Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ 965 รวมตัว

Now you are reading Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ Chapter 965 รวมตัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

พื้นที่​จ้าว​โลก​

โลก​ที่​พังพินาศ​อย่าง​สมบูรณ์​

สายลม​พัด​หวีดหวิว​

ซากปรักหักพัง​ถูก​สายลม​แรงกล้า​พัดพา​ พวก​มัน​จมเข้าสู่​วังวน​ความว่างเปล่า​ก่อน​หาย​ไป​

เมื่อ​ถึงเวลา​หนึ่ง​

ซูเสวี่ยเอ้อร์​จั่วไพ่​ขึ้น​มา

นักฆ่า​สอง​คม​บน​ไพ่​กระโจน​ออกมา​ก่อน​พุ่ง​เข้าใส่​ศัตรู​ที่อยู่​ฝั่งตรงข้าม​

ศัตรู​ของ​ซูเสวี่ยเอ้อร์​เป็น​ผู้ชาย​แข็งแกร่ง​คน​หนึ่ง​ เป็น​บุคคล​ที่อยู่​จุดสูงสุด​ของ​อำนาจ​และ​มีชื่อเสียง​ใหญ่โต​ทั่ว​ทั้ง​พื้นที่​จ้าว​โลก​

“พึ่ง​สิ่งนี้​หรือ​”

ผู้ชาย​แข็งแกร่ง​เย้ยหยัน​ก่อน​ยก​มือขึ้น​ปัด​ป้อง​การ​โจมตี​ของ​นักฆ่า​อย่าง​บ้าเลือด​

แอน​นา​พลัน​ขว้าง​เคียว​สีดำ​ออก​ไป​

เคียว​กลายเป็น​เปลวเพลิง​สีดำ​ราวกับ​ลำแสง​เจิดจ้า​พุ่ง​เข้าใส่​ผู้ชาย​แข็งแกร่ง​

ผู้ชาย​แข็งแกร่ง​กรีดร้อง​ออกมา​ด้วย​ความเจ็บปวด​ขณะ​ขัดขืน​ลำแสง​สีดำ​ด้วย​พละกำลัง​ทั้งหมด​ที่​มี

“เร็ว​เข้า​ ซูเสวี่ยเอ้อร์!”​ แอน​นา​เรียก​

“รู้​แล้ว​!”

ภายใต้​เปลวเพลิง​สีดำ​ ทะเล​สีโลหิต​ม้วนตัว​เป็น​คลื่น​ขนาดใหญ่​

ซูเสวี่ยเอ้อร์​จั่วไพ่​จาก​ความว่างเปล่า​ก่อน​ขว้าง​มัน​ออก​ไป​เต็มแรง​

“ดักแด้​โลหิต​ทมิฬ​ ดูดกลืน​พลัง​ของ​มัน​ให้​หมด​!”

ซูเสวี่ยเอ้อร์​กล่าว​เสียงดัง​

ไพ่​กลายเป็น​ดักแด้​โลหิต​ขณะ​ห้อมล้อม​ผู้ชาย​แข็งแกร่ง​เอาไว้​อย่าง​สมบูรณ์​

“วิชา​ตื้นเขิน​นัก​ แทบจะ​เหมือนกับ​อาจารย์​เจ้าที่​ใช้ไพ่​ใบ​นี้​!”

เสียงคำราม​เกรี้ยวกราด​ของ​ผู้ชาย​แข็งแกร่ง​มาจาก​ดักแด้​โลหิต​ทมิฬ​

แอน​นา​พยายาม​สุดความสามารถ​ที่จะ​ยืนหยัด​ขณะ​กระซิบ​กับ​ซูเสวี่ยเอ้อร์​ว่า​ “ข้า​เกรง​ว่า​จะรั้ง​ตัว​ไว้​ได้​ไม่นาน​”

“เข้าใจ​แล้ว​”

ซูเสวี่ยเอ้อร์​ปิด​บาดแผล​บน​ไหล่​ด้วยมือ​ข้าง​หนึ่ง​ขณะ​กล่าว​เช่นนั้น​

ในที่สุด​พวก​นาง​ก็​ถูก​ทหาร​ที่​ไล่​ตามมา​ปิดล้อม​เอาไว้​

ทั้งสอง​ตก​อยู่​ใน​การต่อสู้​ที่​ยากลำบาก​

พวก​นาง​หลบหนี​ขณะ​สู้ แต่​ทหาร​ที่​แข็งแกร่ง​ยิ่งกว่า​และ​มีจำนวน​มากกว่า​ยัง​ไล่​ตามมา​

ระหว่าง​พวก​นาง​หลบหนี​ใน​โลก​ใบ​นี้​ ทั้งสอง​ใช้พละกำลัง​ส่วนใหญ่​ไป​เกือบ​หมด​แล้ว​

หลังจากนั้น​ พวก​นาง​เผชิญหน้า​กับ​ศัตรู​ทรงพลัง​ที่​คาดไม่ถึง​

จนกระทั่ง​ตอนนี้​ พวกเขา​ยัง​ห้ำหั่น​กัน​ไม่ลง​

แต่​พวก​นาง​จะล่าช้า​กว่า​นี้​ไม่ได้​แล้ว​!

ความรู้สึก​อัน​น่าขนลุก​ค่อยๆ​ ก่อตัว​ขึ้น​ใน​ใจของ​ทั้งสอง​

บางสิ่ง​ที่​รวดเร็ว​กำลัง​เข้าใกล้​โลก​ใบ​นี้​

“หมดหวัง​แล้ว​ เป็นไปไม่ได้​จริงๆ​ ไม่ว่า​ใคร​ไป​ก่อน​ก็​ต้อง​เจ็บตัว​กัน​ทั้งสองฝ่าย​อยู่ดี​” แอน​นา​กัดฟัน​

“ข้า​จะไป​ก่อน​”

ซูเสวี่ยเอ้อร์​จั่วไพ่​สีโลหิต​ขึ้น​มาแล้ว​ท่อง​คาถา​

“มัน​ต่างกัน​ตรงไหน​ที่ว่า​ใคร​ไป​ก่อน​ จะทะเลาะ​ให้​มัน​เสียเวลา​ไป​ทำไม​” แอน​นา​กล่าว​อย่าง​เกรี้ยวกราด​

ทันใดนั้น​ ทั้งสอง​พลัน​เงยหน้า​มอง​

พวก​นาง​เห็น​ผู้หญิง​เคลื่อน​ลง​มาจาก​ท้อง​นภา​ที่​เต็มไปด้วย​หมู่​เมฆสีเทา​อย่าง​เงียบงัน​

นาง​สวม​เสื้อคลุม​ขนนก​หลาก​สีสัน​ ถือ​มีด​ยาว​เอาไว้​ พุ่ง​เข้าใส่​ดักแด้​โลหิต​ทมิฬ​ใน​สายลม​

“พวกเรา​หรือ​” นาง​รีบ​ถาม

“ไม่ ข้า​ไม่รู้​” ซูเสวี่ยเอ้อร์​จ้อง​ผู้หญิง​คน​นั้น​ขณะ​ตอบ​

“แต่​นาง​ดูเหมือน​จะใช่นะ​”

หลังจาก​พูด​สอง​สามประโยค​สั้น​ๆ ยัง​ไม่ทัน​จบ​ สถานการณ์​บน​ลาน​ก็​พลัน​เปลี่ยนไป​

‘ตูม​!’

ดักแด้​โลหิต​ทมิฬ​แตกสลาย​จน​สิ้น​

ผู้ชาย​แข็งแกร่ง​ปรากฏตัว​ขึ้น​อีกครั้ง​ตรงหน้า​ทั้งสอง​ ดู​จาก​การเคลื่อนไหว​ของ​หมัด​แล้ว​น่าจะ​ยัง​ไม่หาย​ดี​

ตอนนี้​เอง​

ผู้หญิง​คน​นั้น​ลง​สู่พื้น​

แสงสลัว​วูบ​ไหว​

ช่างเป็น​มีด​ที่​รวดเร็ว​นัก​!

ทั้ง​ซูเสวี่ยเอ้อร์​และ​แอน​นา​อ้า​ปากกว้าง​เมื่อ​เห็น​เช่นนั้น​จน​ถึงขั้น​เสียสติ​เล็กน้อย​

มีด​เล่ม​นี้​พลัน​ระเบิด​ ปลดปล่อย​พลัง​เจ้าของ​มีด​ใน​พริบตา​ ไม่คำ​นึกถึง​ผลลัพธ์​ ไม่คำ​นึกถึง​ความเป็นความตาย​

มัน​ช่างน่าทึ่ง​จริงๆ​

พวก​นาง​ไม่รู้​จริงๆ​ ว่า​คน​แบบ​ไหน​ที่จะ​สามารถ​ทำ​แบบนี้​ได้​

นี่​คือ​มีด​ที่​อันตราย​ถึงชีวิต​!

‘ฉึก​!’

ประกาย​มีด​อัน​รุนแรง​ถูก​บีบ​อัด​จน​สุดขีด​ ในที่สุด​ก็​ระเบิด​ออกมา​เมื่อ​แทง​ใส่คอ​ของ​อีก​ฝ่าย​

มีด​อัน​ปั่นป่วน​กลายเป็น​สายลม​ยาว​ พัด​ศีรษะ​ที่​ถูก​ตัดออก​ไป​ ไม่รู้​ได้​ว่า​จุดหมาย​คือ​ที่ใด​

มีเพียง​ซากศพ​ไร้​ศีรษะ​เท่านั้น​ที่​ยัง​ยืน​อยู่กับที่​

ผู้หญิง​หยิบ​มีด​มา

“พรวด​!”

นาง​กระอัก​โลหิต​

ช่วงเวลา​ที่​มีด​ถูก​ใช้จนถึง​ขีดสุด​ต้อง​ใช้พลัง​กาย​และ​ใจของ​นาง​ทั้งหมด​ ต้อง​ก้าว​ข้าม​ขีดจำกัด​พละกำลัง​ไป​เพื่อ​สังหาร​ศัตรู​ที่​แข็งแกร่ง​กว่า​ตัวเอง​ให้​ล้ม​ลง​ได้​ใน​ครั้ง​เดียว​

ขณะ​เช็ด​โลหิต​ที่​มุมปาก​ ผู้หญิง​หันมา​มอง​ซูเสวี่ยเอ้อร์​และ​แอน​นา​

“แม่ทัพ​เผ่าพันธุ์​มนุษย์​โลก​เซินหวู่​ หนิง​เย​ว่​ฉาน​ ข้า​เคย​พบ​พวก​เจ้าทั้งสอง​มาก่อน​”

สีหน้า​ของ​หนิง​เย​ว่​ฉาน​เหนื่อยล้า​ ทั่ว​ร่าง​เฉื่อยชา​ ไม่เหมือน​ตอนแรก​ที่​นาง​ทุ่ม​พละกำลัง​ทั้งหมด​เข้าใส่​

ซูเสวี่ยเอ้อร์​จ้อง​หนิง​เย​ว่​ฉาน​ด้วย​ความ​เหม่อลอย​ แอน​นา​ก็​เช่นกัน​

เห็นได้ชัด​ว่า​พละกำลัง​เทียบ​เท่ากัน​ แต่​มีด​เล่ม​นั้น​บดบัง​ทั้ง​สวรรค์​และ​ปฐพี​

นี่​ช่างเป็น​ผู้หญิง​ที่​แปลกประหลาด​นัก​

ซูเสวี่ยเอ้อร์​ลุกขึ้น​ด้วย​การ​สนับสนุน​ของ​แอน​นา​อย่าง​ไม่เต็มใจ​ก่อน​มาหา​หนิง​เย​ว่​ฉาน​

“ใช่เจ้าหรือ​” นาง​ถาม

“ข้า​เอง​ ข้า​ตามรอย​ตำแหน่ง​ของ​เจ้ามาตลอด​” หนิง​เย​ว่​ฉาน​ตอบ​

“มาเถอะ​ รีบ​จบเรื่อง​นี้​กัน​” ซูเสวี่ยเอ้อร์​เอื้อมมือ​ออก​ไป​

“ได้​”

หนิง​เย​ว่​ฉาน​เอื้อมมือ​ไป​จับมือ​ของ​ซูเสวี่ยเอ้อร์​เช่นกัน​

ขณะที่​ทั้งสอง​เคลื่อนไหว​ แถว​ตัวอักษร​โลหิต​ขนาดเล็ก​ปรากฏ​แก่​สายตา​ของ​ทั้งสอง​พร้อมกัน​

“การหลอมรวม​กำลังจะ​เริ่ม​ขึ้น​”

“ห้า​”

“สี่”

“สาม”

“สอง​”

“หนึ่ง​!”

“หมื่น​สวรรค์​สิ้น​โลก​ออนไลน์​: การ​จุติ​ของ​ราชา​มาร​ ได้​ตื่นขึ้น​มาอีกครั้ง​แล้ว​”

“บัญญัติ​นี้​คือ​ราชา​มาร​แห่ง​บาป​: บัญญัติ​ราชา​มาร​เฉพาะ​ของ​กู่​ฉิงซาน​ใน​ยุค​โบราณ​”

“บัญญัติ​นี้​สัมผัส​ได้​ถึงสถานที่​ที่​มาร​แห่ง​บาป​ตั้งอยู่​”

“พื้นที่​เอก​ฐาน​ อาณาจักร​หนาม​”

“หาก​กู่​ฉิงซาน​อยาก​รอด​จาก​ความโกลาหล​ เขา​ต้อง​หลอม​รวม​กับ​ข้า​ให้​เร็ว​ที่สุด​เท่า​ที่จะ​ทำได้​!”

เมื่อ​เห็น​คำอธิบาย​นี้​ ดวงตา​ของ​ซูเสวี่ยเอ้อร์​เบิก​กว้าง​

หนิง​เย​ว่​ฉาน​เม้มริมฝีปาก​เช่นกัน​

เรื่อง​นี้​ข้อง​เกี่ยวกับ​ความเป็นความตาย​ของ​เขา​

ซูเสวี่ยเอ้อร์​ฝืนยิ้ม​ให้​หนิง​เย​ว่​ฉาน​แล้ว​กล่าวว่า​ “ชื่อ​ของ​เจ้าคือ​หนิง​… หนิง​เย​ว่​ฉาน​สินะ​ ขอบคุณ​ที่​ช่วย​พวก​ข้า​ ดังนั้น​ครั้งนี้​ให้​พวก​ข้า​จัดการ​เอง​ พวก​ข้า​จะหา​กู่​ฉิงซาน​ เจ้าหนี​ไป​ได้​เลย​”

หนิง​เย​ว่​ฉาน​เงียบ​ ส่ายหน้า​แล้ว​กล่าวว่า​ “ข้า​จะไป​กับ​พวก​เจ้า ข้า​ต้อง​ไปหา​เขา​เช่นกัน​”

หัวใจ​ของ​ซูเสวี่ยเอ้อร์​และ​แอน​นา​ทะยาน​ขึ้น​มาอย่าง​ห้าม​ไม่อยู่​

นาง​พูด​แบบนี้​หมายความว่า​อย่างไร​

ซูเสวี่ยเอ้อร์​เปลี่ยน​สีหน้า​ทันที​ นาง​อ้า​ปาก​ถามว่า​

ตอนนี้​เอง​ หนิง​เย​ว่​ฉาน​หยิบ​ตรา​ออกมา​ กาง​มัน​ไว้​ใน​ฝ่ามือ​ก่อน​แสดง​ให้​ซูเสวี่ยเอ้อร์​และ​แอน​นา​ดู​

ตรา​แผ่​แสงสีเขียวขจี​ออกมา​ เป็น​ความผันผวน​บางอย่าง​จาก​บรรยากาศ​โบราณ​

“เหรียญ​อารักขา​ของ​ราชินี​แห่ง​อาณาจักร​หนาม​บ่งบอก​ว่า​เจ้ามาจาก​อาณาจักร​หนาม​อย่างนั้น​หรือ​” แอน​นา​ถาม

“ก่อนหน้านี้​ปลอมตัว​น่ะ​” หนิง​เย​ว่​ฉาน​ตอบ​

“แต่​ก่อนหน้านี้​เจ้าบอ​กว่า​เป็น​แม่ทัพ​ของ​โลก​เซินหวู่​นี่​” ซูเสวี่ยเอ้อร์​กล่าว​ด้วย​ความสงสัย​

หนิง​เย​ว่​ฉาน​กล่าว​ตามตรง​ว่า​ “นั่น​คือ​บ้านเกิด​ของ​ข้า​ ก่อน​จะจาก​ที่นั่น​ ข้า​ไม่รู้​ว่า​มีโลก​ที่​ทรงพลัง​ยิ่ง​มาก​ขนาด​นี้​”

“บ้านเกิด​ของ​เจ้าคือ​โลก​ประปราย​หรือ​”

“ถูกต้อง​”

ซูเสวี่ยเอ้อร์​และ​แอน​นา​มองหน้า​กัน​

ความรู้สึก​แบบ​เดียวกัน​ก่อ​เกิดขึ้น​ใน​ตัว​ทั้งสอง​

ใช่แล้ว​ ตอน​เข้า​โลก​เก้า​ร้อย​ล้าน​ชั้น​ครั้งแรก​ ใคร​จะรู้​ล่ะ​ว่า​โลก​ดั้งเดิม​ของ​พวก​นาง​จะเล็ก​ปาน​นั้น​

พวก​นาง​มาจาก​อาณาจักร​หนาม​

ต่อให้​ไม่ไป​ตามหา​กู่​ฉิงซาน​ พวก​นาง​ก็​ต้อง​กลับ​อาณาจักร​หนาม​อยู่แล้ว​

“เอาเถอะ​ ไป​ด้วยกัน​ก็ได้​ แต่​พวกเรา​ล้วน​บาดเจ็บ​ ข้า​เกรง​ว่า​จะถ่วง​แข้ง​ถ่วง​ขา​เจ้าเอา​เปล่าๆ​” ซูเสวี่ยเอ้อร์​กล่าว​อย่าง​เหนื่อยล้า​

หนิง​เย​ว่​ฉาน​เผย​รอยยิ้ม​อ่อนโยน​ออกมา​

“ไม่เป็นไร​ ถึงแม้พวกเรา​จะไม่รู้จัก​กัน​ แต่​พวก​เจ้าตกอยู่ในอันตราย​มาก​ แถมยัง​ได้รับบาดเจ็บ​กัน​หมด​อีก​ ข้า​ทิ้ง​ไม่ลง​หรอก​”

ซูเสวี่ยเอ้อร์​และ​แอน​นา​กลับ​คิด​อีก​อย่าง​

หาก​เปลี่ยนเป็น​คนอื่น​พูด​ อีก​ฝ่าย​จะกลายเป็น​คน​เจ้าเล่ห์​หรือไม่​ก็​เป็น​พวก​จงใจอยาก​แสดงให้เห็น​ว่า​ตัวเอง​เป็นมิตร​แค่​ไหน​

แต่​เมื่อ​พูด​จาก​ปาก​ของ​หนิง​เย​ว่​ฉาน​ มัน​ทำให้​ผู้ฟัง​รู้สึก​ผ่อนคลาย​

นาง​คิด​อย่าง​ที่​พูด​จริงๆ​

นาง​เป็น​คน​เช่น​นั้นแหละ​

ซูเสวี่ยเอ้อร์​และ​แอน​นา​รู้สึก​ดีขึ้น​

“พวกเรา​ต้อง​รีบ​ไป​แล้ว​ ขืน​ยังอยู่​ที่นี่​ ข้า​รู้สึก​ว่า​จะมีสิ่งไม่ดี​เกิดขึ้น​แน่ๆ​” หนิง​เย​ว่​ฉาน​ขมวดคิ้ว​

“ข้า​ก็​รู้สึก​แบบนี้​เหมือนกัน​ ไป​กัน​เถอะ​” ซูเสวี่ยเอ้อร์​เห็นด้วย​

“อืม​ ไป​ด้วยกัน​เถอะ​” แอน​นา​กล่าว​เช่นกัน​

ร่าง​ของ​ผู้หญิง​ทั้ง​สามหาย​ไป​จาก​โลก​นี้​

ราว​ครึ่ง​ชั่วโมง​ผ่าน​ไป​

ร่าง​ที่​ปกคลุม​ท้อง​นภา​ปรากฏ​ขึ้น​เหนือ​โลก​

สัตว์ประหลาด​หุบเหว​

วิญญาณ​กรีดร้อง​กระโดด​ลง​มาจาก​หลัง​ของ​สัตว์ประหลาด​ขนาด​ยักษ์​

‘ตูม​!’

มัน​ตกลง​ไป​ใน​โลก​รกร้าง​ หลับตา​ลง​ สัมผัส​ถึงรอบข้าง​อย่าง​เงียบงัน​

ผ่าน​ไป​สักพัก​ รอยยิ้ม​ปรากฏ​ขึ้น​บน​ใบหน้า​ครึ่ง​ชาย​ครึ่ง​หญิง​

“…เพิ่ง​ไป​ได้​ไม่นาน​ เจ้าตามทัน​แน่นอน​”

“ทุกสิ่ง​ใกล้​จะจบ​แล้ว​!”

วิญญาณ​กรีดร้อง​ทะยาน​ขึ้น​สู่ท้อง​นภา​

อีก​ด้าน​

พื้นที่​เอก​ฐาน​

อาณาจักร​หนาม​

กู่​ฉิงซน​เห็น​เย่เฟย​หลี​ใน​ตำหนัก​

“ดังนั้น​ที่​ข้า​กลายเป็น​ท่าน​เอิร์ล​ เจ้าใช้มัน​เพื่อ​เรียก​จางห​ยิง​ห่า​ว​มาหรือ​” เย่เฟย​หลี​ถาม

“ใช่ ข้า​ไม่คิด​ว่า​เจ้าจะถึงกับ​เข้า​โลก​เก้า​ร้อย​ล้าน​ชั้น​ แต่​ก็​ไม่เป็นไร​ มัน​พา​เจ้ามาถึงที่หมาย​โดยตรง​ ช่วย​แก้ปัญหา​ได้​เยอะ​เลย​” กู่​ฉิงซาน​ยิ้ม​

เย่เฟย​หลี​เผย​รอย​ยิ้มแห้ง​ออกมา​แล้ว​กล่าวว่า​ “ข้า​พร้อม​จะออก​ไป​ต่อสู้​ แต่​ทันทีที่​ข้า​ออกมา​ ข้า​กลับ​มีเงิน​และ​อำนาจ​มหาศาล​ พูด​ตามตรง​ ข้า​คาดไม่ถึง​เลย​จริงๆ​”

กู่​ฉิงซาน​กล่าวว่า​ “ที่จริง​ เจ้ามาที่นี่​ได้​ถูก​เวลา​มาก​ การต่อสู้​กำลังจะ​เริ่ม​แล้ว​ ข้า​ขาด​คน​ช่วย​พอดี​”

“ข้า​ต้อง​ทำ​อะไร​ล่ะ​” เย่เฟย​หลี​ถามอย่าง​จริงจัง​

“อย่าง​แรก​เลย​ พวกเรา​ต้องหา​บัญญัติ​ราชา​มาร​” กู่​ฉิงซาน​ตอบ​

“บัญญัติ​ราชา​มาร​หรือ​”

“เรื่อง​นั้น​…”

กู่​ฉิงซาน​อธิบาย​สถานการณ์​ให้​เย่เฟย​หลี​ฟังอย่าง​ละเอียด​

ตอนนี้​ อารักขา​คน​หนึ่ง​มาจาก​ด้านนอก​ก่อน​รายงาน​กับ​ทุกคน​ว่า​ “ผู้ชาย​ที่​ชื่อ​จางห​ยิง​ห่า​ว​บอ​กว่า​เขา​ข้อง​เกี่ยวกับ​ท่าน​เอิร์ลเย่​และ​ขอ​ที่จะ​เข้าพบ​ท่าน​เอิร์ลเย่”​

ล​อร่าม​อง​กู่​ฉิงซาน​ก่อน​ถามว่า​ “นั่น​คือ​คน​ที่​เจ้าอยาก​เรียก​มาหรือ​”

จิต​เทพ​ของ​กู่​ฉิงซาน​ถูก​ปล่อย​ออก​ไป​ เขา​พลัน​หัวเราะ​ออกมา​

“ใช่ ในที่สุด​เขา​ก็​มา”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด