จารใจรัก 29-2 สลับบุตรีแต่งงาน

Now you are reading จารใจรัก Chapter 29-2 สลับบุตรีแต่งงาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากทั้งสามเดินออกไปแล้ว องค์หญิงใหญ่ก็กล่าวขึ้นด้วยความขุ่นเคือง “นี่มันอะไรกัน งานสมรสราบรื่นอยู่ดีๆ ตอนนี้ก็ไม่เกี่ยวข้องกับจวนองค์หญิงใหญ่ของข้าแล้วใช่หรือไม่ ต่อไปจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”  

 

 

           “เรื่องนี้เป็นตระกูลเจิ้งแห่งสิงหยางของข้าทำผิด ละอายใจต่อความเมตตาของจวนองค์หญิงใหญ่แล้ว แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ได้แค่ขอให้องค์หญิงใหญ่โปรดอภัยด้วย” เจิ้งเฉิงก้าวขึ้นมา ขอโทษองค์หญิงใหญ่  

 

 

           องค์หญิงใหญ่ไม่ตอบ แต่โกรธอย่างยิ่ง  

 

 

           เจิ้งอี้ก้าวขึ้นมา ประสานมือกล่าว “องค์หญิงใหญ่ขอโปรดให้อภัย ตระกูลเจิ้งแห่งสิงหยางของข้านอกจากเซี่ยวฉุน ก็ไม่มีลูกหลานคนใดที่คู่ควรกับท่านหญิงจินเยี่ยนอีกแล้ว ท่านหญิงมีคุณธรรมสูงส่ง เป็นตระกูลเจิ้งแห่งสิงหยางของเราที่ไร้วาสนา”  

 

 

           “อย่ามาพูดเช่นนี้กับข้า” องค์หญิงใหญ่สะบัดแขนเสื้อ กล่าวแกมโกรธเคือง “เยี่ยนเอ๋อร์ กลับจวน”  

 

 

           จินเยี่ยนพยักหน้า  

 

 

           “ช้าก่อน” เจิ้งเซี่ยวหยางพลันอ้าปากขึ้น  

 

 

           องค์หญิงใหญ่พลันหันไปมองเขาด้วยท่าทางรังเกียจ “เจ้ายังมีหน้ามาพูดอีกรึ เจ้าก่อเรื่องขึ้นมา ทำให้พี่ชายเจ้าต้องรับผิดชอบแทน ตอนนี้หรือว่ายังไม่ยอมให้พวกข้ากลับอีก”  

 

 

           เจิ้งเซี่ยวหยางไม่ตอบ แต่หันไปมองเจิ้งอี้ “ท่านปู่ เมื่อครู่ท่านพูดว่าอะไร อันใดเรียกว่าตระกูลเจิ้งแห่งสิงหยางนอกจากพี่ใหญ่แล้ว ก็ไม่มีลูกหลานคนไหนคู่ควรกับท่านหญิงจินเยี่ยนอีก หรือว่าตระกูลเจิ้งแห่งสิงหยางมีเพียงพี่ใหญ่เท่านั้นที่ดีหรือ”  

 

 

           เจิ้งอี้ราวกับจนปัญญากับเขา ไม่อยากเถียงด้วย จำใจกล่าวว่า “เจ้าอย่าก่อเรื่อง”  

 

 

           เจิ้งเซี่ยวหยางแค่นเสียง “ข้าไม่อยากได้สตรีเสียโฉมคนนั้น ในเมื่อพี่ใหญ่ข้าเต็มใจแทนที่ข้าแล้ว เช่นนั้นข้าทำแทนเขาก็สิ้นเรื่อง ข้าจะแต่งกับท่านหญิงจินเยี่ยนแทนเขาเอง”  

 

 

           เจิ้งอี้ชะงัก  

 

 

           “เหลวไหล” องค์หญิงใหญ่บันดาลโทสะ “เจ้าเป็นใคร อยากแต่งกับลูกสาวข้า ฝันไปเถอะ”  

 

 

           เจิ้งเซี่ยวหยางกลอกตา “องค์หญิงใหญ่ ตอนนี้ท่านเห็นข้าสกปรกมอมแมมยิ่ง นั่นเพราะคนของจวนเสนาบดีฝ่ายขวาทำร้ายข้า ข้าล้างเนื้อล้างตัวก็ย่อมดูได้ ตัวข้าแม้แต่ดอกฉิงเหรินยังเก็บมาได้ ยังไม่คู่ควรกับลูกสาวท่านอีกหรือ ท่านเบิกตาดูให้ดี ข้าเต็มใจแต่งกับนาง เห็นแก่ที่ท่านอยากเกี่ยวดองกับตระกูลเจิ้งแห่งสิงหยาง มิฉะนั้นใครจะอยากแต่งด้วย”  

 

 

           “เจ้า…” องค์หญิงใหญ่อึ้งจนพูดไม่ออกชั่วขณะ  

 

 

           เจิ้งเซี่ยวหยางหันไปมองจินเยี่ยน เสื้อผ้าที่สกปรก ใบหน้าที่เลอะมอมแมม เอ่ยถามนางด้วยความยโสว่า “เจ้าเต็มใจจะออกเรือนกับข้าหรือไม่ แม้ข้ามีบางจุดสู้พี่ใหญ่ไม่ได้ แต่ข้ารักความสนุกสนานกว่าพี่ใหญ่ร้อยพันเท่า แต่ละวันเขาเหมือนกับตาเฒ่า มีแต่ความน่าเบื่อ แต่ข้าไม่เหมือนเขา รับรองว่าสรรหาสิ่งใหม่ๆ มาให้เจ้าเล่นทุกวัน เจ้าออกเรือนกับข้าก็ไม่ปล่อยให้เสียเปรียบแน่ ถึงอย่างไรข้าก็เป็นคุณชายรองตระกูลเจิ้งแห่งสิงหยาง เป็นทายาทคนรองเช่นกัน เอ่ยถึงฐานะ มิได้สร้างความอับอายแก่เจ้า”  

 

 

           “เยี่ยนเอ๋อร์ ห้ามตอบตกลง ถ้าเจ้ากล้าตกลง แม่จะตายให้ได้” องค์หญิงใหญ่เอ่ยขึ้นทันที   

 

 

           เจิ้งเซี่ยวหยางกลอกตามองฟ้าอีกหน “องค์หญิงใหญ่ ท่านไม่ชอบก็ไม่เห็นต้องแขวนชีวิตเลย”  

 

 

           องค์หญิงใหญ่ถูกยั่วโทสะจนเส้นเอ็นเขียวบนหน้าผากเต้นตุบ กำมือจินเยี่ยน ดึงนางออกไป  

 

 

           จินเยี่ยนกลับไม่ขยับเขยื้อน  

 

 

           องค์หญิงใหญ่มองนาง พบว่านางราวกับกำลังสำรวจเจิ้งเซี่ยวหยางอย่างตั้งใจ ใบหน้าพลันซีดขาว “เยี่ยนเอ๋อร์ เจ้าคงไม่…เจ้า…เขาเจ้าสำราญยิ่งกว่าอะไร เจ้าอย่าได้…”  

 

 

           “ท่านแม่” จินเยี่ยนตะโกนขึ้น น้ำเสียงไม่ดังมาก แต่แฝงด้วยความไม่พอใจ  

 

 

           องค์หญิงใหญ่เงียบเสียงลงทันที พลางมองนาง  

 

 

           “หากข้าตกลงออกเรือนกับเจ้า เจ้าจะรับรองเหมือนพี่ชายเจ้าหรือไม่ ว่าจะดูแลข้าอย่างดีไปตลอดชีวิต” จินเยี่ยนถามเจิ้งเซี่ยวหยาง   

 

 

           “รับรอง” เจิ้งเซี่ยวหยางตอบ  

 

 

           จินเยี่ยนส่ายหน้า “เจ้าตอบไวถึงเพียงนี้ การดูแลอย่างดีนั้นอาศัยเพียงลมปากเท่านั้นหรือ พี่ชายเจ้าคุยเรื่องหมั้นหมายกับข้าตั้งครึ่งวัน และก็ได้รับรองเช่นกันว่าจะดูแลข้าไปตลอดชีวิต แต่เพียงพริบตาก็ไปสู่ขอคนอื่นเพื่อปกป้องเจ้าแล้ว บ่งบอกได้ว่าสิ่งนี้ไม่แน่นอน เชื่อถือไม่ได้”  

 

 

           เจิ้งเซี่ยวหยางพลันยิ้มออกมา ใบหน้าที่ขาวครึ่งดำครึ่งกล่าวว่า “ดูท่าเจ้าเองก็น่าสนใจเช่นกัน”  

 

 

           จินเยี่ยนเงียบ  

 

 

           เจิ้งเซี่ยวหยางกล่าวอีก “พูดถึงขนาดนี้ ข้าก็ไม่รับรองแล้ว ข้าอารมณ์ร้ายมาก ยามโกรธขึ้นมา วัวสิบตัวก็ฉุดไม่อยู่” พูดจบ เขาก็โบกมือปัด กล่าวอย่างตรงไปตรงมา “ช่างเถอะ คิดเสียว่าเมื่อครู่ข้าไม่ได้พูดประโยคนั้น ไม่แต่งกับเจ้าแล้ว”  

 

 

           “ข้าตกลง” จินเยี่ยนพลันเอ่ยขึ้น  

 

 

           “อะไรนะ” องค์หญิงใหญ่พลันอุทานขึ้น มองจินเยี่ยนอย่างไม่อยากเชื่อ “เยี่ยนเอ๋อร์ เจ้าบ้าไปแล้วหรือ”  

 

 

           เจิ้งเซี่ยวหยางก็หันมามองเช่นกัน  

 

 

           จินเยี่ยนกล่าวกับองค์หญิงใหญ่ “ท่านแม่ ข้าไม่ได้บ้า และไม่ได้โง่ ข้าคิดว่าระหว่างคนสองคนล้วนอาศัยวาสนา คุณชายรองเจิ้งแม้มีนิสัยไร้เหตุผล แต่หากมีสามีแบบนี้ อย่างน้อยก็ไม่ถูกคนอื่นรังแก มิใช่หรือ”  

 

 

           เจิ้งเซี่ยวหยางกระแอมขึ้น “อืม เจ้าพูดถูกแล้ว หากเจ้าออกเรือนกับข้า ข้าย่อมไม่ปล่อยให้เจ้าถูกรังแก”  

 

 

           “เขาเป็นประเภทไม่ยี่หระต่อสิ่งใด หากเขารังแกเจ้าจะทำอย่างไร” องค์หญิงใหญ่กล่าวทันที  

 

 

           “เขาเป็นสามีข้า รังแกก็รังแกไปเถิด นี่เป็นการตัดสินใจของข้าเอง” จินเยี่ยนพูดจบก็มองไปยังฉินอวี้ “หากข้าถูกคนอื่นรังแก มิใช่ยังมีพี่ชายอวี้กับท่านแม่คอยจัดการให้ข้าหรือ ถึงตอนนั้นหากถูกรังแกจริง ให้พี่อวี้ออกพระราชโองการ สังหารเขาก็สิ้นเรื่องแล้ว”  

 

 

           “โอ้ เจ้าก็โหดเ**้ยมไม่เบานี่” เจิ้งเซี่ยวหยางเบิกตาโต ก่อนส่ายหน้าด้วยความหวาดกลัว “ไม่ได้การ ข้าไม่แต่งกับเจ้าแล้ว”  

 

 

           “มิได้ขึ้นอยู่กับเจ้า” จินเยี่ยนหันไปกล่าวกับฉินอวี้ “ขอให้ฝ่าบาทโปรดออกพระราชโองการ แก้ไขพระราชโองการใหม่ ออกสมรสพระราชทานให้ข้ากับคุณชายรองเจิ้ง”  

 

 

           ฉินอวี้มองจินยี่ยน เอ่ยไม่ออกชั่วขณะ  

 

 

           เซี่ยฟางหวาคิดว่าเรื่องนี้ช่างเหมือนบทงิ้ว วกวนซับซ้อนเสียยิ่งว่านิยายและละครงิ้วในท้องตลาดตลอดกาลเสียอีก  

 

 

           พระชายาอิงชินอ๋อง เสนาบดีฝ่ายซ้าย หย่งคังโหว และคนที่ตามมาดูต่างก็ลอบทอดถอนใจ ไม่ว่าใครก็คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องสลับตัวพี่น้องกันแต่งงานเพราะเหตุนี้ได้ โดยเฉพาะจินเยี่ยน ทำให้คนมองนางใหม่แล้ว ยินยอมให้เจิ้งเซี่ยวฉุนปกป้องน้องชายตามความปรารถนาอย่างง่ายดาย และตอบตกลงออกเรือนกับคนอย่างเจิ้งเซี่ยวหยางโดยที่สีหน้ามิแปรเปลี่ยน มิใช่เพียงเท่านี้ แต่ยังขอสมรสพระราชทานด้วยตัวเองด้วย  

 

 

           บางคนคิดว่าคงเป็นเพราะจินเยี่ยนถูกฉินอวี้ทำร้ายจิตใจอย่างสาหัส เจิ้งเซี่ยวฉุนยังยอมถอนหมั้นเพื่อไปสู่ขอหลี่หรูปี้ นางไม่มีอะไรจะเสียแล้ว จึงถือโอกาสนี้ตอบตกลงเจิ้งเซี่ยวหยาง  

 

 

           เจิ้งเซี่ยวหยางนั้นมองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นเด็กที่ถูกตามใจจนเสียคน มีส่วนคล้ายกับฉินเจิงเมื่อในอดีต แต่มิได้มีฐานะสูงส่งและหยิ่งผยองอย่างฉินเจิง หากเป็นฉินเจิง ด้วยความสามารถของเขา คงไม่ถูกจับกลับมาที่จวนเสนาบดีฝ่ายขวา  

 

 

           เอ่ยถึงฉินเจิง ทุกคนก็คิดขึ้นได้ว่า ดอกฉิงเหรินถูกคุณชายรองเจิ้งท่านนี้เก็บไปแล้ว แถมยังเสียหายไปแล้วอีก เช่นนั้นท่านอ๋องน้อยเจิงเล่า  

 

 

           หากเขาทราบ มีหรือจะยอม จะให้อภัยเจิ้งเซี่ยวหยางหรือไม่  

 

 

           นี่เกรงว่าจะเป็นหนี้แค้นอีกบัญชีแล้ว  

 

 

           เงียบลงพักหนึ่ง ฉินอวี้ก็เอ่ยกับจินเยี่ยน “ท่านป้าใหญ่ไม่ตกลง ท่านยังจะ…”  

 

 

           “ท่านแม่ก็ได้เกริ่นเอาไว้แล้ว งานสมรสนั้นล้วนให้ข้าเป็นคนตัดสินใจ ตอนนี้ข้ายินดีออกเรือนกับเจิ้งเซี่ยวหยาง ขอให้พี่ชายอวี้ออกสมรสพระราชทานด้วย คุณชายใหญ่สู่ขอคุณหนูหลี่ ข้าออกเรือนกับคุณชายรองเจิ้ง จวนเสนาบดีฝ่ายขวากับตระกูลเจิ้งแห่งสิงหยางจะได้ไม่ผิดใจกันเพราะเรื่องนี้ จวนองค์หญิงใหญ่กับตระกูลเจิ้งแห่งสิงหยางก็จะได้ไม่ต้องลำบากใจเพราะเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน นับว่าสองฝ่ายต่างพึงพอใจ ไฉนจะไม่เห็นดีเห็นงามด้วยเล่า ข้าเองก็เต็มใจด้วยเช่นกัน” จินเยี่ยนเอ่ยขัดทันที   

 

 

           ฉินอวี้มองจินเยี่ยน ไม่เอ่ยคำใดชั่วขณะ  

 

 

           เรื่องในวันนี้ นี่เป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหา ทำให้ตระกูลเจิ้งแห่งสิงหยาง จวนเสนาบดีฝ่ายขวา และจวนองค์หญิงใหญ่เลี่ยงเหตุวิวาทกัน กะเทาะผนึกน้ำแข็ง สองฝ่ายต่างพึงพอใจ  

 

 

           หลี่หรูปี้จะน้อยใจหรือไม่นั้นใครจะรู้เล่า ตกลงหรือไม่ตกลง มิได้สำคัญขนาดนั้นแล้ว  

 

 

           หากเอ่ยถึงผู้ที่บริสุทธิ์ที่สุดในเรื่องนี้ ก็คือจินเยี่ยนแล้ว  

 

 

           ฉินอวี้เงียบลงพักหนึ่ง ก่อนหันไปมองเซี่ยฟางหวา “เจ้าคิดอย่างไร”  

 

 

           เซี่ยฟางหวาพิจารณาคนตระกูลเจิ้งแห่งสิงหยางตลอดเวลา โดยเฉพาะนักแสดงนำอย่างคุณชายรองเจิ้งที่ตั้งแต่ถูกคุมตัวเข้ามาก็วางตัวเป็นศูนย์กลางความยุ่งยาก เวลานี้นางกล้าพูดเลยว่า เขาต้องมิใช่อย่างคำร่ำลือ และมิได้เลวร้ายอย่างที่แสดงออก หรือทำตัวไม่รับรู้เรื่องราวทางโลกเป็นแน่  

 

 

           เขามีส่วนคล้ายฉินเจิงมากก็จริง แต่ก็มิได้คล้ายเสียทีเดียว ราวกับบอกได้ว่ามีส่วนที่คิดอ่านปรุโปร่ง จำกัดความให้สั้นหน่อยก็นับว่ามีนิสัยพิเศษ คนประเภทนี้ เนื่องด้วยที่รู้จักฉินเจิงมาแล้วนั้น มีความคิดความอ่านล้วนซ่อนไว้ค่อนข้างล้ำลึก  

 

 

           หากจินเยี่ยนออกเรือนกับเขา นางบอกมิได้ว่าเป็นเรื่องดีหรือร้าย  

 

 

           โดยเฉพาะจุดประสงค์ที่จินเยี่ยนจะแต่งเข้าตระกูลเจิ้งแห่งสิงหยางด้วยแล้ว  

 

 

           ยากรับรองได้ว่าวันข้างหน้าจะไม่ถูกเจิ้งเซี่ยวหยางอ่านออก  

 

 

           นางไม่เอ่ยคำใดชั่วขณะ  

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด