ชายาเคียงหทัย 314-3 มีครรภ์

Now you are reading ชายาเคียงหทัย Chapter 314-3 มีครรภ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“​ไม่​!​ ​ติ้ง​อ๋อง​ ​ท่าน​จะ​ทำ​เช่นนี้​ไม่ได้​!​”​ ​องค์​หญิง​หลิง​อวิ​๋​นก​้า​วอ​อก​มาจาก​กลุ่ม​จ้อง​ม่อ​ซิว​เหยา​พลาง​กล่าว

​ม่อ​ซิว​เหยา​เบ้า​ปาก​อย่าง​จองหอง​พลาง​กล่าว​เสียง​เรียบ​ว่า​ ​“​ข้า​ไม่ต้อง​ให้​เจ้า​มาบ​อก​ว่า​ควร​หรือไม่​ควร​ทำ​อะไร​”​ ​องค์​หญิง​หลิง​อวิ​๋​นก​ล่าว​เสียงแข็ง​ว่า​ ​“​พวกเขา​เป็น​ขุนนาง​ของ​ซี​หลิง​ ​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​ของ​เจ้า​ไม่มี​สิทธิ์​มา​จัดการ​”

​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​เดิน​เข้าไป​ขวาง​องค์​หญิง​หลิง​อวิ​๋น​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​พวก​มัน​เป็น​นักฆ่า​ที่มา​ลอบสังหาร​พระ​ชายา​แห่ง​ติ้ง​อ๋อง​ ​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​มีสิทธิ์​ที่จะ​ตัดสิน​ว่า​จะ​จัดการ​เช่นไร​”​ ​องค์​หญิง​หลิง​อวิ​๋น​โมโห​จน​จุก​อก​ ​โต้กลับ​ไป​อย่าง​ดุเดือด​ว่า​ ​“​แต่​พวกเขา​ทั้ง​ตระกูล​เป็น​ผู้บริสุทธิ์​”​ ​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​หัวเราะเยาะ​ ​มอง​องค์​หญิง​หลิง​อวิ​๋น​ด้วย​ความสนใจ​เป็น​อย่างยิ่ง​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​ลอบฆ่า​พระ​ชายา​ติ้ง​อ๋อง​ ​โทษ​ฆ่า​ล้าง​ตระกูล​คง​ไม่​นับว่า​เกินควร​อะไร​กระมัง​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​สังหาร​เพียงแค่​สาม​ตระกูล​ ​นี่​นับว่า​ไว้หน้า​ฮ่องเต้​ซี​หลิง​แล้ว​”

​องค์​หญิง​สีหน้า​ดูไม่ได้​ ​นักฆ่า​พวก​นี้​ฐานะ​ไม่​นับว่า​สูง​อะไร​ ​เรียก​ได้​ว่า​ไม่​โดดเด่น​ ​แต่​ตระกูล​ของ​พวกเขา​ล้วน​เป็น​ตระกูล​มีชื่อเสียง​ของ​ซี​หลิง​ทั้งสิ้น​ ​หนึ่ง​ใน​นั้น​ส่วนใหญ่​ล้วน​ติดตาม​ตำหนัก​เจิ​้น​หนา​นอ​๋​อง​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​การ​แต่งงาน​ระหว่าง​ขุนนาง​ที่​มีอำนาจ​ด้วยกัน​ไป​ๆ​ ​มา​ๆ​ ​ล้วน​อยู่​ใน​ตระกูล​เหล่านี้​ ​หาก​ฆ่า​ล้าง​ตระกูล​สาม​ตระกูล​นี้​จริง​ ​ก็​จะ​มี​ชนชั้นสูง​ตาย​ไป​อย่างน้อย​ครึ่ง​เมือง​ซี​หลิง​ ​เช่นนี้​แล้ว​อำนาจ​ของ​ตำหนัก​เจิ​้น​หนา​นอ​๋​อง​ก็​นับได้ว่า​ถูก​ทำลาย​ไป​จน​สิ้น​ ​เมื่อ​เทียบ​กับ​เสด็จ​พ่อ​ที่​อ่อนแอ​ผู้​นั้น​ของ​นาง​แล้ว​ ​แต่ไหนแต่ไรมา​องค์​หญิง​หลิง​อวิ​๋น​เคารพนับถือ​ความสามารถ​อัน​ล้ำเลิศ​ของ​เสด็จ​ลุง​เหลย​เจิ​้น​ถิง​เสีย​ยิ่งกว่า​ ​ความสัมพันธ์​ของ​นาง​กับ​เจิ​้น​หนา​นอ​๋​อง​ก็​นับว่า​ไม่เลว​ ​ย่อม​ไม่​อยาก​ให้อำนาจ​ของ​เจิ​้น​หนา​นอ​๋​อง​ที่​มีอยู่​ใน​ซี​หลิง​นี้​ถูก​ม่อ​ซิว​เหยา​ทำลาย​ไป​จน​สิ้น

​“​ต่อให้​เป็น​เช่นนี้​ ​ก็​ควร​รายงาน​เรื่อง​นี้​ให้​เสด็จ​พ่อ​ของ​ข้า​ทรง​ทราบ​ก่อน​แล้ว​ค่อย​จัดการ​ทีหลัง​”​ ​องค์​หญิง​หลิง​อวิ​๋​นก​ล่าว

​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​ยิ้ม​เย็นเยียบ​กล่าวว่า​ ​“​เมืองหลวง​ซี​หลิง​ยาม​นี้​เป็น​ของ​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​ ​เจ้าที่​เป็น​ราชวงศ์​แห่ง​ซี​หลิง​ ​แค่​มา​อาศัย​อยู่​ชั่วคราว​เท่านั้น​ ​เจ้าบ้าน​จะ​จัดการ​ทำ​อย่างไร​ต้อง​ถาม​ความเห็น​แขก​ตั้งแต่​เมื่อใด​กัน​”

​“​จะ​…​เจ้า​มัน​น่า​ไม่อาย​นัก​!​”​ ​องค์​หญิง​หลิง​อวิ​๋น​หมด​คำ​จะ​พูด​ ​ทำได้​เพียง​ก่น​ด่า​ออก​ไป

​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​กรอก​ตา​ที​หนึ่ง​โดย​ไม่​กล่าว​คำ​ใด​ ​เขา​กำลังจะ​อ้า​ปาก​โต้กลับ​องค์​หญิง​หลิง​อวิ​๋น​ ​แต่กลับ​เห็น​เงา​สีขาว​ด้านหน้า​สาย​หนึ่ง​เฉียด​ผ่าน​ไปรา​วกั​บสา​ยลม​ ​องค์​หญิง​หลิง​อวิ​๋​นที​่​เย่อหยิ่ง​และ​ก้าวร้าว​เมื่อ​ครู่​ถูก​บีบ​คอ​ไว้​แน่น​ ​ดวงตา​เหลือก​ขาว​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ก้มหน้า​จ้องมอง​สตรี​งดงาม​ตรงหน้า​ด้วย​สีหน้า​เย็นชา​ ​น้ำเสียง​ดุดัน​เย็นเยียบ​ดุจ​เหมันต์​อัน​หนาวเหน็บ​ ​“​เรื่อง​ของ​ข้า​ต้อง​ให้​เจ้า​เข้ามา​สอด​ตั้งแต่​เมื่อใด​กัน​ ​เจ้า​คิด​ว่า​…​เจ้า​เป็น​องค์​หญิง​แห่ง​ซี​หลิง​แล้ว​จะ​ทำ​อะไร​ก็ได้​หรือ​”

​องค์​หญิง​หลิง​อวิ​๋น​ถูก​ม่อ​ซิว​เหยา​บีบ​คอ​เอาไว้​แทบจะ​หายใจไม่ออก​ ​กล่าว​อย่าง​ยากลำบาก​ว่า​ ​“​ข้า​…​ไม่​…​ข้า​ ​อึก​…​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ลงมือ​อย่างไร​้​ความปรานี​แม้แต่น้อย​ ​องค์​หญิง​หลิง​อวิ​๋น​ใช้​แรง​ทั้งหมด​ที่​มี​ก็​ยัง​ไม่​อาจ​กล่าว​ประโยค​ทั้งหมด​ออกมา​ได้​ ​ทำได้​เพียง​เบิกตา​โพลง​รับรู้​ถึง​ลมหายใจ​ที่​ยากลำบาก​ของ​ตัวเอง​ ​เจ็บปวด​ราวกับ​ดวงใจ​แทบจะ​ระเบิด​ออกมา

​“​ใน​นี้​มี​กี่​คนที​่​เจ้า​พามา​ด้วย​ หืม​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​เอ่ย​ถาม

​องค์​หญิง​หลิง​อวิ​๋น​หน้า​ถอดสี​ ​ดวงตา​ฉายแวว​หวั่นวิตก​เมื่อ​ต้อง​เผชิญ​กับ​ม่อ​ซิว​เหยา​ที่​มี​รอยยิ้ม​ประดับ​บน​ใบหน้า​หล่อเหลา​ ​ลึก​ลง​ไป​ใน​แววตา​นาง​เห็น​ไอ​สังหาร​ที่​ไม่​ปิดบัง​สาย​หนึ่ง​ ​“​ไม่​…​”​ ​นี่​เป็น​คำ​สุดท้าย​ที่​องค์​หญิง​หลิง​อวิ​๋น​ได้​ส่งเสียง​ออกมา​ ​ภายใต้​สายตา​ของ​ทุกคน​นั้น​เห็น​เพียง​องค์​หญิง​หลิง​อวิ​๋​นที​่​เมื่อ​ครู่​ยัง​โต้แย้ง​เสียงดัง​พลัน​ร่าง​อ่อน​ยวบ​ลง​บน​พื้น​เงียบๆ​ ​มุม​ปาก​มี​คราบเลือด​ไหล​ทะลัก

​“​กรี๊ด​!​”​ ​ไม่ทราบ​ว่า​เป็น​ผู้ใด​ที่​ทน​มอง​ภาพ​น่าหวาดกลัว​ตรงหน้า​ไม่ไหว​ ​จึง​กรีดร้อง​ออกมา​ ​ทันใดนั้น​ภายใน​สวน​พลัน​เกิด​เสียงดัง​โหวกเหวก​ขึ้น​ ​สตรี​สูงศักดิ์​เหล่านั้น​พากั​นคุก​เข่า​ร้องขอ​ชีวิต​ไป​ตาม​ๆ​ ​กัน​ ​ขนาด​ฐานะ​อย่าง​องค์​หญิง​หลิง​อวิ​๋น​ ​ติ้ง​อ๋อง​ยัง​ลงมือ​ฆ่า​ได้​โดย​ไม่​ลังเล​ ​นับประสา​อะไร​กับ​พวก​นาง

​“​หุบปาก​!​”​ ​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​มอง​คนที​่​กำลัง​ร้องไห้​โวยวาย​ ​เมื่อ​เห็น​ม่อ​ซิว​เหยา​ที่​ใกล้​หมด​ความอดทน​แล้วจึง​ได้​รีบ​ตะโกน​ขึ้น

​พอ​ถูก​เขา​ตะคอก​ไป​ที​หนึ่ง​ ​เสียงร้อง​ไห้​ก็​พลัน​หยุด​ลง​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​เดิน​ไป​นั่ง​บน​เก้าอี้​ที่​ถูก​เตรียม​ไว้​ไม่​ไกล​ ​สายตา​หยุด​อยู่​บน​ร่าง​สอง​แม่​ลูก​สกุล​ไป๋​ที่​หลบ​อยู่​ใน​ฝูงชน​ ​พอ​ไป๋​ชิง​หนิง​รู้สึก​ถึง​สายตา​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​ที่มา​หยุด​ที่นา​งก​็​พลัน​สั่นเทิ้ม​ไป​ทั้ง​ร่าง​ ​พยายาม​แอบ​อยู่​ด้านหลัง​ไป๋ฮู​หยิน​ ​หลังจาก​ผ่าน​เรื่อง​เมื่อ​ครู่​มา​ ​ใจ​นาง​ไหน​เลย​จะ​มาสน​ใจ​ว่า​ติ้ง​อ๋อง​สง่างาม​เพียงใด​ ​ยาม​นี้​รู้สึก​เพียง​ว่า​ติ้ง​อ๋อง​น่ากลัว​กว่า​พญา​ยม​เสียอีก​ ​หาก​นาง​สามารถ​หนี​ไป​จาก​ที่นี่​ได้​ ​นาง​ก็​หวัง​เป็น​อย่างยิ่ง​ว่า​ชาติ​นี้​อย่า​ได้มา​พบ​เจอ​คน​ผู้​นี้​อีก​เลย

​“​ไป๋​ชิง​หนิง​หรือ​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​เรียก​เสียง​เรียบ​ ​ฟัง​ไม่​ออก​ถึง​ความรู้สึก​ใดๆ​ ​ใน​น้ำเสียง

​เมื่อ​ครู่​สถานการณ์​วุ่นวาย​ ​ไป๋ฮู​หยิน​จึง​ไม่เห็น​ว่า​ไป๋​ชิง​หนิง​ทำ​อะไร​ลง​ไป​ ​แม้​ยาม​นี้​จะ​หวาดกลัว​ม่อ​ซิว​เหยา​เป็นอย่างมาก​ ​แต่กลับ​คิด​ว่า​ติ้ง​อ๋อง​ถูกใจ​บุตรสาว​ตระกูล​ไป๋​เข้า​ ​จึง​รีบ​ยื่นมือ​ไป​ดัน​ไป๋​ชิง​หนิง​ ​ไป๋​หนิง​ชิง​ตัวสั่น​ไป​ทั้ง​ร่าง​ ​ส่ายหน้า​ไม่​หยุด​พยายาม​หลบ​อยู่​หลัง​ไป๋ฮู​หยิน​ไม่กล้า​ขยับ​ ​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​ที่​ยืน​อยู่​ข้าง​กาย​ม่อ​ซิว​เหยา​โบกมือ​ไป​ทาง​ด้าน​ข้าง​ ​องครักษ์​สอง​นายก​็​เข้าไป​หิ้วปีก​ไป๋​ชิง​หนิง​ออกมา​ด้านหน้า​ม่อ​ซิว​เหยา​อย่างง่ายดาย​

​ม่อ​ซิว​เหยา​พินิจ​ดู​ไป๋​ชิง​หนิง​อย่างละเอียด​ครู่หนึ่ง​ก็​กล่าว​เสียง​เรียบ​ว่า​ ​“​หน้าตา​ไม่เลว​”

​เป็น​คำชม​แท้ๆ​ ​แต่​ไป๋​ชิง​หนิง​ได้​ฟัง​กลับ​เหมือน​ยันต์​ที่​ส่ง​ให้​คน​ไป​ปรโลก​ให้​เร็ว​ขึ้น​ ​นึก​ไป​ถึง​เมื่อ​ครู่​ที่​ม่อ​ซิว​เหยา​กล่าว​ชม​นักฆ่า​ว่า​ดียิ่ง​ ​มี​ความกล้าหาญ​อะไร​เทือก​นั้น​ ​ไป๋​ชิง​หนิง​สีหน้า​ก็​ยิ่ง​ซีดเผือด​เหมือน​กระดาษ​ ​คุกเข่า​ร่างกาย​สั่นเทิ้ม​อยู่​บน​พื้น​ ​นาง​ข่ม​ความกลัว​ไว้​สุด​ชีวิต​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​ท่าน​อ๋อง​…​ขอบคุณ​ท่าน​อ๋อง​ที่​ชื่นชม​”

​ม่อ​ซิว​เหยา​หัวเราะ​อย่าง​เย็นชา​ ​“​ข้า​ไม่ได้​ชื่นชม​เจ้า​ ​พระ​ชายา​สุดที่รัก​ของ​ข้า​สลบ​ไป​ยัง​ไม่​ฟื้น​ก็​เพราะ​เจ้า​ ​เจ้า​ช่าง​บังอาจ​นัก​!​”

​“​ไม่​!​”​ ​ไป๋​ชิง​หนิง​กล่าว​เสียงหลง​ว่า​ ​“​ไม่เกี่ยว​กับ​ข้า​!​ ​ข้า​ไม่ได้​…​ข้า​ไม่ได้​ทำ​อะไร​ทั้งนั้น​!​”​ ​นาง​ไม่ได้​ทำ​อะไร​จริงๆ​ ​ ​จริงอยู่​ที่นา​งดึง​เยี​่ย​หลี​ไป​ที​หนึ่ง​ ​แต่​นั่น​นาง​ไม่ได้ตั้งใจ​ ​คนที​่​นาง​อยาก​ดึง​ไม่ใช่​เยี​่ย​หลี​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​นาง​เพียง​ต้องการ​จะ​มีชีวิต​อยู่​ ​ใน​ตอนนั้น​นาง​ร่างกาย​อ่อนแรง​ ​การ​อยาก​จะ​มีชีวิต​อยู่​ต่อ​เป็นเรื่อง​ผิด​มาก​นัก​หรือ

​“​ไม่ได้​ทำ​อะไร​ทั้งนั้น​หรือ​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​จ้องมอง​นาง​ ​ไป๋​ชิง​หนิง​รีบ​พยักหน้า​กล่าว​ ​“​เพ​คะ​ ​ข้า​ไม่เกี่ยว​อะไร​ด้วย​ ​ข้า​ไม่ได้​ทำ​อะไร​ทั้งนั้น​!​”

​“​ไม่ได้​ทำ​อะไร​ทั้งนั้น​…​ก็​สมควร​ตาย​!​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​นัยน์ตา​ฉายแวว​โหดเหี้ยม​และ​เกลียดชัง​ ​จ้อง​ไป​ที่​ไป๋​ชิง​หนิง​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​แผ่วเบา​ ​“​เจ้า​อยู่​ข้าง​กาย​อา​หลี​ ​เหตุใด​ไม่​ขวาง​ไว้​แทน​นาง​”

​ไป๋​ชิง​หนิง​พูดไม่ออก​ ​ที่แท้​ใน​สายตา​ของ​ติ้ง​อ๋อง​ไม่​รับ​กระบี่​แทน​พระ​ชายา​ก็​เป็นหนึ่ง​ใน​เหตุผล​ที่​สมควร​ตาย​หรือ​ ​ไม่​!​ ​นาง​ส่ายหน้า​ ​ความโกรธ​ผุด​ขึ้น​ใน​ใจ

​มีสิทธิ์​อะไร​ ​มีสิทธิ์​อะไร​ที่นาง​ไม่​รับ​กระบี่​แทน​พระ​ชายา​จึง​สมควร​ตาย​ ​เหตุใด​สตรี​อย่าง​นาง​ที่​ร่างกาย​อ่อนแรง​จะ​ต้อง​ไปรั​บก​ระ​บี่​แทน​คนที​่​มี​วรยุทธ​ ​อีกทั้ง​คน​ผู้​นั้น​ยัง​ไม่มี​อะไร​เกี่ยวข้อง​กับ​นาง​ด้วย​ ​นาง​เพียงแค่​อยาก​มีชีวิต​อยู่​ ​มัน​ผิดนัก​หรือ

“​ไม่​!​ ​ข้า​ไม่ยอม​!​”​ ​ไป๋​ชิง​หนิง​กรีดร้อง​โวยวาย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด