ชายาเคียงหทัย 322-2 พ่อลูกพบกันอีกครา

Now you are reading ชายาเคียงหทัย Chapter 322-2 พ่อลูกพบกันอีกครา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“​ข้า​ทราบ​แล้ว​”​ ​เยี​่ย​หลี​พยักหน้า​ยิ้ม​กล่าว​ ​“​พวกเขา​อยู่​ใน​เมือง​หลี​อย่างสงบ​เสงี่ยม​ก็​ย่อม​ไม่มีใคร​มารัง​แก​ได้​ ​หาก​ใน​ตระกูล​มี​ผู้​ที่​ดูจะ​มี​ความสามารถ​อยู่​ล่ะ​ก็​ ​ในอนาคต​ย่อม​มีหน้ามีตา​ขึ้น​มา​ได้​แน่​ ​แต่​หาก​ยัง​อยาก​โวยวาย​ก่อเรื่อง​เช่นนี้​อีก​ ​ข้า​ก็​ไม่ใช่​พระโพธิสัตว์​ที่อยู่​ใน​วัดวาอาราม​ ​ท่าน​พ่อ​และ​ท่าน​ย่ามี​สายสัมพันธ์​ฉัน​เครือญาติ​กัน​กับ​ข้า​ ​ส่วน​คนอื่น​ล้วน​ไม่มี​ความเกี่ยวข้อง​อะไร​”

​ฉิน​เฟิง​จึง​กล่าว​อย่าง​วางใจ​ว่า​ ​“​เจ้า​รู้​เช่นนี้​ก็ดี​ ​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ตระกูล​เยี​่​ยก​็​นับว่า​เคย​ชื่อเสียง​โดดเด่น​มาก​่อน​ ​เหตุใด​เรื่อง​แค่นี้​กลับ​ไม่รู้​ว่า​อะไร​ควร​ไม่​ควร​ ​ทำลาย​ชื่อเสียง​ของ​เจ้า​แล้ว​พวกเขา​ได้ประโยชน์​อะไร​”​ ฮู​หยิน​รอง​สวี​ขมวดคิ้ว​กล่าว​ ​“​ก็​เป็น​เพียงแค่​คน​สายตา​ไม่​กว้างไกล​ที่​ชอบ​รังแก​ผู้อื่น​เท่านั้น​ ​เพียงแต่​ที่นี่​คือ​เมือง​หลี​ ​ผู้​ที่​สรรเสริญ​ยอมรับ​ด้าน​ดี​ๆ​ ​ของ​พวกเขา​ได้​คงจะ​มี​ไม่​มาก​หรอก​”​ ​ใน​เมือง​หลีก​็​นับว่า​กว้างใหญ่​ ​ผู้มีอิทธิพล​ที่แท้​จริง​ล้วน​เป็น​คนสนิท​ของ​ติ้ง​อ๋อง​ทั้งสิ้น​ ​ผู้คน​ล้วน​ย่อม​เข้าใจ​ว่า​ท่าน​อ๋อง​กับ​พระ​ชายา​มีท​่า​ที​เช่นไร​ต่อตระกูล​เยี​่ย​ ​อย่างมาก​พวกเขา​ก็​ทำได้​แค่​ข่มขวัญ​คนนอก​ที่​ไม่รู้​เรื่อง​รู้​ราว​อะไร​เท่านั้น

​“​พระ​ชายา​ ​นะ​…​นายท่าน​เยี​่​ยพา​ครอบครัว​มา​ขอ​เข้าพบ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​พ่อบ้าน​ม่อ​รายงาน​ขึ้น​ที่​ด้านนอก​ ​เพราะ​ยาม​นี้​เยี​่ย​เหวิน​หวามี​เพียง​ตัวเปล่า​ ​ชั่วขณะหนึ่ง​พ่อบ้าน​ม่อ​จึง​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​เรียก​อย่างไร​ดี​ ​ฉิน​เฟิง​ยิ้ม​กล่าวว่า​ ​“​พูดถึง​โจโฉ​ ​โจโฉ​ก็​มา[1]จริงๆ​ ​ไม่ใช่​ว่า​มานั​่น​แล้ว​หรือ​”

​เยี​่ย​หลี​ลุกขึ้น​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ข้า​ไป​พบ​พวกเขา​ก็ได้​แล้ว​”​ ​ท่าน​ตา​ชิง​อวิ​๋น​เอ่ย​ขึ้น​ ​“​ยาม​นี้​เจ้า​ไม่​สะดวก​ ​ยัง​จะ​ไป​พบ​อะไร​ที่​โถง​หน้า​อีก​ ​ให้​พวกเขา​เข้ามา​ก็แล้วกัน​ ​พอดี​เลย​ ​ให้​ข้า​ได้​เจอ​พ่อ​เจ้า​เสียหน่อย​”

​“​ท่าน​ตา​ ​เหตุใด​ต้อง​ลำบาก​เช่นนี้​”​ ​ปีนั​้น​เขา​ยก​ลูกสาว​เพียง​คนเดียว​ให้​กับ​เยี​่ย​เหวิน​หวา​ที่​ครอบครัว​นับว่า​เป็น​ยาจก​ ​แต่กลับ​มี​จุดจบ​เช่นนี้​ ​หาก​บอกว่า​ไม่​เจ็บปวด​ก็​คง​ไม่มี​ผู้ใด​เชื่อ​ ​ใคร​จะ​อยาก​ให้​เขา​เห็น​ลูกเขย​แล้ว​นึก​เคียดแค้น​ขึ้น​มา​อีก​ครากัน

​ท่าน​ตา​ชิง​อวิ​๋น​ส่ายหน้า​กล่าวว่า​ ​“​ไม่เป็นไร​หรอก​ ​ข้า​อยาก​จะ​ดู​เสียหน่อย​ว่า​เขา​อยาก​จะ​พูดคุย​อะไร​”​ ​เยี​่ย​หลี​จนปัญญา​ ​ทำได้​เพียง​ให้​พ่อบ้าน​ม่อ​เชิญ​พวกเขา​เข้ามา​ ​ส่วน​ฉิน​เจิง​ไม่​อยาก​เจอ​คนที​่​ทำให้​จิตใจ​ว้าวุ่น​พวก​นี้​จึง​จูง​เห​ลิ่งจ​วิน​หาน​กับ​สวี​จือ​รุ่ย​เข้า​ห้อง​ไป

​ครู่​ต่อมา​ ​พ่อบ้าน​ม่อ​ก็​เดิน​นำ​คน​เข้ามา​ ​ไม่ได้​มี​เพียงแค่​เยี​่ย​เหวิน​หวา​ผู้เดียว​ ​แต่​ยัง​มีฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เยี​่ย​ ​เยี​่ย​หวัง​ซื่อ​และ​คนอื่นๆ​ ​อีกทั้ง​หมด​ห้า​คน​ด้วย

​“​ท่าน​ปู่​ ​ท่าน​พ่อ​”​ ​เยี​่ย​หลี​มอง​กลุ่มคน​เบื้องหน้า​ด้วย​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ ​นับ​ๆ​ ​ดูก​็​หก​เจ็ด​ปี​แล้ว​ที่​เยี​่ย​หลี​ไม่ได้​เจอ​เยี​่ย​เหวิน​หวา​ ​เทียบ​กับ​หก​เจ็ด​ปีก่อน​แล้ว​เยี​่ย​เหวิน​หวา​แก่​ลง​ไปมาก​ ​บน​ใบหน้า​ที่​ยังคง​หล่อเหลา​และสง่า​งาม​นั้น​มี​ริ้วรอย​เพิ่มขึ้น​ไม่น้อย​ ​ผมเผ้า​ก็​เปลี่ยนเป็น​สี​ดอกเลา​ ​นัยน์ตา​ฉายแวว​มืด​หม่น​ ​พอ​เห็น​สีหน้า​ของ​เยี​่ย​หลีก​็​ยิ่ง​ซับซ้อน​อ่าน​ยาก​มากขึ้น​ ​มุม​ปาก​กระตุก​เหมือน​อยาก​กล่าว​คำ​ใด​ ​แต่​สุดท้าย​ก็​ไม่ได้​เอ่ย​อะไร​ออกมา

​เมื่อ​เทียบ​กับฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เยี​่ย​และ​เยี​่ย​หวัง​ซื่อ​แล้ว​พวก​นาง​ล้วน​ดูดี​กว่า​มาก​ ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เยี​่ย​ยาม​นี้​เกือบจะ​เจ็ดสิบ​แล้ว​ ​แต่กลับ​ยังคง​แต่งตัว​สวยสด​งดงาม​ดัง​เก่า​ก่อน​ ​เหมือน​ยาม​ที่​ใช้ชีวิต​อยู่ดีกินดี​ใน​จวน​เจ้ากรม​ปีนั​้น​ ​เยี​่ย​หวัง​ซื่อ​ก็​แก่​กว่า​ปีนั​้​นลง​ไปมาก​ ​แต่​ก็​ยัง​แต่งกาย​หรูหรา​ราคาแพง​ดัง​ก่อน​ ​เพียงแต่​นัยน์ตา​ปรากฏ​ความ​ฉลาด​เฉียบแหลม​และ​เย็นชา​ไร้​ปรานี​มากขึ้น​หลาย​ส่วน​ ​ต่าง​กับ​ครา​แรก​ที่​ชอบ​แสร้งทำ​ตัว​เป็นฮู​หยิน​ผู้​เพียบพร้อม​อย่างมาก​ ​ด้าน​ข้าง​เยี​่ย​หวัง​ซื่อ​มี​เด็กหนุ่ม​อายุ​สิบ​แปดสิบ​เก้า​ยืน​อยู่​ ​มี​เคล้า​อัน​หล่อเหลา​ของ​เยี​่ย​เหวิน​หวา​เล็กน้อย​ ​น่าเสียดาย​ที่​อ้วนท้วม​ไป​ทั้ง​ร่าง​ ​ดวงตา​หม่น​แสง​ไม่มี​ความสุภาพ​สงบเสงี่ยม​ของ​บัณฑิต​อยู่​แม้แต่น้อย​ ​ราวกับ​คุณชาย​ใน​ตระกูล​ร่ำรวย​ไร้​การศึกษา​ที่​เยี​่ย​หลี​เคย​เห็น​ใน​ละคร​เมื่อ​ชาติก่อน​ ​เยี​่ย​หลี​สงสัย​จริงๆ​ ​ว่า​เยี​่ย​หวัง​ซื่อ​เลี้ยงดู​เยี​่ย​หรง​ที่​แม้​จะ​วางท่า​วาง​ทาง​อำนาจบาตรใหญ่​แต่​อย่างน้อย​รูปโฉม​หน้าตา​ก็​ดูดี​อยู่​บ้าง​ใน​ครา​แรก​ให้​กลาย​มา​เป็น​หมู​ตอน​หน้า​โง่​เช่นนี้​ได้​อย่างไร

​เด็กสาว​อีก​คนที​่​ยืน​อยู่​หลัง​พวกเขา​นั้น​ท่าทาง​คล้าย​เยี​่ย​หลิน​ ​ส่วน​ผู้ชาย​อีก​คน​นั้น​เยี​่ย​หลี​ไม่รู้​จัก

​“​ลูกเขย​…​คำนับ​ท่าน​พ่อตา​ขอรับ​”​ ​พอ​เห็น​อาจารย์​ชิง​อวิ​๋​นที​่​นั่ง​อยู่​หัว​โต๊ะ​ ​เยี​่ย​เหวิน​หวา​สีหน้า​กลับ​เปลี่ยนไป​เล็กน้อย​ ​รีบ​เข้าไป​ประสานมือ​คารวะ

​อาจารย์​ชิง​อวิ​๋​นวา​งมื​อลง​บน​จอก​ลายคราม​ด้วย​ท่าทาง​ไม่​ทุกข์ร้อน​ ​เหลือบตา​ขึ้น​ยิ้ม​กล่าวว่า​ ​“​เจ้ากรม​เยี​่​ยนี​่​เอง​ ​ข้า​ได้ยิน​ตั้งแต่​ที่​อวิ​๋น​โจว​ว่า​ท่าน​เจ้ากรม​แต่งงาน​กับ​ภรรยา​ผู้​เพียบพร้อม​นาง​หนึ่ง​แล้ว​ได้​เป็น​ถึง​พ่อตา​ของ​ฮ่องเต้​องค์​ก่อน​ ​ท่าน​พ่อตา​ตำแหน่ง​นี้​ข้า​ไม่กล้า​เป็นจริง​ๆ​”​ ​ท่าน​ตา​ชิง​อวิ​๋​นคุณ​ธรรม​และ​บารมี​สูงส่ง​ ​การอบรม​เลี้ยงดู​นั้น​ย่อม​โดดเด่น​ไม่ธรรมดา​ ​แต่​เป็นครั้งแรก​ใน​รอบ​หลาย​ปี​ที่​เยี​่ย​หลี​ได้ยิน​ท่าน​ตาก​ล่าว​เหน็บแนม​ผู้อื่น​เช่นนี้​ ​ทว่า​ท่าน​ก็​ไม่พอใจ​เยี​่ย​เหวิน​หวามา​แต่ไหนแต่ไร​ ​เมื่อก่อน​นั้น​ไม่ได้​เห็น​หน้า​ค่า​ตากั​นก​็​แล้วไป​เถิด​ ​แต่​ยาม​นี้​เมื่อ​ได้​เจอกัน​แล้วก็​ย่อม​ระเบิด​ออกมา​เป็นธรรมดา​ ​ไม่น่า​ครา​แรก​ท่าน​ลุง​ใหญ่​ถึง​บอกว่า​หาก​ท่าน​ตา​ทราบ​ข่าว​ของ​ตระกูล​เยี​่ย​เร็ว​กว่านี​้​ล่ะ​ก็​ ​เกรง​ว่า​คงได้​บุก​ไป​เมืองหลวง​ทุบตี​เยี​่ย​เหวิน​หวา​สัก​ครา​แล้ว​ ​ตอนนั้น​นาง​ไม่เชื่อ​เป็นอย่างมาก​ ​เพราะ​รู้สึก​ว่า​ท่าน​ตา​ที่​เป็น​ถึง​นักปราชญ์​ผู้ยิ่งใหญ่​ไม่มีทาง​ทำ​เช่นนั้น​แน่​ ​แต่​ดู​จาก​สีหน้า​ของ​ท่าน​ใน​ยาม​นี้​แล้ว​นาง​ก็ได้​รู้​แล้ว​ว่า​ถึง​จะ​ถูก​ปลูกฝัง​ให้​เป็น​ปราชญ์​ที่​ยิ่งใหญ่​เพียงใด​ก็​ยัง​รู้จัก​โกรธ​เป็น​เช่นกัน

​เยี​่ย​เหวิน​หวา​หน้าแดง​ ​สีหน้า​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​ไม่รู้​จะ​พูด​อย่างไร​ดี​ ​ครา​แรก​เป็น​เขา​ที่​แต่งงาน​ได้​ไม่​ถึง​ครึ่ง​ปีดี​ก็​รับ​อนุ​เข้ามา​ ​ขนาด​บุตรสาว​คนโต​ยัง​ไม่ใช่​ของ​ภรรยา​หลวง​ ​ต่อมา​ก็​โปรดปราน​หวัง​ซื่อ​แล้ว​ทอดทิ้ง​ภรรยา​ที่​แต่ง​กัน​จน​นาง​ตรอมใจ​ตาย​ ​และ​หลาย​ปี​มานี​้​เขา​ก็​ทราบ​ดี​ถึง​นิสัยใจคอ​และ​สิ่ง​ที่หวัง​ซื่อ​ได้​ทำ​ลง​ไป​ ​ยัง​มีส่วน​ใด​ที่​เรียกว่า​ภรรยา​ที่​เพียบพร้อม​ได้​บ้าง​ ​ยิ่ง​คิด​เยี​่ย​เหวิน​หวา​ก็​ยิ่ง​อับอาย​จน​หน้าแดง​หู​แดง​มือ​ไม้​ไม่รู้​จะ​ไป​วาง​ไว้​ที่ใด​ดี

​“​เป็น​ญาติ​โดย​การ​แต่งงาน​เช่นนี้​ ​อย่างไร​เสีย​เรา​ก็​ครอบครัว​เดียวกัน​ ​เหตุใด​ต้อง​ทำ​เช่นนี้​ด้วย​เล่า​ ​หวา​เอ๋อร​์​ก็​สำนึกผิด​แล้ว​”​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​ลูกชาย​กำลัง​หาทาง​ลง​ไม่ได้​ ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เยี​่ย​จึง​รีบ​แย้มยิ้ม​กล่าว​กลั้ว​หัวเราะ​กับ​อาจารย์​ชิง​อวิ​๋น

​อาจารย์​ชิง​อวิ​๋น​เลิก​คิ้ว​ ​“​ญาติ​โดย​การ​แต่งงาน​?​ ​ตระกูล​หวัง​จึง​จะ​เป็น​ญาติ​โดย​การ​แต่งงาน​กับ​ตระกูล​เยี​่ย​ ​แต่​ตระกูล​สวี​ของ​ข้า​ไม่​นับเป็น​ญาติ​ด้วย​”​ ​ยาย​เฒ่า​คน​นี้​คิด​ว่า​เขา​ไม่รู้​เรื่อง​ที่​เยี​่ย​เหวิน​หวา​ทอดทิ้ง​ลูกสาว​เขา​และ​กล่าวหา​นาง​ว่า​เป็น​ปีศาจ​หรือ

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เยี​่ย​รอยยิ้ม​แข็งทื่อ​ ​ยิ้ม​อย่าง​เอาใจ​กล่าวว่า​ ​“​จะ​เป็น​เช่นนั้น​ได้​อย่างไร​ ​แม่​ของ​หลี​เอ๋อร​์​เป็น​สะใภ้​ใหญ่​ของ​ตระกูล​เยี่ยมา​โดยตลอด​นะ​เจ้า​คะ​ ​หลี​เอ๋อร​์​มาหา​ย่า​ให้​ย่า​ดู​เจ้า​หน่อย​สิ​ ​หลาย​ปี​เช่นนี้​คง​คิดถึง​ย่ามาก​แน่ๆ​”​ ​กล่าว​พลาง​ยกมือ​ปาด​น้ำตา​ ​มอง​เยี​่ย​หลี​ด้วย​ใบหน้า​เปี่ยม​รัก​และ​เมตตา​ ​น่าเสียดาย​ที่​เยี​่ย​หลีก​ลับ​ไม่​ทำตาม​ที่นาง​ปรารถนา​ ​ยิ้ม​บาง​กล่าวว่า​ ​“​ลำบาก​ท่าน​ย่า​ห่วงใย​แล้ว​ ​ข้า​กำลัง​มีครรภ์​คง​ไม่​ลุกขึ้น​คำนับ​แล้ว​ ​เชิญ​ท่าน​ย่า​และ​ท่าน​พ่อ​นั่ง​ก่อน​เถิด​”

​เจอ​นาง​ตอกหน้า​เข้าให้​เช่นนี้​ ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เยี​่​ยก​็​ทำได้​เพียง​เดิน​ไป​นั่ง​ด้าน​ข้าง​ด้วย​ใบหน้า​เหยเก​เท่านั้น​ ​เยี​่ย​เหวิน​หวาม​อง​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ของ​อาจารย์​ชิง​อวิ​๋น​แล้วก็​ไม่กล้า​นั่ง​ ​ทำ​เพียง​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เยี​่ย​เท่านั้น

​คน​รอบข้าง​มากมาย​ล้วน​ทราบ​ดี​ว่า​ฐานะ​ของ​อาจารย์​ชิง​อวิ​๋​นนั​้น​ไม่ธรรมดา​ ​แม้ว่า​หวัง​ซื่อ​จะ​มีสี​หน้า​ไม่พอใจ​แต่​ก็​ยืน​อยู่​อย่าง​มีมา​รยาท​ ​แต่​เยี​่ย​หร​งก​ลับ​เป็น​คนที​่​มีตา​หามี​แวว​ไม่​ ​หลาย​ปีก่อน​ก็​เรียนหนังสือ​ไป​ไม่น้อย​ ​ไม่​กี่​ปี​มานี​้​อยู่​แต่​ใน​หมู่บ้าน​กับ​เจ้ากรม​เยี​่ย​ ​หนังสือ​หนัง​หาความ​รู้​พื้นฐาน​ที่​เคย​เล่าเรียน​มา​เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​ก็​คืน​อาจารย์​ไป​จน​หมดสิ้น​แล้ว​ ​มีฮู​หยิน​เฒ่า​ผู้​เยี​่ย​และ​เยี​่ย​หวัง​ซื่อ​คอย​ปกป้อง​ดูแล​ ​เยี​่ย​เหวิน​หวา​จึง​สั่งสอน​อะไร​เขา​ไม่ได้​ ​จนกระทั่ง​เลี้ยง​ให้​กลายเป็น​คน​เอาแต่ใจ​ไม่สน​กฎหมาย​บ้านเมือง​เช่นนี้​ ​มา​เมือง​หลี​ยัง​ไม่ทัน​จะ​ถึง​เดือน​ดี​ก็​กล้า​ไป​มีเรื่อง​กับ​หลานชาย​ของ​ท่าน​แม่ทัพ​เฒ่า​ที่​อาวุโส​ที่สุด​ของกอง​ทัพ​ตระกูล​ม่อ​ ​ยาม​นี้​เยี​่ย​หรง​จึง​ย่อม​ไม่ยอม​ยืน​ดี​ๆ

​พอ​เยี​่ย​หรง​เห็น​เก้าอี้​สอง​สาม​ตัว​ด้าน​ข้าง​ที่​ยัง​ว่าง​อยู่​ก็​เดิน​เข้าไป​หา​ตัว​ที่อยู่​หน้า​ตัวเอง​แล้ว​นั่งลง​ทันที​ ​และ​ไม่ลืม​ที่จะ​กล่าวว่า​ ​“​ท่าน​พ่อ​ท่าน​แม่​ ​พี่​หก​ ​พวก​ท่าน​ยืน​ทำ​อะไร​กัน​อยู่​ ​รีบ​มานั​่​งกัน​สิ​”

​เยี​่ย​เหวิน​หวา​สีหน้า​พลัน​เปลี่ยนเป็น​เขียว​คล้ำ​ ​ ​อาจารย์​ชิง​อวิ​๋​นก​ล่าว​เสียง​เรียบ​ว่า​ ​“​ตระกูล​เยี​่​ยสั​่ง​สอน​ลูกหลาน​ได้​ไม่เลว​”

​เยี​่ย​หรง​นึก​ว่า​อาจารย์​ชิง​อวิ​๋น​เอ่ย​ชม​เขา​จริงๆ​ ​จึง​ยิ้ม​อย่าง​ภาคภูมิใจ​กล่าวว่า​ ​“​แน่นอน​อยู่​แล้ว​ ​ท่าน​แม่​ว่า​…​”

[1] ​พูดถึง​โจโฉ​ ​โจโฉ​ก็​มา​ ​เมื่อ​เรา​พูดถึง​ใคร​อยู่​ ​คน​ ​ๆ​ ​นั้น​ก็​บังเอิญ​ปรากฏตัว​หรือ​เดิน​มา​พอดี

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด