สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน 850 สาวใช้ตัวแสบ 754

Now you are reading สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน Chapter 850 สาวใช้ตัวแสบ 754 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 850 สาวใช้ตัวแสบ 754

“อย่าพูดถึงชื่อเขาเลย ฉันไม่ค่อยอยากฟัง เอาล่ะ ลำบากพวกคุณแล้ว ฉันเข้าไปก่อนนะคะ”

เซี่ยอี้ชิงเป็นห่วงเซี่ยชีหรั่นจริงๆ น่าเสียดายเขารู้ดีว่าเขาเป็นคนต่ำต้อยคำพูดย่อมไม่มีน้ำหนัก ทั้งเรื่องนี้เป็นเรื่องความรักระหว่างคนสองคน คนอื่นอยากจะช่วยก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้

เซี่ยชีหรั่นหยิบกุญแจบ้านตระกูลหลี่ออกมาจากกระเป๋าถือ จากนั้นเปิดประตูเข้าไป แม่ไม่อยู่บ้านไปปักกิ่งกับประธานหลี่

ในบ้านมีแค่แม่บ้านที่ทำความสะอาดบ้านและทำอาหารให้กับหลี่เหอไท้ ในเวลานี้แม่บ้านก็ออกไปซื้อผักแล้ว

บ้านหลังใหญ่นี้เงียบจนได้ยินเสียงฝีเท้าของเธอ สิ่งที่เซี่ยชีหรั่นต้องการมากที่สุดในเวลานี้ก็คือความเงียบสงบแบบนี้

เธอขึ้นห้องไปหยิบชุดลำลองที่แม่เตรียมไว้ให้ตั้งนานแล้วในตู้เสื้อผ้าออกมาหนึ่งชุด และไปอาบน้ำ

เซี่ยชีหรั่นรู้สึกว่าร่างกายไม่มีเรี่ยวแรงเลยแม้แต่น้อย แต่เธอยังคงต้องตั้งใจอาบน้ำดีๆพลางบอกกับตัวเองว่าทุกอย่างเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ตอนนี้

ในอ่างน้ำ ในกระจก ราวกับไม่ว่าจะไปเดินที่ไหน เธอก็สามารถมองเห็นเงาของเย่เชินหลินเต็มไปหมดพลางกวัดแกว่งแล้วก็ไม่หายไป

เซี่ยชีหรั่นเป็นแบบนี้แล้วจะเริ่มต้นใหม่ได้ยังไงกัน?

เมื่อคิดว่าจะไม่ได้เจอเขาอีก เมื่อคิดว่าไม่รู้ส้งหลิงหลิงจะใช้วิธีอะไรในการเข้าหาเขา เธอก็รู้สึกว่าเธอไม่อยากอยู่ที่นี่คนเดียวแม้แต่นาทีเดียว เธออยากไปเจอเขา

สายน้ำอำพรางน้ำตาของเธอไว้ เธอเงยหน้าขึ้นปล่อยให้น้ำไหลกระทบใบหน้าของเธอซ้ำ ๆ เมื่อรู้ว่าตัวเองรู้สึกจะสลบไสลแล้ว ถึงได้เช็ดตัวให้แห้งพลางเปลี่ยนใส่ชุดลำลองและเดินกลับไปที่ห้องเจ้าหญิงของเธอ

เธอนั่งลงที่พักริมหน้าต่าง ไม่รู้ว่านั่งมานานแค่ไหนแล้ว เธอได้ยินเสียงแม่บ้านที่อยู่ชั้นล่างถามว่า “คุณหนู กลับมาแล้วเหรอคะ? ” หน้าของเธอประเดี๋ยวเปียกประเดี๋ยวแห้ง แห้งแล้วก็เปียกอีก เธอลุกขึ้นเหม่อลอยราวหุ่นไม้ พลางดึงกระดาษทิชชู่เช็ดน้ำตาบนใบหน้าให้แห้ง เธอเปิดประตูและตอบว่า “ฉันเองค่ะ เซี่ยชีหรั่น ฉันกลับมาแล้วค่ะ”

“คุณหนู ตอนเที่ยงจะทานอะไรไหมคะ เดี๋ยวดิฉันจะออกไปซื้อผักมาเพิ่ม”

“ไม่ต้องค่ะ ฉันอยากออกไปเดินเล่นหน่อย เดี๋ยวฉันซื้อเองค่ะ”

เซี่ยชีหรั่นเปลี่ยนชุดอีกครั้ง ราวกับคนจะออกไปเที่ยว

ตอนที่กลับมา เธอซื้อผักบางอย่างกลับมาด้วย แม่บ้านเห็นว่าสีหน้าของเธอซีดเผือด จึงถามอย่างเป็นห่วงว่า“คุณเป็นอะไรเหรอคะ ไม่สบายเหรอ? คุณรีบกลับไปพักที่ห้องเถอะค่ะ”

“ไม่ต้องค่ะ ฉันจะทำอาหาร ฉันทำอาหารอร่อยนะ วันนี้คุณพักผ่อนเถอะ ตอนเที่ยงพี่เหอไท้ กลับมาทานข้าวไหมคะ?”

“กลับมาค่ะ ก่อนที่คุณนายจะไปได้กำชับดิฉันไว้ว่าให้ทำอาหารกลางวันไว้ให้คุณชายทุกวัน และต้องให้เขากลับมากินข้าวที่บ้านค่ะ”

“โอเค ฉันจะทำกับข้าวให้เขากินเองค่ะ” หลังจากที่เซี่ยชีหรั่นพูดจบ เธอก็ไปที่ห้องครัวและสวมผ้ากันเปื้อนที่แม่ของเธอใส่เป็นประจำ

เธอพยายามจดจ่อสมาธิกับการทำอาหาร เสียงและเงาของผู้ชายคนนั้นยังคงปรากฏอยู่เป็นระยะๆ

“คุณทำอาหารได้อร่อยจริงๆ ชีหรั่น” เขาชมเธอและยืนยันกับเธอแบบนี้

“คุณอย่าทำอาหารเลย มันเหนื่อยเกินไป”เขาเป็นห่วงเธอแบบนี้

เธอรู้ว่าเขาเป็นผู้ชายที่ดีที่สุด……….. เซี่ยชีหรั่นปิดตาลง เธอได้ยินเสียงแม่บ้านเรียกอยู่ข้างหลังว่า“คุณหนู ระวังคุณจะหันโดนมือแล้วค่ะ”

ตอนนี้เธอถึงได้สติกลับมา พบว่ามีดอยู่ที่ปลายนิ้วก้อยของเธอแล้ว ถ้าแม่บ้านไม่ได้เตือนเธอ เธอคงหันมีดลงไปทั้งเล่มแล้ว

“คุณหนู ให้ฉันทำเองเถอะค่ะ คุณไปพักเถอะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ”เซี่ยชีหรั่นตอบ

ตอนเที่ยงหลี่เหอไท้เจอเซี่ยชีหรั่นจึงรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง นึกถึงเมื่อเช้าที่เธอขอลางานไป แต่ไม่พูดอะไร

เขาก็รู้เลยว่าเธออาจกำลังทะเลาะกับเย่เชินหลินอยู่

“พี่เหอไท้ พี่กลับมาแล้วเหรอคะ ? ล้างมือมาทานข้าวเถอะค่ะ ฉันเตรียมอาหารไว้หมดแล้ว” เซี่ยชีหรั่นนำอาหารจานสุดท้ายมาเสิร์ฟบนโต๊ะ ถอดผ้ากันเปื้อนออกพลางทักทายหลี่เหอไท้

ดูราวกับว่าเธอไม่ได้มีเรื่องอะไร แต่เสียงของเธอกลับแหบแห้งไปแล้ว

ในเมื่อเธอไม่ต้องการให้คนอื่นเป็นกังวล หลี่เหอไท้ จึงแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และพูดอย่างให้ร่วมมือกันว่า “โอเคพี่วางกระเป๋าแป๊บนะ เดี๋ยวมา”

หลี่เหอไท้ คลายเน็กไทออกจากคอเสื้อเล็กน้อย จากนั้นวางกระเป๋าลง หลังจากที่ล้างมือเสร็จแล้วก็นั่งลงที่หน้าโต๊ะอาหาร เมื่อมองไปที่จานบนโต๊ะอาหาร เขาก็อดชื่นชมไม่ได้“ดูสิ ผู้หญิงสมัยนี้ยังจะมีใครเหมือนน้องเซี่ยชีหรั่นของเราได้บ้าง เป็นหน้าเป็นตาได้ทั้งในห้องโถงและในห้องครัว อาหารจานนี้แค่มองก็รู้แล้วว่าอร่อย”

“พี่ลองชิมดูเถอะ รสชาติน่าจะไม่เลวเลย” เซี่ยชีหรั่นส่งตะเกียบให้หลี่เหอไท้ พลางเชิญแม่บ้านนั่งทานด้วยกัน เซี่ยชีหรั่นเองก็ตักข้าวให้ตัวเองถ้วยเล็กๆ เธอตักข้าวขึ้นมาเพียงไม่กี่เม็ด ไม่อยากส่งเข้าปากเลยด้วยซ้ำ

หลี่เหอไท้ คีบปลาเก๋าราดซอสที่เซี่ยชีหรั่นทำอย่างยากลำบากที่สุดขึ้นมา หัวคิ้วขมวดกันมุ่ยพลางคิดในใจว่า เย่เชินหลินอาหารจานนี้ควรให้คุณเป็นคนมาชิมนะ

“พี่เหอไท้ ไม่อร่อยเหรอคะ?” เซี่ยชีหรั่นถามเสียงเบา

“ไม่เลวเลย แต่เค็มนิดหน่อย”

“จริงเหรอคะ ฉันขอลอง … ”เซี่ยชีหรั่นกำลังจะคีบ แต่โดนตะเกียบของหลี่เหอไท้สกัดไว้

“ไม่ต้องลองหรอก พี่ได้ยินมาว่าสาว ๆ กินเกลือเยอะจะไม่ดีต่อผิว”

อันที่จริงแม่บ้านเห็นเซี่ยชีหรั่นใส่เกลือแล้ว เธอจึงไม่กล้าแตะปลาเก๋าราดซอส แต่ว่าอาหารจานอื่นๆก็ไม่ได้ดีกว่ากันซักเท่าไหร่ มันยากที่จะกลืนลงคอ

เซี่ยชีหรั่นรู้สึกเศร้าใจ

หรือการที่เธอออกมาจากเย่เชินหลินแล้วจะใช้ชีวิตตามปกติไม่ได้เลยรึไง?

“ตอนบ่ายติดธุระหรือเปล่า? ตามพี่ไปพบลูกค้าคนหนึ่งหน่อย พอดีวันนี้ผู้ช่วยของพี่ขอลางาน” หลี่เหอไท้เอ่ย

เขาเป็นคนง่ายๆสบายๆแบบนี้ เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าเขาดูสถานการณ์ของเธอออก แต่เขาแค่ไม่ถามเท่านั้นเอง

มันเป็นการดีที่สุดที่เขาไม่ถามเธอ เธอไม่มีแรงที่จะอธิบายเรื่องของเธอกับเย่เชินหลินให้ใครฟังทั้งนั้น

หรือบางทีเพราะพูดได้ไม่ชัดเจนต่างหาก

“โอเค”

เขารู้ว่าเธอต้องการมัน เธออยากจะหาเรื่องทำเพื่อละความสนใจ

“เวลาที่พี่นัดหมายกับลูกค้าคือบ่าย 4 โมงครึ่ง ไปกันเถอะ พี่จะพาเธอไปซื้อชุดก่อน”

“พี่เหอไท้ ฉันมีชุดแล้วค่ะ”

“การซื้อเสื้อผ้าเป็นวิธีที่ดีในการฆ่าเวลานะ และเธอกำลังจะไปเจรจาธุรกิจของบริษัท ต้องใส่เสื้อผ้าที่แตกต่างจากปกติ”

ท่าทีของหลี่เหอไท้ อ่อนโยนมาก และยังปฏิเสธได้ยากเหมือนที่ผ่านมา

“ก็ได้ ฉันไปกับพี่ก็ได้”

ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ทุกแห่งในเมืองตงเจียงเป็นของบริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ป

เย่เชินหลินซื้อมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ

ดังนั้นแม้ว่าเธอจะไปช้อปปิ้ง แต่เธอก็ไม่สามารถกำจัดเงาของเย่เชินหลินออกได้

ตั้งแต่ต้นจนตอนนี้เธอยิ้มตลอดเวลา แต่รอยยิ้มเป็นการฝืนยิ้ม เซี่ยอี้ชิงตามอยู่ที่ไกลๆ คนนอกดูไม่ออกว่าเขาเป็นบอดี้การ์ดของเธอ

เซี่ยอี้ชิงรับสายที่เย่เชินหลินโทรมา เสียงของเขานิ่งเรียบมาก ได้ฟังก็รู้เลยว่าไม่พอใจ

“เธออยู่ที่ไหน? กำลังทำอะไรอยู่ ? ”เย่เชินหลินเอ่ยถาม

“เธอกำลังช้อปปิ้งอยู่กับคุณหลี่ครับ”

ยอมเธอเลยจริงๆ ตอนเช้าที่จากไปร้องไห้เสียใจขนานนั้น ผ่านไปแป๊บเดียวกลับมาเป็นปกติแล้วเหรอ? ไม่ใช่ว่าเหนื่อยมากรึไง? ทำไมยังเดินไหวอีก ยังมีแรงลองเสื้อผ้าอีกเหรอ?

คิ้วของเย่เชินหลินขมวดแน่น ถามอย่างไม่พอใจว่า“เธอยิ้มบ้างรึเปล่า? ”

“ยิ้มครับ ยิ้มตลอดเวลาเลย”เซี่ยอี้ชิงรายงานไปแบบนี้ เขารู้ดีว่าพูดขนานนี้คุณเย่ต้องโกรธแน่ ถ้าเขาโกรธ เขาก็อาจจะมาหาเธอก็ได้

เย่เชินหลินกำโทรศัพท์ในมือแน่น เหมือนเซี่ยอี้ชิงจะได้ยินเสียงกระดูกลั่น

“ยิ้มจริงเหรอ? ”เขาถามอีกครั้ง

“ใช่ครับ ผมคิดว่าพี่เซี่ยชอบอยู่กับคุณหลี่มากเลยนะ” เซี่ยอี้ชิงพูดอย่างไม่กลัวตาย

เซี่ยอี้ชิงได้ยินเสียง “ปัง” จากนั้นก็มีเพียงเสียงตู๊ดๆที่ดังในโทรศัพท์ คุณเย่ต้องโกรธจนโยนโทรศัพท์แตกแล้วแน่ๆ

เซี่ยชีหรั่นมองเซี่ยอี้ชิงรับโทรศัพท์จากที่ไกลๆ

เธอสงสัยว่าจะใช่เย่เชินหลินโทรมารึเปล่า?

ยิ่งเธอห่างจากเขาไปนานเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งไม่มั่นใจในตัวเอง ถ้าหากจู่ๆเขามาปรากฏตัวต่อหน้าเธอในเวลานี้ เธอจะยื่นมือไปหาเขาเองด้วย และบอกเขาว่า “พาฉันกลับบ้านเถอะนะ”

“เธอใส่ชุดนี้ได้ดูดีมาก แค่ใส่คู่กับรองเท้าแตะสีขาวสักคู่ก็โอเคแล้ว”หลี่เหอไท้ลงความเห็น เซี่ยชีหรั่นยิ้มพลางพยักหน้า และเอ่ยว่า “ใช่ ฉันก็คิดว่ามันดูไม่เลวเหมือนกัน ดูสง่าดีใช่ไหม”

“เธอลองชุดนี้อีกครั้งนะ พี่จะไปห้องน้ำสักหน่อย”

“อืม” เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า

หลี่เหอไท้เดินผ่านร้านค้าไปหลายร้าน และหยุดลงในที่ๆเซี่ยชีหรั่นมองไม่เห็นพลางโทรหาผู้ช่วยของเขา

“ผมต้องการพบลูกค้าตอนสี่โมงครึ่ง ลูกค้าคนไหนก็ได้ ตอนนี้คุณนัดหมายให้ผมด้วย เตรียมข้อมูลไว้ให้ด้วยนะ อีกครึ่งชั่วโมงให้เลขาส่งมาให้ผม”

“ ค่ะ คุณหลี่”

หลังจากพูดสายจบ จ้าวเหวินอิงก็โทรมาเข้ามาอีก เสียงเพลงในห้างดังมาก หลี่เหอไท้ กลัวว่าจ้าวเหวินอิงจะไม่ได้ยิน เขาจึงรับโทรศัพท์และขอให้จ้าวเหวินอิงรอสักครู่ จากนั้นก็หาที่เงียบๆคุย

เซี่ยชีหรั่นเหม่อลอยอยู่ในห้องลองชุดพักหนึ่ง

ร่างกายของเธอปวดเมื่อยมาก

เธอบังคับตัวเองให้สวมชุดที่หลี่เหอไท้พูดถึงตัวนั้นและเปิดประตูออกมา

เธอยืนอยู่หน้ากระจกพลางจัดทรงผมที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อย

แต่กลับเห็นชายคนหนึ่งมองเธออย่างตั้งใจอยู่ในกระจก

ผู้ชายคนนั้นเธอเคยเจอ คือลูกครึ่งคนนั้นที่ยอมเสียสละห้องให้กับเธอ

เขาเคยบอกไว้ว่า เราจะได้เจอกันเร็วๆนี้ ไม่รู้ทำไมถึงได้จ้องเธอตลอดเวลา ในใจของเซี่ยชีหรั่นเกิดความประหลาดใจเล็กน้อย

“เจอกันอีกแล้วนะ ผมเคยบอกไว้แล้วว่าเราจะต้องได้เจอกันอีกเร็วๆนี้ คุณนายเย่ผมเรียกคุณว่าชีหรั่นได้ไหมครับ?” เจ้าชายหย่าหลุน จ้องมองใบหน้างดงามนั้นผ่านกระจกพลางเผยยิ้มที่น่าหลงใหลออกมา

“เรื่องครั้งก่อน ขอบคุณคุณมากค่ะ แต่เหมือนว่าฉันกับคุณจะไม่ได้สนิทกันขนานนั้น มีแค่เพื่อนฉันเท่านั้นที่เรียกฉันแบบนั้นได้ค่ะ”เซี่ยชีหรั่นไม่ได้หันกลับมา เธอตอบกลับเจ้าชายหย่าหลุน ผ่านทางกระจกเช่นกัน

ท่าทางแบบนี้ของเธอเย็นชาและสง่ามาก แค่ประโยคเรียบง่ายไม่กี่ประโยคนี้ ก็ยิ่งทำให้เขาชื่นชมเธอมากยิ่งขึ้น

ผู้หญิงที่ไม่แยแสกับภาพลักษณ์ภายนอกของเขาน้อยซะยิ่งกว่าน้อย ดังนั้นเขามักจะยิ่งชื่นชมผู้หญิงเหล่านั้นที่ไม่สนใจเปลือกนอกของเขา

“เคยได้ยินมาว่าคุณนายเย่มีมารยาทมาก คงจะไม่พูดกันแบบนี้กับคนที่ช่วยคุณหรอกใช่ไหมครับ?” เจ้าชายหย่าหลุนพูดอย่างทีเล่นทีจริง เซี่ยชีหรั่นรู้สึกอายเล็กน้อย เธอใช้แค่ความรู้สึกมาตัดสินผู้คน

เขาพูดถูก ไม่ว่ายังไงเขาก็เคยช่วยเธอ พูดจาแบบนี้เป็นการเสียมารยาทอยู่บ้าง

เซี่ยชีหรั่นหันกลับมา ยิ้มให้เขาอย่างห่างเหินพลางพูดอย่างรักษามารยาทว่า“เมื่อกี้ต้องขอโทษด้วยค่ะ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด