เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 891 สัตว์ร้ายเข้าจู่โจม + 892 ทำลายสิ้นทั้งกองทัพ

Now you are reading เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า Chapter 891 สัตว์ร้ายเข้าจู่โจม + 892 ทำลายสิ้นทั้งกองทัพ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 891 สัตว์ร้ายเข้าจู่โจม + ตอนที่ 892 ทำลายสิ้นทั้งกองทัพ

ตอนที่ 891 สัตว์ร้ายเข้าจู่โจม

เหล่าผู้ฝึกวิชามารเพียงเห็นว่าขณะที่ผู้ฝึกวิชามารระดับกำเนิดวิญญาณหมุนตัวจะหนี ในค่ำคืนร่างสีแดงด้านหลังตามติดไปไม่ปล่อยราวกับผีร้ายที่ปีนขึ้นมาจากขุมนรก คนวิ่งหนีด้านหน้า เขาไล่ตามไปด้านหลัง เสียงสองคนต่อสู้กันดังขึ้นบ่อยครั้ง ระหว่างที่สองคนสู้กันป่าไม้รอบๆ ก็ถูกสะเทือนแตกฟันขาด เศษหินลอยฟุ้ง กระแสลมเป็นดั่งใบมีด พวกเขาตกใจเสียจนไม่กล้าเข้าไป

เด็กหนุ่มคนนั้นเป็นเพียงผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐานจริงๆ หรือ? ผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐานจะเป็นคู่ต่อสู้ผู้ฝึกวิชามารระดับกำเนิดวิญญาณได้อย่างไร? ซ้ำยังจัดการเสียจนทำให้ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณขายหน้าไม่สิ้นสุด?

ยามนี้พวกเขาคิดจะถอยไปในทันใด อยากจะหนีไปจากที่นี่ คนฉลาดยังมองออกว่าแม้แต่ผู้ฝึกวิชามารระดับกำเนิดวิญญาณยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ ไม่ต้องพูดถึงพวกเขาหรอก

“พวกเราไป!”

ไม่รู้ว่าใครตะโกน เห็นสถานการณ์ไม่ดีนัก พวกเขาจึงคิดจะหนีไป ทว่าเมื่อกระตุ้นกลิ่นอายพลังวิญญาณเตรียมจะร่อนกระบี่ออกไป กลับพบว่ากลิ่นอายยุ่งเหยิงไม่อาจรวบรวม

“แย่แล้ว! ในอากาศมียาพิษ!”

ผู้ฝึกวิชามารระดับหลอมแก่นพลังคนหนึ่งในนั้นชำนาญเรื่องพิษ พูดได้ว่าพบปัญหาตั้งแต่แรก พบว่าพิษพวกนั้นไร้สีไร้กลิ่น และออกฤทธิ์ไม่เร็ว กลับกัดกร่อนร่างกายพวกเขาจากภายในก่อน ทำให้พวกเขาไม่อาจรวบรวมพลังวิญญาณหนีไปหรือต่อสู้ได้

“นะ นี่คล้ายกับยาคร่าชีวิตล่าวิญญาณ…”

สีหน้าผู้ฝึกวิชามารระดับหลอมแก่นพลังเปลี่ยนไปยกใหญ่ สีเลือดหายไปหมด เขาที่คุ้นเคยกับยาพิษวินิจฉัยจากอาการในร่างกายได้ มันคล้ายคลึงกับยาของเขาบางส่วน กลับถูกปรับเปลี่ยนเพิ่ม แต่คนที่สัมผัสยาพิษนี้จะไม่ในเวลาสั้นๆ แต่พอเรียกกระแสลมในร่างจะไม่มีทางรวบรวมได้ ยิ่งฝืนรวบรวมจะเร่งยาพิษให้ไหลเวียนในเลือด…

ฝีเท้าเขาถอยหลังไปทันควัน มองหนุ่มน้อยที่ต่อสู้กับผู้ฝึกวิชามารระดับกำเนิดวิญญาณด้วยความประหลาดใจ

เป็นเขา! ในขณะที่พวกเขาไม่รู้ตัวและไม่ระวังเขาอาศัยการต่อสู้โปรยยาพิษในอากาศ! เขาหยิบยาแก้พิษออกมาอย่าสั่นเทาและคิดจะกินลงไป ไม่ว่าเป็นพิษอะไรต้องกินยาแก้พิษก่อนค่อยว่ากัน

ทว่าเพียงเห็นเขาหยิบยาแก้พิษออกมาคิดจะกิน ผู้ฝึกวิชามารระดับหลอมแก่นพลังข้างๆ ดวงตาต่างแดงจัด เข้าไปยื้อแย่ง “เอายาแก้พิษมาให้ข้า!”

“ให้ข้า!”

“ให้ข้า!”

แต่ละคนไม่กล้าใช้กลิ่นอายพลังวิญญาณ ถึงใช้กำลังแก่งแย่งกันตรงนั้น ยื้อยุดฉุดกระชากราวกับหญิงปากร้าย ไม่มีภาพพจน์ผู้ฝึกตนสักนิด แต่คนพวกนี้เดิมทีเป็นเพียงผู้ฝึกวิชามาร ไม่สนใจสายตาคนอื่น ผู้ฝึกวิชามารส่วนมาล้วนเห็นแก่ตัว สนใจแค่ตนเอง สนใจว่าคนอื่นจะเป็นหรือตายเสียที่ไหน?

เวลานี้เองเสียงจังหวะดนตรีแปลกๆ ก็ลอยมาจากในความมืด เสียงนั้นเล็กละเอียดบางครั้งเร็วบางครั้งช้า เข้ามาใกล้จากไกลๆ เมื่อพวกเขากำลังคิดว่าใครไม่รู้ที่ตายมาเป่าเพลงที่นี่ตอนเที่ยงคืน ก็ได้ยินเสียงคำรามจ้าละหวั่นลอยมา

“กรร!”

“กรร!”

“กรร…”

เสียงสัตว์ร้ายคำรามแต่ละเสียงดังชัดเจนแปลกๆ ในยามค่ำคืน เสียงฝีเท้าที่ทั้งหนักและวุ่นวายโผพุ่งออกไปราวกับสายฟ้า สะเทือนเสียจนแผ่นดินล้วนสั่นไหว ยามนี้คนพวกนั้นเพียงเห็ยสัตว์ร้ายพวกนั้นที่ปกติเห็นยังไม่ขมวดคิ้ว สีหน้าแต่ละคนขาวซีดอย่างตื่นตระหนก

“สัตว์ร้าย! บ้าจริง! ทำไมถึงมีสัตว์ร้ายมากมายเพียงนี้!”

เห็นสัตว์ร้ายกว่าร้อยตัวพุ่งออกมาจากด้านใน บางตัวล้อมพวกเขาไว้อย่าวรวดเร็ว บางตัวกระโจนเข้ามากัดพวกเขา ทันใดนั้นแต่ละคนก็อุทานกันไม่ขาดสาย พยายามจะหนีไปกลับพบว่าสัตว์ร้ายและสัตว์วิญญาณพวกนั้นปิดตายเส้นทางไว้หมดแล้ว

ไป๋เสี่ยวนั่งบนหลังเสือร้ายตัวหนึ่ง ตรงไหล่มีเลือดไหล อสูรกลืนเมฆาตามมาข้างกาย ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน…

………………………………………………….

ตอนที่ 892 ทำลายสิ้นทั้งกองทัพ

ด้านหลังเขาพวกเหลิ่งซวงยังเดินตามออกมาด้วย บนร่างล้วนมีร่องรอยหลังผ่านการต่อสู้มา ชัดเจนว่าสู้กับคนที่แอบเข้ามาภูเขาด้านหลังเงียบๆ นั้น

“นายท่าน คนตรงภูเขาด้านหลังจัดการหมดแล้วขอรับ”

ไป๋เสี่ยวตะโกน เห็นผู้ฝึกวิชามารระดับกำเนิดวิญญาณคนนั้นล่าถอยไปทีละก้าวในเงื้อมมือนาง จึงถือเครื่องดนตรีในมือขึ้นไปไว้ตรงปากและเริ่มเป่า เมื่อเสียงเครื่องดนตรีดังขึ้น สัตว์ร้ายพวกนั้นแต่ละตัวก็พุ่งไปกัดทึ้งผู้ฝึกตนพวกนั้นอย่างบ้าคลั่ง ไม่ต้องให้พวกเขาลงมือ เหล่าผู้ฝึกวิชามารที่ใช้กลิ่นอายพลังวิญญาณต่อสู้ไม่ได้แต่ละคนก็ถูกฉีกกลายเป็นชิ้นๆ ภายใต้กรงเล็บสัตว์ร้าย

เสียงกรีดร้องรุนแรงลอยไปในอากาศพร้อมกับกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง เวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป บนพื้นก็คลุมเครือไปด้วยเลือดเนื้อ ผู้ฝึกวิชามารสิบกว่าคนไม่มีใครรอด…

“อ๊าก!”

เสียงกรีดร้องลอยมา สายตาพวกไป๋เสี่ยวมองไปทางนั้น เพียงเห็นว่าขาข้างหนึ่งในนั้นของผู้ฝึกวิชามารระดับกำเนิดวิญญาณถูกกระบี่คมพยับตัดขาดเสียดื้อๆ ร่างกายยังกระเด็นออกไปเพราะเหตุนี้ หลังจากล้มลงบนพื้นก็ลุกขึ้นมาไม่ได้อีก

เฟิ่งจิ่วเดินไปใกล้ทีละก้าวๆ มองผู้ฝึกวิชามารทั้งตัวมีแต่เลือดดิ้นรนคร่ำครวญอยู่บนพื้น จิตสังหารในดวงตาปั่นป่วน “คิดดีหรือยังว่าจะตายเช่นไร?”

ผู้ฝึกวิชามารถูกตัดหนึ่งมือหนึ่งขา ไม่มีทางหลบเลี่ยงหรือหนีไปได้ ทำได้เพียงทรุดนั่งตรงนั้นและจ้องมองเฟิ่งจิ่วที่มีไอสังหารทั่วร่าง “เจ้าเป็นใครกันแน่? วรยุทธ์ระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุดทำร้ายข้าถึงขั้นนี้ได้ด้วยหรือ? เจ้าเป็นใครกันแน่!”

“เหอะ แม้แต่ข้าเป็นใครยังไม่รู้ ก็กล้ามายั่วยุข้า?” เธอยิ้มเย็น กระบี่คมในมือชี้ตรงไปยังจุดตันเถียนเขา “อย่าคิดจะพยายามใช้วิญญาณต้นหนีไป คนที่ข้าอยากฆ่า ยังไม่เคยมีใครหนีรอดไปได้เลย”

สีหน้าผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณขาวซีด เหงื่อเม็ดเท่าถั่วไหลมาจากหน้าผาก เขาจ้องมองเฟิ่งจิ่วตรงหน้า พร้อมยิ้มชั่วร้ายขึ้นมา กัดฟันกรอดคิดจะระเบิดร่างฆ่าตัวตาย ใครรู้ว่าเฟิ่งจิ่วที่หยั่งรู้เจตนาเขาจะยิงเข็มเงินสองสามเล่มในมือออกไป ร่างกายจึงเป็นอัมพาตราวกับหมดสติ

“พาเขากลับไป อย่าให้เขาตายง่ายๆ” เธอเอ่ยเสียงเย็น แล้วชำเลืองมองผู้ฝึกวิชามารคนอื่นรอบๆ ที่ตายไป บอกคนอื่นว่า “เก็บกวาดเสีย” จากนั้นค่อยสาวก้าวเข้าไปด้านในคฤหาสน์

สังหารคนพวกนั้นไปก็ยังไม่ทำให้เธอหายเจ็บใจ ฆ่าคนพวกนั้นไป เซี่ยงหวาก็ไม่กลับมามีชีวิตอีก เขาติดตามข้างกายเธอมาไม่นาน ภายในห้วงความคิดราวกับยังมีเสียงเขาปฏิญาณตนดังกึกก้อง

แต่คนเช่นนี้ ยามนี้กลับตายไปเสียแล้ว

เธอรู้ว่านี่อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นและยังไม่สิ้นสุด ขอแค่เธอเดินไปบนเส้นทางนี้ คนข้างกายล้วนมีความเป็นไปได้ที่จะเผชิญหน้ากับทั้งหมดนี้ มาเหนื่อยเพราะเธอ และตายไปเพราะเธอ

ทุกคนมองนางถือกระบี่คมพยับเดินไปข้างในคฤหาสน์ ในใจทอดถอนใจอย่างอดไม่ได้ กลับไม่รู้จะพูดอะไร จำใจต้องฟังคำพูดนางและจัดการที่นี่เสียก่อน

การตายของเซี่ยงหวา สิ่งที่นำมาให้พวกเขาคือการโจมตีและคำเตือน ทำให้พวกเขารู้ว่าหากมีคนคิดเอาชีวิตพวกเขาและวางหลุมพรางจริงๆ ด้วยกำลังพวกเขาตอนนี้มีเพียงจุดจบที่ต้องรับความตายอย่างไม่อาจต่อต้าน

“คนบาดเจ็บหนักกลับไปทำแผลก่อน คนบาดเจ็บไม่มากไปทำความสะอาดพื้นที่กับข้า” ตู้ฝานกล่าว แล้วพาสองสามคนที่บาดเจ็บไม่หนักไปจัดการศพด้านนอกทั้งหมดเสียก่อน

หลัวอวี่กับสวี่ตัวย้ายผู้ฝึกวิชามารระดับกำเนิดวิญญาณคนนั้นเข้าไปด้านใน หลังขังไว้คุกใต้ดินถึงจะออกไป มาถึงด้านนอกทั้งสองมองยังเรือนเฟิ่งจิ่ว ในใจถอนใจเบาๆ ก่อนจะหมุนตัวกลับเรือนไปจัดการบาดแผลเสียก่อน

………………………………………………….

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *