สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน 804 สาวใช้ตัวแสบ 708

Now you are reading สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน Chapter 804 สาวใช้ตัวแสบ 708 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 804 สาวใช้ตัวแสบ 708

เมื่อเห็นเขาร้องไห้หนักขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่าหิวแต่ไม่ยอมกินนมผง เซี่ยชีหรั่นจึงรู้สึกตื่นเต้นจนเหงื่อแตก

เธอทนดูเด็กร้องไห้ต่อไปแบบนี้ไม่ได้แล้ว สุดท้ายจึงพูดกับเย่เชินหลิน “หลิน ลูกไม่ยอมกินนมผงจริง ๆ ฉันว่าเราเรียกส้งหลิงหลิงกลับมาดีกว่า ลูกยังเด็กเกินไป ถ้าจะให้หย่านม เรารอให้ลูกโตกว่านี้ดีกว่า”

เย่เชินหลินยังคงกระวนกระวายใจมาก ตอนนี้ได้แต่มองหน้าลูกอย่างไม่กระพริบตา

เขาร้องไห้หนักมาก แต่ยังไม่ถึงขั้นหายใจไม่ออก

เย่เชินหลินเองก็รู้สึกใจร้อนและอยากเรียกส้งหลิงหลิงกลับมามาก แต่ก็พยายามห้ามใจไว้

“บอกแล้วว่าจะให้หย่านมแม่ก็ต้องทำให้ได้ มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่ลูกจะร้องไห้ เดี๋ยวก็ชินไปเอง ลองเปลี่ยนคนป้อนนมดู!”

เรื่องมันก็ตามนั้น ตัวเล็กเย่เจิ้งเหิงปฏิเสธนมผงไปสักพัก สุดท้ายก็หิวไม่ไหวแล้วยอมกินนมสักที แต่กินได้แค่ไม่กี่คำก็หยุดกินแล้ว แทบไม่ได้ทำให้อิ่มท้องเลย

โม่เสี่ยวหนงก็สังเกตสถานการณ์ข้างบนอยู่เหมือนกัน เมื่อได้ยินเสียงเด็กร้องไห้เธอก็รีบขึ้นไปดู

“พี่สาว พี่เขย ทำไมลูกถึงร้องไห้หนักขนาดนี้ หนูพอจะช่วยอะไรได้ไหม?” เธอกระซิบถาม

“ไม่ต้อง เธอกลับไปเถอะ” เย่เชินหลินสีหน้าเคร่งเครียด เขาแทบไม่ได้เงยหน้ามองเธอเลย

โม่เสี่ยวหนงเองก็ทำตัวไม่ถูก แล้วตอบกลับเขาว่า “โอเค ดูเหมือนว่าหนูจะช่วยอะไรไม่ได้ แถมไม่พอยังมารบกวนพวกพี่อีก หนูกลับไปก่อนดีกว่า”

หลังเดินออกไปเธอไม่ได้กลับห้องนอนโดยตรง แต่เธอเดินไปห้องข้าง ๆ เพราะรู้ว่าส้งหลิงหลิงถูกขังอยู่ห้องนั้น เมื่อเดินไปถึงหน้าห้องก็เห็นสาวใช้สองคนกำลังเฝ้าประตูห้องอยู่

“คนแซ่ส้งอยู่ในห้องนี้ใช่ไหม?”

“ใช่ค่ะ คุณโม่” สาวใช้ตอบกลับ

เมื่อส้งหลิงหลิงได้ยินเสียงลูกร้องไห้ดังขึ้นเธอก็เริ่มมีความหวังอีกครั้ง แต่จู่ ๆ เสียงร้องไห้ของลูกก็เบาลง เห็นได้ชัดว่าพวกเขากล่อมเด็กได้แล้ว

ในขณะที่เธอกำลังจะกลับสู่ภาวะอารมณ์ที่หดหู่อีกครั้ง เธอก็ได้ยินเสียงพูดของโม่เสี่ยวหนงตรงหน้าห้อง จึงทำให้เธอมีความหวังขึ้นใหม่อีกครั้ง

“อย่างเธอก็มีวันนี้ด้วยเหรอ สมน้ำหน้าจริง ๆ! เปิดประตูสิ ฉันจะเข้าไปหาเธอสักหน่อย”

“คือว่า……” สาวใช้ลำบากใจ ไม่รู้ว่าควรให้เธอเข้าไปหรือไม่

“ทำไม ฉันเข้าไปไม่ได้เหรอ? ฉันต้องไปขออนุญาตพี่สาวพี่เขยฉันก่อนใช่มั้ย? ฉันก็แค่อยากเข้าไปสั่งสอนเธอสักหน่อย เรื่องเล็กแค่นี้พวกเธอคิดว่าพี่ฉันจะไม่อนุญาตใช่มั้ย?”

สาวใช้ทั้งสองนึกถึงคำสั่งของเจ้านายว่าห้ามส้งหลิงหลิงออกไปไหน แต่ไม่ได้ห้ามใครเข้าไป

เด็กข้างห้องยังคงร้องไห้อย่างหยุด ถ้าหาเรื่องตอนนี้คงไม่ดีแน่ สุดท้ายแล้วพวกเธอก็ตัดสินใจเปิดประตูให้เธอ จึงพูดอย่างเกรงใจ “เชิญค่ะคุณโม่”

หลังจากที่โม่เสี่ยวหนงเข้าไปในห้องโม่ก็ตะโกนด่าส้งหลิงหลิง “ผู้หญิงหน้าด้าน ใครให้พี่อยากหาเรื่องหนูกับพี่สาวล่ะ หนูจะดูว่าพี่ยังกล้าหาเรื่องเราอีกไหม”

เมื่อเธอพูดจบก็ปิดประตูห้องแล้วส่งสายตาให้ส้งหลิงหลิง

“เธอนั่นแหละหน้าด้าน เธอกับพี่สาวเธอไม่ต่างอะไรกัน! ฉันพลาดเองที่ไม่ฆ่าเธอสองคนตั้งแต่ตอนนั้น” ส้งหลิงหลิงมองไปที่ประตูแล้วกัดฟันพูดกับเธอ

สาวใช้ทั้งสองคนยืนฟังพวกเธอทะเลาะกันอย่างเงียบ ๆ จากด้านนอก

“ขอโทษทีนะพี่ส้ง อย่าหาว่าหนูหักหลังพี่เลย เรื่องที่พี่ไปคุยกับหนูในห้อง พี่สาวกับพี่เขยหนูรู้หมดแล้ว หนูปิดบังเขาไม่ได้หรอก”

“พี่ไม่ได้โทษเธอหรอก แต่ครั้งนี้เย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นตั้งใจเอาเรื่องฉันจริง ๆ ฉันถูกขังอยู่ที่นี่วันหลังคงช่วยเธอได้ยากละ” ส้งหลิงหลิงกระซิบพูดข้างหูโม่เสี่ยวหนง

“พี่ทนสักสองสามวัน หนูว่าเด็กคงตัดพี่ไม่ได้หรอก หนูก็จะหาวิธีช่วยพี่อีกแรง หนูต้องไปแล้ว!” โม่เสี่ยวหนงรีบกระซิบพูดแล้วจับมือส้งหลิงหลิงเพื่อปลอบใจเธอ

ส้งหลิงหลิงพยักหน้าตอบ และทั้งสองก็แกล้งส่งเสียงด่ากันอีกครั้ง จากนั้นโม่เสี่ยวหนงก็เดินออกไป

เย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่นกับแม่บ้านยังคงยุ่งอยู่กับเด็ก เป็นการป้อนนมที่ยากลำบากมาก แต่สุดท้ายเด็กสงบลงแล้วยอมกินนมได้สักพักก็นอนหลับไป

เซี่ยชีหรั่นถอนหายใจยาว ๆ เมื่อเห็นเด็กนอนหลับอีกครั้ง

เย่เชินหลินสั่งให้แม่บ้านกลับไปพักผ่อน จากนั้นหันมากอดเซี่ยชีหรั่นด้วยความเป็นห่วง “ที่รัก ลำบากคุณแล้วนะ”

เซี่ยชีหรั่นส่ายหัวแล้วพูด “ฉันไม่ได้ลำบากหรอก เจ้าตัวเล็กน่ะสิที่ต้องลำบาก ลูกยังเด็กขนาดนี้ไม่ควรได้หย่านมกะทันหันแบบนี้เลย”

เย่เชินหลินฟังออกว่าน้ำเสียงของเซี่ยชีหรั่นนั้นกำลังตำหนิตัวเองอยู่ เขาวางจูบที่หน้าผากเธอเบา ๆ “ยัยติ๊งต๊อง นั่นเป็นตัวของแม่เด็กเองที่ไม่เอาไหนเลยมากกว่า รีบนอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องทำงานอีก”

“อื้ม ถ้าลูกตื่นแล้วคุณปลุกฉันด้วยนะ” เซี่ยชีหรั่นปีนขึ้นไปบนเตียง เธอรู้สึกเหนื่อยมากและหลับไปในอ้อมแขนของเย่เชินหลินภายในไม่กี่นาที

เย่เชินหลินรู้สึกประทับใจและซาบซึ้งมากเมื่อนึกถึงเซี่ยชีหรั่นเปลี่ยนผ้าอ้อมและเช็ดก้นให้ลูกเองกับมือ จากจุดนี้เขาก็สามารถมองออกได้ว่าเธอนั้นรักเด็กจริง ๆ หรือไม่

แต่เท่าที่เขาสังเกต ส้งหลิงหลิงที่เป็นแม่แท้ ๆ ของเด็กกลับไม่เคยเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เด็กเอง และบางครั้งเธอยังมีสีหน้าตอนที่เห็นเด็กขับถ่ายด้วย

เขาจัดท่านอนที่สบายให้กับเซี่ยชีหรั่นและให้ตัวเองตื่นอยู่ตลอด ถ้าลูกตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่เขาจะพยายามไม่ให้เซี่ยชีหรั่นตื่นตาม เพราะวันนี้เธอเหนื่อยมามากแล้ว

รอจนกว่าเซี่ยชีหรั่นจะหลับสนิท เย่เชินหลินจึงลุกขึ้นมาอุ้มเธอกลับไปที่ห้องนอนชั้นหนึ่ง จากนั้นเขาค่อยกลับไปที่ชั้นสองอีกครั้ง

เด็กยังคงตื่นขึ้นมาอีกหลายครั้ง แต่เขาพยายามเรียกคนกล่อมลูกให้หลับเร็วที่สุด เสียงร้องไห้ของเด็กไม่ดังมาก จึงไม่ได้ทำให้เซี่ยชีหรั่นต้องตื่น

เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากที่เธอตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องนอนชั้นหนึ่งแล้ว

“ที่รัก คุณตื่นแล้วเหรอ?” เสียงพูดของเย่เชินหลินดังขึ้นเบา ๆ

“หลิน ฉันอยู่ที่นี่ได้ไง? ตัวเล็กเป็นยังไงบ้าง ร้องไห้ไหม?”

“ก็ตื่นอยู่สองครั้งนะ แต่ไม่เป็นไรหรอก ให้กินนมผงแล้วกล่อมให้หลับได้แล้ว ผมว่าเขาเริ่มชินละ อีกสักสองสามวันส้งหลิงหลิงก็คงต้องไปจากที่นี่ได้แล้วล่ะ” สีหน้าของเย่เชินหลินเย็นชามากเมื่อพูดถึงส้งหลิงหลิง

“ถ้าคุณยังรู้สึกเหนื่อยก็หลับต่อนะ ไม่ต้องไปทำงานก็ได้” เย่เชินหลินพูด

“ไม่ได้เหนื่อยหรอก แต่ฉันกลัวถ้าเราสองคนไปทำงานแล้วเขาจะดูแลเจ้าตัวเล็กได้ไม่ดีน่ะสิ หรือว่าให้ฉันลางานก่อนสักช่วง ไหน ๆ ฉันจะอยู่หรือไม่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรมากต่อบริษัทของพี่เหอไท้หรอก”

“ติ๊งต๊อง เธอไม่จำเป็นต้องหยุดทำงานหรอก เมื่อคืนเราไม่อยู่ด้วยพวกเขาก็ดูแลลูกได้ดีอยู่ไม่ใช่เหรอ? ไม่เป็นไรหรอก คุณไปทำงานเถอะ”

แม้เซี่ยชีหรั่นอยากอยู่ดูแลลูก แต่เย่เชินหลินรู้ว่าเธอไม่เคยละเลยการงาน เขาจึงบังคับให้เธอไปทำงานและบอกเธอว่าไม่จำเป็นต้องอยู่ช่วยที่นี่หรอก

“วันนี้ผมจะทำงานที่บ้าน ถ้าเราทุกคนเอาเด็กไม่อยู่จริง ๆ ผมค่อยให้คนไปรับคุณกลับมาล่ะกันนะ”

“ก็ได้”

เมื่อเซี่ยชีหรั่นตื่นนอนเตรียมตัวเสร็จแล้วกำลังจะไปกินอาหารเช้า โม่เสี่ยวหนงก็เตรียมตัวกินอาหารเช้าแล้วเหมือนกัน

“พี่ หนูมีเรื่องอยากคุยด้วยหน่อย”

“หลิน คุณไปรอฉันที่โต๊ะอาหารก่อนนะ เดี๋ยวฉันตามไป” เซี่ยชีหรั่นยิ้มพูดกับเย่เชินหลิน เขาพยักหน้าตอบแล้วเดินเข้าไปในห้องอาหารก่อน

“มีเรื่องอะไรเหรอเสี่ยวหนง เกี่ยวกับเลี่ยวเหวยตงใช่ไหม?”

“เปล่าหรอกพี่ หนูแค่จะมาบอกว่าพี่เขยรักพี่จริง ๆ นะ พี่ดูสิ ทันทีที่เขารู้ว่าส้งหลิงหลิงหาเรื่องพี่ เขาก็สั่งขังเธอเลย ยังให้ลูกหย่านมอีกด้วย หนูคิดว่านะ อีกไม่นานเขาคงไล่ส้งหลิงหลิงออกไปแน่นอน เมื่อคืนตอนหนูขึ้นไปชั้นสองพวกพี่ให้หนูกลับมาก่อนไม่ใช่เหรอ? หนูแวะไปดูส้งหลิงหลิงแล้ว พี่รู้ไหมสีหน้าของเธอดูน่าสงสารมาก ช่างน่าสมเพชจริง ๆ เลย สมน้ำหน้ามันมาก!”

ส้งหลิงหลิงสมควรได้รับผิดก็จริง แต่เมื่อเซี่ยชีหรั่นได้ยินโม่เสี่ยวหนงพูดแบบนี้เธอก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา จากนั้นก็พูดเบา ๆ ด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม “ช่างมันเถอะ นางก็ได้รับบทลงโทษอย่างสาสมแล้ว เธออย่าไปว่าอะไรลับหลังอีกเลย”

เจ้าเล่ห์! โม่เสี่ยวหนงในใจ จากนั้นพูดพึมพำที่ปาก “ก็ได้ ๆ ไม่พูดก็ได้ มีแต่พี่คนเดียวแหละที่ใจดีตลอด”

“ฉันไม่ได้ใจดีหรอกนะ เห็นเด็กอยากกินนมแต่ไม่ได้กิน ฉันก็สงสัยตัวเองเหมือนกันว่าทำเรื่องแย่ ๆ แบบนี้ไปได้ไง” เซี่ยชีหรั่นถอนหายใจ

“แต่ตอนเห็นเด็กร้องไห้หนูก็รู้สึกไม่สบายใจเหมือนกันนะ พี่คิดดูสิ ถ้าพี่ไม่ให้ส้งหลิงหลิงป้อนนมลูกแล้วยังไล่เธอออกไปแบบนี้ อนาคตถ้าเจ้าตัวเล็กเย่เจิ้งเหิงรู้เรื่องนี้เข้าเขาคงเกลียดพี่น่าดูเลยล่ะ อีกอย่างพี่เขยก็รักเด็กคนนี้มาก ถ้าไม่ใช่เพราะพี่นะ เขาคงไม่อยากให้ลูกชายต้องลำบากแบบนี้หรอก”

สิ่งที่โม่เสี่ยวหนงพูดคือสิ่งที่เซี่ยชีหรั่นคิดมากตลอด ดังนั้นเธอจึงเงียบลง

“เฮ่อ พี่อย่าคิดมากเลยนะ ก็ส้งหลิงหลิงสมควรได้รับมันอยู่แล้ว ถ้าวันหลังเย่เจิ้งเหิงเกลียดพี่จริง ๆ พี่ก็แค่ไม่ต้องใส่ใจก็พอแล้ว รอพี่มีลูกของตัวเองก่อนพี่เขยคงจะไล่เขาออกไปด้วยเหมือนกันแหละ ถ้าถึงตอนนั้นแล้วพี่ก็ไม่ต้องเห็นไม่ต้องเสียใจอะไรอีก เพราะฉะนั้นอย่ารู้สึกผิดกับลูกของคนอื่นอีกเลย จะให้แม่ของเด็กอยู่ต่อเพื่อพ่อของเด็กเหรอ ถ้ายังปล่อยให้นางอยู่ต่อแบบนี้แล้วอนาคตพี่เขยกลับไปตกหลุมรักส้งหลิงหลิงอีกครั้งล่ะ พี่จะคุ้มกับการสูญเสียนั้นเหรอ”

“นั่นคงเป็นไปไม่ได้หรอก เสี่ยวหนง พี่เชื่อในตัวเขานะ พี่ว่าเราดูสถานการณ์อีกสักสองสามวันก่อนดีกว่า ถ้าเจ้าตัวเล็กยังไม่ยอมกินนมผงสักที พี่ก็คงต้องขอร้องให้เย่เชินหลินเก็บส้งหลิงหลิงไว้”

“พี่น่ะ จะใจดีเกินไปแล้ว คนดีมักไม่มีที่อยู่ หนูไม่รู้จะพูดกับพี่ยังไงแล้วล่ะ” แม้โม่เสี่ยวหนงจะพูดแบบนี้ แต่ในใจก็คิดว่า ฉันรู้ว่าเธอต้องทำแบบนี้แน่นอน ดูเหมือนว่าเวลาของส้งหลิงหลิงที่จะถูกปล่อยตัวออกมาอยู่กับลูกและคอยช่วยเหลือโม่เสี่ยวหนงนั้นคงอีกไม่นานเกินรอแล้วล่ะ

“พี่ ถ้าพี่เอาเด็กไม่อยู่จริง ๆ หนูจะช่วยพี่เองนะ” โม่เสี่ยวหนงพูดอย่างจริงจัง

“เธอโตแล้วจริง ๆ นะ พี่รู้สึกภูมิใจในตัวเธอมาก แต่เธอไม่จำเป็นต้องช่วยหรอก พี่ว่าเธอตั้งใจเข้าหาผู้กำกับชวนชวนแล้วตั้งใจทำงานก่อนดีกว่า”

พี่น้องทั้งสองเดินไปคุยไปจนเข้าไปถึงห้องอาหารแล้วกินอาหารเช้าพร้อมกัน หลังจากนั้นเย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่นก็ขึ้นไปชั้นบนเพื่อไปดูลูก ตอนนี้เด็กกำลังหลับสบายอยู่

แม่บ้านบอกว่าเมื่อกี้เด็กตื่นมากินนม เขาให้ความร่วมมือมาก อีกอย่างกินได้เยอะกว่าเมื่อคืนอีกด้วย เห็นทีรอบนี้เขาคงจะนอนต่ออีกหลายชั่วโมงเลย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด