ชายาเคียงหทัย 323-3 ความแตกต่างของตระกูลเยี่ยกับตระกูลสวี

Now you are reading ชายาเคียงหทัย Chapter 323-3 ความแตกต่างของตระกูลเยี่ยกับตระกูลสวี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

​ ​เพียงแต่​เสิน​เหลียง​โชคร้าย​ไป​สักหน่อย​ ​เดิม​นึก​ว่า​ตระกูล​เยี่ยมี​ลูกสาว​เป็น​ถึง​ชายา​ติ้ง​อ๋อง​ ​ตน​ค้าขาย​นิดหน่อย​และ​อยู่​ที่​เมือง​หลี​ต่อให้​ไม่ได้​ประโยชน์​อะไร​ ​พระ​ชายา​เห็น​น่าจะ​แก่​หน้า​ตระกูล​เยี​่ย​และ​ให้​ความช่วยเหลือ​บ้าง​เล็กน้อย​ ​ไม่​ด้าน​กำลังคน​ก็​ต้อง​ด้าน​กำลัง​ทรัพย์​ ​แต่กลับ​นึกไม่ถึง​ว่า​พอ​มาถึง​เมือง​หลี​แล้ว​คน​ตระกูล​เยี​่​ยก​ลับ​ไม่ยอม​แยก​บ้าน​ ​ทั้ง​ยัง​ก่อเรื่อง​ขึ้น​ไม่น้อย​ ​เนื่องจาก​เสิน​เหลียง​เป็น​บุตรสาย​รอง​ของ​ตระกูล​ ​ย่อม​รู้จัก​อ่าน​สีหน้าท่าทาง​คน​มาตั​้ง​แต่​เด็ก​ ​ไม่นาน​ก็​รู้​ได้​ว่า​สายตา​ของ​พระ​ชายา​ติ้ง​อ๋อง​นั้น​คน​ตระกูล​เยี่ยมิ​ได้​มีความสำคัญ​อย่างที่​พวกเขา​โอ้อวด​ไว้​ ​ดู​จาก​ท่าทาง​ของ​พวกเขา​แล้ว​ ​ไม่แน่​ว่า​อาจ​ไป​ยั่วโมโห​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​เข้า​จน​ทำให้​ตน​โดน​หางเลข​ไป​ด้วย​ ​คิด​มาถึง​ตรงนี้​ ​เสิน​เหลียง​ที่​แรกเริ่มเดิมที​มี​ความคิด​ว่า​จะ​เปิดร้าน​ค้าขาย​สัก​สอง​ร้าน​ก็​จำต้อง​หยุดพัก​ไว้​ก่อน​ ​รอดู​สถานการณ์​ต่อไป​หาก​ไม่ดี​จริงๆ​ ​ก็​เปลี่ยน​เมือง​เสีย​ ​ใน​ดินแดน​ซี​เป่ย​มิได้​มี​เพียง​เมือง​หลี​อยู่​เมือง​เดียว​เสียหน่อย

​ ​เยี​่ย​หลี​ฟัง​เยี​่ย​เหวิน​หวา​บอกเล่า​เรื่อง​ยิบ​ย่อย​ไร้สาระ​จน​จบ​อย่างสงบ​แล้ว​พยักหน้า​มอง​เสิน​เหลียง​ยิ้ม​ๆ​ ​กล่าวว่า​ ​“​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ก็​เปิดกิจการ​ที่​เมือง​หลี​เสียเถิด​ ​ที่​เมือง​หลี​นี้​อย่าง​อื่น​แม้​จะ​ไม่ดี​ ​แต่​ก็​นับว่า​สงบสุข​กว่า​ที่อื่น​อยู่​บ้าง​ ​หาก​มี​อะไร​ติดขัด​ก็​ไปหา​ผู้นำ​ตระกูล​หาน​ดู​ ​หลิน​เอ๋อร​์​เป็น​น้องสาว​ต่างมารดา​ของ​ข้า​ ​พวก​เจ้า​มีชีวิต​ความเป็นอยู่​ที่​ดี​ ​ข้า​ก็​ย่อม​ดีใจ​”

​ ​เสิน​เหลียง​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​รีบ​ประสานมือ​คารวะ​เยี​่ย​หลี​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​ขอบ​พระทัย​พระ​ชายา​ ​เมือง​หลี​เจริญรุ่งเรือง​ภายใต้​การปกครอง​ของ​ท่าน​อ๋อง​และ​พระ​ชายา​เช่นนี้​ ​ที่อื่น​ไหน​เลย​จะ​เปรียบ​ได้​”​ ​เสิน​เหลียง​ได้ยิน​พระ​ชายา​ติ้ง​อ๋อง​กล่าว​เช่นนี้​ก็​เบาใจ​ลง​ ​เขา​เข้าใจ​เจตนา​ของ​พระ​ชายา​แล้ว​ ​ตระกูล​เยี​่ย​คนอื่นๆ​ ​เป็น​คนอื่น​สำหรับ​นาง​ ​นาง​ไม่​ระบาย​โทสะ​ใส่​เขา​ ​อีกทั้ง​หาก​มีที​่​ใด​ติดขัด​นาง​ก็​ยัง​เห็นแก่​เยี​่ย​หลิน​ที่​เป็น​น้องสาว​ต่างมารดา​และ​จะ​ให้​ความช่วยเหลือ​เล็กน้อย​ ​ขอ​เพียงแค่​เขา​ตระหนัก​ว่า​อะไร​เป็น​อะไร​ก็​พอ​ ​อันที่จริง​เสิน​เหลียง​แค่​ได้​ฟัง​ประโยค​เช่นนี้​จาก​เยี​่ย​หลีก​็​พอใจ​มาก​แล้ว​ ​ตัว​เขา​เอง​เป็น​เพียง​บุตรสาย​รอง​เดิมที​ก็​มีชีวิต​อย่าง​ยากลำบาก​ ​แม้​จะ​ไม่ได้​ร่ำรวย​มากมาย​แต่​ก็​ไม่​อยาก​ตก​กะ​ได​พลอย​โจน​ไป​กับ​บ้าน​พ่อตา​ด้วย​ ​เมื่อ​เห็น​แววตา​อิจฉา​เล็กน้อย​ของ​ภรรยา​ที่​มอง​พระ​ชายา​อยู่​ ​เขา​ก็​ตัดสินใจ​แน่วแน่​ว่า​กลับ​ไป​จะ​ต้อง​ควบคุม​ดูแล​นาง​ให้​ดี​ ​ไม่​ให้​นาง​ไป​ก่อเรื่อง​วุ่นวาย​ตาม​สอง​คน​นั้น​ของ​ตระกูล​เยี​่ย​เด็ดขาด

​ ​“​หลี​เอ๋อร​์​…​”​ ​เยี​่ย​หวัง​ซื่อ​ที่นั่ง​เงียบ​อยู่​ด้าน​ข้าง​มาโดยตลอด​เงียบ​ต่อไป​ไม่ไหว​ ​ในที่สุด​ก็​เอ่ยปาก​เรียก​ขึ้น​ ​เยี​่ย​หลี​เลิก​คิ้ว​อย่าง​เย็นชา​ ​ชิง​ซวง​ที่​ยืน​อยู่​ด้านหลัง​นาง​กลับ​ทนไม่ไหว​อีกต่อไป​ ​อ้า​ปาก​กล่าวว่า​ ​“​เยี​่ยฮู​หยิน​ ​เยี​่ยฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​และ​นายท่าน​เยี​่​ยล​้​วน​เป็น​ผู้หลักผู้ใหญ่​ของ​พระ​ชายา​ก็แล้วไป​เถิด​ ​แต่​ท่าน​ไม่มี​ความสัมพันธ์​ใด​กับ​พระ​ชายา​ ​ท่าน​เรียก​เพียง​ชื่อเล่น​ของ​พระ​ชายา​ออกมา​เช่นนี้​เกรง​ว่า​คงจะ​ไม่เหมาะสม​”

​ ​เยี​่ย​หวัง​ซื่อ​หน้าแดง​ ​ฝืนยิ้ม​กล่าวว่า​ ​“​แม่นาง​กล่าว​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​ ​ข้า​เป็น​แม่เลี้ยง​ของ​พระ​ชายา​ ​เหตุใด​จะ​เรียกชื่อ​เล่น​นาง​มิได้​”

​ ​ชิง​ซวง​หัวเราะ​เย็นชา​กล่าวว่า​ ​“​เยี​่ยฮู​หยิน​เป็น​เพียง​ภรรยาน้อย​ที่​ได้​เลื่อนขั้น​มา​เป็น​ภรรยา​หลวง​ ​ตระกูล​เก่าแก่​ที่​มีชื่อเสียง​สักหน่อย​ล้วน​ไม่ยอมรับ​การ​เลื่อนขั้น​ภรรยาน้อย​มา​เป็น​ภรรยา​หลวง​ ​เช่นนี้​คงจะ​นับว่า​เป็น​แม่เลี้ยง​ไม่ได้​กระมัง​ ​ฝืน​นับ​ได้​แค่​เพียง​มารดา​สาย​รอง​เท่านั้น​ ​พระ​ชายา​ของ​เรา​ยาม​นี้​เป็น​ถึง​ชายา​ของ​ติ้ง​อ๋อง​ ​เป็น​บุตรสาว​สาย​หลัก​ของ​ตระกูล​เยี​่ย​ ​ท่าน​มีสิทธิ์​อะไร​มาเรียก​ขาน​เช่นนี้​ ​เมื่อก่อน​ไม่รู้​หลัก​รู้​เกณฑ์​ก็แล้วไป​เถิด​ ​อาศัย​ว่า​มีลูก​สาวอ​ย่าง​เจา​อี๋​คนอื่น​จึง​ไม่กล้า​พูดตรงๆ​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​มา​วันนี้​เยี​่ยฮู​หยิน​ก็​ยัง​ไม่รู้​หลัก​มารยาท​อีก​”​ ​หาก​ไม่​บอกว่า​ ​เรื่อง​ตระกูล​เยี​่ย​ใน​ครา​แรก​ทำได้​อย่าง​ไม่​เหมาะ​ไม่​ควร​นัก​ ​แม้​จะ​บอกว่า​ต้า​ฉู่​ไม่​เหมือน​ราชวงศ์​ก่อนที่​ห้าม​มิ​ให้​เลื่อนขั้น​ภรรยาน้อย​ ​แต่​ผู้นำ​ของ​ตระกูล​ที่​มีชื่อเสียง​ล้วน​ไม่ยอมรับ​และ​ไม่​ทำ​เรื่อง​เช่นนี้​แน่นอน​ ​ดังนั้น​สมัย​ที่อยู่​ใน​ฉู่​จิง​ใน​ปีนั​้น​ ​แม้​ตระกูล​ใหญ่​จะ​ไม่​กล่าว​อะไร​ ​แต่​ความจริง​แล้ว​กลับ​ดูถูก​เยี​่ย​หวัง​ซื่อ​กัน​ใน​ที่ลับ

​ ​เยี​่ย​หวัง​ซื่อ​ถูก​ชิง​ซวง​แทง​โดน​จุด​เจ็บ[1] ​อย่าง​ไม่​ไว้หน้า​ ​สีหน้า​ก็​ยิ่ง​ดูไม่ได้​ ​นาง​ท่าทาง​อับอาย​ ​กำลัง​ครุ่นคิด​ว่า​จะ​กล่าว​อะไร​ ​เยี​่ย​เหวิน​หวา​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ก็​พลัน​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ขึ้น​ว่า​ ​“​เรียก​พระ​ชายา​”

​ ​แม้​เยี​่ย​หวัง​ซื่อ​จะ​ไม่เต็มใจ​แต่​ก็​ไม่กล้า​เถียง​สามี​ต่อหน้า​แม่​สามี​ ​จึง​เอ่ย​เรียก​พระ​ชายา​คำ​หนึ่ง​เบา​ๆ

​ ​เยี​่ย​หลี​พยักหน้า​กล่าว​เสียง​เรียบ​ ​“​หวังฮู​หยิน​มี​อะไร​จะ​กล่าว​หรือ​”

​ ​เยี​่ย​หวัง​ซื่อ​มุม​ปาก​หุบ​ลง​ ​สีหน้า​ยิ่ง​แข็งทื่อ​ขึ้นไป​อีก​ ​คนอื่น​เรียก​นาง​เยี​่ยฮู​หยิน​ก็แล้วไป​เถิด​ ​แต่​เยี​่ย​หลีก​ลับ​เรียก​นาง​ว่า​หวังฮู​หยิน​อยู่​คนเดียว​ ​นี่​มัน​เหมือน​การ​เรียก​นาง​ว่า​หวัง​ซื่อ​เฉยๆ​ ​ชัดๆ​ ​แม้​ใน​ใจ​จะ​เกลียดชัง​สุด​แสน​แต่​หวัง​ซื่อ​ก็​ทำได้​เพียง​ข่ม​ความโกรธ​เอาไว้​ใน​ใจ​แล้ว​ยิ้ม​กล่าวว่า​ ​“​พระ​ชายา​ ​คือ​เช่นนี้​เพ​คะ​ ​น้องชาย​ท่าน​ยาม​นี้​ก็​ใกล้​วัย​สวม​มง​กุฏ[2]แล้ว​ ​แต่​ยัง​ว่างงาน​อยู่​กับ​บ้าน​ ​ดังนั้น​ข้า​จึง​อยาก​รบกวน​พระ​ชายา​หา​ตำแหน่ง​ให้​เขา​หน่อย​ได้​หรือไม่​ ​ให้​เขา​ได้​ก้าวหน้า​ไป​ด้วย​สักนิด​”​ ​ฟัง​จบ​ ​เยี​่ยฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ก็​ใจ​พลัน​กระตุก​ ​นาง​เงยหน้า​มอง​เยี​่ย​หลี​ที่นั่ง​อยู่

​ ​เยี​่ย​หวัง​ซื่อ​ส่งสายตา​ไป​ให้​เยี​่ย​หรง​ ​อาจ​เพราะ​ก่อน​จะ​มา​ได้​กำชับ​ให้​เยี​่ย​หร​งอย​่า​ก่อเรื่อง​อีก​ ​เขา​จึง​เอ่ย​เรียก​เยี​่ย​หลี​อย่าง​เชื่อฟัง​ว่า​ ​“​พี่​สาม​ ​หรง​เอ๋อร​์​โต​ขึ้น​จะ​ช่วย​แบ่งเบาภาระ​พี่​สาม​กับ​พี่เขย​เอง​”

​ ​เยี​่ย​หลี​หุบ​ยิ้ม​มอง​เยี​่ย​หรง​ที่​อ้วน​เทอะทะ​ตรงหน้า​ ​ยก​มุม​ปาก​ขึ้น​ยิ้ม​บาง​ๆ​ ​เอ่ย​ถาม​ว่า​ ​“​อ้อ​ ​เช่นนั้น​…​หรง​เอ๋อร​์​เจ้า​อยาก​จะ​ทำ​อะไร​หรือ​”

​ ​เยี​่ย​หร​งด​วง​ตา​เป็นประกาย​ ​ตอบ​อย่าง​ปรีดา​ว่า​ ​“​หรง​เอ๋อร​์​อยาก​เป็น​หัวหน้า​องครักษ์​ของ​เมือง​!​”

​ ​ฉิน​เฟิง​ที่อยู่​ด้านหลัง​เยี​่ย​หลี​มุม​ปาก​กระตุก​อย่าง​ไม่ทัน​มี​ใคร​เห็น​ ​มอง​พิจารณา​หมู​อ้วน​เยี​่ย​หร​งอยู​่​ใน​ใจ​ว่า​ ​อย่าง​เจ้า​ยัง​คิด​อยาก​จะ​เป็น​หัวหน้า​ของ​ทหาร​รักษาการณ์​แห่ง​เมือง​หลี​อีก​หรือ​ ​สุ่ม​เอา​พลทหาร​ใน​เมือง​สัก​คน​มก​็​ทุบ​เจ้า​จน​ลุก​ไม่​ขึ้น​ได้​แล้ว

​ ​เยี​่ย​หลี​ยิ้ม​บาง​ๆ​ ​กล่าวว่า​ ​“​มี​ปณิธาน​แน่วแน่​เพียงนี้​เชียว​ ​เหตุใด​เจ้า​ถึง​อยาก​เป็น​หัวหน้า​องครักษ์​เล่า​”

​ ​เยี​่ย​หรง​ตอบ​อย่าง​ภาคภูมิใจ​ว่า​ ​“​เมื่อ​ไม่​กี่​วันก่อน​ข้า​เจอ​เด็กน้อย​คน​หนึ่ง​ ​ได้ยิน​ว่า​เป็น​หลานชาย​ของ​ท่าน​แม่ทัพ​อะไร​สัก​อย่าง​ ​ไว้​รอ​ให้​ข้า​ได้​เป็น​หัวหน้า​องครักษ์​แล้ว​ ​ข้า​จะ​พา​คน​ไป​สั่งสอน​ให้​หลาบจำ​สัก​ยก​!​”

​ ​“​หรง​เอ๋อร​์​!​”​ ​เยี​่ย​หวัง​ซื่อ​ตะคอก​ ​จะ​ทำ​อย่างไร​ได้​เมื่อ​เยี​่ย​หรง​พูด​อย่าง​ตื่นเต้น​ยินดี​จน​เกินไป​จึง​ไม่ได้​ยิน​ที่หวัง​ซื่อ​เรียก​สักนิด

​ ​“​เดรัจฉาน​!​”​ ​เยี​่ย​เหวิน​หวา​เอ่ย​ตำหนิ​อย่าง​เดือดดาล​และ​หวั่นวิตก

​ ​เยี​่ย​หลี​หรี่​ตาล​งก​ล่า​วอ​ย่าง​เย็นชา​ว่า​ ​“​พา​คน​ไป​สั่งสอน​ให้​หลาบจำ​สัก​ยก​ ​เจ้า​รู้​หรือไม่​ว่า​โทษ​ที่​หัวหน้า​องครักษ์​พา​คน​ไป​ก่อเรื่อง​คือ​โทษ​ใด​”

​ ​เยี​่ย​หรง​ตกใจ​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​พา​คน​ไป​ทุบตี​ใคร​แล้ว​จะ​ถูก​ลงโทษ​ ​“​คือ​โทษ​ใด​หรือ​”

​ ​“​โทษประหาร​!​”​ ​เยี​่ย​หลีก​ล่าว​เสียงเย็น​เยียบ​ ​“​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​ข้า​ก็​นึก​ขึ้น​มา​ได้เรื่อง​ที่​เจ้า​ลง​ไม้​ลงมือ​กับ​หลานชาย​ท่าน​แม่ทัพ​หยวน​เมื่อ​ไม่​กี่​วันก่อน​ ​ข้า​ยัง​มิได้​ถามไถ่​เลย​ว่า​ผู้ใด​ให้​เจ้า​กำเริบเสิบสาน​ไป​ก่อเรื่อง​อย่าง​เหิมเกริม​แล้ว​เอ่ยอ้าง​นาม​ของ​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​ที่​เมือง​หลี​แห่ง​นี้​หรือ​!​?​”​ ​เยี​่ยฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​รีบ​เอ่ย​ขึ้น​ ​“​หลี​เอ๋อร​์​ ​นี่​มิใช่​ความผิด​ของ​หรง​เอ๋อร​์​ ​เห็น​ๆ​ ​กัน​อยู่​ว่า​อีก​ฝ่าย​อาศัย​…​”

​ ​เยี​่ย​หลี​หัวเราะ​เสียงเย็น​กล่าวว่า​ ​“​ท่าน​ย่า​ ​ท่าน​คงจะ​รู้​ว่า​หลานชาย​ของ​แม่ทัพ​หยวน​ปีนี​้​อายุ​เพิ่งจะ​สิบ​ขวบ​ ​เยี​่ย​หร​งอา​ยุ​เท่าใด​แล้ว​ ​แค่​เด็ก​สิบ​ขวบ​ยัง​สู้​มิได้​ยัง​จะ​กล้า​เอ่ยอ้าง​นาม​ของ​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​ไป​กลั่นแกล้ง​ข่มขู่​คน​เขา​อีก​หรือ​ ​แม่ทัพ​หยวน​อายุ​หกสิบ​กว่า​เข้าไป​แล้วยัง​เสี่ยงชีวิต​รบ​ทัพ​จับ​ศึก​เพื่อ​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​อยู่​เลย​ ​แต่​สุดท้าย​หลานชาย​เขา​กลับ​ถูก​คน​ของ​พระ​ชายา​ติ้ง​อ๋อง​รังแก​อยู่​ใน​เมือง​หลี​?​ ​ท่าน​จะ​ให้​ข้า​เอาหน้า​ที่ไหน​ไป​พบ​ท่าน​แม่ทัพ​อีก​!​?​”​ ​เยี​่ย​หลีก​ล่าว​พลาง​ตบ​โต๊ะ​ด้วย​ความโมโห​ที่​เพิ่มมากขึ้น​เรื่อยๆ​ ​เสียง​ ​‘ปั​้ง​’​ ​ดัง​ขึ้น​ทำเอา​เยี​่ย​หรง​ตกใจ​อย่างหนัก

​ ​เยี​่ย​หรง​ถึง​จะ​ตกใจ​แต่​ก็​ยังคง​กุม​หัว​กล่าวว่า​ ​“​ก็​มิใช่​ความผิด​ข้า​อยู่ดี​ ​ผู้ใด​ให้​ไอ้​เด็ก​นั่น​ขวางทาง​ข้า​กัน​ล่ะ​ ​ข้า​กำลัง​รีบ​ไป​…​”

​ ​เพี้ยะ​!​ ​เยี​่ย​เหวิน​หวา​ทน​ไม่ได้​ในที่สุด​จน​ลงมือ​ตบหน้า​เยี​่ย​หรง​ฉาด​ใหญ่​ ​หลังจากที่​เขา​มาถึง​เมือง​หลี​ ​นอกจาก​มาที​่​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​สองครั​้​งก​็​ไม่​ออก​ไป​ไหน​อีก​เลย​จึง​ไม่รู้​มาก​่อ​นว​่า​มีเรื่อง​เช่นนี้​เกิดขึ้น​ ​“​เดรัจฉาน​!​ ​ยัง​ไม่​หุบปาก​อีก​!​”

​ ​“​นายท่าน​ ​นี่​ท่าน​…​”​ ​เยี​่ย​หวัง​ซื่อ​เห็น​ลูกชาย​โดน​ตบ​ไหน​เลย​จะ​ยอม​เลิกรา​ง่ายๆ

​ ​“​หุบปาก​!​”​ ​เยี​่ย​เหวิน​หวา​กวาดตา​มอง​เยี​่ย​หวัง​ซื่อ​อย่าง​เย็นชา​ครา​หนึ่ง​แล้ว​หันไป​กล่าว​กับ​เยี​่ย​หลี​ว่า​ ​“​หลี​เอ๋อร​์​ ​เป็น​เพราะ​พ่อ​อบรมสั่งสอน​เดรัจฉาน​นี่​ไม่ดี​ ​วันนี้​พวกเรา​ขอตัว​กลับ​ก่อน​ ​ร่างกาย​เจ้า​…​พักผ่อน​เถิด​ ​พวกเรา​ไม่​รบกวน​พวก​เจ้า​แล้ว​”

​ ​กล่าว​จบ​ก็​เดิน​นำ​ออก​ไป​โดย​ไม่สน​ใจ​สีหน้า​ของ​เยี​่ยฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​และ​เยี​่ย​หวัง​ซื่อ​แม้แต่น้อย​ ​เยี​่ยฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​แม้​จะ​ไม่พอใจ​แต่​สุดท้าย​ลูกชาย​คือ​คนที​่​นาง​ต้อง​พึ่งพา​จึง​ทำได้​เพียง​เดินตาม​ออก​ไป

​ ​เยี​่ย​หวัง​ซื่อ​ก็​ลาก​ลูกชาย​เดิน​ออก​ไป​ทั้ง​น้ำตา

[1] ​แทง​โดน​จุด​เจ็บ​ ​การก​ล่าว​ถึง​จุดอ่อน​ ​ข้อเสีย​หรือ​ความผิด​ของ​ผู้อื่น

[2] ​วัย​สวมมงกุฎ​ ​เด็กชาย​จีน​เมื่อมี​อายุ​ครบ​ ​20​ ​ปี​เต็ม​ ​ก็​จะ​มีพิ​ธี​สวมมงกุฎ​เพื่อ​เป็นการ​ชี้​ว่า​ชาย​คน​นี้​เข้าสู่​วัยผู้ใหญ่​แล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด