ชายาเคียงหทัย 320-1 ฉู่จิงจะตกเป็นของผู้ใด

Now you are reading ชายาเคียงหทัย Chapter 320-1 ฉู่จิงจะตกเป็นของผู้ใด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ม่อ​ซิว​เหยา​และ​เยี​่ย​หลี​นำ​คน​จำนวน​หนึ่ง​กลับ​เมือง​หลี​ ​เนื่องจาก​นาง​มีครรภ์​ ​ตลอดทาง​จึง​ไม่​เร่งร้อน​ ​ไม่ได้​รู้สึก​เร่งร้อน​เพราะ​กองทัพ​ตระกูล​ม่อ​ที่​ทิ้ง​ไว้​รักษาการณ์​ซี​เป่ย​เริ่ม​เปิดศึก​กับ​ซี​หลิง​และ​เป่ย​หรง​แล้ว

​และ​ในขณะเดียวกัน​นี้​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ที่​ห่าง​จาก​ที่นี่​ไป​ไกล​นับ​พัน​ลี้​ที่​กำลัง​เผชิญหน้า​กับ​เจิ​้น​หนา​นอ​๋​อง​ก็ได้​รับ​ข่าว​ที่มา​จาก​เมือง​หลี​เป็น​ที่​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ภายใน​ราช​วัง​ที่​บูรณะ​แต่งเติม​จาก​โครงสร้าง​เดิม​ของ​ตำหนัก​หลี​อ๋อง​นั้น​ ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​เห็น​สารที​่​ปรากฏ​ใน​มือ​แล้ว​สีหน้า​พลัน​มืดครึ้ม​ ​แม้ว่า​ตำหนัก​ฉู่​กง​ยาม​นี้​จะ​สร้าง​ขยาย​มาจาก​ตำหนัก​หลี​อ๋อง​เดิม​ ​แต่​ตั้งแต่​ครั้ง​ที่​ม่อ​จิ​่ง​หลี​และ​ม่อ​จิ​่ง​ฉี​ทะเลาะ​กัน​ใหญ่โต​ก็ได้​เริ่ม​สร้าง​แล้ว​ ​ดังนั้น​หลาย​ปี​ต่อมา​จึง​เสร็จสิ้น​ไป​ไม่น้อย​ ​ราชวงศ์​ต้า​ฉู่​ย้าย​มา​อยู่​ทาง​ตอน​ใต้​ของ​แม่น้ำ​อวิ​๋น​หลัน​อย่างรีบด่วน​กลับ​ไม่มี​เรื่อง​ปั่นป่วน​อะไร​เกิดขึ้น​ ​ราชวงศ์​ส่วนน้อย​ของ​ต้า​ฉู่​ที่​มี​ม่อ​จิ​่ง​หลี​เป็น​ผู้นำ​นั้น​จึง​รักษา​เอาไว้​ได้​สืบมา​ ​เพียงแต่​ยาม​นี้​ราชวงศ์​ที่​ย้าย​มา​อยู่​ไกล​ถึง​อยู่​แถบ​เจียง​หนา​นนั​้น​เกรง​ว่า​คงจะ​เรียกว่า​เป็น​ราชวงศ์​ใหญ่​ไม่ได้​แล้ว​ ​ฝืนใจ​อย่างไร​ก็​เป็นได้​เพียง​ราชวงศ์​หนาน​ฉู่​เท่านั้น​

ณ​ ​ท้องพระโรง​ ​มี​ฮ่องเต้​น้อย​ที่​อ่อนแอ​ขี้ขลาด​ชันษา​เพียง​เจ็ด​แปด​ปีนั​่​งอยู​่​ ​ด้าน​ข้าง​เป็น​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ที่​ดำรงตำแหน่ง​ผู้สำเร็จราชการ​นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้​มังกร​ทองคำ​เหลืองอร่าม​แทบจะ​แบบ​เดียวกัน​ ​ซึ่ง​ยาม​นี้​ได้​กุมอำนาจ​ทางการ​ปกครอง​เอาไว้​ ​พอ​เห็น​สีหน้า​ของ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ไม่น่า​ดู​ ​เหล่า​ขุนนาง​ด้านล่าง​ก็​พลอย​ไม่กล้า​ส่งเสียง​ใดๆ​ ​ไป​ด้วย​ ​ยาม​นี้​ดินแดน​แถบ​เจียง​หนาน​ได้​ตก​อยู่​ใน​มือ​ของ​หลี​อ๋อง​ทั้งหมด​ ​มา​อาศัย​บ้านเมือง​ผู้อื่น​เช่นนี้​ก็​ต้อง​อ่อนข้อ​ให้​สาม​ส่วน​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ขุนนาง​บุ๋น​บู๊ที​่​ซื่อสัตย์​ไม่ยอม​คน​ล้วน​ยอม​ตาย​อยู่​ที่​ฉู่​จิง​อัน​ใกล้​จะ​ล่มจม​นี้​ ​ทว่า​ตอนนี้​จะ​ไป​คาดหวัง​ให้​พวก​ที่​เหลืออยู่​นี้​มี​ความกล้าหาญ​มาต​่​อก​รกับ​หลี​อ๋อง​ได้​อย่างไร

​ยาม​นี้​ไท​ฮอง​ไท​เฮา​แม้​จะ​ยัง​พอ​มีอำนาจ​ใน​มือ​อยู่​บ้าง​ ​ทว่า​ตั้งแต่​ย้าย​เมืองหลวง​มาก​็​ค่อยๆ​ ​อ่อน​อำนาจ​ลง​ ​ความกล้า​ของ​องค์​ไท​เฮา​นั้น​ก็​พอ​ๆ​ ​กับ​ฮ่องเต้​น้อย​ที่​อายุ​เพียง​เจ็ด​แปด​ปี​พระองค์​นี้​ ​ภายในใจ​ทุกคน​ต่าง​รู้ดี​ ​เกรง​ว่า​อีกไม่นาน​ฮ่องเต้​พระองค์​น้อย​ก็​คงจะ​สละ​บัลลังก์​ ​ต้า​ฉู่​ควรจะ​เปลี่ยน​ฮ่องเต้​พระองค์​ใหม่​ได้​แล้ว

​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ใช้​สายตา​มอง​ลงมา​จาก​เก้าอี้​ดู​เหล่า​ขุนนาง​ครา​หนึ่ง​ ​แล้ว​หัวเราะ​เสียงเย็น​กล่าวว่า​ ​“​พวก​เจ้า​อยากรู้​ใช่​หรือไม่​ว่า​ใน​นี้​เขียน​ไว้​ว่า​อย่างไร​”

​เหล่า​ขุนนาง​ต่าง​ตกใจ​ ​ลอบ​ส่งสายตา​กัน​อย่าง​เงียบๆ​ ​ประโยค​นี้​กล่าว​ได้​แปลกประหลาด​ไม่น้อย

​ม่อ​จิ​่ง​หลีก​ลับ​ไม่สน​ใจ​ ​ยกมือ​ขึ้น​ดีด​สาร​ใน​มือเบา​ๆ​ ​กล่าวว่า​ ​“​หลังจาก​ม่อ​ซิว​เหยา​ยึด​เมืองหลวง​แห่ง​ซี​หลิง​ไป​แล้ว​ ​ก็ได้​เปลี่ยน​ชื่อ​เป็น​เมือง​ผิง​อัน​ ​ยาม​นี้​ม่อ​ซิว​เหยา​ออกจาก​ซี​หลิง​เพื่อ​กลับ​ไป​ซี​เป่ย​แล้ว​”

​ได้ยิน​ดังนั้น​ ​เหล่า​บรรดา​ขุนนาง​ต่าง​มีสี​หน้าแตก​ต่างกัน​ไป​ ​ทยอย​ใช้​สายตา​แลกเปลี่ยน​ความคิด​กับ​ขุนนาง​ที่​ตน​สนิท​ชิดเชื้อ​ด้วย​ ​ม่อ​จิ​่ง​หลีก​ล่า​วอ​ย่าง​รำคาญ​ว่า​ ​“​มี​อะไร​ก็​พูด​ออกมา​!​”

​ครู่​ต่อมา​จึง​มี​ขุนนาง​คน​หนึ่ง​ลุก​ออกมา​ค้อม​กาย​กล่าวว่า​ ​“​ท่าน​อ๋อง​ ​ยาม​นี้​ติ้ง​อ๋อง​กลับ​เมือง​ซี​เป่ย​ ​เป็น​สัญญาณ​บอกว่า​…​กองกำลัง​ทหาร​ของ​ตระกูล​ม่อ​อาจจะ​ส่ง​ทัพ​มาช​่วย​เหลือ​ฉู่​จิง​ ​หาก​เป็น​เช่นนั้น​…​”​ ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​อด​ที่จะ​หัวเราะ​ออกมา​ไม่ได้​ ​เขามอง​ไป​ที่​ขุนนาง​คน​นั้น​คล้าย​ยิ้ม​คล้าย​ไม่​ยิ้ม​กล่าวว่า​ ​“​หาก​เป็น​เช่นนั้น​แล้ว​อย่างไร​ ​หรือว่า​พวก​เจ้า​ยัง​อยาก​ให้​เขา​กลับมา​ฉู่​จิง​อีก​ ​เรื่อง​นี้​เอาไว้​ก่อน​…​เหลย​เจิ​้น​ถิง​ขวาง​ไว้​ที่​ฝั่ง​ตรงข้าม​ ​เอา​ฉู่​จิง​คืน​มา​ได้​แล้ว​อย่างไร​ ​เป่ย​หรง​เป่ย​จิ้ง​ซ้าย​ขวา​หน้า​หลัง​ของ​ซี​หลิง​ล้วน​ล้อม​ไป​ด้วย​ศัตรู​ ​ฉู่​จิง​ก็​ไม่​ต่าง​อะไร​กับ​เมือง​อัน​เดียวดาย​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​…​พวก​เจ้า​คิด​ว่าที่​ม่อ​ซิว​เหยา​ช่วย​ฉู่​จิง​เอาไว้​เพราะ​คิด​ว่า​เป็น​ฉู่​ติง​ของ​ราชวงศ์​หรือ​เป็น​ฉู่​จิง​ของ​ติ้ง​อ๋อง​กัน​ล่ะ​”

​“​เรื่อง​นี้​…​ท่าน​อ๋อง​ช่าง​มอง​ได้​ทะลุปรุโปร่ง​ยิ่งนัก​ ​ข้า​น้อย​ไร้​สามารถ​แล้ว​”​ ​สีหน้า​ขุนนาง​คน​นั้น​เปลี่ยนไป​เล็กน้อย​ ​ถอยกลับ​ไป​ใน​แถว​อย่าง​ไม่พอใจ

​ม่อ​จิ​่ง​หลี​มอง​บรรดา​ขุนนาง​แล้ว​กล่าว​เสียง​เรียบ​ ​“​พวก​เจ้า​อย่า​ได้​ผิดหวัง​ไป​ ​ต่อให้​ม่อ​ซิว​เหยา​มี​ความคิด​อยาก​จะ​ช่วยเหลือ​ฉู่​จิง​ ​ก็​เกรง​ว่า​คง​ไม่ทันการณ​์​แล้ว​ ​ยาม​นี้​พวก​ทหาร​เป่ย​หรง​หลาย​แสนนาย​และ​ทหาร​ซี​หลิง​อีก​สอง​แสนนาย​ยังคง​ตั้งค่าย​อยู่​นอก​ด่าน​เฟย​หง​”

​“​ท่าน​อ๋อง​ ​แล้ว​เจิ​้น​หนา​นอ​๋​อง​แห่ง​ซี​หลิง​…​”

​ม่อ​จิ​่ง​หลีก​ล่า​วอ​ย่าง​ไม่ใส่ใจ​ว่า​ ​“​ทหาร​ซี​หลิง​ไม่​ถนัด​รบ​ใน​น้ำ​ ​แม่น้ำ​อวิ​๋น​หลัน​ไม่​ต่าง​อะไร​กับ​ด่าน​ทางธรรมชาติ​ที่​ขวางกั้น​พวกเขา​ไว้​ ​ข้า​ได้​ให้​ทหาร​ริมฝั่ง​ไป​จัดการ​แล้ว​ ​ต้อง​มีสัก​วันที่​ข้า​จะ​ได้​เล่นงาน​เหลย​เจิ​้น​ถิง​แน่​!​”

​ใน​ใจ​ผู้คน​พลัน​รู้แจ้ง​ ​หลี​อ๋อง​วางแผน​จะ​ทิ้ง​เจียง​หนา​นบาง​ส่วน​ ​รักษา​แนว​ป้องกัน​ทางธรรมชาติ​ของ​แม่น้ำ​อวิ​๋น​หลัน​ไว้​เป็น​อู่ข้าวอู่น้ำ​ ​เดิมที​ไม่มีความคิด​ที่จะ​นำ​พวก​ทหาร​ขึ้น​เหนือ​ไป​ฟื้นฟู​ธรรมชาติ​ภายใน​ระยะเวลา​สั้น​ๆ​ ​อยู่​แล้ว​ ​พวก​ขุนนาง​ใน​ใจ​ก็​อด​จะ​เกิด​ความผิดหวัง​และ​ความ​ฉงน​ขึ้น​มา​ไม่ได้​ ​พวกเขา​ไม่​อยาก​ให้​สงคราม​เกิดขึ้น​ที่​ฉู่​จิง​จึง​ได้​ย้าย​มา​เจียง​หนาน​ตาม​หลี​อ๋อง​ ​ยาม​นี้​ทำได้​เพียง​ปลอบใจ​ตัวเอง​เงียบๆ​ ​ให้​ใช้​แผน​นี้​ ​เพียงแต่​ ​เวลานี้​…​หรือไม่ก็​ชาติ​นี้​ทั้งชาติ​คง​เป็นได้​เพียงเท่านี้​เสีย​แล้ว

​เมื่อ​เห็น​ว่า​ไม่มี​ข้อ​ราชกิจ​อะไร​แล้ว​ ​ม่อ​จิ​่ง​เหยา​ก็​โบกมือ​ให้​ขุนนาง​ออก​ไป​ ​ต่อมา​ไม่นาน​ถ้า​ไม่​นับ​นางใน​ที่​คอย​รับใช้​แล้ว​ ​ท้องพระโรง​ก็​เหลือ​เพียง​ฮ่องเต้​น้อย​ม่อ​ซู่​อวิ​๋น​ ​ฮ่องเต้​น้อย​มักจะ​หวาดกลัว​ต่อ​สายตา​อัน​น่ากลัว​ของ​เสด็จ​อา​ที่​จ้องมอง​มาที​่​ตน​เป็นอย่างมาก​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​รอบด้าน​ไร้​ผู้คน​ ​ร่างกาย​ที่​ผ่ายผอม​จึง​มุด​กาย​หลบซ่อน​อยู่​ใน​บัลลังก์​มังกร

​นัยน์ตา​ม่อ​จิ​่ง​หลี​เข้ม​ขึ้น​ ​มอง​เด็ก​ที่อยู่​บน​บัลลังก์​เย็นเยียบ​มากกว่า​เดิม​ ​หาก​ลูกชาย​เขา​ยังอยู่​ก็​คงจะ​อายุ​พอ​ๆ​ ​กับ​เด็ก​คน​นี้​ ​แต่​ไม่รู้​ว่า​ม่อ​จิ​่ง​ฉี​เอา​ลูกชาย​เขา​ไป​ไว้​ที่ใด​แล้ว​ ​และ​เขา​ก็​ต้อง​มาคอ​ยดู​แล​เอาใจใส่​ลูกชาย​ของ​ม่อ​จิ​่ง​ฉี​แทน​!​ ​ยิ่ง​มอง​เด็ก​ขี้ขลาด​คน​นี้​ก็​ยิ่ง​ขัดหู​ขัดตา​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ดึง​ม่อ​ซู่​อวิ​๋​นล​งมา​จาก​บัลลังก์​มังกร​ด้วยมือ​ข้างเดียว​ ​ลาก​ไป​ยัง​ตำหนัก​ใน​ ​ไม่สน​ใจ​ว่า​เด็ก​ที่​อายุ​พึ่ง​จะ​ได้​เจ็ด​ปี​จะ​เดินตาม​ทัน​หรือไม่​ ​เขา​โดน​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ลาก​อย่าง​ทุลักทุเล​ออก​ไป​ตลอดทาง​ ​เหล่า​บรรดา​นางกำนัล​คนรับใช้​ล้วน​เห็นท่า​ทาง​น่าสงสาร​ของ​ฮ่องเต้​น้อย​ ​แต่​ภายใน​วัง​ยาม​นี้​มี​เพียง​คำสั่ง​ของ​ท่าน​อ๋อง​ผู้สำเร็จราชการ​เท่านั้น​ที่​มีอ​นำ​นาจ​สั่งการ​ได้​เท่านั้น​ ​ผู้ใด​จะ​กล้า​เข้าไป​ยุ่ง​ด้วย

​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ลาก​ม่อ​ซู่​อวิ​๋น​เข้าไป​ใน​ตำหนัก​ของ​ไท​เฮา​ ​ไท​ฮอง​ไท​เฮา​หลี​่​ซื่อ​กำลัง​สนทนา​อยู่​กับ​ไท​เฮา​ ​พอ​เห็น​ม่อ​จิ​่ง​หลีก​็​พลัน​ตกใจ​ ​แล้ว​หันไป​เห็นท่า​ทาง​น่าสงสาร​ของ​ลูกชาย​น้ำตา​ก็​พลัน​ไหลริน​ ​“​หวง​เอ๋อร​์​…​”

​“​ไสหัวไป​!​”​ ​ม่อ​จิ​่ง​หลีก​ล่า​วอ​ย่าง​รำคาญ​ ​หาก​บอกว่า​เขา​เคย​มี​ความเคารพ​ให้​กับฮ​ว่า​ฮองเฮา​อยู่​บ้าง​แล้ว​นั้น​ ​กับ​หลี​่​ไท​เฮา​คน​นี้​ ​ใน​สายตา​ของ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​แล้วยัง​เทียบ​กับ​หญ้า​ต้นหนึ​่ง​ไม่ได้​ด้วยซ้ำ​ ​หลี​่​ซื่อ​ตกใจ​จน​สั่น​ไป​ทั้ง​ร่าง​แทบ​ไม่กล้า​ขยับตัว​ ​ทำ​เพียง​กลั้น​น้ำตา​มอง​ดวง​หน้า​น้อย​ๆ​ ​ของ​ลูกชาย​ด้วย​สีหน้า​ซีดเซียว​อย่าง​ทำ​อะไร​ไม่ได้​ ​ฮอง​ไท​เฮา​ที่นั่ง​อยู่​อีก​ด้าน​ส่ายหน้า​พลาง​ถอนใจ​เงียบๆ​ ​ถึง​นาง​จะ​ไม่​ชอบ​ให้​ไท​เฮา​มีอำนาจ​มากเกินไป​ ​แต่​หลี​่​ซื่อ​คน​นี้​ก็​อ่อนแอ​เกินไป​จริงๆ​ ​กล่าวว่า​คน​เป็นมา​รดา​ต้อง​เข้มแข็ง​ ​ทว่า​หลี​่​ซื่อ​คน​นี้​เข้มแข็ง​ขึ้น​มา​เพื่อ​ลูกชาย​ตัวเอง​ก็​ยัง​ไม่ได้

​“​หลี​เอ๋อร​์​ ​นี่​เจ้า​กำลังจะ​ทำ​อะไร​”​ ​มองดู​สีหน้า​มืดครึ้ม​ของ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​แล้ว​ ​ไท​เฮา​ก็​ดุ​อย่าง​ไม่พอใจ​นัก

​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ลาก​ม่อ​ซู่​อวิ​๋​นโย​นล​งกับ​พื้น​ ​ไม่สน​ใจ​ว่า​เขา​จะ​เจ็บ​หรือไม่​ ​ยิ้ม​เย็น​กล่าวว่า​ ​“​ท่าน​ว่า​ข้า​ทำ​อะไร​ล่ะ​ ​เสด็จ​แม่​ ​ท่าน​บอก​ข้า​ที​ ​ม่อ​จิ​่ง​ฉี​เอา​ลูกชาย​ข้า​ไป​ไว้​ที่ใด​!​”​ ​ไท​เฮา​เงียบเสียง​ไม่​ตอบ​คำ​ ​หาก​ก่อนหน้านี้​นาง​มีเรื่อง​ที่​ไม่เข้าใจ​ล่ะ​ก็​ ​ผ่าน​มา​เนิ่นนาน​เช่นนี้​ก็​คง​เข้าใจ​ได้​แล้ว​ ​แต่​พระนาง​กลับ​ไม่เคย​นึก​มาก​่อน​เลย​ว่า​ลูกชาย​ทั้งสอง​ของ​ตน​จะ​ลงมือ​กับ​พี่น้อง​มารดา​เดียว​กับ​ตน​ได้​อย่าง​ไม่​ปรานี​เช่นนี้​ ​พระนาง​ส่าย​พระพักตร์​กล่าวว่า​ ​“​ข้า​ไม่รู้​ ​เจ้า​ก็​รู้แก่ใจ​ว่าความ​สัมพันธ์​ของ​ข้า​กับ​พี่ชาย​เจ้า​นั้น​ไม่​เหมือน​ที่​คนนอก​มองว่า​กตัญญู​เมตตา​ต่อกัน​ ​หาก​เขา​ทำ​เรื่อง​เช่นนั้น​ไป​ ​มี​หรือ​จะ​มาบ​อก​ข้า​”​ ​หลาย​เดือน​มานี​้​ม่อ​จิ​่ง​หลี​แทบจะ​มา​ไถ่ถาม​เรื่อง​นี้​วันเว้นวัน​ ​ไท​เฮา​ก็​ทรง​เข้าใจ​ได้​เงียบๆ​ ​แล้ว​ว่า​ ​เด็ก​ที่​เยี​่​ยอิ​๋​งค​ลอด​ออกมา​ใน​ตอนนั้น​เกรง​ว่า​คงจะ​เป็น​ลูกชาย​เพียง​คนเดียว​ของ​ม่อ​จิ​่ง​หลี

“​คำถาม​นี้​เจ้า​ควรจะ​ไป​ถาม​หลิ่ว​ซื่อ​จึง​จะ​ถูก​ ​ครา​แรก​ไม่ใช่​ว่า​เจ้า​อยาก​จะ​ปกป้อง​นาง​หรือ​”​ ​ไท​เฮา​กล่าว​ด้วย​สุรเสียง​เรียบ​นิ่ง​ที่​แฝง​ไว้​ด้วย​ความ​ประชดประชัน​ ​ลูกชาย​แท้ๆ​ ​ของ​ตัวเอง​ ​ยาม​มารดา​ถูก​บังคับ​ให้​ตาย​ตาม​ไป​ใน​สุสาน​กลับ​ไม่​ช่วย​มารดา​ตน​ ​แต่​ไป​ปกป้อง​คนนอก​คน​หนึ่ง​ ​ทุก​ครา​ที่​พระนาง​คิดถึง​เรื่อง​นี้​ใน​ใจ​ก็​พลัน​ทุกข์ระทม

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด