Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ 402

Now you are reading Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ Chapter 402 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา Online Ep.402 – ข้ามผ่านความโหดร้าย

 

กู่ฉิงเงยหน้าขึ้น มองตามขั้นบันไดที่ทอดยาวออกไป

 

ณ จุดสูงสุดของขั้นบันได

 

ปรากฏให้เห็นถึงชั้นม่านแสงสีดำที่ถูกแต่งแต้มด้วยจุดแสงดวงดารางดงาม มันปกคลุมไปตลอดทั้งสังเวียนประลอง ราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

 

กู่ฉิงซานปล่อยจิตสัมผัสเทวะออกไปสัมผัสกับแสงสีดำ แต่มันก็ถูกสะท้อนกลับมาด้วยชั้นแสงนี้

 

ดูเหมือนว่าฉากในสังเวียน จะไม่สามารถตรวจสอบจากภายนอกได้

 

“ดูลึกลับจริงๆ”

 

กู่ฉิงซานกล่าวเสียงกระซิบ

 

หนึ่งมือกุมดาบขุนเขาเทวะหกโลกา สองเท้าเริ่มก้าวเดินไต่ระดับขึ้นไปตามขั้นบันได

 

แล้วเขาก็ข้ามผ่านทั้ง 1800 ขั้นขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว

 

ร่างของกู่ฉิงซานเดินชนเข้ากับม่านแสงสีดำ

 

วืดดดด!

 

ในวิสัยทัศน์เกิดการบิดเบือนราวกับโลกพลิกตลบ

 

แล้วจากนั้นจู่ๆเขาก็ร่วงตกลงมายังพื้นที่เปิดโล่ง

 

มันคือพื้นที่ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ

 

สายลมเย็นพัดผ่านท้องฟ้า

 

ล้อมรอบไปด้วยผืนป่ากันดารอันกว้างใหญ่

 

กลางค่ำคืน

 

กู่ฉิงซานย่อตัวลง เอื้อมมือไปคว้าจับหิมะมากำในมือ

 

มันช่างเย็นและสดชื่น

 

ความรู้สึกเหล่านี้ … มันเป็นของจริง! นี่ทำให้กู่ฉิงซานค่อนข้างแปลกใจเล็กน้อย

 

“ทั้งหมดนี่ถูกสร้างขึ้นโดยฝีมือของไม้เท้าแห่งการจองจำอย่างงั้นหรือ?” เขาเอ่ยถาม

 

“ใช่ อำนาจของมันแข็งแกร่งเกินไป แม้ว่าจะไม่ได้มีพลังศักดิ์สิทธิ์ของจิตอาร์ติแฟคอยู่แล้วก็ตาม แต่ด้วยตัวไม้เท้าเอง ก็ยังคงมีชุดพลังศักดิ์สิทธิ์ที่คาดไม่ถึงอีกอยู่ดี” ฉานนู่กล่าว

 

“ไม่ได้มีจิตอาร์ติแฟคแต่กลับทรงอำนาจถึงเพียงนี้ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าเหตุใดมันจึงสามารถรับมือกับเทพวิญญาณได้” กู่ฉิงซานกล่าวด้วยอารมณ์

 

ในขณะนั้นเอง กู่ฉิงซานก็ได้ยินเสียงอันคลุมเครือลอยมาตามสายลม

 

กู่ฉิงซานหันไปตามเสียง มองออกไปในระยะไกล

 

เห็นแค่เพียงเมื่อข้ามผ่านผืนป่ากันดารไป ก็จะเป็นมหาสมุทรอันไร้ที่สิ้นสุด

 

และบริเวณชายฝั่ง มีเรือขนาดใหญ่จอดทอดสมออยู่

 

แม้จะอยู่ในช่วงเวลาค่ำคืน ทว่าภายในเรือตลอดทั้งลำกลับสว่างไสว

 

ในความมืดมิด ข้อมูลได้ปรากฏขึ้นในจิตใจของกู่ฉิงซาน

 

นี่คือคำร้องจากไม้เท้าแห่งการจองจำที่ส่งผ่านมาทางอากาศ

 

“จงขึ้นไปบนเรืออย่างงั้นหรอ … ?”กู่ฉิงซานเอ่ยพึมพำ

 

ทว่าในตอนนั้นเอง จู่ๆเขาก็หมุนดาบในมือ แล้วจ้วงแทงมันออกไปยังเบื้องหลัง!

 

ท่ามกลางความมืดมิด สิงโตตนหนึ่งผลุบออกมาอย่างไม่มีปีมีขลุ่ย มันวิ่งกระโจนพร้อมกับปากที่อ้ากว้าง!

 

เดิมทีมันตั้งใจจะลอบโจมตีกู่ฉิงซาน แต่ตนไม่คาดคิดเลยว่า กู่ฉิงซานจะหมุนดาบสวนกลับมาในทันควัน!

 

ดาบยาวพุ่งแทงมาโดยไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ และสิงโตก็มิอาจลบเลี่ยง

 

‘กลับกลายเป็นข้าที่ถูกโจมตีแทนซะเองหรือนี่?’ เกิดความคิดแปลกๆวาบเข้ามาในจิตใจของสิงโต

 

แล้วดาบยาวก็แทงทะลุเข้าปากที่อ้ากว้างของมัน เสียบ! ลึกเข้าไปถึงภายในร่างอสูรของอีกฝ่าย

 

ฉากนี้ราวกับว่าเป็นตัวสิงโตซะเองที่โยนตนเข้าสู่คมดาบ ถูกเสียบราวกับเนื้อย่างลอยค้างอยู่กลางอากาศ

 

“ฮว๊ากกกก!”

 

เมื่อตกอยู่ในสภาพน่าสมเพช กรงเล็บจากเท้าทั้งสี่กางออก กวัดแกว่งไปมา ดิ้นรนขัดขืนขณะเปล่งเสียงร้องอย่างน่าอนาถ

 

“เดรัจ – โอ้ไม่สิ ที่มันสหายจากอาณาจักรจ้าวอสูรนี่นา มีอะไร? ต้องการที่จะมาทักทายข้าอย่างงั้นหรือ?” กู่ฉิงซานเอ่ยถาม

 

สิงโตรีบพยักหน้าหงึกๆอย่างรวดเร็ว

 

ฉึบ!

 

แล้วกู่ฉิงซานดึงดาบยาวออกจากปากของมัน

 

สิงโตก็ได้อิสระกลับคืนมาอีกครั้ง

 

มันเปล่งเสียงคำรามอย่างดุร้าย!

 

“โฮก! เจ้ามนุษย์บัดซบ ข้า–”

 

ฉึก!

 

ดาบยาวจ้วงเข้าไปในปาก แทงเข้าแผลเดิมของสิงโตอีกครา

 

อย่างที่เคยได้อธิบายไป สำหรับดาบขุนเขาเทวะหกโลกา หากเทียบกับดาบทั่วๆไปแล้ว มันนับว่ามีความยาวมากกว่าอยู่หลายส่วน ดังนั้นการเสียบทะลุผ่านทั้งร่างของสิงโตน่ะ ไม่นับว่ามีปัญหาเลย

 

กู่ฉิงซานยกดาบขึ้น

 

แล้วฉากที่แลดูราวกับสิงโตเสียบไม้ก็ปรากฏขึ้นอีกครา เท้าทั้งสี่ของมันกวาดไปมาในอากาศที่ว่างเปล่าอย่างหมดหนทาง

 

“สหาย พอดีว่าข้าพึ่งมาใหม่ แต่เจ้ากลับเจตนาที่จะข่มข้าหวาดกลัวอย่างงั้นหรือ?” กู่ฉิงซานกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงใจ

 

“โอ โอ ข้า .. ข้าผิดไปแล้ว! โอย ..”

 

สิงโตพยายามร้องขอความเมตตาอย่างยากลำบาก

 

คราวนี้มันพูดความจริงแล้ว

 

ดาบของฝ่ายตรงข้ามรวดเร็วเกินไป มันไม่อาจหลบเลี่ยงได้เลย

 

เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายมีความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงยิ่ง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอีกฝ่ายสามารถเอาชีวิตมันได้ตลอดเวลาหากต้องการ

 

“งั้นเราก็มาพูดคุยกันดีๆนะ ตกลงไหม?” กู่ฉิงซานยื่นข้อเสนอ

 

สิงโตเร่งพยักหน้าอีกครั้งและอีกครั้ง ยินยอมรับข้อเสนอ

 

แล้วดาบยาวก็ถูกดึงกลับคืน

 

“เช่นนั้นสหายจากอาณาจักรจ้าวอสูร เหตุใดเจ้าจึงไม่ขึ้นไปบนเรือ แล้วเตร่อยู่ที่นี่กันล่ะ?” กู่ฉิงซานเอ่ยถาม

 

สิงโตนั่งลงบนพื้น เอ่ยปากอย่างหดหู่ว่า “ก็การคัดเลือกมันจบลงแล้วน่ะสิ ไปที่นั่นไปมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี”

 

“ไม่นะ เท่าที่ข้ารู้ นรกทะเลเลือดยังมิได้เลือกตัวตนที่แกร่งที่สุดคนสุดท้ายเลยนี่” กู่ฉิงซานพูด

 

สิงโตกล่าว “ผิดแล้ว การคัดเลือกจริงๆน่ะมันจบลงไปแล้วต่างหาก แต่ด้วยห้วงอารมณ์และจิตสำนึกของตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดของนรกทะเลือดน่ะมันวิปลาส จึงยังไม่ยินยอมที่จะขึ้นไปบนเรือซักที”

 

“ไม่ยินยอมขึ้นไปบนเรือ?” กู่ฉิงซานขมวดคิ้ว

 

“ใช่แล้ว เพราะมันยังกินไม่อิ่มน่ะสิ”

 

สิงโตดูเหมือนจะย้อนระลึกได้ถึงบางสิ่ง ทันใดนั้นตัวมันก็เริ่มสั่นสะท้าน

 

“กินไม่อิ่ม?”

 

“ถ้าเจ้าได้เห็นมัน เจ้าก็จะเข้าใจเอง” สิงโตกล่าวอย่างช้าๆ ดูเหมือนว่ามันกำลังวัดความแข็งแกร่งของกู่ฉิงซานอยู่

 

ในระหว่างการสนทนาของหนึ่งคนหนึ่งสิงโตนั้นเอง คนตายนับไม่ถ้วนก็ค่อยๆตีวงเข้ามาโอบล้อมพวกเขาอย่างเงียบๆ

 

ไม่ว่าจะเป็นยักษ์ มนุษย์ปีศาจ สัตว์อสูร ชูร่า แออัดกันมานับไม่ถ้วน

 

“หน้าไม่คุ้นแฮะ” บางคนกระซิบ

 

“มันไม่ใช่ตัวตนที่แข็งแกร่งจากนรกของเรานี่”

 

“มีใครรู้จักเขาบ้างไหม?”

 

กู่ฉิงซานกำลังมองไปยังฝูงคนตาย ก่อนจะแตะลงบนหัวของสิงโตแล้วแถว่า “ข้าเป็นสหายของเจ้านี่น่ะ พอดีข้าได้ยินมาว่ามันปรารถนาที่จะเป็นราชาภูติ ดังนั้นข้าจึงมาดูมันเข้าร่วมแข่งขัน”

 

พอได้ฟัง เหล่าคนตายก็ผ่อนคลายลง

 

“เฮ้ย! ข้าไม่ใช่เพื่อนมัน! แถมยังไม่เคยเจอมันมาก่อนเลยด้วย! ทุกคนรีบช่วยกันฆ่าอ้ายทารกนี่กันเร็วเข้า!” สิงโตตะโกน

 

แล้วคนตายก็กลับมาเขม็งเกร็งกันอีกครั้ง

 

“นี่มันน่ารำคาญจริงๆ” กู่ฉิงซานบ่น

 

ท่ามกลางความมืดมิด วงดาบแสงจันทร์ที่โค้งมนขนาดใหญ่ผุดออกมาจากชั้นอากาศบางๆ

 

ด้วยคมดาบนี้ ทั้งเลือดและเนื้อพลันกระพือว่อนไปทั่ว!

 

ทว่าก่อนที่ฝนเลือดจะโปรยปรายลงในตำแหน่งนี้ มันก็ถูกพัดเป่า หายไปโดยกระแสลมอันดุร้ายจากคมดาบเสียก่อน

 

แสงจันทร์ค่อยๆจางหายไปอย่างช้าๆ

 

ตามด้วยร่างของกู่ฉิงซานที่ปรากฏขึ้น พร้อมด้วยสีหน้าหนักใจเล็กน้อย

 

นั่นเพราะในช่วงเวลาที่รังสีดาบสว่างขึ้น ในวิสัยทัศน์ของเขา ค้นพบว่าตลอดทั้งบริเวณนี้ มันเต็มไปด้วยคนตายที่จำนวนมากที่แออัดกัน! มากมายจนมิอาจนับไหวเลย!

 

กล่าวได้ว่าตัวตนที่แข็งแกร่งจากนรกทะเลเลือด เข้าไปกระจุกตัว รวมกันอยู่ในผืนป่ากันดารที่เป็นทางผ่านสู่เรือใหญ่ในทะเลทั้งหมดเลย!

 

มันเยอะจนเบียดเสียดกันชนิดที่ว่าไม่มีกระทั่งที่ที่ว่างเว้นไว้สำหรับนั่งข้างๆกัน!

 

ภายในป่ากันดาร พวกมันต่างห้ำหั่นกันและกันอย่างไร้อารยธรรม ราวกับเพียงแค่มองหาความสนุกจากการฆ่าฟันกันเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าพวกมันจะแค่สู้กันเอง แต่ไม่มีตนใดกล้าที่จะเฉียดเข้าไปใกล้กับเรือใหญ่ที่ส่องสว่างเลย

 

ฉะนั้นด้วยรูปการณ์นี้ ก็พอจะบอกได้ว่า ตัวตนที่ได้รับการยอมรับว่าแข็งแกร่งที่สุด … คงมิแคล้วอยู่ใกล้กับเรือใหญ่เป็นแน่

 

อย่างไรก็ตาม ตัวตนแข็งแกร่งที่ว่านั่น ดูเหมือนว่าจะมีความคิดที่ผิดแผกออกไป ดังนั้นมันจึงยังไม่ยินยอมขึ้นไปบนเรือ

 

“ดูเหมือนว่าฉันจะต้องรีบหน่อยแล้ว ก่อนที่มันจะเปลี่ยนใจ ”

 

กู่ฉิงซานบ่นงึมงำ

 

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะกล่าวแบบนั้น แต่เขาก็ยังยืนถือดาบขุนเขาอย่างนิ่งๆ มิได้เคลื่อนกายไปไหน

 

“เหตุใดจึงยังไม่ก้าวเดิน เจ้าไม่ได้ต้องการที่จะต่อสู้เพื่อตำแหน่งราชาภูติหรอกหรือ?” ฉานนู่อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม

 

“ไม่หรอก ต้องการอยู่แล้ว แต่นับจากนี้ไป ข้าจะต้องข้ามผืนป่ากันดาร และจะต้องฝ่าดงคนตายนับไม่ถ้วนที่เข้ามาโจมตีเนี่ยสิ”

 

“ดังนั้น เจ้าเลยจะเอาแต่ยืนอยู่แบบนี้อย่างงั้นหรือ?” ฉานนู่บ่น

 

ขณะที่เขากำลังจะกล่าวตอบนั้นเอง จู่ๆก็มีแมมมอธยักษ์ย่ำเฝ้าจนผืนดินสั่นสะเทือน ตรงเข้ามาหาเข้าอย่างบ้าคลั่ง!

 

มันพยศชูสองเท้ามหึมาเบื้องหน้าขึ้น และเหยียบ! ทิ้งน้ำหนักย่ำลงใส่กู่ฉิงซานที่อยู่เบื้องล่างอย่างแรง!

 

“เจ้ามนุษย์ตัวจ้อย จงตายซะ! ข้าจะบี้ร่างเจ้าให้กลายเป็นเนื้อเหลว!”

 

แมมมอธตะโกนอย่างบ้าคลั่ง

 

ทว่าขณะเดียวกัน รังสีดาบระยับก็พร่างพราวออกมาคั่นกลางในอากาศที่ว่างเปล่าระหว่างทั้งสอง

 

ร่างของแมมมอทยักษ์ชะงันงันไปทั้งๆอย่างงั้น มิอาจเคลื่อนกายต่อได้

 

กู่ฉิงซานก็ใช้ออกด้วย ‘ไม่ยอมอ่อนข้อ(เจียงซี)’ ซึ่งเป็นสกิลวิวัฒของขั้นสองของสายฟ้าเล่ยเดี๋ยน ที่สามารถทำให้ศัตรูสูญสิ้นการควบคุมร่างกายเป็นระยะเวลาหนึ่งได้!

 

แล้วสองวินาทีก็ผ่านพ้น พร้อมกับเจ็ดดาบที่ถูกฟาดฟันออกไป

 

ในวินาทีต่อมา เจ็ดจุดดวงดาราก็กระพริบไหวอยู่บนตัวดาบยาว

 

แสงสวรรค์เจิดจรัสและหลอมรวมเข้าด้วยกันราวกับว่าพวกมันกำลังเรียกขานหาบางสิ่ง

 

กู่ฉิงซานทุ่มสุดกำลัง คว้าจับดาบด้วยสองมือ และสับลงไปยังเบื้องหน้าอย่างรุนแรง!

 

ทุกสิ่งอย่างเกิดขึ้นในพริบตาเดียว

 

เส้นแสงของสายฟ้าเล่ยเดี๋ยนทะยานออกมาจากดาบยาวในฉับพลัน

 

ประกายสายฟ้าเล่ยเดี๋ยนสาดแสงระยับ ทอดแสงและเงาออกไป เติมเต็มช่วงค่ำคืนอันมืดมิดนี้ให้กลายเป็นโลกแห่งแสงสว่าง

 

เจ็ดดารา มังกรแหวกธารา!

 

หัวมังกรยักษ์ที่ประกอบไปด้วยเล่ยเดี๋ยนบินออกจากดาบ แล้วงับ! แมมมอธเข้าไปในปากของมัน

 

และแมมมอธก็สิ้นใจไปในพริบตา

 

ทันทีหลังจากที่หัวยักษ์ของมังกรผุดออกมาบดขยี้ศัตรู ส่วนร่างของมันถูกถูกหลอมสร้างขึ้นโดยรังสีดาบและสายฟ้าเล่ยเดี๋ยนก็ผุดตามมาจากตัวดาบ

 

“รอข้าก่อน” กู่ฉิงซานเอ่ยออกมา

 

ราวกับมีจิตนึกคิด มังกรสายฟ้าในอากาศชะงักไปเล็กน้อย

 

แล้วกู่ฉิงซานย่ำฝีเท้าลงจนหิมะบนพื้นแตกกระจาย ทะยานตัวขึ้นไปยืนเหนือหัวของมังกรสายฟ้า

 

โฮกกกก!

 

มังกรสายฟ้าเปล่งคำรามสั่นสะเทือนทั้งสวรรค์และโลก

 

แล้วกู่ฉิงซานก็ชี้ปลายดาบออกไปยังเบื้องหน้า

 

มังกรสายฟ้าว่ายวนในอากาศ ทำการเปลี่ยนทิศทางเล็กน้อย จากนั้นก็พุ่งตัดผ่านผืนป่ากันดารที่คราคร่ำไปด้วยเหล่าคนตายเหลือคณาโดยตรง!

 

ได้ยินเพียงเสียงสายลมที่หวีดผ่านเข้ามาในหู

 

ขณะที่ทิวทัศน์โดยรอบเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

 

เหล่าคนตายที่กระจุกตัวอยู่ในป่ารกร้าง เมื่อต้องเผชิญกับพลังอำนาจของสายฟ้าสวรรค์ พวกมันก็หวาดกลัว สิ้นซึ่งหนทางต่อต้าน แตกกระเจิงเปิดทางกันออกไป

 

ในพริบตาเดียว เขาก็ได้มาถึงเรือใหญ่แล้ว

 

และเวลานี้ กู่ฉิงซานก็ยังสามารถมองเห็นถึงฉากบนเรือได้อีกด้วย

 

คนตายสิบกว่าคนกำลังยืนอยู่บนเรือ แยกกันเป็นกลุ่มเล็กๆหลายกลุ่ม

 

กู่ฉิงซานมองเห็นเจ็ดผู้คุมนรกที่เขาเคยได้พบกันมาก่อนหน้านี้

 

เนื่องจากมังกรสายฟ้าน่ะมันสะดุดตามาก เจ็ดผู้คุมนรกจึงสามารถเห็นร่างของกู่ฉิงซานที่ยืนอยู่เหนือหัวมังกรได้อย่างชัดเจน

 

สีหน้าของเจ็ดผู้คุมดูจะประหลาดใจเป็นอย่างมาก

 

ทว่ากู่ฉิงซานมิได้สนใจพวกเขา แต่ก้มลงมองไปที่เรือ

 

เห็นแค่เพียงยักษ์ที่ดูสูงใหญ่และแข็งกร้าวกำลังนั่งอยู่หน้าทางเข้าเรือ

 

ยักษ์ตนนั้นก่อกองไฟขึ้นและบางครั้งก็โยนพวกคนตายลงไปย่าง

 

จากนั้นบางคนที่ถูกจับโยนลงไปก็ถูกคว้าจับขึ้นมาและโดนยัดเข้าไปในปากของมัน

 

ยักษ์เคี้ยวๆๆๆและกลืนลงไปโดยไม่คำนึงถึงเสียงร้องอันน่าพรั่นพรึงที่อยู่ในปากของมัน

 

-ดูเหมือนว่านี่สินะ คือเจ้าการดำรงอยู่ที่สิงโตกล่าวถึง

 

ยักษ์ใหญ่เงยหน้าขึ้น เห็นได้ชัดว่ามันก็สนใจมังกรสายฟ้าเช่นกัน

 

มันลุกขึ้นยืนอย่างมั่นคง แล้วคว้าจับขวานหินในมือ

 

“ย่างคนกินอย่างงั้นหรือ? ผลกรรมที่แกกระทำกำลังจะคืนสนองแล้ว”

 

กู่ฉิงซานบ่นงึมงำ

 

เขายกมือที่ถือดาบขึ้น และชี้นิ้วออกไป

 

ทันใดนั้นมังกรสายฟ้าก็โฉบลงมาจากท้องฟ้า

 

มังกรสายฟ้าอ้าปากกว้าง เตรียมพร้อมที่จะงับเข้าใส่ตัวยักษ์

 

ยักษ์แกว่งขวานหินเข้าสู้  ทว่าคมขวานของมันราวกับตัดเข้าใส่อากาศ ทะลุผ่านตัวมังกรไปโดยตรง!

 

มังกรสายฟ้าอ้าปากอย่างดุร้าย และงับ! กลืนยักษ์ใหญ่ลงไป!!

 

“อ๊ากกกก!”

 

ยักษ์ใหญ่หวีดร้องออกมาอย่างน่าสมเพช

 

ด้วยนักดาบนิรันดร์ที่เป็นถึงขอบเขตก้าวสู่เทพขั้นปลาย สำแดงเดชด้วยเจ็ดดารามังกรแหวกธาราอย่างเต็มกำลัง พลังอำนาจของมันย่อมผิดแผกและร้ายแรงเกินกว่าที่คนทั่วไปจะจินตนาการไหว!

 

ไม่นานนัก กลิ่นไหม้เกรียมก็โชยออกมาจากร่างของยักษ์ใหญ่

 

กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนอง

 

แล้วยักใหญษ์ร่วงล้มลงกับพื้น ทับลงบนกองไฟที่ตนก่อขึ้นเอง

 

ขณะเดียวกัน กู่ฉิงซานก็ร่อนลงบนพื้นดิน

 

แล้วเขาก็ได้รับข้อมูลที่มองไม่เห็น ผ่านเข้ามาในจิตใจทันที

 

“ผู้แข็งแกร่งที่สุดจากนรกทะเลเลือด โปรดจงขึ้นมาบนเรือด้วย”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด