Monster Paradise 1627 ผู้ต้องสงสัย

Now you are reading Monster Paradise Chapter 1627 ผู้ต้องสงสัย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1627 ผู้ต้องสงสัย

 

ทันทีที่หลินฮวงกลับเขตดาวนักล่าปีศาจ เขาก็เปิดใช้ฟังก์ชั่นโยกย้ายการสื่อสารบนอุปกรณ์สื่อสารของเขาและโอนมันให้อุปกรณ์สื่อสารของดาบ1 เขายังมอบสิทธิ์เข้าถึงให้ดาบ1เข้าและออกแดนจอมเทพไปอย่างอิสระ

 

นอกจากนี้ เขาบอกให้ดาบไรู้ว่าถ้าเขาได้รับข่าวจากเคียวแห่งความตายหรือข้อมูลสําคัญอะไร ให้เขามาแดนจอมเทพและเคาะประตูวังจอมเทพ

 

หลังเตรียมการทั้งหมดนี้ หลินฮวงก็เข้าวังจอมเทพอีกครั้งและปิดประตูบ่มเพาะ

 

สําหรับเรื่องของศูนย์ใหญ่เคียวแห่งความตายโดนโจมตี เขาไม่ได้เข้าร่วมการพูดคุย

 

ในความเป็นจริง การอยู่ของเขาไม่สําคัญเพราะใต้สวรรค์กับสมาชิกเคียวโลหิตอยู่กันคราบ

 

ในแง่ทรัพยากรกับสายสัมพันธ์ เคียวแห่งความตายมีมากกว่าเขา

 

หลินฮวงไม่อยากเสียเวลาไปกับการเข้าร่วม

 

แน่นอน ถ้าพวกเขาต้องการความช่วยเหลือของเขา เขาจะไม่อยู่เฉย

 

ตั้งแต่เหตุการณ์นี้ ทั้งหมดที่เขาต้องการตอนนี้คือแข็งแกร่งขึ้น

 

นี่เพราะเขารู้สึกว่ามันเป็นแค่เรื่องของเวลาก่อนพวกไรเดอร์จะสังเกตเห็นเขา

 

เขายังสงสัยว่าเขาอาจตกเป็นเป้าของพวกไรเดอร์แล้ว

 

ภายในวังจอมเทพ หลินฮวงนั่งสมาธิและเริ่มคัดเลือกทีละหนึ่ง สรรหาวิธีทําให้ตัวเขา ทรงพลังขึ้น

 

“ก่อนอื่น สําหรับพลังของข้า ข้าจะต้องการเขตแดนเทพกึ่งจ้าวเทวะอีก256อันเพื่อเลื่อนจากขั้นแปดเป็นเก้า แม้จะมีเขตแดนเทพเหลืออีก17อันจากการยกขั้นพลังก่อนหน้านี้ ข้าก็ยังต้องการ อีก239 ตอนนี้ มันคงยากมากที่จะหาเขตแดนเทพกึ่งจ้าวเทวะมากขนาดนั้น ทั้งหมดที่ข้าทําได้คือ หาทรัพยากรมาเพิ่มเพื่อแลกเขตแดนเทพกึ่งจ้าวเทวะ”

 

“สอง เต๋าดาบของข้าแทบชนกับคอขวดแล้ว ไม่ว่าข้าจะไปต่อได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับโอกาส แต่จากที่คุตอนนี้ โอกาสสําเร็จในระยะสั้นไม่น่าจะสูงมาก”

 

“สาม จํานวนห่วงโซ่ลําดับเทพสูงสุดที่ข้าหยิบยืมได้มากถึง 12800 สาย ถ้าข้าอยากเพิ่มจํานวน ข้าไม่มีทางเลือกนอกจากยกระดับพลัง แน่นอนในระยะยาว ข้าต้องการเวลาเพื่อทําความเข้าใจห่วงโซ่ลําดับเทพที่หยิบยืมเหล่านี้และเปลี่ยนพวกมันเป็นของข้า แต่ทว่า ข้าไม่อาจเสริมความสามารถข้าได้โดยการทําความเข้าใจห่วงโซ่ลําดับเทพจากรากหญ้า ข้าสามารถรอได้จนกระทั่งข้าเลื่อนเป็นขั้นเก้าหรือสิบ”

 

“สี่ยังมีช่องว่างให้พัฒนาในจิตเทวะของข้า ข้ายังมีอีกแปดภาพสุดท้ายของภาพเสมือนจิตเทวะลี้ลับที่ข้ายังไม่จําแลง นี่คือวิธีเพิ่มความสามารถของข้าในปัจจุบัน”

 

“ห้า พลังของวิญญาณต่อสู้ของรูปแกะสลักเทพยังล้าหลังสุด นี่คือสิ่งที่สามารถเพิ่มได้ แต่ทว่า ข้าควรหลอมศพถึงจ้าวเทวะชุดใหม่หรือใช้การ์ดเลื่อนขั้นทันทีเพื่อยกระดับรูปแกะสลักเทพดั้งเดิม สําหรับตอนนี้ ข้ายังคิดไม่ออก”

 

“หกคือการยกระดับควาสามารถของมอนสเตอร์อัญเชิญ พวกมันจะต้องพึ่งพาตัวเองสําหรับเรื่องนี้ เหนือสิ่งอื่นใด ข้าไม่อาจช่วยเหลือได้ ข้าจะช่วยเหลือได้ก็ต่อเมื่อพวกมันต้องการยกระดับพลัง แต่ทว่า นอกจากการ์ดเลื่อนขั้น มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกมันจะสะสมวัตถุดิบกันเอง ข้าเดาว่าสําหรับวัตถุดิบหายาก ข้ายังต้องหาทางรวบรวม..”

 

“เจ็ด มีที่ว่างให้พัฒนาในความสามารถของทาสดาบด้วย ผู้พิทักษ์จอมดาบอย่างดาบหนึ่งกับสองยิ่งพิเศษ พวกเขามีความสามารถและประสบการณ์มากพอจะกลายเป็นจ้าวเทวะ แต่ทว่า นี้ไม่อาจเร่งรีบได้ ข้ายังต้องให้เวลาพวกเขาเตรียมตัว สําหรับทาสดาบที่เหลือ ศักยภาพพวกเขาแทบไม่เหลือแล้ว มีไม่มากที่จะกลายเป็นจ้าวเทวะได้”

 

หลินฮวงวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันของเขาในทุกแง่มุม

 

หลังขบคิดสักกพัก เขาก็สงบจิตสงบใจและเริ่มจําแลงภาพเสมือนจิตเทวะที่101

 

เขาเลือกเสริมพลังจิตเทวะของเขาเนื่องจากนี่เป็นวิธีที่เร็วสุด ทั้งหมดที่เขาต้องทําคือลงแรงและเวลา

 

ไม่ช้า หลินฮวงก็เข้าสู่สภาวะดําดิ่ง

 

วันเวลาผ่านพ้นไป ในวังจอมเทพ

 

ในโลกภายนอกนั้นผ่านไปสามวัน

 

แต่ทว่า ในวังจอมเทพ มันผ่านไปกว่าสามหมื่นวัน

 

หลินฮวงผู้กําลังนั่งสมาธิเหมือนต้นไม้ตายในที่สุดก็ลืมตาขึ้น

 

หลังใช้เวลากว่าสามหมื่นวัน เขาก็สร้างภาพที่101ได้สําเร็จ

 

ตอนเขาลืมตา สิ่งแรกที่เขาทําคือตรวจสอบวันที่ ตอนเขาตระหนักว่าเขาใช้เวลาไป สามหมื่นวัน เขาก็รู้สึกมีความสุข

 

นี่เพราะเขารู้ว่าการสร้างภาพกลายเป็นยากขึ้นหลังภาพที่100 ตามการประเมินของเขา ถ้าเขาพยายามเช่นนี้ตอนจิตเทวะของเขายังไม่เป็นระดับจ้าวเทวะ เขาจะต้องใช้เวลากว่าสามแสนวัน เพื่อสร้างภาพที่101 กล่าวอีกนัยหนึ่ง มันจะผ่านไปประมาณหนึ่งเดือนในโลกภายนอก

 

แต่ตอนนี้ ประสิทธิภาพของเขาเพิ่มขึ้นมาก

 

เขาสามารถสัมผัสได้ชัดว่าจิตเทวะของเขาทรงพลังขึ้นมาก

 

“มันดูเหมือนว่าต้นกําเนิดของชุดภาพเสมือนนี้จะไม่ธรรมดา”ตอนนี้ หลินฮวงตระหนักว่า ความคืบหน้าในจิตเทวะของเขาที่นํามาโดยชุดภาพเสมือนนี้ไกลเกินความคาดหมาย

 

พอเห็นว่าดาบหนึ่งยังไม่มาปลุกเขา หลินฮวงก็ตัดสินใจสร้างภาพที่102ต่อ

 

หกวันผ่านไปในโลกภายนอก

 

แต่ในวังจอมเทพ มน่านไปกว่าหกพันวัน

 

ตอนหลินฮวงลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาก็ได้สร้างภาพที่102แล้ว

 

และตอนนี้พลังจิตเทวะของเขาก็ถึงจุดสูงสุดของจ้าวเทวะขั้นต่ําแล้ว

 

เดิมที่เขาคิดว่าจิตเทวะของเขาคงมีพลังระดับจ้าวเทวะขั้นต่ําหลังสร้างภาพทั้งหมด108ภาพ แต่ทว่า ตอนนี้เขาพบว่ามันไกลเกินกว่านั้น

 

“ถ้าข้ายังสร้างภาพเสมือนต่อไป จิตเทวะของข้าคงบรรลุระดับจ้าวเทวะขั้นกลางเป็นแน่!” หลินฮวงทิ้ง

 

พอเห็นว่ายังไม่มีข่าวจากดาบหนึ่ง หลินฮวงก็สงบจิตลงอีกครั้งและสร้างภาพที่ต่อ

 

แต่ทว่า ครั้งนี้ เขาบ่มเพาะได้ไม่กี่วันก่อนจะมีเสียงเคาะประตูดังรัวๆ

 

หลินฮวงตื่นขึ้นทันที

 

“ดุเหมือนข่าวจากเคียวแห่งความตายจะมาแล้ว”

 

เขากวักมือและประตูวังจอมเทพก็เปิดออก ดาบหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น สวมชุดคลุมสีเขียวตัวยาว

 

“ท่านจอมดาบ ข่าวมาจากใต้สวรรค์แล้วครับ ข้าได้แจ้งเขาว่าท่านจะตอบกลับในอีกสักพัก.”

 

“อืม”

 

หลินฮวงพยักหน้าเล็กน้อยและเดินออกวังจอมเทพ

 

ไม่กี่วินาทีต่อมา ทั้งสองก็ย้ายกลับไปเขตดาวนักล่าปีศาจ

 

หลินฮวงเดินอยู่เพียงลําพังที่สวนและโทรหาใต้สวรรค์

 

ไม่นานนัก สายก็เชื่อมต่อ ร่างของใต้สวรรค์ฉายลงในสวน

 

“การสืบสวนเป็นไง?” หลินฮวงถามทันที

 

“เราระบุตําแหน่งคนบางคนที่เราสงสัยว่าอาจเป็นเจ้าของมือนั้นได้”ใต้สวรรค์หยุดชั่วขณะ แต่ข้าต้องการมือข้างนั้นมายืนยัน”

 

“ไม่มีปัญหา เราจะเจอกันที่ไหน?” หลินฮวงตอบตกลงอย่างรวดเร็ว

 

“เจอกันที่ศูนย์ใหญ่”ใต้สวรรค์พูด ประกายดุร้ายแวบผ่านดวงตาเขา” หลังจากนั้น เราสองคนจะไปเยือนวิหารเทพนักรบกัน!”

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Monster Paradise 1627 ผู้ต้องสงสัย

Now you are reading Monster Paradise Chapter 1627 ผู้ต้องสงสัย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1627 ผู้ต้องสงสัย

 

ทันทีที่หลินฮวงกลับเขตดาวนักล่าปีศาจ เขาก็เปิดใช้ฟังก์ชั่นโยกย้ายการสื่อสารบนอุปกรณ์สื่อสารของเขาและโอนมันให้อุปกรณ์สื่อสารของดาบ1 เขายังมอบสิทธิ์เข้าถึงให้ดาบ1เข้าและออกแดนจอมเทพไปอย่างอิสระ

 

นอกจากนี้ เขาบอกให้ดาบไรู้ว่าถ้าเขาได้รับข่าวจากเคียวแห่งความตายหรือข้อมูลสําคัญอะไร ให้เขามาแดนจอมเทพและเคาะประตูวังจอมเทพ

 

หลังเตรียมการทั้งหมดนี้ หลินฮวงก็เข้าวังจอมเทพอีกครั้งและปิดประตูบ่มเพาะ

 

สําหรับเรื่องของศูนย์ใหญ่เคียวแห่งความตายโดนโจมตี เขาไม่ได้เข้าร่วมการพูดคุย

 

ในความเป็นจริง การอยู่ของเขาไม่สําคัญเพราะใต้สวรรค์กับสมาชิกเคียวโลหิตอยู่กันคราบ

 

ในแง่ทรัพยากรกับสายสัมพันธ์ เคียวแห่งความตายมีมากกว่าเขา

 

หลินฮวงไม่อยากเสียเวลาไปกับการเข้าร่วม

 

แน่นอน ถ้าพวกเขาต้องการความช่วยเหลือของเขา เขาจะไม่อยู่เฉย

 

ตั้งแต่เหตุการณ์นี้ ทั้งหมดที่เขาต้องการตอนนี้คือแข็งแกร่งขึ้น

 

นี่เพราะเขารู้สึกว่ามันเป็นแค่เรื่องของเวลาก่อนพวกไรเดอร์จะสังเกตเห็นเขา

 

เขายังสงสัยว่าเขาอาจตกเป็นเป้าของพวกไรเดอร์แล้ว

 

ภายในวังจอมเทพ หลินฮวงนั่งสมาธิและเริ่มคัดเลือกทีละหนึ่ง สรรหาวิธีทําให้ตัวเขา ทรงพลังขึ้น

 

“ก่อนอื่น สําหรับพลังของข้า ข้าจะต้องการเขตแดนเทพกึ่งจ้าวเทวะอีก256อันเพื่อเลื่อนจากขั้นแปดเป็นเก้า แม้จะมีเขตแดนเทพเหลืออีก17อันจากการยกขั้นพลังก่อนหน้านี้ ข้าก็ยังต้องการ อีก239 ตอนนี้ มันคงยากมากที่จะหาเขตแดนเทพกึ่งจ้าวเทวะมากขนาดนั้น ทั้งหมดที่ข้าทําได้คือ หาทรัพยากรมาเพิ่มเพื่อแลกเขตแดนเทพกึ่งจ้าวเทวะ”

 

“สอง เต๋าดาบของข้าแทบชนกับคอขวดแล้ว ไม่ว่าข้าจะไปต่อได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับโอกาส แต่จากที่คุตอนนี้ โอกาสสําเร็จในระยะสั้นไม่น่าจะสูงมาก”

 

“สาม จํานวนห่วงโซ่ลําดับเทพสูงสุดที่ข้าหยิบยืมได้มากถึง 12800 สาย ถ้าข้าอยากเพิ่มจํานวน ข้าไม่มีทางเลือกนอกจากยกระดับพลัง แน่นอนในระยะยาว ข้าต้องการเวลาเพื่อทําความเข้าใจห่วงโซ่ลําดับเทพที่หยิบยืมเหล่านี้และเปลี่ยนพวกมันเป็นของข้า แต่ทว่า ข้าไม่อาจเสริมความสามารถข้าได้โดยการทําความเข้าใจห่วงโซ่ลําดับเทพจากรากหญ้า ข้าสามารถรอได้จนกระทั่งข้าเลื่อนเป็นขั้นเก้าหรือสิบ”

 

“สี่ยังมีช่องว่างให้พัฒนาในจิตเทวะของข้า ข้ายังมีอีกแปดภาพสุดท้ายของภาพเสมือนจิตเทวะลี้ลับที่ข้ายังไม่จําแลง นี่คือวิธีเพิ่มความสามารถของข้าในปัจจุบัน”

 

“ห้า พลังของวิญญาณต่อสู้ของรูปแกะสลักเทพยังล้าหลังสุด นี่คือสิ่งที่สามารถเพิ่มได้ แต่ทว่า ข้าควรหลอมศพถึงจ้าวเทวะชุดใหม่หรือใช้การ์ดเลื่อนขั้นทันทีเพื่อยกระดับรูปแกะสลักเทพดั้งเดิม สําหรับตอนนี้ ข้ายังคิดไม่ออก”

 

“หกคือการยกระดับควาสามารถของมอนสเตอร์อัญเชิญ พวกมันจะต้องพึ่งพาตัวเองสําหรับเรื่องนี้ เหนือสิ่งอื่นใด ข้าไม่อาจช่วยเหลือได้ ข้าจะช่วยเหลือได้ก็ต่อเมื่อพวกมันต้องการยกระดับพลัง แต่ทว่า นอกจากการ์ดเลื่อนขั้น มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกมันจะสะสมวัตถุดิบกันเอง ข้าเดาว่าสําหรับวัตถุดิบหายาก ข้ายังต้องหาทางรวบรวม..”

 

“เจ็ด มีที่ว่างให้พัฒนาในความสามารถของทาสดาบด้วย ผู้พิทักษ์จอมดาบอย่างดาบหนึ่งกับสองยิ่งพิเศษ พวกเขามีความสามารถและประสบการณ์มากพอจะกลายเป็นจ้าวเทวะ แต่ทว่า นี้ไม่อาจเร่งรีบได้ ข้ายังต้องให้เวลาพวกเขาเตรียมตัว สําหรับทาสดาบที่เหลือ ศักยภาพพวกเขาแทบไม่เหลือแล้ว มีไม่มากที่จะกลายเป็นจ้าวเทวะได้”

 

หลินฮวงวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันของเขาในทุกแง่มุม

 

หลังขบคิดสักกพัก เขาก็สงบจิตสงบใจและเริ่มจําแลงภาพเสมือนจิตเทวะที่101

 

เขาเลือกเสริมพลังจิตเทวะของเขาเนื่องจากนี่เป็นวิธีที่เร็วสุด ทั้งหมดที่เขาต้องทําคือลงแรงและเวลา

 

ไม่ช้า หลินฮวงก็เข้าสู่สภาวะดําดิ่ง

 

วันเวลาผ่านพ้นไป ในวังจอมเทพ

 

ในโลกภายนอกนั้นผ่านไปสามวัน

 

แต่ทว่า ในวังจอมเทพ มันผ่านไปกว่าสามหมื่นวัน

 

หลินฮวงผู้กําลังนั่งสมาธิเหมือนต้นไม้ตายในที่สุดก็ลืมตาขึ้น

 

หลังใช้เวลากว่าสามหมื่นวัน เขาก็สร้างภาพที่101ได้สําเร็จ

 

ตอนเขาลืมตา สิ่งแรกที่เขาทําคือตรวจสอบวันที่ ตอนเขาตระหนักว่าเขาใช้เวลาไป สามหมื่นวัน เขาก็รู้สึกมีความสุข

 

นี่เพราะเขารู้ว่าการสร้างภาพกลายเป็นยากขึ้นหลังภาพที่100 ตามการประเมินของเขา ถ้าเขาพยายามเช่นนี้ตอนจิตเทวะของเขายังไม่เป็นระดับจ้าวเทวะ เขาจะต้องใช้เวลากว่าสามแสนวัน เพื่อสร้างภาพที่101 กล่าวอีกนัยหนึ่ง มันจะผ่านไปประมาณหนึ่งเดือนในโลกภายนอก

 

แต่ตอนนี้ ประสิทธิภาพของเขาเพิ่มขึ้นมาก

 

เขาสามารถสัมผัสได้ชัดว่าจิตเทวะของเขาทรงพลังขึ้นมาก

 

“มันดูเหมือนว่าต้นกําเนิดของชุดภาพเสมือนนี้จะไม่ธรรมดา”ตอนนี้ หลินฮวงตระหนักว่า ความคืบหน้าในจิตเทวะของเขาที่นํามาโดยชุดภาพเสมือนนี้ไกลเกินความคาดหมาย

 

พอเห็นว่าดาบหนึ่งยังไม่มาปลุกเขา หลินฮวงก็ตัดสินใจสร้างภาพที่102ต่อ

 

หกวันผ่านไปในโลกภายนอก

 

แต่ในวังจอมเทพ มน่านไปกว่าหกพันวัน

 

ตอนหลินฮวงลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาก็ได้สร้างภาพที่102แล้ว

 

และตอนนี้พลังจิตเทวะของเขาก็ถึงจุดสูงสุดของจ้าวเทวะขั้นต่ําแล้ว

 

เดิมที่เขาคิดว่าจิตเทวะของเขาคงมีพลังระดับจ้าวเทวะขั้นต่ําหลังสร้างภาพทั้งหมด108ภาพ แต่ทว่า ตอนนี้เขาพบว่ามันไกลเกินกว่านั้น

 

“ถ้าข้ายังสร้างภาพเสมือนต่อไป จิตเทวะของข้าคงบรรลุระดับจ้าวเทวะขั้นกลางเป็นแน่!” หลินฮวงทิ้ง

 

พอเห็นว่ายังไม่มีข่าวจากดาบหนึ่ง หลินฮวงก็สงบจิตลงอีกครั้งและสร้างภาพที่ต่อ

 

แต่ทว่า ครั้งนี้ เขาบ่มเพาะได้ไม่กี่วันก่อนจะมีเสียงเคาะประตูดังรัวๆ

 

หลินฮวงตื่นขึ้นทันที

 

“ดุเหมือนข่าวจากเคียวแห่งความตายจะมาแล้ว”

 

เขากวักมือและประตูวังจอมเทพก็เปิดออก ดาบหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น สวมชุดคลุมสีเขียวตัวยาว

 

“ท่านจอมดาบ ข่าวมาจากใต้สวรรค์แล้วครับ ข้าได้แจ้งเขาว่าท่านจะตอบกลับในอีกสักพัก.”

 

“อืม”

 

หลินฮวงพยักหน้าเล็กน้อยและเดินออกวังจอมเทพ

 

ไม่กี่วินาทีต่อมา ทั้งสองก็ย้ายกลับไปเขตดาวนักล่าปีศาจ

 

หลินฮวงเดินอยู่เพียงลําพังที่สวนและโทรหาใต้สวรรค์

 

ไม่นานนัก สายก็เชื่อมต่อ ร่างของใต้สวรรค์ฉายลงในสวน

 

“การสืบสวนเป็นไง?” หลินฮวงถามทันที

 

“เราระบุตําแหน่งคนบางคนที่เราสงสัยว่าอาจเป็นเจ้าของมือนั้นได้”ใต้สวรรค์หยุดชั่วขณะ แต่ข้าต้องการมือข้างนั้นมายืนยัน”

 

“ไม่มีปัญหา เราจะเจอกันที่ไหน?” หลินฮวงตอบตกลงอย่างรวดเร็ว

 

“เจอกันที่ศูนย์ใหญ่”ใต้สวรรค์พูด ประกายดุร้ายแวบผ่านดวงตาเขา” หลังจากนั้น เราสองคนจะไปเยือนวิหารเทพนักรบกัน!”

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+