Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ 574

Now you are reading Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ Chapter 574 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Ep.574 – เทคนิคของเทพสงคราม

 

“กู่ฉิงซาน!”

 

“กู่ฉิงซาน!!”

 

“กู่ฉิงซาน!!!”

 

ลอร่าตะโกนด้วยความตื่นเต้น

 

“มีอะไร?” กู่ฉิงซานตอบเธอในที่สุด

 

“แล้วจะให้พวกเราคนอื่นๆรับมือกับสงครามในครั้งนี้กันอย่างไร?”

 

เธอมองไปยังทหารพิทักษ์โดยรอบ และมองไปยังกองทัพภูติที่ตรงเข้ามา

 

“ก็แค่มุ่งไปข้างหน้า แล้วฆ่าพวกมันซะ” กู่ฉิงซานตอบ

 

เขาพลิกฝ่ามือตน หยิบเอาดิสก์ค่ายกลออกมา และทำการจัดวางหลายสิบค่ายกลต่อสู้ขนาดใหญ่ในลมหายใจเดียว

 

จิตวิญญาณชั้นแล้วชั้นเล่าเริ่มก่อตัวจากดิสก์ค่ายกล และครอบคลุมทั้งกลุ่มคนที่กำลังควบม้า

 

“ขอให้ทุกคนใส่ใจกับการป้องกันด้วย” กู่ฉิงซานกล่าว

 

“แล้วในเรื่องการโจมตีล่ะ?” บางคนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม

 

แต่กู่ฉิงซานไม่ตอบ

 

และเมื่อกองทัพภูติเริ่มประชิดเข้ามา-

 

กู่ฉิงซานก็ตะโกนขึ้นในฉับพลัน “จงตื่นขึ้น!”

 

ยามเมื่อเสียงของเขาดังขึ้น

 

จากเบื้องหลังของเหล่าผู้ควบม้า เหนือพื้นที่ราบลุ่มอันกว้างใหญ่ เบื้องบนท้องฟ้าสูง ท่ามกลางหมู่มวลเมฆอันไร้ที่สิ้นสุด เริ่มบังเกิดสายลมพัดหวน

 

ดาบพิภพ

 

ดาบเช่าหยิน

 

และดาบขุนเขาเทวะหกโลกา

 

ไม่มีใครรู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่สามดาบได้ไปปรากฏขึ้นท่ามกลางทะเลเมฆ

 

พวกมันวูบตัดผ่านเมฆหนาทึบอย่างรวดเร็ว ว่องไวเกินกว่าความเร็วทั่วๆไป

 

ขณะที่พวกมันกำลังเคลื่อนไหว ตามเส้นทางที่ตัดผ่าน กลับเหลือทิ้งร่างเงาของดาบแช่ไว้ในอากาศที่บางเบา เริ่มก่อตัวเป็นรูปแบบค่ายกลพิเศษขึ้น

 

หนึ่งดาบ

 

สิบดาบ

 

ร้อยดาบ

 

พันดาบ

 

หนึ่งหมื่นดาบ

 

หนึ่งล้านดาบ!

 

ร่างเงาของดาบกำลังก่อรูปขึ้น!

 

เมื่อมาถึงจุดหนึ่ง ร่างเงาดาบทั้งหมดก็หยุดลงโดยพร้อมเพียง และเริ่มส่งเสียงหึ่งๆออกมา

 

ค่ายกลดาบไท่หยี

 

ถูกจัดวางเสร็จสิ้นแล้ว!

 

ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว-

 

พายุเฮอริเคนพัดเป่ามวลเมฆบนท้องฟ้า ส่งผลให้ชั้นเมฆโดยรอบถูกทำลาย สลายหายไปมิอาจมองเห็นได้อีกเลย

 

ขณะเดียวกัน เจตนาฆ่าจากร่างเงาดาบก็ได้เข้ามาแทนที่มวลเมฆ และกระจายไปทั่วฟ้า

 

พริบตานั้นเอง ร่างเงาดาบก็กระพริบไหวพร้อมกัน

 

แล้วจู่ๆดาบสายลมที่มองไม่เห็นก็ร่วงตกลงมาจากฟากฟ้า และกวาดลงสู่พื้นที่ราบลุ่มเบื้องล่าง

 

สายลมอ่อนๆพัดลงบนผืนดิน และประกบติดกับม้าทมิฬอย่างรวดเร็ว

 

ขณะเดียวกัน กระแสลมดั่งคลื่นใหญ่ ก็ได้พัดผ่านวิหคสิบกว่าคนที่กำลังควบม้าไปอย่างแผ่วเบา และกวาดต่อตรงไปยังกองทัพสัตว์ประหลาดผีที่อยู่ตรงกันข้าม

 

ท่ามกลางความเงียบ สายลมพัดผ่านเข้าไปยังกองทัพผีนับพัน และ

 

ปัง!

 

จู่ๆก็เกิดพายุระเบิดออกมา!!!

 

บนที่ราบลุ่ม กองทัพขนาดใหญ่ของภูติผีหายวับไป ราวกับถูกลบออกไปในอากาศที่บางเบา

 

ทุกสถานที่ เมื่อใดก็ตามที่ดาบสายลมพัดผ่านไป จะไม่ได้ยินเสียงกรีดร้องใดๆเลย นอกจากเห็นแค่เพียงทุกอย่างถูกทำลายลง

 

กองทัพผีขนาดใหญ่ถูกสายลมกวาดออกไปด้วยแรงลม ก่อให้เกิดเส้นทางราวกับทะเลแหวก เปิดทางที่พวกมันขวางกั้นให้แก่กลุ่มของกู่ฉิงซาน

 

กู่ฉิงซานควบม้าไปยังทิศทางใด สายลมก็จะพัดผ่านเขา กวาดตรงไปยังเบื้องหน้าตลอดเส้นทาง

 

ภูติผีบางตนต้องการที่จะก้าวเข้ามาหยุดเขา แต่ก็ถูกเป่าเป็นผง ปลิวหายไปด้วยฝีมือของดาบสายลมโดยตรง

 

“จงหลบเลี่ยง – เปิดทางให้สายลมซะ!”

 

ผู้บัญชาการผียักษ์ สังเกตเห็นถึงสิ่งผิดปกติได้อย่างรวดเร็ว จึงตะโกนออกมา

 

กองทัพผีเร่งกระจายตัวเป็นสองฟากฝั่งทันที

 

ใช่แล้วล่ะ ระยะโจมตีของดาบสายลมนั้นกว้างมากก็จริง

 

แต่ท้ายที่สุดนี้ ทุ่งราบลุ่มน่ะมีขนาดกว้างใหญ่ยิ่งกว่า ตราบใดที่พวกภูติผีกระจายตัวออกไป หลบเลี่ยงพื้นที่พายุสังหาร และเฝ้ารอให้ดาบสายลมหายไป พวกมันก็ยังคงสามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้

 

และเมื่อเวลานั้นมาถึง ก็ยังไม่สายเกินไปที่จะไล่ตามศัตรูแค่ไม่กี่สิบคน

 

ปรากฏถึงฉากอันน่าตื่นตะลึงขึ้น

 

กองทัพภูติผีแตกกระเจิง หลบหนีไปทุกทิศทาง ปล่อยให้ศัตรูไม่ถึงยี่สิบคนควบม้าฝ่ากระแสกองทัพไป

 

ม้าทมิฬวิ่งตรงไปยังเบื้องหน้าตลอดเส้นทาง นำพาอีกสิบหกคนมุ่งสู่เมืองไห่เช่า!

 

กู่ฉิงซานที่นั่งอยู่บนหลังม้า คอยเฝ้ามองแต้มพลังวิญญาณที่เพิ่มพูนขึ้นอย่างใกล้ชิดบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม

 

แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่จู่ๆอัตราการเพิ่มพูนของแต้มพลังวิญญาณค่อยๆชะลอลง

 

กู่ฉิงซานหันมองรอบๆ และพบว่าภูติผีเริ่มแยกย้ายกระจัดกระจายตัวออกไป

 

“ไปเร็ว! พวกเราจะวิ่งฝ่าพวกมัน มุ่งหน้าสู่เมืองไห่เช่า!” ลอร่ากรีดร้องด้วยความตื่นเต้น

 

“พะยะค่ะ องค์หญิง!”

 

ทหารพิทักษ์ตอบรับเสียงดังด้วยความสุข

 

เดิมที พวกตนคิดว่าคงตายในสงครามแน่ๆแล้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าทุกคนจะไม่มีความคิดเช่นนั้นอีกต่อไป

 

สภาวะจิตใจของทุกคนกลับมามั่นคง กำลังใจพุ่งขึ้นสูงถึงขีดสุด

 

ทว่ากลับมีเฉพาะเพียงกู่ฉิงซานเท่านั้นที่ดูจะไม่เต็มใจให้พวกสัตว์ประหลาดผีเปิดทางให้และหนีไป

 

-เพราะพวกมันล้วนแล้วแต่เป็นแต้มพลังวิญญาณ!

 

แต่เดี๋ยวก่อน

 

เดี๋ยวนะ

 

จู่ๆกู่ฉิงซานก็นึกได้ถึงอะไรบางอย่าง

 

‘ฉันพึ่งจะได้รับสมญาใหม่ : ดาราจรัสเทพสงคราม มานี่นา’

 

“เมื่อสวมใส่สมญานี้ จะได้รับสกิลพิเศษ : พิชิต”

 

“พิชิต : เมื่อคุณใช้สกิลนี้กับศัตรูที่เป็นเป้าหมาย พวกมันทั้งหมดจะโจมตีคุณด้วยเหตุผลบางประการ”

 

“คำอธิบาย : สกิลนี้เป็นวิชาลี้ลับ เป็นสกิลกฏแห่งการกระทำ(กรรม) และมันไม่สามารถหลบเลี่ยงได้”

 

“คำอธิบาย : จะพิชิตหรือเป็นฝ่ายถูกพิชิต นั่นแหละปัญหา”

 

หรือว่า … จะลองใช้มันดีไหมนะ?

 

มองไปยังเส้นทางเบื้องหน้าที่ว่างเปล่า กู่ฉิงซานก็เลิกลังเล เปลี่ยนสมญา ‘ผู้บัญชาการรบ’ เป็น ‘ดาราจรัสเทพสงคราม’ ทันที

 

เมื่อทำการเปลี่ยนสมญา เขาก็เริ่มต้นเปิดใช้งานเทคนิค ‘พิชิต’ กับกองทัพภูติผีทั้งหมด

 

ทันใดนั้นเอง สถานการณ์ในสนามรบก็แปรเปลี่ยนไป

 

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่จู่ๆ ผู้บัญชาการรบผีก็ค้นพบถึงตัวตนของกู่ฉิงซาน

 

มันจ้องมองดูกู่ฉิงซาน ก่อนจะแหงนหน้ามองร่างเงาดาบที่กระจายอยู่ทั่วท้องฟ้า

 

ไม่ช้า มันก็จับสังเกตได้ว่ามีเจตดาบแบบเดียวกันบนตัวของกู่ฉิงซาน

 

แล้วมันก็เข้าใจถึงความจริงบางอย่าง!

 

ผู้บัญชาการผีวาดดาบใหญ่ชี้ไปทางกู่ฉิงซานและตะโกนก้อง “สังหารคนผู้นั้นซะ มิฉะนั้นกระแสลมจะไม่มีวันหยุด!”

 

เหล่าภูติผีที่กำลังวิ่งหนี หยุดฝีเท้าลงทันที

 

สหายของพวกมันตกตายลงเป็นจำนวนมากด้วยน้ำมือของกู่ฉิงซาน

 

ขณะที่พวกมันได้แต่วิ่งหนีด้วยความอับอาย

 

ทั้งๆที่ศัตรูมีแค่ไม่กี่สิบคน แต่ฝ่ายตนกลับต้องวิ่งหางจุกตูด!

 

ความโกรธเกรี้ยวนี้ คุกรุ่นอยู่ในจิตใจของเหล่าสัตว์ประหลาดผีมานานแล้ว

 

และตอนนี้ เมื่อพวกมันได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการ ความโกรธในจิตใจก็มิอาจระงับได้อีกต่อไป!

 

ก๊าซซซซ!

 

ภูติผีกรีดร้องคลุ้มคลั่ง ทั้งหมดเริ่มหันกลับมาวิ่งเข้าหากู่ฉิงซาน

 

ต้องฆ่ามัน ต้องฆ่าเจ้ามนุษย์คนนั้นให้จงได้!

 

เพียงเสี้ยววินาทีเดียว กองทัพภูติผีก็เปลี่ยนทิศทาง วิ่งกลับเข้ามาชาร์ตใส่ดาบสายลมอีกครั้ง!

 

แม้ว่าพวกมันจะสูญเสียกำลังพลไปบ้าง แต่อย่างไรก็จักต้องฝ่าอุปสรรคดาบสายลม และเข้าไปฆ่าเจ้ามนุษย์ให้จงได้!

 

อย่างไรก็ตาม

 

ด้วยค่ายกลดาบไท่หยีที่สั่งสมแต้มพลังซ้อนทับกันกว่า 36 เท่า เป็นไปได้จริงๆหรือที่พวกมันจะต่อต้าน?

 

ดาบสายลมบัดนี้ราวกับเครื่องบดเนื้อ ไม่ว่าสายลมจะหวนไปทิศทางใด เบื้องบน : หมู่มวลเมฆก็จะถูกกวาดออกไป ขณะที่เบื้องล่าง : สัตว์ประหลาดผีที่อยู่ในอาณาเขตก็ถูกล้างบางจนสิ้น

 

ลอร่ากับทหารพิทักษ์เฝ้ามองฉากนี้อย่างตกตะลึง

 

“ข้าว่า เจ้าภูติผีพวกนี้มันสมองพิการไปแล้วใช่หรือไม่?” ทหารคนหนึ่งกระซิบ

 

“ไม่น่าจะใช่ ข้าว่าพวกมันหมายจะสังหารเขาซะมากกว่า” ทหารอีกคนกล่าวอย่างไม่มั่นใจ

 

เหล่าทหารพิทักษ์มองมายังกู่ฉิงซาน

 

แต่กลับเห็นแค่เพียงกู่ฉิงซานที่มัวแต่ให้ความสนใจกับแต้มพลังวิญญาณของตัวเอง

 

เฝ้ามองกองทัพผีถูกทำลายโดยค่ายกลดาบครั้งแล้วครั้งเล่า แต้มพลังวิญญาณเริ่มพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ต้องแบบนี้สิ!

 

กู่ฉิงซานยกคิ้วด้วยความสุข

 

แต่แล้วพวกผีก็ได้สติกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว

 

พวกมันหันหลังกลับ และเริ่มวิ่งหนีไปทุกทิศทางอีกครั้ง

 

‘ล้อเล่นรึไง!? ดาบสายลมนี้มันทรงพลังเกินไป ไม่อาจต่อกรได้ ไม่ไหวแล้ว ปล่อยให้ภูติผีตนอื่นๆบุกเข้าไปเองก็แล้วกัน!’

 

ด้วยสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป อัตราการเพิ่มพูนของแต้มพลังวิญญาณจึงค่อยๆเชื่องช้าลง

 

กู่ฉิงซานขมวดคิ้ว

 

–แค่นี้มันยังไม่พอกับความสูญเสียที่ต้องแลกมาด้วยการเปิดใช้งานค่ายกลดาบ เขาใช้ไปตั้ง 100000 แต้มพลังวิญญาณ อย่างน้อยถ้าไม่ได้รับกลับคืนมาเท่าเดิม จะไม่เท่ากับว่าเขาขาดทุนหรอกหรือ?

 

มองไปยังสมญา ‘ดาราจรัสเทพสงคาม’ บนหน้าต่างเทพสงครามอีกครั้ง ตนกัดฟันแน่น และเริ่มใช้ออกด้วยเทคนิค ‘พิชิต’ อีกที

 

ในขณะที่สกิลนี้ถูกเปิดใช้งาน เหล่าสัตว์ประหลาดผีก็ตระหนักถึงมันได้ในฉับพลัน

 

-พวกเราสัมผัสได้ว่าดาบสายลมกำลังจะสลายตัวลงแล้ว

 

ในที่สุดกระบวนท่านี้ก็จะจบลงเสียที!!!

 

พวกภูติผีต่างร่ำไห้ออกมา

 

ต้องถูกขับไล่โดยดาบสายลมที่แสนร้ายกาจ ช้าเพียงหนึ่งก้าวก็จะถูกลบหายออกไป นี่ทำให้พวกมันรู้สึกหวาดกลัวจริงๆ

 

แต่ดี ดีมาก ที่ตอนนี้กระบวนท่าดังกล่าวจะจบลงเสียที

 

มันถึงเวลาที่พวกเราจะเอาคืนแล้ว!

 

กี๊ซซซซซ!

 

สัตว์ประหลาดผีพลิกตัวกลับหลังอย่างแรง และมุ่งเข้าหากลุ่มของกู่ฉิงซานอีกครา

 

ไม่สิ – ต้องบอกว่าทั้งหมดมุ่งเป้ามาที่กู่ฉิงซานคนเดียวเลยต่างหาก!

 

พวกมันสาบานว่าจะฉีกทึ้งมนุษย์ผู้นี้ทั้งเป็น!

 

ทันใดนั้นทหารพิทักษ์ทั้งสิบหกคนก็เริ่มตื่นตัว และเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้

 

เพราะทุกคนเอง ก็สังเกตเห็ตว่าดาบสายลมกำลังจะหยุดลงเช่นกัน

 

จากนี้ไป มีเพียงการต่อสู้ด้วยตนเองเท่านั้นจึงจะสามารถคว้าหนทางเอาชีวิตรอดเอาไว้ได้!

 

“เตรียมพร้อมรับศึก!” ลอร่าตะโกน

 

เธอโน้มศีรษะลง และถามกู่ฉิงซานอย่างร้อนรน “กู่ฉิงซานกระบวนท่าดาบของเจ้าจะหมดลงแล้วใช่หรือไม่?”

 

กู่ฉิงซานมองไปยังกองทัพภูติผีที่ตรงเข้ามา ไม่เอ่ยคำใดไปชั่วขณะ

 

ได้ยินเพียงเสียงของเขาที่เอ่ยพึมพำ “อา มันกำลังจะเริ่มขึ้นต่างหาก ดูเหมือนว่าค่ายกลดาบจะทำการปิดล้อมโดยสมบูรณ์แล้ว ..”

 

ตอนนี้ .. เดี๋ยวก่อนนะ มันกำลังจะเริ่มขึ้นงั้นหรอ?

 

ลอร่าชะงักไป

 

เธออดไม่ได้ที่จะแหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า

 

เห็นแค่เพียงเบื้องบน ไร้ซึ่งหมู่มวลเมฆใดๆ

 

ทว่ากลับปรากฏถึงเสียงหอนที่บาดลึกอยู่บนฟากฟ้า

 

และจากนั้น

 

ปังงงงงงง—–

 

กระแสลมราวกับธารน้ำตก ที่ร่วงหล่นลงมาจากสรวงสวรรค์

 

ดาบสายลมปะทะเข้ากับกองทัพผีอันยิ่งใหญ่อย่างแรง!

 

แล้วดาบสายลมจึงค่อยหายไป

 

ท่ามกลางสนามรบ พื้นที่จตุรัสส่วนหนึ่งได้ปรากฏขึ้น

 

ซึ่งสำหรับกองทัพผีแล้ว นับจากนี้ไป นับว่าเป็นโศกนาถกรรมอย่างสิ้นเชิง

 

เสียงกรีดร้องโวยวายเริ่มดังขึ้น เหล่าภูติผีในพื้นที่จตุรัสเริ่มแตกตื่น วิ่งหนีออกไปด้วยกำลังทั้งหมดที่มี

 

อย่างไรก็ตาม ดาบสายลมได้ปิดล้อมเอาไว้แล้ว และพวกมันจะหลบหนีไปได้อย่างไร?

 

ดาบสายลมกวาด แล้วสังหาร!

 

ดาบสายลมกวาด แล้วสังหาร!!

 

ดาบสายลมกวาด แล้วสังหาร!!!

 

แต้มพลังวิญญาณบนหน้าต่างเทพสงครามพุ่งพรวดๆอย่างก้าวกระโดด

 

กู่ฉิงซานเฝ้ามองมันอย่างใจเย็น

 

“ไม่นะ กู่ฉิงซาน ดูนั่นสิ!”

 

ลอร่าตบเรียกสติกู่ฉิงซานด้วยความกระวนกระวาย

 

กู่ฉิงซานเงยหน้าขึ้น

 

เบื้องหน้าเขา ในที่สุด ตนก็มาถึงสุดปลายของพื้นที่ราบลุ่มแล้ว

 

โดยไม่รู้ตัว กลุ่มของเขาก็สามารถควบม้าฝ่าดงกองทัพภูติผี แล้วมาถึงเมืองไห่เช่าได้ในที่สุด

 

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในเมืองไห่เช่ากลับย่ำแย่กว่าที่คิด

 

เมื่อต้องเผชิญกับการต่อสู้อย่างยาวนาน กำแพงเมืองก็ไม่อาจทานรับไหว มันพังทลายลงมาในที่สุด

 

ทันใดนั้นกองทัพภูติผีก็คำรามอึกทึก

 

พวกมันเร่งวิ่งเข้าไปในเมืองไห่เช่าทันที!

 

ลอร่ากรีดร้องด้วยความตื่นตระหนก “กู่ฉิงซาน! อีเลียได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ เธอคงไม่สามารถต่อต้านพวกมันได้”

 

“เข้าใจแล้ว กระหม่อมจะเร่งให้เร็วขึ้น”

 

กู่ฉิงซานสะบัดบังเหียนกระตุ้นม้า

 

ใช่แล้วล่ะ หากไม่มีกำแพงเมือง กองทัพภูติก็จะสามารถกดดัน บุกเข้าไปได้โดยตรง และอีเลียคงไม่สามารถต้านทานมันได้

 

สถานการณ์เริ่มแย่ลง

 

งั้นวิธีที่พอจะสามารถช่วยเหลืออีเลียได้อย่างรวดเร็วก็คือ …

 

กู่ฉิงซานหันไปมองรอบๆเมืองอย่างเงียบๆ ความคิดในหัวใจของเขาเริ่มกระจ่างชัด

 

ช่วงวินาทีต่อมา เขาก็ได้เปิดใช้งานเทคนิคสมญา ‘พิชิต’ กับภูติผีทั้งหมดที่กำลังโจมตีเมืองโดยตรง

 

ขณะเดียวกัน บนยอดสุดของกำแพงผียักษ์ตนหนึ่งได้ปรากฏตัวขึ้น

 

มันเปล่งเสียงสะท้านสะเทือนสวรรค์ “มีเจ้าตัวยุ่งยากอยู่บนพื้นราบ! เขาคือกุญแจสำคัญของสงครามในครั้งนี้ จงไปดับลมหายใจเขาซะ!”

 

ภูติทั้งหมดคำรามพร้อมกัน

 

โฮกกกกกก!

 

กองทัพสัตว์ประหลาดผีล้มเลิกที่จะบุกเมือง รวมตัวกันจัดตั้งขบวนทัพหนาแน่น ทยอยกันลงจากภูเขา

 

พวกมันวิ่งตรงมายังทิศทางของกู่ฉิงซาน

 

ภายในเมือง สายพันธุ์โบราณมากมาย ที่ทั้งเนื้อทั้งตัวถูกปกคลุมไปด้วยเลือด และกำลังเตรียมสู้ตายแลกชีวิตกับศัตรู

 

แต่ในวินาทีสุดท้าย ศัตรูทั้งหมดกลับหันหลัง และจากไป

 

นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?

 

เหล่าสายพันธุ์โบราณตะลึงงันอยู่ในสถานที่เดียวกัน พวกเขาไม่อาจทำความเข้าใจได้โดยสมบูรณ์

 

ขณะที่สิบหกทหารพิทักษ์บนพื้นราบกลับกลายเป็นหวาดกลัว

 

“นั่นพวกมันละทิ้งเมือง แล้วหันมาฆ่าพวกเราแทนงั้นหรอ?” ทหารคนหนึ่งกล่าว

 

“มันอาจเป็นกลยุทธ์ก็ได้ แบ่งกำลังกระจายกันโจมตีอะไรแบบนี้” ทหารอีกคนกล่าว

 

“ไม่ พวกเจ้าทั้งหมดผิดแล้ว เกรงว่าพวกภูติผีมันอาจจะต้องการเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งจริงๆต่างหาก” ทหารพิทักษ์กล่าวด้วยน้ำเสียงเคารพลึก

 

กู่ฉิงซานจ้องไปยังกระแสศัตรู เงียบงันไปครู่หนึ่ง

 

ตัวเขาเอง ก็ไม่เคยคาดคิดเหมือนกัน ว่าตนจะใช้เทคนิคพิชิตของดาราจรัสเทพสงครามในสถานการณ์แบบนี้

 

เพียงแค่ใช้มัน ก็สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของสงครามทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย

 

“ระบบ ฉันว่าสมญา ดาราจรัสเทพสงครามนี่มันชักจะเกินกว่าความรู้ความเข้าใจของฉันไปหน่อยนะ” เขาเอ่ยอย่างเงียบๆ

 

ติ๊ง!

 

ระบบเทพสงครามตอบกลับ

 

“โปรดใส่ใจเป็นพิเศษด้วย ว่านี่คือสมญาเฉพาะของเทพสงคราม ดังนั้นมันจึงมีความพิเศษเป็นธรรมดา

 

“นอกจากนี้ ฉันว่าคุณสมควรที่จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่ากฏแห่งการกระทำ(กรรม) ให้มากกว่าที่เป็นอยู่เสียที”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด