ตอนที่ 1714 แผนของไคลี่

 

ไคลี่ไม่ดูเหมือนว่าวางแผนจะเข้าหาใครเลย นางสวมสีหน้าเย็นชาตลอดเวลา นางเอาแต่จิบเครื่องดื่มตัวเองหน้านิ่ง

 

เจ้าแดงที่ยืนข้างนางดูบอบบางไร้พิษสง นางดูเหมือนกําลังคุยเล่นกับไคลี่ขณะถือเครื่องดื่ม

 

หลินฮวงผู้กําาลังเดินไปหาสองสาวดึงความสนใจทันที

 

แต่ทว่า ไม่มีใครจะคิดว่าพวกเขารู้จักกัน

 

พวกเขาแค่คิดว่าเขาสนใจในตัวสตรีศักดิ์สิทธิ์

 

เหนือสิ่งอื่นใด ไคลี่มีดีทั้งหน้าตา เสน่ห์ และพลัง

 

โดยธรรมชาติ เซินถูก็สังเกตเห็นเขาเดินไปเช่นกัน และลอบยิ้มเยาะข้างใน ดูเหมือนเขาจะตื่นเต้นที่จะได้ดูการแสงด

 

เจ้าคนสกุลหลินนั่นต้องโดนตบหน้ามาเหมือนข่าแน่

 

หลินฮวงหยิบจานขนมจากโต๊ะข้างสองสาวและส่งให้พวกนาง”ของนี้ค่อนข้างดี พวกเจ้าควรลอง

 

สองสาวตกตะลึง แต่ไม่ช้าก็รีบหยิบคนละชิ้นและลองชิม

 

“มันอร่อย”เจ้าแดงพยักหน้า

 

“ไม่เลว” ไคลเองก็กัดนิดหน่อยและเริ่มกินมันจนหมด

 

“นี่คือพัฟแอปเปิ้ลกุหลาบ ขนมหวานประจําถิ่น ไส้ท่าจากแอปเปิลกุหลาบชนิดหนึ่งซึ่งเป็นเมนูพิเศษของเขตดาวนี้ ผลไม้นี้มีเพาะปลูกให้เห็นทั่ว เชฟขนมหวานท้องถิ่นคือคนทํามัน เขาทําขนมนี้มานานกว่าสามสิบปีแล้ว”

 

หลินฮวงแนะนําขนมดังกล่าว ดูเหมือนทั้งสองฝ่ายกําลังคุยกันอย่างเป็นกันเอง

 

เซินถูผู้คิดว่าจะได้ดูการแสดงตัวแข็งทื่อ

 

“ยอดฝีมือลึกลับนั้นไม่โจมตีเขาเหรอ?!”

 

ขณะคุยกันสบายๆ หลินฮวงก็พูดกับสองสาวผ่านคลื่นเสียง

 

“ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีตอนเจ้ากลับไปเผ่าเนฟิลิกไหม?”

 

“มันราบรื่นดี พวกเขามีความสุขมากที่จะมีจาวเทวะอีกคนมาคอยปกป้องเผ่า”เจ้าแดงยิ้ม”พวกเขาไม่ได้สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการทะลวงผ่านในระดับพลังของข้าเลย”

 

“แล้วเจ้าละ?เจ้ามองว่าเผ่าเนฟิลิกหยุดสร้างปัญหาให้เจ้าหรือยัง?”หลินฮวงมองไคลี่

 

“ไม่มีใครกล้าพูดอะไรเลยตั้งแต่ข้าเลื่อนเป็นชนชั้นหก”ไคลี่ตอบด้วยรอยยิ้ม”แค่ว่าข้ามีถึงจ้าวเทวะคอยติดตามข้าไปทุกที่”

 

“ยังเหมือนเดิมแม้กระทั่งหลังจากที่เจ้าแดงกลับไปเหรอ?”หลินฮวงถาม

 

“พวกเขากังวลว่าข้าจะลักพาตัวท่านหญิงศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาไป พวกเขาจึงเข้มงวดกว่าเดิมซะอีก”เจ้าแดงพูดอย่างโกรธๆ

 

หลินฮวงยิ้มพอได้ยินแบบนั้น เขาเข้าใจความคิดของเผ่าเนฟิลิก

 

“เผ่าเนฟิลิกตกลงเข้าร่วมกับราชันย์ไหม?”หลินฮวงถามต่อ

 

“พวกเขาตกลงหลังลังเลอยู่หลายวัน”

 

“พวกเขาแค่กลุ่มตาแก่ดื้อรั้น พวกเขาต้องการเปลี่ยนแปลง แต่ก็กลัวการเปลี่ยนแปลง

“เจ้าแดงเสนอความเห็นอย่างรุนแรง

 

“ยังไงมันก็ถือเป็นเผ่าโบราณที่สืบทอดมาสองยุคสมัย มันยากมากที่จะเปลี่ยนประเพณีมากมายที่คนรุ่นก่อนถ่ายทอดมาให้”หลินฮวงเข้าใจ มันน่าทึ่งมากที่พวกเขาเต็มใจเปลี่ยนแปลงเพื่อการพัฒนาของเผ่า”

 

“แล้วท่านวางแผนจะไปจักรวาลตอนไหน?”ไคลื่อดถามไม่ได้

 

“ตอนขาสะสางธุระที่นี่เสร็จ มันคงใช้เวลาสักสองสามเดือน”หลินฮวงคิดก่อนตอบ”แต่ทว่า มันคงไม่เกินปี”

 

“ดังนั้น พวกเจ้าควรเตรียมตัวสําหรับอนาคตของเผ่าเนฟิลิก อย่าปล่อยให้การเสียท่านหญิงศักดิ์สิทธิ์ทําลายทั้งเผ่า จงคิดหาทางแก้ไว้แต่เนิ่น”

 

เจ้าแดงคือมันสมองของหลินฮวง มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทิ้งนางไว้ตอนเขาไปจักรวาล พอเจ้าแดงไป ไคลี่จะถูกทิ้งไว้ล่าพังกับเผ่าเนฟิลิก หลินฮวงกําลังกังวลเรื่องนั้น

 

โดยธรรมชาติ เขาอยากพาทั้งคู่ไปกับเขา

 

แต่ทว่า ด้วยจุดยืนปัจจุบันของไคลี่ในเผ่าเนฟิลิก ทันทีที่นางไป มันจะส่งผลกระทบต่อทั้งเผ่า

 

ไคลี่ต้องไม่อยากเห็นมันเกิด

 

ดังนั้น หลินฮวงจึงหวังว่าพวกนางจะร่วมมือกันหาทางแก้ได้

 

“ข้ามีคนที่มีพรสวรรค์พอสมควรอยู่ นางเลื่อนเป็นชนชั้นกึ่งจิตวิญญาณแท้จริงแล้วหลังข้าเลื่อนเป็นจิตวิญญาณแท้จริง ข้าสามารถให้นางอยู่และมาแทนที่ข้าได้”

 

ผู้สืบทอดที่ไคลี่พูดถึงคือกลุ่มอสูรแสงดาวที่นางดูแล

 

“แต่ทว่า เพื่อให้นางควบคุมทั้งกลุ่มได้ นางจะต้องเลื่อนเป็นจ้าวเทวะเสียก่อน”เจ้าแดงมองหลินฮวง

 

“พวกเจ้าคิดที่จะให้นางเป็นมอนสเตอร์ของข้า?เพื่อเสริมพลังของนาง?”หลินฮวงเข้าใจความหมาย

 

เห็นได้ชัดว่าสองสาวหารือกันมาแล้ว

 

“ตอนเรากลับไปเขตดาวเนฟิลิกครั้งนี้ เราจะแนะนํานางในฐานะน้องสาวของไคล และจากนั้นเราจะนํานางกลับไปเผ่า นางเป็นเทพสวรรค์ชั้นหกแล้ว เราจะพยายามเพิ่มระดับพลังนางสุดความสามารถ แต่ท่านจะต้องจัดการสําหรับส่วนสุดท้าย”เจ้าแดงพูดต่อ”ตราบเท่าที่นางกลายเป็นจ้าวเทวะก่อนเราไป เราก็ควรมาแทนที่ไคลี่ได้”

 

หลินฮวงพยักหน้าทันที ทางแก้นี้ฟังดูดีจริงๆ”

 

เขาคงทําแบบนี้ไม่ได้ถ้าเป็นเมื่อก่อน เหนือสิ่งอื่นใด โอกาสที่เขาจะได้รับการ์ดมอนสเตอร์สมบูรณ์ต่ํามาก

 

แต่ทว่า ตอนนี้เสียวเฮยไม่มีข้อจํากัดอีก ทั้งหมดที่เขาต้องทําคือฆ่าทายาทของไคลี่และก็ให้เสี่ยวเฮยสกัดวิญญาณแท้จริงของนางเพื่อเปลี่ยนเป็นการ์ดมอนสเตอร์

 

มันจะเป็นงานง่ายๆในการเลื่อนขั้นการ์ดมอนสเตอร์ให้เป็นจ้าวเทวะ

 

วิธีนี้ได้ผล

 

“เครื่องดื่มนี้หวาน แต่มันไม่มีน้ําตาลเลย ส่วนผสมหลักคือน้ําที่คั้นจากชะเอม…ชะเอมหลังฝนตกจะหลั่งไซคลาเมตชนิดหนึ่ง ไซคลาเมตนี้จะให้รสหวานตอนกินเข้าไป แต่จริงแล้วมันไม่ใช่น้ําตาล…”

 

บนผิวเผิน หลินฮวงกําลังพูดถึงเครื่องดื่มสีเขียวในมือ

 

ฝูงชนต่างสังเกตเห็นว่าเขากําลังคุยกับสองสาวอย่างกลมกลืน

 

“งั้นท่านหญิงเนฟิลิกก็สนใจเรื่องอาหารกับเครื่องดื่มนี่เอง”

 

“พวกเขาดูมีความสุขมาก มันดูเหมือนหัวหน้าหลินจะรู้วิธีคิดของสาวๆ

 

แต่ทว่า มีบางคนที่ไม่พอใจ

 

เซินถูกําลังลอบสาปแช่ง

 

“ข้าสงสัยว่าทําไมพวกนางถึงไม่เต็มใจกลายเป็นพันธมิตรกับนครหลวงเทพข้า ที่แท้พวกนางก็หมายตา หัวหน้าพันธมิตรดาบไว้ตั้งแต่ต้น ตาแก่แอบบ็อตนั้นร้ายกาจซะจริง และก็ฉลาดพอที่จะตบตาสตรีศักดิ์สิทธิ์ แม้กระทั่งเจ้าโง่สกุลหลินนี้ก็ยังตกหลุมพราง”

 

ในขณะเดียวกัน แอบบ็อตกับผู้อาวุโสเผ่าเนฟิลิกที่เหลือที่ยืนไม่ไกลเองก็หงุดหงิดเช่นกัน

 

พวกเขาจ้องหลินฮวงที่ยืนข้างไคลด้วยสายตาประดุจมีดแหลม

 

ยิ่งทั้งสามคุยกันนาน ใบหน้าพวกเขายิ่งดําคล้ํา

 

พวกเขาเพิ่งเข้าร่วมราชันย์ ด้วยการหนุนหลังของราชันย์ พวกเขาจึงมีมุมมองที่ซับซ้อนขึ้น ปัจจุบันพวกเขาไม่มององค์กรระดับเจ็ดจากมหาพิภพอย่างพันธมิตรดาบอยู่ในสายตาอีกต่อไป

 

พวกเขากังวลว่าหลินฮวงอาจลักพาตัวท่านหญิงของพวกเขาไป

 

โชคดี หลินฮวงไม่ได้คุยต่อนานนัก เขาเดินหนีออกไปหลังดีดการ์ดเลื่อนระดับพลังใส่ตัวไคลี่

 

ไม่ช้า ไคลี่ก็จากไปกับเจ้าแดงด้วยข้อแก้ตัวพื้นๆว่ารู้สึกไม่ค่อยสบาย