สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน 720 สาวใช้ตัวแสบ 624

Now you are reading สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน Chapter 720 สาวใช้ตัวแสบ 624 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 720 สาวใช้ตัวแสบ 624

ส้งหลิงหลิงและนายหญิงส้งต่างมองหน้ากันและรู้สึกใจหาย พวกเขาตระหนักว่าพฤติกรรมของส้งหลิงหลิงในสองสามวันนี้ทำให้เย่เชินหลินไม่พอใจหรือเปล่า เขาจึงจะพลาดเด็กไปจากเธอใช่ไหม

ภายนอกเขาดูเหมือนจะเป็นห่วงส้งหลิงหลิง ไม่อยากให้เธอต้องเหนื่อยเกินไป จึงทำให้เธอปฏิเสธไม่ได้

“เชินหลิน ฉันให้นมลูกไม่ได้เหนื่อยนะ ไม่ต้องให้คนมาช่วยก็ได้และน้ำนมของฉันก็เพียงพอที่ให้ลูกกินอยู่แล้ว แม่บ้านก็รู้วิธีบีบน้ำนมเดี๋ยวให้เธอช่วยนวดให้ฉันน้ำนมพออยู่แล้ว ไม่มีน้ำนมใครดีกว่าน้ำนมแม่ของลูกแล้วจริง ๆ นะ อีกอย่างฉันไม่ค่อยไว้ใจให้คนอื่นช่วยเลี้ยงลูกด้วย”

ส้งหลิงหลิงรู้สึกกังวลมาก แต่เย่เชินหลินยังคงเฉยเมยแล้วพูดอย่างเย็นชา “ให้พวกเธอมาลองดู เผื่อไว้ก่อน เผื่อวันไหนร่างกายคุณไม่พร้อมที่จะให้นมลูก ลูกจะได้มีนมกินตลอด ไม่ดีเหรอ?”

เมื่อเย่เชินหลินพูดแบบนี้แล้ว ส้งหลิงหลิงก็ไม่รู้จะปฏิเสธเขาอย่างไรอีก ได้แต่นั่งมองแม่บ้านหลี่อุ้มเด็กไปจากเธออีกครั้ง และเธอภาวนาในใจ ลูกอย่ากินนมของคนอื่นนะ ลูกต้องกินนมแม่คนเดียวนะลูก

“เธอไปลองดูก่อน ระวังอย่าทำให้เด็กร้องไห้ล่ะ คุณเย่ไม่อยากเห็นเด็กต้องร้องไห้” หลินหลิงพูดกับแม่เลี้ยงคนหนึ่งที่พามา

แม่เลี้ยงคนนี้เป็นคนหน้าตาดี เธอเป็นคนขี้อายไม่ค่อยพูดมากและเป็นคนขี้กลัว เมื่อได้ยินว่าห้ามทำให้เด็กร้องไห้เธอก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที แล้วยังมีคนเยอะแยะเฝ้ามองเธออยู่ เธอยิ่งตื่นเต้นไปใหญ่และไม่กล้าเปิดหน้าอกเธอ

“พวกคุณออกไปก่อน” เย่เชินหลินพูดกับผู้ดูแลบ้าน

ผู้ดูแลบ้านจึงให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปรวมถึงตัวหลินหลิงด้วย

เย่เชินหลินต้องการเห็นด้วยตาของตัวเองว่าแม้เลี้ยงคนนี้จะทำได้หรือไม่

แม่เลี้ยงขี้อายคนนี้กัดฟันตัวเองไว้แล้วละทิ้งความเขินอายนั้นไป เธออุ้มเด็กมาแล้วเปิดนมให้เด็กกิน เมื่อเด็กทารกได้กลิ่นน้ำนมก็ตามหามันอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งสถานการณ์แบบนี้ทำให้ส้งหลิงหลิงใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย

ถ้าลูกยอมกินนมของคนอื่นเมื่อไหร่ เธอก็จะกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ทันที

เธอรู้สึกกังวลมาก อดไม่ได้อยากจะแย่งเด็กกลับมาทันที นายหญิงส้งก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน เธอรู้สึกกังวลมากกว่าส้งหลิงหลิง เธออยากห้ามเด็กกินนมคนอื่นมาก แต่ ณ เวลานี้ พวกเธอไม่สามารถทำอะไรได้ ถ้าจะขัดขวางมันก็ชัดเจนเกินไป ตอนนี้ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับเด็กคนนี้แล้ว

ส่วนเย่เชินหลินเห็นลูกมีทีท่าว่าจะกินนมแม่เลี้ยง เขาก็รู้สึกดีใจมาก คนที่จ้างมาคงไม่กล้าใช้เด็กเป็นประโยชน์ส่วนตัวหรอก และคงไม่สอนให้เด็กไปในทางไม่ดี ซึ่งแน่นอนว่าเขาต้องดีใจกับเรื่องนี้

แม้เลี้ยงขี้อายคนนี้เพิ่งคลอดลูกได้เดือนเดียวและเธอยังไม่ค่อยชินกับการให้นมลูกเหมือนกัน แม่บ้านหลี่จึงช่วยเธอแล้วทารกก็ได้กินนมได้อย่างสำเร็จ

ขณะที่ส้งหลิงหลิงกำลังถอนหายใจและเย่เชินหลินกำลังดีใจอยู่ และเมื่อเด็กได้ชิมกับน้ำนมของแม่เลี้ยงคนนี้ก็ร้องไห้ขึ้นมาทันที

หลินหลิงย้ำแล้วย้ำอีกว่าอย่าทำให้เด็กต้องร้องไห้ และตอนนี้แม่เลี้ยงคนนี้รู้สึกกลัวมาก เธอจึงรีบกล่อมเด็ก “ไม่ร้องนะ ไม่ร้องนะลูก กินนมเร็วเข้า”

แต่เด็กไม่ยอมกินอีก ได้แต่ร้องไห้อย่างเดียว ส้งหลิงหลิงและแม่ก็สบตากันแล้วรู้สึกโล่งใจมาก

เย่เชินหลินจึงหันไปพูดกับแม่เลี้ยงอีกคนด้วยสีหน้าอันเคร่งขรึม “คุณ มาลองดู”

“ค่ะ คุณผู้ชาย ดิฉันลองดู!” แม่เลี้ยงคนนี้กระตือรือร้นมาก เธอหวังว่าเด็กจะไม่กินนมแม่เลี้ยงขี้อายคนนั้นแต่กินของเธอ

เธอไม่ได้เป็นคนขี้อาย เมื่อเห็นเด็กกำลังร้องไห้ เธอจึงรีบเปิดนมออกแล้วอุ้มเด็กเข้ามา

ตอนนี้เด็กรู้สึกอ่อนไหวต่อความรู้สึกมาก เมื่ออุ้มถึงข้างเธอ เด็กก็ไม่ยอมกินนมแต่กลับร้องไห้หนักขึ้น

“เชินหลิน ลูกคงชินกับรสชาติน้ำนมของฉันและกลิ่นตัวของฉัน คงไม่ยอมกินของคนอื่นง่าย ๆ หรอก รีบอุ้มลูกมาหาฉันเถอะ เห็นลูกร้องไห้แบบนี้น้ำนมฉันก็หลั่งออกมาแล้ว”

เย่เชินหลินสีหน้าเคร่งขรึม เมื่อเห็นลูกร้องไห้หนักกว่าเดิมและแก้มเริ่มแดงขึ้น

“อุ้มไป ๆ !” เย่เชินหลินพูดกับแม่บ้านหลี่ เธอขานตอบแล้วรีบอุ้มเด็กไปให้ส้งหลิงหลิง

ส้งหลิงหลิงเตรียมพร้อมไว้แล้ว ทันทีที่ลูกถูกอุ้มมาเธอก็รีบเปิดเสื้อรอ แล้วเมื่อได้ตัวลูกเธอก็ป้อนนมเข้าปากลูกด้วยความชำนาญ

เมื่อเด็กได้กลิ่นที่คุ้นเคยและได้กินน้ำนมแม่แล้วก็หยุดร้องไห้ทันที

ส้งหลิงหลิงจึงน้ำตาร่วงทันทีส่วนเย่เชินหลินก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน ความสัมพันธ์แม่ลูกแบบนี้คงหาคนมาแทนที่ได้ยากจริง ๆ แล้วล่ะ

ส้งหลิงหลิงเชื่อว่าเย่เชินหลินได้เห็นทั้งหมดนี้แล้ว และเธอไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก หลังจากเรื่องราวในวันนี้ แม้เด็กจะปฏิเสธน้ำนมของแม้เลี้ยง แต่ส้งหลิงหลิงก็เข้าใจแล้วว่าต่อไปเธอควรเจียมตัวแล้วจริง ๆ

เธอต้องอดทน ต้องรอคอย จะเร่งรีบไม่ได้อีก เหมือนที่แม่บอก เธอต้องรักษาเด็กคนนี้ไว้ให้ได้ ถึงจะรักษาเย่เชินหลินได้

ส้งหลิงหลิงไม่ได้พูดอะไร และมันกลับทำให้เย่เชินหลินมองเธอในแง่บวกมากขึ้น

“ลูกรักจ๋า ลูกรัก” ส้งหลิงหลิงให้นมลูกไปแล้วกระซิบเรียกลูกไปด้วยน้ำตาที่ไม่สามารถควบคุมได้

“หลิงหลิง หยุดร้องไห้ได้แล้ว แม่เจ็บใจนะแบบนี้ หยุดร้องได้แล้ว เดี๋ยวจะทำให้สายตาเสียนะ” นายหญิงส้งพยายามปลอบใจเธออยู่ข้าง ๆ

ขณะที่ลูกกำลังกินนมก็มีบางช่วงที่ทำให้ส้งหลิงหลิงรู้สึกเจ็บ แต่ครั้งนี้เธอไม่ได้ร้องส่งเสียง สีหน้าที่เจ็บปวดของเธอทำให้เย่เชินหลินมองเห็นได้อย่างชัดเจน

เมื่อเย่เชินหลินเผชิญหน้ากับน้ำตาอันเจ็บปวดของส้งหลิงหลิงก็รู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อย

“ลำบากพวกคุณสองคนแล้วนะ ดูเหมือนว่าลูกผมไม่ชอบกินนมของคนอื่น ผมจะให้หลินหลิงเอาค่าเสียเวลาให้นะครับ เชิญพวกคุณกลับก่อนได้ครับ” เย่เชินหลินพูดกับแม่เลี้ยงสองคนที่ล้มเหลวกับการให้นมลูกนั้น แต่คำพูดของเขาก็สื่อให้ส้งหลิงหลิงได้รู้ว่าเขาจะไม่หาแม่เลี้ยงมาอีก ให้เธอไม่ต้องกังวลอีกแล้ว

ส้งหลิงหลิงจึงรู้สึกโล่งอกและให้ความสนใจกับลูกมากขึ้น

“ผมกลับไปก่อนนะ” เย่เชินหลินพูด ส้งหลิงหลิงก็พยักหน้าตอบ “ค่ะ” คำพูดสั้น ๆ ที่จริงใจนี้แสดงถึงความอ่อนแอต่อเย่เชินหลิน เพื่อให้เขารู้ว่าเธอรู้สึกผิดแล้วจริง ๆ

เย่เชินหลินออกไปแล้วให้หลินหลิงเอาเงินตอบแทนให้กับแม่เลี้ยงสองคนนั้น

“คุณเย่คะ ไม่ผ่านใช่ไหม? งั้นพรุ่งนี้หนูจะหาคนมาใหม่นะคะ”

“ไม่ต้องแล้ว เด็กน่าจะชินกับน้ำนมของแม่แล้วล่ะ ตามนี้ไปก่อน พรุ่งนี้คุณช่วยผมหาผู้เชี่ยวชาญด้านโปรแลคตินเพื่อให้แน่ใจว่าน้ำนมของส้งหลิงหลิงเพียงพอสำหรับลูก ดู ๆ แล้วถ้าน้ำนมของแม่ไม่เพียงพอลูกผมคงกินนมผงไม่ได้แน่” เย่เชินหลินมอบหมายงานอย่างละเอียดอ่อน

“รับทราบค่ะ คุณเย่!”

แม่บ้านคนหนึ่งรออยู่ที่ระเบียงทางเดิน เมื่อเห็นเย่เชินหลินออกไปก็รีบเดินเข้ามาพูดกับเขา “คุณเย่คะ ตอนที่เราอบรมแม่ตั้งครรภ์นั้นเขาได้บอกว่าอารมณ์ของแม่ที่เพิ่งคลอดนั้นสำคัญมากเลยนะคะ ถ้าสภาพอารมณ์ของแม่ลูกอ่อนดี น้ำนมก็จะดีด้วย แต่ถ้าสภาพอารมณ์ของแม่ลูกอ่อนไม่ดี น้ำนมของแม่ก็จะได้รับผลกระทบด้วยเช่นกันค่ะ หนูเห็นคุณส้งร้องไห้ไปหลายต่อหลายครั้งเลย แบบนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อน้ำนมของแกด้วยนะคะ”

แม่บ้านคนนี้รู้ว่าส้งหลิงหลิงมีอิทธิพลต่อการทำงานของพวกเธอ เธอจึงต้องให้เครดิตต่อส้งหลิงหลิงเพื่อจะได้รักษางานปัจจุบันนี้ไว้

เธอคิดว่าหลังจากอยู่เดือนครบแล้วแม่บ้านคนอื่นอาจจะถูกเลิกจ้าง แต่ถ้าเธอตีสนิทกับส้งหลิงหลิงไว้ก็อาจจะมีโอกาสได้ทำงานต่อกับครอบครัวที่ร่ำรวยนี้ต่อไปได้

ส้งหลิงหลิงก็แอบดีใจอยู่ในห้องนั้นเมื่อได้ยินคนพูดแทนเธอ คิดว่าสาวใช้คนนี้มีไหวพริบดีเหมือนกับเซียวเสี่ยวลี่เลย อนาคตอาจจะใช้เป็นประโยชน์ได้

“ขอบคุณครับ!” เย่เชินหลินตอบคำเดียวและสีหน้ายังคงเย็นชา จึงทำให้แม่บ้านคนนั้นไม่แน่ใจว่าเขาเห็นด้วยหรือไม่กับคำพูดของเธอ เธอจึงไม่กล้าพูดมากกว่านี้

เมื่อถึงเวลาเลิกงานของเซี่ยชีหรั่น เย่เชินหลินก็ได้ไปรอที่หน้าบริษัทแล้ว

เขาตั้งใจขับรถสปอร์ตที่หรูหราคันหนึ่งไปรับเธอ ยืนพิงอยู่นอกประตูรถนั้นแล้วเอามือล้วงกระเป๋าไว้และมีรอยยิ้มเล็กน้อยอยู่มุมปากของเขา ผู้คนที่เดินไปมาแถวนั้น ไม่ว่าชายหรือหญิงต่างก็ต้องหันไปมองเขา

เขายืนอยู่แบบนั้นโดยไม่สนใจสายตาของผู้คนเลย เขาจดจ่อแต่ข้างหน้า ตรงที่เซี่ยชีหรั่นจะเดินออกมา

ชายที่ไม่ธรรมดาคนหนึ่งบวกกับรถสปอร์ตหรูรุ่นลิมิเต็ด ตามด้วยรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ทำให้สาว ๆ ต่างต้องหลงใหล และบ่าว ๆ ต่างต้องอิจฉา

ทาทีของเขาดูก็รู้ว่ากำลังรอผู้หญิงอยู่ แต่เป็นผู้หญิงแบบไหนนะที่สามารถทำให้ชายผู้นี้มายืนรอเธอได้ ทุกคนต่างต้องสงสัยในเรื่องนี้

บางคนจำได้ว่าเขาคือเย่เชินหลินประธานบริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ปและเป็นเจ้าชายในตำนานคนนั้น

เซี่ยชีหรั่นและหลี่เหอไท้เลิกงานพร้อมกัน เขาทั้งสองเดินไปคุยไป

เย่เชินหลินเห็นหลี่เหอไท้พูดอะไรบางอย่างกับเซี่ยชีหรั่นแล้วทำให้เธอยิ้ม สีหน้าเขาจึงเคร่งขรึมไปสักพัก จากนั้นค่อย ๆ แสดงรอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาแล้วมองไปที่เซี่ยชีหรั่นอย่างมั่นใจอีกครั้ง

เจ้าหนูน้อย คอยดูนะ กลับไปจะสั่งสอนให้เข็ดเลย เย่เชินหลินคิดในใจ

มีหลายคนข้าง ๆ เซี่ยชีหรั่นกำลังพูดถึงเขา

“หล่อจัง เหมือนหล่อกว่าประธานหลี่ของเราด้วยซ้ำ!”

“ว้าว! เจ้าชายนี่!”

เซี่ยชีหรั่นตกใจแล้วมองไปข้างหน้า ก็เห็นไอ้หนุ่มคนนั้นยืนจ้องหน้าเธออยู่จากที่ไกล

สายตาของเขาจดจ่ออยู่ที่ตัวของเซี่ยชีหรั่นมาก จึงทำให้ทุกคนต้องมองตามเขา

หลี่เหอไท้ขมวดคิ้ว แล้วคิดในใจว่าไอ้หนุ่มคนนี้สงสัยอยากแสดงความเป็นเจ้าของให้คนทั่วบริษัทรู้ว่าเซี่ยชีหรั่นเป็นผู้หญิงของเขาสินะ ร้ายกาจจริง ๆ

เซี่ยชีหรั่นยังคงไม่เคยชินกับการที่ถูกคนจำนวนมากจ้องมอง หน้าเธอจึงค่อย ๆ แดงขึ้น

“ที่รักครับ เหนื่อยมั้ย?” เย่เชินหลินก้าวไปข้างหน้าสองก้าวแล้วยื่นมือให้กับเซี่ยชีหรั่น

ที่รัก……ปกติเขาไม่ค่อยเรียกเธอว่าที่รัก เซี่ยชีหรั่นหน้าแดงมาก แล้วกระซิบพูดเบา ๆ “คุณคิดจะทำอะไรเนี่ย ทำไมวันนี้มาแปลก ๆ คุณคิดจะฆ่าฉันใช่ไหมเนี่ย”

ใช่แล้ว ผมอยากฆ่าคุณให้ตายเลยแหละ เจ้าหนูน้อยเอ๋ย ถ้าผมไม่แสดงความเป็นเจ้าของล่ะก็ คุณคงไม่ไปไหนมาไหนสองต่อสองกับหลี่เหอไท้มากกว่านี้เหรอ?

อีกอย่าง ตั้งแต่เธอเดินออกมาก็มีสายตาของผู้ชายหลายคนที่คิดไม่ซื่อกับเธอ เขาสังเกตเห็นแล้ว

เซี่ยชีหรั่นไม่เคยทำให้ผู้ชายของเธอต้องเสียหน้า แม้จะรู้สึกเขินอายแต่เธอก็ยื่นมือไปให้เขาและถูกเขาจับมือไว้แน่น ๆ

เย่เชินหลินพยักหน้าเบา ๆ ให้กับหลี่เหอไท้ ณ ตอนนี้สายตาของชายสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างลับ ๆ หลี่เหอไท้ก็พยักหน้าตอบ เขาทั้งสองยังไม่ทันได้คุยกัน เซี่ยชีหรั่นก็ถูกเย่เชินหลินพาเข้าไปในรถแล้ว

เขารัดเข็มขัดนิรภัยให้เธอด้วยความเอาใจใส่ เซี่ยชีหรั่นก็กลัวหลี่เหอไท้จะไม่พอใจเหมือนกัน เพราะเขาคนนี้ก็ไม่ใช่คนธรรมดาคนหนึ่งและยังดูแลเธอเป็นพิเศษด้วย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด