เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 1425 มังกรมุดดิน + 1426 ปุ๋ย

Now you are reading เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า Chapter 1425 มังกรมุดดิน + 1426 ปุ๋ย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1425 มังกรมุดดิน + ตอนที่ 1426 ปุ๋ย

ตอนที่ 1425 มังกรมุดดิน

เจ้าสิ่งที่โผล่ขึ้นมาแล้วลากคนไปคือตัวอะไรกันแน่? ถึงแม้จะไร้ซุ่มเสียง แต่ไม่มีทางเป็นอะไรจำพวกภูตผีปีศาจแน่ เพราะกระดิ่งที่เอวของเธอไม่ส่งเสียงเลยสักนิด เท่านี้ก็รู้แล้ว สถานที่แห่งนี้บริสุทธิ์ปลอดภูตผี

ทั้งสองเดินอยู่ข้างหน้า พวกคนที่เดินอยู่ข้างหลังกัดฟันเดินตาม เมื่อเสียงสวบสาบเบาๆ ดังมา เฟิ่งจิ่วเพ่งมองโดยอาศัยแสงไฟ เห็นเถาวัลย์สีดำขนาดเท่าท่อนแขนแหวกพุ่มหญ้าตรงเข้ามาทางพวกเขา

เธอชะงักเท้าชูมือไปด้านหลัง ส่งสัญญาณให้พวกคนข้างหลังหยุดเคลื่อนไหว จากนั้นก็รั้งเฉินเต้าไว้

“มีอะไรหรือ?” เฉินเต้าชะงักเท้าแล้วหันไปถามเฟิ่งจิ่ว

“ศิษย์พี่เฉิน ท่านดู” เฟิ่งจิ่วพยักพเยิด ชี้ไปยังเถาวัลย์ที่กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้

เฉินเต้าที่ถูกรั้งมองตามที่เฟิ่งจิ่วชี้ เมื่อมองไป ก็อดตะลึงไม่ได้ รีบหยิบกระบี่ยาวออกมา “นั่นมันมังกรมุดดิน!”

เมื่อเขาตะโกนออกไป เจ้าสิ่งที่ถูกเฟิ่งจิ่วเข้าใจผิดว่าเป็นเถาวัลย์ซึ่งกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้พลันหยุดชะงัก แล้วม้วนขดร่างกายที่มีขนาดเท่าท่อนแขนของมัน ที่น่าแปลกก็คือ บนส่วนหัวของมังกรมุดดินสีดำนั่น กลับมีดวงตาประหลาดคู่หนึ่งโผล่ขึ้นมา

“อ้าว! ไม่ใช่เถาวัลย์หรอกหรือ!” เฟิ่งจิ่วอุทานด้วยความงุนงง เมื่อเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของสิ่งนั้น ถึงรู้ว่ามันเป็นมังกรมุดดิน

“ฟิ้ว!”

ระหว่างที่เธอกำลังพูดอยู่ กระบี่คมในมือเฉินเต้าง้างขึ้น พลังกระบี่รุนแรงสายหนึ่งตวัดฟันไปทางมังกรมุดดินที่เผยอตัวขึ้นสูง มังกรมุดดินเห็นเช่นนั้นก็หดหัวหลบพลังกระบี่ แต่ก็ยังคงถูกพลังกระบี่อันรุนแรงเฉี่ยวผ่าน แต่ทว่า ถึงจะถูกพลังกระบี่เฉี่ยวผ่านเช่นนั้น กลับไม่มีรอยแผลแม้แต่น้อย แม้แต่รอยถลอกสักนิดก็ไม่มี ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะสามารถฟันตัวมันขาดภายในหนึ่งกระบี่

“ชิ้ง!”

“แกร๊ง!”

พลังกระบี่อีกหนึ่งสายพุ่งโจมตีออกไป ครั้งนี้ เป็นการปะทะกันซึ่งๆ หน้า เสียงที่ดังเป็นเสียงกระทบกัน ของของแข็ง ประกายไฟเล็กๆ ผุดออกมาจากผิวหนังบนร่างกายของมังกรมุดดิน

เผชิญหน้ากับพลังกระบี่อันรุนแรงของเฉินเต้า มังกรมุดดินไร้ซึ่งความกลัว ไม่ถอยหลังแต่กลับกระโจนเข้ามาทางพวกเขา คล้ายตั้งใจจะจับคนไปอีกหนึ่งคน

“เป็นแค่หนอนตัวเล็กๆ ยังกล้ามาสามหาวต่อหน้าข้า คอยดูเถิดข้าจะฟันเจ้าเป็นท่อนๆ ไม่เหลือให้เห็นแม้แต่ซาก!”

เฉินเต้าคำราม โจมตีอีกครั้ง ชั่วขณะหนึ่ง ขณะที่ได้ยินเสียงกระทบกันดังขึ้น กระแสอากาศอันรุนแรงตวัดผ่านดังชิ้งๆ…

เฟิ่งจิ่วที่อยู่ข้างหลังเห็นว่าเฉินเต้าผ่านไปนานแล้วก็ยังกำราบมังกรมุดดินไม่ได้ อดถอนหายใจไม่ได้ ด้วยพลังระดับกำเนิดวิญญาณของเฉินเต้าย่อมรับมือมังกรมุดดินตัวนี้ได้ง่ายๆ อยู่แล้ว

เพียงแต่ เหมือนเขาจะฟาดฟันอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ยังไม่เข้าใจว่ามังกรดินตัวนี้เป็นสัตว์วิญญาณธาตุเหล็ก การรับมือกับสัตว์วิญญาณธาตุเหล็ก เว้นแต่จะเป็นดาบดีกระบี่เลื่องชื่อจริงๆ ไม่เช่นนั้นแม้จะฟันอีกกี่ครั้งก็ฟันมังกรมุดดินไม่ขาด

“ศิษย์พี่เฉิน หนอนตัวนี้เหมือนจะเป็นสัตว์วิญญาณธาตุเหล็ก ท่านลองใช้ไฟดูดีหรือไม่?” เธอเสนออยู่ข้างหลัง พลางเดินไปด้านหนึ่ง คิดในใจว่าไปดูพวกลั่วเหิงก่อนดีกว่า ว่าพวกเขาถูกมังกรมุดดินจับตัวไปที่ถ้ำแล้วหรือยัง?

ได้ยินเช่นนั้น เฉินเต้าอึ้งงันไปครู่หนึ่ง เมื่อได้สติก็รวบรวมกลิ่นอายพลังวิญญาณ ถ่ายเทธาตุไฟในร่างใส่กระบี่คมในมือ จากนั้นพริบตาเดียวกระบี่ยาวในมือก็มีเปลวไฟลุกท่วม แผดเสียงคำรามดุจอสรพิษไฟ เขาหัวเราะอย่างกลั้นไม่อยู่

“ครั้งนี้หากยังฟันหนอนอย่างเจ้าให้ขาดไม่ได้อีก ข้าจะกลับบ้านเกิดไปทำนา! มาเลย! มาเอากระบี่ของคุณชายเฉินอย่างข้าไปกินเสีย!”

สิ้นเสียงคำรามของเขา ก็รวบรวมกำลังแล้วกระโดดขึ้นสูง กระบี่คมในมือฟาดฟันลงไปอย่างแรง…

………………………………….

ตอนที่ 1426 ปุ๋ย

“ชิ้ง! สวบ!”

เฟิ่งจิ่วที่เดินหลบไปด้านข้างเห็นเพียงกระบี่เล่มนั้นง้างขึ้นสูง จากนั้นก็ฟาดฟันลงมาอย่างแรง ตัดลำตัวของมังกรมุดดินตัวนั้นเป็นสองท่อน เมื่อสิ้นเสียงโครมดังสนั่น สิ่งปฏิกูลในตัวของมังกรมุดดินก็กระจายไปทั่วพื้น ทำให้กลิ่นเหม็นลอยอบอวลไปในอากาศ

พวกนักเล่นแร่แปรธาตุที่อยู่ข้างหลังเห็นเหตุการณ์ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอกพร้อมกัน ตายก็ดีแล้วๆ

ทว่า ขณะที่กลิ่นของเจ้ามังกรมุดดินตัวนั้นกระจายไปทั่ว เสียงสวบสาบก็ดังขึ้นท่ามกลางความมืดอีกครั้ง เพียงชั่วพริบตา มังกรมุดดินขนาดเท่าท่อนแขนสิบกว่าตัวก็โผล่มาอยู่ตรงหน้าพวกเขา บางตัวก็ตวัดหางโจมตีมาที่เท้าของพวกเขา

“อ๊าก! มากันเต็มเลย!”

นักเล่นแร่แปรธาตุสองสามคนนั้นรีบกระโดดขึ้นไปหลบบนต้นไม้ บางคนก็หยิบยาออกมาโปรยข้างหน้าเพื่อไม่ให้มังกรมุดดินเข้าใกล้ แม้แต่เฉินเต้าที่เห็นก็ตกตะลึงไม่ต่างกัน

แต่เขารู้แล้วว่าเจ้าสิ่งนี้กลัวไฟ จึงรับมือได้ไม่ยากนัก เพียงแต่ เมื่อเห็นพวกนักเล่นแร่แปรธาตุต่างพากันปีนขึ้นไปหลบบนต้นไม้เหมือนลิงค่าง เขาก็เป่าหนวดถลึงตาและด่ากราดด้วยความเดือดดาล

“พวกเจ้าแต่ละคนไม่ละอายบ้างหรือ? แต่ละคนอายุปูนนี้แล้วยังปีนขึ้นไปหลบบนต้นไม้เหมือนลิงไม่มีผิดอีก? นี่คิดจะปล่อยให้ข้าเป็นคนฆ่าเจ้าหนอนพวกนี้คนเดียว? มีคนแล้งน้ำใจและขี้ขลาดเช่นนี้อยู่ด้วยหรือ? พวกเจ้าไม่อายบ้างหรือไร!”

พวกเขาถูกต่อว่าเช่นนั้น ใบหน้าก็แดงก่ำด้วยความละอายใจเล็กน้อย แต่กลับไม่ลงไป ซ้ำยังบอกว่า “ศิษย์พี่เฉิน ท่านเป็นหัวหน้านะ ย่อมต้องรับผิดชอบและปกป้องพวกข้าไม่ใช่หรือ? ท่านคิดว่าตำแหน่งหัวหน้ามีไปอย่างนั้นหรือ!”

“อีกอย่าง พลังต่อสู้ของพวกข้าก็ไม่ได้เรื่อง แต่ศิษย์พี่เฉิน ท่านต่างกับพวกข้านี่! ในสายตาท่านมังกรมุดดินพวกนั้นเป็นแค่หนอนตัวน้อย ในสายตาพวกข้าพวกมันตัวใหญ่มหึมา ท่านสามารถฆ่ามันด้วยดาบเดียว แต่พวกข้าอาจถูกกินได้ทุกเมื่อเลยนะ”

ได้ยินประโยคนั้น เฉินเต้าทั้งขำทั้งโกรธ ดูคนพวกนี้พูดเข้าสิ? คนขี้ขลาดย่อมมีเหตุผลของคนขี้ขลาด ขายหน้าลูกผู้ชายจริงๆ

ขณะกำลังคิด ก็เห็นมังกรมุดดินที่สีไม่เข้มมากตัวหนึ่งกระโจนเข้ามาทางเขา เขาแค่นเสียง รวบรวมเปลวไฟใส่กระบี่ยาวในมือได้ที่แล้วก็ฟาดฟันลงไป เมื่อมังกรมุดดินตัวนั้นถูกฟันขาดเป็นสองท่อน เขาใช้กระบี่คมในมือตวัดซากมังกรมุดดินสองชิ้นนั้นขึ้นมา แล้วใช้ใบมีดซัดมันใส่พวกคนที่อยู่บนต้นไม้

พวกนั้นไม่ทันตั้งตัว รู้แค่ว่ามีบางสิ่งพุ่งเข้ามา จากนั้นก็กระแทกเข้ากลางอกของพวกเขา เมื่อสัมผัสเย็นเยียบถูกหน้าอกของพวกเขา พวกเขาก้มลงมอง ก็อดไม่ได้ที่จะร้องตะโกนเสียงดังลั่น

“อ๊าก!”

หลังจากนั้น ทุกครั้งที่เฉินเต้าฆ่ามังกรมุดดินก็จะขว้างซากศพมาทางพวกเขา ที่น่าชังที่สุดคือเขาซัดมังกรมุดดินตัวหนึ่งที่ค่อนข้างตัวเล็กใส่พวกเขาโดยตรง

“อ๊าก! เฉินเต้า! ใครเขาทำเช่นเจ้ากัน! เจ้า เจ้าทำเกินไปแล้ว!”

“อุแหวะ!”

บ้างก็ร้องด้วยความตกใจ บ้างก็อาเจียน ชั่วขณะหนึ่ง พวกคนที่อยู่บนต้นไม้ชุลมุนวุ่นวาย สุดท้ายทนไม่ไหว ทำได้เพียงลงจากต้นไม้ เพียงแต่ ทั่วตัวเต็มไปด้วยของเหลวจากตัวมังกรมุดดิน กลิ่นเหม็นจนเกินทน

“ศิษย์พี่เฉิน พวกเขาอยู่นี่!”

เสียงของเฟิ่งจิ่วดังมาจากข้างหน้า หลังจากเฉินเต้าจัดการมังกรมุดดินพวกนั้นเสร็จก็รวบรวมพลัง บินมายืนข้างเฟิ่งจิ่ว เห็นในหลุมโคลนหลุมนั้น ลั่วเหิงและคนอื่นกำลังนอนหมดสติอยู่ในนั้น ถึงจะไม่ขยับเขยื้อนเลย แต่ดูจากกลิ่นอายของพวกเขาน่าจะไม่เป็นอะไรมาก

พอเห็นว่าพวกเขาไม่เป็นอะไร เฉินเต้าก็อดหัวเราะเบาๆ ไม่ได้ แล้วพูดติดตลกว่า “ฮะๆ นี่ถูกจับมาเป็นปุ๋ยหรือ?”

………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด