Monster Paradise 1670 หลินฮวงเลื่อนเป็นจ้าวเทวะ

Now you are reading Monster Paradise Chapter 1670 หลินฮวงเลื่อนเป็นจ้าวเทวะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1670 หลินฮวงเลื่อนเป็นจ้าวเทวะ

 

“เกิดอะไรขึ้น?”

 

หลินฮวงจ้องท้องฟ้าสีขาวดําแสนสงบสุขตรงหน้าเขา ไม่เข้าใจจริงๆว่าเกิดอะไรขึ้น

 

พริบตาก่อนเขตแดนเทพของเขาจะพัง ดูเหมือนจะมีตัวตนที่เหนือกว่าจ้าวเทวะสัมผัสได้ถึงผนึกเต๋าของเขาและพยายามข้ามมาซึ่งมัน

 

แต่พออีกฝ่ายกําลังจะได้ไปแอีกตัวตนหนึ่งก็ได้โจมตีและทําลายวังวนมิติ

 

ตัวตนที่เหนือกว่าจ้าวเทวะใช้แค่เสียงเพื่อเจาะทะลุผ่านมิติและเกือบฆ่ากายเสมือนของหลินฮวงได้

 

จากนั้นอีกตัวตนก็พูดขึ้นและทําลายเสียง

 

หลังอันตรายหายไป เขตแดนเทพของหลินฮวงก็พังลงอย่างสมบูรณ์ และตัวตนลึกลับก็ยังไม่เผยตัว

 

เขาไม่รู้ว่ามันเพราะตําแหน่งของเขษโดนลบตอนเขตแดนเทพผนึกจนอีกฝ่ายจับตําแหน่งเขาไม่ได้ หรือเพราะพวกเขาไม่อยากมาเจอเขา

 

พอมองท้องฟ้าที่ยังสงบตรงหน้า หลินฮวงก็สงสัยว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นเป็นแค่จินตนาการของเขาหรือเปล่า

 

“เสียงนั้น…ทําไมข้าถึงรู้สึกเหมือนเคยได้ยินมาก่อน?”

 

“ไสหัวไป!” เสียงนั้นดังชัด และเป็นเสียงของผู้หญิง หลินฮวงสัมผัสได้คลุมเครือว่ามันคุ้นๆ แต่เขาไม่อาจประติดประต่อมันกับผู้หญิงคนไหนได้เลย

 

‘บางทีข้าคงคิดมากไปหลินฮวงส่ายหัว เขารู้สึกว่ามันไม่น่าจะเป็นเด็กสาวคนไหนที่เขารู้จัก’

 

เหตุผลเพราะความเร็วบ่มเพาะของเขานั้นเร็วมาตลอด จนทิ้งห่างเพื่อนทุกคน มันไม่น่าจะมีใครตามความเร็วเขาทันและ เหนือกว่า

 

หลินฮวงรู้สึกว่าต่อให้เป็นนักเดินทางคนอื่นที่มีนิ้วทองค่า มันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ความเร็วบ่มเพาะของนางจะแซงเขาไปขนาดนี้

 

หลังขับไล่ความคิด หลินฮวงก็ปลดปล่อยจิตเทวะและตรวจสอบสภาพแวดล้อม แต่ไม่พบอะไร เขารู้สึกว่าคนที่ช่วยเขาอาจอยู่แถวนี้ แต่ทว่า เขาก็ประสานมือ ทําความเคารพต่อท้องฟ้า”ขอบคุณผู้อาวุโสที่ช่วยข้า!ถ้ามีอะไรที่ท่านต้องการจากข้า โปรดบอกข้า!”

 

หลินฮวงจงใจรอสักพักหลังพูด แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับ

 

เขาคาดไว้แล้ว แต่ก็ยังควรแสดงความเคารพต่อผู้อาวุโสอยู่ดี โดยเฉพาะเนื่องจากคนๆนี้ได้ช่วยชีวิตเขาไว้

 

หลังถอนจิตเทวะ หลินฮวงก็ตรวจสอบสภาพภายในตัวเขาและพยักหน้าพึงพอใจ จากนั้น เขาถึงอัญเชิญประตูทุกอาณาจักรและกลับอาณาจักรวัตถุ

 

ทันทีที่เขากลับอาณาจักรวัตถุ เขาก็เริ่มตรวจดูในตัวเขา

 

สิ่งแรกที่เขาสังเกตเห็นคือห่วงโซ่ล่าดับเทพจํานวนมากภายในเขตแดนเทพเขา

 

ก่อนหน้านี้ มันมีทั้งหมด 7.16 ล้านห่วงโซ่ในเขตแดนเทพเขา แต่ทว่า ตอนนี้มันมีถึง 14.71 ล้าน มากกว่าเดิมถึงสองเท่า

 

หลินฮวงคิดย้อนกลับไปและตระหนักว่ามันเป็นผลจากการที่ผนึกเต่เขากลืนกินพลังงานต้นกำเนิดจํานวนมากในช่วงท้ายของการผสาน การปล้นเต๋า

 

นอกจากนี้ การรวมผนึกเต๋ได้สําเร็จระหว่างกระบวนการผสานดูเหมือนจะทําให้บัญญัติเทพของเขาผ่านการเปลี่ยนแปลงด้วย

 

ตอนนี้หลินฮวงสามารถหยิบยืมผนึกเต๋ที่เขาหลอมจากจ้าวเทวะเหล่านั้นได้ด้วย

 

ตัวอย่างก็จะเป็นผนึกเต๋าที่เขาดูดและหลอมจากพลังงานต้นกําเนิดของวอยด์ที่เขาฆ่าไปครั้งนี้ มันมีทั้งสิ้นกว่าแปดร้อยผนึกเต๋

 

แม้ทั้งหมดจะไม่มีจํานวนรอยประทับเต่เหมือนกัน แต่ตอนรวมกัน พลังของรอยสักเต่ก็จะเทียบได้กับห่วงโซ่ล่าดับเทพกว่า1.2ล้านสาย

 

ร่วมกับผนึกเต่ระดับสามภายในตัวหลินฮวง พลังของรอยประทับเต่นี้จะเทียบได้กับ 4.2 ล้านสาย

 

“มันดูเหมือนข้าจะต้องรวมผนึกเต๋าเพิ่ม” หลินฮวงรู้ว่าวิธีเพิ่มความสามารถของเขาโดยตรง คือรวมผนึกเต๋า

 

จานวนห่วงโซ่รวมในตัวเขาได้มาถึง 14 ล้านสายแล้ว นอกจากนี้ รวมพลังผนึกเต๋าที่เขาหยิบยืมได้ เขาจะสามารถกระตุ้นได้อีก 4.2 ล้านสาย

 

เพื่อใช้พลังรอยประทับเต๋าเพิ่ม มันจําเป็นต้องรวมผนึกเต๋ามากกว่านี้

 

นอกจากการเปลี่ยนแปลงในบัญญัติเทพและห่วงโซ่ลําดับเทพของเขาแล้ว ปริมาณของพลังเทวะในตัวหลินฮวงยังเปลี่ยนเป็นพลังสวรรค์

 

พลังสวรรค์ถือว่าเป็นรูปแบบสูงของพลังเทวะที่สามารถผสานเข้ากับผนึกเต๋าและพลัง ประทับเต๋าได้อย่างสมบูรณ์

 

ด้วยพลังสวรรค์ที่พลุ่งพล่านนี้ ร่างกายกับวิญญาณเทพของหลินฮวงจึงยิ่งแข็งแกร่ง

 

ปัจจุบัน พลังกายของเขาตอนนี้คือระดับจ้าวเทวะขั้นสูงแล้ว ส่วนวิญญาณเทพของเขาก็เป็นถึงระดับจ้าวเทวะขั้นสูงสุดแล้ว

 

ความสามารถโดยรวมของเขาเพิ่มขึ้นมหาสาล

 

แต่ทว่า หลินฮวงไม่ใช่คนเดียวที่แข็งแกร่งขึ้น อาวุธเซียนภายในตัวของเขาก็ยังเลื่อนระดับตามพลังบ่มเพาะของเขา

 

พวกมันทะลวงจากอาวุธเต๋ขั้นต่เป็นอาวุธเต๋าขั้นสูงสุดโดยตรง

 

หลินฮวงยังรู้สึกว่าความสามารถปัจจุบันของเขามากพอให้เขาปะทะกับจ้าวเทวะขั้นสูงสุดหน้าใหม่ซึ่งๆหน้า

 

จ้าวเทวะขั้นสูงสุดต้องรวมผนึกเต๋าอย่างน้อยพันผนึก แต่ทว่า ต่อให้เป็นคนระดับใต้สวรรค์ผนึกเต๋าระดับหนึ่งก็ยังกระตุ้นพลังรอยประทับเต๋าได้แค่ 1800 ห่วงโซ่เท่านั้น ผนึกเต๋พันผนึกก็คงทําได้แค่กระตุ้นพลังรอยประทับเต่ไม่ถึงสองล้านสาย

 

ปัจจุบัน หลินฮวงกล้าจะปะทะกับจ้าวเทวะขั้นสูงสุดหน้าใหม่โดยตรง ส่วนข้าวเทวะขั้นสูงสุดที่มีความสามารถทรงพลัง และรวมผนึกเต๋ามากกว่าสามพัน ความสามารถของหลินฮวงยังไม่พอจะสวนกลับ

 

แต่ทว่า หลินฮวงไม่รีบเร่ง เขารู้ว่าพอจํานวนผนึกเต๋าในตัวเขาเพิ่ม เขาจะกลายเป็นทรงพลังขึ้น

 

มันยากมากสําหรับจ้าวเทวะขั้นสูงสุดในจักรวาลที่จะเพิ่มความสามารถต่อ

 

ด้วยความสามารถปัจจุบันของข้า ข้าควรสามารถจัดการกับผู้ตรวจสอบที่ไรเดอร์ส่งมา ได้ภัยคุกคามปัจจุบันในหัวหลินฮวงเริ่มสลายไปหลังเขาตรวจสอบพลังตัวเอง

 

ตามข้อมูลที่หยางหลิงให้ ราชันย์จะไม่อนุญาตให้จ้าวเทวะขั้นสูงสุดเข้ามหาพิภพ ซึ่งเป็นอาณาเขตของพวกเขา ดังนั้น ผู้ตรวจสอบที่ทรงพลังสุดก็เป็นได้แค่จ้าวเทวะขั้นสูง

 

สําหรับหลินฮวงในตอนนี้ จ้าวเทวะขั้นสูงไม่มีความสามารถคุกคามเขาเลย

 

แต่ทว่า เขาไม่วางแผนรอตั้งรับให้ผู้ตรวจสอบมาถึงเฉยๆ

 

แม้ผู้ตรวจสอบจะไม่อาจคุกคามเขาได้ เขาก็ไม่ตั้งใจจะจบการบ่มเพาะของเขา

 

หลังคิดถึงความเป็นไปได้ที่พิกัดในอาณาจักรเสมือนของเขาอาจถูกเปิดเผย เพื่อความปลอดภัย หลินฮวงเปิดประตูทุกอาณาจักรและย้ายตัวเองไปยังดาวไร้ผู้อาศัยในโลกมนุษย์ทันที

 

สถานที่นี้คือดาวที่ห่างจากดาวริคกี้เป็นล้านเขตดาว

 

หลังมาถึงตําแหน่งใหม่ หลินฮวงก็เรียกกระท่อมอาณาจักรเสมือน

 

เขาหยิบแหวนออกมาและวางไว้ในกระท่อม

 

หลังจากนั้น เขาก็เปิดประตูทุกอาณาจักรและก้าวเข้าอาณาจักรเสมือน

 

พอเข้าอาณาจักรเสมือน หลินฮวงก็กระจายจิตเทวะเขา พบว่ามีวอยด์จ้าวเทวะขั้นต่ำสามตัวภายในรัศมีสิบเขตดาว

 

หลังใช้มีดบินอาวุธเซียนเพื่อก่าจัดพวกวอยด์โดยไม่ลังเล หลินฮวงถึงโล่งใจและเข้า กระท่อมไป เขาหยิบแหวนขึ้นจากพื้น จากนั้นก็นั่งทําสมาธิ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Monster Paradise 1670 หลินฮวงเลื่อนเป็นจ้าวเทวะ

Now you are reading Monster Paradise Chapter 1670 หลินฮวงเลื่อนเป็นจ้าวเทวะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1670 หลินฮวงเลื่อนเป็นจ้าวเทวะ

 

“เกิดอะไรขึ้น?”

 

หลินฮวงจ้องท้องฟ้าสีขาวดําแสนสงบสุขตรงหน้าเขา ไม่เข้าใจจริงๆว่าเกิดอะไรขึ้น

 

พริบตาก่อนเขตแดนเทพของเขาจะพัง ดูเหมือนจะมีตัวตนที่เหนือกว่าจ้าวเทวะสัมผัสได้ถึงผนึกเต๋าของเขาและพยายามข้ามมาซึ่งมัน

 

แต่พออีกฝ่ายกําลังจะได้ไปแอีกตัวตนหนึ่งก็ได้โจมตีและทําลายวังวนมิติ

 

ตัวตนที่เหนือกว่าจ้าวเทวะใช้แค่เสียงเพื่อเจาะทะลุผ่านมิติและเกือบฆ่ากายเสมือนของหลินฮวงได้

 

จากนั้นอีกตัวตนก็พูดขึ้นและทําลายเสียง

 

หลังอันตรายหายไป เขตแดนเทพของหลินฮวงก็พังลงอย่างสมบูรณ์ และตัวตนลึกลับก็ยังไม่เผยตัว

 

เขาไม่รู้ว่ามันเพราะตําแหน่งของเขษโดนลบตอนเขตแดนเทพผนึกจนอีกฝ่ายจับตําแหน่งเขาไม่ได้ หรือเพราะพวกเขาไม่อยากมาเจอเขา

 

พอมองท้องฟ้าที่ยังสงบตรงหน้า หลินฮวงก็สงสัยว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นเป็นแค่จินตนาการของเขาหรือเปล่า

 

“เสียงนั้น…ทําไมข้าถึงรู้สึกเหมือนเคยได้ยินมาก่อน?”

 

“ไสหัวไป!” เสียงนั้นดังชัด และเป็นเสียงของผู้หญิง หลินฮวงสัมผัสได้คลุมเครือว่ามันคุ้นๆ แต่เขาไม่อาจประติดประต่อมันกับผู้หญิงคนไหนได้เลย

 

‘บางทีข้าคงคิดมากไปหลินฮวงส่ายหัว เขารู้สึกว่ามันไม่น่าจะเป็นเด็กสาวคนไหนที่เขารู้จัก’

 

เหตุผลเพราะความเร็วบ่มเพาะของเขานั้นเร็วมาตลอด จนทิ้งห่างเพื่อนทุกคน มันไม่น่าจะมีใครตามความเร็วเขาทันและ เหนือกว่า

 

หลินฮวงรู้สึกว่าต่อให้เป็นนักเดินทางคนอื่นที่มีนิ้วทองค่า มันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ความเร็วบ่มเพาะของนางจะแซงเขาไปขนาดนี้

 

หลังขับไล่ความคิด หลินฮวงก็ปลดปล่อยจิตเทวะและตรวจสอบสภาพแวดล้อม แต่ไม่พบอะไร เขารู้สึกว่าคนที่ช่วยเขาอาจอยู่แถวนี้ แต่ทว่า เขาก็ประสานมือ ทําความเคารพต่อท้องฟ้า”ขอบคุณผู้อาวุโสที่ช่วยข้า!ถ้ามีอะไรที่ท่านต้องการจากข้า โปรดบอกข้า!”

 

หลินฮวงจงใจรอสักพักหลังพูด แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับ

 

เขาคาดไว้แล้ว แต่ก็ยังควรแสดงความเคารพต่อผู้อาวุโสอยู่ดี โดยเฉพาะเนื่องจากคนๆนี้ได้ช่วยชีวิตเขาไว้

 

หลังถอนจิตเทวะ หลินฮวงก็ตรวจสอบสภาพภายในตัวเขาและพยักหน้าพึงพอใจ จากนั้น เขาถึงอัญเชิญประตูทุกอาณาจักรและกลับอาณาจักรวัตถุ

 

ทันทีที่เขากลับอาณาจักรวัตถุ เขาก็เริ่มตรวจดูในตัวเขา

 

สิ่งแรกที่เขาสังเกตเห็นคือห่วงโซ่ล่าดับเทพจํานวนมากภายในเขตแดนเทพเขา

 

ก่อนหน้านี้ มันมีทั้งหมด 7.16 ล้านห่วงโซ่ในเขตแดนเทพเขา แต่ทว่า ตอนนี้มันมีถึง 14.71 ล้าน มากกว่าเดิมถึงสองเท่า

 

หลินฮวงคิดย้อนกลับไปและตระหนักว่ามันเป็นผลจากการที่ผนึกเต่เขากลืนกินพลังงานต้นกำเนิดจํานวนมากในช่วงท้ายของการผสาน การปล้นเต๋า

 

นอกจากนี้ การรวมผนึกเต๋ได้สําเร็จระหว่างกระบวนการผสานดูเหมือนจะทําให้บัญญัติเทพของเขาผ่านการเปลี่ยนแปลงด้วย

 

ตอนนี้หลินฮวงสามารถหยิบยืมผนึกเต๋ที่เขาหลอมจากจ้าวเทวะเหล่านั้นได้ด้วย

 

ตัวอย่างก็จะเป็นผนึกเต๋าที่เขาดูดและหลอมจากพลังงานต้นกําเนิดของวอยด์ที่เขาฆ่าไปครั้งนี้ มันมีทั้งสิ้นกว่าแปดร้อยผนึกเต๋

 

แม้ทั้งหมดจะไม่มีจํานวนรอยประทับเต่เหมือนกัน แต่ตอนรวมกัน พลังของรอยสักเต่ก็จะเทียบได้กับห่วงโซ่ล่าดับเทพกว่า1.2ล้านสาย

 

ร่วมกับผนึกเต่ระดับสามภายในตัวหลินฮวง พลังของรอยประทับเต่นี้จะเทียบได้กับ 4.2 ล้านสาย

 

“มันดูเหมือนข้าจะต้องรวมผนึกเต๋าเพิ่ม” หลินฮวงรู้ว่าวิธีเพิ่มความสามารถของเขาโดยตรง คือรวมผนึกเต๋า

 

จานวนห่วงโซ่รวมในตัวเขาได้มาถึง 14 ล้านสายแล้ว นอกจากนี้ รวมพลังผนึกเต๋าที่เขาหยิบยืมได้ เขาจะสามารถกระตุ้นได้อีก 4.2 ล้านสาย

 

เพื่อใช้พลังรอยประทับเต๋าเพิ่ม มันจําเป็นต้องรวมผนึกเต๋ามากกว่านี้

 

นอกจากการเปลี่ยนแปลงในบัญญัติเทพและห่วงโซ่ลําดับเทพของเขาแล้ว ปริมาณของพลังเทวะในตัวหลินฮวงยังเปลี่ยนเป็นพลังสวรรค์

 

พลังสวรรค์ถือว่าเป็นรูปแบบสูงของพลังเทวะที่สามารถผสานเข้ากับผนึกเต๋าและพลัง ประทับเต๋าได้อย่างสมบูรณ์

 

ด้วยพลังสวรรค์ที่พลุ่งพล่านนี้ ร่างกายกับวิญญาณเทพของหลินฮวงจึงยิ่งแข็งแกร่ง

 

ปัจจุบัน พลังกายของเขาตอนนี้คือระดับจ้าวเทวะขั้นสูงแล้ว ส่วนวิญญาณเทพของเขาก็เป็นถึงระดับจ้าวเทวะขั้นสูงสุดแล้ว

 

ความสามารถโดยรวมของเขาเพิ่มขึ้นมหาสาล

 

แต่ทว่า หลินฮวงไม่ใช่คนเดียวที่แข็งแกร่งขึ้น อาวุธเซียนภายในตัวของเขาก็ยังเลื่อนระดับตามพลังบ่มเพาะของเขา

 

พวกมันทะลวงจากอาวุธเต๋ขั้นต่เป็นอาวุธเต๋าขั้นสูงสุดโดยตรง

 

หลินฮวงยังรู้สึกว่าความสามารถปัจจุบันของเขามากพอให้เขาปะทะกับจ้าวเทวะขั้นสูงสุดหน้าใหม่ซึ่งๆหน้า

 

จ้าวเทวะขั้นสูงสุดต้องรวมผนึกเต๋าอย่างน้อยพันผนึก แต่ทว่า ต่อให้เป็นคนระดับใต้สวรรค์ผนึกเต๋าระดับหนึ่งก็ยังกระตุ้นพลังรอยประทับเต๋าได้แค่ 1800 ห่วงโซ่เท่านั้น ผนึกเต๋พันผนึกก็คงทําได้แค่กระตุ้นพลังรอยประทับเต่ไม่ถึงสองล้านสาย

 

ปัจจุบัน หลินฮวงกล้าจะปะทะกับจ้าวเทวะขั้นสูงสุดหน้าใหม่โดยตรง ส่วนข้าวเทวะขั้นสูงสุดที่มีความสามารถทรงพลัง และรวมผนึกเต๋ามากกว่าสามพัน ความสามารถของหลินฮวงยังไม่พอจะสวนกลับ

 

แต่ทว่า หลินฮวงไม่รีบเร่ง เขารู้ว่าพอจํานวนผนึกเต๋าในตัวเขาเพิ่ม เขาจะกลายเป็นทรงพลังขึ้น

 

มันยากมากสําหรับจ้าวเทวะขั้นสูงสุดในจักรวาลที่จะเพิ่มความสามารถต่อ

 

ด้วยความสามารถปัจจุบันของข้า ข้าควรสามารถจัดการกับผู้ตรวจสอบที่ไรเดอร์ส่งมา ได้ภัยคุกคามปัจจุบันในหัวหลินฮวงเริ่มสลายไปหลังเขาตรวจสอบพลังตัวเอง

 

ตามข้อมูลที่หยางหลิงให้ ราชันย์จะไม่อนุญาตให้จ้าวเทวะขั้นสูงสุดเข้ามหาพิภพ ซึ่งเป็นอาณาเขตของพวกเขา ดังนั้น ผู้ตรวจสอบที่ทรงพลังสุดก็เป็นได้แค่จ้าวเทวะขั้นสูง

 

สําหรับหลินฮวงในตอนนี้ จ้าวเทวะขั้นสูงไม่มีความสามารถคุกคามเขาเลย

 

แต่ทว่า เขาไม่วางแผนรอตั้งรับให้ผู้ตรวจสอบมาถึงเฉยๆ

 

แม้ผู้ตรวจสอบจะไม่อาจคุกคามเขาได้ เขาก็ไม่ตั้งใจจะจบการบ่มเพาะของเขา

 

หลังคิดถึงความเป็นไปได้ที่พิกัดในอาณาจักรเสมือนของเขาอาจถูกเปิดเผย เพื่อความปลอดภัย หลินฮวงเปิดประตูทุกอาณาจักรและย้ายตัวเองไปยังดาวไร้ผู้อาศัยในโลกมนุษย์ทันที

 

สถานที่นี้คือดาวที่ห่างจากดาวริคกี้เป็นล้านเขตดาว

 

หลังมาถึงตําแหน่งใหม่ หลินฮวงก็เรียกกระท่อมอาณาจักรเสมือน

 

เขาหยิบแหวนออกมาและวางไว้ในกระท่อม

 

หลังจากนั้น เขาก็เปิดประตูทุกอาณาจักรและก้าวเข้าอาณาจักรเสมือน

 

พอเข้าอาณาจักรเสมือน หลินฮวงก็กระจายจิตเทวะเขา พบว่ามีวอยด์จ้าวเทวะขั้นต่ำสามตัวภายในรัศมีสิบเขตดาว

 

หลังใช้มีดบินอาวุธเซียนเพื่อก่าจัดพวกวอยด์โดยไม่ลังเล หลินฮวงถึงโล่งใจและเข้า กระท่อมไป เขาหยิบแหวนขึ้นจากพื้น จากนั้นก็นั่งทําสมาธิ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+