ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้วบทที่ 688 ช่วยเหลือ (3)

Now you are reading ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว Chapter บทที่ 688 ช่วยเหลือ (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 688 ช่วยเหลือ (3)

จี้อู๋โหย่ว หน่วยรบเฒ่า แค่กๆ เซียนจินเฒ่าธรรมดา เขาจะไม่เข้าใจเรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร?

มั่นคงรอบคอบอย่างยิ่งจริงๆ!

เจ้าสำนักแห่งสำนักเซียนเต๋าขมวดคิ้วและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

“ท่านเจ้าสำนักอู๋โหย่ว ไยท่านกับข้าไม่รอกันสักพักเพื่อให้ศิษย์ทุกคนมาถึงที่นี่ก่อน

ผิดถูกชั่วดีประการใด ไว้ค่อยพูดคุยกันอีกครั้ง”

“เหอะ!” จี้อู๋โหย่วสะบัดแขนเสื้อ

จากนั้นเขาก็กล่าวว่า “หากสำนักเซียนเต๋าเวยของเจ้าไม่ให้คำอธิบายกับพวกเราในวันนี้ ข้าก็จะไม่มีวันปล่อยเจ้าไปอย่างแน่นอน!”

ดวงตาของเต๋าอวี่เจินเหรินเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองรำคาญใจเล็กน้อย เขาจึงยืนหลับตานิ่งโดยไม่เอ่ยอันใดอีก

ในขณะนั้นจี้อู๋โหย่วก็เป็นผู้นำในการร่อนลงไปด้านล่างก่อน ตามด้วยปรมาจารย์หว่างฉิงผู้สูงส่ง และเขาก็แสดงความเป็นห่วงเป็นใยและแสดงความเสียใจกับโหย่วฉินเสวียนหย่า

นอกจากนี้เขายังส่งข้อความเสียงในระยะใกล้เพื่อไปไต่ถามหลี่ฉางโซ่ว

หลี่ฉางโซ่วก็ได้ให้คำชี้แจงง่ายๆ เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวต่อไปของเขากับเจ้าสำนัก ซึ่งส่วนใหญ่เขาต้องการอธิบายให้เจ้าสำนักเข้าใจแนวคิดหลักเป็นสำคัญและปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์

หากเขากำหนดแนวทางให้เจ้าสำนักโดยตรง มันก็ย่อมจะส่งผลต่อพลังอำนาจของเจ้าสำนัก

หลังจากรออยู่สักพักหนึ่ง ก็มีลำแสงต่างๆ พุ่งมาจากท้องฟ้าทิศเหนือ

สำนักตู้เซียนได้ส่งเซียนจำนวนมากที่อยู่ต่ำกว่าเซียนเสิ่นขั้นปลายกลับมาด้วยวิธีเดียวกัน

ปรมาจารย์ผู้นำยอดเขาและผู้อาวุโสอีกกลุ่มหนึ่งรีบพุ่งเข้ามา ในขณะนั้นพวกเขาก็ดูแกร่งกร้าวเช่นกัน ความแข็งแกร่งของผู้ที่อยู่ต่ำกว่าขอบเขตเซียนจินเหล่านี้ ไม่ได้ด้อยกว่าอีกฝ่าย!

มันยังไม่นับรวมความแข็งแกร่งที่ซ่อนเร้นอยู่

สำนักเซียนเต๋าเวยก็ส่งคนมาอย่างเร่งด่วนเช่นกัน

เห็นได้ชัดว่า พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่า สำนักตู้เซียนจะส่งปรมาจารย์ออกมามากมายเช่นนี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อผู้อาวุโสว่านหลินหยุนแห่งยอดเขาตันติ่งผู้ซึ่งเคยเข้าปิดด่านเพื่อฝ่าทะลวงด่านขอบเขตเซียนจินเมื่อไม่นานมานี้ ได้ปรากฏตัวขึ้น…

ในขณะนั้นชายชราใช้ไม้เท้าค้ำตัวเองเอาไว้ และมองไปที่ผู้เป็นเซียนแห่งสำนักเซียนเต๋าเว่ยด้วยสีหน้านิ่งเฉย ไร้ความรู้สึกใดๆ

หัวใจเต๋าของพวกสำนักเซียนเต๋าเว่ยมากกว่าเก้าในสิบส่วนย่อมมีการเปลี่ยนแปลง ผิดแปลกไปไม่มากก็น้อย

โดยปกติแล้ว หลี่ฉางโซ่วต้องการใช้ประโยชน์จากสถานการณ์อย่างที่เคยทำเป็นประจำและซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางฝูงชนบนท้องฟ้า

ทว่าเมื่อเขานึกถึงแผนการที่เขาวางเอาไว้ในวันนี้ เขาก็อดทนกับมัน

บางครั้งเมื่อไร้ทางถอย ก็ต้องรุกเพื่อถอย…

เมื่อเหล่าผู้เป็นเซียนจากทั้งสองฝ่ายมาถึง ก็มีเซียนมากกว่าเจ็ดร้อยคนจากสำนักเซียนทั้งสองยืนอยู่ในอากาศ พวกเขาแต่ละคนล้วนแผ่เผยกำลังภายในและต่อสู้กันเองในอากาศ

เจ้าสำนักตู้เซียน จี้อู๋โหย่วก้าวออกไปข้างหน้าสองก้าว ร่างโปร่งบางของเขาเผยสีหน้าท่าทางภาคภูมิใจ…และความมั่นใจในตัวเองเล็กน้อย

ในทางกลับนั้น ในขณะนี้ เหล่าเซียนเต๋าเวยขมวดคิ้วเล็กน้อย และดวงตายังฉายแววครุ่นคิดอยู่มากมาย

จี้อู๋โหย่วกล่าวว่า “พวกเขาส่วนใหญ่มาถึงแล้ว หากต้องการให้สมเหตุผล เช่นนั้นก็ให้ส่งเซียนของสำนักตู้เซียน ซึ่งถูกพวกเจ้าซุ่มโจมตีและวางแผนจับตัวกลับมาก่อน

หากต้องการเริ่มสงคราม ข้าและสำนักตู้เซียนทั้งหมดก็จะต่อสู้กับพวกเจ้าให้จบในคืนนี้!”

ทันทีที่กล่าวจบ บรรดาผู้เป็นเซียนทั้งสองฝ่ายก็สับสนงงงันเล็กน้อย

เจ้าสำนักมีลักษณะท่าทาง และแสดงอารมณ์รุนแรงเช่นนี้ เขามั่นใจมากถึงเพียงนั้นเลยหรือ?

เต๋าอวี่เจินเหรินขมวดคิ้วครุ่นคิด ทันใดนั้นเขาก็สะบัดแส้หางม้า แล้วเซียนเทียนชราที่อยู่ข้างๆ เขาก็ก้าวออกมา

จากนั้นเขาก็ยกเจดีย์ขึ้นและปล่อยเชลยสิบแปดคนออกมาเพื่อให้พวกเขาบินกลับไปที่สำนักตู้เซียนโนเวลพีดีเอฟ

แน่นอนว่า พวกเขาย่อมเป็นศิษย์ของสำนักตู้เซียนที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้

ศิษย์เหล่านี้มีสีหน้าท่าทีดูละอายใจ พวกเขาปิดหน้าพลางโค้งคำนับ เหล่าผู้อาวุโสใหญ่หลายคนต่างก็ให้กำลังใจพวกเขาอย่างอบอุ่น จากนั้นก็ปล่อยให้พวกเขากลับไปที่แถวของกลุ่มพวกเขา

เต๋าอวี่เจินเหรินกล่าวเสียงทุ้มต่ำว่า “ในเมื่อเราได้ส่งคืนเหล่าเซียนที่จับได้ไปแล้ว และสำนักตู้เซียนก็ไม่เป็นไรแล้ว

เช่นนั้น ไยเจ้าและข้าไม่มาพูดคุยเรื่องนี้กันดีๆ ที่นี่? เจ้าสำนักอู๋โหย่ว เจ้ายอมให้เราได้ครองอาณาจักรหงหลินได้หรือไม่?”

“ไม่ต้องพูดมาก ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าแน่” จี้อู๋โหย่วกล่าวอย่างสงบ

“ทั้งสามสำนักบำเพ็ญเต๋า ล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน ในระหว่างการประชุมแหล่งกำเนิดสามสำนักบำเพ็ญเต๋า ทั้งสองสำนักของเรา ทั้งเจ้าและข้าได้ก็ได้เคยพบปะเห็นหน้ากัน

บัดนี้สำนักเซียนแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าฉานได้เริ่มก่อปัญหาและเจตนาจะทำลายสถานการณ์สามัคคีปรองดองครั้งยิ่งใหญ่ของทั้งสามสำนัก เช่นนั้นพวกเราควรจัดการกับเรื่องนี้อย่างไรเล่า?”

“เจ้าสำนักอู๋โหย่ว เจ้ากล่าววาจารุนแรงไร้เหตุผลเช่นนี้ได้อย่างไร!?!”

เต๋าอวี่เจินเหรินก็โกรธเล็กน้อยเช่นกัน จากนั้นเขาก็กล่าวเสียงลั่นว่า “การต่อสู้ในโลกมนุษย์ไม่ได้ส่งผลกระทบที่เป็นภัยพิบัติต่อสำนัก นี่คือ กฎแห่งโลกบรรพกาล!

สำนักเซียนเต๋าเวยของเราอดทนต่อสำนักตู้เซียนอย่างเต็มที่มาโดยตลอดในช่วงนี้ เจ้าอย่าได้ทำเกินขอบเขตมากเกินไป!”

“โอ้?”

จี้อู๋โหย่วขมวดคิ้วและกล่าวว่า “ท่านตั้งกฎนี้หรือ?

ท่านรู้หรือไม่ว่า ข้ามีศิษย์หลานคนหนึ่ง นางเป็นธิดาของราชาแห่งอาณาจักรหงหลิน และนางก็ได้รับการฝึกฝนอยู่ในสำนักของข้ามาเป็นเวลาหลายปี?

นี่ถือเป็นภัยพิบัติที่ส่งผลกระทบต่อสำนักหรือไม่?

หากศิษย์ของข้าถูกรังแก และข้าไม่ลุกขึ้นก้าวออกไปสู้ สักวันหนึ่งในภายหน้า เมื่อสำนักเซียนใหญ่อื่นๆ มารังแกข้า แล้วผู้ใดจะมาปกป้องเจ้าสำนักเช่นข้า!”

“ดี!”

ผู้อาวุโสว่านหลินหยุนตะโกนและใช้ไม้เท้าค้ำยันของเขาขณะกำลังจะก้าวออกไปข้างหน้า บัดนั้นเขาได้แผ่พุ่งพลังลมปราณที่อันตรายอย่างยิ่งออกมา!

“มาสู้กับข้า!”

จี้อู๋โหย่วแทบจะตื่นตระหนก เหตุใดชายชราผู้นี้ถึงฮึกเหิมนัก?

เสียงตะโกนดังลั่นสองครั้งของผู้อาวุโสว่านหลินหยุน ทำให้บรรดาผู้เป็นเซียนจากทั้งสองฝ่ายล้วนตึงเครียดขึ้น ทันใดนั้นพวกเขาขึ้น แต่ละคนก็หยิบก้อนอิฐที่มีรูปแบบและรูปร่างต่างกันออกมาและเปิดใช้งานพลังเซียนทุกรูปแบบ

ในขณะนั้นก็มีเสียงหัวเราะดังมาจากฟากฟ้า และนักพรตเต๋าชราผู้สวมชุดคลุมสีม่วง ใบหน้าอวบอ้วนเล็กน้อย ก็ขี่เมฆบินมาอย่างรวดเร็วยิ่ง

ทว่าการเคลื่อนไหวของเขาเพื่อสยบผู้อื่นด้วยพลังสะกดข่มของเขาเองนั้น… ก็นับว่าธรรมดา

นักพรตเต๋าชราร่างท้วมร้องตะโกนว่า “คืนนี้พวกเราจะสู้กันด้วยเหตุใด?

ข้า เต๋าเวยจื่อ ผู้ก่อตั้งสำนักเซียนเต๋าเวย และผู้ฝึกบำเพ็ญแห่งวังอวี่ซวี สหายเต๋าแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน โปรดไว้หน้าให้ข้าสักหน่อยเถิด! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

ศิษย์ในนามของจอมปราชญ์?

………………………………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด