Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ 823 กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

Now you are reading Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ Chapter 823 กลืนไม่เข้าคายไม่ออก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่ง

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสามราชามารที่ทรงพลังที่สุด เขาใช้เวลาอยู่ในทะเลมารโกลาหลมานับไม่ถ้วน

การค้นคว้าท้องทะเลกว้างใหญ่แห่งนี้ของเขานับว่ากว้างขวางกว่ามารทุกตน

ด้วยคำสั่งของเขา เล็บมังกรถูกแขวนสูงบนใบเรือ

ถึงแม้เล็บนี้จะเพียงมาจากมังกรมารวัยทารกเท่านั้น แต่มันก็มีพลังยับยั้งที่ทรงพลังเช่นกัน

ในทะเลมารโกลาหล สัตว์ประหลาดทะเลจะไม่เป็นฝ่ายยั่วยุสายเลือดมังกรก่อน

เพราะสัตว์ประหลาดทุกตัวที่มีสายเลือดมังกรมารจะต้องมีความสามารถทรงพลังสุดจินตนาการ

และยังมีเหตุผลสำคัญอีกข้อ

สัตว์ประหลาดทุกตัวกลัวว่าพวกมันจะถูกโจมตีโดยเลือดมังกรจนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนกับมังกร

ใช่แล้ว เลือดมังกรทั้งแปรปรวนและก้าวร้าว

ทันทีที่เลือดมังกรรุกล้ำเข้าสู่ร่างกาย ชีวิตจะเกิดการเปลี่ยนแปลงจนไปถึงแก่น

กลายเป็นมังกรมารวัยทารก ได้รับพลังลี้ลับทรงพลัง จากนั้นก็กลายเป็นจ้าวแห่งท้องทะเล

แต่นี่ไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเลย

มังกรจะตื่นขึ้นทุกๆ หลายแสนปีเท่านั้น

เมื่อใดก็ตามที่มันตื่น ชีวิตที่ถูกกัดกร่อนด้วยเลือดมังกรจะถูกดึงโดยพลังลี้ลับก่อนรวมตัวเข้าด้วยกัน

จากนั้นมังกรจะกินตัวอ่อนทั้งหมดเพื่อดึงแก่นของพลังโตเต็มวัยออกมา

ถ้ามันกินมากพอแล้วก็จะทำการหลับใหลต่อ

แต่ถ้าไม่มากพอล่ะก็…

พวกมารจะพากันมาล่า

สำหรับสัตว์ประหลาดทะเล การกลายเป็นสายเลือดมังกรมารเท่ากับเป็นการยอมรับความตายของตัวเอง

เว้นแต่ว่ามันจะสามารถวิวัฒนาการด้วยเลือดมังกรได้อย่างรวดเร็วในช่วงเวลาจำกัดหลายแสนปีจนกลายเป็นตัวตนทรงพลังที่อยู่เหนือมังกรในบัดดลได้เท่านั้น

ถ้าเช่นนั้น ก็เป็นไปได้ที่มันจะจัดการมังกรที่ตื่นขึ้นก่อนดึงพลังของมังกรทั้งหมดออกมา

ผู้ชนะจะกลายเป็นมังกรตัวใหม่!

แต่เรื่องแบบนั้นแทบจะไม่เคยเกิดขึ้น

ดังนั้น สัตว์ประหลาดทะเลโบราณในทะเลมารโกลาหลจึงไม่เต็มใจที่จะสู้กับมังกรมารจนตัวตายเพื่อแลกกับพลังอันน้อยนิดเข้าไปใหญ่

พวกมันมีอายุขัยหลายสิบล้านปี

ตอนนี้ เมื่อเรือใบยักษ์ออกตัวอีกครั้ง ลมหายใจของมังกรมารปกคลุมทั่วทั้งใบเรือ

ในทะเลลึก สัตว์ประหลาดทะเลทรงพลังจำนวนมากถอยห่างจากเรือ

จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งส่งลูกน้องไปตายบางส่วนในตอนแรก แต่ก็เก็บเกี่ยวเล็บของมังกรมารมาได้ ทำให้การเดินทางราบรื่นจนผิดคาด

เขาพึงพอใจกับเรื่องนี้

สำหรับกู่ฉิงซาน นี่นับเป็นข่าวดีเช่นกัน

เมื่อไม่จำเป็นต้องทำสงคราม การเดินทางจึงยาวนานและราบรื่น ส่งผลต่อความสะดวกสบายกับเขาในหลายๆ ด้าน

ยกตัวอย่างเช่น การเข้าครัวที่เป็นทะเลสาบเพื่อฟันอาหารทะเล

ก่อนเขาจะรู้ตัว พลังวิญญาณสามหมื่นแต้มก็มาอยู่ในมือแล้ว

พลังวิญญาณสองแสนแต้มรวมเข้าด้วยกัน

ถ้าอย่างนั้น…

สองแสนหนึ่งหมื่น

สองแสนแปดหมื่น

สามแสนเจ็ดหมื่น…

สี่แสน!

ถึงแม้จี้น้ำเต้าหยกจะปรากฏขึ้นเพื่อขอพลังวิญญาณเป็นครั้งคราว แต่พลังวิญญาณที่กู่ฉิงซานได้รับการยังเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง

หกวันต่อมา

เรือยักษ์ยังล่องอยู่ในทะเลมารโกลาหล

นับจากนี้ไป ความเกียจคร้านที่กระจายไปทั่วเรือนั้นหายไปสิ้น

ขณะสวมเกราะศึก จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งปรากฏตัวขึ้นและเริ่มถ่ายทอดคำสั่งครั้งแล้วครั้งเล่า

ขณะเรือยักษ์แล่นต่อไป สีหน้าของเขายิ่งมายิ่งจริงจัง

พวกมารบางตนที่ปรับสภาพไม่ได้ชั่วคราวจะถูกส่งไปยังผนังโบสถ์

แม้กระทั่งมารยิ่งใหญ่ระดับลอร์ดก็ถูกสังหารต่อหน้าทุกตน

การแสดงออกของเขาจับใจมารทุกตน

ไม่มีใครรู้ว่าในใจของเขานั้นมีอะไรกังวลอยู่

แต่ในใจของพวกมันรู้แน่ๆ อย่างหนึ่ง

พายุที่แท้จริงกำลังจะมา

หลังจากกู่ฉิงซานผ่าสัตว์ประหลาดทะเลตัวสุดท้ายแล้ว เขาจึงยืนขึ้น

“ขอบคุณสำหรับความเหนื่อยยาก ราชาวิญญาณมาร” เชฟมารกล่าว

“อา ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย ข้าต้องทำแบบนี้เพื่อใช้ความสามารถ เจ้าไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก” กู่ฉิงซานยิ้ม

มารอีกตนเตือนด้วยความหวังดีว่า “หลังจากท่านออกจากที่นี่แล้ว จำไว้ว่าต้องสวมเกราะให้ดี ไม่อย่างนั้นคงไม่ดีนักถ้าท่านถูกพบตัวเข้า”

“อย่างนี้นี่เอง”

มีหัวข้อมากมายที่ได้คุยระหว่างทำอาหารและทำครัว หลายวันมานี้ทุกตนเข้าขากันได้ดี ความประทับใจของกู่ฉิงซานที่เป็นท่านลอร์ดทรงพลังผู้สามารถสังหารตัวอ่อนมังกรมารก็ดีขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องคุยเรื่องกังวลแบบนี้บ้าง

กู่ฉิงซานกล่าวลากับสหายที่รักการทำอาหารเช่นนี้ก่อนออกจากครัวไป

เขาพลิกการ์ดมรกตของ “เกราะศึกหมอกดำ” จนมันสั่นไหวเล็กน้อย

เกราะศึกครบชุดที่มีหมอกสีดำเลือนรางปกคลุมตัวเขาขณะสวมตั้งแต่หัวจรดเท้า

เขาไม่รู้จริงๆ ว่าจ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งกังวลอะไรอยู่ พูดง่ายๆ คือระวังไว้จะดีกว่า

กู่ฉิงซานครุ่นคิดขณะเดินไปยังโถงจัดเลี้ยง

ใกล้ถึงเวลาสำหรับมื้อเย็นของพวกมารแล้ว

ทีมเชฟหลายสิบตนเสิร์ฟอาหารอย่างรวดเร็ว เขาเข้าไปที่นั่นขณะรอการมาถึงของจ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่ง

ผ่านไปสักพัก

ห้องจัดเลี้ยง

พวกมารจำนวนมากมาถึงก่อนแล้ว

พวกที่สามารถเข้าโถงจัดเลี้ยงได้คือมารแข็งแกร่งที่สุดบนเรือ

เมื่อเห็นกู่ฉิงซานเดินเข้ามาพร้อมเกราะศึกหมอกดำ พวกมารจำนวนมากต่างทักทายเขา

จ้าวแห่งความเงียบพยักหน้าเล็กน้อยเช่นกัน

พวกมารยังเข้าขากันได้ดี ขอเพียงแค่ลึกๆ ไม่คิดจะกินกันเองก็ไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น

ผ่านไปสักพัก

จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งปรากฏตัวแล้ว

เมื่อเขาปรากฏตัวขึ้น โต๊ะยาวเต็มไปด้วยอาหารที่มีไอกรุ่นทันที

วันนี้จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งไม่เริ่มกิน

“มีใครรู้บ้างว่าพวกเรากำลังจะมุ่งไปที่ใด”

เขาถามมารทุกตน

พวกมารเริ่มกระตือรือร้น

ดูท่าในที่สุดก็ถึงเวลาคลี่คลายความลี้ลับนี้แล้ว

เสมียนพูดขึ้นก่อนว่า

“นายท่าน ด้วยความเร็วปัจจุบัน พวกเราจะถึงเกาะมู่ซวีในอีกสามวัน”

เกาะมู่ซวี

นี่คือระยะทางไกลที่สุดที่เผ่าพันธุ์มารเคยล่องบนทะเลมารโกลาหลนับตั้งแต่บันทึกมาในหน้าประวัติศาสตร์

มีต้นไม้วิเศษยักษ์หยั่งรากลึกลงไปก้นทะเลถึงหนึ่งล้านเมตร มันเติบใหญ่ขึ้นมาจนท้ายที่สุดก่อเกิดเป็นเกาะใบไม้บนผิวทะเล

รากของมันทะลวงหุบเหวทะเลลึกลงไปในระดับน้ำทะเลอันไกลลิบ แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะไปถึงก้นของมันได้

ไม่มีมารตนไหนสามารถข้ามสถานที่นี้เพื่อทำการสำรวจต่อได้

น้ำทะเลลึกเช่นนี้เป็นพื้นที่อันตรายสำหรับพวกมาร

เพราะสัตว์ประหลาดทะเลมักชอบกินมารเสมอ พื้นที่ทะเลเหล่านั้นที่ไม่สามารถสำรวจได้จึงถูกเรียกว่าหุบเหวทะเลที่มีเพียงสัตว์ประหลาดทะเลโบราณระดับพันล้านปีเท่านั้นอาศัยอยู่ อีกทั้งยังเป็นสรวงสวรรค์ของพวกมัน

สำหรับสัตว์ประหลาดทะเลอายุหลายร้อยล้านปี พวกมันมีพละกำลังยิ่งใหญ่ รู้ความลับมากมาย มีปัญญาระดับสูงและรู้วิธีหลีกเลี่ยงการกัดกร่อนของเลือดมังกร

ในหุบเหวทะเลมารโกลาหลไร้พรมแดน ต่อให้เรือเต็มไปด้วยเล็บมังกรมารก็ใช้ไม่ได้ผล

เมื่อเผชิญหน้ากับตัวตนโบราณเช่นนี้ สิ่งเดียวที่พวกมารสามารถทำได้คือหลีกหนี

“ใช่แล้ว พวกเราจะถึงเกาะมู่ซวีในอีกสามวัน พวกเราจะพักที่นั่น”

“ดังนั้นนับจากวันนี้ไป พวกเราต้องค่อยๆ เข้าใกล้ทะเลที่แสนอันตราย”

“พวกเจ้าคือมารที่แข็งแกร่งที่สุดบนเรือลำนี้ ข้าขอสั่งให้พวกเจ้าทั้งหมดต้องตื่นตัวเข้าไว้ สร้างทีมตามรายชื่อที่กำหนด ออกเรือตรวจตราภายในรัศมีสามร้อยไมล์”

“ทันทีที่เผชิญกับสถานการณ์ใดๆ สิ่งแรกที่ต้องทำคือฆ่า!”

จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งกล่าว

พวกมารรู้สึกท้อใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนี้

พวกมารยังไม่รู้ว่าเขาจะให้ทำอะไร

เขาพูดเพียงแค่ว่าฆ่า

แต่ฆ่าอะไรล่ะ

สัตว์ประหลาดทะเลหรือ

ดูท่าเขาจะไม่ยอมบอกความจริงให้ทราบจนกระทั่งวินาทีสุดท้าย

รายชื่อถูกประกาศในไม่ช้า

จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งแบ่งพวกมารทรงพลังออกเป็นสิบกลุ่ม

มารทุกตนเคลื่อนไหว

กลุ่มแรกเริ่มตรวจตราทันที

กลุ่มอื่นกลับห้องรับรองของตัวเองเพื่อพักฟื้นและรอให้ถึงเวลาของตัวเอง

กู่ฉิงซานถูกจัดให้อยู่กลุ่มสุดท้าย

พรุ่งนี้เช้า กลุ่มสุดท้ายจะต้องตรวจตรา

เขากลับห้องและรออยู่เงียบๆ

เวลาผ่านไปอย่างสงบ

กู่ฉิงซานวางแผ่นหยกวิชาดาบในมือลงก่อนถอนหายใจ

ตอนนี้เขาสามารถควบคุมดาบบินเจ็ดร้อยเล่มได้ ในเวลาเดียวกันก็สามารถสร้างการโจมตีด้วยดาบลับได้

แต่เป็นเรื่องยากนักที่จะรวบรวมพลังทั้งหมดไว้ที่ดาบเดียว

ส่วนรากฐานการฝึกฝน

ดวงตาของเขาจับจ้องหน้าต่างต้นเพลิง

ช่องพลังวิญญาณมีพลังวิญญาณเพียงสองแสนแต้ม แต่มันกำลังเอ่อล้นขึ้นมาจนกระทั่งไปถึงห้าสิบล้านแต้ม

น่าเสียดายที่หากไม่ทำภารกิจพัฒนารากฐานการฝึกฝนตอนนี้ให้เสร็จ เขาก็จะไม่สามารถอัปเกรดบัญญัติราชามารโดยไม่ใช้พลังวิญญาณได้

ภัยพิบัติจากลมและไฟ

นี่คือครั้งแรกที่กู่ฉิงซานต้องเผชิญกับภัยพิบัติไฟในช่วงชีวิตอดีตและและปัจจุบัน

เขาระแวดระวังยิ่ง เตรียมการต่างๆ มากมายเพื่อเพิ่มสถานะตัวเองจนถึงจุดสูงสุด

แต่ตอนนี้มีบางสิ่งที่น่าละอายยิ่งกว่าอยู่

เขาไม่สามารถเริ่มการพัฒนาได้

เพราะนี่คือทะเลมารโกลาหล

ทันทีที่มีสายลมพัดโดนยอดหญ้า ย่อมต้องถูกพวกมารค้นพบในทันทีแน่นอน

นี่คือการพัฒนาของนักพรตมนุษย์เชียวนะ!

นักพรตมนุษย์กล้ามาโลกมารดึกดำบรรพ์เพื่อก้าวข้ามภัยพิบัติต่อหน้าราชามารทั้งที่อยู่ในพื้นที่ของราชามารตนนั้น ต้องเป็นวิญญาณแบบไหนกันถึงกล้าทำแบบนี้

นี่เท่ากับรนหาที่ตายชัดๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ 823 กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

Now you are reading Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ Chapter 823 กลืนไม่เข้าคายไม่ออก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่ง

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสามราชามารที่ทรงพลังที่สุด เขาใช้เวลาอยู่ในทะเลมารโกลาหลมานับไม่ถ้วน

การค้นคว้าท้องทะเลกว้างใหญ่แห่งนี้ของเขานับว่ากว้างขวางกว่ามารทุกตน

ด้วยคำสั่งของเขา เล็บมังกรถูกแขวนสูงบนใบเรือ

ถึงแม้เล็บนี้จะเพียงมาจากมังกรมารวัยทารกเท่านั้น แต่มันก็มีพลังยับยั้งที่ทรงพลังเช่นกัน

ในทะเลมารโกลาหล สัตว์ประหลาดทะเลจะไม่เป็นฝ่ายยั่วยุสายเลือดมังกรก่อน

เพราะสัตว์ประหลาดทุกตัวที่มีสายเลือดมังกรมารจะต้องมีความสามารถทรงพลังสุดจินตนาการ

และยังมีเหตุผลสำคัญอีกข้อ

สัตว์ประหลาดทุกตัวกลัวว่าพวกมันจะถูกโจมตีโดยเลือดมังกรจนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนกับมังกร

ใช่แล้ว เลือดมังกรทั้งแปรปรวนและก้าวร้าว

ทันทีที่เลือดมังกรรุกล้ำเข้าสู่ร่างกาย ชีวิตจะเกิดการเปลี่ยนแปลงจนไปถึงแก่น

กลายเป็นมังกรมารวัยทารก ได้รับพลังลี้ลับทรงพลัง จากนั้นก็กลายเป็นจ้าวแห่งท้องทะเล

แต่นี่ไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเลย

มังกรจะตื่นขึ้นทุกๆ หลายแสนปีเท่านั้น

เมื่อใดก็ตามที่มันตื่น ชีวิตที่ถูกกัดกร่อนด้วยเลือดมังกรจะถูกดึงโดยพลังลี้ลับก่อนรวมตัวเข้าด้วยกัน

จากนั้นมังกรจะกินตัวอ่อนทั้งหมดเพื่อดึงแก่นของพลังโตเต็มวัยออกมา

ถ้ามันกินมากพอแล้วก็จะทำการหลับใหลต่อ

แต่ถ้าไม่มากพอล่ะก็…

พวกมารจะพากันมาล่า

สำหรับสัตว์ประหลาดทะเล การกลายเป็นสายเลือดมังกรมารเท่ากับเป็นการยอมรับความตายของตัวเอง

เว้นแต่ว่ามันจะสามารถวิวัฒนาการด้วยเลือดมังกรได้อย่างรวดเร็วในช่วงเวลาจำกัดหลายแสนปีจนกลายเป็นตัวตนทรงพลังที่อยู่เหนือมังกรในบัดดลได้เท่านั้น

ถ้าเช่นนั้น ก็เป็นไปได้ที่มันจะจัดการมังกรที่ตื่นขึ้นก่อนดึงพลังของมังกรทั้งหมดออกมา

ผู้ชนะจะกลายเป็นมังกรตัวใหม่!

แต่เรื่องแบบนั้นแทบจะไม่เคยเกิดขึ้น

ดังนั้น สัตว์ประหลาดทะเลโบราณในทะเลมารโกลาหลจึงไม่เต็มใจที่จะสู้กับมังกรมารจนตัวตายเพื่อแลกกับพลังอันน้อยนิดเข้าไปใหญ่

พวกมันมีอายุขัยหลายสิบล้านปี

ตอนนี้ เมื่อเรือใบยักษ์ออกตัวอีกครั้ง ลมหายใจของมังกรมารปกคลุมทั่วทั้งใบเรือ

ในทะเลลึก สัตว์ประหลาดทะเลทรงพลังจำนวนมากถอยห่างจากเรือ

จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งส่งลูกน้องไปตายบางส่วนในตอนแรก แต่ก็เก็บเกี่ยวเล็บของมังกรมารมาได้ ทำให้การเดินทางราบรื่นจนผิดคาด

เขาพึงพอใจกับเรื่องนี้

สำหรับกู่ฉิงซาน นี่นับเป็นข่าวดีเช่นกัน

เมื่อไม่จำเป็นต้องทำสงคราม การเดินทางจึงยาวนานและราบรื่น ส่งผลต่อความสะดวกสบายกับเขาในหลายๆ ด้าน

ยกตัวอย่างเช่น การเข้าครัวที่เป็นทะเลสาบเพื่อฟันอาหารทะเล

ก่อนเขาจะรู้ตัว พลังวิญญาณสามหมื่นแต้มก็มาอยู่ในมือแล้ว

พลังวิญญาณสองแสนแต้มรวมเข้าด้วยกัน

ถ้าอย่างนั้น…

สองแสนหนึ่งหมื่น

สองแสนแปดหมื่น

สามแสนเจ็ดหมื่น…

สี่แสน!

ถึงแม้จี้น้ำเต้าหยกจะปรากฏขึ้นเพื่อขอพลังวิญญาณเป็นครั้งคราว แต่พลังวิญญาณที่กู่ฉิงซานได้รับการยังเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง

หกวันต่อมา

เรือยักษ์ยังล่องอยู่ในทะเลมารโกลาหล

นับจากนี้ไป ความเกียจคร้านที่กระจายไปทั่วเรือนั้นหายไปสิ้น

ขณะสวมเกราะศึก จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งปรากฏตัวขึ้นและเริ่มถ่ายทอดคำสั่งครั้งแล้วครั้งเล่า

ขณะเรือยักษ์แล่นต่อไป สีหน้าของเขายิ่งมายิ่งจริงจัง

พวกมารบางตนที่ปรับสภาพไม่ได้ชั่วคราวจะถูกส่งไปยังผนังโบสถ์

แม้กระทั่งมารยิ่งใหญ่ระดับลอร์ดก็ถูกสังหารต่อหน้าทุกตน

การแสดงออกของเขาจับใจมารทุกตน

ไม่มีใครรู้ว่าในใจของเขานั้นมีอะไรกังวลอยู่

แต่ในใจของพวกมันรู้แน่ๆ อย่างหนึ่ง

พายุที่แท้จริงกำลังจะมา

หลังจากกู่ฉิงซานผ่าสัตว์ประหลาดทะเลตัวสุดท้ายแล้ว เขาจึงยืนขึ้น

“ขอบคุณสำหรับความเหนื่อยยาก ราชาวิญญาณมาร” เชฟมารกล่าว

“อา ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย ข้าต้องทำแบบนี้เพื่อใช้ความสามารถ เจ้าไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก” กู่ฉิงซานยิ้ม

มารอีกตนเตือนด้วยความหวังดีว่า “หลังจากท่านออกจากที่นี่แล้ว จำไว้ว่าต้องสวมเกราะให้ดี ไม่อย่างนั้นคงไม่ดีนักถ้าท่านถูกพบตัวเข้า”

“อย่างนี้นี่เอง”

มีหัวข้อมากมายที่ได้คุยระหว่างทำอาหารและทำครัว หลายวันมานี้ทุกตนเข้าขากันได้ดี ความประทับใจของกู่ฉิงซานที่เป็นท่านลอร์ดทรงพลังผู้สามารถสังหารตัวอ่อนมังกรมารก็ดีขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องคุยเรื่องกังวลแบบนี้บ้าง

กู่ฉิงซานกล่าวลากับสหายที่รักการทำอาหารเช่นนี้ก่อนออกจากครัวไป

เขาพลิกการ์ดมรกตของ “เกราะศึกหมอกดำ” จนมันสั่นไหวเล็กน้อย

เกราะศึกครบชุดที่มีหมอกสีดำเลือนรางปกคลุมตัวเขาขณะสวมตั้งแต่หัวจรดเท้า

เขาไม่รู้จริงๆ ว่าจ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งกังวลอะไรอยู่ พูดง่ายๆ คือระวังไว้จะดีกว่า

กู่ฉิงซานครุ่นคิดขณะเดินไปยังโถงจัดเลี้ยง

ใกล้ถึงเวลาสำหรับมื้อเย็นของพวกมารแล้ว

ทีมเชฟหลายสิบตนเสิร์ฟอาหารอย่างรวดเร็ว เขาเข้าไปที่นั่นขณะรอการมาถึงของจ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่ง

ผ่านไปสักพัก

ห้องจัดเลี้ยง

พวกมารจำนวนมากมาถึงก่อนแล้ว

พวกที่สามารถเข้าโถงจัดเลี้ยงได้คือมารแข็งแกร่งที่สุดบนเรือ

เมื่อเห็นกู่ฉิงซานเดินเข้ามาพร้อมเกราะศึกหมอกดำ พวกมารจำนวนมากต่างทักทายเขา

จ้าวแห่งความเงียบพยักหน้าเล็กน้อยเช่นกัน

พวกมารยังเข้าขากันได้ดี ขอเพียงแค่ลึกๆ ไม่คิดจะกินกันเองก็ไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น

ผ่านไปสักพัก

จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งปรากฏตัวแล้ว

เมื่อเขาปรากฏตัวขึ้น โต๊ะยาวเต็มไปด้วยอาหารที่มีไอกรุ่นทันที

วันนี้จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งไม่เริ่มกิน

“มีใครรู้บ้างว่าพวกเรากำลังจะมุ่งไปที่ใด”

เขาถามมารทุกตน

พวกมารเริ่มกระตือรือร้น

ดูท่าในที่สุดก็ถึงเวลาคลี่คลายความลี้ลับนี้แล้ว

เสมียนพูดขึ้นก่อนว่า

“นายท่าน ด้วยความเร็วปัจจุบัน พวกเราจะถึงเกาะมู่ซวีในอีกสามวัน”

เกาะมู่ซวี

นี่คือระยะทางไกลที่สุดที่เผ่าพันธุ์มารเคยล่องบนทะเลมารโกลาหลนับตั้งแต่บันทึกมาในหน้าประวัติศาสตร์

มีต้นไม้วิเศษยักษ์หยั่งรากลึกลงไปก้นทะเลถึงหนึ่งล้านเมตร มันเติบใหญ่ขึ้นมาจนท้ายที่สุดก่อเกิดเป็นเกาะใบไม้บนผิวทะเล

รากของมันทะลวงหุบเหวทะเลลึกลงไปในระดับน้ำทะเลอันไกลลิบ แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะไปถึงก้นของมันได้

ไม่มีมารตนไหนสามารถข้ามสถานที่นี้เพื่อทำการสำรวจต่อได้

น้ำทะเลลึกเช่นนี้เป็นพื้นที่อันตรายสำหรับพวกมาร

เพราะสัตว์ประหลาดทะเลมักชอบกินมารเสมอ พื้นที่ทะเลเหล่านั้นที่ไม่สามารถสำรวจได้จึงถูกเรียกว่าหุบเหวทะเลที่มีเพียงสัตว์ประหลาดทะเลโบราณระดับพันล้านปีเท่านั้นอาศัยอยู่ อีกทั้งยังเป็นสรวงสวรรค์ของพวกมัน

สำหรับสัตว์ประหลาดทะเลอายุหลายร้อยล้านปี พวกมันมีพละกำลังยิ่งใหญ่ รู้ความลับมากมาย มีปัญญาระดับสูงและรู้วิธีหลีกเลี่ยงการกัดกร่อนของเลือดมังกร

ในหุบเหวทะเลมารโกลาหลไร้พรมแดน ต่อให้เรือเต็มไปด้วยเล็บมังกรมารก็ใช้ไม่ได้ผล

เมื่อเผชิญหน้ากับตัวตนโบราณเช่นนี้ สิ่งเดียวที่พวกมารสามารถทำได้คือหลีกหนี

“ใช่แล้ว พวกเราจะถึงเกาะมู่ซวีในอีกสามวัน พวกเราจะพักที่นั่น”

“ดังนั้นนับจากวันนี้ไป พวกเราต้องค่อยๆ เข้าใกล้ทะเลที่แสนอันตราย”

“พวกเจ้าคือมารที่แข็งแกร่งที่สุดบนเรือลำนี้ ข้าขอสั่งให้พวกเจ้าทั้งหมดต้องตื่นตัวเข้าไว้ สร้างทีมตามรายชื่อที่กำหนด ออกเรือตรวจตราภายในรัศมีสามร้อยไมล์”

“ทันทีที่เผชิญกับสถานการณ์ใดๆ สิ่งแรกที่ต้องทำคือฆ่า!”

จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งกล่าว

พวกมารรู้สึกท้อใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนี้

พวกมารยังไม่รู้ว่าเขาจะให้ทำอะไร

เขาพูดเพียงแค่ว่าฆ่า

แต่ฆ่าอะไรล่ะ

สัตว์ประหลาดทะเลหรือ

ดูท่าเขาจะไม่ยอมบอกความจริงให้ทราบจนกระทั่งวินาทีสุดท้าย

รายชื่อถูกประกาศในไม่ช้า

จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งแบ่งพวกมารทรงพลังออกเป็นสิบกลุ่ม

มารทุกตนเคลื่อนไหว

กลุ่มแรกเริ่มตรวจตราทันที

กลุ่มอื่นกลับห้องรับรองของตัวเองเพื่อพักฟื้นและรอให้ถึงเวลาของตัวเอง

กู่ฉิงซานถูกจัดให้อยู่กลุ่มสุดท้าย

พรุ่งนี้เช้า กลุ่มสุดท้ายจะต้องตรวจตรา

เขากลับห้องและรออยู่เงียบๆ

เวลาผ่านไปอย่างสงบ

กู่ฉิงซานวางแผ่นหยกวิชาดาบในมือลงก่อนถอนหายใจ

ตอนนี้เขาสามารถควบคุมดาบบินเจ็ดร้อยเล่มได้ ในเวลาเดียวกันก็สามารถสร้างการโจมตีด้วยดาบลับได้

แต่เป็นเรื่องยากนักที่จะรวบรวมพลังทั้งหมดไว้ที่ดาบเดียว

ส่วนรากฐานการฝึกฝน

ดวงตาของเขาจับจ้องหน้าต่างต้นเพลิง

ช่องพลังวิญญาณมีพลังวิญญาณเพียงสองแสนแต้ม แต่มันกำลังเอ่อล้นขึ้นมาจนกระทั่งไปถึงห้าสิบล้านแต้ม

น่าเสียดายที่หากไม่ทำภารกิจพัฒนารากฐานการฝึกฝนตอนนี้ให้เสร็จ เขาก็จะไม่สามารถอัปเกรดบัญญัติราชามารโดยไม่ใช้พลังวิญญาณได้

ภัยพิบัติจากลมและไฟ

นี่คือครั้งแรกที่กู่ฉิงซานต้องเผชิญกับภัยพิบัติไฟในช่วงชีวิตอดีตและและปัจจุบัน

เขาระแวดระวังยิ่ง เตรียมการต่างๆ มากมายเพื่อเพิ่มสถานะตัวเองจนถึงจุดสูงสุด

แต่ตอนนี้มีบางสิ่งที่น่าละอายยิ่งกว่าอยู่

เขาไม่สามารถเริ่มการพัฒนาได้

เพราะนี่คือทะเลมารโกลาหล

ทันทีที่มีสายลมพัดโดนยอดหญ้า ย่อมต้องถูกพวกมารค้นพบในทันทีแน่นอน

นี่คือการพัฒนาของนักพรตมนุษย์เชียวนะ!

นักพรตมนุษย์กล้ามาโลกมารดึกดำบรรพ์เพื่อก้าวข้ามภัยพิบัติต่อหน้าราชามารทั้งที่อยู่ในพื้นที่ของราชามารตนนั้น ต้องเป็นวิญญาณแบบไหนกันถึงกล้าทำแบบนี้

นี่เท่ากับรนหาที่ตายชัดๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+