ตอนที่ 901 แน่นอนว่าต้องมวยหมู่ + ตอนที่ 902 แย่งห้อง

ตอนที่ 901 แน่นอนว่าต้องมวยหมู่

คนสำนักศึกษาอื่นไม่ขยับเขยื้อน แต่คนสำนักศึกษาสามดาราเห็นคนสำนักศึกษาพวกเขาถูกล้อมไว้ กลับล้อมเข้ามาเช่นกัน กลิ่นอายบนร่างแต่ละคนพุ่งพล่าน “ทำไม? อยากประลองฝีมือหรือ? ได้สิ! พวกเรากำลังคันๆ มือเลย!”

“เช่นนั้นได้ ไปยังพื้นที่ว่างด้านนอกเป็นอย่างไร?” ริมฝีปากเฟิ่งจิ่วยกยิ้มเอ่ย ว่าด้วยเรื่องต่อสู้เธอยังไม่เคยกลัวใคร

“ได้ พวกเรามาดูกันสักตั้ง ว่าคนจากสำนักศึกษาหกดาราจะมีฝีมือสักแค่ไหนกันแน่!” คนสำนักศึกษาสามดาราแค่นเสียงเย็น หมุนตัวมายังพื้นที่ว่างด้านนอก คนอื่นๆ ก็เดินตามออกมาเช่นกัน

คนพวกนั้นที่เดิมทีนั่งคุยกันเห็นท่าทาง แต่ละคนก็ล้อมเข้ามาอย่างสนอกสนใจ คิดว่าจะชมการแสดงดีๆ

แววตาเฉียบคมของเนี่ยเถิงกวาดมองคนพวกนั้น สาวก้าวเดินเข้าไป “จะสู้อย่างไร?”

โอวหยางซิวทำหน้าเย็นชา ถูกคนรังแกถึงขั้นนี้คงไม่คิดล่าถอย ก็แค่ต่อสู้ใครจะไปกลัว?

เซียวอี้หานสีหน้าตื่นเต้น เขาอยากลองตั้งนานแล้วว่าฝีมือคนคนนี้จะเป็นเช่นไร นักเรียนสำนักศึกษาสามดารากับสำนักศึกษาหกดาราพวกเขาจะมีอะไรแตกต่างกันแน่?

คนอื่นๆ ก็เช่นกัน พวกเขาอยากอาศัยโอกาสนี้หยั่งเชิงดูเสียหน่อยว่าคนสำนักศึกษาหกดารานี้กำลังวรยุทธ์เป็นอย่างไร?

มีเพียงเฟิ่งจิ่วแค่คันมืออยากจะซ้อมคน ไม่ว่าวรยุทธ์พวกเขาเป็นเช่นไร แม้แข็งแกร่งเพียงใดก็ไม่แกร่งไปกว่าระดับกำเนิดวิญญาณ ตอนนื้แค่อยากจะออกกำลังมือเท้า และถือโอกาสกล่าวเตือนคนพวกนี้ เชื่อว่าหลังการต่อสู้ครั้งนี้ ในช่วงเวลานี้คงไม่มีใครกล้ามาหาเรื่องพวกเขา

สำนักศึกษาหกดาราแล้วอย่างไร? ใครกำหนดว่าคนสำนักศึกษาสามดาราพลังจะแกร่งกว่าพวกเขา? อืม กำลังคนพวกนี้อาจจะไม่เลว พวกเขาที่นี่คือสองสามคนรั้งท้ายที่แยกจากสิบคน กำลังห้าอันดับแรกล้วนไม่ใช่แค่คุยโว

ได้ยินเนี่ยเถิงถามว่าสู้อย่างไร เธอก็ยิ้มเยาะในทันที ชำเลืองมองเขาพลางบอกว่า “ยังถามพวกเขาอีกว่าจะสู้อย่างไร? แน่นอนว่าต้องมวยหมู่ ยิ่งสู้เสร็จเร็วยังกลับไปพักผ่อนในเรือนได้พักหนึ่ง จะค่อยๆ เลือกมาทีละคนหนึ่งต่อหนึ่งหรือไร?”

ระหว่างพูดมุมปากเธอยังยกขึ้น หมัดกำขึ้น ตะโกนว่า “ไม่ว่าสู้อย่างไร ซ้อมพวกเขาจนหมอบเป็นพอ!”

“ผัวะ!”

นักเรียนสำนักศึกษาสามดาราคนหนึ่งตรงข้ามกันไม่นึกว่าเฟิ่งจิ่วจะลงมืออย่างกะทันหัน รับมือไม่ทัน เพียงได้ยินเสียงดังผัวะ ดวงตาก็ถูกชกไปหนึ่งหมัด ร่างกายถอยหลังสองสามก้าวเพราะฝีเท้าซวนเซถึงจะประคองไว้ได้มั่น

เขากุมดวงตาที่เจ็บปวดร้อนผ่าวๆ กราดมองยังเฟิ่งจิ่ว “เจ้าหนูลอบโจมตีข้า!”

เฟิ่งจิ่วแค่นเสียงหยัน เอ่ยด้วยสีหน้าหยิ่งผยอง “ลอบโจมตีอะไร? ข้ายืนเหวี่ยงหมัดตรงหน้าเจ้าเลย ตนเองตอบโต้ช้าไปจะโทษใครได้?”

“น่ารังเกียจ!” คนคนนั้นตะโกนอย่างโกรธเคือง ก่อนจะกำหมัดชกเข้าไป

คนอื่นๆ เห็นท่าทางก็เข้าไปร่วมมวยหมู่ ทันใดนั้นพื้นที่ว่างก็ถูกพวกเขายึดครอง เสียงตะโกนเบาๆ และเสียงเหวี่ยงหมัดแต่ละเสียงลอยออกไปพร้อมเสียงร้องคร่ำครวญ เหล่านักเรียนโดยรอบมองเสียจนอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง

เพราะพวกเขาไม่ได้ต่อสู้ตามปกติ แต่เหวี่ยงหมัดสะเปะสะปะตะลุมบอนกัน เพียงเห็นคนนั้นเหวี่ยงหมัดออกไป อีกคนด้านหลังก็ถีบออกมา บางคนกอดต้นขาไว้ บางคนเหวี่ยงหมัดชกหน้า สู้กันอย่างดุเดือดนัก พวกเขามองเสียจนแต่ละคนตาค้างไป

“อ๊าก!”

“อ๊า! บ้าจริง! ใครเตะก้นข้า!”

“ซี๊ด! ชกให้ถูกๆ หน่อย! อย่าชกโดนพวกตนเอง!”

“อ๊าก! เจ้าหนูสมควรตายอย่าเอาแต่ชกหน้าข้าสิ!”

นักเรียนสำนักศึกษาสามดาราคนหนึ่งถูกเฟิ่งจิ่วชกหน้ารัวๆ ชกเสียจนไม่ทันได้สู้ตอบเลย สองแขนได้แต่กอดศีรษะปิดหน้าตนเองตามสัญชาตญาณ

………………………………………………….

ตอนที่ 902 แย่งห้อง

“ผัวะ!”

“ชกหน้าสิถึงจะเห็นผล!” ระหว่างพูดเฟิ่งจิ่วยังเหวี่ยงหมัดออกไปอีก เพียงแต่ครั้งนี้กลับชกลงบนท้องนักเรียนชายคนนั้น

“อั่ก!”

นักเรียนชายร้องคร่ำครวญ ตรงท้องโดนชกทำให้เขาโค้งเอวตามสัญชาตญาณ สองแขนทีกอดศีรษะปล่อยลงมาป้องกันท้อง เวลานี้เองหมัดหนึ่งก็ลอยมาทางหน้าเขา จึงตกใจเสียจนถอยหลังไปรัวๆ

เฟิ่งจิ่วเห็นเช่นนี้ก็ฉีกยิ้มกว้าง เหวี่ยงหมัดหมุนเลี้ยวชกไปโดนหน้านักเรียนที่เตรียมจะโลบโจมตีเธอจากด้านหลัง

“อื้ม!”

คนคนนั้นร้องเสียงอู้อี้ เพียงรู้สึกว่าแก้มโดนชกไปหมัดหนึ่ง งุนงงไปบ้าง รู้สึกถึงรสเค็มในปาก แตะๆ มุมปากหยิบฟันที่ถูกชกร่วงและยังปนเลือดซี่หนึ่งออกมาจากด้านใน เห็นฟันซี่นั้นนักเรียนสำนักศึกษาสามดาราก็สูดลมหายใจ

“จะ เจ้าชกข้าฟันร่วง? เจ้าหนู ข้าจะชกเจ้าให้ตาย!”

นักเรียนคนนั้นโกรธจัด โยนฟันทิ้งไป แล้วกำหมัดจะเหวี่ยงไปทางเฟิ่งจิ่ว ทว่าหมัดยังไม่ตกถึงบนร่างเฟิ่งจิ่ว ก็ถูกเนี่ยเถิงถีบออกไป

เนี่ยเถิงยืนข้างกายเฟิ่งจิ่ว เหลือบมองนางก่อนจะละสายตาออกไป ท่ามกลางมวยหมู่ เขาไม่ห่างจากนางไปไกลนัก แทบจะห่างจากข้างกายนางแค่สามก้าว ตอนนางกำลังซ้อมคนเขาไม่เข้าไปยุ่ง แต่คนพวกนั้นที่คิดจะลอบโจมตีนางจากด้านหลังก็โดนเขาถีบออกไป

เขาไม่พูดอะไรและรู้ว่านางไม่ได้สั่ง ด้วยเหตุนี้จึงแค่คุ้มกันข้างกายไปเงียบๆ

เพียงแต่เฟิ่งจิ่วกลับไม่รับน้ำใจ หลังชกนักเรียนอีกคนกระเด็น ก็ยกเสียงบอกว่า “เอาล่ะ ไม่ต้องสู้แล้ว!”

พวกคนสำนักศึกษาหกดาราได้ยินคำพูดเธอ ต่างหยุดมือลงถอยมาข้างๆ สองฝ่ายไม่ได้บอกว่ามีแค่คนสำนักศึกษาสามดาราที่โดนซ้อม คนฝั่งเฟิ่งจิ่วนอกจากเธอ เนี่ยเถิง โอวหยางซิว กับเซียวอี้หาน คนอื่นๆ สี่คนก็โดนซ้อมเสียจนหน้ามีแผล เพียงแต่เทียบกับคนสำนักศึกษาสามดาราแล้ว บาดแผลยังถือว่าเบา อีกฝ่ายจมูกช้ำหน้าบวมกลายเป็นหัวหมูไปแล้ว

“ซี๊ด! บ้าจริง! พวกเจ้าเป็นคนสำนักศึกษาหกดาราจริงหรือ?”

นักเรียนสำนักศึกษาสามดาราคนหนึ่งกัดฟันมองพวกเขาอย่างโกรธเคือง ฝีมือเช่นนั้นเทียบกับพวกเขายังเร็วกว่า โดยเฉพาะสี่คนนั้น ใครเข้าใกล้พวกเขาล้วนมีแต่โดนชก ทำไมพวกเขาถึงไม่รู้ ว่าคนสำนักศึกษาหกดารากำลังต่อสู้เปลี่ยนไปแข็งแกร่งเพียงนี้?

แม้บอกว่าเป็นมวยหมู่ แต่นี่แทบจะโดนซ้อมอยู่ฝ่ายเดียว ทำให้ขุ่นเคืองใจยิ่งนัก

“เป็นคนสำนักศึกษาหกดารานั่นแหละ เป็นอย่างไรเล่า?” เฟิ่งจิ่วเลิกคิ้วขึ้น ชายตามองชายที่โดนเธอซ้อมจนหวาดกลัว “วางใจเถอะ ข้าไม่ไร้คุณธรรมเช่นนั้นเหมือนพวกเจ้า แค่คนสองคนก็ยึดไปหนึ่งเรือน พวกเราขอแค่สองเรือน ส่วนที่เหลือพวกเจ้าไปจัดการกันเอง”

กล่าวจบเธอก็หมุนตัวเดินเข้าไปยังเรือนแรก เห็นในเรือนนอกจากซ้ายขวาสองห้อง ยังมีอีกสองห้องตรงกลาง สองห้องตรงกลางค่อนข้างใหญ่หน่อย ดังนั้นเธอจึงเลือกห้องหนึ่งตรงกลางฝั่งชิดซ้าย

เซียวอี้หานเห็นท่าทาง กำลังจะเดินเข้าห้องนั้นตรงกลางฝั่งขวา กลับเห็นร่างหนึ่งไวกว่าเขา แค่เห็นก็ได้แต่เลือกห้องทางซ้าย

โอวหยางซิวเห็นในเรือนนี้มีเฟิ่งจิ่ว เนี่ยเถิง รวมถึงเซียวอี้หาน ดังนั้นจึงเดินออกไป มายังเรือนข้างๆ ทันที ไม่คิดจะอยู่เรือนเดียวกันกับเฟิ่งจิ่ว อยู่ในเรือนทั้งวันก้มหน้าไม่เจอเงยหน้าก็เห็น โดนเขาเอาเปรียบด้วยวาจา ตนเองยิ่งไม่สบายใจ

ดังนั้นสุดท้ายแปดคนก็พักอยู่ในเรือนนี้ หนึ่งเรือนสี่คน หนึ่งคนหนึ่งห้อง ยังมีพื้นที่ของตนเอง

หลังผ่านไปสักพักเฟิ่งจิ่วก็เปิดประตูห้องเดินออกมา คิดจะออกไปเดินเล่นเสียหน่อย

………………………………………………….

นิยายเรื่องนี้เข้าร่วมโปรโมชั่น

อัปเพิ่มต่อ +1

เพิ่มตอนจากปกติ เวลา 18.00 น. ตลอดช่วงแคมเปญ

18-31 ต.ค. 64 เท่านั้น!

ฝากติดตามกันด้วยนะคะ

Ink Stone