Monster Paradise 1661 ความสามารถหนึ่งส่วน

Now you are reading Monster Paradise Chapter 1661 ความสามารถหนึ่งส่วน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1661 ความสามารถหนึ่งส่วน

 

ตอนหลินฮวงกลับวังจอมเทพ ไป่กับเถิงหรานกําลังตรวจสอบรายละเอียดการเปลี่ยนแปลง

 

หลินฮวงไม่เร่งพวกมัน เขารอให้พวกมันตรวจสอบอย่างอดทน

 

หลังผ่านไปสักพัก เถิงหรานก็เป็นคนแรกที่ถอนจิตสํานึก

 

ตอนเขาเห็นหลินฮวง เขาก็อดยิ้มไม่ได้”ข้าไม่คิดเลยว่าข้าจะสามารถบรรลุสิ่งนี้ได้ในช่วงชีวิตของข้า”

 

ไม่มีใครรู้ว่าเขากําลังพูดถึงการเลื่อนเป็นจิตวิญญาณบริสุทธิ์หรือจ้าวเทวะ หรือบางทีอาจเป็นทั้งคู่

 

“นี่ยังห่างไกลจากเส้นทางข้างหน้าของพวกเจ้า” หลินฮวงตอบด้วยรอยยิ้ม

 

ขณะที่พวกเขากําลังคุย สุดท้ายไป่ก็ถอนจิตสํานึกจากภายในตัวเองเช่นกัน

 

“เจ้ารู้สึกเป็นไง?” หลินฮวงถามด้วยรอยยิ้ม

 

“ข้ารู้สึก.ทรงพลังมาก” ตลอดมา ไป่ไม่เคยมีนิสัยโอ้อวด” ข้าตกอยู่ภายใต้ภาพลวงตาที่คิดว่าข้าควบคุมได้ทุกอย่าง”

 

“ข้าเองก็เช่นกัน”เถิงหรานพูดด้วยรอยยิ้มจากที่ที่เขายืน

 

แต่ทว่า หลังพูดไป่ก็จับจ้องหลินฮวงและสายหัวในวินาทีต่อมา” น่าเสียดาย ข้ายังทรงพลังไม่พอ ปัจจุบัน ข้ายังไม่มีความสามารถพอจะปกป้องนายท่าน”

 

สีหน้าของเถิงหรานเต็มไปด้วยความสับสนพอได้ยินไป่พูดเช่นนี้” ข้าคิดว่านายท่านยังไม่บรรลุเป็นจ้าวเทวะนี้?”

 

เห็นได้ชัดว่าเขาไม่รับรู้ถึงความสามารถที่หลินฮวงปกปิดไว้

 

“สมแล้ว เสี่ยวไป๋ของเรามองข้าออกเสมอ” หลินฮวงแซวด้วยรอยยิ้ม” เถิงเถิง เจ้าควรเรียนรู้จากเสี่ยวไป๋”

 

“นั่นมันชื่อเล่นอะไรกัน?”เถิงหรานปิดหน้าด้วยมือหนึ่ง

 

ไป่ยังคงแสดงสีหน้าเฉยชาตั้งแต่ต้นจนจบ

 

“เจ้าอยากลองดูช่องว่างระหว่างความสามารถพวกเราไหม?” หลินฮวงมองทั้งสอง

 

ด้านหนึ่งเขาเบื่อ และอีกด้าน เขาไม่อยากให้ทั้งสองเข้าหุบเหวอีกโดยไม่รับรู้ถึงความสามารถของตัวเอง

 

ตอนเขาได้ยินคําเชิญของหลินฮวง สีหน้าของเถิงหรานก็เต็มไปด้วยความสับสน

 

แม้กระทั่งไป่ก็ยังแสดงความสนใจออกมา

 

เขาคือมอนสเตอร์อัญเชิญที่อยู่กับหลินฮวงมานานสุด นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หลินฮวงชวนให้เขาประมือ แต่ทว่า มันก็ผ่านมานานแล้วที่เขาได้ประมือกับเจ้านาย

 

“พวกเจ้าสองเข้ามาพร้อมกันเลย นอกจากนี้ พวกเจ้าห้ามออมมือเด็ดขาด ถ้าพวกเจ้าไม่ทุ่มสุดตัว ข้าอาจเผลอฆ่าพวกเจ้าทันที” หลินฮวงหัวเราะ และวังจอมเทพก็พลันเปลี่ยนเป็นหมู่ดาว

 

ไป่กับเถิงหรานสบตากัน และก็ลงมือพร้อมกัน

 

ทั้งคู่พัฒนาการโจมตีประสานนี้มาหลังใช้เวลาด้วยกัน

 

หมอกสีแดงเลือดปกคลุมพื้นที่ด้านหลังไป่ทันที วินาทีต่อมา หนวดสีเลือดนับไม่ถ้วนก็พุ่งออกจากหมอกไปเหมือนสายฟ้า เล็งไปที่หลินฮวง

 

บนหนวดาทุกเส้นจะมีผนึกเสีแดงสด รอยประทับเต่ํากว่าสองหมื่นขดบนสายฟ้าแต่ละสายเหมือนเหล็กหลอมเหลว

 

แถมยังมีหนวดกว่าล้าน

 

ในขณะเดียวกัน ตัวของเถิงหรานพลันปกคลุมด้วยเกล็ดทอง หอกสีทองปรากฏในมือเขา และปีกคู่ก็สยาย เขาเองก็พุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่เหนือยิ่งกว่าหนวด

 

บนปลายหอกทองคือผนึกเต๋าที่เปล่งแสง ด้วยรอยประทับเต่ํากว่าสองหมื่น

 

เขาเหมือนดาวสีทองที่กําลังพุ่งชนใส่หลินฮวง

 

ริมฝีปากของหลินฮวงขดขึ้นเล็กน้อย เขายกมือสองข้างขึ้น และสายฟ้าสีแดงเลือดสองสายก็พุ่งออกไป

 

หนึ่งในนั้นดูเหมือนจะมีจิตสํานึกของตน ขยับผ่านทะเลหนวดเลือดอย่างดุดัน

 

หนวดโดนทําลายทุกที่ที่มันผ่าน

 

ความรู้สึกเหมือนพลาสติกที่โดนความร้อนสูง มันละลายและหายไปอย่างรวดเร็ว

 

สายฟ้าอีกสายปะทะกับหอกของเถิงหรานโดยตรง

 

ด้วยเสียงระเบิดดังสนั่น ตัวของเถิงหรานกระเด็นไปข้างหลังด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิมหลายเท่า

 

รูม่านตาของไป่หดลงเล็กน้อยเพราะสังเกตเห็นตัวของเถิงหรานตอนนี้ไร้หัว

 

หัวของเถิงหรานระเบิดจากการปะทะกับมีดบิน พลังชีวิตมหาศาลของเขาพลันโดนทําลาย

 

ตอนนี้ไป่ถึงตระหนักว่าความสามารถของหลินฮวงทรงพลังกว่าที่เขาคิด

 

ไป่ฟุ้งซ่านไปชั่วขณะ แต่ก็พลันสัมผัสได้ถึงภัยคุกคาม

 

เขายกสายตาและเห็นมีดบินที่บดขยี้กับหัวของเถิงหรานวกกลับมาและพุ่งตรงมาที่เขา

 

สีหน้าของไป่เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่มือของเขากลับไม่ช้าลง

 

เขาประสานมือสองข้างอย่างรวดเร็ว และโล่สีแดงเลือดหลายชั้นก็ปรากฏ

 

โล่ยักษ์มีสิบสองชั้นและสูงสามเมตร เหมือนประตูเมือง มันขวางระหว่างไป่กับมีดบิน

 

มีผนึกเต๋คล้ายลาวาสลักบนโล่ยักษ์แต่ละชั้น

 

รอยประทับเต่ําสีแดงสดกว่าสองหมื่นก็ยังเติมเต็มแทบทุกมุมของโล่

 

วินาทีต่อมา สายฟ้าสีแดงเลือดก็ปะทะกับโล่

 

ต่อมา เหมือนปลายเข็มที่เจาะทะลุแผ่นกระดาษ สายฟ้าเจาะทะลุผ่านโล่ยักษ์ทุกชั้นง่ายๆ มีดบินพลังจิตไม่ช้าลงเลยสักนิด มันกลับเจาะทะลุผ่านการป้องกันสิบสองชั้นและทําลายหัวของไป่

 

ฉากจําลองในวังจอมเทพพลันหายไป ขณะที่ร่างไร้หัวตกลงพื้น

 

ในวังจอมเทพ ไป่กับเถิงหรานยืนอยู่กับที่ใบหน้าขาวซีด พูดไม่ออกไปนาน

 

แม้จะสู้กันแบบจําลอง ทั้งคู่ก็รู้ว่ามันไม่ต่างจากสิ่งที่จะเกิดในการต่อสู้จริง

 

ในการต่อสู้จําลอง หลินฮวงฆ่าพวกมันในพริบตา

 

ในโลกจริง เขาก็คงทําได้เหมือนกัน

 

“นายท่าน ท่านยังไม่เลื่อนเป็นจ้าวเทวะแน่หรือ?” เถิงหรานถามด้วยใบหน้าดํามืด เขารู้สึกว่าหลินฮวงกําลังปกปิดพลังไว้

 

“ข้ายังไม่เลื่อนเป็นจ้าวเทวะ” หลินฮวงพยักหน้าและยิ้ม

 

“ท่านยังไม่ได้เอาจริงใช่ไหม?”ในทางกลับกัน ไป่กลับเงยหน้ามองหลินฮวง” ข้าอยากรู้ว่าท่านใช่ความสามารถจริงไปแค่ไหน”

 

“ประมาณหนึ่งส่วน” หลินฮวงตอบหลังคิด

 

ในความเป็นจริง เขาใช้แค่ผนึกดาบควบคู่กับห่วงโซ่ลําดับเทพสามหมื่นสาย นี่ไม่ถึงหนึ่งในสิบของที่บัญญัติเทพเขารองรับได้เลย เขายังใช้แค่จิตเทวะระดับจ้าวเทวะขั้นกลาง เพื่อควบคุมมีดบินสองเล่ม

 

โดยรวม มันยังไม่ถึงหนึ่งส่วนด้วยซ้ํา

 

แต่ทว่า เขากังวลว่าเขาจะบดขยี้ความมั่นใจของพวกไป่

 

“ในความเป็นจริง พวกเจ้าไม่ถือว่าอ่อนแอเลยในหมู่จ้าวเทวะขั้นต่ํา”

 

“ด้วยความสามารถปัจจุบันของเจ้า นอกจากหุบเหว พวกเจ้าจะสํารวจพื้นที่ส่วนใหญ่ของมหาพิภพได้”

 

แม้หลินฮวงจะพูดแบบนั้น อารมณ์ของไป่กับเถิงหรานก็ไม่ได้ดีขึ้น

 

“อย่าหดหูสิ มันไม่น่าอายเลยที่แพ้ข้า มานี่มา ข้าจะพาพวกเจ้าไป่กินของอร่อย” หลินฮวงวางแขนบนไหล่ทั้งคู่และย้ายกลับไปดาวริคกี้

 

จากนั้นเขาก็เลี้ยงมื้ออาหารทั้งสอง

 

แม้ไป่กับเถิงหรานจะหดหู่ พวกมันก็ไม่อาจต้านทานตอนเห็นอาหารดี

 

หลังกินข้าว อารมณ์ทั้งคู่ก็ดีขึ้นทันตาเห็น

 

หลินฮวงเตือนทั้งคู่ว่าอย่าไปหุบเหวอีกครั้งก่อนส่งออกไป

 

มันบ่ายสามแล้วตอนไป่กับเถิงหรานออกเดินทาง

 

ทันทีที่หลินฮวงกลับห้องเขา เขาก็สัมผัสได้ถึงข้อความที่ส่งจากดาบหนึ่ง

 

“ท่านจอมดาบ หยางหลิงอยากเจอท่าน”

 

ข้อความจากอุปกรณ์สื่อสารไม่อาจส่งหาหลินฮวงจากภายในเขตแดนเทพได้ หยางหลิงไม่มีทางเลือกนอกจากไปหาดาบหนึ่งและให้เขาส่งคลื่นจิตมา

 

หลินฮวงรู้ดี หลังได้รับข้อความ ในชั่วพริบตา เขาก็กลับมาเขตแดนเทพภายในตัวเขา

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Monster Paradise 1661 ความสามารถหนึ่งส่วน

Now you are reading Monster Paradise Chapter 1661 ความสามารถหนึ่งส่วน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1661 ความสามารถหนึ่งส่วน

 

ตอนหลินฮวงกลับวังจอมเทพ ไป่กับเถิงหรานกําลังตรวจสอบรายละเอียดการเปลี่ยนแปลง

 

หลินฮวงไม่เร่งพวกมัน เขารอให้พวกมันตรวจสอบอย่างอดทน

 

หลังผ่านไปสักพัก เถิงหรานก็เป็นคนแรกที่ถอนจิตสํานึก

 

ตอนเขาเห็นหลินฮวง เขาก็อดยิ้มไม่ได้”ข้าไม่คิดเลยว่าข้าจะสามารถบรรลุสิ่งนี้ได้ในช่วงชีวิตของข้า”

 

ไม่มีใครรู้ว่าเขากําลังพูดถึงการเลื่อนเป็นจิตวิญญาณบริสุทธิ์หรือจ้าวเทวะ หรือบางทีอาจเป็นทั้งคู่

 

“นี่ยังห่างไกลจากเส้นทางข้างหน้าของพวกเจ้า” หลินฮวงตอบด้วยรอยยิ้ม

 

ขณะที่พวกเขากําลังคุย สุดท้ายไป่ก็ถอนจิตสํานึกจากภายในตัวเองเช่นกัน

 

“เจ้ารู้สึกเป็นไง?” หลินฮวงถามด้วยรอยยิ้ม

 

“ข้ารู้สึก.ทรงพลังมาก” ตลอดมา ไป่ไม่เคยมีนิสัยโอ้อวด” ข้าตกอยู่ภายใต้ภาพลวงตาที่คิดว่าข้าควบคุมได้ทุกอย่าง”

 

“ข้าเองก็เช่นกัน”เถิงหรานพูดด้วยรอยยิ้มจากที่ที่เขายืน

 

แต่ทว่า หลังพูดไป่ก็จับจ้องหลินฮวงและสายหัวในวินาทีต่อมา” น่าเสียดาย ข้ายังทรงพลังไม่พอ ปัจจุบัน ข้ายังไม่มีความสามารถพอจะปกป้องนายท่าน”

 

สีหน้าของเถิงหรานเต็มไปด้วยความสับสนพอได้ยินไป่พูดเช่นนี้” ข้าคิดว่านายท่านยังไม่บรรลุเป็นจ้าวเทวะนี้?”

 

เห็นได้ชัดว่าเขาไม่รับรู้ถึงความสามารถที่หลินฮวงปกปิดไว้

 

“สมแล้ว เสี่ยวไป๋ของเรามองข้าออกเสมอ” หลินฮวงแซวด้วยรอยยิ้ม” เถิงเถิง เจ้าควรเรียนรู้จากเสี่ยวไป๋”

 

“นั่นมันชื่อเล่นอะไรกัน?”เถิงหรานปิดหน้าด้วยมือหนึ่ง

 

ไป่ยังคงแสดงสีหน้าเฉยชาตั้งแต่ต้นจนจบ

 

“เจ้าอยากลองดูช่องว่างระหว่างความสามารถพวกเราไหม?” หลินฮวงมองทั้งสอง

 

ด้านหนึ่งเขาเบื่อ และอีกด้าน เขาไม่อยากให้ทั้งสองเข้าหุบเหวอีกโดยไม่รับรู้ถึงความสามารถของตัวเอง

 

ตอนเขาได้ยินคําเชิญของหลินฮวง สีหน้าของเถิงหรานก็เต็มไปด้วยความสับสน

 

แม้กระทั่งไป่ก็ยังแสดงความสนใจออกมา

 

เขาคือมอนสเตอร์อัญเชิญที่อยู่กับหลินฮวงมานานสุด นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หลินฮวงชวนให้เขาประมือ แต่ทว่า มันก็ผ่านมานานแล้วที่เขาได้ประมือกับเจ้านาย

 

“พวกเจ้าสองเข้ามาพร้อมกันเลย นอกจากนี้ พวกเจ้าห้ามออมมือเด็ดขาด ถ้าพวกเจ้าไม่ทุ่มสุดตัว ข้าอาจเผลอฆ่าพวกเจ้าทันที” หลินฮวงหัวเราะ และวังจอมเทพก็พลันเปลี่ยนเป็นหมู่ดาว

 

ไป่กับเถิงหรานสบตากัน และก็ลงมือพร้อมกัน

 

ทั้งคู่พัฒนาการโจมตีประสานนี้มาหลังใช้เวลาด้วยกัน

 

หมอกสีแดงเลือดปกคลุมพื้นที่ด้านหลังไป่ทันที วินาทีต่อมา หนวดสีเลือดนับไม่ถ้วนก็พุ่งออกจากหมอกไปเหมือนสายฟ้า เล็งไปที่หลินฮวง

 

บนหนวดาทุกเส้นจะมีผนึกเสีแดงสด รอยประทับเต่ํากว่าสองหมื่นขดบนสายฟ้าแต่ละสายเหมือนเหล็กหลอมเหลว

 

แถมยังมีหนวดกว่าล้าน

 

ในขณะเดียวกัน ตัวของเถิงหรานพลันปกคลุมด้วยเกล็ดทอง หอกสีทองปรากฏในมือเขา และปีกคู่ก็สยาย เขาเองก็พุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่เหนือยิ่งกว่าหนวด

 

บนปลายหอกทองคือผนึกเต๋าที่เปล่งแสง ด้วยรอยประทับเต่ํากว่าสองหมื่น

 

เขาเหมือนดาวสีทองที่กําลังพุ่งชนใส่หลินฮวง

 

ริมฝีปากของหลินฮวงขดขึ้นเล็กน้อย เขายกมือสองข้างขึ้น และสายฟ้าสีแดงเลือดสองสายก็พุ่งออกไป

 

หนึ่งในนั้นดูเหมือนจะมีจิตสํานึกของตน ขยับผ่านทะเลหนวดเลือดอย่างดุดัน

 

หนวดโดนทําลายทุกที่ที่มันผ่าน

 

ความรู้สึกเหมือนพลาสติกที่โดนความร้อนสูง มันละลายและหายไปอย่างรวดเร็ว

 

สายฟ้าอีกสายปะทะกับหอกของเถิงหรานโดยตรง

 

ด้วยเสียงระเบิดดังสนั่น ตัวของเถิงหรานกระเด็นไปข้างหลังด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิมหลายเท่า

 

รูม่านตาของไป่หดลงเล็กน้อยเพราะสังเกตเห็นตัวของเถิงหรานตอนนี้ไร้หัว

 

หัวของเถิงหรานระเบิดจากการปะทะกับมีดบิน พลังชีวิตมหาศาลของเขาพลันโดนทําลาย

 

ตอนนี้ไป่ถึงตระหนักว่าความสามารถของหลินฮวงทรงพลังกว่าที่เขาคิด

 

ไป่ฟุ้งซ่านไปชั่วขณะ แต่ก็พลันสัมผัสได้ถึงภัยคุกคาม

 

เขายกสายตาและเห็นมีดบินที่บดขยี้กับหัวของเถิงหรานวกกลับมาและพุ่งตรงมาที่เขา

 

สีหน้าของไป่เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่มือของเขากลับไม่ช้าลง

 

เขาประสานมือสองข้างอย่างรวดเร็ว และโล่สีแดงเลือดหลายชั้นก็ปรากฏ

 

โล่ยักษ์มีสิบสองชั้นและสูงสามเมตร เหมือนประตูเมือง มันขวางระหว่างไป่กับมีดบิน

 

มีผนึกเต๋คล้ายลาวาสลักบนโล่ยักษ์แต่ละชั้น

 

รอยประทับเต่ําสีแดงสดกว่าสองหมื่นก็ยังเติมเต็มแทบทุกมุมของโล่

 

วินาทีต่อมา สายฟ้าสีแดงเลือดก็ปะทะกับโล่

 

ต่อมา เหมือนปลายเข็มที่เจาะทะลุแผ่นกระดาษ สายฟ้าเจาะทะลุผ่านโล่ยักษ์ทุกชั้นง่ายๆ มีดบินพลังจิตไม่ช้าลงเลยสักนิด มันกลับเจาะทะลุผ่านการป้องกันสิบสองชั้นและทําลายหัวของไป่

 

ฉากจําลองในวังจอมเทพพลันหายไป ขณะที่ร่างไร้หัวตกลงพื้น

 

ในวังจอมเทพ ไป่กับเถิงหรานยืนอยู่กับที่ใบหน้าขาวซีด พูดไม่ออกไปนาน

 

แม้จะสู้กันแบบจําลอง ทั้งคู่ก็รู้ว่ามันไม่ต่างจากสิ่งที่จะเกิดในการต่อสู้จริง

 

ในการต่อสู้จําลอง หลินฮวงฆ่าพวกมันในพริบตา

 

ในโลกจริง เขาก็คงทําได้เหมือนกัน

 

“นายท่าน ท่านยังไม่เลื่อนเป็นจ้าวเทวะแน่หรือ?” เถิงหรานถามด้วยใบหน้าดํามืด เขารู้สึกว่าหลินฮวงกําลังปกปิดพลังไว้

 

“ข้ายังไม่เลื่อนเป็นจ้าวเทวะ” หลินฮวงพยักหน้าและยิ้ม

 

“ท่านยังไม่ได้เอาจริงใช่ไหม?”ในทางกลับกัน ไป่กลับเงยหน้ามองหลินฮวง” ข้าอยากรู้ว่าท่านใช่ความสามารถจริงไปแค่ไหน”

 

“ประมาณหนึ่งส่วน” หลินฮวงตอบหลังคิด

 

ในความเป็นจริง เขาใช้แค่ผนึกดาบควบคู่กับห่วงโซ่ลําดับเทพสามหมื่นสาย นี่ไม่ถึงหนึ่งในสิบของที่บัญญัติเทพเขารองรับได้เลย เขายังใช้แค่จิตเทวะระดับจ้าวเทวะขั้นกลาง เพื่อควบคุมมีดบินสองเล่ม

 

โดยรวม มันยังไม่ถึงหนึ่งส่วนด้วยซ้ํา

 

แต่ทว่า เขากังวลว่าเขาจะบดขยี้ความมั่นใจของพวกไป่

 

“ในความเป็นจริง พวกเจ้าไม่ถือว่าอ่อนแอเลยในหมู่จ้าวเทวะขั้นต่ํา”

 

“ด้วยความสามารถปัจจุบันของเจ้า นอกจากหุบเหว พวกเจ้าจะสํารวจพื้นที่ส่วนใหญ่ของมหาพิภพได้”

 

แม้หลินฮวงจะพูดแบบนั้น อารมณ์ของไป่กับเถิงหรานก็ไม่ได้ดีขึ้น

 

“อย่าหดหูสิ มันไม่น่าอายเลยที่แพ้ข้า มานี่มา ข้าจะพาพวกเจ้าไป่กินของอร่อย” หลินฮวงวางแขนบนไหล่ทั้งคู่และย้ายกลับไปดาวริคกี้

 

จากนั้นเขาก็เลี้ยงมื้ออาหารทั้งสอง

 

แม้ไป่กับเถิงหรานจะหดหู่ พวกมันก็ไม่อาจต้านทานตอนเห็นอาหารดี

 

หลังกินข้าว อารมณ์ทั้งคู่ก็ดีขึ้นทันตาเห็น

 

หลินฮวงเตือนทั้งคู่ว่าอย่าไปหุบเหวอีกครั้งก่อนส่งออกไป

 

มันบ่ายสามแล้วตอนไป่กับเถิงหรานออกเดินทาง

 

ทันทีที่หลินฮวงกลับห้องเขา เขาก็สัมผัสได้ถึงข้อความที่ส่งจากดาบหนึ่ง

 

“ท่านจอมดาบ หยางหลิงอยากเจอท่าน”

 

ข้อความจากอุปกรณ์สื่อสารไม่อาจส่งหาหลินฮวงจากภายในเขตแดนเทพได้ หยางหลิงไม่มีทางเลือกนอกจากไปหาดาบหนึ่งและให้เขาส่งคลื่นจิตมา

 

หลินฮวงรู้ดี หลังได้รับข้อความ ในชั่วพริบตา เขาก็กลับมาเขตแดนเทพภายในตัวเขา

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Monster Paradise 1661 ความสามารถหนึ่งส่วน

Now you are reading Monster Paradise Chapter 1661 ความสามารถหนึ่งส่วน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1661 ความสามารถหนึ่งส่วน

 

ตอนหลินฮวงกลับวังจอมเทพ ไป่กับเถิงหรานกําลังตรวจสอบรายละเอียดการเปลี่ยนแปลง

 

หลินฮวงไม่เร่งพวกมัน เขารอให้พวกมันตรวจสอบอย่างอดทน

 

หลังผ่านไปสักพัก เถิงหรานก็เป็นคนแรกที่ถอนจิตสํานึก

 

ตอนเขาเห็นหลินฮวง เขาก็อดยิ้มไม่ได้”ข้าไม่คิดเลยว่าข้าจะสามารถบรรลุสิ่งนี้ได้ในช่วงชีวิตของข้า”

 

ไม่มีใครรู้ว่าเขากําลังพูดถึงการเลื่อนเป็นจิตวิญญาณบริสุทธิ์หรือจ้าวเทวะ หรือบางทีอาจเป็นทั้งคู่

 

“นี่ยังห่างไกลจากเส้นทางข้างหน้าของพวกเจ้า” หลินฮวงตอบด้วยรอยยิ้ม

 

ขณะที่พวกเขากําลังคุย สุดท้ายไป่ก็ถอนจิตสํานึกจากภายในตัวเองเช่นกัน

 

“เจ้ารู้สึกเป็นไง?” หลินฮวงถามด้วยรอยยิ้ม

 

“ข้ารู้สึก.ทรงพลังมาก” ตลอดมา ไป่ไม่เคยมีนิสัยโอ้อวด” ข้าตกอยู่ภายใต้ภาพลวงตาที่คิดว่าข้าควบคุมได้ทุกอย่าง”

 

“ข้าเองก็เช่นกัน”เถิงหรานพูดด้วยรอยยิ้มจากที่ที่เขายืน

 

แต่ทว่า หลังพูดไป่ก็จับจ้องหลินฮวงและสายหัวในวินาทีต่อมา” น่าเสียดาย ข้ายังทรงพลังไม่พอ ปัจจุบัน ข้ายังไม่มีความสามารถพอจะปกป้องนายท่าน”

 

สีหน้าของเถิงหรานเต็มไปด้วยความสับสนพอได้ยินไป่พูดเช่นนี้” ข้าคิดว่านายท่านยังไม่บรรลุเป็นจ้าวเทวะนี้?”

 

เห็นได้ชัดว่าเขาไม่รับรู้ถึงความสามารถที่หลินฮวงปกปิดไว้

 

“สมแล้ว เสี่ยวไป๋ของเรามองข้าออกเสมอ” หลินฮวงแซวด้วยรอยยิ้ม” เถิงเถิง เจ้าควรเรียนรู้จากเสี่ยวไป๋”

 

“นั่นมันชื่อเล่นอะไรกัน?”เถิงหรานปิดหน้าด้วยมือหนึ่ง

 

ไป่ยังคงแสดงสีหน้าเฉยชาตั้งแต่ต้นจนจบ

 

“เจ้าอยากลองดูช่องว่างระหว่างความสามารถพวกเราไหม?” หลินฮวงมองทั้งสอง

 

ด้านหนึ่งเขาเบื่อ และอีกด้าน เขาไม่อยากให้ทั้งสองเข้าหุบเหวอีกโดยไม่รับรู้ถึงความสามารถของตัวเอง

 

ตอนเขาได้ยินคําเชิญของหลินฮวง สีหน้าของเถิงหรานก็เต็มไปด้วยความสับสน

 

แม้กระทั่งไป่ก็ยังแสดงความสนใจออกมา

 

เขาคือมอนสเตอร์อัญเชิญที่อยู่กับหลินฮวงมานานสุด นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หลินฮวงชวนให้เขาประมือ แต่ทว่า มันก็ผ่านมานานแล้วที่เขาได้ประมือกับเจ้านาย

 

“พวกเจ้าสองเข้ามาพร้อมกันเลย นอกจากนี้ พวกเจ้าห้ามออมมือเด็ดขาด ถ้าพวกเจ้าไม่ทุ่มสุดตัว ข้าอาจเผลอฆ่าพวกเจ้าทันที” หลินฮวงหัวเราะ และวังจอมเทพก็พลันเปลี่ยนเป็นหมู่ดาว

 

ไป่กับเถิงหรานสบตากัน และก็ลงมือพร้อมกัน

 

ทั้งคู่พัฒนาการโจมตีประสานนี้มาหลังใช้เวลาด้วยกัน

 

หมอกสีแดงเลือดปกคลุมพื้นที่ด้านหลังไป่ทันที วินาทีต่อมา หนวดสีเลือดนับไม่ถ้วนก็พุ่งออกจากหมอกไปเหมือนสายฟ้า เล็งไปที่หลินฮวง

 

บนหนวดาทุกเส้นจะมีผนึกเสีแดงสด รอยประทับเต่ํากว่าสองหมื่นขดบนสายฟ้าแต่ละสายเหมือนเหล็กหลอมเหลว

 

แถมยังมีหนวดกว่าล้าน

 

ในขณะเดียวกัน ตัวของเถิงหรานพลันปกคลุมด้วยเกล็ดทอง หอกสีทองปรากฏในมือเขา และปีกคู่ก็สยาย เขาเองก็พุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่เหนือยิ่งกว่าหนวด

 

บนปลายหอกทองคือผนึกเต๋าที่เปล่งแสง ด้วยรอยประทับเต่ํากว่าสองหมื่น

 

เขาเหมือนดาวสีทองที่กําลังพุ่งชนใส่หลินฮวง

 

ริมฝีปากของหลินฮวงขดขึ้นเล็กน้อย เขายกมือสองข้างขึ้น และสายฟ้าสีแดงเลือดสองสายก็พุ่งออกไป

 

หนึ่งในนั้นดูเหมือนจะมีจิตสํานึกของตน ขยับผ่านทะเลหนวดเลือดอย่างดุดัน

 

หนวดโดนทําลายทุกที่ที่มันผ่าน

 

ความรู้สึกเหมือนพลาสติกที่โดนความร้อนสูง มันละลายและหายไปอย่างรวดเร็ว

 

สายฟ้าอีกสายปะทะกับหอกของเถิงหรานโดยตรง

 

ด้วยเสียงระเบิดดังสนั่น ตัวของเถิงหรานกระเด็นไปข้างหลังด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิมหลายเท่า

 

รูม่านตาของไป่หดลงเล็กน้อยเพราะสังเกตเห็นตัวของเถิงหรานตอนนี้ไร้หัว

 

หัวของเถิงหรานระเบิดจากการปะทะกับมีดบิน พลังชีวิตมหาศาลของเขาพลันโดนทําลาย

 

ตอนนี้ไป่ถึงตระหนักว่าความสามารถของหลินฮวงทรงพลังกว่าที่เขาคิด

 

ไป่ฟุ้งซ่านไปชั่วขณะ แต่ก็พลันสัมผัสได้ถึงภัยคุกคาม

 

เขายกสายตาและเห็นมีดบินที่บดขยี้กับหัวของเถิงหรานวกกลับมาและพุ่งตรงมาที่เขา

 

สีหน้าของไป่เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่มือของเขากลับไม่ช้าลง

 

เขาประสานมือสองข้างอย่างรวดเร็ว และโล่สีแดงเลือดหลายชั้นก็ปรากฏ

 

โล่ยักษ์มีสิบสองชั้นและสูงสามเมตร เหมือนประตูเมือง มันขวางระหว่างไป่กับมีดบิน

 

มีผนึกเต๋คล้ายลาวาสลักบนโล่ยักษ์แต่ละชั้น

 

รอยประทับเต่ําสีแดงสดกว่าสองหมื่นก็ยังเติมเต็มแทบทุกมุมของโล่

 

วินาทีต่อมา สายฟ้าสีแดงเลือดก็ปะทะกับโล่

 

ต่อมา เหมือนปลายเข็มที่เจาะทะลุแผ่นกระดาษ สายฟ้าเจาะทะลุผ่านโล่ยักษ์ทุกชั้นง่ายๆ มีดบินพลังจิตไม่ช้าลงเลยสักนิด มันกลับเจาะทะลุผ่านการป้องกันสิบสองชั้นและทําลายหัวของไป่

 

ฉากจําลองในวังจอมเทพพลันหายไป ขณะที่ร่างไร้หัวตกลงพื้น

 

ในวังจอมเทพ ไป่กับเถิงหรานยืนอยู่กับที่ใบหน้าขาวซีด พูดไม่ออกไปนาน

 

แม้จะสู้กันแบบจําลอง ทั้งคู่ก็รู้ว่ามันไม่ต่างจากสิ่งที่จะเกิดในการต่อสู้จริง

 

ในการต่อสู้จําลอง หลินฮวงฆ่าพวกมันในพริบตา

 

ในโลกจริง เขาก็คงทําได้เหมือนกัน

 

“นายท่าน ท่านยังไม่เลื่อนเป็นจ้าวเทวะแน่หรือ?” เถิงหรานถามด้วยใบหน้าดํามืด เขารู้สึกว่าหลินฮวงกําลังปกปิดพลังไว้

 

“ข้ายังไม่เลื่อนเป็นจ้าวเทวะ” หลินฮวงพยักหน้าและยิ้ม

 

“ท่านยังไม่ได้เอาจริงใช่ไหม?”ในทางกลับกัน ไป่กลับเงยหน้ามองหลินฮวง” ข้าอยากรู้ว่าท่านใช่ความสามารถจริงไปแค่ไหน”

 

“ประมาณหนึ่งส่วน” หลินฮวงตอบหลังคิด

 

ในความเป็นจริง เขาใช้แค่ผนึกดาบควบคู่กับห่วงโซ่ลําดับเทพสามหมื่นสาย นี่ไม่ถึงหนึ่งในสิบของที่บัญญัติเทพเขารองรับได้เลย เขายังใช้แค่จิตเทวะระดับจ้าวเทวะขั้นกลาง เพื่อควบคุมมีดบินสองเล่ม

 

โดยรวม มันยังไม่ถึงหนึ่งส่วนด้วยซ้ํา

 

แต่ทว่า เขากังวลว่าเขาจะบดขยี้ความมั่นใจของพวกไป่

 

“ในความเป็นจริง พวกเจ้าไม่ถือว่าอ่อนแอเลยในหมู่จ้าวเทวะขั้นต่ํา”

 

“ด้วยความสามารถปัจจุบันของเจ้า นอกจากหุบเหว พวกเจ้าจะสํารวจพื้นที่ส่วนใหญ่ของมหาพิภพได้”

 

แม้หลินฮวงจะพูดแบบนั้น อารมณ์ของไป่กับเถิงหรานก็ไม่ได้ดีขึ้น

 

“อย่าหดหูสิ มันไม่น่าอายเลยที่แพ้ข้า มานี่มา ข้าจะพาพวกเจ้าไป่กินของอร่อย” หลินฮวงวางแขนบนไหล่ทั้งคู่และย้ายกลับไปดาวริคกี้

 

จากนั้นเขาก็เลี้ยงมื้ออาหารทั้งสอง

 

แม้ไป่กับเถิงหรานจะหดหู่ พวกมันก็ไม่อาจต้านทานตอนเห็นอาหารดี

 

หลังกินข้าว อารมณ์ทั้งคู่ก็ดีขึ้นทันตาเห็น

 

หลินฮวงเตือนทั้งคู่ว่าอย่าไปหุบเหวอีกครั้งก่อนส่งออกไป

 

มันบ่ายสามแล้วตอนไป่กับเถิงหรานออกเดินทาง

 

ทันทีที่หลินฮวงกลับห้องเขา เขาก็สัมผัสได้ถึงข้อความที่ส่งจากดาบหนึ่ง

 

“ท่านจอมดาบ หยางหลิงอยากเจอท่าน”

 

ข้อความจากอุปกรณ์สื่อสารไม่อาจส่งหาหลินฮวงจากภายในเขตแดนเทพได้ หยางหลิงไม่มีทางเลือกนอกจากไปหาดาบหนึ่งและให้เขาส่งคลื่นจิตมา

 

หลินฮวงรู้ดี หลังได้รับข้อความ ในชั่วพริบตา เขาก็กลับมาเขตแดนเทพภายในตัวเขา

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+