เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 1165 คนจากไปแล้ว + 1166 โชคดีที่หนีมา

Now you are reading เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า Chapter 1165 คนจากไปแล้ว + 1166 โชคดีที่หนีมา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1165 คนจากไปแล้ว + ตอนที่ 1166 โชคดีที่หนีมา

ตอนที่ 1165 คนจากไปแล้ว

ไม่ต้องเดินเข้าไป ดวงจิตของชายชรากวาดมองหลังจากทำลายเขตอาคม ก็รู้ได้ว่าในละแวกนี้ไม่มีคนอยู่ เขาเอามือไพล่หลัง ดวงตาเฉียบคมหรี่ลงเล็กน้อยพลางจ้องมองอาศรมอยู่เนิ่นนาน จากนั้นถึงหมุนตัวมาถาม

“คนที่อยู่ข้างในก่อนหน้านี้เป็นใคร?”

“ระ เรียนท่านผู้อาวุโส พวกเราก็ไม่ทราบ ตลอดมาไม่เห็นคนข้างในออกมาเลย”

ชายชราได้ยินคำพูดนี้ ในดวงตามีประกายวาบผ่าน น่าจะไปกันแล้ว ช่างเฉียบแหลมนัก

เขาเร่งมาจากส่วนลึกในป่า เพราะรู้สึกถึงกลิ่นอายของสัตว์เทวะโบราณ ไม่นึกว่ามาถึงที่นี่ด้วยความเร็วสูงสุด คนทางนี้ก็จากไปก่อนหนึ่งก้าวแล้ว

แต่รู้สึกได้ว่าคนคนนี้เพิ่งบรรลุขั้นไม่นาน ทว่าจากไปได้อย่างรวดเร็วหลังจากบรรลุขั้น จิตใจไม่ธรรมดาเลย ความรู้สึกถึงอันตรายก็แข็งแกร่งนัก นึกไม่ถึงว่าสถานที่อย่างแคว้นระดับล่างจะมีคนเช่นนี้อยู่ด้วย

“ต้นไม้แถวนี้เป็นอะไรไป ทำไมแห้งเหี่ยวไปหมด?” สายตาของเขามองผ่านต้นไม้รอบๆ เห็นพลังชีวิตของต้นไม้พวกนั้นถูกสูบไปหมดก็แปลกใจอย่างยิ่ง

“เรียนผู้อาวุโส คนในนั้นกำลังทะลวงขั้น ลมพัดรุนแรงม้วนตัวกลายเป็นมังกร ไม่เพียงดูดซับกลิ่นอายพลังวิญญาณรอบๆ ยังดึงพลังชีวิตของต้นไม้พวกนั้นไปด้วย จึงกลายเป็นเช่นนี้”

ชายชราได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ดึงพลังชีวิตไป? นั่นวิชาอะไรกัน มีวิชาเช่นนี้ด้วยหรือ เป็นคนของแคว้นชั้นล่างหรือคนของแปดจักรวรรดิใหญ่ที่มาฝึกบำเพ็ญที่นี่?

ความคิดนี้ผุดขึ้นมา ไม่ทันไรก็โดนเขาปัดตกไป

แม้ค่ายกลกับเขตอาคมของที่นี่ยังนับว่าใช้ได้ แต่มองออกว่าพละกำลังของคนวางค่ายกลกับเขตอาคมอยู่แค่ระดับหลอมแก่นพลัง ไม่น่าใช่คนของแปดจักรวรรดิใหญ่ เช่นนั้นหรือว่าคนคนนี้มีของวิเศษล้ำค่าติดตัว?

ครั้นนึกถึงข้อนี้ เขาสะบัดแขนเสื้อทะยานขึ้นไปบนฟ้า จากส่วนลึกมาถึงที่นี่เขาใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยามโดยประมาณ เช่นนั้นหากตามหาน่าจะอยู่ละแวกนี้เช่นกัน

หลังจากชายชราจากไป ผ่านไปสักพัก คนบนพื้นไม่ได้ยินการเคลื่อนไหวอะไรจึงเงยหน้าขึ้นมอง เมื่อไม่เห็นเขาแล้วถึงถอนหายใจโล่งอกและลุกขึ้นมา เช็ดเหงื่อเย็น นวดสองขาที่กำลังอ่อนเปลี้ย

“ต้องเป็นผู้แข็งแกร่งจากแปดจักรวรรดิใหญ่แน่ๆ แรงกดดันทรงพลังเหลือเกิน”

“ข้ากลัวจนขาอ่อนแรงไปหมด เขายังไม่ทันฆ่าพวกเราด้วยซ้ำ”

“ใช่ๆ แตกต่างไปจากผู้แข็งแกร่งของแปดจักรวรรดิใหญ่ ค่ายกลกับเขตอาคมที่พวกเราทำลายตั้งนานยังไม่แตก แค่เขามาก็ทำลายได้แล้ว”

“แต่คนในนี้หนีไปไหนกันแน่ ทำไมไม่อยู่ข้างใน? พวกเราคอยเฝ้าอยู่ตรงนี้ พวกเขาไม่น่าออกมาได้นี่!”

“หรือจะข้ามภูเขาออกไป? พวกเจ้าดูภูเขาตรงถ้ำอาศรมนี้สิ พวกเขาอาจอาศัยตอนกลางคืนหนีไปจากที่นี่แล้ว?”

“แต่ผู้แข็งแกร่งท่านนั้นทำไมถึงมาหาคนในนี้ หรือว่าคนพวกนั้นมีของวิเศษล้ำค่าติดตัวจริงๆ มิเช่นนั้นทำไมถึงดึงดูดมาได้แม้แต่ผู้แข็งแกร่งจากเขตรอบใน?”

ขณะกำลังกล่าว ก็เห็นหลายร่างบินมาหยุดอยู่กลางอากาศเหนือศีรษะพวกเขา

เมื่อรู้สึกถึงกลิ่นอายทรงพลังที่แผ่มาจากร่างคนพวกนั้น ผู้ฝึกตนทุกคนที่เพิ่งลุกขึ้นมาไม่นานนักก็รีบร้อนหมอบลงไปอีกครั้ง

“คะ คารวะผู้อาวุโสทั้งหลาย”

พวกเขาเอ่ยอย่างสั่นเทา ก้มเอาหน้าผากแตะพื้นด้วยสีหน้าซีดขาว ในใจก็ก่นด่าคนข้างในเขตอาคม ตนเองเผ่นหนีไป กลับทิ้งปัญหามากมายเพียงนี้ไว้ให้พวกเขาเสียอย่างนั้น

………………………………………………….

ตอนที่ 1166 โชคดีที่หนีมา

หลายคนซึ่งมาถึงที่นี่พร้อมกันโดยไม่นัดหมายมองหน้ากัน หนึ่งคนในนั้นถามว่า “แสงไฟก่อนหน้านี้คืออะไร”

“สะ แสงไฟ? พวกเราไม่รู้ว่ามีแสงไฟอะไร!”

“บังอาจ!” เสียงทุ้มหนักตะโกนขึ้นมา อำนาจกดดันโจมตีออกไป ทำให้เลือดลมในอกของทุกคนเบื้องล่างปั่นป่วน มุมปากมีเลือดไหลออกมา

“แสงไฟพุ่งขึ้นฟ้า พวกเจ้าจะบอกว่าไม่เห็นหรือ?” ผู้ฝึกตนคนนั้นปล่อยแรงกดดันทั่วร่างจู่โจมไปยังคนข้างล่าง ทำให้พวกเขาแต่ละคนพูดอะไรไม่ออกไปครู่หนึ่ง

ผู้ฝึกตนหญิงคนหนึ่งในนั้นเห็นเช่นนี้ก็ปิดปากหัวเราะเบาๆ “จะร้อนใจเพียงนั้นไปทำไม ไม่แน่พวกเขาอาจไม่เห็นจริงๆ”

ผู้ฝึกตนชายเห็นดังนั้นก็ไม่ปริปากอีก สะบัดแขนเสื้อยืนเอามือไพล่หลัง ชัดเจนว่าคิดจะให้นางไปถามความ

ผู้ฝึกตนหญิงหัวเราะเบาๆ มองคนเบื้องล่างและถามว่า “เช่นนั้นพวกเจ้ารู้อะไรบ้าง พูดมาให้ข้าฟังสักหน่อย”

“ช่วงนี้ที่นี่มีคนบรรลุขั้น อีกทั้งไม่ใช่แค่ครั้งเดียว พวกเราจึงสงสัยอยากมาดูเสียหน่อยว่าในนั้นมีสมบัติอะไรหรือไม่ แต่พวกเราทำลายค่ายกลกับเขตอาคมที่วางไว้ที่นี่ตั้งนานยังไม่แตก ก่อนหน้านี้มีผู้อาวุโสท่านหนึ่งมาแก้ค่ายกลกับเขตอาคม ถึงได้รู้ว่าคนข้างในจากไปกันนานแล้ว เดาว่าผู้อาวุโสท่านนั้นคงไปตามหา มุ่งหน้าไปทางนั้นแล้ว”

ผู้ฝึกตนคนนั้นเอ่ย แล้วชี้ไปยังทิศทางยอดเขาพลางเช็ดๆ เหงื่อบนหน้าผาก สวรรค์ถึงรู้ว่าเขาฝืนอดกลั้นความกลัวมากมายไว้ถึงจะกล่าวจบได้โดยไม่ตะกุกตะกัก

เหล่าคนที่อยู่กลางอากาศได้ยินคำพูดของคนข้างล่างก็มองหน้ากัน ก่อนจะทยอยกันมุ่งไปทางยอดเขา

จนกระทั่งคนพวกนั้นไปทางยอดเขาแล้ว ทุกคนเบื้องล่างถอนหายใจและแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็ว ไม่กล้ารวมตัวกันอีกต่อไป ป้องกันไม่ให้ผู้แข็งแกร่งเหล่านั้นตามหาคนไม่เจอแล้วกลับมาหาเรื่องพวกเขาอีก

เวลาเดียวกันนี้ อีกบริเวณหนึ่งในป่า เฟิ่งจิ่วพาพวกเขาสี่คนโผทะยานไปอย่างรวดเร็วอยู่นานถึงจะหยุดลง

“พักผ่อนเถอะ! จำไว้ว่าหากมีคนมาตามหา ต้องรักษาความนิ่งสงบไว้อย่าเอ่ยถึงเรื่องก่อนหน้านี้” เธอเตือนพวกเขาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

พวกเขาได้ยินแล้วมองหน้ากัน ถามว่า “ทำไมพวกเราต้องหนีออกมา ซ้ำยังแอบหนีด้วย ต่อให้เจ้าบรรลุระดับกำเนิดวิญญาณ ก็ไม่น่าเป็นเรื่องใหญ่อะไรกระมัง?”

เฟิ่งจิ่วทำให้พวกเขาสะดุ้งตกใจจริงๆ สายฟ้าครั้งที่สามผ่าลงมาไม่นานเขาก็ออกมาแล้ว ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงพาพวกเขาแอบหนีมาอย่างว่องไว ทั้งยังบินมาไกลเพียงนี้โดยไม่หยุดพัก

“ทะลวงระดับกำเนิดวิญญาณสร้างความเคลื่อนไหวใหญ่โตเกินไป คงแตกตื่นไปถึงผู้แข็งแกร่งในส่วนลึกของเทือกเขาอเวจีเป็นแน่ เลี่ยงได้ก็เลี่ยงไว้ พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนพวกนั้น” เฟิ่งจิ่วกล่าวเสียงเนิบช้า รู้ว่าพวกเขาทุกคนไม่เห็นภาพหงส์ไฟทะยายขึ้นท้องฟ้า แต่ได้ยินเสียงร้องคล้ายหงส์นั้น

“เจ้าหมายถึงเสียงหงส์ร้องหรือ ตอนนั้นทำไมถึงมีเสียงหงส์ร้องดังขึ้นมา? เสียงนั้น…”

พวกเขามองเฟิ่งจิ่ว ในใจมีความเคลือบแคลง รู้สึกว่ายังมีอีกเรื่องหนึ่งที่พวกเขาไม่รู้

อีกอย่างดึงดูดผู้แข็งแกร่งจากส่วนลึกมาได้ เห็นได้ว่าไม่ใช่เรื่องปกติแน่นอน ยังมีการบรรลุขั้นของเขาอีก ทำไมถึงตัดพลังชีวิตพวกนั้นไปจนหมด? ในใจแต่ละคนเกิดความสงสัย ทว่าพวกเขาไม่เอ่ยถามอะไรอีก หากเฟิ่งจิ่วยินยอมบอก ไม่ต้องให้พวกเขาถามก็จะบอกเอง

“นั่นเป็นสัตว์พันธสัญญาคู่ชีวิตของข้า”

เฟิ่งจิ่วกล่าวตอบ มองไปทางร่างที่พุ่งผ่านบนฟ้าด้วยสีหน้าจริงจัง “ล่อคนจากส่วนลึกไปได้ตามคาด โชคดีที่พวกเราหนีมาเร็ว” หลังจากบรรลุขั้นพวกเขาก็หนีมาโดยไม่หยุดพัก มิเช่นนั้นผลที่ตามมาคงเลวร้ายเกินจะคิด

………………………………………………….

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *