ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว 179 จงมองตาข้าและทำตามที่ข้าชี้แนะ (1)

Now you are reading ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว Chapter 179 จงมองตาข้าและทำตามที่ข้าชี้แนะ (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 179 จงมองตาข้าและทำตามที่ข้าชี้แนะ (1)
“เสวียนหย่าจะรอท่านอยู่ข้างหน้าเจ้าค่ะ ท่าน…”

รอ? รอทำบ้าน่ะสิ!

ขณะนี้ ดวงตาของหลี่ฉางโซ่วราวกับสายฟ้าพิโรธ กระแสไฟฟ้าโหมกระหน่ำและ เกิดคลื่นกระแทกที่เต็มไปด้วยระเบิดไอพิษ ท่วมท้นทั่วท้องฟ้า!

ในยามนั้น หลี่ฉางโซ่วตอบกลับด้วยการประสานมือแล้วโค้งคำนับให้ก่อนจะหันกลับไปใช้หลีกลี้ปฐพีซ่อนกาย

ลาก่อน ลาเลย เราจะไม่พบกันอีก!

หลี่ฉางโซ่วมอบกรงฟาราเดย์ให้โหย่วฉินเสวียนหย่าเพื่อข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ ในฐานะศิษย์พี่ เขาจึงให้รางวัลเล็กๆ กับนางเพื่อดึงดูดอักขระเต๋าของปรมาจารย์จอมปราชญ์เทพในวันนั้น

หลี่ฉางโซ่วรู้สึกว่ามีบางอย่าง มันเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ปรมาจารย์จอมปราชญ์เทพสนใจเขาและจำเขาได้

ยามนี้ ผู้นำทั้งสำนักบำเพ็ญเต๋าราวครึ่งหนึ่งมาถึงแล้ว สำนักเซียนหลายร้อยแห่งภายใต้สามสำนักบำเพ็ญเต๋าต่างมารวมตัวกันที่นี่ เมื่อโหย่วฉินเสวียนหย่าได้ใช้กรงฟาราเดย์เพื่อต้านทานทัณฑ์สวรรค์ ก็ทำให้เขาต้องเสี่ยงอย่างมาก

แต่หลี่ฉางโซ่วไม่ได้สนใจเรื่องนั้น เพราะก่อนหน้านี้ เขาไม่ระวังเอง เขาพลาดเองที่ไม่ได้คิดถึงสถานการณ์ยามนี้เมื่อมอบกรงฟาราเดย์ให้โหย่วฉินเสวียนหย่า ดังนั้น เขาจึงไม่ควรตำหนินาง

ทว่าปัญหาคือ ไฉนนางถึงเอ่ยนามของข้ายามที่นางข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์!?!

ข้าเป็นพี่น้องกับเต๋าสวรรค์หรือไม่? พลังแห่งทัณฑ์สวรรค์จะอ่อนแอลงมากเพียงใด? หลี่ฉางโซ่วรู้สึกวุ่นวายใจเมื่อใช้หลีกลี้ปฐพีซ่อนกายด้วยความเร็วปานกลางจนผ่านไปได้ครึ่งทาง เขาจึงแอบกลับไปอีก

เขายังมีบางอย่างจะบอกโหย่วฉินเสวียนหย่า ไม่เช่นนั้น เขาอาจสร้างปัญหาให้ตัวเองจริงๆ

มันมีตรรกะซับซ้อนเล็กน้อย

วันนี้โหย่วฉินเสวียนหย่าได้แสดงให้เห็นแล้วว่า กรงฟาราเดย์สามารถต้านทานทัณฑ์สวรรค์ได้ และเต๋าสวรรค์ยอมรับมันได้เช่นกัน

หากมีการกล่าวขวัญถึงเรื่องกรงฟาราเดย์และเผยแพร่ไปทั่วโลกบรรพกาล อัตราความสำเร็จของการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์อาจเพิ่มมากขึ้น และเมื่อเวลาผ่านไป จำนวนเซียนและจำนวนของตัวแปรในใต้หล้านี้จะเพิ่มมากขึ้น

นั่นอาจทำให้ทัณฑ์สวรรค์มากมายมาถึงเร็วขึ้นพร้อมด้วยพลังที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม

ในเวลานั้น หลี่ฉางโซ่ว ผู้สร้าง ‘กรงฟาราเดย์’ อุปกรณ์โกงการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์จะต้องได้รับผลกระทบจากกรรมอย่างแน่นอน!

สิ่งนั้นจะสามารถใช้ได้เฉพาะในวงสังคมเล็กๆ ที่อยู่รอบตัวเขาเท่านั้น

หลี่ฉางโซ่วคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนจะสรุปวงจรสมองแห่งความคิดของโหย่วฉินเสวียนหย่าและเตรียมถ้อยคำโน้มน้าวนางในภายหลัง

พร้อมกันนั้น เขาก็แอบส่งข้อความเสียงไปคุยกับสงหลิงลี่ลับๆ เพื่อบอกให้นางไปซ่อนตัวในมุมหนึ่งที่อยู่ห่างไกลออกไปก่อนที่เขาจะไปพบกับนางในภายหลัง…

ขณะนั้นมีสัมผัสเซียนรับรู้จำนวนมากกำลังเฝ้าสังเกตโหย่วฉินเสวียนหย่าอยู่อย่างแน่นอน หลี่ฉางโซ่วจึงไม่ได้เข้าใกล้นางและไปปรากฏตัวที่ป่าไผ่ซึ่งอยู่ห่างออกไปยี่สิบลี้แทน

ในเวลานี้ หลี่ฉางโซ่วก็กระทำตัวคล้ายกับผู้บำเพ็ญคนอื่นๆ ในรุ่นเดียวกัน เขายืนเอามือไพล่หลังขณะจ้องมองโหย่วฉินเสวียนหย่า ซึ่งเพิ่งรอดพ้นจากทัณฑ์สวรรค์ และกำลังอาบแสงเซียนเพื่อกลายเป็นเซียน

ในตอนนี้ ดูเหมือนว่า โหย่วฉินเสวียนหย่าจะเข้าสู่ขอบเขตเสวียน นางหลับตาลงและเข้าฌานในทันที…ทะยานขึ้นสู่เซียน?

หลี่ฉางโซ่วขมวดคิ้วและรออย่างอดทนอยู่ชั่วครู่ เมื่อโหย่วฉินเสวียนหย่าลืมตาขึ้นเพื่อค้นหาที่อยู่ของเขา เขาจึงใช้สัมผัสเซียนรับรู้เพื่อชี้แนะบางอย่างให้นาง

“ศิษย์น้องหญิง หากมีจิตอริยะปรากฏขึ้นในใจของเจ้า จงเข้าฌานและบำเพ็ญเพียรทันที บรรดาเซียนภายนอกจะดึงเจ้าออกมา หากมีคนถามเรื่องกรง จงบอกไปว่าเป็นข้าให้เจ้า แล้วบอกว่าข้าพบมันจากตำราโบราณในสำนัก เดิมทีมีเพียงไม่กี่กรงเท่านั้น ตอนนี้ก็เหลือแค่สองกรง มันมีกรรมเกี่ยวข้องมากเกินไป และหากมีการพูดถึงมัน จะไม่อาจคาดถึงผลที่จะตามมาได้ แต่จงอย่าคิดเรื่องนี้มาก ข้าให้เครื่องมือเวทนี้กับเจ้าเพราะเราเป็นสหายศิษย์ร่วมสำนักกัน ข้าไม่ได้ปิดบังการออกแบบใดๆ กับเจ้า เร็วเข้า จงรับการรู้แจ้ง นี่เป็นโอกาสที่ดีของเจ้าแล้ว”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของโหย่วฉินเสวียนหย่าก็เปล่งประกายทันทีในขณะที่สัมผัสเซียนรับรู้ของนางซึ่งก่อตัวขึ้นใหม่ก็พบร่องรอยของหลี่ฉางโซ่วได้อย่างรวดเร็ว…

ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วจึงพยักหน้าเบาๆ ให้นางแล้วหันหลังเดินออกจากป่าไผ่

คราวนี้ คำว่า ‘สหายศิษย์ร่วมสำนัก’ ได้เผยให้เห็นความคิดของเขาแล้ว

เขาไม่เชื่อว่า โหย่วฉินเสวียนหย่าจะเข้าใจผิดอีกต่อไป!

บนท้องฟ้า ยามนี้ โหย่วฉินเสวียนหย่าซึ่งทั่วร่างของนางกำลังเปล่งแสงระยิบระยับ ได้ก้าวออกไปข้างหน้าอย่างงดงามไม่กี่ก้าว นางมองดูแผ่นหลังของหลี่ฉางโซ่วด้วยสัมผัสเซียนรับรู้ พลางถอนหายใจเบาๆ ในใจ…

แผ่นหลังของศิษย์พี่ดูอิสระไร้กังวลเสมอ ให้ของมีค่ากับข้าเช่นนั้น แต่กลับไม่ประสงค์สิ่งใดตอบแทน

แต่กระนั้น ข้าก็ยังคิดว่าข้าจะตอบแทนศิษย์พี่อย่างไรดีที่มอบกรงเพื่อช่วยให้ข้ารอดพ้นจากทัณฑ์สวรรค์

จากนี้ไปข้าจะตอบแทนท่านด้วยชีวิตของข้าเท่านั้น

โหย่วฉินเสวียนหย่าโค้งคำนับไปทางหลี่ฉางโซ่วที่จากไป จากนั้นก็หลับตานั่งขัดสมาธิบนก้อนเมฆมงคล ครั้นแล้วก็เข้าสู่ห้วงของการรู้แจ้งแห่งเต๋าพร้อมด้วยเสียงบรรเลงเพลงเซียนอันไพเราะรื่นรมย์

ทะยานขึ้นสู่เซียน

พร้อมกันนั้น หลี่ฉางโซ่วก็ยังครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา

บางทีภายนอกนั้น อาจมีบรรดาเซียนกำลังมองหาเจ้าสำนักของพวกเขาแล้ว…

สิ่งของที่สามารถต้านทานทัณฑ์สวรรค์นั้นยอดเยี่ยมเพียงพอแล้วที่จะทำให้บรรดาเซียนจากสำนักเซียนยอมทำตัวไร้ยางอายและไปหาเจ้าสำนักตู้เซียนเพื่อแลกเปลี่ยนหรือขอสิ่งของแล้ว

ยามนี้เขาอยู่ในภาพ จึงไม่อาจออกไปจัดการได้…

ครั้งอาจารย์ของเขาข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ ในเวลานั้น เขาได้ใช้กรงฟาราเดย์ภายใต้สายตาของผู้คนมากมาย แน่นอนว่า ผู้บริหารสำนักหรือผู้อาวุโสคงรู้เรื่องนี้แล้ว

ยามนี้ เขาทำได้เพียงใช้ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์เพื่อแจ้งให้หลิงเอ๋อร์ไปพบจิ่วซือเพื่อผ่านไปสู่การติดต่อกับอาจารย์ลุงจิ่วอูได้…

และครั้นพูดว่าจะทำก็ทำเลย ทันใดนั้น หลี่ฉางโซ่วเพียงขยับความคิด และเริ่มส่งกระแสจิตไปถึงทันที ขณะนี้ เขาทำงานสองอย่างในเวลาเดียวกัน โดยเปิดใช้งานตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่ซ่อนอยู่ข้างกายศิษย์น้องหญิงของเขาทันที

แต่ขณะที่กำลังจะเปิดใช้งานตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ หลี่ฉางโซ่วก็ได้ยินเสียงน้ำกระเซ็นและเพลงที่หลิงเอ๋อร์มักร้องออกมาเบาๆ ในระหว่างที่นางอาบน้ำ… ทว่ายามนั้น หลี่ฉางโซ่วไม่อาจใส่ใจหลีกเลี่ยงปัญหาได้เนื่องจากเป็นเรื่องเร่งด่วน

“ศิษย์น้องหญิง!”

ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ตะโกนผ่านการส่งข้อความเสียง ทันใดนั้น หลิงเอ๋อร์ก็ตัวสั่นสะท้านทันที แล้วหดศีรษะลงไปในถังน้ำ แล้วฟองอากาศจำนวนมากก็ปรากฏขึ้นมาเป็นชุดๆ

หลังจากนั้นไม่นาน หลิงเอ๋อร์ที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วรีบปิดค่ายกลเวทรอบๆ กระท่อมมุงจากก่อนจะใช้พลังเวทเป่าเส้นผมยาวให้แห้งแล้วรีบบินไปที่ยอดเขาพิชิตสวรรค์อย่างรวดเร็ว

ในอีกด้านหนึ่ง…

เมื่อปรากฏการณ์ผิดปกติรอบๆ โหย่วฉินเสวียนหย่าหายไป ลำแสงสีทองก็พุ่งมาจากฟากฟ้าและตกลงใส่ร่างของโหย่วฉินเสวียนหย่าในทันที

แสงสีทองนั้นเพียงพานางออกมาจากภาพแผนที่สมบัติแล้ววางไว้ในบริเวณที่นั่งของสำนักตู้เซียนโดยไม่ได้รบกวนอะไรนาง …

ชั่วเวลานั้น คนจากสำนักตู้เซียนทั้งหมดล้วนเข้ามาห้อมล้อมกายนางทันที

แต่เจ้าสำนักตู้เซียนจี้อู่โหยวรีบวางข่ายอาคมกั้นเพื่อปกป้องโหย่วฉินเสวียนหย่าเอาไว้อย่างรวดเร็ว

“อย่าทำให้นางตกใจ นางได้รับโอกาสของนางเอง”

ผู้อาวุโสคนหนึ่งยิ้มและกล่าวว่า “นี่หมายความว่านางบรรลุเซียนแล้ว เสวียนหย่าอาจทะลวงขึ้นสู่เซียนหยวน และกลายเป็นเซียนเสิ่นได้ในคราวเดียว”

“ศิษย์หลานโหย่วฉินน่าทึ่งมากจริงๆ”

“เมื่อกลับไปแล้ว ข้าควรมอบรางวัลดีๆ ให้นาง”

“พูดถึงศิษย์หลานโหย่วฉินและศิษย์หลานฉางโซ่ว… ว้าว”

“ว้าวๆๆ…”

ในขณะที่ทุกคนล้วนครึกครื้นเต็มไปด้วยชีวิตชีวา พวกเขายังระลึกถึงคำประกาศของโหย่วฉินเสวียนหย่าต่อหน้าทุกคนเมื่อนางเผชิญกับทัณฑ์สวรรค์ที่แปด

พวกเขาไม่รู้ว่าเซียนของอีกสองสำนักใหญ่เข้าใจหรือไม่

แต่คนจากสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินจะไม่ได้ยินที่โหย่วฉินเสวียนหย่า ได้ประกาศถึงคนรักของนางเมื่อเผชิญกับสถานการณ์แห่งความเป็นตายได้อย่างไรเล่า?

ในอีกด้านหนึ่งนั้น ปรมาจารย์หว่างฉิงผู้สูงส่งและผู้อาวุโสอื่นๆ อีกสองสามคนต่างก็พากันไปหาจี้อู๋โหย่วและกล่าวอะไรบางอย่างด้วยสีหน้ากังวลใจ…

…………………………………………………………………..

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *