สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน 849 สาวใช้ตัวแสบ 753

Now you are reading สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน Chapter 849 สาวใช้ตัวแสบ 753 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 849 สาวใช้ตัวแสบ 753

ในที่สุดเขาก็ยอมพูด แต่กลับพูดเพียงคำเดียวว่า“ได้!”

คำคำนี้เกรงว่าจะเป็นคำที่ไร้ความรู้สึกที่สุดในโลกแล้ว เธอมองเขาอย่างตกตะลึง ในขณะที่เขาผละตัวเองออกไป ปากของเขาก็ขยับพูดต่อไปอย่างแผ่วเบาว่า

“ถ้าคุณเหนื่อยแล้วจริงๆ คุณก็ไปเถอะ”

เขาไม่มีสิทธิ์กักขังอิสระของเธอ และยิ่งไม่มีสิทธิ์บังคับให้เธอดูแลลูกที่ไม่ใช่ลูกของเธอ ทั้งยังต้องระวังความชั่วช้าของส้งหลิงหลิงตลอดเวลาอีก

ใบหน้าของเย่เชินหลินนิ่งขรึมและเย็นชามาก เขารู้ว่าเขาพูดแบบนี้จะทำให้เธอรู้สึกเสียใจ

ไม่ว่าจะเรื่องอะไรเขาก็ตัดสินใจได้เด็ดขาดตลอด การเผชิญหน้ากับผู้หญิงที่เขาใส่ใจที่สุดเพียงคนเดียว บางครั้งเขาก็ไม่รู้ว่าเขาจะต้องจัดการกับเธอยังไงกันแน่

แยกจากกันเขาก็ทำไม่ลง กลัวว่าเธอจะไม่มีความสุข อยู่ต่อเธอก็จะเจ็บปวด เขาไม่อยากจะเห็นเธอต้องเจ็บปวดอยู่เสมอ

ไม่ว่าเธอจะอยู่หรือเธอจะไป เขาก็จะพยายามรีบรักษาเย่เจิ้งเหิงให้หายให้เร็วที่สุด ขอแค่เขาแข็งแรงดีแล้ว เขาถึงจะไล่ส้งหลิงหลิงให้ไสหัวไปได้

ในที่สุดเขาก็พูดออกมา หัวใจของเธอทำไมถึงได้เจ็บขนาดนี้ เซี่ยชีหรั่นอยากจะฝืนยิ้ม แต่กลับพบว่าเธอยิ้มไม่ออกเลย

เธอทำได้เพียงมองไปยังเย่เชินหลินอย่างเฉยเมยเท่านั้น ตามด้วยการเอ่ยเสียงเบาว่า“ขอบคุณที่คุณคืนอิสระให้กับฉัน ฉันเหนื่อยแล้ว ฉันอยากจะไป คิดว่าครั้งนี้คงไม่กลับมาแล้ว”

ให้ผมได้กอดคุณอีกสักครั้งที่รัก เย่เชินหลินเอื้อนเอ่ยอยู่ในใจ สายตาของเขาย้ายจากหน้าน้อยๆมองเลยไปที่ไหล่ของเธอ เธอดูเปราะบางจริงๆ เขาไม่ควรให้เธอต้องแบกรับมากมายขนานนี้

เขาอดทนอดกลั้นไม่ให้พุ่งไปกอดเธอไว้ ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มแปลกๆ

“ได้ ดูเหมือนคุณจะยุ่งขึ้นมาเร็วๆนี้นะ ทั้งหลี่เหอไท้ ทั้งไห่ลี่หมิน และก็ยังมีผู้ชายเก่งๆอีกหลายคนที่ผมไม่รู้จัก คงจะแย่งกันจีบคุณน่าดู คุณต้องหาคนที่มีความรับผิดชอบนะ อย่าเหมือนกับผมที่ยังมีลูกติด และทำให้คุณต้องรับความไม่เป็นธรรมอยู่ตลอด”

เขายิ้มแบบนั้นดูแล้วหยิ่งผยองมาก แต่เขากลับพูดอย่างชัดเจนว่าเขาไม่สง่าเลยแม่แต่น้อย หัวใจของเซี่ยชีหรั่นถูกรอยยิ้มของเขาฉุดดึงให้เจ็บอีกครั้ง

เธอกัดปากแน่นพลางกลั้นน้ำตาไว้ กลืนคำพูดที่จะบอกเขาออกไปว่าเธอจะไม่ไปไว้

เซี่ยชีหรั่นสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และแสร้งยิ้มอย่างสง่าและเอ่ยว่า“อืม ฉันต้องผ่านไปด้วยดีแน่ คนที่เป็นพ่อบ้านพ่อเรือนจะไม่รับพิจารณา ฉันจะหาคนที่หล่อเหมือนคุณ และ…เหมือนคุณ…”

เธอพูดต่อไม่ไหวอีกแล้ว และเธอก็มองไปที่เขาไม่ได้อีกแล้ว

“ฉันจะไปจัดของสักหน่อย ส้งหลิงหลิงไม่ชอบให้ที่นี่มีของของฉันอยู่ นอกจากโทรศัพท์เครื่องนี้ฉันจะไม่เอาอะไรไปทั้งนั้น เธอคงไม่ชอบของที่ฉันเคยใช้จัดการได้ตามใจชอบเลยนะ”เซี่ยชีหรั่นพูดจบด้วยเสียงอันแผ่วเบา เธอต้องการหันหลังเดินออกไปกลับพบว่าบนตัวของเธอมีเพียงเศษผ้า

แน่นอนว่าเย่เชินหลินก็สังเกตเห็นความลำบากใจของเธอ เขาไม่ได้มองไปที่หน้าอันแดงก่ำของเธออีกครั้ง เขาไม่อยากจะบังคับเธอให้อยู่อีก

เขาเอียงตัวลงไปเก็บเสื้อยืดของเขาบนพื้นขึ้นมาใส่ให้เธอเงียบๆ เสื้อของเขาใหญ่มาก เมื่อเธอใส่เข้าไปก็ราวกับว่าใส่ชุดกระโปรงยาวๆตัวหนึ่งแล้ว

“ขอบคุณค่ะ”เธอตอบเสียงเบา

“ไม่เป็นไร” เสียงของเขาเบากว่าเทียบจะไม่ได้ยิน

การตอบโต้กันระหว่างสองประโยคนี้ ดูเหมือนว่ามันจะลบล้างความรักความห่วงใยในอดีตไปหมดแล้ว

ภายในใจของพวกเขาเจ็บปวดเหมือนๆกัน และบนใบหน้าของพวกเขาก็ยิ้มอย่างไม่เป็นธรรมชาติเลยเหมือนกัน

เซี่ยชีหรั่นไปที่ห้องนอนของเย่เชินหลิน หยิบชุดกระโปรงที่เหมาะสำหรับใส่ไปข้างนอกในตู้เสื้อผ้าของเขาออกมา จากนั้นก็เหลือบมองห้องที่เคยมีความทรงจำมากมายร่วมกันของเขากับเธออย่างเงียบๆ

เธอไม่ได้อาลัยอาวรณ์มากเกินไป เธอกลัวว่าจะใจอ่อนภายในชั่ววูบแล้วตัดสินใจปล่อยให้ศักดิ์ศรีของตัวเองถูกทำลาย

หลังจากที่เย่เชินหลินใส่กางเกงเสร็จก็อยู่ในห้องหนังสือต่อ ไม่ได้ออกมาดูเธอ เวลานี้โทรศัพท์ของเขาดังขึ้น เป็นหลินหลิงที่โทรเข้ามา

“คุณเย่คะ ช่อดอกไม้ที่คุณจะใช้ขอแต่งงาน ฉันอยากจะยืนยันหน่อยค่ะว่าคุณอยากจะใช้ดอกไม้อะไร? ”

เงียบ

“คุณเย่?”

“เรื่องงานแต่ง คุณไม่ต้องเตรียมแล้ว หยุดไว้ก่อน ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป คุณเริ่มทำงานที่บริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ปต่อได้เลย ”

เย่เชินหลินพูดด้วยเสียงนิ่งเรียบ

หลินหลิงไม่ใช่คนเรื่องมาก เขาเป็นผู้ชายที่เธอแอบชอบมานาน เธอสามารถรับรู้ความรู้สึกของเขาได้

“เกิดอะไรขึ้นคะคุณเย่”หลินหลิงถาม

“ยังมีเรื่องอะไรอีกไหม? ”

“ไม่มีแล้วค่ะ คุณเย่”

เย่เชินหลินวางสายโทรศัพท์ และยืนอยู่เงียบ ๆ ที่หน้าประตู

เสียงฝีเท้าเบาๆของเซี่ยชีหรั่นดังขึ้นแล้วก็หายไป ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้สีหน้าและท่าทางของเขายังคงไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย

“พ่อบ้าน รบกวนช่วยฉันเตรียมรถด้วยนะคะ” เซี่ยชีหรั่นพูดกับพ่อบ้านที่เดินเข้ามา เมื่อเธอเดินไปถึงห้องโถง

“ครับ คุณนายเย่!” พ่อบ้านกล่าวด้วยความเคารพ ส้งหลิงหลิงอุ้มลูกนั่งอยู่บนโซฟาในห้องโถง ยิ้มแสดงความได้อกได้ใจพลางเอ่ยว่า“นี่คุณพ่อบ้าน ทำไมคุณไม่ถามซะก่อน เรียกมั่วได้ยังไง ตอนนี้ไม่แน่ว่าเธอจะใช่คุณนายเย่แล้วนะ”เซี่ยชีหรั่นมองไปที่ส้งหลิงหลิงอย่างสงบ เธอแพ้แล้ว แต่เธอไม่อยากแพ้อย่างน่าอนาถขนาดนั้น

เธอเดินช้าๆไปยังด้านข้างของส้งหลิงหลิง ส้งหลิงหลิงนั่ง ส่วนเธอยืน เมื่อเทียบกันแบบนี้แล้วคนที่ยืนอยู่ยิ่งดูสง่างามกว่า

“ฉันแยกจากเย่เชินหลิน เพราะฉันไม่รักไม่ชอบเขาแล้ว ฉันเป็นคนพูดมันออกมาก่อน ไม่เหมือนคนบางคน รู้อยู่แล้วว่าคนเขาไม่ชอบตัวเอง ยังจะแสดงละครอยู่ทุกวัน เพื่อพยายามจะมีจุดยืนในใจของคนอื่น ส้งหลิงหลิง ต่อให้เธอจะพยายามอีกแค่ไหน ก็เสียแรงเปล่า เขาไม่มีทางรักเธอ”มือของส้งหลิงหลิงสั่นเทา เธอปิดบังความรู้สึกจริงๆของตัวเอง ใบหน้ายังคงยิ้มอยู่ตลอดเวลาพลางลูบหน้าของเย่เจิ้งเหิงเบาๆ

“ลูกรัก เรื่องรักไม่รักไม่สำคัญหรอกจริงไหม ครอบครัวอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันสามคนเป็นเรื่องที่ถูกทำนองคลองธรรม แม่มีวิธีที่จะทำให้พ่อของลูกรักลูกมากขึ้น และไปจากแม่ไม่ได้”

เซี่ยชีหรั่นไม่อยากจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ เธอเบนสายตาไปมองที่เย่เจิ้งเหิงดวงตาสีดำๆของเขาก็กำลังมองมาที่เธอ ราวกับว่าไม่อยากให้เธอไป

ตูตู หนูจำแม่ได้บ้างแล้วใช่ไหม? แม่จากไปแบบนี้ ไม่ได้สู้ต่อ หนูจะโทษแม่ไหม?

แม่อยากจะให้หนูมาเป็นลูกชายแท้ๆของแม่จริงๆนะ แต่แม่ก็ไม่สามารถแทนที่ตำแหน่งของแม่แท้ๆในหัวใจของหนูได้ สิ่งที่เธอให้หนูได้ แม่กลับให้ไม่ได้

แม่ไม่รู้ว่าจะมีวันนั้นไหม วันที่พ่อของหนูคิดได้

ถ้าส้งหลิงหลิงไม่อยู่ที่นี่ แม่จะยังคงเลี้ยงหนูเหมือนเป็นลูกแท้ๆของตัวเองเหมือนเดิม

ตูตู หนูจะคิดถึงแม่ชีหรั่นคนนี้ไหม?

เขายังเด็กเกินไป คิดว่าเขาคงไม่คิดถึงหรอก

แต่ถ้าส้งหลิงหลิงจากไป เขาคงจะคิดถึงแน่

เมื่อครั้งที่แล้วตอนเย่เชินหลินบังคับให้ลูกหย่านมของส้งหลิงหลิงจนลูกเป็นลม และถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ความคิดและการตัดสินใจของเซี่ยชีหรั่นที่มีต่อเย่เชินหลินก็ไม่ได้คับข้องใจเหมือนในตอนแรกๆแล้ว

เด็กยังเล็กอยู่จริงๆ บางทีเธอก็ไม่ควรที่จะเห็นแก่ตัวให้แม่ลูกเขาแยกจากกัน

หรือว่าวาสนาของเธอกับเย่เชินหลินมีไม่พอ?

หลังจากที่พ่อบ้านได้ฟังคำสั่งของเซี่ยชีหรั่นแล้ว เขาก็โทรไปที่โรงรถให้เลือกรถมาคันหนึ่ง และบอกไปว่าคุณนายเย่กำลังจะออกไปข้างนอก เซี่ยอี้ชิงก็ตามมาด้วย นอกจากคนขับที่รู้ศิลปะการต่อสู้แล้วยังมีบอดี้การ์ดอีกคนหนึ่งอยู่ในรถด้วย

“คุณนายเย่รถมาแล้ว เชิญครับ”พ่อบ้านทำเหมือนกับว่าไม่ได้ยินสิ่งที่ส้งหลิงหลิงพูด ยังคงเรียกเซี่ยชีหรั่นอย่างเคารพว่าคุณนายเย่

ในใจเขารู้ดีว่า ต่อให้พวกเขาสองคนจะทะเลาะกันจนเกิดความอึดอัด แต่พวกเขาก็จะยังคงอยู่ด้วยกันได้ เย่เชินหลินไม่มีทางหวั่นไหวกับผู้หญิงคนอื่น ส่วนผู้หญิงที่ร้ายกาจและเลวทรามอย่างส้งหลิงหลิงยิ่งไม่สามารถเข้าตาเขาได้

“ขอบคุณค่ะ”เซี่ยชีหรั่นหันไปยิ้มให้พ่อบ้าน พ่อบ้านเอ่ยกลับว่า”นี้เป็นสิ่งที่ผมต้องทำอยู่แล้วครับคุณนายเย่”

พ่อบ้านเป็นคนเปิดประตูบานใหญ่ของคฤหาสน์ให้เซี่ยชีหรั่นด้วยตัวเอง เซี่ยชีหรั่นก้าวเดินออกไปช้าๆ ก่อนขึ้นรถยังกำชับกับพ่อบ้านเสียงเบาว่า“รบกวนช่วยดูแลเย่เชินหลินให้ดีด้วยนะคะ”

เซี่ยชีหรั่นคัดจมูกขึ้นมา เธอกลั้นน้ำตาไว้อีกครั้งพลางก้มหัวให้พ่อบ้านเซี่ยอี้ชิงช่วยเธอเปิดประตูรถและให้เธอเข้าไปนั่งข้างหลัง

“พี่เซี่ย ไปไหนครับ?” เซี่ยอี้ชิงเอ่ยถาม

“ไปบ้านแม่ของฉัน”

นี้เป็นที่เดียวที่เธอสามารถไปได้ แต่อันที่จริงแล้วเมื่อไม่ได้อยู่ข้างๆเย่เชินหลิน ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหนก็ไม่มีความสุขทั้งนั้น เธอเองก็รู้มาตั้งนานแล้ว

รถเคลื่อนตัวออกไป เซี่ยชีหรั่นไม่ได้มองออกไปนอกหน้าต่าง

เมื่อรถมาจอดที่สนามหญ้าของบ้านตระกูลหลี่ เซี่ยชีหรั่นเอ่ยกับเซี่ยอี้ชิงว่า“อี้ชิง ต่อไปนี้พวกคุณไม่ต้องติดตามฉันแล้ว ฉันไม่มีทางกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลเย่อีกแล้ว และก็ไม่ใช่คุณนายเย่อีกต่อไปแล้ว ที่นี่ไกลจากที่ทำงานของฉัน ต่อไปนี้ฉันไม่ต้องการรถ ไม่ต้องการคนดูแลความปลอดภัยของฉันแล้ว”

“พี่เซี่ย พวกคุณทะเลาะกันเหรอ? เมื่อตอนเช้าผมเห็นคุณโม่…”เซี่ยอี้ชิงพูดได้แค่ครึ่งเดียว เซี่ยชีหรั่นก็ขัดเขาเสียงเบาว่า“ขอโทษนะอี้ชิง ฉันไม่อยากจะเล่าว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันหวังแค่ว่าต่อไปนี้ ทุกคนไม่ต้องตามฉันแล้ว ฉันอยากมีชีวิตแบบธรรมดาทั่วไป”

เซี่ยชีหรั่นพูดจบแล้วก็เปิดประตูรถลงไป เซี่ยอี้ชิงรีบลงมาจากอีกด้านหนึ่งแล้วเดินตามเธอไป

“พี่เซี่ย คุณเย่เคยบอกไว้ตั้งนานแล้วว่า ค่าแรงของพวกเราจะถูกคิดแยกให้ ต่อให้วันหนึ่งพวกคุณจะเลิกกัน พวกเราก็จะต้องติดตามคุณไปตลอดชีวิต เขาเคยบอกไว้ว่าถ้าคุณไม่ต้องการพวกเราแล้ว พวกเราก็ไปหางานใหม่ได้เลย”

ผู้ชายคนนั้นเงินคงจะเยอะเกินไปสินะ เซี่ยชีหรั่นมองพวกของเซี่ยอี้ชิงอย่างเลื่อนลอยอยู่หลายวินาที เธอกัดปากและในที่สุดก็พูดออกมาว่า“ยังไงซะฉันก็จะไม่นั่งรถของพวกคุณ เรื่องที่จะติดตามฉันมันเป็นเรื่องของพวกคุณ”

เย่เชินหลินรู้อยู่แล้วว่าเธอต้องใจอ่อน ถึงได้มักจะใช้มุกนี้กับเธอ เธอไม่มีทางทนมองพวกเขาไม่มีงานทำเพราะเธอได้

เธอรู้ว่าทุกๆคนไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว พวกเขาหาเงินเพื่อเลี้ยงครอบครัว ถ้าเกิดไม่มีงานทำ บางครั้งก็เป็นเรื่องน่าเศร้าของคนทั้งครอบครัว

“ขอบคุณครับพี่เซี่ย ฮีๆ เดือนนี้ผมจะซื้อกระเป๋าถือราคาห้าพันหยวนให้แฟนผม ถ้าผมตกงาน เธอจะเตะผมแน่ ”เซี่ยอี้ชิงกล่าวด้วยความรื่นเริง

“แฟนของคุณโชคดีมาก”เซี่ยชีหรั่นรู้สึกใจหาย

“พี่เซี่ย ที่จริงพี่โชคดีกว่านะ แฟนผมคบกับคนธรรมดาๆอย่างผม คุณเย่…”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด