Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ 890 การต่อสู้ในวันสิ้นโลกของชายคนหนึ่ง (3)

Now you are reading Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ Chapter 890 การต่อสู้ในวันสิ้นโลกของชายคนหนึ่ง (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ในบรรดาผู้มีอำนาจ คนที่อยู่ในสถานการณ์อับอายที่สุดคือสังฆราชจากวิหารแห่งความตาย

อย่างไรเสีย แอนนาคือลูกน้องของเขา เป็นบุคคลที่มีอำนาจอย่างแท้จริงในวิหารแห่งความตาย

ถ้าแอนนาสร้างปัญหาจริง เช่นนั้นทั้งวิหารแห่งความตายจะต้องเจอการชำระล้างครั้งใหญ่

“เจ้าไม่ต้องมามองข้าเลย” สังฆราชจากวิหารแห่งความตายกล่าว “ข้าคือผู้จงรักภักดีต่อเทพ ไม่มีวันปกป้องคนของตัวเองอย่างแน่นอน”

“จริงหรือ ทำไมพวกเราไม่เรียกเจตจำนงของเทพออกมาตอนนี้เลยล่ะ คิดว่าไง”

สังฆราชจากวิหารแห่งความลับมองเขาพร้อมกับยิ้มให้

สังฆราชต้องทนทุกข์กับวิหารแห่งความตายเมื่อไม่สามารถก้าวขึ้นสู่สถานะสูงส่งได้ ดังนั้นทันทีที่ได้อำนาจมา เขาจะข้องเกี่ยวกับทุกสิ่งที่เป็นของวิหารแห่งความตาย

สังฆราชจากวิหารแห่งความตายไร้สีหน้าขณะกล่าวอย่างเฉยชาว่า “จะอย่างไรก็ช่าง ข้าไม่สนเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว แต่โปรดจำเอาไว้อย่างหนึ่ง… ถ้าแอนนาเป็นคนดีขึ้นมา เช่นนั้นการลงโทษฐานรบกวนเทพโดยไม่ได้รับอนุญาตจะตกที่เจ้าเพียงคนเดียว”

รอยยิ้มบนใบหน้าของสังฆราชจากวิหารแห่งความลับแข็งทื่อ

ผู้ที่เคยวางแผนเห็นด้วยกับเขาต่างปิดปาก

ในหลายปีที่ผ่านมา ร่างวิญญาณของเทพจะไม่ปรากฏโดยง่าย แต่ทุกครั้งที่ปรากฏ มันมีจิตสังหารที่โหดเหี้ยมและแรงกล้า

หากเรียกมาแล้วไม่สามารถหาข่าวที่ดีมีค่ามาให้ได้ เช่นนั้นจุดจบก็คงน่าสังเวชนัก

ผู้มีอำนาจในสองวิหารได้รับ “บทลงโทษของเทพ” มาแล้ว หลังจากผ่านการทรมานทั้งหมดมา แม้แต่วิญญาณก็ไม่เหลือ

ดังนั้นทันทีที่สังฆราชจากวิหารแห่งความตายพูดเช่นนี้ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีก

ไม่ว่าสังฆราชจากวิหารแห่งความลับจะเกลียดวิหารแห่งความตายมากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่เต็มใจที่จะเอาชีวิตมาเดิมพัน

สังฆราชจากวิหารแห่งความลับไม่กล้ายอมรับเรื่องนี้ แต่กลับกล่าวหาว่า “เหอะ รากฐานของวิหารแห่งความตายมันเน่าเฟะไปแล้ว ข้าว่าคงมีบางสิ่งผิดปกติกับแอนนาแน่ๆ ไม่อย่างนั้น ทำไมนางถึงโกรธจนต้องลงมือฆ่าเลยล่ะ”

สังฆราชจากวิหารแห่งความตายมองด้วยสายตาเย็นชา “เจ้าต้องรับผิดชอบกับคำพูดด้วย ตอนยังมีชีวิต เจ้าเป็นมนุษย์ เมื่อตายไป ข้าจะดูแลเจ้าเป็นอย่างดีเอง”

“ข้าไม่รู้ว่าใครจะตายก่อนกันน่ะสิ” สังฆราชจากวิหารแห่งความลับปล่อยกลิ่นอายสังหารออกมา

“เอาล่ะ พวกเจ้าสองคนเลิกเถียงกันสักที”

“ทำแบบนี้จะรบกวนเทพได้โดยง่าย พวกเจ้าไม่คิดที่จะมีชีวิตต่อกันแล้วหรือ”

“หุบปาก มาดูความจริงของเรื่องนี้ก่อน”

ผู้มีอำนาจอีกหลายคนพูดขึ้นคนแล้วคนเล่า

สังฆราชจากวิหารแห่งความลับยอมรับทันทีที่เห็นเช่นนั้น ไม่ยืนกรานที่จะเรียกเจตจำนงของเทพออกมาอีก

แต่เขาเตรียมการแล้ว จึงกล่าวขึ้นว่า

“ท่านหญิง ตอนนี้ข้ามีเรื่องอยากจะให้ท่านทำหน่อย”

ทุกคนหันสายตามาทางเขา

พวกเขาเห็นผู้หญิงในชุดคลุมสีเทายืนขึ้นแล้วถอนหายใจออกมา “ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้เลยนี่”

นางคือจ้าววิหารแห่งมิติและเวลา

“มันเป็นงาน ข้าอยากขอให้ท่านตามหาความจริง เกี่ยวกับผู้หญิงที่ทรยศต่อเทพ นี่คือเรื่องใหญ่ จะปล่อยผ่านไม่ได้” สังฆราชจากวิหารแห่งความลับยืนกราน

ทุกคนโน้มน้าวให้หญิงสาวชุดคลุมสีเทาลองทำดูเช่นกัน

ทุกคนให้ความเคารพนาง

ยังไงเสีย ทุกเรื่องที่ข้องเกี่ยวกับมิติและเวลาไม่สามารถแทรกแซงได้ด้วยวิชาและความลับธรรมดา

คนที่สามารถเชี่ยวชาญพลังแห่งมิติและเวลาได้หายากมาก

ความสามารถของจ้าววิหารคนนี้ยอดเยี่ยมมากในบรรดาความสามารถมิติและเวลาทั้งหมด แม้กระทั่งเทพก็ยังคาดหวังในตัวนางไว้สูงและไม่เต็มใจที่จะลงโทษเมื่อนางทำผิดพลาด

นี่คือคนเดียวในบรรดาเจ็ดวิหารที่ต้องอดทนต่อความโปรดปรานจากเทพเป็นเวลานาน

หญิงสาวในชุดคลุมสีเทามองสังฆราชจากวิหารแห่งความตาย

เมื่อสังฆราชจากวิหารแห่งความตายมองท่าทีของคนเหล่านี้ เขาพลันเข้าใจว่าคราวนี้ตัวเองตกเป็นเป้าเข้าแล้ว

สังฆราชจากวิหารแห่งความลับวางแผนไว้นานแล้ว ครั้งนี้ไม่สามารถหยุดยั้งได้

หากคัดค้าน นั่นเท่ากับพิสูจน์ว่าแอนนามีปัญหาจริงไม่ใช่หรือ

ยิ่งกว่านั้น มันจะทำให้ทั้งวิหารแห่งความตายมีปัญหาหรือเปล่า

สังฆราชลังเลสักพัก แต่ก็พยักหน้าอย่างจนใจ

ถ้าแอนนามีปัญหาจริง เขาก็ไม่สามารถปกป้องแอนนาได้

น่าเสียดาย ทั้งที่เป็นอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมแท้ๆ …

สังฆราชรู้สึกเสียใจอยู่ลึกๆ

หญิงสาวชุดคลุมสีเทาไม่ลังเลอีกต่อไป นางเดินตรงไปที่แท่นซ่อมแซมจักรกลขณะมองอย่างละเอียด

แท่นซ่อมแซมจักรกลถูกเผาจนกลายเป็นวัตถุแตกหักที่ปกคลุมด้วยฝุ่นสีดำ อุปกรณ์และชิ้นส่วนจำนวนมากที่เดิมถูกวางไว้ได้รับความเสียหาย พื้นที่พิเศษจำนวนมากใต้โต๊ะไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป

“พวกเจ้าแน่ใจหรือว่าแอนนาใส่บางสิ่งไว้ตรงนี้” หญิงสาวชุดคลุมสีเทาถาม

ผู้ศรัทธาหลายคนมองหน้ากันก่อนพยักหน้า

ผู้นำกลุ่มกล่าวว่า “ข้าเห็นนางนั่งยองๆ เหมือนกับใส่บางสิ่งเข้าไป พอรู้ว่าพวกข้ามา นางก็ยืนขึ้นและรีบปกปิดทันที”

“…ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าก็ต้องใช้พลังเพื่อทำแบบนี้”

หญิงสาวชุดคลุมสีเทาหันไปมองผู้มีอำนาจแล้วกล่าวต่อว่า “วิชามิติและเวลานี้จะกินแรงข้ามาก ข้าจะเข้าสู่วิหารแห่งมิติและเวลาเพื่อหลับใหล ระหว่างนั้น หากมีใครกล้าเคลื่อนไหวในวิหารล่ะก็ ข้าตื่นเมื่อไหร่จะรายงานให้เทพทราบเพื่อขอให้ทำการลงโทษ”

ทุกคนเพียงแสดงความเห็นออกมาคนแล้วคนเล่า เป็นสัญญาณว่าพวกเขาจะไม่ยั่วยุวิหารแห่งมิติและเวลา

…อีกฝ่ายใช้ความพยายามของตัวเองเพื่อทำเรื่องนี้ ไม่มีใครสามารถทำได้

ถ้ามีใครบางคนแอบลอบก่อเรื่องในอนาคต อีกฝ่ายสามารถขอให้เทพทำการลงโทษได้

ไม่มีใครอยากมีเรื่องกับนาง

ไม่มีใครกล้าเผชิญหน้ากับเจตจำนงของเทพตอนนี้

หญิงสาวชุดคลุมสีเทากล่าวอีกครั้งว่า “หลังจากข้าหลับแล้ว คาร์ดินัลซูเสวี่ยเอ้อร์จะรับหน้าที่ดูแลวิหารชั่วคราว”

“ขอรับ” สองผู้ติดตามนางขานรับ

เมื่อเห็นว่าทุกสิ่งเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวชุดคลุมสีเทาหันหน้ามายังแท่นซ่อมแซมจักรกล

นางวางมือบนแท่นซ่อมแซมจักรกลอย่างแผ่วเบา ร่ายวิชาด้วยเสียงชวนให้เคลิบเคลิ้ม

“เวลาคือความยืนยาวของชีวิต มันคือคู่สัญญาของข้า”

“ความลับมากมายที่ซ่อนอยู่ในเวลาจะปรากฏขึ้นอีกครั้งตราบที่เวลาตอบรับการเรียกขานของข้า”

“จงมา ทำให้ทุกสิ่งย้อนกลับไปช่วงที่แอนนาใส่ของเข้าไป!”

เพียงพริบตา แท่นซ่อมแซมจักรกลทั้งหมดกลับมาเหมือนใหม่อย่างสมบูรณ์

…ไม่ มันไม่ได้ดูใหม่ แค่กลับสู่ช่วงที่เคยเป็นในอดีต

ภาพอันน่าอัศจรรย์นี้ทำให้คนที่อยู่ที่นี่ตกตะลึงมาก

“พบอะไรหรือเปล่า”

สังฆราชจากวิหารแห่งความตายถามอย่างสงบ

“ใช่แล้ว ที่จุดเวลานั้น แอนนาใส่บางสิ่งไว้ที่นี่” หญิงสาวชุดคลุมสีเทาคร่ำครวญ ในที่สุดก็กล่าวออกมาอย่างมั่นใจ

หัวใจของสังฆราชพลันดิ่งวูบ

นี่คือประโยคสุดท้าย เกรงว่าหลังจากวันนี้ไป ทั่ววิหารแห่งความตายจะถูกชำระล้าง ผู้ศรัทธานับไม่ถ้วนจะตาย

แม้กระทั่งพวกกึ่งเทพเหล่านั้นที่เป็นมิตรกับแอนนาก็คงจบไม่สวยเช่นกัน

หญิงสาวในชุดคลุมสีเทายกมือขึ้นเล็กน้อยในความว่างเปล่า

ชิ้นส่วนทั้งหมดของแท่นซ่อมแซมจักรกลกระเด็นออกมา

“อา ข้าเห็นแล้ว น่าจะเป็นสิ่งนี้แหละ”

ด้วยการเคลื่อนไหวของหญิงสาวชุดคลุมสีเทา สิ่งหนึ่งตกมาอยู่ในมือของนางอย่างมั่นคง

สังฆราชจากวิหารแห่งความลับยืนขึ้นอย่างเดือดดาล หัวเราะด้วยท่วงท่าชั่วร้ายแล้วตะโกนว่า “ฮ่าๆ ข้านึกแล้ว! นี่คือหลักฐานชั้นดีที่พิสูจน์ว่าวิหารแห่งความตายก่อการกบฏ ตอนนี้พวกเราควรเรียกเทพมาได้แล้ว!”

ผู้มีอำนาจคนอื่นพยักหน้าคนแล้วคนเล่าเช่นกันขณะสนทนา

สังฆราชจากวิหารแห่งความตายนั่งอยู่กับที่ไม่พูดไม่จา ใบหน้าเดือดดาลเล็กน้อย

ทว่า ไม่มีใครสังเกตว่าสีหน้าของหญิงสาวชุดคลุมสีเทาแปลกประหลาดเล็กน้อย

“หุบปาก! ข้ามีบางอย่างอยากจะถามเสียหน่อย” นางกล่าว

ทุกคนมองนาง

หญิงสาวชุดคลุมสีเทามองสิ่งนั้นอย่างละเอียด จากนั้นมองผู้ติดตามที่ไปหาตัวแอนนาแล้วถามว่า “ตอนนั้น เจ้าเห็นแอนนานั่งยองๆ อยู่หลังแท่นซ่อมแซม นางยืนขึ้นแล้วรีบปกปิดจนกระทั่งถูกพวกเจ้าพบใช่หรือไม่”

“ใช่แล้ว ท่านผู้สูงศักดิ์!” ผู้ศรัทธาหลายคนตอบอย่างตื่นเต้น

หลักฐานหนักแน่นดั่งขุนเขา ครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ อนาคตย่อมสดใส พวกเขาจะไม่ยินดีได้อย่างไร

สีหน้าของหญิงสาวในชุดคลุมสีเทาบอบบางไม่ยิ่งขึ้น

นางเปิดกล่องใส่ของ อ่านคำแนะนำอีกครั้ง จากนั้นมองของอย่างละเอียด

สังฆราชจากวิหารแห่งความลับหักห้ามใจไม่ได้อีกต่อไปก่อนตะโกนอีกครั้งว่า “ข้าอยากเรียกเทพให้มาดูกับตาตัวเอง!”

เขามองไปที่สังฆราชจากวิหารแห่งความตายอย่างมีชัยก่อนเริ่มร่ายคาถา

หญิงสาวชุดคลุมสีเทาชำเลืองมองเขาแล้วกล่าวช้าๆ ว่า “ถ้าเจ้าอยากตายด้วยมือของเทพละก็ข้าจะไม่ห้าม”

สังฆราชจากวิหารแห่งความลับหยุดเรียกทันที

เขาสามารถมาอยู่ตำแหน่งอย่างวันนี้ได้ไม่ใช่เพราะโชคช่วย แน่นอนว่าเขาได้ยินความนัยที่ต่างออกไปจากคำพูดดังกล่าว

“ท่านหมายความว่าอย่างไร…”

เขาถามอย่างไม่แน่ใจ

วิชาถูกเขาขัดเอง พลังย้อนกลับจึงทำให้หน้าอกเจ็บแปลบ แต่เขาอดใจรอที่จะล่วงรู้คำตอบไม่ได้แล้ว

สังฆราชจากวิหารแห่งความตายเงยหน้าขึ้นเช่นกันขณะเผยสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย

หรือสถานการณ์จะพลิก

หญิงสาวชุดคลุมสีเทามองผู้มีอำนาจก่อนโบกมือเรียกมหาปุโรหิตจากวิหารแห่งชีวิต

“เกิดอะไรขึ้น”

มหาปุโรหิตถามด้วยความสงสัย

“ลองดูนี่สิ… มีแค่เจ้ากับข้าที่เคยศึกษาตัวอักษรของโลกดิน เจ้าเป็นผู้หญิงเช่นกัน ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดเหมือนกันกับข้า”

มหาปุโรหิตยืนขึ้น เดินมาข้างหน้า หยิบสิ่งที่อยู่ในมือของอีกฝ่ายไป

นางผงะไปชั่วครู่

“แอนนานั่งยองๆ อยู่หลังแท่นซ่อมแซม…”

นางพึมพำก่อนเข้าใจอย่างรวดเร็ว

คาดไม่ถึงว่ามันจะกลายมาเป็นแบบนี้

นางและหญิงสาวชุดคลุมสีเทามองหน้ากัน จากนั้นในเวลาเดียวกัน พวกนางมองสังฆราชจากวิหารแห่งความตาย

มหาปุโรหิตคร่ำครวญก่อนถามว่า “นายท่าน ขอถามตามตรงเลยว่าแอนนา… แต่งงานแล้วหรือยัง?”

สังฆราชสงสัยกับคำถามดังกล่าวแต่ยังตอบว่า “ยัง”

“แล้วเรื่องอื้อฉาวล่ะ”

สังฆราชยักไหล่แล้วตอบว่า “นางคืออัจฉริยะดาวเด่นในบรรดาเจ็ดวิหาร หากจะมีเรื่องอื้อฉาวอะไร ข้าเชื่อว่าท่านหญิงทั้งสองจะต้องรู้ก่อนข้าอย่างแน่นอน”

มหาปุโรหิตและหญิงสาวชุดคลุมสีเทาครุ่นคิดพร้อมกัน

“สถานการณ์มันเป็นเช่นไรหรือ” สังฆราชจากวิหารแห่งความลับอดที่จะถามไม่ได้

…ทุกสิ่งดูต่างจากที่เขาคิดเอาไว้ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

หญิงสาวชุดคลุมสีเทาเขินอายเล็กน้อย “นี่คือผลิตภัณฑ์ทางเทคโนโลยี ถึงแม้จะเรียบง่าย แต่ก็ไม่ต้องใช้พลังวิเศษใดๆ ประสิทธิผลดีเยี่ยมและง่ายต่อการใช้… การทำงานก็… เออ ไว้ตรวจว่าตัวเองท้องหรือเปล่า”

การตีความของมหาปุโรหิตกลับเป็นอีกแบบ

นางพูดอย่างไม่ปิดบังว่า “จากคำอธิบายของผู้ศรัทธาจำนวนมาก ที่แอนนานั่งยองๆ อาจจะเพราะถอดกางเกงอยู่เพื่อเตรียมทดสอบว่าตัวเองท้องหรือเปล่า จากนั้นพวกเจ้าก็บุกเข้ามา” หญิงสาวชุดคลุมสีเทาเข้าร่วมบทสนทนาก่อนแสดงจุดยืน “ถ้าข้าถูกขัดขวางในสถานการณ์เช่นนั้นก่อนจะต้องหนีเพราะโดนไฟเผาด้วยความอับอาย เกรงว่าข้าจะทำสิ่งที่ไร้เหตุผลเพราะความโกรธเช่นกัน”

นี่เห็นได้ชัดว่าในฐานะผู้หญิง นางอยู่ข้างแอนนา

มหาปุโรหิตครุ่นคิด “ในตอนนั้น โลกไม่สามารถยับยั้งพลังอันยิ่งใหญ่ได้ แอนนาต้องกลัวว่าคนอื่นจะใช้พลังแปลกประหลาดทั้งหลายเพื่อมาตรวจสอบสถานการณ์ของนางแน่ๆ ”

“พวกผู้หญิงน่ะกลัวเรื่องแบบนี้มากและไม่อยากให้คนอื่นรู้เด็ดขาด”

หญิงสาวชุดคลุมสีเทากล่าวต่ออย่างเห็นด้วยว่า “มันเกี่ยวกับชื่อเสียงนาง เรื่องนี้ควรจะทำในสถานที่รกร้างเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของคนอื่น จากนั้นทำความเข้าใจสถานการณ์ของตัวเอง”

มหาปุโรหิตกล่าวต่อว่า “ต่อให้หลีกเลี่ยงดีแค่ไหน แต่เมื่อถอดกางเกงออกมา จู่ๆ ก็โดนใครที่ไหนไม่รู้บุกเข้ามาพร้อมยิงคำถามกับจุดไฟเผา… ถ้าเป็นข้าก็อาจจะฆ่าคนพวกนั้นทิ้งหมด ทำแบบนั้นอารมณ์ถึงจะสงบลงได้”

หลังจากสองสาวพูดจบ ทั่วห้องลับเงียบสงัด

บรรยากาศพลันเงียบงัน

ไม่มีใครพูดอะไรออกมา

คนที่จ้องแอนนาและรับหน้าที่สืบสวนสถานการณ์ของนางถึงกับอึ้งกิมกี่

หลังจากเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ พวกเขาถึงกับส่งกำลังคนไปมากมาย แต่ผลลัพธ์ดันออกมาเป็นแบบนี้เสียได้

…แบบนี้ยังจะมีทางรอดอีกหรือ

ด้วยความคิดนี้ พวกเขาพลันสั่นสะท้าน เหงื่อเย็นชั้นแล้วชั้นเล่าก่อตัวขึ้นมา

สังฆราชจากวิหารแห่งความตายหัวเราะก่อนส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ขอบคุณที่ระแวดระวังเรื่องข่าวอื้อฉาวของพวกข้าวิหารแห่งความตาย เจ้าถึงกับพยายามเชื้อเชิญให้จ้าววิหารแห่งมิติและเวลามาช่วย ไม่เว้นแม้กระทั่งจะเชิญให้เทพมาฟังด้วยกัน”

เขาตบบ่าสังฆราชจากวิหารแห่งความลับแล้วกล่าวด้วยความรักว่า “หรือจะให้ข้าเรียกเจตจำนงของเทพเพื่อรายงานเรื่องเหล่านี้ที่เจ้าทำดีล่ะ แบบนั้นจะเป็นการพิสูจน์ว่านอกจากเจ้าจะดูแลวิหารได้อีกแล้ว เรื่องข่าวกรองก็ยังพิถีพิถันและโดดเด่นอีกด้วย”

สังฆราชจากวิหารแห่งความลับอยากพูดอะไรสักอย่างให้อีกฝ่ายเจ็บแค้น แต่ปากของเขาอ้าโดยที่ไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกมา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ 890 การต่อสู้ในวันสิ้นโลกของชายคนหนึ่ง (3)

Now you are reading Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ Chapter 890 การต่อสู้ในวันสิ้นโลกของชายคนหนึ่ง (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ในบรรดาผู้มีอำนาจ คนที่อยู่ในสถานการณ์อับอายที่สุดคือสังฆราชจากวิหารแห่งความตาย

อย่างไรเสีย แอนนาคือลูกน้องของเขา เป็นบุคคลที่มีอำนาจอย่างแท้จริงในวิหารแห่งความตาย

ถ้าแอนนาสร้างปัญหาจริง เช่นนั้นทั้งวิหารแห่งความตายจะต้องเจอการชำระล้างครั้งใหญ่

“เจ้าไม่ต้องมามองข้าเลย” สังฆราชจากวิหารแห่งความตายกล่าว “ข้าคือผู้จงรักภักดีต่อเทพ ไม่มีวันปกป้องคนของตัวเองอย่างแน่นอน”

“จริงหรือ ทำไมพวกเราไม่เรียกเจตจำนงของเทพออกมาตอนนี้เลยล่ะ คิดว่าไง”

สังฆราชจากวิหารแห่งความลับมองเขาพร้อมกับยิ้มให้

สังฆราชต้องทนทุกข์กับวิหารแห่งความตายเมื่อไม่สามารถก้าวขึ้นสู่สถานะสูงส่งได้ ดังนั้นทันทีที่ได้อำนาจมา เขาจะข้องเกี่ยวกับทุกสิ่งที่เป็นของวิหารแห่งความตาย

สังฆราชจากวิหารแห่งความตายไร้สีหน้าขณะกล่าวอย่างเฉยชาว่า “จะอย่างไรก็ช่าง ข้าไม่สนเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว แต่โปรดจำเอาไว้อย่างหนึ่ง… ถ้าแอนนาเป็นคนดีขึ้นมา เช่นนั้นการลงโทษฐานรบกวนเทพโดยไม่ได้รับอนุญาตจะตกที่เจ้าเพียงคนเดียว”

รอยยิ้มบนใบหน้าของสังฆราชจากวิหารแห่งความลับแข็งทื่อ

ผู้ที่เคยวางแผนเห็นด้วยกับเขาต่างปิดปาก

ในหลายปีที่ผ่านมา ร่างวิญญาณของเทพจะไม่ปรากฏโดยง่าย แต่ทุกครั้งที่ปรากฏ มันมีจิตสังหารที่โหดเหี้ยมและแรงกล้า

หากเรียกมาแล้วไม่สามารถหาข่าวที่ดีมีค่ามาให้ได้ เช่นนั้นจุดจบก็คงน่าสังเวชนัก

ผู้มีอำนาจในสองวิหารได้รับ “บทลงโทษของเทพ” มาแล้ว หลังจากผ่านการทรมานทั้งหมดมา แม้แต่วิญญาณก็ไม่เหลือ

ดังนั้นทันทีที่สังฆราชจากวิหารแห่งความตายพูดเช่นนี้ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีก

ไม่ว่าสังฆราชจากวิหารแห่งความลับจะเกลียดวิหารแห่งความตายมากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่เต็มใจที่จะเอาชีวิตมาเดิมพัน

สังฆราชจากวิหารแห่งความลับไม่กล้ายอมรับเรื่องนี้ แต่กลับกล่าวหาว่า “เหอะ รากฐานของวิหารแห่งความตายมันเน่าเฟะไปแล้ว ข้าว่าคงมีบางสิ่งผิดปกติกับแอนนาแน่ๆ ไม่อย่างนั้น ทำไมนางถึงโกรธจนต้องลงมือฆ่าเลยล่ะ”

สังฆราชจากวิหารแห่งความตายมองด้วยสายตาเย็นชา “เจ้าต้องรับผิดชอบกับคำพูดด้วย ตอนยังมีชีวิต เจ้าเป็นมนุษย์ เมื่อตายไป ข้าจะดูแลเจ้าเป็นอย่างดีเอง”

“ข้าไม่รู้ว่าใครจะตายก่อนกันน่ะสิ” สังฆราชจากวิหารแห่งความลับปล่อยกลิ่นอายสังหารออกมา

“เอาล่ะ พวกเจ้าสองคนเลิกเถียงกันสักที”

“ทำแบบนี้จะรบกวนเทพได้โดยง่าย พวกเจ้าไม่คิดที่จะมีชีวิตต่อกันแล้วหรือ”

“หุบปาก มาดูความจริงของเรื่องนี้ก่อน”

ผู้มีอำนาจอีกหลายคนพูดขึ้นคนแล้วคนเล่า

สังฆราชจากวิหารแห่งความลับยอมรับทันทีที่เห็นเช่นนั้น ไม่ยืนกรานที่จะเรียกเจตจำนงของเทพออกมาอีก

แต่เขาเตรียมการแล้ว จึงกล่าวขึ้นว่า

“ท่านหญิง ตอนนี้ข้ามีเรื่องอยากจะให้ท่านทำหน่อย”

ทุกคนหันสายตามาทางเขา

พวกเขาเห็นผู้หญิงในชุดคลุมสีเทายืนขึ้นแล้วถอนหายใจออกมา “ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้เลยนี่”

นางคือจ้าววิหารแห่งมิติและเวลา

“มันเป็นงาน ข้าอยากขอให้ท่านตามหาความจริง เกี่ยวกับผู้หญิงที่ทรยศต่อเทพ นี่คือเรื่องใหญ่ จะปล่อยผ่านไม่ได้” สังฆราชจากวิหารแห่งความลับยืนกราน

ทุกคนโน้มน้าวให้หญิงสาวชุดคลุมสีเทาลองทำดูเช่นกัน

ทุกคนให้ความเคารพนาง

ยังไงเสีย ทุกเรื่องที่ข้องเกี่ยวกับมิติและเวลาไม่สามารถแทรกแซงได้ด้วยวิชาและความลับธรรมดา

คนที่สามารถเชี่ยวชาญพลังแห่งมิติและเวลาได้หายากมาก

ความสามารถของจ้าววิหารคนนี้ยอดเยี่ยมมากในบรรดาความสามารถมิติและเวลาทั้งหมด แม้กระทั่งเทพก็ยังคาดหวังในตัวนางไว้สูงและไม่เต็มใจที่จะลงโทษเมื่อนางทำผิดพลาด

นี่คือคนเดียวในบรรดาเจ็ดวิหารที่ต้องอดทนต่อความโปรดปรานจากเทพเป็นเวลานาน

หญิงสาวในชุดคลุมสีเทามองสังฆราชจากวิหารแห่งความตาย

เมื่อสังฆราชจากวิหารแห่งความตายมองท่าทีของคนเหล่านี้ เขาพลันเข้าใจว่าคราวนี้ตัวเองตกเป็นเป้าเข้าแล้ว

สังฆราชจากวิหารแห่งความลับวางแผนไว้นานแล้ว ครั้งนี้ไม่สามารถหยุดยั้งได้

หากคัดค้าน นั่นเท่ากับพิสูจน์ว่าแอนนามีปัญหาจริงไม่ใช่หรือ

ยิ่งกว่านั้น มันจะทำให้ทั้งวิหารแห่งความตายมีปัญหาหรือเปล่า

สังฆราชลังเลสักพัก แต่ก็พยักหน้าอย่างจนใจ

ถ้าแอนนามีปัญหาจริง เขาก็ไม่สามารถปกป้องแอนนาได้

น่าเสียดาย ทั้งที่เป็นอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมแท้ๆ …

สังฆราชรู้สึกเสียใจอยู่ลึกๆ

หญิงสาวชุดคลุมสีเทาไม่ลังเลอีกต่อไป นางเดินตรงไปที่แท่นซ่อมแซมจักรกลขณะมองอย่างละเอียด

แท่นซ่อมแซมจักรกลถูกเผาจนกลายเป็นวัตถุแตกหักที่ปกคลุมด้วยฝุ่นสีดำ อุปกรณ์และชิ้นส่วนจำนวนมากที่เดิมถูกวางไว้ได้รับความเสียหาย พื้นที่พิเศษจำนวนมากใต้โต๊ะไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป

“พวกเจ้าแน่ใจหรือว่าแอนนาใส่บางสิ่งไว้ตรงนี้” หญิงสาวชุดคลุมสีเทาถาม

ผู้ศรัทธาหลายคนมองหน้ากันก่อนพยักหน้า

ผู้นำกลุ่มกล่าวว่า “ข้าเห็นนางนั่งยองๆ เหมือนกับใส่บางสิ่งเข้าไป พอรู้ว่าพวกข้ามา นางก็ยืนขึ้นและรีบปกปิดทันที”

“…ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าก็ต้องใช้พลังเพื่อทำแบบนี้”

หญิงสาวชุดคลุมสีเทาหันไปมองผู้มีอำนาจแล้วกล่าวต่อว่า “วิชามิติและเวลานี้จะกินแรงข้ามาก ข้าจะเข้าสู่วิหารแห่งมิติและเวลาเพื่อหลับใหล ระหว่างนั้น หากมีใครกล้าเคลื่อนไหวในวิหารล่ะก็ ข้าตื่นเมื่อไหร่จะรายงานให้เทพทราบเพื่อขอให้ทำการลงโทษ”

ทุกคนเพียงแสดงความเห็นออกมาคนแล้วคนเล่า เป็นสัญญาณว่าพวกเขาจะไม่ยั่วยุวิหารแห่งมิติและเวลา

…อีกฝ่ายใช้ความพยายามของตัวเองเพื่อทำเรื่องนี้ ไม่มีใครสามารถทำได้

ถ้ามีใครบางคนแอบลอบก่อเรื่องในอนาคต อีกฝ่ายสามารถขอให้เทพทำการลงโทษได้

ไม่มีใครอยากมีเรื่องกับนาง

ไม่มีใครกล้าเผชิญหน้ากับเจตจำนงของเทพตอนนี้

หญิงสาวชุดคลุมสีเทากล่าวอีกครั้งว่า “หลังจากข้าหลับแล้ว คาร์ดินัลซูเสวี่ยเอ้อร์จะรับหน้าที่ดูแลวิหารชั่วคราว”

“ขอรับ” สองผู้ติดตามนางขานรับ

เมื่อเห็นว่าทุกสิ่งเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวชุดคลุมสีเทาหันหน้ามายังแท่นซ่อมแซมจักรกล

นางวางมือบนแท่นซ่อมแซมจักรกลอย่างแผ่วเบา ร่ายวิชาด้วยเสียงชวนให้เคลิบเคลิ้ม

“เวลาคือความยืนยาวของชีวิต มันคือคู่สัญญาของข้า”

“ความลับมากมายที่ซ่อนอยู่ในเวลาจะปรากฏขึ้นอีกครั้งตราบที่เวลาตอบรับการเรียกขานของข้า”

“จงมา ทำให้ทุกสิ่งย้อนกลับไปช่วงที่แอนนาใส่ของเข้าไป!”

เพียงพริบตา แท่นซ่อมแซมจักรกลทั้งหมดกลับมาเหมือนใหม่อย่างสมบูรณ์

…ไม่ มันไม่ได้ดูใหม่ แค่กลับสู่ช่วงที่เคยเป็นในอดีต

ภาพอันน่าอัศจรรย์นี้ทำให้คนที่อยู่ที่นี่ตกตะลึงมาก

“พบอะไรหรือเปล่า”

สังฆราชจากวิหารแห่งความตายถามอย่างสงบ

“ใช่แล้ว ที่จุดเวลานั้น แอนนาใส่บางสิ่งไว้ที่นี่” หญิงสาวชุดคลุมสีเทาคร่ำครวญ ในที่สุดก็กล่าวออกมาอย่างมั่นใจ

หัวใจของสังฆราชพลันดิ่งวูบ

นี่คือประโยคสุดท้าย เกรงว่าหลังจากวันนี้ไป ทั่ววิหารแห่งความตายจะถูกชำระล้าง ผู้ศรัทธานับไม่ถ้วนจะตาย

แม้กระทั่งพวกกึ่งเทพเหล่านั้นที่เป็นมิตรกับแอนนาก็คงจบไม่สวยเช่นกัน

หญิงสาวในชุดคลุมสีเทายกมือขึ้นเล็กน้อยในความว่างเปล่า

ชิ้นส่วนทั้งหมดของแท่นซ่อมแซมจักรกลกระเด็นออกมา

“อา ข้าเห็นแล้ว น่าจะเป็นสิ่งนี้แหละ”

ด้วยการเคลื่อนไหวของหญิงสาวชุดคลุมสีเทา สิ่งหนึ่งตกมาอยู่ในมือของนางอย่างมั่นคง

สังฆราชจากวิหารแห่งความลับยืนขึ้นอย่างเดือดดาล หัวเราะด้วยท่วงท่าชั่วร้ายแล้วตะโกนว่า “ฮ่าๆ ข้านึกแล้ว! นี่คือหลักฐานชั้นดีที่พิสูจน์ว่าวิหารแห่งความตายก่อการกบฏ ตอนนี้พวกเราควรเรียกเทพมาได้แล้ว!”

ผู้มีอำนาจคนอื่นพยักหน้าคนแล้วคนเล่าเช่นกันขณะสนทนา

สังฆราชจากวิหารแห่งความตายนั่งอยู่กับที่ไม่พูดไม่จา ใบหน้าเดือดดาลเล็กน้อย

ทว่า ไม่มีใครสังเกตว่าสีหน้าของหญิงสาวชุดคลุมสีเทาแปลกประหลาดเล็กน้อย

“หุบปาก! ข้ามีบางอย่างอยากจะถามเสียหน่อย” นางกล่าว

ทุกคนมองนาง

หญิงสาวชุดคลุมสีเทามองสิ่งนั้นอย่างละเอียด จากนั้นมองผู้ติดตามที่ไปหาตัวแอนนาแล้วถามว่า “ตอนนั้น เจ้าเห็นแอนนานั่งยองๆ อยู่หลังแท่นซ่อมแซม นางยืนขึ้นแล้วรีบปกปิดจนกระทั่งถูกพวกเจ้าพบใช่หรือไม่”

“ใช่แล้ว ท่านผู้สูงศักดิ์!” ผู้ศรัทธาหลายคนตอบอย่างตื่นเต้น

หลักฐานหนักแน่นดั่งขุนเขา ครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ อนาคตย่อมสดใส พวกเขาจะไม่ยินดีได้อย่างไร

สีหน้าของหญิงสาวในชุดคลุมสีเทาบอบบางไม่ยิ่งขึ้น

นางเปิดกล่องใส่ของ อ่านคำแนะนำอีกครั้ง จากนั้นมองของอย่างละเอียด

สังฆราชจากวิหารแห่งความลับหักห้ามใจไม่ได้อีกต่อไปก่อนตะโกนอีกครั้งว่า “ข้าอยากเรียกเทพให้มาดูกับตาตัวเอง!”

เขามองไปที่สังฆราชจากวิหารแห่งความตายอย่างมีชัยก่อนเริ่มร่ายคาถา

หญิงสาวชุดคลุมสีเทาชำเลืองมองเขาแล้วกล่าวช้าๆ ว่า “ถ้าเจ้าอยากตายด้วยมือของเทพละก็ข้าจะไม่ห้าม”

สังฆราชจากวิหารแห่งความลับหยุดเรียกทันที

เขาสามารถมาอยู่ตำแหน่งอย่างวันนี้ได้ไม่ใช่เพราะโชคช่วย แน่นอนว่าเขาได้ยินความนัยที่ต่างออกไปจากคำพูดดังกล่าว

“ท่านหมายความว่าอย่างไร…”

เขาถามอย่างไม่แน่ใจ

วิชาถูกเขาขัดเอง พลังย้อนกลับจึงทำให้หน้าอกเจ็บแปลบ แต่เขาอดใจรอที่จะล่วงรู้คำตอบไม่ได้แล้ว

สังฆราชจากวิหารแห่งความตายเงยหน้าขึ้นเช่นกันขณะเผยสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย

หรือสถานการณ์จะพลิก

หญิงสาวชุดคลุมสีเทามองผู้มีอำนาจก่อนโบกมือเรียกมหาปุโรหิตจากวิหารแห่งชีวิต

“เกิดอะไรขึ้น”

มหาปุโรหิตถามด้วยความสงสัย

“ลองดูนี่สิ… มีแค่เจ้ากับข้าที่เคยศึกษาตัวอักษรของโลกดิน เจ้าเป็นผู้หญิงเช่นกัน ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดเหมือนกันกับข้า”

มหาปุโรหิตยืนขึ้น เดินมาข้างหน้า หยิบสิ่งที่อยู่ในมือของอีกฝ่ายไป

นางผงะไปชั่วครู่

“แอนนานั่งยองๆ อยู่หลังแท่นซ่อมแซม…”

นางพึมพำก่อนเข้าใจอย่างรวดเร็ว

คาดไม่ถึงว่ามันจะกลายมาเป็นแบบนี้

นางและหญิงสาวชุดคลุมสีเทามองหน้ากัน จากนั้นในเวลาเดียวกัน พวกนางมองสังฆราชจากวิหารแห่งความตาย

มหาปุโรหิตคร่ำครวญก่อนถามว่า “นายท่าน ขอถามตามตรงเลยว่าแอนนา… แต่งงานแล้วหรือยัง?”

สังฆราชสงสัยกับคำถามดังกล่าวแต่ยังตอบว่า “ยัง”

“แล้วเรื่องอื้อฉาวล่ะ”

สังฆราชยักไหล่แล้วตอบว่า “นางคืออัจฉริยะดาวเด่นในบรรดาเจ็ดวิหาร หากจะมีเรื่องอื้อฉาวอะไร ข้าเชื่อว่าท่านหญิงทั้งสองจะต้องรู้ก่อนข้าอย่างแน่นอน”

มหาปุโรหิตและหญิงสาวชุดคลุมสีเทาครุ่นคิดพร้อมกัน

“สถานการณ์มันเป็นเช่นไรหรือ” สังฆราชจากวิหารแห่งความลับอดที่จะถามไม่ได้

…ทุกสิ่งดูต่างจากที่เขาคิดเอาไว้ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

หญิงสาวชุดคลุมสีเทาเขินอายเล็กน้อย “นี่คือผลิตภัณฑ์ทางเทคโนโลยี ถึงแม้จะเรียบง่าย แต่ก็ไม่ต้องใช้พลังวิเศษใดๆ ประสิทธิผลดีเยี่ยมและง่ายต่อการใช้… การทำงานก็… เออ ไว้ตรวจว่าตัวเองท้องหรือเปล่า”

การตีความของมหาปุโรหิตกลับเป็นอีกแบบ

นางพูดอย่างไม่ปิดบังว่า “จากคำอธิบายของผู้ศรัทธาจำนวนมาก ที่แอนนานั่งยองๆ อาจจะเพราะถอดกางเกงอยู่เพื่อเตรียมทดสอบว่าตัวเองท้องหรือเปล่า จากนั้นพวกเจ้าก็บุกเข้ามา” หญิงสาวชุดคลุมสีเทาเข้าร่วมบทสนทนาก่อนแสดงจุดยืน “ถ้าข้าถูกขัดขวางในสถานการณ์เช่นนั้นก่อนจะต้องหนีเพราะโดนไฟเผาด้วยความอับอาย เกรงว่าข้าจะทำสิ่งที่ไร้เหตุผลเพราะความโกรธเช่นกัน”

นี่เห็นได้ชัดว่าในฐานะผู้หญิง นางอยู่ข้างแอนนา

มหาปุโรหิตครุ่นคิด “ในตอนนั้น โลกไม่สามารถยับยั้งพลังอันยิ่งใหญ่ได้ แอนนาต้องกลัวว่าคนอื่นจะใช้พลังแปลกประหลาดทั้งหลายเพื่อมาตรวจสอบสถานการณ์ของนางแน่ๆ ”

“พวกผู้หญิงน่ะกลัวเรื่องแบบนี้มากและไม่อยากให้คนอื่นรู้เด็ดขาด”

หญิงสาวชุดคลุมสีเทากล่าวต่ออย่างเห็นด้วยว่า “มันเกี่ยวกับชื่อเสียงนาง เรื่องนี้ควรจะทำในสถานที่รกร้างเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของคนอื่น จากนั้นทำความเข้าใจสถานการณ์ของตัวเอง”

มหาปุโรหิตกล่าวต่อว่า “ต่อให้หลีกเลี่ยงดีแค่ไหน แต่เมื่อถอดกางเกงออกมา จู่ๆ ก็โดนใครที่ไหนไม่รู้บุกเข้ามาพร้อมยิงคำถามกับจุดไฟเผา… ถ้าเป็นข้าก็อาจจะฆ่าคนพวกนั้นทิ้งหมด ทำแบบนั้นอารมณ์ถึงจะสงบลงได้”

หลังจากสองสาวพูดจบ ทั่วห้องลับเงียบสงัด

บรรยากาศพลันเงียบงัน

ไม่มีใครพูดอะไรออกมา

คนที่จ้องแอนนาและรับหน้าที่สืบสวนสถานการณ์ของนางถึงกับอึ้งกิมกี่

หลังจากเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ พวกเขาถึงกับส่งกำลังคนไปมากมาย แต่ผลลัพธ์ดันออกมาเป็นแบบนี้เสียได้

…แบบนี้ยังจะมีทางรอดอีกหรือ

ด้วยความคิดนี้ พวกเขาพลันสั่นสะท้าน เหงื่อเย็นชั้นแล้วชั้นเล่าก่อตัวขึ้นมา

สังฆราชจากวิหารแห่งความตายหัวเราะก่อนส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ขอบคุณที่ระแวดระวังเรื่องข่าวอื้อฉาวของพวกข้าวิหารแห่งความตาย เจ้าถึงกับพยายามเชื้อเชิญให้จ้าววิหารแห่งมิติและเวลามาช่วย ไม่เว้นแม้กระทั่งจะเชิญให้เทพมาฟังด้วยกัน”

เขาตบบ่าสังฆราชจากวิหารแห่งความลับแล้วกล่าวด้วยความรักว่า “หรือจะให้ข้าเรียกเจตจำนงของเทพเพื่อรายงานเรื่องเหล่านี้ที่เจ้าทำดีล่ะ แบบนั้นจะเป็นการพิสูจน์ว่านอกจากเจ้าจะดูแลวิหารได้อีกแล้ว เรื่องข่าวกรองก็ยังพิถีพิถันและโดดเด่นอีกด้วย”

สังฆราชจากวิหารแห่งความลับอยากพูดอะไรสักอย่างให้อีกฝ่ายเจ็บแค้น แต่ปากของเขาอ้าโดยที่ไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกมา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+