เหล่าผู้หญิงที่ทำให้ผมช้ำชอกใจต่างก็จับจ้องมาที่ผม แต่ผมเกรงว่ามันน่าจะสายไปแล้วล่ะ 35: อารมณ์ความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคย

Now you are reading เหล่าผู้หญิงที่ทำให้ผมช้ำชอกใจต่างก็จับจ้องมาที่ผม แต่ผมเกรงว่ามันน่าจะสายไปแล้วล่ะ Chapter 35: อารมณ์ความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อารมณ์ความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคย

 

ตอนนี้ผมกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยจะดีนัก ผมชื่อ ยูกิโตะ โคโคโนเอะ

 

“ร้อนจัง…….” (ยูกิ)

 

มันก็ดูไม่ค่อยจะสมเหตุสมผลที่ต้องพูดมันออกมาแบบนี้ แต่ผมก็ช่วยไม่ได้ ก็นี่มันก็เป็นธรรมดาที่จะต้องพูดแบบนี้ออกมานี่ มันก็ช่วยไม่ได้แหล่ะ ก็เพราะว่าวันนี้มันมีอุณหภูมิที่เกิน 30 องศาเซลเซียสอีกวันนึงแล้ว ดวงอาทิตย์ในฤดูร้อนที่ร้อนแรงกำลังส่องแสงลงมาที่ผม พร้อมด้วยเสียงจั๊กจั่นที่ร้องมิ้งๆเป็นเพลงประกอบฉาก แล้วมันก็ทำให้ผมสัมผัสได้ถึงความเป็นธรรมชาติแบบนี้ และก็ไม่ใช่เพราะว่าผมนั้นจะตกใจกับภาพที่อยู่ตรงหน้านี้นะ ไม่ใช่ว่าผมนั้นถูกบรรยากาศเหล่านี้กดดัน แต่ถ้าหากจะมีอะไรที่จะดูสมเหตุสมหน่อยแล้วนั้น มันก็คือความเป็นจริงของผมที่ออกจะเข้าใจเหตุผลได้ง่ายดายเลยล่ะ

 

ก็เพราะว่าผมกำลังเดินไปห้างสรรพสินค้าน่ะสิ เมื่อผมนั้นโตขึ้นและผมก็ต้องตัวใหญ่ขึ้น ชุดว่ายน้ำที่ผมนั้นเคยใส่ตั้งแต่ตอนมัธยมต้นมันก็เล็กเกินไปแล้ว ผมน่ะไม่ค่อยมีโอกาสจะได้ใส่มันหรอกนะ เพราะว่าผมนั้นใช้ชีวิตอยู่แค่เฉพาะในห้องเรียน ซึ่งเรื่องนี้มันจะไม่น่าจะเกิดขึ้นเลยถ้าหากผมไม่ได้รับเชิญจากพวกคนที่โตๆแล้วน่ะ

 

ก็ มิโอะ กับ ทริสตี้ น่ะได้มาขอให้ผมนั้นไปช่วยเลือกชุดว่ายน้ำสำหรับพวกเธอด้วย แต่ว่าผมเองก็ปฏิเสธไป เพราะเนื่องจากผมไม่มันใจเลยว่าจะวางตัวยังไง แถมผมก็ยังไม่เคยมีแฟนมาก่อน ดังนั้นนี่จึงเป็นงานที่ไม่น่าจะเป็นไปได้สำหรับผม นี่มันก็เหมือนกับเป็นงานของโรคุฮาระ(ตำแหน่งดูแลราชสำนักในสมัยโชกุน) โดยเฉพาะกับลูกครึ่งอย่างทริสตี้ ผมเองก็ไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไรหรอกนะ แต่เธอนั้นก็ดูน่าทึ่งเอาเสียในทุกๆด้านเลยล่ะ และทั้งคู่นั้นต่างก็ดูมีสไตล์ที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะแอร์แบ็คของพวกเธอนั่น!

 

พอผมออกมาจากสถานีรถไฟแล้ว ผมก็ได้เจอกับเจ้าของร่างที่ดูคุ้นๆอยู่ไกลๆ พร้อมกับแอร์แบ็คที่เด้งดึ๋ง สมกับเป็นคนที่อยู่ใจกลางของวังน้ำวนนั่น และนั่นก็คือทริสตี้ ที่มีผมสีทองเปล่งเป็นประกายของเธอ มันช่างโดดเด่นมากแม้กระทั่งกับผู้คนรอบๆทั่วไป ผมสงสัยว่าผมนั้นควรจะเรียกเธอออกไปไหม แต่ก็ได้หยุดตัวเองเอาไว้ เพราะความสัมพันธ์ของผมกับทริสตี้ซังนั้นมันค่อนข้างจะแปลกประหลาด เนื่องจากผมที่เป็นผู้เสียหายและเธอซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด พวกเรานั้นได้ไปพบกันโดยบังเอิญจากโชคชะตา มันจึงเป็นเรื่องแปลกที่ผมจะได้รับการชวนจากคนๆนี้

 

ทั้งทริสตี้ และก็มิโอะ นั้นได้ชวนผม ว่าผมนั้นอยากจะไปว่ายน้ำด้วยกันไหม? พวกเขาบอกมาว่ามันเป็นการแทนคำขอโทษ แต่ว่าตอนนี้ผมก็ชักจะเริ่มรู้สึกเสียใจที่ได้ตัดสินใจยอมรับปากไปซะแล้วสิ บางทีอาจเป็นเพราะความรู้สึกผิดของผมเอง เพราะทริสตี้นั้นใจดีกับผมมาก แต่มันก็ไม่ดีเพราะผมดันได้ไปรับปากอย่างง่ายดาย

 

“ก็นะ เธอนั้นออกจะสวยนี่ เธอก็ต้องมีแฟนอยู่แล้วสินะ” (ยูกิ)

 

ผู้ชายที่อยู่ข้างๆเธอนั้นก็คงเป็นแฟนของเธอ ผู้ชายหล่อกับผู้หญิงสวย ผมเองก็ไม่แน่ใจหรอกนะว่าเธอน่ะรอเขาอยู่หรือเปล่า แต่เธอก็ได้วิ่งเข้าไปหาเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม และทริสตี้ก็กอดเขาเข้าอย่างแรง และทั้งสองคนก็กอดกันและกัน แถมดูเข้ากันได้ดี พวกเขาดูจะเป็นแบบอย่างของคู่รักในอุดมคติเลยล่ะ

 

ผมชักจะสงสัยแล้วว่านี่มันจะเป็นความคิดที่ดีจริงๆเหรอนี่ หรือจริงๆแล้วผมไม่ควรที่ยอมรับคำเชิญของเธอกันล่ะเนี่ย เพราะจากมุมมองของแฟนหนุ่มของทริสตี้แล้ว ตัวผมมันก็เป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากก้าง และผมก็ได้รับการขอโทษและค่าเสียหายสำหรับอุบัติเหตุนั้นแล้วด้วย นั่นก็น่าจะเป็นจุดสิ้นสุดของความสัมพันธ์นี่ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ทริสตี้จะต้องมายุ่งกับผมอีกต่อไปซะหน่อย

 

ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่แค่เราสองคน แต่ผมก็ไม่คิดว่าแฟนของเธอจะรู้สึกดีที่เธอจะต้องไปสระว่ายน้ำกับผู้ชายคนอื่นหรอกนะ แล้วนี่ผมควรทำอย่างไรดีเนี่ย? ผมว่าผมกำลังจะมีปัญหาแล้วสิ.……

 

เนื่องจากความร้อนที่ยังคงแผ่เข้ามาหาผม ผมก็เลยต้องไปที่ร้านกาแฟที่อยู่ใกล้ๆเพื่อที่หลบร้อน แล้วเมื่อผมสั่งกาแฟเย็น ผมก็ได้นึกย้อนไปถึงเรื่องเมื่อวาน

 

ดูเหมือนว่าชิโอริ จะถูกสารภาพรักจากซูซูกิ นักเรียนปีสอง ที่เป็นว่าที่เอซคนต่อไปของทีมเบสบอล และก็เธอมาที่บ้านของผมพร้อมกับพูดว่า “ฉันได้ปฏิเสธเขาอย่างเหมาะสมแล้วล่ะนะ ยูกิ!” เธอนั้นบอกผมมาด้วยรอยยิ้มที่ร่าเริงเหมือนเช่นเคย

 

พอคิดถึงเรื่องนี้แล้ว ผมก็รู้สึกไม่สบายใจเลยแม้แต่น้อย ชิโอริบอกผมว่าเธอชอบผม ฮิอิรางิเองก็เช่นเดียวกัน แต่ผมก็ยังไม่ได้ให้คำตอบกับพวกเธอ

 

ก็นี่ผมน่ะ มันเป็นแค่คนงี่เง่าคนนึงใช่มั้ย

 

ผมน่ะเป็นคนที่เก็บตัวนะ อันที่จริงแล้วผมน่ะอยากจะพักมันเอาไว้ก่อน! แม้แต่กับประธานไคโดะและรุ่นพี่โทโจด้วย ถึงผมจะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไง ผมก็ยังคงไม่สามารถตอบกลับให้กับความรู้สึก “โปรดปราน” ของพวกเธอได้เลย ผมมันช่างเป็นเป็นไอ้โง่ได้อย่างไร้แก่นสารจริงๆ

 

นี่มันแย่จริงๆนะ……. ผมไม่เคยมองคนอื่นแบบที่ผมนั้นมองตัวเองเลย ผมนั้นเคยคิดว่าผมน่ะถูกปฏิเสธ โลกของผมนั้นมีแต่ตัวผมเพียงคนเดียว แต่ตอนนี้ผมก็ได้รู้แล้วว่ามันไม่ใช่ และผมน่ะก็ได้คว้ามือที่ยื่นส่งมาให้กับผมแล้วด้วย

 

ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่ารุ่นพี่ซูซูกิ นั้นเป็นคนยังไง ผมก็ไม่รู้ว่าเขาสารภาพกับเธอแค่เล่นๆ หรือว่าเขาจะจริงจังกับมัน แต่ถ้าเป็นการสารภาพที่จริงจัง ซูซูกิ ก็มองชิโอริ อย่างตรงไปตรงมาได้มากกว่าที่ผมนั้นทำ หรือบางทีซูซูกิ อาจจะเป็นคนที่ทำให้ชิโอริได้มีความสุขก็เป็นได้ บางทีพวกเขาทั้งคู่อาจจะมีอะไรที่เหมือนๆกัน ที่จะยอมรับความอ่อนโยนที่ชิโอริแสดงให้เขาได้เห็น

 

มันถูกต้องแล้วหรือเปล่าที่ชิโอริจะปฏิเสธเขา? มันเป็นความคิดที่ไกลเกินไป ตราบใดที่เธอได้ปฏิเสธด้วยความตั้งใจของเธอเองแล้ว ผมก็คงจะพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ได้ แต่ถ้าหากว่าผมนั้นสามารถให้คำตอบกับเธอได้เร็วกว่านี้ เช่น ถ้าผมตอบไปว่าผมไม่สามารถตอบรับความรู้สึกของชิโอริได้ เธอเองก็อาจมีทางเลือกอื่นเพิ่มขึ้นได้ แล้วคำสารภาพของรุ่นพี่ซูซูกิอาจจะได้รับการตอบสนอง

 

 -ผมมันช่างเป็นคนที่โหดร้ายซะจริงๆ

 

ผมยังสงสัยว่าผมนั้นจะสามารถรักใครได้อีกไหม จะมีวันนั้นมาถึงได้หรือไม่? ผมจะสามารถทำให้พวกผู้หญิงที่มีส่วนในเรื่องนี้นั้น ยังคงเป็นแบบนี้เอาไว้ตลอดไปได้หรือเปล่า? การเพิกเฉยแบบนี้ไปเรื่อยๆไว้นานๆ โดยที่ยังคงไม่มีคำตอบ และหลีกเลี่ยง “ความรัก” อยู่ต่อไปแบบนี้ เพราะว่าผมเองนั้นก็ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร นี่ก็อาจจะทำให้พวกเธอนั้นต้องสูญเสียอนาคตและความเป็นไปได้ดีๆของพวกเธอไป

 

 นี่ผมจะได้รับการยินยอมให้ได้อยู่ใกล้ชิดกับพวกผู้หญิงเหล่านี้จริงๆหรือ?

 

————————————————————

 

 

[มุมมองของจากอีกฝั่งของทริสตี้]

 

“ลีออน ไม่ได้เจอกันซะนานเลยนะ! ตอนนี้คุณจะมาอยู่ที่ญี่ปุ่นแล้วใช่ไหม?” (ทริสตี้)

 

“ใช่ ในที่สุดฉันก็มีโอกาสย้ายมาที่นี่ด้วยตัวเองแล้วน่ะ” (ลีออน)

 

และก็เป็นเวลาสามปีแล้วที่ทริสตี้ไม่ได้พบกับลีออนพี่ชายของเธอ ในขณะที่ทริสตี้และครอบครัวของเธอเตรียมจะย้ายไปญี่ปุ่น ลีออนพี่ชายของเธอนั้นเป็นคนเดียวที่ยังอยู่ต่างประเทศเพราะงานมีที่ต้องทำอยู่ และในที่สุด พี่ชายของเธอก็ถูกรับจากงานใหม่นี้ และตัดสินใจจะมาใช้ชีวิตในญี่ปุ่นตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนนี้ แต่อย่างไรก็ตาม เขายังคงไม่ชินกับฤดูร้อนของญี่ปุ่น จึงมีเหงื่อที่ออกมามากท่ามกลางแดดที่ร้อนร้อนระอุ

 

“บ้านคุณอยู่ไกลแค่ไหนน่ะ?” (ทริสตี้)

 

“มันอยู่ห่างจากสถานีแค่ 20 นาที และฉันสามารถมาพบเธอได้ทุกเมื่อที่ต้องการเลยล่ะ” (ลีออน)

 

“เยี่ยมเลย พ่อกับแม่คงจะดีใจมากแน่!” (ทริสตี้)

 

“ฉันขอโทษที่จะต้องถามมันนะ แต่เธอเพิ่งประสบอุบัติเหตุใช่ไหมนี่ เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” (ลีออน)

 

“ใช่ และผู้ชายคนนั้นก็เป็นคนดีมากด้วย” (ทริสตี้)

 

“ฉันรู้สึกตกใจนะในตอนที่แม่บอกฉันน่ะ ฉันเองก็ดีใจที่ทริสตี้ไม่เป็นไร” (ลีออน)

 

พวกเราเดินไปรอบๆห้างด้วยกัน พูดคุยกันในแบบพี่น้อง และเหตุผลที่ทริสตี้ได้มาพบกับลีออนที่นี่ก็คือการหาซื้อของบางอย่างให้กับพี่ชายของเธอที่เพิ่งจะย้ายมาอาศัยอยู่ที่นี่ด้วย เพราะว่าลีออนจะต้องอยู่คนเดียว

 

 และหลังจากจบทริปช็อปปิ้งแบบด่วนๆนี้แล้ว ทริสตี้ก็ได้มุ่งหน้าไปยังจุดหมายของเธอ

 

“โอ้ นี่จะซื้อชุดว่ายน้ำด้วยเหรอ?” (ลีออน)

 

“คุณก็ควรเลือกสักตัวนึงด้วยนะ ลีออน คุณยังไม่มีเลยใช่ไหมล่ะ?” (ทริสตี้)

 

“นี่เธอกำลังหาชุดว่ายน้ำแฟนซีสวยๆนี่ นี่เธอมีแฟนแล้วงั้นเหรอ?” (ลีออน)

 

“ไม่ ฉันยังไม่มี! ยูกิโตะไม่ใช่อะไรแบบนั้น ……” (ทริสตี้)

 

“อุฟ ฉันเดาว่าฉันพูดโดนกลางเป้าเผงเลยสินะ ครั้งหน้าต้องเอาเขามาแนะนำตัวด้วยล่ะ” (ลีออน)

 

“ไม่นะ ฉันยังไม่ใช่! ยูกิโตะน่ะเป็นคนที่ประสบอุบัติเหตุจากฉันน่ะ” (ทริสตี้)

 

“อะไรล่ะนั่น? นี่เธอกำลังหมายถึงว่าเขาเป็นคู่ในโชคชะตาอย่างนั้นรึเนี่ย?” (ลีออน)

 

“มันไม่ใช่แบบนั้นนะ!” (ทริสตี้)

 

ถึงทริสตี้นั้นจะปฏิเสธ แต่เธอรู้สึกได้ว่าหน้าของเธอนั้นแดงก่ำ และลีออนก็ยิ้มอ่อนเมื่อมองดูน้องสาวที่เลือกชุดว่ายน้ำด้วยสายตาที่จริงจัง

 

—————————————————————–

 

 

[มุมมองของยูกิโตะ]

 

“ขอโทษนะครับ แต่ว่านี่มันไม่ใช่ห้องของผมรึนี่?” (ยูกิ)

 

“ฉันรู้อยู่แล้วน่า” (ยูริ)

 

“และนั่นก็ดูเป็นวิธีที่เยี่ยมยอดสำหรับการเริ่มต้นบทการสนทนาซะจริงนะ” (ยูริ)

 

“ขอบคุณครับ” (ยูกิ)

 

“นั่นไม่ใช่คำชม……” (ยูริ)

 

ตอนนี้พี่สาวของผมก็กำลังอยู่ในห้องของผมหลังจากที่ได้อาบน้ำเสร็จด้วยเหตุผลอะไรสักอย่าง เธอนั้นน่ะดูมีเสน่ห์มากๆ และก็ดูเหมือนเธอจะไม่ได้เข้าใจผิดว่าห้องของผมเป็นห้องของเธอเองด้วยสิ ผมคิดว่าผมคงจะเข้าใจผิดไปเองเพราะปกติเธอเป็นคนเปิดเผยและซื่อตรงมาก ซึ่งมันเห็นได้ชัดเลยว่าผมนั้นคิดผิด

 

เมื่อไม่นานมานี้ ผมคิดว่าพี่สาวของผมดูจะปกป้องผมมากเกินไปอย่างไม่น่าเชื่อ ผมเคยคิดเข้าใจเธอผิดในตอนที่อายุ 3 ขวบหรืออะไรประมาณนั้น มันคงอาจจะเป็นเพราะหลายสิ่งหลายอย่างที่ได้เกิดขึ้นกับเธอในอดีต แต่ว่านั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอควรได้รับการยินยอมให้ทำอวด(ของ)ดีแบบนี้ ผมที่ได้เห็นบั้นท้ายของพี่สาวที่กำลังนอนอยู่บนเตียงแล้วถึงกับต้องรีบเบือนหน้าหนีในทันที ให้ตายสิแม้ว่าเธอเป็นพี่สาวของผมก็เถอะ แต่เธอก็เป็นผู้หญิงนะ ผมจะไม่ปล่อยให้มันเป็นแบบนี้หรอกนะ คุณซัคคิวบัส! แล้วทำไมจะต้องใส่กางเกงขาสั้นกุดแบบนั้นด้วยเนี่ย บ้าจริง!

 

“อ้อ อีกอย่างนึง หน้าอกฉันโตขึ้นอีกแล้วนะ” (ยูริ)

 

“ผมคงไม่มีโอกาสได้เข้าร่วมบทสนทนาต้องห้ามสำหรับผู้ชายหรอกนะครับ” (ยูกิ)

 

“ฉันว่าคงต้องซื้อเสื้อชั้นในใหม่ ดังนั้น หลังจากนี้ก็ช่วยวัดตัวให้ฉันทีนะ” (ยูริ)

 

“Why?” (ยูกิ) [พูดเป็นภาษาอังกฤษ]

 

ผมนั้นอดไม่ได้ที่จะตอบสนองออกไปเหมือนพวกคนที่คลั่งไคล้คนต่างชาติ นี่อยากให้ผมวัดขนาดหน้าอกเธอเรอะ!? ความอวด(ของ)ดีของพี่สาวผมนั้นดูจะไร้ซึ่งขอบเขตเอาซะแล้วสิ นี่มันยังกะชื่อของนิยายสักเรื่องนึงเลย ผมชักจะสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเบรคในตัวของพี่สาวของผมแล้วสิ ว่าแต่จะขอคืนคืนสินค้านี้กลับไปจะได้ไม๊นี่? ผมก็ทำได้แค่หวังว่าระบบการขับขี่อัตโนมัติจะถูกนำมาใช้ได้จริงในอีกไม่นานนี้นะ

 

“ก็แค่สำหรับอ้างอิงนะ ว่าแต่มันคัฟอะไรครับ?” (ยูกิ)

 

“E คัฟน่ะ แต่มันก็อึดอัดขึ้นเรื่อยๆนะ ก็น่าจะเป็น F แล้วล่ะ ลัคกี้เลย ใช่ไหมล่ะ? (ยูริ)

 

“แล้วมันมีอะไรที่จะให้ผมดีใจเนี่ย?” (ยูกิ)

 

“นายน่ะวางใจได้เลย” (ยูริ)

 

“เอร๊ยยย” (ยูกิ)

 

ดวงตาของผมมันตายไปแล้ว ตาของผมนั้นคงเป็นเหมือนกับตาปลาที่ตายแล้ว แม้แต่พวกคนคัดปลาก็ไม่สามารถตรวจจับได้แน่

 

“นี่นายไม่มีหนังสือลามกหรืออะไรแบบที่ว่าบ้างเลยเหรอ? ในห้องนี้น่ะไม่มีอะไรแบบนั้นใช่ไหม? (ยูริ)

 

“นี่พี่เป็นซัคคิวบัสสินะ” (ยูกิ)

 

“อะ-? งั้นฉันก็จะกินนายก็แล้วกัน” (ยูริ)

 

“นี่เธอกำลังทำจะอะไรเนี่ย!?” (ยูกิ)

 

ในขณะที่ผมนั้นตัวสั่นด้วยความกลัวเหมือนกับหนูแฮมสเตอร์ที่ถูกศัตรูตามธรรมชาติของมันจ้องเอา โทรศัพท์ก็ได้ดังขึ้น มันไม่ใช่โทรศัพท์มือถือ แต่มันเป็นโทรศัพท์พื้นฐานติดบ้าน แล้วในยุคนี้ การได้รับโทรศัพท์จากโทรศัพท์บ้านนั้นมันก็หาได้ยากนัก 

 

“เดี๋ยวผมไปรับก่อนนะ” (ยูกิ)

 

แล้วผมก็หลุดออกจากเงื้อมมือของซัคคิวบัสมาได้และมุ่งหน้าไปยังห้องนั่งเล่น ผมนั้นตรวจสอบหมายเลขแล้ว แต่ก็เป็นหมายเลขที่ไม่รู้จัก

 

“สวัสดีครับ นี่บ้านโคโคโนเอะ” (ยูกิ)

 

“โอ้ สวัสดี? คือฉันไม่ใช่หัวหน้านะ แต่ว่าฉันเป็นเพื่อนร่วมงานของซากุระฮานะซังน่ะ ตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม?” (???)

 

“มีอะไรผิดปกติรึครับ? ผมได้ยินมาว่าวันนี้พวกคุณมีปาร์ตี้กันนี่” (ยูกิ)

 

“เอ่อ คุณคือยูกิโตะเหรอ? หัวหน้าเค้าอยากให้คุณไปรับเธอที่สถานีน่ะ โอเคไหม?” (???)

 

“แม่ของผมเหรอ? นี่เธอขึ้นรถแท็กซี่เองไม่ได้? (ยูกิ)

 

“อืมม ฉันก็คิดว่าอย่างนั้นเหมือนกันนะ แต่ว่าหัวหน้าอยากให้คุณช่วยมาน่ะ ฉันคิดว่าเธอเมามากและไม่มีสติแล้วน่ะ ฉันจัดการส่งให้เธอขึ้นรถกลับบ้านก็ได้นะ แต่มันก็ดูจะไม่ปลอดภัยสำหรับเธอที่จะต้องกลับบ้านคนเดียวในสภาพนี้น่ะ ดังนั้นช่วยมาพาเธอกลับบ้านด้วยนะ” (???)

 

“เข้าใจล่ะ ผมเข้าใจแล้ว ผมกำลังไป” (ยูกิ)

 

“ได้ แล้วฉันจะรอนะ” (???)

 

มันดูจะหาได้ยากจะที่แม่นั้นจะเมา แล้วผมเองก็ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้แบบนี้มาก่อน ปกติแล้วผมไม่ใช่คนที่จะไปมีส่วนร่วมในงานปาร์ตี้ดื่มอะไรแบบนี้ แต่ก็ดูเหมือนว่าการพบปะสังสรรค์ของบริษัทก็กำลังลดลงไปมากเมื่อเร็วๆนี้ เนื่องจากพนักงานหลายคนต้องเปลี่ยนมาทำงานจากที่บ้าน

 

และนั่นเป็นเหตุผลที่แม่ได้บอกผมว่าทำไมพวกเขาถึงได้วางแผนปาร์ตี้ดื่มเหล้ากัน และนี่ยังเป็นคำขอที่คาดไม่ถึงที่จะต้องออกไปเพื่อรับเธอ ที่จริงแม่ก็น่าจะนั่งแท็กซี่กลับบ้านนะ……

 

ก็นะ มันก็ไม่มีประเด็นอะไรที่จะต้องไปกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้สักหน่อย ผมได้บอกกับพี่สาวไปนิดหน่อยก่อน แล้วจึงเปลี่ยนเสื้อผ้าและเริ่มออกเดินไปที่สถานี

 

——————————————————————–

 

 

 

“ขอโทษที่ต้องทำให้รอครับ” (ยูกิ)

 

“คุณคือยูกิโตะคุง? ยินดีที่ได้รู้จักนะ ฉันเป็นลูกน้องของหัวหน้าชื่อ ฮารุกะ ฮิอิรากิ น่ะ” (ฮิอิรากิ)

 

ทันทีที่ผมไปถึงสถานี ก็เจอทั้งสองคนก็นั่งอยู่และรอในที่ห่างจากที่ที่ผมบอกไปอีกเล็กน้อย แม่ก็มีสภาพดูมึนๆหน่อย มันดูเป็นภาพที่หาได้ยากสำหรับเธอ เพราะเธอมักจะเป็นคนที่เจ้าระเบียบอยู่เสมอในตอนที่เธอนั้นทำงาน และผมก็ได้กลิ่นของแอลกอฮอล์หึ่งเลยด้วย แต่ดูเหมือนฮิอิรากิซังจะไม่ได้เมาขนาดนั้น ดูจากใบหน้าของเธอแล้ว ดูเหมือนอ่อนกว่าแม่ผมอยู่ เอาจริงๆนะเธอนั้นยังดูเด็กมาก ซึ่งมันก็รับได้นะ ถ้าจะบอกว่าเธอนั้นเป็นนักศึกษาวิทยาลัยน่ะ

 

“ขอบคุณที่ช่วยพาแม่มาที่นี่นะครับ” (ยูกิ)

 

“โอ้ ไม่ต้องเป็นห่วงไป! นี่เป็นคำขอของหัวหน้าน่ะ แล้วฉันเองก็ยังอยากจะคุยกับคุณในเรื่องบางอย่างด้วย” (ฮิอิรากิ)

 

“คุณอยากจะคุยกับผม?” (ยูกิ)

 

ผมก้าวออกจากแม่ของผมที่กำลังนั่งอยู่บนม้านั่งแล้วครู่หนึ่ง ผมสงสัยว่ามันจะไม่ดีกับเธอรึเปล่าที่จะได้ยินเรื่องที่ผมกำลังจะได้ฟังนี้ และเมื่อมองดูเธอตอนนี้แล้ว ก็ดูเหมือนเธอนั้นไม่มีแรงที่จะทำอย่างนั้น……

 

“ปกติแล้วหัวหน้าไม่เคยเมานะ แต่ว่าวันนี้เธอนั้นดูอารมณ์ดีมาก ดังนั้นเธอก็เลยดื่มมากไปหน่อยน่ะ” (ฮิอิรากิ)

 

“อย่างนั้นหรือครับ?” (ยูกิ)

 

“เธอบอกว่าเธอมีความสุขที่ได้ใกล้ชิดกับคุณนะ ยูกิโตะคุง” (ฮิอิรากิ)

 

“พวกเราไม่ได้ทะเลาะกันซะหน่อย” (ยูกิ)

 

“ฉันเองก็ไม่รู้รายละเอียดหรอกนะ แต่ดูเหมือนเธอว่าก่อนหน้านั้นมีปัญหาน่ะ” (ฮิอิรากิ)

 

 แล้วแววตาของฮิอิรากิซังที่พูดแบบนี้ก็ดูเฉียบคมไปอยู่ครู่หนึ่ง

 

“มีเรื่องบางอย่างที่ฉันอยากจะให้คุณฟังนะ” (ฮิอิรากิ)

 

“ครับ?” (ยูกิ)

 

“หัวหน้า, คุณแม่ของคุณสวยไหม?” (ฮิอิรากิ)

 

“ครับ เธอสวย และผมที่เป็นลูกชายของเธอก็คิดแบบนั้นเช่นกัน” (ยูกิ)

 

ผมน่ะรู้ดีที่สุดว่าแม่ของผมเป็นผู้หญิงที่สวย ร่างกายของเธอไม่ได้เสียรูปอะไรไปเลย และเธอยังดูเด็กอยู่เสมอ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ เธอก็เริ่มเอาแต่ใจมากขึ้นเรื่อยๆด้วย อย่างเช่นการสกินชิฟของเธอ ที่เริ่มจะทำเหมือนกับน้องสาวของเธอมากขึ้น และผมในฐานะเด็กหนุ่ม DT(ยังซิง) ที่เป็นวัยรุ่น จึงต้องพยายามดิ้นรนอย่างหนักเพื่อขจัดกิเลสเหล่านั้นออกไป

 

“นั่นล่ะเป็นเหตุผลที่หัวหน้าได้รับความนิยมอย่างมากในที่ทำงานนะ” (ฮิอิรากิ)

 

“ผมเข้าใจ” (ยูกิ)

 

“แล้ววันนี้มันหาได้ยากมากเลยนะที่หัวหน้าจะเมาจนทำให้ผู้ชายทุกคนเข้าหาเธอได้น่ะ” (ฮิอิรากิ)

 

“ต้องขอโทษที่ทำให้คุณต้องลำบากด้วยนะครับ” (ยูกิ)

 

“ไม่เป็นไรหรอก แต่คงฉันจะต้องพูดแบบนี้ ฉันรู้ว่านี่อาจจะไม่ใช่สิ่งที่คุณอยากจะได้ยิน แต่มันหมายถึงว่ามีคนอยู่เยอะเลยนะที่มาตามตอแยหัวหน้าน่ะ” (ฮิอิรากิ)

 

“ก็หมายความว่าแม่กำลังจะได้แต่งงานอีกครั้ง? ผมเองก็ไม่ได้ต่อต้านแม่ของผมที่จะต้องแต่งงานใหม่อีกครั้งหรอกนะครับ ถ้าเธอต้องการ และผมแน่ใจว่าคุณก็คงจะไม่ห้ามเหมือนกัน” (ยูกิโตะ)

 

“มันคงจะดีถ้ามันเป็นความสัมพันธ์ที่จริงจังน่ะนะ แต่ดูมันจะเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางกายเท่านั้นน่ะสิ” (ฮิอิรากิ)

 

“นั่นมัน…” (ยูกิ)

 

“พวกเขาพยายามล่วงละเมิดหัวหน้าขณะเมาน่ะ และพยายามจะพาเธอกลับบ้านด้วย ฉันว่าทั้งหมดนี้ก็คงต้องโทษรูปลักษณ์ที่ดูดีของหัวหน้านั่นล่ะ” (ฮิอิรากิ)

 

“นั่นฟังดูไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีนักเลยครับ” (ยูกิ)

 

“ฉันรู้ ใช่ไหมล่ะ? ดังนั้นขอให้คุณจงปกป้องเธอไว้ให้ดีด้วย!” (ฮิอิรากิ)

 

“ผม?” (ยูกิ)

 

“ฉันหมายถึง ปกติเธอน่ะเป็นคนที่แกร่งมาก ดังนั้นฉันแน่ใจว่าเธอจะไม่เป็นไร แต่ว่าในบางครั้งอย่างเช่นวันนี้ ฉันแน่ใจว่าคุณเป็นคนเดียวที่เธอนั้นจะสามารถไว้ใจได้” (ฮิอิรากิ)

 

“ก็อย่างที่ผมพูดไปก่อนหน้านี้ ถ้าหากแม่กำลังวางแผนจะแต่งงานใหม่ ผมก็จะไม่คัดค้าน และก็แน่นอน ผมนั้นก็ไม่ต้องการให้ใครมาแต่งงานกับเธอเพียงเพราะหวังแค่ร่างกายเท่านั้นด้วย” (ยูกิโตะ)

 

“อืม.. ฉันไม่ได้คิดว่าเธอกำลังวางแผนเกี่ยวกับเรื่องนี้หรอกนะ” (ฮิอิรากิ)

 

“ครับ?” (ยูกิ)

 

แม่ของผมเป็นคนสวย มันก็ไม่น่าแปลกใจนักที่เธอจะเป็นที่ป๊อปปุล่าในที่ทำงาน ผมเองก็รู้ว่าสักวันหนึ่งเธอก็คงจะแต่งงานใหม่ และผมเองก็ไม่ได้จะต่อต้านเรื่องนี้ แต่ผมไม่ได้คาดหวังในเรื่องที่ได้ยินมานี้เลย ว่ามันไม่เกี่ยวกับการแต่งงานใหม่ แต่แค่แม่ของผมนั้นก็แค่ตกเป็นเป้าหมายในทางเพศ……

 

“หัวหน้าน่ะ เธอมักจะเอาแต่เฝ้ามองคุณอยู่เสมอเลยนะ และใบหน้าของเธอก็ค่อนข้างที่จะ—ฉันคงจะพูดอะไรต่อไม่ได้อีกแล้วล่ะ เอาเป็นว่าฝากช่วยจับตาดูเธอให้หน่อยได้ไหม ฉันคงจะต้องไปแล้วล่ะนะตอนนี้” (ฮิอิรากิ)

 

แล้วฮิอิรากิซัง ที่เพิ่งขว้างระเบิดใส่ผมอย่างเนียนๆไว้ ก็ได้เดินจากไป ผมน่ะสงสัยนะว่าเธออยากจะพูดอะไรในตอนท้ายนั่น เมื่อผมมองหันกลับไปที่แม่ แม่ก็ได้มองมาที่ผมด้วยดวงตาที่อ่อนโยนและดูมีความสุข

 

“อืมม กลับบ้านกันดีกว่า” (ยูกิ)

 

————————————————————

 

 

“แม่ขอโทษนะ แม่ไม่ได้ตั้งใจจะรบกวนลูกเลย” (แม่)

 

“ก็โอเคนะครับ ไม่เป็นไรหรอก” (ยูกิ)

 

ด้วยการแบกไหล่ของแม่ไว้กับตัวผม พวกเราก็เดินกลับบ้านด้วยกัน พวกเรานั้นอยู่ไม่ไกลจากบ้าน ผมพยายามที่จะเรียกแท็กซี่ แต่แม่ก็ห้ามไว้ เธอนั้นอยากที่จะเดินกลับบ้าน นี่มันเพราะเพื่อสุขภาพของเธอรึเปล่าเนี่ย? มันคงจะยากที่จะรักษาหุ่นไว้ให้ดีเสมอใช่ไหม?

 

“เมื่อกี้ลูกพูดอะไรกับฮิอิรากิน่ะ? นี่เธอสารภาพรักกับลูกรึเปล่า? ฉันจะไม่ยอมให้ลูกทำอย่างนั้นกับลูกน้องของแม่หรอกนะ!” (แม่)

 

“คนเรานั้นไม่สามารถที่จะสารภาพให้กับคนที่ไม่เคยพบมาก่อนได้หรอกนะครับ” (ยูกิ)

 

“ลูกคงไม่รู้ตัวสินะ ว่าลูกน่ะมีดวงตาที่ราวกับปีศาจชั่วร้ายที่ชวนยั่วยวนให้หลงใหลน่ะ” (แม่)

 

“ผมไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อนเลยนะครับ ผมเองก็ยังไม่มีใครด้วย และนอกจากนี้ นี่ก็คงเป็นสิ่งที่น่าจะทำให้ทุกคนนั้นต้องไม่มีความสุขอย่างแน่นอนเลยล่ะ” (ยูกิ)

 

“แล้วทำไมลูกถึงได้ป๊อปปุล่าจังเลยล่ะ?” (แม่)

 

“ผมคิดว่านั่นก็คงเป็นเพราะผมเป็นนั้นลูกของแม่นี่” (ยูกิ)

 

“หาา? โอ้ ใช่เลย มันเป็นเพราะฉัน……” (แม่)

 

“ก็เพราะแม่น่ะป๊อปปุล่านี่ใช่ไหมละครับแม่?” (ยูกิ)

 

“แม่ว่าแม่แก่เกินไปนะสำหรับเรื่องแบบนั้นนะ” (แม่)

 

“ฮิอิรากิซังบอกว่าแม่กำลังลำบากจากทุกคนที่ตามตอแยแม่น่ะ” (ยูกิ)

 

“ฮ่าๆๆๆ……. โอ้ เข้าใจแล้ว แม่ขอโทษนะ แม่รู้ว่าแม่น่ะทำให้ลูกต้องรู้สึกไม่ดี วันนี้แม่ดื่มหนักไปหน่อย ปกติแม่น่ะไม่ใช่คนแบบนี้หรอกนะ แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันก็ไม่สำคัญอะไรหรอก ไม่น่าจะมีใครคอยเฝ้าตามจับแม่ในสถานการณ์นั้นหรอกนะ” (แม่)

 

“แต่ถ้าแม่จะแต่งงานใหม่ ผมก็จะไม่คัดค้านนะครับ ผมจะไม่ได้คัดค้านให้กับการแต่งงานใหม่ของแม่หรอก แต่ผมก็ไม่คิดว่าผมน่ะอยากที่จะให้แม่ต้องไปอยู่กับพวกคนแบบนั้นน่ะครับ” (ยูกิ)

 

“แม่ก็ไม่ต้องการที่จะอยู่กับคนแบบนั้นด้วยเช่นกันจ๊ะ นอกจากนี้ แม่จะไม่มีวันแต่งงานอีกล่ะจ๊ะ” (แม่)

 

“ทำไมถึงไม่ล่ะครับ?” (ยูกิ)

 

“ก็เพราะแม่มีลูกอยู่แล้วนี่ไงจ๊ะ” (แม่)

 

“ผมไม่คิดว่านี่มันเป็นคำอธิบายหรอกนะครับ” (ยูกิ)

 

“ไม่เป็นไรจ๊ะ และก็นั่นล่ะคือสิ่งที่ทำให้แม่มีความสุข” (แม่)

 

“เฮ้ นี่อย่าขยับมากสิครับ ไอ้บางสิ่งที่นุ่มๆมันกำลังโดนผมอยู่นะ!” (ยูกิ)

 

“ลูกคิดไปเองน่า” (แม่)

 

และแม่ก็ส่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาและโน้มตัวเข้ามาใกล้กับผม ผมนั้นไม่เคยได้รับการปฏิบัติเช่นนี้มาก่อนเลย แต่ก็ต้องขอบคุณเธอ ที่ได้ทำให้ความตึงเครียดของผมนั้นพุ่งขึ้นไปอยู่ที่จุดสูงสุดเลยล่ะ และนี่ก็เป็นเวลากลางคืน แต่อุณหภูมิก็ยังคงสูงอยู่ ดูเหมือนว่ามันจะเป็นแค่คืนในเขตร้อนอีกคืนนึง และผมชักจะไม่แน่ใจแล้วว่าไอ้ที่เหงื่อออกนี้มันเป็นเพราะความร้อนหรือมันคือเหงื่อเย็นๆที่หลังกันแน่ แต่ผมแทบจะรอไม่ไหวที่จะได้กลับบ้านไปอาบน้ำซักทีแล้ว

 

“ใช่แล้ว พอกลับถึงบ้านแล้วก็ไปอาบน้ำด้วยกันนะ” (แม่)

 

“Why?!” (ยูกิ) [พูดเป็นภาษาอังกฤษ]

 

แล้วก็กลายเป็นชาวต่างชาติอีกครั้งนึง ผมจะงดการออกมาแบบนี้อีกในอนาคตแล้วล่ะ แม่ผมนั้นน่ะก็คือแม่ของผมนะ และเธอก็ดูจะชอบปกป้องผมมากเกินจำเป็นไปอย่างไม่มีเหตุผลด้วย นี่เธอน่ะอยู่ในวัยที่เธอไม่ควรได้รับอนุญาตให้อาบน้ำกับลูกชายของเธอเองแล้วนะ นั่นละคือเหตุผล และนี่ผมเองก็ไม่ใช่เด็กสามขวบแล้วด้วย ใช่แล้ว ต้องรีบเปลี่ยนเรื่อง…..

 

“โอ ยังไงซะ พี่สาวก็บอกว่าหน้าอกของเธอนั้นโตขึ้นอีกแล้วล่ะ” (ยูกิ)

 

“โอ้ จริงเหรอ?” (แม่)

 

“เห็นว่ามันเป็นคัฟ F น่ะ” (ยูกิ)

 

“ฟู่~ ฉันชนะ เพราะแม่คัพ G” (แม่)

 

“ผมก็รู้ว่าการเปิดเผยเรื่องนี้มันก็น่าตกใจนะ แต่ว่านี่แม่ทำไมจะต้องมาทำยังกะจะแข่งกันด้วยล่ะครับ?” (ยูกิ)

 

“แล้วแม่จะพาลูกไปดูในตอนลงอ่างทีหลังนะ ลูกสามารถสัมผัสได้เลยนะจ๊ะถ้าลูกต้องการ” (แม่)

 

“บ้าจริง! ทำไมหัวข้อถึงไม่ยอมเปลี่ยนกันเนี่ย!?” (ยูกิ)

 

 แล้วผมก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้าและก็ได้เห็นว่าดวงจันทร์ยังคงส่องแสงสว่างในตอนกลางคืนนี้

 

เป็นพระจันทร์ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่ผมนั้นเปลี่ยน มีอารมณ์ที่ผมนั้นไม่เคยรู้จักมาก่อนหมุนวนอยู่ภายในอก มันเป็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ของผมกับผู้อื่น

 

ผมจะมีทางรู้ได้ไหมว่าไอ้ความรู้สึกเหล่านี้มันคืออะไร?

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด