เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 1353 ไม่ธรรมดาเลย + 1345 ต้องตายแล้วหรือ?

Now you are reading เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า Chapter 1353 ไม่ธรรมดาเลย + 1345 ต้องตายแล้วหรือ? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1353 ไม่ธรรมดาเลย + ตอนที่ 1345 ต้องตายแล้วหรือ?

ตอนที่ 1353 ไม่ธรรมดาเลย

“มือของข้าเล่า? มือของข้า?”

เสียงแหบแห้งน่าขนลุกดังมาจากตรงนั้น เฟิ่งจิ่วขมวดคิ้วเล็กน้อย พลังกระบี่ในมือก่อตัวเข้มข้นขึ้น ขณะกำลังจะลงมือ กลับเห็นภาพที่ทำให้เธอต้องตกตะลึง

เห็นเพียงหญิงชราคนนั้นกำลังตามหาแขนที่ขาดไปของนาง กระทั่งเจอแขนที่ขาด นางจึงเอื้อมมือทำท่าดึงแขนท่อนนั้นเข้ามาหาตัว และต่อแขนที่ขาดเข้ากับรอยขาดได้ทั้งอย่างนั้น

ที่แปลกกว่านั้นก็คือ หลังจากที่พลังเลือดซึ่งจับตัวอยู่ตรงมือของนางหลอมละลายกลายเป็นหินหนืด (แมกมา) เฟิ่งจิ่วเห็นแขนข้างนั้นกลับสู่สภาพเดิมด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า หนำซ้ำนางยังบิดและสะบัดแขนไปมาอยู่ตรงนั้นอีก ภาพนั้นยิ่งทำให้เธอต้องปรับทัศนคติทั้งสาม[1]ใหม่

แขนที่ขาดแล้วก็ยังต่อใหม่แบบนี้ได้ด้วยหรือ? แม้แต่เธอที่เป็นภูตหมอ ก็ยังต่อแขนด้วยวิธีที่ประหลาดอย่างนี้ไม่ได้เลย หญิงชราคนนี้เป็นใครกันแน่? แขนที่ขาดของนางกลับมาประกอบเข้าด้วยกันอีกครั้งหลังจากกลายเป็นหินหนืดได้อย่างไร?

หินหนืด? ประกอบใหม่?

ใช่แล้ว! เธอรู้แล้ว!

หญิงชราคนนี้หลอมวิญญาณได้ เตาหลอมของนางอยู่ในร่างกาย นางหลอมวิญญาณอาฆาตได้หลังจากที่กลืนมันเข้าไป แล้วก็สามารถใช้เงื่อนไขนั้นมาประกอบร่างกายตัวเองใหม่ได้!

เมื่อนึกถึงตรงนี้ สีหน้าของเธอหนักอึ้ง ความคิดที่จะลงมือในตอนแรกก็หยุดชะงักไปด้วย

หากเป็นอย่างนี้ แม้เธอจะฟันแขนขาทั้งสี่ข้างของนางขาด นางก็ยังสามารถใช้เตาหลอมพิสดารที่อยู่ในร่างประกอบขึ้นใหม่ได้อยู่ดี ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จุดที่เธอจะจู่โจมได้ก็คงมีแค่…

“ตรงนี้เท่านั้นแหละ!”

เสียงกังวานเปล่งออกไป เธอกระโดดลอยตัวกลางอากาศ กุมกระบี่เข้าปะทะอีกครั้ง ทว่าในตอนที่เธอกระโดดขึ้นและยกกระบี่ทำท่าจะฟัน หญิงชราที่ระวังตัวอยู่ก่อนแล้วและรู้ว่าเธอถือกระบี่คมพยับไว้กลับหายวับไปราวกับภูตผี

“อยู่ตรงนี้”

เสียงแหบพร่าน่าขนลุกของหญิงชราพลันดังขึ้นข้างหลังเฟิ่งจิ่ว เธอสะดุ้งตกใจ ยามหันไปมองก็เห็นฝ่ามือที่เต็มไปด้วยพลังเลือดซัดเข้ามาหาอย่างแรง

“บึ้ม!”

ฝ่ามือลมกระแทกบนร่างเฟิ่งจิ่ว ในชั่วพริบตานั้นเสมือนมีฝ่ามือขนาดใหญ่ข้างหนึ่งซัดมาทางเธอ กระแสพลังแรงกดดันที่แข็งแกร่งจู่โจมเข้ามาจากด้านหลัง พุ่งชนแผ่นหลังของเธอ เสียงดังนั้นกึกก้องในหูเธออย่างชัดเจน

“พรวด!”

ร่างของเธอถูกฝ่ามือนั้นซัดปลิว เลือดสีแดงสดทะลักออกจากปาก ทั้งร่างเสียสมดุลและร่วงลงสู่พื้น การจู่โจมครั้งนี้ ทำให้เธอเจ็บปวดไปทั้งตัว ประดุจว่าพลังของฝ่ามือนั้นกำลังแผ่กระจายอยู่ในร่างกาย ทำให้เธอไม่อาจดึงพลังออกมาควบคุมร่างกายที่กำลังร่วงดิ่งลงได้

“โครม!”

ร่างกายร่วงหล่นสู่พื้น ตกลงมากลางตาข่ายเลือด เสี้ยวพริบตานั้น เหล่าวิญญาณที่กำลังทุรนทุรนอยู่ในตาข่ายเลือดทำท่าจะกระโจนเข้ามา แต่ก็เหมือนไม่กล้าเข้ามาใกล้เพราะเกรงกลัวสิ่งที่อยู่ในตัวเธอ

เฟิ่งจิ่วลุกขึ้นมาท่ามกลางตาข่ายเลือด ใช้กระบี่คมพยับในมือยันกายลุกยืน จากนั้นขยับมือเล็กน้อย ยาขวดหนึ่งพลันปรากฏกลางฝ่ามือ เธอรีบเทออกมาหนึ่งเม็ดแล้วกลืนลงไป เฟิ่งจิ่วที่ดวงตามืดมนเล็กน้อยอดทนต่ออาการผิดปกติในร่างกาย พลางกระตุ้นเม็ดบัวเขียวให้รักษาอาการบาดเจ็บภายในเงียบๆ

“ยังไม่ตายหรือ ทำไมเจ้ายังไม่ตาย? ถูกฝ่ามือข้าซัดแล้ว กลับยังลุกขึ้นมาได้ ไม่ธรรมดาเลย ไม่ธรรมดา”

หญิงชรายืนอยู่กลางอากาศ เสื้อคลุมสีดำพลิ้วไสวในยามค่ำคืน นางจ้องมองร่างด้านล่างด้วยความแปลกใจ สำหรับผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณ แทบไม่มีใครที่สามารถลุกขึ้นมาได้หลังจากถูกผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินเช่นนางโจมตี

แต่เด็กคนนี้กลับทำได้ นั่นทำให้นางต้องมองฝ่ายตรงข้ามในมุมใหม่

ร่างกายเป็นร่างเทพประทับ เดิมทีก็เป็นผู้ที่ได้รับพรจากสวรรค์อยู่แล้ว นางดูเบาเด็กคนนี้เกินไป

………………………………….

ตอนที่ 1345 ต้องตายแล้วหรือ?

“เจ้าต้องตาย ข้าถึงจะหลอมกลั่นร่างกายของเจ้าได้ง่ายๆ! ในเมื่อฝ่ามือเดียวไม่ตาย เช่นนั้นข้าก็จะมอบให้เจ้าอีกหนึ่งฝ่ามือ!”

น้ำเสียงเย็นเยียบดังมาจากบนท้องฟ้า หญิงชราจ้องเงาร่างที่ยืนอยู่กลางตาข่ายเลือด เห็นวิญญาณพวกนั้นกลัวจนไม่กล้าเข้าใกล้ ก็รู้ว่าตัวเด็กคนนี้ต้องมีวัตถุเวทที่ทำให้ภูตผีไม่กล้าเข้าใกล้อยู่แน่

ฉะนั้นนางจึงอาศัยโอกาสตอนที่เฟิ่งจิ่วยังไม่ทันฟื้นตัว รวบรวมพลังเลือดลูกหนึ่งด้วยสองมืออยู่กลางอากาศ ลูกพลังเลือดที่ปั่นป่วนส่งเสียงคำรามดุร้ายออกมา ท้องฟ้ายามราตรีเต็มไปด้วยเมฆดำทั้งผืน อากาศหยุดนิ่งราวกับถูกนางควบคุม จากนั้นก็ไหลเข้าไปในพลังเลือดลูกนั้น

เมื่อเห็นภาพนั้น เฟิ่งจิ่วหน้าตึงเครียด รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมารางๆ

ฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งเกินไป พลังระดับกำเนิดวิญญาณของเธอรับมือได้ขนาดนี้ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว ตอนนี้ร่างกายบาดเจ็บหนักภายใน จะยังทนรับการโจมตีที่อันตรายถึงชีวิตได้อีกที่ไหน?

ด้านในพลังเลือดลูกนั้นมีแสงเลือดที่แรงกล้าส่องสว่างไปเกือบครึ่งผืนฟ้า กลิ่นอายความตายกระจายออกมาจากลูกพลังเลือด แผ่ปกคลุมไปทั่วทั้งหมู่บ้าน เฟิ่งจิ่วอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเฮือก

นี่คือพลังของผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินหรือ? แข็งแกร่งถึงเพียงนี้เชียว แข็งแกร่งจนเธอแทบไม่อยากเชื่อ!

ในตอนนั้นเอง พลังเลือดลูกนั้นก็ถูกซัดออกมาจากฝ่ามือของหญิงชรา จู่โจมเข้ามาพร้อมกับพลังทำลายล้างอันน่าพรั่นพรึง เธอรีบหมุนตัวหลบ ทุ่มเรี่ยวแรงทั้งหมดเพื่อจะหลบการโจมตีครั้งนี้ เพราะเธอรู้ว่าหากถูกโจมตีเข้า เกรงว่าคงจะรักษาชีวิตไว้ไม่ได้!

ทว่า เธอยังคงประเมินความเร็วของผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินต่ำเกินไป ถึงแม้เธอจะพยายามหลบเลี่ยงด้วยความเร็วสูงสุดแล้ว ก็ยังเกือบหลบการโจมตีที่อันตรายถึงชีวิตของผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินไม่พ้น

“ฟู่ว! ฟิ้ว!”

ลูกพลังเลือดที่ก่อให้เกิดกระแสลมรุนแรงม้วนกวาดพื้นดินตรงมาจากทางด้านหลัง ไม่ต้องหันไปดูเธอก็สัมผัสได้ว่าพลังเลือดที่คำรามดุจสัตว์ร้ายกำลังจู่โจมเข้ามาด้วยความเร็วแสง กลิ่นอายความตายคืบคลานเข้ามาใกล้ ให้ความรู้สึกเหมือนภูเขาไท่ซ่านกำลังถล่มลงมาจากที่สูง

“โครม!”

“โอ๊ย!”

เสียงพุ่งปะทะรุนแรงดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของเฟิ่งจิ่ว รวมถึงประกายแสงมากมายหลายเส้นที่พุ่งออกมาจากตัวเธอ

“พลั่ก!”

ร่างของเฟิ่งจิ่วปลิวออกไปไกลหลายจั้ง และร่วงลงนอนแน่นิ่งบนพื้นเหมือนตุ๊กตาผ้าขาดๆ เธอนอนหงายอยู่บนพื้น มุมปากมีเลือดไหลออกมา กระดูกทั้งตัวเหมือนแตกหัก ไม่มีเรี่ยวแรงเลยแม้แต่น้อย

“กร๊อบ!”

“กร๊อบ!”

เสียงกร๊อบแกร๊บดังออกจากตัวเธอหลายครั้ง เมื่อได้ยินเสียงนั้น เธอขยับนิ้วมือพยายามจะลุกขึ้นอีกครั้ง ดูเหมือนการจู่โจมที่หมายเอาชีวิตจากหญิงชราจะถูกวัตถุเวทบางอย่างบนตัวเธอป้องกันไว้ ไม่เช่นนั้นตอนนี้เธอคงไม่แค่กระดูกหัก บาดเจ็บภายในเล็กน้อย และนอนนิ่งขยับไม่ได้อยู่บนพื้นอย่างนี้ แต่ต้องตายภายใต้การจู่โจมครั้งเดียวแน่นอน!

ทว่า ขณะที่เธอขยับนิ้วมือ ก็เห็นเงาร่างสีดำร่างนั้นโฉบเข้ามาข้างกาย จากนั้นพิจารณาเธอด้วยสายตาเหมือนกำลังจ้องตัวประหลาดอะไรบางอย่าง

“นี่ยังไม่ตายอีกหรือ?”

หญิงชรากวาดมองด้วยสายตาแปลกใจ สุดท้ายจับจ้องไปยังวัตถุแตกร้าวที่อยู่ข้างกายเฟิ่งจิ่ว ดวงตาฉายแววเข้าใจในฉับพลัน “ที่แท้ของเหล่านี้ก็ช่วยชีวิตเจ้าไว้ หึๆๆ แม่หนู เจ้าช่างดวงแข็งนัก ครั้งแล้วครั้งเล่าก็ยังไม่ยอมตาย น่าเสียดาย ข้ายายแก่หากต้องการให้ใครตายละก็ ยังไม่เคยมีใครมีชีวิตรอดไปได้จากเงื้อมมือของข้าได้สักคน”

ครั้นเห็นจิตสังหารในดวงตาของหญิงชรา อีกทั้งได้ยินเสียงที่เย็นเยียบดังมา เฟิ่งจิ่วซึ่งไม่อาจขยับเขยื้อนได้เพิ่งสัมผัสกับความเจ็บใจและอับจนหนทางก่อนที่ความตายจะมาเยือนเป็นครั้งแรก

ต้องตายแล้วหรือ? เธอต้องมาจบชีวิตอยู่ที่นี่จริงๆ หรือ?

………………………………….

[1] ทัศนคติทั้งสาม ได้แก่ ทัศนคติต่อโลก ทัศนคติต่อชีวิต และทัศนคติต่อคุณค่า

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *