ชายาเคียงหทัย 316-1 ความสูญเสียจนกระอักเลือดของเจิ้นหนานอ๋อง

Now you are reading ชายาเคียงหทัย Chapter 316-1 ความสูญเสียจนกระอักเลือดของเจิ้นหนานอ๋อง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

​“​ม่อ​ซิว​เหยา​…​”​ ​เยี​่ย​หลี​ที่อยู่​ใน​อ้อมกอด​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​ใน​ใจ​เต็มไปด้วย​ความรู้สึกผิด​ ​ครั้งนี้​เป็น​นาง​ที่​ประมาท​เกินไป​จริงๆ​ ​จึง​ทำให้เกิด​เรื่อง​เช่นนี้​ขึ้น​ได้​ ​กระทั่ง​ทำให้​พี่​สี่​ต้อง​เดือดร้อน​ไป​ด้วย​ ​หลาย​วันนี้​คนที​่​อยู่​ตรงหน้า​นาง​คงจะ​ลำบาก​อย่างมาก​เป็นแน่​ ​นาง​กระชับ​อ้อมกอด​ที่​กอด​เอว​ม่อ​ซิว​เหยา​ให้​แน่น​ขึ้น​ ​กล่าว​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​ซิว​เหยา​ ​ข้า​ขอโทษ​ ​ครั้งนี้​ข้า​ผิด​เอง​ ​ต่อไป​จะ​ไม่​เป็น​เช่นนี้​อีกแล้ว​…​”

​“​ไม่ใช่​ความผิด​ของ​อา​หลี​ ​ข้า​ไม่ดี​เอง​ ​ข้า​ไม่รู้​ว่า​อา​หลี​…​กำลัง​ตั้งครรภ์​”​ ​มือ​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​ลูบ​เบา​ๆ​ ​บน​หน้าท้อง​แบน​ราบ​ของ​นาง​ ​ใน​นั้น​ได้​อุ้ม​ลูก​ของ​พวกเขา​ไว้​อีกครั้ง​แล้ว​ ​ตั้งแต่​มี​ม่อ​ตัว​น้อย​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ก็​ไม่​ค่อย​สนใจ​เรื่อง​มีลูก​อีก​เลย​ ​คิด​กระทั่ง​ว่า​ต่อไป​ไม่มี​ลูก​อีก​ก็​คงจะ​ดี​ ​แต่​ใน​ด้าน​เหตุผล​แล้ว​เขา​รู้ดี​ว่า​ ​การ​มีลูก​เพิ่ม​อีก​สอง​คน​จะ​ดี​ต่อ​อา​หลี​ในอนาคต​ ​ทว่า​มีลูก​ติดกัน​สอง​ท้อง​ใน​ยาม​นี้​นับว่า​ไม่​ค่อย​ดีสัก​เท่าไร​ ​ถึงขนาด​ทำให้​อา​หลี​ตกอยู่ในอันตราย​ได้​ ​นี่​จึง​ทำให้​นัยน์ตา​ม่อ​ซิว​เหยา​ปรากฏ​แวว​ดุดัน​ขึ้น

​เยี​่ย​หลี​เงยหน้า​ขึ้น​ ​มอง​บุรุษ​ตรงหน้า​ที่​สีหน้า​พลัน​เปลี่ยนเป็น​อึมครึม​ ​ยาม​ท้อง​ตัว​น้อย​ใน​ครา​แรก​ก็​เป็น​เช่นนี้​ ​เดิมที​สีหน้า​แววตา​ม่อ​ซิว​เหยา​ที่​มอง​ลูก​ใน​ท้องนา​งก​็​อ่อนโยน​อบอุ่น​ ​แต่​ครู่​ต่อมา​ก็​มืดครึ้ม​จน​ทำให้​เยี​่ย​หลี​เป็นห่วง​ ​เพียงแต่​นาง​ยังคง​เชื่อ​ว่า​เขา​จะ​รัก​และ​เอ็นดู​ลูก​ๆ​ ​ของ​ตัวเอง

​“​ซิว​เหยา​ ​เจ้า​ว่า​…​ครั้งนี้​จะ​ได้​ลูกสาว​หรือไม่​”​ ​เยี​่ย​หลี​พิง​อก​ม่อ​ซิว​เหยา​อมยิ้ม​ถาม

​“​ลูกสาว​หรือ​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ใจ​กระตุก​ ​นึก​ไป​ถึง​ลูกสาว​ตัว​น้อย​ที่​เชื่อฟัง​และ​ฉลาดเฉลียว​เหมือน​อา​หลี​ ​สีหน้า​ก็​อด​จะ​อ่อนโยน​ขึ้น​มา​ไม่ได้​ ​เยี​่ย​หลี​ยิ้ม​กล่าวว่า​ ​“​ใช่​น่ะ​สิ​ ​เรา​มีตั​วน​้อย​คน​หนึ่ง​แล้ว​ ​ข้า​หวัง​ว่า​ครั้งนี้​จะ​เป็น​ผู้หญิง​ ​เช่นนี้​ตัว​น้อย​ก็​จะ​มีน​้​อง​สาว​แล้ว​ ​ยาม​นี้​อายุ​ของ​ตัว​น้อย​ก็​โต​พอที่​จะ​ดูแล​ปกป้อง​น้องสาว​ได้​พอดี​ไม่ใช่​หรือ​”

​ม่อ​ซิว​เหยา​รู้สึก​ว่า​มีเหตุผล​ ​หาก​ได้​ลูกสาว​ที่​เหมือน​อา​หลี​ล่ะ​ก็​ ​นาง​จะ​เป็น​องค์​หญิง​น้อย​เพียง​คนเดียว​ของ​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​ใน​รอบ​หลาย​สิบ​ปีนี​้​ ​และ​ย่อม​ได้รับ​การ​ประคบประหงม​เอาใจ​อย่างแน่นอน​ ​ม่อ​ตัว​น้อย​กำลัง​ว่าง​อยู่​พอดี​ ​ก็​ให้​เขา​ดูแล​ปกป้อง​น้องสาว​เสีย​เลย​ก็แล้วกัน​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​คิด​คำนวณ​อยู่​ใน​ใจ​เงียบๆ​ ​กลับ​ไป​คง​ต้อง​ให้​ม่อ​ตัว​น้อย​ฝึกซ้อม​มากขึ้น​เสีย​แล้ว​ ​จะ​ได้​ปกป้อง​น้อง​ได้​อย่าง​ไม่มีปัญหา

​เยี​่ย​หลี​ไม่มีทาง​รู้​เลย​ว่า​เพียง​คำพูด​เดียว​ของ​นาง​นี้​ได้​กำหนด​อนาคต​วัยเด็ก​ที่​แสน​ลำบาก​ของ​ม่อ​ตัว​น้อย​ไว้​แล้ว​ ​นาง​เพิ่งจะ​ฟื้น​ขึ้น​มามา​ ​ร่างกาย​ปกติ​ดี​ ​ซ้ำ​ยัง​รู้​ข่าวดี​เรื่อง​ตั้งครรภ์​อีก​ ​รวมทั้ง​เรื่อง​ที่​พี่​สี่​ก็​ฟื้น​แล้ว​ ​เยี​่ย​หลี​จึง​อารมณ์​ปลอดโปร่ง​ผ่อนคลาย​ขึ้น​เป็นพิเศษ​ ​ความ​กลัดกลุ้ม​ทุกข์ใจ​ที่​ไม่ทราบ​สาเหตุ​เมื่อ​ไม่​กี่​วันก่อน​ราวกับ​จะ​หาย​ไป​จน​สิ้น​ ​ครู่​ต่อมา​ ​เยี​่ย​หลี​จึง​ถอนหายใจ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​เงยหน้า​มอง​คนที​่​กอด​ตน​ไว้​จน​หลับ​ไป​ ​ใต้​ดวงตา​ที่​ปิด​สนิท​นั้น​มี​รอย​คล้ำ​จางๆ​ ​อยู่​ ​เยี​่ย​หลี​ยื่นมือ​ไป​จับชีพจร​เขา​อย่างระมัดระวัง​ ​แล้วจึง​ค่อยๆ​ ​ลุกขึ้น​ขยับ​ที่​บน​เตียง​ให้​เขา​ได้​นอน​ดี​ๆ​ ​ดึง​ผ้า​มา​ห่ม​ให้​เขา​อย่าง​ระวัง​ ​มองดู​ใบหน้า​หล่อเหลา​ที่​หลับใหล​ ​เยี​่ย​หลี​ยิ้ม​ออกมา​บาง​ๆ​ ​บน​โลก​นี้​คนที​่​จะ​สัมผัส​จุด​ชีพจร​ของ​ติ้ง​อ๋อง​ได้​คงมี​เพียงแค่​นาง​คนเดียว​แล้ว​กระมัง

​ใน​หอพัก​ม้า​ ​บรรยากาศ​ย่อม​เต็มไปด้วย​ความยินดี​ที่​เยี​่ย​หลี​และ​สวี​ชิงปั​๋ว​ฟื้น​ขึ้น​มา​แล้ว​ ​แต่​ตระกูล​ไป๋​ที่อยู่​อีก​ด้าน​หนึ่ง​ของ​เมืองหลวง​ซี​หลิง​ ​ใน​ยาม​นี้​กำลัง​ตื่นตระหนก​และ​โศกเศร้า

​ไป๋​อวิ​่น​เฉิง​นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้​ภายใน​ห้องโถง​ ​ใบหน้า​ที่​มีอายุ​ยาม​นี้​ปรากฏ​ความสูญเสีย​พ่ายแพ้​ ​เดิมที​หลังจากที่​ได้​รู้​ว่า​บุตรสาว​ถูก​ติ้ง​อ๋อง​สังหาร​ ​แม้​เขา​จะ​เดือดดาล​และ​เจ็บปวด​แต่​ใจ​กลับ​ยัง​มี​ความมั่นใจ​หลาย​ส่วน​ ​ใน​ใจ​ลอบ​วางแผน​ทั้งหมด​คิด​คำนวณ​อย่าง​เงียบๆ​ ​แต่กลับ​ไม่​อยาก​ให้​ติ้ง​อ๋อง​จัดการ​กับ​เหลย​เจิ​้น​ถิ​งด​้วย​วิธี​นี้​ ​เพียงแค่​เวลา​สอง​สาม​วัน​ขุนนาง​ผู้มีอำนาจ​ภายใน​เมืองหลวง​ล้วน​ถูก​ม่อ​ซิว​เหยา​จัดการ​เก็บกวาด​เหมือน​ลม​พัด​ใบไม้​ร่วง​ใน​สารท​ฤดู​ ​กระทั่ง​ตำหนัก​เจิ​้น​หนา​นอ​๋​อง​ก็​โดน​เก็บกวาด​ไป​ด้วย​ ​แต่​ความหวัง​เพียง​อย่าง​เดียว​ของ​ไป๋​อวิ​่น​เฉิง​คือ​ฮ่องเต้​ซี​หลิง​ที่​ถูก​ม่อ​ซิว​เหยา​ทำให้​กลัว​จน​อก​สั่น​ขวัญหาย​ ​จน​แสดงท่าที​ว่า​จะ​ไม่​รอ​ให้​ถึง​สอง​เดือน​ข้างหน้า​ ​พอ​จัดการ​เก็บของ​ภายใน​วัง​เรียบร้อย​ ​รถม้า​พระที่นั่ง​ก็​จะ​ออกเดินทาง​ไป​ยัง​เมือง​อัน​ในทันที​ ​ส่วน​ตระกูล​ไป๋​ที่​เคย​แสดงตัว​ชัดเจน​ว่า​เลือก​เข้า​เป็น​ฝั่ง​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​นั้น​ ​ก็​ย่อม​ถูก​ราชวงศ์​ซี​หลิง​ทอดทิ้ง​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​ ​หาก​เป็น​เมื่อ​ไม่​กี่​ปีก่อน​ที่​ฮองเฮา​และ​พระสนม​ชิง​หรง​ยังอยู่​ ​อย่างน้อย​ฮ่องเต้​ซี​หลิง​ก็​ต้อง​ไว้หน้า​เขา​อยู่​บ้าง​ ​แต่​ยาม​นี้​พระ​ชายา​ชิง​หรง​หายตัว​ไป​เนิ่นนาน​และ​ฮองเฮา​ก็​สวรรคต​ไป​นาน​แล้ว​ ​ฮ่องเต้​ซี​หลิง​ย่อม​ไม่​ปกป้อง​ตระกูล​ไป๋​ที่​ไร้ประโยชน์​ซ้ำ​ยัง​คิดคด​ทรยศ​ต่อ​พระองค์​เป็นแน่

​บางที​เขา​อาจจะ​คิดผิด​ที่​ใน​ครา​แรก​ได้​เลือก​ฝั่ง​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​ไป​ ​ไป๋​อวิ​่น​เฉิง​มี​ความคิด​กลัดกลุ้ม​อยู่​ใน​ใจ​ ​หาก​ไม่​เลือก​ติ้ง​อ๋อง​แล้ว​ติดตาม​ฮ่องเต้​ไป​เมือง​อัน​แม้ว่า​ตระกูล​ไป๋​จะ​ไม่​รุ่งเรือง​เช่นนี้​ ​แต่​หาก​อาศัย​สินเดิม​ของ​ตระกูล​ไป๋​แล้ว​ล่ะ​ก็​ ​อย่างน้อย​ก็​ไม่ต้อง​มี​ใคร​มา​ล้มตาย​เช่นนี้​ ​แต่​ยาม​นี้​…​นึกถึง​เหตุการณ์​นอก​สวนดอกไม้​ของ​สกุล​ซุน​วันนั้น​แล้ว​ ​ไป๋​อวิ​่น​เฉิง​ก็​หนาว​ยะเยือก​ไป​ถึง​หัวใจ​ ​ติ้ง​อ๋อง​…​จะ​ไว้ชีวิต​สกุล​ไป๋​หรือไม่

​“​นายท่าน​ ​ยาม​นี้​พวกเรา​จะ​ทำ​อย่างไร​ดี​”​ ​ไป๋ฮู​หยิน​ใบหน้า​ก็​ซีดเซียว​เช่นกัน​ ​กระทั่ง​แต่งหน้า​อย่างดี​ดัง​เก่า​ก็​ยัง​ปกปิด​ริ้วรอย​และ​ความกลัว​ไว้​ไม่ได้

​“​ทำ​อย่างไร​ดี​ๆ​ ​ข้า​จะ​ไปรู​้​ได้​อย่างไร​ว่า​ควร​ทำ​อย่างไร​ดี​”​ ​ไป๋​อวิ​่น​เฉิง​ยิ้ม​ขื่น​ ​ไป๋ฮู​หยิน​มอง​เขา​แล้ว​กล่าว​อย่างระมัดระวัง​ว่า​ ​“​นายท่าน​ ​เช่นนั้น​เรา​…​เรา​รีบ​ออกจาก​เมืองหลวง​กัน​เถิด​”

​ไป๋​อวิ​่น​เฉิง​มอง​นาง​ด้วย​สีหน้า​นิ่ง​เรียบ​ ​กล่าว​ตำหนิ​ว่า​ ​“​ช่าง​เป็น​ภรรยา​ที่​โง่เขลา​นัก​ ​ติ้ง​อ๋อง​ไหน​เลย​จะ​อนุญาต​ให้​เรา​หนี​ออกจาก​เมืองหลวง​ไป​ได้​อย่างปลอดภัย​”​ ​หาก​ติ้ง​อ๋อง​ถามหา​ความผิด​กับ​พวกเขา​ ​พวกเขา​จะ​รอด​เงื้อมมือ​ไป​ได้​อย่างไร​ ​หาก​ติ้ง​อ๋อง​ไม่ได้​ต้องการ​ลงโทษ​ ​เขา​จะ​ทำใจ​ทอดทิ้ง​กิจการ​มากมาย​เหล่านี้​ไป​ได้​อย่างไร​ ​ไป๋ฮู​หยิน​เมื่อ​ครู่​ตระหนก​เกินไป​ ​พอ​ถูก​ไป๋​อวิ​่น​เฉิง​ตำหนิ​ก็​รู้ตัว​ว่าที่​ตน​กล่าว​ไป​นั้น​ทำไม​่​ได้​ ​จึง​จับ​ข้อมือ​ไป๋​อวิ​่น​เฉิง​อย่าง​วิตก​แล้ว​เอ่ย​อย่าง​รีบร้อน​ว่า​ ​“​ชะ​…​เช่นนั้น​เรา​จะ​ทำ​อย่างไร​ดี​ ​ระ​…​หรือ​เรา​ควร​ไป​ขอร้อง​กับ​คน​ของ​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​”

​ยาม​นี้​พวกเขา​ไม่​อาจ​เข้าพบ​ติ้ง​อ๋อง​และ​พระ​ชายา​ได้​ ​เรื่อง​เหล่านี้​จึง​ล้วน​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​และ​สอง​คนสนิท​ข้าง​กาย​พระ​ชายา​ที่​เป็น​คน​จัดการ​ ​อีกทั้ง​ต่อให้​มีโอกาส​อีก​ไป๋ฮู​หยิน​ก็​มั่นใจ​ว่า​ไม่​อยาก​จะ​พบ​เจอ​ติ้ง​อ๋อง​อีกแล้ว

​ได้ยิน​ดังนั้น​ ​ไป๋​อวิ​๋น​เฉิง​ก็​ไตร่ตรอง​ครู่หนึ่ง​ ​ครุ่นคิด​คำพูด​ที่​ภรรยา​ได้​กล่าว​มา​อย่างละเอียดถี่ถ้วน​ ​แม้ว่า​ยาม​นี้​ติ้ง​อ๋อง​แทบจะ​ไม่มีความคิด​เล่นงาน​สกุล​ไป๋​ ​แต่​ดู​จาก​ที่​ติ้ง​อ๋อง​ลงมือ​ฆ่า​ไป๋​ชิง​หนิง​อย่าง​ไม่​ลังเล​แล้ว​ ​ไป๋​อวิ​่น​เฉิง​ก็​มั่นใจ​ว่า​ติ้ง​อ๋อง​ต้อง​ไม่พอใจ​สกุล​ไป๋​เป็นแน่​แล้ว​ ​ทว่า​ติ้ง​อ๋อง​ไม่​กล่าว​ไม่​ถาม​เช่นนี้​ ​กลับ​ทำให้​เขา​ยิ่ง​กลัว​และ​กังวล​มากขึ้น​ไป​อีก​ ​ไป๋ฮู​หยิน​มอง​สามี​ที่​กำลัง​ครุ่นคิด​ใน​ภวังค์​ก็​เอ่ย​ถาม​อย่าง​ระวัง​ว่า​ ​“​นายท่าน​ ​ยาม​นี้​พระ​ชายา​ฟื้น​แล้ว​ ​หาก​ไป​ขอ​ความเมตตา​จาก​นาง​ได้​…​ข้า​ได้ยิน​ว่า​พระ​ชายา​เกิด​ใน​ตระกูล​บัณฑิต​ ​นิสัย​อ่อนโยน​เมตตา​ ​แม้​ชิง​หนิง​…​จะ​ทำตัว​ไม่เหมาะสม​ไป​บ้าง​ ​แต่​ตระกูล​ไป๋​ของ​เรา​ก็​ไม่เคย​ทำ​เรื่อง​ไม่ดี​ต่อ​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​มาก​่อน​ ​บางที​พระ​ชายา​อาจ​เมตตา​ ​ไม่​ฆ่า​ล้าง​ตระกูล​เรา​ก็​เป็นได้​”

​“​นี่​…​ยาม​นี้​จะเข้า​พบพระ​ชายา​ติ้ง​อ๋อง​คง​ไม่​ง่าย​เสีย​แล้ว​”​ ​พระ​ชายา​เพิ่งจะ​ถูก​ลอบทำร้าย​ไป​ ​ดู​จาก​ความรัก​ที่​ติ้ง​อ๋อง​ทรง​มีต​่​อพ​ระ​ชายา​แล้ว​ ​จะ​อนุญาต​ให้​คนที​่​ไม่สนิท​ไป​เข้าใกล้​พระ​ชายา​ได้​อย่างไร

​ไป๋ฮู​หยิน​ดวงตา​ประกาย​วาบ​ ​รีบ​กล่าวตอบ​ว่า​ ​“​หรือว่า​จะ​ไม่มี​วิธี​อะไร​ที่จะ​ทำได้​แล้ว​ ​หรือ​…​ตระกูล​ไป๋​ของ​เรา​จะ​ต้อง​…​”

​ไป๋​อวิ​่น​เฉิง​ครุ่นคิด​แล้ว​กล่าว​ออกมา​ในที่สุด​ ​“​อาจ​พอ​มี​…​อีก​ไม่​กี่​วัน​ฝ่า​บาท​จะ​เสด็จ​ไป​เมือง​อัน​ ​ถึง​เวลา​นั้น​ติ้ง​อ๋อง​และ​พระ​ชายา​ต้อง​ออกมา​ส่ง​เสด็จ​แน่​ ​หาก​ยาม​นั้น​เข้าพบ​พระ​ชายา​ได้​ล่ะ​ก็​ ​เรา​อาจจะ​ร้องขอ​ความเมตตา​จาก​พระ​ชายา​ได้​”​ ​ไป๋ฮู​หยิน​ดวงตา​เป็นประกาย​ ​ยิ้ม​กล่าวว่า​ ​“​นายท่า​นก​ล่าว​ได้​ถูกต้อง​ ​เว้นเสียแต่​พระ​ชายา​ติ้ง​อ๋อง​จะ​ยัง​ทรง​ไม่​แข็งแรง​ดี​ ​ไม่เช่นนั้น​การ​ที่​ฮ่องเต้​จะ​เสด็จ​เดินทาง​นั้น​ตาม​กฎระเบียบ​แล้ว​ติ้ง​อ๋อง​และ​พระ​ชายา​จะ​ต้อง​ออกมา​ส่ง​เสด็จ​ด้วยกัน​ ​ถึง​เวลา​นั้น​ข้า​จะ​หาวิ​ธี​เข้าเฝ้า​แล้ว​ขอ​ความเมตตา​ให้​ได้​”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด