กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม 285 อย่าปล่อยให้คนรังแก

Now you are reading กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม Chapter 285 อย่าปล่อยให้คนรังแก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลินลุ่ยซียังพูดขอโทษไม่ทันจบ ผู้หญิงคนนั้นก็ใช้ฝ่ามือตบลงมาทันที หลินลุ่ยซีโตขนาดนี้แล้ว ไม่เคยโดนตีมาก่อน เธอน้อยใจจนเบิกตาโต น้ำตาเอ่อล้นคลอเบ้า

หลินซินเหยียนถึงกับตะลึงทันที ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะลงมือ เธออุ้มลูกสาวเข้ามาในอ้อมอกทันที จากนั้นก็จ้องผู้หญิงไว้ “ทำไมคุณถึงกล้าลงมือกับเด็กได้ไง?!”

“ก็เด็กเดินไม่ดูตาม้าตาเรือ คุณเป็นผู้ใหญ่ทำไมถึงไม่อบรมสั่งสอนล่ะ? ดูสิบนเสื้อฉันเนี่ย เพิ่งจะซื้อมา พันกว่าหยวนเลยนะ มีปัญญาชดใช้คืนไหม?” หญิงสาวทาปากแดง พร้อมทั้งโบกรองพื้นหนาอย่างกับโบกกำแพง ตอนพูดยังทำปากมุบมิบ ดุร้ายอย่างกับผู้หญิงปากตลาด

หลินลุ่ยซีพูดเสียงแหบพร่า “หนูไม่ได้ตั้งใจค่ะ”

“พูดว่าขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจมันก็จบแล้วว่างั้นสิ?” หญิงสาวทำตัวโอ้อวด

“คุณอยากจะคิดยังไง?” มีเสียงทุ้มต่ำดังขึ้น ราวกับคลื่นทะเลซัดลงมา

เขาหน้าดำคร่ำเครียด พร้อมกับก้าวเท้าเดินเข้ามา

ตอนที่หลินลุ่ยซีเดินชนผู้หญิง ตอนนั้นเขาก็จะเดินเข้ามาหา แต่ว่ามีรถคันหนึ่งขับผ่านพอดี จนทำให้เสียเวลา เวลาเพียงนิดเดียว ผู้หญิงคนนั้นก็ลงมือซะแล้ว

หญิงสาวได้ยินเสียงแล้วหันศีรษะกลับไป

จงจิ่งห้าวใส่เสื้อโค้ตสีดำสนิท ที่แหวกจนกว้าง จนเห็นสูทสีดำสนิทที่ทำจากมือ เสื้อผ้าปลิวไสว จนดูดีอย่างเป็นธรรมชาติ

สัญชาตญาณของผู้หญิงหดตัวเล็กน้อย ขนาดพูดก็ไม่ได้บ้าคลั่งแบบนี้แล้ว “คือ คือเด็กผู้หญิงคนนี้มาชนฉันก่อน”

หลินลุ่ยซีพูดอีกครั้ง จนเสียงขึ้นจมูก “หนูไม่ได้ตั้งใจค่ะ”

หลินซินเหยียนอุ้มลูกสาวเอาไว้ ถึงขั้นไม่กล้าจะแตะต้องใบหน้าของเธอ เพราะเธอปวดใจเหลือเกิน ขนาดเธอเองยังไม่กล้าจะลงมือแม้เพียงปลายนิ้ว วันนี้ กลับโดนคนตบหน้าซะนี่

“เสื้อผ้าของคุณราคาเท่าไหร่?” จงจิ่งห้าวกระเป๋าสตางค์ในกระเป๋าเสื้อออกมา เพราะว่าเงินสดมีจำนวนจำกัด เขาเลยเซ็นเช็คให้ไปหนึ่งฉบับ “แสนหนึ่ง พอไหม?”

เขาเงยหน้าขึ้นมามอง

สัญชาตญาณของหญิงสาวกลืนน้ำลายทันที พออ้าปากก็บอกว่าแสนหนึ่ง คงขู่เธอล่ะมั้ง?

“ของคุณมันใช้ได้หรือเปล่า? ฉันต้องการเงินสด” หญิงสาวทำท่าแกล้งนิ่งเอาไว้

บนตัวเขาไม่ได้มีเงินสดเยอะขนาดนั้นจริงๆ เขาควานโทรศัพท์ออกมาจากนั้นก็โทรหาซูจ้านทันที “ไม่สนใจว่านายจะใช้วิธีไหน ไปหาเงินสดแสนหนึ่งมาให้ฉันเดี๋ยวนี้”

ซูจ้านที่อยู่ฝั่งนั้นยังดึงสติกลับมาไม่ถูก อยู่ดีๆ ก็เอาเงินสดตั้งมากมายขนาดนั้นไปทำอะไรกัน?

“คุณจะเอาเงินตั้งมากมายขนาดนั้นไปทำอะไร…”

“10นาที!”

เมื่อพูดจบจงจิ่งห้าวก็วางสายทันที จนบริเวณรอบๆ เริ่มมีคนมากมายขึ้น เพื่อมาดูความวุ่นวายจนไม่กลัวเรื่องใหญ่อะไรเกิดขึ้น

พลันมีเสียงกระซิบกระซาบดังเข้าหู

“เสื้อผ้าตัวนี้มันแค่หนึ่งพันเองมั้ง” มีเสียงเล็กๆ ดังขึ้น “เพื่อนฉันก็มีเหมือนกับเธอตรงเป๊ะเลย แหมแล้วยังจะกล้าไปเอาเงินจากเขาตั้งแสนหนึ่ง”

“ใช่ ใช่ ลูกเขาก็ยังเด็ก ไม่ได้ตั้งใจทำซะหน่อย ทำไมต้องไปหาเรื่องหาราวด้วย?”

“พวกคุณไม่รู้แล้ว ผู้หญิงคนนี้เป็นตบหน้าลูกเขาด้วย” คนที่อยู่สองคนด้านหน้าเป็นคนที่เพิ่งมา เลยไม่รู้เรื่องรู้ราวมากนัก คนที่รู้เรื่องเป็นคนพูดแทรกขึ้นมา

“ขนาดเด็กก็ยังทำร้ายเหรอ?”

“ใช่ คุณดูเด็กนั่นสิหน้าบวมเป่งแล้ว’

“ใช่ เด็กหน้าตาดีขนาดนี้ ทำไมเธอถึงลงมือได้นะ?”

หญิงสาวหดหู่ อีกอย่างเธอสัมผัสได้ว่าคนคนนั้นไม่ใช่คนที่จะหาเรื่องได้ เมื่อมองสภาพของชายหนุ่มแล้ว ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างเรามี

“สกปรกก็สกปรกไปสิ ฉันไม่คิดบัญชีแล้ว เรื่องนี้จบกัน”

จงจิ่งห้าวไม่ได้มองหน้าด้วยซ้ำ “คุณพูดว่าจบก็คือจบงั้นสิ?”

หัวใจของหญิงสาวเริ่มตื่นตระหนกทันที แต่ใบหน้ายังคงนิ่งอยู่ “นี่ฉันก็ไม่ติดใจเอาเรื่องแล้ว ทำไมคุณถึงยังไม่ยาเลิกราสักที?”

“เกิดอะไร เกิดอะไรขึ้น?” เวลานี้เอง ซูจ้านถือถุงมาใบหนึ่ง พร้อมทั้งจูงหลินซีเฉินและมีบอดี้การ์ดสองคนเกลี่ยทางให้ เบียดคนท่ามกลางฝูงชน เมื่อเดินมาถึงด้านหน้าของจงจิ่งห้าว “นายจะเอาเงินสดไปทำไม?”

ซูจ้านรู้สึกว่าตนเองฉลาดมาก

ตรงจุดพักรถไม่มีธนาคาร อยากได้เงินสดก้อนโต มีแค่สถานที่เดียว นั่นคือปั๊มน้ำมัน

เป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้ ปั๊มน้ำมันมีเงินสด เขาโอนเงินมาจากธนาคารมาให้ จากนั้นก็ขอถอนเงินสดหนึ่งแสนกับทางปั๊มน้ำมันทันที

จงจิ่งห้าวยกปลายคางขึ้น “ให้เธอ’

ซูจ้านหันไปมองหญิงสาว สายตาก็มองเห็นคราบน้ำมันบนตัว และบนเท้ายังมีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ เหมือนว่าเข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทว่าเสื้อผ้าของผู้หญิงคนนี้ ดูแล้วไม่ถึงหนึ่งแสนนี่

“เสื้อผ้าตัวนี้คุณซื้อมาเท่าไหร่?”

ผู้หญิงไม่ทันตอบ กลุ่มคนที่มาดูก็มีคนพูดออกมาว่า “เสื้อผ้าตัวนี้มันก็แค่หนึ่งพันกว่าเอง เพื่อนของฉันมีเหมือนกับเธอตรงเป๊ะเลย”

“เสื้อผ้าของคุณพันกว่าแต่คุณเอาเป็นแสน…”

“ให้เธอ!” จงจิ่งห้าวพูดตัดบทซูจ้านเสียงเข้ม นัยน์ตาลึกยิ่งดำดิ่งดำมืดจนไม่มีที่สิ้นสุด

ซูจ้านรู้สึกว่ามันมีความผิดปกติเกิดขึ้น พลันยื่นเงินให้ผู้หญิงทันที

ผู้หญิงไม่กล้ารับ “ฉัน ฉัน ฉัน…”

ผู้หญิงพูดว่าฉันตั้งนานแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

“ลูกสาวของผมทำเสื้อผ้าของคุณเลอะ ผมที่เป็นพ่อ ก็สมควรจะชดใช้ให้คุณ” จงจิ่งห้าวเอามือซูจ้านที่เธอเงินอยู่โยนใส่ตรงหน้าเธอ “คุณตบหน้าลูกสาวผม บัญชีนี้จะให้คิดยังไงดี?”

“อะไรนะ?”

“อะไรนะ!”

เสียงแรกคือซูจ้านเสียงต่อมาคือหลินซีเฉิน

หลินลุ่ยซีถูกตบเหรอ?

น้องสาวถูกตบเหรอ?

หลินซีเฉินโมโหจนตัวสั่นเทา กล้าลงมือกับน้องสาวของเขา?

ซูจ้านเองก็โกรธอยู่ไม่น้อย มีคนถึงขั้นทำร้ายเด็กงั้นเหรอ?

“ฉัน ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจ” หญิงสาวตกใจจนตัวสั่นเทา

“คุณพูดว่าไม่ตั้งใจ เรื่องมันก็จบแล้วงั้นสิ?” จงจิ่งห้าวยังพูดไม่ทันจบ ซูจ้านก็ถามกลับด้วยความโมโหทันที

“เงินพวกนี้ฉันไม่ต้องการ เสื้อผ้าก็ไม่ต้องชดใช้แล้ว …”

“เสื้อผ้าของคุณเลอะ พวกเราก็ต้องชดใช้คืนให้คุณ แต่คุณตบหน้าน้องสาวของผม เรื่องนี้คุณก็ต้องชดใช้คืนให้กับพวกเรา น้องสาวของผมโตขนาดนี้แล้ว ถึงแม้จะทำให้ผมโมโหจนอยากกระอักเลือดออก แต่ผมก็ไม่กล้าแตะต้องเธอแม้เพียงปลายก้อย ตั้งแต่เกิดมา ก็ถูกเลี้ยงมาอย่างกับไข่ในหิน วันนี้ กลับโดนคุณทำร้ายเธอ? เรื่องนี้ คุณไม่ให้สิ่งชดใช้ที่ผมพอใจ เรื่องนี้ไม่จบแน่! พ่อผมก็พูดแล้ว แม้ว่าพวกเรามีเงินมีอำนาจ พวกเราก็ไม่เคยเบ่งทำร้ายคนอื่น แต่ว่า ก็ไม่ยอมให้คนอื่นมารังแก!”

หลินซีเฉินที่อายุยังน้อย แต่การสื่อสารเจรจาชัดถ้อยชัดคำ ยามเมื่อมายืนอยู่ข้างกายจงจิ่งห้าว บรรยากาศแบบนั้น ท่าทางแบบนั้น ก็เหมือนกับจงจิ่งห้าวขนาดย่อส่วนนั่นเอง

จงจิ่งห้าวเหลือบตาจ้องมองเขา ในสมองพลันปรากฏความคิด ประโยคคำว่าพ่อ

แม้ว่าหลินซีเฉินยอมรับในฐานะของเขา แต่ไม่เคยเรียกเขาว่าพ่อก่อนเลย

เมื่อได้ยินประโยคที่เรียกว่าพ่อ หัวใจของเขาเจ็บปวดเล็กน้อย

“เสื้อผ้าฉันไม่ต้องชดใช้แล้ว พวกคุณยังจะเอาอะไรอีก พวกคุณคนตั้งเยอะแยะจะรังแกผู้หญิงคนเดียวเหรอ?” ผู้หญิงกลืนน้ำลายลงคอ จากนั้นก็ถอยหลังไปสองก้าว เพราะว่ากลัวว่าพวกเขาจะเริ่มลงมือ

ในเวลานั้นเอง เธอเริ่มเสียใจในสิ่งที่ทำลงไปแล้วสิ

ทำไมเธอถึงได้วู่วามขนาดนั้น

ทว่าตอนนี้เธอโกรธมาก เสื้อผ้าเพิ่งซื้อมาใหม่ กำลังจะกลับบ้านวันตรุษจีนอย่างสวยหรู แต่มันดันเลอะซะนี่ ช่างน่าโมโหจริงๆ

“ใครไปรังแกคุณ คุณเป็นผู้ใหญ่แท้ๆ แต่ดันมาลงมือกับเด็กก่อน!” หลินซีเฉินตอบโต้กลับ ไม่มีทางที่เธอให้เธอบอกปัดเรื่องนี้ไปง่ายๆ

“ใช่ คนตั้งเยอะแยะ ตอนนั้นคงมีคนเห็นตอนเกิดเรื่องบ้างแหละ?” ซูจ้านถามคนที่อยู่รอบๆ

“ฉันเห็น” หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งเดินเข้ามา “ฉันเห็น ฉันเพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ ก็เห็นว่าเด็กสาวคนนี้กำลังวิ่ง พอวิ่งแล้วไม่ทันระวังไปชนกับผู้หญิงคนนั้น แต่ว่าเด็กน้อยคนนี้ก็ขอโทษไปแล้ว พอตอนที่พูดว่าขอโทษ ผู้หญิงคนนั้นก็ตบทันทีเลย”

“เป็นผู้ใหญ่ทำร้ายเด็ก ก็ไม่มีวุฒิภาวะเลย”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด