ชายาเคียงหทัย 325-2 ฉู่จิงแตก

Now you are reading ชายาเคียงหทัย Chapter 325-2 ฉู่จิงแตก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

​ลาก​ยาว​มา​จนถึง​วันที่​เก้า​เดือน​หนึ่ง​ ​ฉู่​จิง​ได้​ปกป้อง​เมือง​จาก​เป่ย​จิ้ง​เป็นเวลา​สาม​เดือน​สิบ​วัน​ ​นับเป็น​วันทั​้ง​หมด​หนึ่งร้อย​สาม​วัน​แล้ว​ ​บางที​เหล่า​ทหาร​เป่ย​จิ้ง​คงจะ​รู้​ว่า​ฉู่​จิง​ได้​เป็น​ลูกธนู​ที่สุด​แรง​บิน​แล้วจึง​ได้ผลั​ดกัน​เข้า​โจมตี​อย่าง​ไม่รู้​จัก​เหน็ด​จัก​เหนื่อย​ ​ยิ่ง​โจมตี​ก็​ยิ่ง​ฮึกเหิม​ ​เห​ลิ่ง​หวาย​กับฮ​ว่ากั​๋​วกง​ที่อยู่​บน​กำแพงเมือง​ยืน​ขึ้น​เคียง​ไหล่​กัน​ ​สีหน้า​เด็ดเดี่ยว​เต็มไปด้วย​ความเหนื่อย​ล้า​และ​ความทุกข์ยาก​ลำบาก​ ​ด้านหลัง​พวกเขา​คือ​แม่ทัพ​หนุ่ม​อย่าง​เห​ลิ่ง​เฮ่า​อวี​่​ ​เห​ลิ่ง​ฉิ​งอ​วี่​ ​และ​เว​่​ยลิ​่น​ ​เห​ลิ่ง​เฮ่า​อวี​่​ที่​แต่ไหนแต่ไรมา​ยิ้มแย้มแจ่มใส​ก็​ปรากฏ​สีหน้า​นิ่ง​ขรึม​ขึ้น​มา​หลาย​ส่วน​อย่าง​หา​ได้​ยาก​

​ ​เห​ลิ่ง​หวาย​มอง​ค่าย​เป่ย​จิ้ง​ที่อยู่​ห่าง​นอกเมือง​ไป​ไม่​ไกล​ด้วย​สายตา​โหดเหี้ยม​แล้ว​กล่าว​อย่าง​จนใจ​ว่า​ ​“​ท่านกั​๋​วกง​ ​เกรง​ว่า​จะ​ต้าน​ไว้​ไม่อยู่​เสีย​แล้ว​…​”​ ​น้ำเสียง​ไม่เพียงแต่​แฝง​ไว้​ด้วย​ความจน​ใจ​ ​ซ้ำ​ยัง​มี​ความเสียดาย​เจือ​อยู่​ด้วย​เล็กน้อย​ ​พวกเขา​ต้าน​มา​ได้​สาม​เดือน​แล้ว​ฉู่​จิง​ยัง​ไม่​แตก​ ​ใน​ฐานะ​แม่ทัพ​และ​ขุนนาง​ก็​นับว่า​ไม่​ละอาย​ต่อ​ต้า​ฉู่​แล้ว​ ​เพียงแต่​เสียดาย​ที่สุด​ท้าย​คง​รอกำ​ลัง​เสริม​จาก​ม่อ​ซิว​เหยา​ไม่ไหว

​ ​ใบหน้า​ชรา​ของฮ​ว่ากั​๋​วกง​ปรากฏ​ความ​โศกเศร้า​สาย​หนึ่ง​ ​เขามอง​ธง​ที่​ปลิว​ไสว​อยู่​ไกลๆ​ ​นั้น​ ​กล่าว​ด้วย​เสียง​หนักแน่น​มั่นคง​ว่า​ ​“​หาก​ฉู่​จิง​แตก​พ่าย​ ผู​่​เฒ่า​อย่าง​ข้า​ก็​ขอ​ตาย​กลบ​ไป​กับ​ฉู่​จิง​”

​ ​เห​ลิ่ง​หวาย​พยักหน้า​กล่าว​ ​“​ที่​ท่านกั​๋​วก​งก​ล่าว​มานั​้น​ถูกต้อง​ที่สุด​ ​ข้า​ก็​ตั้งใจ​ไว้​เช่นนั้น​เช่นกัน​ ​หาก​เมือง​ยังอยู่​คน​ก็​อยู่​ ​หาก​เมือง​แตก​พ่าย​ก็​จะ​ตาย​ไป​พร้อมกับ​เมือง​!​”

​ ​เห​ลิ่ง​เฮ่า​อวี​่​เดินลง​กำแพงเมือง​ไป​อย่าง​ช้าๆ​ ​ยาม​นี้​สถานการณ์​ยุ่งยาก​อยู่​มาก​ ​หาก​เขา​อยาก​หนี​ไป​เพียง​คนเดียว​ย่อม​ไม่ยาก​ ​แต่​ระยะเวลา​หลาย​เดือน​ที่​ปกป้อง​เมือง​มา​เขา​ก็​ผ่าน​เรื่องราว​มามาก​มาย​เช่นกัน​ ​หลังจาก​ได้​เป็น​แม่ทัพ​แม้​เขา​จะ​ไม่เคย​เข้า​สนามรบ​มาก​่อน​ ​แต่​ยาม​นี้​จะ​ให้​เขา​ทิ้ง​พี่น้อง​ที่​เคียงบ่าเคียงไหล่​กัน​มา​แล้ว​หลบหนี​ไป​ก็​มิ​อาจจะ​ทำได้​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​บิดา​และ​ภรรยา​ของ​เขา​ต่าง​ยังอยู่​ใน​เมือง​ ​“​ท่าน​อ๋อง​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​หาก​ท่าน​ยัง​ไม่​มา​ล่ะ​ก็​เห​ลิ่ง​เอ้อร​์​คงได้​ตาย​อยู่​ที่นี่​จริงๆ​ ​แล้ว​!​”​ ​เห​ลิ่ง​เฮ่า​อวี​่​ยิ้ม​ขื่น​อย่าง​จนใจ

​ ​“​น้อง​รอง​”​ ​เห​ลิ่ง​เฮ่า​อวี​่​เพิ่งจะ​เดิน​พ้น​มุมถนน​มาก​็​ถูก​เสียง​ที่​ดัง​ขึ้น​ด้านหลัง​เรียก​ไว้​ ​ไม่ต้อง​หันไป​มอง​เขา​ก็​เดา​ได้​ว่า​คน​ผู้​นั้น​เป็น​ใคร​ ​เขา​เบะ​ปาก​แล้ว​หันไป​มอง​เห​ลิ่ง​ฉิ​งอ​วี่​ที่​มี​ใบหน้า​เย็นชา​ใน​เครื่องแต่งกาย​สีขาว​ ​เดิมที​ชุด​ออกศึก​สีขาว​ราว​หิมะ​ก็​เปื้อน​ฝุ่น​ไป​ไม่น้อย​ ​มองดู​จึง​ยิ่ง​เย็นชา​เพิ่มขึ้น​ไป​อีก​ ​แต่ไหนแต่ไรมา​เห​ลิ่ง​เฮ่า​อวี​่​ไม่​ค่อย​ได้​พูดคุย​กับ​พี่ชาย​สาย​หลัก​ผู้​นี้​สัก​เท่าใด​นัก​ ​จึง​เลิก​คิ้ว​เอ่ย​ถาม​ไป​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่ทัพ​ใหญ่​เห​ลิ่ง​มีเรื่อง​อัน​ใด​หรือ​”

​ ​เห​ลิ่ง​ฉิ​งอ​วี่​ขมวดคิ้ว​เอ่ย​ว่า​ ​“​ข้ามี​เรื่อง​จะ​คุย​ด้วย​”

​ ​เห​ลิ่ง​เฮ่า​อวี​่​เลิก​คิ้ว​แล้ว​พิง​กำแพง​โดย​ไม่​กลัว​ว่า​จะ​เปื้อน​ฝุ่น​ ​เขา​กล่าว​เสียง​เรียบ​ว่า​ ​“​ตั้งใจฟัง​อยู่​”

​ ​เห​ลิ่ง​ฉิ​งอ​วี่​มอง​เขา​แล้ว​ถาม​ว่า​ ​“​เจ้า​ดูถูก​ข้า​เรื่อง​ใด​”​ ​เห​ลิ่ง​เฮ่า​อวี​่​ยิ้ม​ไม่​ตอบ​คำ​ใด​ ​แน่นอน​ว่า​เขา​ดูถูก​อีก​ฝ่าย​อยู่​แล้ว​ ​ใน​ฐานะ​บุตรชาย​สาย​รอง​และ​บุตรชาย​สาย​หลัก​ ​ความสัมพันธ์​ที่​ย่ำแย่​ของ​พวกเขา​นั้น​เป็น​ลิขิต​ของ​สวรรค์​มาตั​้ง​แต่​เกิด​ ​เห​ลิ่ง​เฮ่า​อวี​่​ไม่ได้​รับ​ความรัก​มาตั​้ง​แต่​เด็ก​ ​เห็น​เห​ลิ่ง​ฉิ​งอ​วี่​ที่​บิดา​รักใคร่​เอ็นดู​และ​อบรมสั่งสอน​ย่อม​รู้สึก​เกะกะ​สายตา​เป็นอย่างมาก​ ​เห​ลิ่ง​ฉิ​งอ​วี่​บุตรชาย​สาย​หลัก​ผู้​นี้​จะ​เคย​เห็น​เขา​ที่​เป็น​น้อง​ต่างมารดา​อยู่​ใน​สายตา​ได้​อย่างไร​ ​พอ​เขา​โต​ขึ้น​ได้​รู้จัก​กับ​ม่อ​ซิว​เหยา​ ​เฟิ​่ง​ซาน​และ​พรรคพวก​ ​หลังจาก​ได้​เรียนรู้​จน​มี​ความสามารถ​แล้ว​ ​ความรู้สึก​ที่​ไม่​ชอบ​เห​ลิ่ง​ฉิ​งอ​วี่​ยิ่ง​กลายเป็น​ความ​เหยียดหยาม​มากขึ้น​ ​เจ้า​ได้รับ​คำชม​จาก​ท่าน​พ่อ​อย่าง​ไม่​หมด​ไม่​สิ้น​แล้ว​อย่างไร​ ​ได้รับ​ความรัก​และ​การอบรม​สั่งสอน​จาก​ท่าน​พ่อ​อย่าง​ไม่มีที่สิ้นสุด​แต่กลับ​ไร้​วรยุทธิ​์​ไม่​เหมือนกับ​ข้า​ ​ความสามารถ​ก็​สู้​ข้ามิ​ได้​ ​ต่อให้​อยู่​ใน​สนามรบ​เจ้า​ก็​อาจจะ​สู้​ข้า​ไม่ได้​ ​เพียงแต่​ข้า​ไม่​อยาก​จะ​ไป​ต่อสู้​กับ​เจ้า​เท่านั้นเอง

​ ​ดังนั้น​วัน​คืนหลัง​จาก​ที่​ได้​ช่วยชีวิต​เห​ลิ่ง​หวาย​ที่​ด่าน​จื่อ​จิง​แล้ว​นั้น​ ​เห​ลิ่ง​เฮ่า​อวี​่​ก็​เปรมปรีดิ์​มีสุข​เป็นอย่างมาก​ ​เหมือนกับ​เดิมที​ที่​ตน​ทำได้​เพียง​แอบ​ยินดี​อยู่​ใน​ใจ​คนเดียว​ ​แต่​ยาม​นี้​กลับ​ยินดี​ออกมา​ได้​อย่างเปิดเผย​จริงๆ​ ​เสียที​ ​ความรู้สึก​พวก​นั้น​ไม่ต้อง​กล่าว​ก็​รู้​ ​โดยเฉพาะ​ยาม​ที่​เห​ลิ่ง​หวาย​เยินยอ​ตน​นั้น​สีหน้า​ของ​เห​ลิ่ง​ฉิ​งอ​วี่​ก็​อึมครึม​เย็นชา​ทุกครั้ง​ไป​ ​ความ​ปรีดา​ภายในใจ​ของ​เห​ลิ่ง​เฮ่า​อวี​่​ก็​ยิ่ง​เพิ่มขึ้น​ทบ​เท่า​ทวีคูณ

​ ​เห​ลิ่ง​ฉิ​งอ​วี่​ส่งเสียง​เฮอะ​เบา​ๆ​ ​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​เจ้า​ดูถูก​ข้า​ก็​ไม่เป็นไร​ ​อย่างไร​เสีย​ครั้งนี้​จะ​มีชีวิตรอด​ต่อไป​หรือไม่ก็​ไม่รู้​ ​หาก​ข้า​ตาย​ไป​เจ้า​ก็​ดูแล​ท่าน​พ่อ​ให้​ดีด​้วย​”

​ ​เอ๋​?​ ​เห​ลิ่ง​เฮ่า​อวี​่​ตะลึง​ ​เขา​นึก​ว่า​เห​ลิ่ง​ฉิ​งอ​วี่​จะ​มาช​วน​ทะเลาะ​อะไร​ด้วย​เสียอีก​ ​แต่​รู้สึก​ว่า​จะ​มา​พูด​ฝากฝัง​เขา​เอาไว้​มากกว่า​ ​เขา​เบะ​ปาก​ปัด​ความรู้สึก​แปลก​ๆ​ ​ภายในใจ​ออก​ไป​ ​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​หาก​จะ​ฝากฝัง​คำพูด​ก่อน​ตาย​เอาไว้​ก็​ไป​บอก​กับ​ลูกชาย​ของ​เจ้า​นู่น​ ​เกี่ยว​อัน​ใด​กับ​ข้า​กัน​”​ ​กล่าว​จบ​ก็​หันหลัง​กลับ​เดิน​ออก​ไป​ ​ด้านหลัง​มีเสียง​ของ​เห​ลิ่ง​เฮ่า​อวี​่​ดัง​ตามมา​ว่า​ ​“​หาก​ข้า​รบ​จน​ตัว​ตาย​ ​เจ้า​ก็​จะ​เป็น​ลูกชาย​คนเดียว​ของ​ตระกูล​เห​ลิ่ง​แล้ว​ ​ดูแล​ท่าน​พ่อ​ให้​ดีด​้วย​”​ ​กล่าว​จบ​ก็​ไม่​รอ​ให้​เห​ลิ่ง​เฮ่า​อวี​่​รับคำ​เขา​หันหลัง​เดิน​ไป​ทาง​กำแพง​ ​เห​ลิ่ง​เฮ่า​อวี​่​ตกใจ​พลัน​ตั้งสติ​มองตาม​หลัง​เห​ลิ่ง​ฉิ​งอ​วี่​ไป​แล้ว​ตะโกน​ว่า​ ​“​เจ้า​จะ​ตาย​แล้ว​มัน​เกี่ยว​อัน​ใด​กับ​ข้า​ ​ข้า​ไม่สน​ตระกูล​เห​ลิ่ง​อัน​ใด​ทั้งนั้น​!​”

​กองทัพ​ใหญ่​แห่ง​เป่ย​จิ้ง​ไม่​รอ​ให้​ทหาร​รักษาการณ์​ของ​ฉู่​จิง​ได้​พัก​หายใจ​ก็​เริ่ม​โจมตี​ขึ้น​อีกครั้ง​ ​การ​โจมตี​ครานี​้​ดุเดือด​กว่า​คราก​่อ​นมาก​ ​ทัพ​ใหญ่​เป่ย​จิ้ง​ที่​เห็น​ทหาร​รักษาการณ์​บน​กำแพง​ถูก​โจมตี​จน​ตกลง​ไป​ทีละ​คน​ๆ​ ​ก็​ยิ่ง​ข้าม​แม่น้ำ​ที่​ปกป้อง​เมือง​มา​แล้ว​ปีน​ขึ้น​มาบ​นกำ​แพง​แต่​ก็​ถูก​ทหาร​รักษาการณ์​ตี​ตกลง​ไป​ ​ทว่า​ก็​มี​คน​ปีน​ขึ้น​มาต​่อ​เรื่อยๆ​ ​กลิ่นคาว​เลือด​คละคลุ้ง​ไป​ใน​อากาศ​ ​เสียง​เข่นฆ่า​ดัง​ปกคลุม​ไป​ทั้ง​กำแพง

​ ​ในที่สุด​ ​ประตูเมือง​อัน​แข็งแกร่ง​ก็​พัง​ลงมา​ท่ามกลาง​เสียง​ตีรันฟันแทง​อย่าง​ดุเดือด​ ​ทหาร​เป่ย​จิ้ง​ต่าง​กรู​กัน​เข้าไป​ ฮ​ว่ากั​๋​วกง​ที่อยู่​บน​กำแพง​หยิบ​หอก​เงิน​ใน​มือขึ้น​มา​ ​มอง​ไป​ยัง​ฝูงชน​ที่​ต่อสู้​กัน​บน​กำแพง​ครา​หนึ่ง​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​เห​ลิ่ง​หวาย​!​ ​ปกป้อง​ป้อมปราการ​ไว้​!​”​ ​เห​ลิ่ง​หวาย​ตะลึง​รีบ​เอ่ย​ถาม​ว่า​ ​“​ท่านกั​๋​วกง​ ​นี่​ท่าน​จะ​…​”​ ฮ​ว่ากั​๋​วก​งก​ล่าว​เสียง​ขรึม​ ​“​ข้า​จะ​ลง​ไป​จัดการ​คน​เป่ย​จิ้ง​พวก​นี้​!​”

​ ​กล่าว​จบ​ก็​ไม่​รอ​ให้​เห​ลิ่ง​หวาย​ได้​ปฏิเสธ​ ​เขา​ก้าว​พรวด​ๆ​ ​ลง​จาก​ป้อมปราการ​ไป​ ​ชุด​ออกศึก​สีเขียว​ซีด​โบกสะบัด​ท่ามกลาง​สายลม​หนาว​ ​ทำ​คน​รู้สึก​เหมือน​ได้​เห็นฮ​ว่ากั​๋​วกง​ที่​กำลัง​ควบ​ม้า​ด้วย​วัย​ที่​ยัง​หนุ่ม​ยัง​แน่น​ใน​ปีนั​้น

​ ​ประตูเมือง​สูงใหญ่​เพียงนั้น​ ​แม้​ประตูเมือง​จะ​แตก​ไป​แต่​ยาม​นี้​ทหาร​ฉู่​จิง​ที่​ปกป้อง​เมือง​ก็​รีบ​กรู​กัน​เข้ามา​ขัดขวาง​ชาว​เป่ย​จิ้ง​ไว้​ ​กองทัพ​ทั้งสอง​รบราฆ่าฟัน​กัน​อยู่​ที่​หน้า​ประตูเมือง​ ​จากนั้น​ชาว​เป่ย​จิ้ง​ที่​ฮึกเหิม​กล้าหาญ​ก็​จัดการ​ทหาร​ต้า​ฉู่​ที่​เหนื่อยล้า​และ​หิวโหย​เหล่านี้​ไป​ได้​ ​ฉู่​จิง​ถูก​ตี​จน​ถอยร่น​ไป​ทีละ​ก้าว​ๆ​ ​ทหาร​เป่ย​จิ้ง​ยิ่ง​กรู​กัน​เข้ามา​อย่างไม่ขาดสาย​ ​เป็น​เช่นนี้​ต่อไป​ ​ต่อให้​ปกป้อง​ป้อมปราการ​ไว้​ก็​ไร้ค​วาม​หมาย​ ​เห​ลิ่ง​หวาย​สั่งการ​ให้​ทหาร​ที่​ปกป้อง​เมือง​อยู่​ถอย​เข้า​เมือง​ไป​ต่อสู้​ ​ศึก​ปกป้อง​เมือง​ครานี​้​ใช้เวลา​สาม​เดือน​กว่า​ไป​แล้ว​ ​สู้​จน​สถานการณ์​ยาม​นี้​มี​แต่​ต้อง​สู้​จน​ตัว​ตาย​เท่านั้น​ ​ไม่​ถึง​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ฉู่​จิง​ทั้งเมือง​ก็​เต็มไปด้วย​เสียง​ตะโกน​เข่นฆ่า

​ ​แม้​จะ​มี​การควบ​คุม​ของ​เห​ริน​ฉี​หนิง​อยู่​ ​แต่​ทหาร​ของ​เป่ย​จิ้ง​ไหน​เลย​จะ​ฟัง​ ​ประชาชน​มากมาย​ต่าง​ล้มตาย​ไป​ไม่น้อย​ ​ทรัพย์สิน​เงินทอง​ล้วน​ถูก​แย่งชิง​ปล้น​มา​ ​หาก​ประชาชน​ใน​เมือง​ต่อต้าน​ก็​หนี​ไม่​พ้น​ความตาย​จาก​คม​ดาบ​ของ​เหล่า​ทหาร​เป่ย​จิ้ง​ ​พริบตาเดียว​เมือง​ที่​เจริญรุ่งเรือง​นับ​ร้อย​ปี​เมือง​นี้​ก็​กลายเป็น​ขุมนรก​ ​กลิ่นคาว​เลือด​ลอย​คลุ้ง​ ​เสียงร้อง​ไห้​คร่ำครวญ​ดังระงม​ไป​ทั้งเมือง

​ ​ศูนย์กลาง​ของ​ฉู่​จิง​อย่าง​พระราชวัง​ยังคง​อยู่​ ​ยาม​นี้​องครักษ์​ที่​ปกป้อง​พระราชวัง​เหลืออยู่​เพียง​ไม่​กี่​คน​แล้ว​ ​เมืองหลวง​อัน​ยิ่งใหญ่​รกร้าง​ราวกับ​ไร้​เงา​ผู้คน​ ​เด็กหนุ่ม​และ​เด็กสาว​นั่ง​กอด​กัน​อยู่​ใน​ตำหนัก​ ​เด็กสาว​คน​นั้น​หน้าตา​สะสวย​งดงาม​ ​เสียดาย​ที่​ใบหน้า​อีก​ครึ่งหนึ่ง​กลับ​มี​รอยแผล​เป็น​รอย​ใหญ่​ยิ่ง​ขับ​ให้​ใบหน้า​งดงาม​นั้น​ประหลาด​มากยิ่งขึ้น​ ​“​น้องชาย​ ​เจ้า​กลัว​หรือไม่​”​ ​เด็กสาว​คน​นี้​ก็​คือ​พระ​ธิดา​ของ​พระสนม​หลิ่ว​นาม​ว่า​องค์​หญิง​เจิน​หนิง​ ​คนที​่​นั่ง​ข้าง​นาง​นั้น​ย่อม​เป็น​พระ​โอรส​ของ​พระสนม​ที่​ถูก​ม่อ​จิ​่ง​หลี​แต่งตั้ง​ให้​เป็น​ฉาง​ซิ่ง​อ๋อง​อย่าง​องค์​ชาย​ม่อ​เซี่ยว​อวิ​๋น

​ ​ม่อ​เซี่ยว​อวิ​๋น​ส่ายหน้า​กล่าวว่า​ ​“​ไม่​กลัว​ ​พี่​หญิง​อย่า​ได้​กลัว​ไป​ ​ข้า​จะ​อยู่​เป็นเพื่อน​ท่าน​เอง​…​”​ ​ม่อ​เซี่ยว​อวิ​๋น​ปลอบ​พี่สาว​เสียง​เบา​ ​เสียง​ตะโกน​นอก​กำแพง​วัง​ดัง​ใกล้​เข้ามา​เรื่อยๆ​ ​องครักษ์​สอง​สาม​คน​วิ่ง​มาทาง​นี้​ ​หนึ่ง​ใน​นั้น​กล่าว​ขึ้นเสียง​เข้ม​ว่า​ ​“​ท่าน​อ๋อง​ ​องค์​หญิง​ ​ทหาร​เป่ย​จิ้ง​จะ​บุก​เข้ามา​แล้ว​ ​ขอ​ท่าน​อ๋อง​กับ​องค์​หญิง​โปรด​หนี​ไป​กับ​พวก​กระหม่อม​ก่อน​เถิด​”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด