เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 1239 ข้าคือต้าหนิว + 1240 คนคุ้นเคย

Now you are reading เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า Chapter 1239 ข้าคือต้าหนิว + 1240 คนคุ้นเคย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1239 ข้าคือต้าหนิว + ตอนที่ 1240 คนคุ้นเคย

ตอนที่ 1239 ข้าคือต้าหนิว

ส่วนผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณที่นี่บางคนกลับเป็นถึงเจ้าของร้านค้า เฟิ่งจิ่วเห็นแล้วพูดไม่ออก ในแคว้นระดับหนึ่ง ผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณจะนั่งตำแหน่งเป็นผู้นำตระกูลหรือถึงขั้นบรรพบุรุษ พอเป็นที่นี่ไม่คิดว่าจะปะปนเป็นเจ้าของร้าน สุดยอดจริงๆ

แต่สองสามวันต่อมาเธอก็สงบใจลงไม่น้อย ที่ใดมีผู้แข็งแกร่งย่อมมีผู้อ่อนแอเช่นกัน เธอรู้มาตั้งแต่แรก แต่ไม่คิดว่างานของผู้อ่อนแอที่นี่จะเป็นงานจุกจิกพวกนั้น

แม้เป็นเช่นนี้ แต่มีผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณนั่งดูแลอยู่ เดาว่าคนทั่วไปก็ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามในสถานที่พวกนี้

เธอขบคิดในใจ กัดผลไม้พลางก้าวเดิน เมื่อมาถึงจุดที่ไม่มีคนจึงเปลี่ยนเสื้อผ้า หลังจากเช็ดขี้เถ้าบนใบหน้าออกก็กลายเป็นเด็กหนุ่มแต่งกายธรรมดา ชุดสีเขียวคราม ดวงตาฉลาดมากเล่ห์เหมือนวางแผนคิดคำนวณ จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปบริเวณประตูเมือง

รอมาสองสามวัน ในที่สุดก็ได้โอกาสเช่นนี้มา เธอย่อมต้องคว้ามาให้ได้

เฟิ่งจิ่วมารอตรงประตูเมืองตั้งแต่เช้าจวบจนเที่ยงวันก็ยังไม่เห็นคนมา จึงอดกังวลเล็กน้อยไม่ได้ คนคนนี้คงไม่หลงทางกระมัง หรือว่าไม่มาแล้ว? เช่นนั้นแผนการของเธอจะไม่สูญเปล่าหรือ?

ขณะกำลังคิดก็เห็นร่างหนึ่งลากถุงกระสอบเข้าเมืองมา มือที่ผูกผ้าแดงแบกกระเป๋าไว้ เดินพลางมองไปรอบๆ คล้ายกำลังตามหาคน

เฟิ่งจิ่วเห็นเช่นนั้นจึงเร่งฝีเท้าเดินเข้าไป และลากเขาไปข้างๆ “เจ้าคือคนนั้น…คนคนนั้น…ชื่ออะไรนะ?”

“ข้าคือต้าหนิว เจ้าเป็นคนที่ท่านอาให้มารับข้าหรือ”

“โอ้! ใช่ๆๆ ต้าหนิวนั่นเองๆ” เฟิ่งจิ่วตบๆ ศีรษะ ยิ้มเอ่ยว่า “ดูหัวข้าสิ จำชื่อผิดไปเสียได้ แต่ว่ายังดี มารับเจ้าได้ก็พอแล้ว”

“เหอะๆ ใช่แล้ว! มารับข้าได้เป็นพอ เดิมทีข้ายังกลัวอยู่ว่าจะไม่เจอใคร!” เขาวางกระเป๋าที่แบกไว้บนบ่าลงมาแล้วฉีกยิ้ม “ท่านพ่อให้ข้านำมาให้ท่านอา”

“เจ้ายักษ์โง่นี่ ยังยิ้มดีใจแบบนี้อีก ข้าจะบอกให้นะ เจ้ามีปัญหาใหญ่แล้ว” เฟิ่งจิ่วกดเสียงเบากล่าวกับเขา “ท่านอาของเจ้าให้ข้ามาบอกเจ้าว่าจงรีบกลับบ้านไปเสีย ไม่เหลือตำแหน่งแล้ว นี่เป็นเงินที่เขาให้เจ้านำกลับไปด้วย เจ้าเก็บไว้สิ”

เธอหยิบกระเป๋าใบหนึ่งออกมายัดใส่มือของเด็กหนุ่ม “อีกอย่าง ท่านอาเจ้าบอกว่าสองสามเดือนนี้อย่าเพิ่งส่งจดหมายหาเขา รอเรื่องผ่านไปแล้วเขาจะติดต่อพวกเจ้าเอง”

“หา? จะ จริงหรือ?” เด็กหนุ่มหน้าถอดสี ตกใจเล็กน้อย

“จริงด้วย จดหมายที่เขาให้เจ้าไปล่ะ?” เธอเอ่ยถาม

“ยะ อยู่ตรงนี้” เขารีบล้วงออกมายื่นให้เฟิ่งจิ่ว

“อืม เช่นนี้พอแล้ว เจ้ารีบๆ กลับไปเสีย ของถุงนี้ข้าจะเอาให้ท่านอาแทนเจ้าเอง” เธอพยักเพยิด หลังจากแก้ผ้าแดงบนมือของเขาออกก็บอกให้เขารีบกลับไป

เด็กหนุ่มเห็นว่ามีเงินเก็บและยังได้ยินว่ามีอันตราย ย่อมไม่กล้าอยู่ต่ออีก จึงลนลานจากไป

เฟิ่งจิ่วเห็นเขาออกจากประตูเมืองไปแล้วก็ยิ้มตาหยี ผูกผ้าแดงบนข้อมือของตัวเองด้วยความรวดเร็ว จากนั้นแบกของมารอตรงประตูเมือง

เวลาผ่านไปประมาณครึ่งก้านธูป ชายร่างผอมสูงคนนั้นมาดูที่ประตูเมือง ก็เห็นเด็กหนุ่มที่ผูกเชือกแดงบนข้อมือนั่งอยู่ตรงหัวมุม จึงรีบวิ่งเข้าไปหา

“เจ้าคือต้าหนิวคนนั้นรึ?”

“เป็นข้าเองขอรับ” เฟิ่งจิ่วขานรับ มองชายร่างผอมสูงและถามอย่างเริงร่า “ท่านอาให้ท่านมารับข้าหรือ แล้วท่านอาล่ะ ทำไมเขาไม่มาขอรับ?”

ชายร่างผอมสูงได้ยินก็ตอบว่า “อาของเจ้ากำลังยุ่งอยู่!”

………………………………………………….

ตอนที่ 1240 คนคุ้นเคย

เขามองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่งก่อนถามว่า “จดหมายล่ะ?”

“อยู่นี่ขอรับ” เธอหยิบจดหมายจากในอกเสื้อออกมายื่นให้เขา

ชายร่างผอมสูงรับมาอ่านแล้วถึงจะพยักหน้า “อืม เดินตามข้ามาเถอะ! เมื่อไปถึงในจวนจะมีคนสอนกฎระเบียบให้เจ้า” กล่าวจบก็เหลียวมองถุงข้างๆ ถามขึ้นว่า “นั่นอะไร?”

“ของฝากขอรับ ข้านำมาให้ท่านอา” เธอฉีกยิ้มให้

เมื่อได้ยิน เขาขมวดคิ้วอย่างรังเกียจ “เอาละ แบกไปเถอะ!”

เฟิ่งจิ่วจึงแบกของตามหลังชายผู้นั้นไปเช่นนี้ และเข้าสู่จวนที่พำนักของเซวียนหยวนโม่เจ๋อจากประตูด้านหลัง…

ชายร่างผอมสูงพาเฟิ่งจิ่วมาตรงหน้าชายชราคนนั้น เอ่ยว่า “พาคนมาแล้ว ยังเอาของฝากมาให้ท่านด้วยน่ะ!” เขากล่าวพลางเหลือบมองเด็กหนุ่มที่แบกกระเป๋าใบใหญ่อย่างนึกขัน หลังจากส่ายหน้าก็หมุนตัวเดินจากไป

ชายชรามองเด็กหนุ่มตรงหน้า แปลกใจเล็กน้อย “เจ้าคือต้าหนิวรึ?”

“ขอรับท่านอา! ท่านจำข้าไม่ได้หรือ ตอนอายุเจ็ดแปดขวบข้าเคยเจอท่านครั้งหนึ่ง” เฟิ่งจิ่วหยีตายิ้มพลางบอก คำว่าท่านอานั้นเรียกได้คล่องปากนัก คนไม่รู้ยังคิดว่าเรื่องจริง!

“นี่เป็นของฝากที่นำมาให้ท่าน ดูสิขอรับ” เธอโน้มกายเล็กน้อยทำท่าจะเปิดกระเป๋า

“เอาเถอะๆ ไม่ต้องดูหรอก เจ้าตามข้ามาเถอะ!”

เขากล่าวจบก็พาเฟิ่งจิ่วไปยังห้องข้ารับใช้ พลางกำชับว่า “งานของเจ้าข้าขอร้องพ่อบ้านตั้งนานเขาถึงจะตกลง เข้ามาในนี้ไม่เหมือนข้างนอกแล้ว ต้องตั้งใจทำงาน นายท่านสั่งให้ทำอะไรก็ทำไป ในจวนนี้พวกเราเป็นข้ารับใช้ จะเงยหน้ามองนายท่านตรงๆ ไม่ได้ นั่นเป็นพฤติกรรมที่เสียมารยาท หากทำไม่ดีอาจไม่เหลือชีวิต เจ้าต้องจำคำพูดของข้าไว้”

“ขอรับ ข้าทราบแล้ว”

เธอตามไปข้างๆ พลางขานรับ เดินไปพลางมองรอบๆ อย่างสงสัย เธอรู้สึกได้ว่าที่นี่ไม่มีองครักษ์ลับ เพราะเป็นที่พักอาศัยของคนรับใช้ ปกติบริเวณที่มีองครักษ์ลับล้วนเป็นเขตเรือนของเจ้านายรวมถึงสถานที่สำคัญต่างๆ ในจวน

“ที่นี่เป็นที่พักของข้ารับใช้ เดินไปมาได้ตามใจชอบ ประเดี๋ยวเจ้าตามข้ามา ข้าจะบอกเจ้าว่าตรงไหนในเรือนหากไม่ได้รับอนุญาตก็เข้าไปไม่ได้” ชายชรากล่าวแล้วก็ชี้ไปยังห้องหนึ่งด้านหน้า บอกว่า “ห้องนี้แหละ ข้าเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้เจ้าข้างในแล้ว ข้ารับใช้ข้างในนี้ต้องสวมเสื้อผ้าของข้ารับใช้ เจ้าเข้าไปเปลี่ยนออกมาเสีย ข้าจะรออยู่ตรงนี้”

“ขอรับ ข้าทราบแล้ว”

เฟิ่งจิ่วขานรับ เมื่อเข้าไปข้างในก็เห็นว่าเป็นห้องเดียวอย่างง่ายๆ เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างว่องไวแล้วจึงเดินออกมา ตามชายชราไปข้างหน้าเพื่อทำความคุ้นเคยกับสถานที่ ขณะเดียวกันก็บอกจุดสำคัญตรงเขตเรือนด้านใน ถ้านายท่านไม่เรียกก็เข้าไปไม่ได้

ตอนได้ยินอย่างนั้น เธอตะลึงเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้ นั่นหมายความว่าต่อให้เธออยากพบเซวียนหยวนโม่เจ๋อในนี้ก็ยากเย็นไม่ใช่หรือ คงไม่ใช่กระมัง?

“ต้าหนิว? เจ้ามองอะไรน่ะ? ตรงนั้นเป็นเขตเรือนหลัก เรือนของนายท่าน จะมองตามใจชอบไม่ได้” ชายชราเตือนพร้อมสื่อให้เฟิ่งจิ่วรีบๆ เดิน

เฟิ่งจิ่วได้ยินแล้วมุมปากกระตุกเบาๆ ขนาดเรือนยังมองตามใจชอบไม่ได้เลย? มองแวบเดียวจะตายหรือ? เธอพูดแขวะในใจ ขณะจะตามชายชราออกไปก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังเข้ามา

“เจ้าหนูทางนั้นน่ะ เข้ามานี่ซิ”

เฟิ่งจิ่วหยุดฝีเท้าหันไปมอง เห็นว่ามีคนเดินออกมาจากในนั้น สวมเสื้อผ้าคล่องตัว ใบหน้าคุ้นตา ย่อมเป็นฮุยหลางอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่เจอกันสองสามปี ท่าทางก็ยังกวนประสาทเหมือนเคย เห็นเขาแล้วเธอพลันเผยรอยยิ้มที่จับสังเกตไม่เห็นออกมาเล็กน้อย

คนคุ้นเคยกันนี่!

“ข้าเรียกเจ้าน่ะ! จะนิ่งอยู่ตรงนั้นทำไม ยังไม่เข้ามาอีก?” ฮุยหลางถลึงตาตะโกนเรียก

………………………………………………….

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *