เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 1427 น้ำดีของดีมังกรดิน + 1428 จะย่องหนีอย่างไร?

Now you are reading เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า Chapter 1427 น้ำดีของดีมังกรดิน + 1428 จะย่องหนีอย่างไร? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1427 น้ำดีของดีมังกรดิน + ตอนที่ 1428 จะย่องหนีอย่างไร?

ตอนที่ 1427 น้ำดีของดีมังกรดิน

สิ้นเสียง เขาก้าวเท้าไปข้างหน้าหมายจะดึงพวกนั้นออกมา นึกไม่ถึง เพิ่งจะเดินเข้าใกล้ หน้าเขาพลันเปลี่ยนสี รีบตะโกนห้ามเฟิ่งจิ่วที่กำลังจะก้าวเข้าไปในบ่อโคลน

“อย่าเข้ามา!”

เฟิ่งจิ่วชะงัก หยุดก้าวเท้า เห็นเขายืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป จึงถาม “เป็นอะไรไปหรือขอรับ?” สิ้นเสียง ก็เห็นว่าร่างกายของเขาที่ยืนอยู่ในบ่อโคลนเหมือนจะจมลงไปเล็กน้อย เธอตะลึง “นี่มันบ่อโคลนดูด?”

“ใช่แล้ว เป็นบ่อโคลนดูด เข้ามาไม่ได้”

เขาพยายามยืนทรงตัว แม้แต่พูดหรือหายใจก็เบาลง ในที่สุดก็รู้แล้วว่าเหตุใดแต่ละคนที่นอนหมดสติอยู่ที่นี่ถึงได้เปื้อนโคลนไปทั้งตัว บางคนยังโผล่มาแค่หัวเท่านั้น ที่แท้บ่อโคลนที่ดูไม่สะดุดตาบ่อนี้ก็เป็นบ่อโคลนดูดนี่เอง

บ่อโคลนดูด เป็นพื้นที่อันตรายและเต็มไปด้วยโคลนเหมือนชื่อของมัน หากเผลอเหยียบเข้าไปก็จะจมอยู่ในนั้น ยิ่งออกแรงดิ้นรนยิ่งจะจมเร็วกว่าเดิม ก็เหมือนตอนนี้ เขายืนอยู่ตรงนั้น ผ่านไปไม่นานเพราะน้ำหนักตัวก็จะจมถึงเอวแล้ว ดินโคลนใต้เท้ามองไม่เห็นพื้น แต่ดินโคลนบนตัวยังคงดูดแน่นเหมือนเหล็ก

“บ่อโคลนดูด? เร็ว รีบหากิ่งไม้ ใช้กิ่งไม้ดึงเฉินเต้าขึ้นมา!”

พวกคนที่ตามมาด้านหลังตะโกน รีบหากิ่งไม้แถวๆ นั้นเพื่อจะดึงคนออกมา ทว่า ในตอนนั้นเอง เฟิ่งจิ่วพลันขยับมือ เชือกหนาเส้นหนึ่งพุ่งออกไปรัดข้อมือของเฉินเต้า จากนั้นก็ออกแรงกระชาก ก็ดึงเขาออกมาได้แล้ว

“ผลุบ!”

ยามถูกดึงออกมายังมีเสียงผลุบดังตามมา ราวกับดึงหัวไชเท้าออกจากดินอย่างไรอย่างนั้น

“ฮู่ว ตกใจจนข้าไม่กล้าหายใจแรงๆ ด้วยซ้ำ ประมาทเกินไปจริงๆ” เฉินเต้าบ่นพึมพำ มองเห็นเชือกที่มือคลายออกแล้ว ดวงตาก็เป็นประกาย มือข้างหนึ่งลูบหนวดเลขแปดแล้วคลี่ยิ้ม มองเฟิ่งจิ่ว “เจ้าแรงเยอะไม่เบาเลย ดูไม่ออกเลยนะเนี่ย!”

เฟิ่งจิ่วเห็นเขาเอามือที่เปื้อนโคลนมาลูบที่หนวด จนกลายเป็นหนวดเลอะโคลนสองเส้น ก็อดหัวเราะไม่ได้ ตอบว่า “ไม่หรอกขอรับ ศิษย์พี่เฉินก็แค่มีรูปร่างสูงเพรียวดุจต้นไม้หยกกลางสายลม ข้าถึงได้ไม่เปลืองแรงดึงเลยอย่างไรเล่าขอรับ!”

“ฮ่าๆๆๆๆ เจ้าเด็กนี่อ้าปากพูดอะไรก็ชวนให้คนฟังเบิกบานใจไปหมด ดีๆ ไม่เลวๆ กลับไปศิษย์พี่จะตบรางวัลให้เจ้าแน่นอน” ก้มมองร่างกายตัวเองเปื้อนโคลนไปแล้วครึ่งตัว จึงถอนหายใจ “ตัวเปื้อนโคลนไปหมดเลย เหตุใดข้าจึงรู้สึกเหมือนหมูตกโคลนอย่างไรอย่างนั้น?”

ได้ยินประโยคนั้น เฟิ่งจิ่วยิ้มตาหยี มองพวกคนที่ยังคงหมดสติอยู่ในโคลน เธอยิ้มแล้วเตือนเขาว่า “ศิษย์พี่เฉิน ถ้ายังไม่ดึงพวกเขาออกมาอีก พวกเขาก็จะจมลงไปแล้วนะขอรับ” เพราะผิวโคลนถูกทำให้สะเทือน พวกคนที่อยู่ในโคลนจึงเริ่มจมลงไปอีก

เฉินเต้าหันกลับไปมอง ไม่นานก็เขย่งปลายเท้าลอยตัวขึ้น แล้วดึงพวกเขาออกมาขณะกระโดดข้ามบ่อโคลน

เฟิ่งจิ่วที่อยู่ข้างหลังเห็น ก็กระโดดตามและดึงออกมาได้อีกสองคน เพียงไม่กี่ครั้ง ทั้งสองก็ช่วยคนที่อยู่ข้างในบ่อโคลนออกมาได้หมดแล้ว เพียงแต่พวกเขายังคงหมดสติอยู่

“มังกรมุดดินมีหนามแหลมที่หาง ที่หนามนั่นมีฤทธิ์ที่ทำให้คนสลบ แต่ไม่ใช่ประเภทเดียวกับยาสลบทั่วไป ยาเหล่านั้นของเราคงจะแก้ไม่ได้ เฟิ่งจิ่ว เจ้าไปเอาถุงน้ำดีของมังกรมุดดินที่ถูกฟันขาดเป็นสองท่อนพวกนั้นมา”

เฉินเต้าตรวจดูอาการของพวกเขาเล็กน้อย จากนั้นก็ให้เฟิ่งจิ่วไปเอาถุงน้ำดีของมังกรมุดดินมา

“ขอรับ” เฟิ่งจิ่วรับคำ เดินย้อนกลับไป ควานหาถุงน้ำดีสีดำอมเขียวขนาดเท่าไข่ไก่ในท้องของมังกรมุดดินที่ถูกฟันขาดเป็นสองท่อนพวกนั้น

“ศิษย์พี่เฉิน ถุงน้ำดีของมังกรมุดดินขอรับ” เธอยื่นของให้ จากนั้นก็เห็นเขารับไปแล้วกรีดถุงน้ำดีเป็นรูเล็กๆ ป้อนให้พวกคนที่สลบอยู่

………………………………….

ตอนที่ 1428 จะย่องหนีอย่างไร?

เห็นน้ำดีสีดำอมเขียวของมังกรมุดดินถูกป้อนใส่ปากพวกเขา เฟิ่งจิ่วอดคลี่ยิ้มไม่ได้ น้ำดีของมังกรมุดดินก็ถือเป็นยาชนิดหนึ่ง ทว่า น้ำดีของมังกรมุดดินที่ยังไม่ผ่านขั้นตอนการจัดการนั้นทั้งขมและคาว รสชาติของมันไม่ได้แย่ธรรมดา

ทว่า มันมีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมอย่างไม่อาจปฏิเสธได้จริงๆ เพิ่งจะป้อนได้ไม่นาน คนที่ถูกป้อนคนแรกก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงไอแล้ว

“แค่กๆ!”

ลั่วเหิงฟื้นเพราะอาการสำลัก รู้สึกว่าในปากทั้งขมและคาว ทำปากแจ๊บๆ เพื่อชิมรสชาติในปาก กอปรกับหางตาเหลือบไปเห็นสิ่งที่เฉินเต้ากำลังทำอยู่ ก็ถึงกับคว่ำหน้าอาเจียนเลยทีเดียว

“อ้วก…”

“ฮ่า ศิษย์พี่ลั่ว ท่านกินดีมังกรมุดดินเข้าไป ไม่มีพิษหรอก แค่รสชาติไม่ค่อยดีเท่านั้นเอง” เฟิ่งจิ่วยืนยิ้มอยู่ด้านหนึ่ง เห็นลั่วเหิงเงยหน้าถลึงตาใส่เธอ จากนั้นก็กลับไปอาเจียนอีกครั้ง

นักเล่นแร่แปรธาตุสองสามคนที่กำลังดูเหตุการณ์อยู่ สายตาจับจ้องไปยังเฟิ่งจิ่ว รู้สึกละอายใจเล็กน้อย และรู้สึกสงสัยในตัวศิษย์ชั้นล่างคนนี้ด้วย

ตลอดการเดินทางนี้ ศิษย์ชั้นล่างคนนี้คุ้นเคยกับทุกอย่างในนี้กว่าพวกเขาเสียอีก เทียบกับเขา หากพูดตรงๆ พวกเขาก็เหมือนคุณชายที่ไม่เคยผ่านการฝึกโหดมาก่อน และไม่เหมาะสมกับป่าแห่งนี้แม้แต่น้อย

แต่ศิษย์ชั้นล่างคนนี้ไม่เหมือนกัน ทั้งที่เป็นผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐานแต่กลับใจกล้าและรอบคอบ อีกทั้งในขณะที่พวกเขาถอยหลัง เขากลับก้าวไปข้างหน้า เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ทั้งหมด ก็อดไม่ได้ที่จะมองเขาใหม่อีกครั้ง

“เหตุใดตัวข้ามีแต่โคลน?” ลั่วเหิงมองเฟิ่งจิ่วแล้วถาม “ข้าจำได้ว่าถูกอะไรบางอย่างที่ตัวเย็นเฉียบลากไป จากนั้นก็ไม่รู้สึกอะไรอีกเลย”

“มังกรมุดดินลากตัวพวกท่านเข้าไปในบ่อโคลนดูดขอรับ” เฟิ่งจิ่วชี้ไปยังบ่อโคลนดูดที่อยู่ไม่ไกล ยิ้มตาหยีแล้วพูดเสริมว่า “ข้ากับศิษย์พี่เฉินช่วยพวกท่านขึ้นมา”

ได้ยินอย่างนั้น พวกเขามองหน้ากัน จากนั้นก็ลุกขึ้นประสานมือคารวะเฉินเต้าเพื่อขอบคุณ

“ขอบคุณศิษย์พี่เฉินมากขอรับ”

“ขอบคุณศิษย์พี่เฉินมากเจ้าค่ะ”

ทว่า พวกเขากลับมองข้ามเฟิ่งจิ่วไปอย่างพร้อมเพรียง ในสายตาของพวกเขา แค่ศิษย์ชั้นล่างคนหนึ่ง พวกเขาไม่จำเป็นต้องขอบคุณ เขาเองก็ไม่คู่ควรกับคำขอบคุณของพวกเขา

เฟิ่งจิ่วเห็นพวกเขาไม่ขอบคุณเธอสักคำ ซ้ำยังมองข้ามเธอไปเลย เธอเพียงยิ้มๆ กลับไม่ได้ว่าอะไร

“ขอบใจมากเฟิ่งจิ่ว กลับไปข้าจะเลี้ยงเหล้าเจ้าเอง” ลั่วเหิงเดินเข้ามายื่นมือออกมาทำท่าจะตบไหล่เฟิ่งจิ่ว นึกไม่ถึงกลับตบโดนอากาศ

“ศิษย์พี่ลั่ว ตัวข้าสะอาดทั้งตัวนะขอรับ!” เฟิ่งจิ่วถอยหลังไปสามก้าวแล้วยิ้มตาหยีมองเขา

ลั่วเหิงชะงัก จากนั้นก็หัวเราะ “ก็ได้ๆๆ ข้ารู้ว่ามือข้ามีแต่โคลน ไม่โดนตัวเจ้าก็แล้วกัน” ขณะกล่าว ก็หันไปมองรอบๆ แล้วบอกว่า “พวกเราต้องหาที่ล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้ากันหน่อยแล้ว! ทั้งตัวมีแต่โคลนเช่นนี้รู้สึกไม่สบายตัวสักนิด”

“ข้างหน้ามีเสียงน้ำไหล ตามข้ามา!” เฉินเต้าบอก จากนั้นก็นำทางพวกเขาไปข้างหน้า

เฟิ่งจิ่วเดินตามหลังอย่างไม่รีบร้อน เธอเกิดความคิดอยากจะย่องหนีไปเงียบๆ แต่เธอกลับรู้ดีว่า หากเธอหายไป คนอื่นไม่ตามหา แต่เฉินเต้าจะต้องตามหาเธอแน่นอน

แต่หากพูดกับเขาอย่างตรงไปตรงมา แล้วควรใช้ข้ออ้างเช่นไรเล่า? แม้จะบอกไปแล้ว คาดว่าเขาก็คงไม่เห็นด้วย อย่างไรในสายตาของเขา เธอก็เป็นเพียงผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐานเท่านั้น

“ยุ่งยากจริงๆ!”

เธอถอนหายใจด้วยความจนใจ ทำได้เพียงเดินตามพวกเขาไปเรื่อยๆ หวังเพียงว่าพวกเขาจะมุ่งหน้าเข้าไปในส่วนลึกของป่า เช่นนั้นจึงจะมีโอกาสบังเอิญเจอท่านแม่ของเธอ

“เฟิ่งจิ่ว ที่นี่มีน้ำพุแห่งหนึ่ง เจ้าจะไปล้างตัวหน่อยหรือไม่?”

………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด