สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน 885 สาวใช้ตัวแสบ 789

Now you are reading สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน Chapter 885 สาวใช้ตัวแสบ 789 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 885 สาวใช้ตัวแสบ 789

“พี่เหอไท้ ฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้า พี่ช่วยฉันดูหน้าต่างหน่อยนะคะ ฉันกลัวว่าเย่เชินหลินมาแล้วจะไม่พบฉัน”เซี่ยชีหรั่นเอ่ยอย่างเสียงเบา

“อืม เธอไปเถอะ”

ทันทีที่เซี่ยชีหรั่นจากไป หลี่เหอไท้รีบมองออกไปนอกหน้าต่าง ก็พบกับภาพที่คนของเขาถูกคนของฝานหลายไล่ต้อนจนเดินมาทางบ้านแล้ว

เขากำปืนของตน และมองออกไปข้างนอกอีกครั้ง ก็พบเย่เชินหลินนำคนบุกเข้ามาแล้วเช่นกัน

พวกเขาเริ่มยิงปะทะกันด้านนอก แต่เนื่องจากพวกเขาต่างใช้ปืนเก็บเสียง บวกกับการเก็บเสียงภายในห้องของเขาค่อนข้างดี จึงไม่ได้ยินเสียงอะไรมากนัก

มือของหลี่เหอไท้ยังคงกำด้ามปืนไว้แน่น เตรียมพร้อมสำหรับการรับมือทุกรูปแบบ

เย่เชินหลินไม่สนใจอะไรแล้ว หลี่เหอไท้เห็นเขาพุ่งเข้ามา ตั้งใจจะล่อพวกเขาออกไป แต่กลับโดนยิงไปนัดหนึ่งอย่างไม่ทันระวัง

เขาเห็นว่าหลังจากที่เย่เชินหลินฝืนทนยิงพวกมันไปสองคนแล้ว ก็ได้ล้มลงไปกองกับพื้น เพราะฝืนรับไม่ไหวแล้ว

หลี่เหอไท้กำปืนใต้เสื้อแน่นอีกครั้ง เขาอยากจะพุ่งออกไปต่อสู้เคียงข้างเย่เชินหลินเหลือเกิน และเขาก็อยากจะไปตรวจเช็กสภาพของเขาด้วยตัวเองด้วย

สีหน้าของเขาเยือกเย็นและเคร่งเครียด มือสั่นเทาอย่างรุนแรง พยายามบังคับตนเองไม่ให้พุ่งออกไป

เซี่ยชีหรั่นต้องการการปกป้องจากเขา หากเย่เชินหลินรู้ว่าเขาปล่อยเซี่ยชีหรั่นไว้คนเดียวที่นี่ ต่อให้ตายเขาก็ไม่มีวันยกโทษให้ตนแน่ๆ เขารู้ดี

แต่การมองดูเขาล้มลงไปต่อหน้าต่อตาแบบนี้ ไม่รู้ว่าเขาเป็นหรือตาย หลี่เหอไท้ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ตนเองได้จริงๆ

เขาเกลียดคนพวกนั้นของเจ้าหญิงหย่าฮุ่ย อยากจะฆ่าไอ้พวกนั้นให้สิ้นซากทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่คนเดียว

เซี่ยชีหรั่นออกมาจากห้องน้ำแล้ว หลี่เหอไท้เปลี่ยนเป็นสีหน้าอ่อนโยนและตรงเข้าไปหาเธอทันที

ยังดีที่ตำแหน่งที่เธออยู่มองไม่เห็นหน้าต่างด้วยซ้ำ และเสียงด้านนอกก็แทบไม่ได้ส่งเข้ามา

“เสื้อไหมพรมตัวนี้สวยกว่าตัวสีขาวเมื่อกี้นี้อีก อาการมันหนาว สีส้มทำให้รู้สึกอบอุ่นมากกว่า”หลี่เหอไท้เอ่ยอย่างอ่อนโยน

เซี่ยชีหรั่นไม่รู้ว่าตนเป็นอะไรไป ตอนที่เปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ในห้องน้ำ จุๆเธอก็รู้สึกว่าหัวใจกระตุกอย่างแรง ราวกับถูกของแหลมคมบางอย่างจู่โจมใส่ วินาทีนั้นมันเจ็บปวดมาก

เมื่อได้ยินหลี่เหอไท้ชมที เธอควรจะดีใจ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เธอดีใจไม่ขึ้นเลย

การเต้นของหัวใจในขณะนี้วุ่นวายไปหมด และยังขมวดคิ้วขึ้นอย่างไม่สบายใจอีกด้วย

“เป็นอะไรหรือเปล่า”หลี่เหอไท้ถามขึ้น เขาพยายามรักษาน้ำเสียงให้ปกติที่สุด แต่ความจริงแล้วเขากังวลมากว่าเธอได้ยินอะไรเข้าหรือเปล่า

เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้า ก่อนจะเอ่ย“เปล่าค่ะ พี่เหอไท้ จุๆฉันก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ จนป่านนี้แล้วทำไมเย่เชินหลินยังไม่ถึงอีก เกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือเปล่า ฉันรู้สึกว่า เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยคงไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆแบบนี้แน่ อีกอย่าง เมื่อกี้แปลกมากเลย จุๆใจของฉันก็ปวดขึ้นอย่างรุนแรงทีหนึ่ง ฉันรู้สึกว่ามันประหลาดมาก เมื่อก่อนไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน หรือว่าเขา……”

เซี่ยชีหรั่นกัดริมฝีปากแน่น ไม่กล้าพูดต่อ ทว่าภายในใจของเธอนั้นกลับลนลานมากยิ่งขึ้น

หลี่เหอไท้สะดุ้งในใจทีหนึ่ง เขาเห็นเย่เชินหลินกุมหน้าอกไว้ หรือว่าระหว่างคนจะส่งกระแสจิตกันได้จริงๆงั้นหรือ

ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาไม่มีทางเชื่ออย่างแน่นอน แต่ตอนนี้จุๆเขาก็เชื่อขึ้นมาบ้างแล้ว

คิ้วของเขาก็ขมวดขึ้นเช่นกัน พลางคิดว่า สถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นต่อเมื่ออีกฝ่ายกำลังจะเสียชีวิตหรือไม่ หัวใจของเขาก็ยิ่งรู้สึกหนักอึ้งเข้าไปอีก

หากไม่ใช่เพราะการต่อสู้ข้างนอกยังคงดำเนินอยู่ เขาอยากจะพาเซี่ยชีหรั่นวิ่งออกไปเหลือเกิน พวกเขาจะไปดูให้เห็นกับตาว่าเย่เชินหลินเป็นยังไงกันแน่ จะเข้าไปช่วยเขาทันที จะมองดูเขานอนจมกองเลือดเพียงลำพังไม่ได้เด็ดขาด

“ไม่หรอก ฉันต้องคิดมากไปแน่ๆ ฝีมือเขาดีขนาดนั้น และอีกอย่างก็รู้อยู่แล้วว่าเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยไม่ใช่คนยอมอะไรง่ายๆอยู่แล้ว เขาต้องเตรียมรับมือไว้พร้อมอยู่แล้ว ตอนนี้เขาต้องอยู่ระหว่างทางที่มาแน่ๆ คงใกล้จะถึงแล้วล่ะ พี่เหอไท้ ฉันออกไปดูหน่อยนะ”

เซี่ยชีหรั่นพูดพลางจะเดินไปตามระเบียง ตรงไปยังห้องโถง

หลี่เหอไท้รีบเดินมาขวางทางเธอไว้ พร้อมกับรั้งแขนเธอไว้ พูดกับเธออย่างจริงจัง“เธอห้ามออกไป”

เนื่องจากร้อนใจเกินไป ท่าทีของเขาจึงไม่ได้อ่อนโยนดังเช่นปกติ

ท่าทางที่จริงจังเช่นนี้ ได้สร้างความตกใจให้กับเซี่ยชีหรั่นเป็นอย่างยิ่ง เธอจ้องหน้าเขาอย่างแปลกใจ เอ่ยถามเสียงเบา“พี่เหอไท้ ทำไมถึงออกไปไม่ได้ล่ะคะ”

“เพราะว่า…”หลี่เหอไท้ชะงักไปเล็กน้อย และจึงเพิ่งรู้ว่าตนสติหลุดไป ก่อนจะรีบอมยิ้มพร้อมกับเอ่ยเสียงเบา“เพราะเย่เชินหลินบอกว่าจะเตรียมเซอร์ไพรส์เธอ ก่อนที่เขาจะมา เธอห้ามออกจากห้อง ฉันรับปากเขาแล้ว ว่าจะให้เธออยู่ในห้อง”

เซี่ยชีหรั่นกึ่งเชื่อกึ่งสงสัย แต่ก็รู้สึกว่าหลี่เหอไท้ไม่มีความจำเป็นที่ต้องโกหกเธอ

“ก็ได้ค่ะพี่เหอไท้ งั้นฉันจะรอเขาในห้อง แล้วฉันพอจะทำอะไรได้บ้าง ตอนนี้ใจฉันว้าวุ่นมาก ไม่เคยว้าวุ่นแบบนี้มาก่อน พี่เหอไท้ พี่รีบช่วยฉันคิดหน่อยสิ ฉันทำอะไรได้บ้าง ฉันทนไม่ไหวแล้วจริงๆ”

ใจของเธอว้าวุ่น ร้อนรนไปหมด รู้สึกทรมานเหมือนกับว่าจะเป็นบ้าไปแล้ว

สรุปเป็นอะไรกันแน่ เธอเองก็บอกไม่ถูกจริงๆ

“ไปช่วยฉันอุ่นกาแฟเถอะ ในตู้เย็นมีนม เธอเองก็ไปอุ่นนมดื่มสักแก้ว พอนมเสร็จก็จะง่วง จะได้นอนไปด้วยรอเขาไปด้วยไง”น้ำเสียงของหลี่เหอไท้ผ่อนคลายมาก เซี่ยชีหรั่นฝืนให้ตนเองพยักหน้า

หลี่เหอไท้กลัวว่าเธอจะมองออกไปนอกหน้าต่างตอนที่เดินเข้าห้อง จึงรีบวิ่งเข้าห้องไปและหยิบกาแฟออกมาให้เธอเอง

จิตใจของเซี่ยชีหรั่นยังคงว้าวุ่นไม่เป็นสุข ดูท่าทางอาการของเย่เชินหลินคงหนักเอาการ

ในใจของหลี่เหอไท้ก็ร้อนรนไม่แพ้กัน อยากจะไปดูว่าข้างนอกเป็นยังไงกันบ้างแล้ว

ตำแหน่งที่ตั้งของห้องครัวเป็นทิศเหนือสุดของบ้านทั้งหลัง คนพวกนั้นเข่นฆ่ากันอยู่ทางทิศใต้ เซี่ยชีหรั่นเข้าไปในห้องครัวจะปลอดภัยกว่า

และตำแหน่งของห้องครัวนั้น นอกเสียจากว่าคนพวกนั้นจะพังประตูเข้ามา เธอก็จะปลอดภัยอย่างแน่นอน

เซี่ยชีหรั่นถือถ้วยกาแฟเดินไปยังห้องครัว หลี่เหอไท้รีบถือโอกาสมองออกไปนอกหน้าต่าง

ขณะที่เขาเริ่มรู้สึกโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อยนั้น คนของเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยก็ไม่กล้าขยับตัวทำอะไรอีก เขาเห็นหลินต้าฮุยถือปืนจ่อกระบาลเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยอยู่ พวกเขาเป็นห่วงความปลอดภัยขององค์หญิงของพวกเขา ต่างไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม

พวกมันต่างโยนปืนในมือทิ้งไป และถูกคนชุดดำของเย่เชินหลินเก็บไปทั้งหมด พวกมันต่างเอามือกุมหัวนั่งยองๆอยู่บนพื้น

หลินต้าฮุยสั่งให้คนไปอุ้มเย่เชินหลินมา หลี่เหอไท้เห็นเสื้อคลุมของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเลือดสด

เขาหลับตาลง เฝ้าภาวนาในใจ เย่เชินหลิน นายอย่าเป็นอะไรไปนะ เซี่ยชีหรั่นรับมันไม่ไหวแน่ๆ

เธอกำลังรอให้นายมาหาอยู่ นายจะให้เธอรอนานเกินไปไม่ได้นะ จะให้เธอรอนายตลอดชีวิตไม่ได้

“พี่เหอไท้คะ อุ่นเรียบร้อยแล้วค่ะ”เมื่อเขาได้ยินเสียงเรียกของเซี่ยชีหรั่น เขาก็รีบขานตอบไป “อื้ม เธอเอานมของเธอมาก็พอ เดี๋ยวฉันไปเอากาแฟเอง”

หลี่เหอไท้ได้มองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง ก่อนออกจากห้องนอนไป เนื่องจากหลินต้าฮุยติดตามเย่เชินหลินมานานแล้ว การจัดการของเขาจึงถือว่านิ่งสงบมาก

คนของเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยถูกคนชุดดำควบคุมตัวไปทีละคน ส่วนตัวเขานั้นยังคงควบคุมตัวเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยเอาไว้ คนกลุ่มใหญ่กำลังถอนกำลังออกไปจากบ้านหลังนี้อย่างรวดเร็ว

หลี่เหอไท้ถอดถอนในใจอีกครั้ง ด้วยความสงบนิ่งของเย่เชินหลิน หากไม่ใช่เพราะมันคือเรื่องความเป็นความตายของเซี่ยชีหรั่น หากไม่ใช่เพราะเขาเห็นว่าคนพวกนั้นบุกมาถึงบ้านแล้ว เขาก็คงไม่บุ่มบ่ามบุกมาถึงที่นี่ขนาดนี้

ต้องเป็นเพราะการพาเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยมาเดินทางช้าเกินไป เขาจึงให้หลินต้าฮุยควบคุมตัวเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยมา

หากผู้ที่ตกอยู่ในอันตรายคือคนอื่น และเย่เชินหลินตามมาทีหลัง เขาก็จะไม่มีทางได้รับบาดเจ็บ

เพื่อเซี่ยชีหรั่นแล้ว เขาไม่แม้แต่จะคิดถึงชีวิตของตนจริงๆ

เซี่ยชีหรั่นยังคงกระวนกระวายใจไม่หยุด และเธอก็เฝ้าบอกตัวเองตลอดเวลาว่า เธอต้องคิดมากไปแน่ๆ อาจจะเป็นเพราะเธอเฝ้ารอให้เย่เชินหลินมาถึงมากเกินไป และพอเขาไม่มา ใจของเธอจึงได้ว้าวุ่นขนาดนี้

หลี่เหอไท้ไม่ได้เข้ามาหยิบกาแฟ เธอยังคงยืนนิ่งอยู่ในห้องครัว เธอมองออกไปนอกหน้าต่าง ด้านนอกมองไม่เห็นอะไรเลย

ดูเงียบสงัดมาก ไม่มีเสียงใดๆทั้งสิ้น

ในเวลาที่เงียบสงบขนาดนี้ เย่เชินหลินต้องไม่เกิดเรื่องอันตรายอะไรอยู่แล้ว ต้องไม่มีอะไร

เซี่ยชีหรั่นตามหลี่เหอไท้เข้าไปในห้องนอน เธอชำเลืองมองออกไปนอกหน้าต่างแวบหนึ่ง คนพวกนั้นได้ออกไปกันหมดแล้ว กวาดสายตามองเพียงแวบเดียวเท่านั้น ไม่ได้มองอย่างละเอียด จึงไม่ได้สังเกตเห็นความแตกต่างอะไรจากตอนแรก

เธอพยายามบังคับตนเองไม่ให้คิดมาก เมื่อเห็นว่าหลี่เหอไท้เริ่มจิบกาแฟอย่างเชื่องช้าแล้ว เธอก็ถือแก้วขึ้นมาและค่อยๆดื่มนม

“ไม่ได้ ฉันจะโทรศัพท์หาเขา บอกให้เขาไม่ต้องรีบเกินไป”จุๆเซี่ยชีหรั่นก็วางแก้วลงข้างแขน เอ่ยขึ้นอย่างกังวลสุดๆ

หลี่เหอไท้แอบถอนหายใจในใจเฮือกหนึ่ง เขารู้ว่าอาการของเย่เชินหลินคงไม่สู้ดีนัก

ต่อให้สามารถช่วยไว้ได้ ก็ไม่สามารถทำได้ในระยะเวลาอันสั้นนี้

เย่เชินหลินในขณะนี้ได้สลบไปเนื่องจากเสียเลือดมากเกินไปแล้ว เขาหลับตานิ่งตลอดเวลา หลินต้าฮุยได้มอบเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยให้หัวหน้าคนชุดดำไปแล้ว ส่วนตัวเขานั้นประคองตัวเย่เชินหลินไว้นั่งอยู่บนเบาะหลัง ด้วยความกังวลอย่างที่สุด

ตั้งแต่ที่เขาโตเป็นผู้ใหญ่ เขาก็ไม่เคยหลั่งน้ำตาอีกเลย แต่ทว่าบัดนี้เขากลั้นน้ำตาไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เขาคอยร้องเรียกเย่เชินหลินอยู่ตลอดเวลา“คุณเย่ครับ คุณต้องมีสตินะครับ ตื่นสิครับตื่น เรากำลังจะถึงโรงพยาบาลแล้วนะครับ จะถึงแล้ว คุณต้องเข้มแข็งไว้นะครับ เพื่อคุณผู้หญิง คุณต้องเข้มแข็งไว้นะครับ”

เย่เชินหลินเหมือนราวกับไม่ได้ยินเสียงใดๆของเขาเลย ไม่ว่าเขาจะร้องเรียกอย่างไร เขาร้อนใจจนเรียกทั้งชื่อและแซ่ของเขา เขาก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆทั้งสิ้น

และในขณะนั้นเอง เสียงเรียกเข้าดังขึ้นมา เป็นสายของเซี่ยชีหรั่น หลินต้าฮุยรู้ว่าเสียงสายเรียกเข้านี้ตั้งไว้เพื่อเซี่ยชีหรั่นโดยเฉพาะ

เขาร้องเรียกเย่เชินหลินอย่างตื่นเต้น“เป็นสายของเซี่ยชีหรั่นครับ เป็นสายของเซี่ยชีหรั่น คุณรีบตื่นขึ้นมาเร็วเข้า คุณต้องพูดสายกับเธอนะครับ คุณไม่พูดอะไร แล้วผมจะไปทราบได้อย่างไรครับว่าควรจะบอกกับเธออย่างไร ตื่นสิครับ เซี่ยชีหรั่นกำลังเรียกคุณอยู่ เธอกำลังเรียกคุณอยู่นะ”

ตาของเย่เชินหลินเริ่มขยับขึ้นมาเล็กน้อย จนท้ายที่สุดก็ได้ลืมตาขึ้นมาอย่างยากลำบาก เมื่อหลินต้าฮุยเห็นว่าในที่สุดเจ้านายของเขาก็ฝืนแล้ว เขาตื่นเต้นดีใจจนร้องเสียงหลง

“ฟื้นแล้ว ฟื้นแล้ว”เขาตะโกนลั่นด้วยเสียงสะอื้น

“รับสาย บอกเธอ ว่าฉันกำลังประชุมอยู่ อีก….อีกสามสี่วันค่อยไปหาเธอ”เย่เชินหลินราวกับใช้กำลังทั้งหมดในชีวิตจึงพูดประโยคนี้ออกมาได้ทั้งประโยค พูดจบ เขาก็หมดสติไปอีกครั้ง

“คุณเย่ครับ คุณ….คุณเย่”หลินต้าฮุยร้องเรียกอีกครั้ง เขาไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆอีกแล้ว

เสียงเรียกเข้ายังคงดังไม่หยุด เขารู้ว่าเซี่ยชีหรั่นต้องเฝ้ารอเขาอย่างร้อนรนใจแน่ๆ นั่นคือสิ่งที่เย่เชินหลินไม่ต้องการเห็น และแล้วหลินต้าฮุยก็ได้ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าของเย่เชินหลิน หยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาด้วยมือที่สั่นเทา สูดลมหายใจเข้าลึกๆสองทีเพื่อสงบสติอารมณ์ตัวเอง ก่อนจะกดรับสาย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด