกับเกมหมากรุก วินาทีที่เขาเคลื่อนไหว คู่ต่อสู้ของเขาจะแพ้

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+