ยอดคุณหมอสกุลเฉินตอนที่194 เสมือนแสงแดดอันอบอุ่น

Now you are reading ยอดคุณหมอสกุลเฉิน Chapter ตอนที่194 เสมือนแสงแดดอันอบอุ่น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่194 เสมือนแสงแดดอันอบอุ่น

“บอดี้การ์ดปล่อยให้พวกติดดินแบบนี้เข้ามาได้ยังไง? ยัดใต้โต๊ะแหงๆ ”

“คนหนึ่งด่าไม่หยุด ส่วนชะนีกลุ่มนั้นก็ดูขี้อวดจัง ไม่เข้าใจเลยจริงๆ นี่พวกคุณเข้ามาในนี้ได้ยังไง”

เมื่อกลุ่มของคังฟานต้องเผชิญหน้ากับคำถากถางของพวกไฮโซโดยรอบงาน ทันทีทันใดไม่รู้ว่าหูหนิ่วโผล่มาจากไหน เธอตะโกนด่าเสริมไปว่า

“คุณบอดี้การ์ดค่า~ ปล่อยพวกบ้านนอกพวกนี้เข้ามาแหกปากโวยวายได้ยังไง? ทำไมถึงอนุญาตให้คนแบบนี้เข้ามา?”

“นั่นสิคะ บางคนความรู้เท่าหางอึ่งแต่ชอบอวดไปทั่ว ไม่ทราบว่านั่นหนังหน้าหรือโถส้วมค่ะ? ทำไมทั้งด้านทั้งเหม็น?”

ข้างซ้ายมือของหูหนิ่วปรากฏเป็นสาวน้อยร่างบอบบาง สวมแว่นกรอบกลมสีทอง ดูผิวเผินเหมือนสาวเนิร์ดพูดน้อย แต่เวลาปริปากออกมาเมื่อไหร่ อย่างกับใบมีดคมกระหม่พทิ่มแทงไม่มีปราณี

ชายหนุ่มรักสนุกกลุ่มหนึ่งที่มาเที่ยว ณ ที่แห่งนี้เริ่มสังเกตเห็นแล้วเช่นกัน พวกเขาตรงเข้ามาถามเหอจือด้วยรอยยิ้มว่า

“พี่เหอ เกิดอะไรขึ้น? ถึงพี่จะไม่ชอบสร้างปัญหา แต่ใช่ว่าจะปล่อยให้ถูกรังแกได้ง่ายๆ จริงไหม?”

พวกเขาเหล่านั้นล้วนแต่เป็นเพื่อนสนิทของเหอจือ พ่อแม่ของพวกเขาบางคนจำเป็นต้องพึ่งพาเส้นสายความสัมพันธ์ของพ่อเธอเช่นกัน ถึงพยายามเข้าหาและให้ความช่วยเหลือ ทั้งยังมีบางกลุ่มที่แอบหลงรักเธอเช่นกัน ดังนั้นแล้ว เมื่อพวกเขาทั้งหมดเห็นว่าเหอจือเกิดเรื่องขึ้น แต่ละคนจึงแห่กับเข้ามาตีกรอบรุมล้อมพวกคังฟานโดยทันที

เกิดกลายมาเป็นการจลาจลขึ้นจนได้ภายในที่แห่งนี้ จากที่ฉีเล่ยยืนรอเครื่องดื่มจากเหอจืออย่างเงียบงันหน้าประตูทางเข้า

ปัจจุบันกลับกลายเป็นจุดสนใจของบรรดาผู้คนทั้งหมดในคลับแห่งนี้ไปแล้ว

คังฟานเหลือบสายตาขึ้นมองเหอจือที่ตรงเข้ามาช่วยเหลือฉีเล่ยเล็กน้อย ก่อนจะเคลื่อนสายตาไปมองกลุ่มผู้ชายที่กำลังล้อมกรอบคตนเองอยู่ พวกเขาเหล่านี้ล้วนแต่ลุกขึ้นยืนหยัดเพื่อช่วยเหอจืออีกทีหนึ่ง

ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เขาอดหันไปมองหลู่หยานพร้อมส่ายหัวไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ธรรมดาเลยจริงๆ

คังฟาน หลู่หยานและเหวินเจียน ชายหนุ่มทั้งสามถึงกับถอนหายใจโดยพร้อมเพรียง

ใครจะไปคิดว่าสาวน้อยตรงหน้าจะมีภูมิหลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้กัน?

คังฟานพยายามปั้นหน้าให้ดูไม่ตื่นตระหนัก ข่มอารมณ์กลัวเอาไว้ในใจ คลี่ยิ้มหวานอันทรงเสน่ห์ขึ้นมาอีกครั้งพร้อมเงยหน้ามองฉีเล่ยและกล่าวว่า

“แค่เรื่องเข้าใจผิดกันเล็กน้อย ไม่ต้องถึงขั้นทะเลาะวิวาทหรอกจริงไหม? เดี๋ยวทำให้งานเลี้ยงของเจ้าภาพวันนี้กร่อยพอดี ยังไงคราวนี้พวกเขาผิดเองจริงๆ ถ้ายังไงก็ขอตัวก่อนดีกว่าครับ คราวหน้า หวังว่าเราจะมีโอกาสได้มาดื่มด้วยกันสักครับนะครับคุณฉี”

กลุ่มผู้หญิงที่มาด้วยกันกับซินซิน ย่อมรู้จักคังฟานดี เพราะเขาเคยเป็นนักเต้นที่มีชื่อเสียงในปักกิ่งประมาณหลายปีก่อน

แต่แน่นอนว่าผู้หญิงคนอื่นๆ ภายในงานย่อมไม่รู้จัก พอได้เห็นปฏิกิริยาตอบสนองอันแสนสุขุมของอีกฝ่าย พวกเธอเองก็ถึงกับทึ่งเช่นกัน ประกอบกับความหล่อเหลาและกิริยาท่าทางอันสง่างามนั้นอีก บางคนภึงขั้นกระซิบถามเพื่อนฝูงว่า ชายคนนี้เป็นใครมาจากไหน?

ในเสี้ยวอึดใจต่อมา คังฟานกลายมาเป็นจุดสนใจของผู้ชมโดยรอบทันที

ก่อนที่ฉีเล่ยจะได้ปริปากกล่าวอะไรออกมา เหอจือที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาก็ระเบิดหัวเราะเยาะและกล่าวน้ำเสียงเย็นออกมาว่า

“เหอะ ไอ้ขี้เก๊ก นี่แกกล้าเบี่ยงประเด็นรึไง? ฉันบอกให้พวกแกคุกเข่าขอโทษอาจารย์ฉี!ทำไมยังไม่คุกเข่ากันอีก? อยากตายคาตีนฉันมากใช่ไหม?!”

“….”

“….”

ณ มุมหนึ่งลึกลงไปในคลับหรูแห่งนี้ ปรากฏเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่ค่อนข้างเงียบสงบ

แม้ว่าพื้นที่ภายในนี้จะไม่ได้ใหญ่มาก แต่ค่อนข้างอยู่ไกลจากพื้นที่จัดปาร์ตี้ด้านนอก ภายในมีการตกแต่งสไตล์เรียบหรู ดูงดงามสบายสายตาอย่างยิ่ง ระดับค่อนข้างห่างไกลจากการตกแต่งภายนอกไม่ใช่น้อยเลย

ซึ่งในห้องดังกล่าวมีเพียงสามคนเท่านั้นที่นั่งอยู่ ประกอบไปด้วยผู้ชายสองและผู้หญิงอีกหนี่งคน

ชายคนหนึ่งยืนกลางแสงสี ทว่าชายอีกคนกลับนั่งซ่อนตัวในมุมมืด

ส่วนชายหนุ่มคนที่ยืนกลางแสงสีกำลังจจ้องชื่นชมใบหน้าอันงดงามของหญิงสาวบนโซฟาตัวหรู สปอตไลท์โทนเย็นสีอ่อนสาดเข้าใส่เผยให้เห็นเรือนร่างน่าดึงดูด โดยเฉพาะกับส่วนที่ชัดที่สุดอย่างหน้าอกคู่สวยขนาดใหญ่ของเธอ และบั้นท้ายกลมสวย เอวเพรียวเล็กกำลังดี เรียวขาสีขาวกระจ่างใส เธอเป็นผู้หญิงที่โดดเด่นแทบจะทุกด้าน แม้ว่าใบหน้าของเธอจะไม่ได้สวยเลิศเลออะไรขนาดนั้นเพราะมีเรื่องอายุเข้ามาเกี่ยว แต่มันก็มากเพียงพอแล้วที่จะสะกดผู้ชายให้ต้องคุกเข่าแทบเท้า

ยิ่งไปกว่านั้น เสน่ห์ร้อยเล่มเกวียนซึ่งเป็นจุดแข็งของเธอยังทำให้ผู้ชายหลงรักหัวปักหัวปำได้ไม่ยากเลย

แน่นอน ที่ว่าไม่สวยเลิศเลอ มันไม่ได้หมายความว่าจะไม่สวย เพียงว่าไม่สวยเทียบเท่าระดับนางงามระดับโลกเท่านั้น

และแท้ที่จริงแล้ว ส่วนที่น่าดึงดูดที่สุดของผู้หญิงคนนี้คือ ดวงตาที่เปล่งประกาย

แค่เธอนั่งอยู่บนโซฟาเงียบๆ มันก็มากเพียงพอแล้ว ที่จะทำให้ผู้คนสัมผัสได้ถึงวุฒิภาวะอันสูงส่งราวกับราชินีเสด็จมาเอง เสมือนหยดน้ำที่ชุ่มฉ่ำมอบความสดชื่นในเวลาเดียวกัน

ใช่แล้ว ผู้หญิงสวยควรเปรียบเสมือนหยดน้ำ

เพราะผู้ชายทำมาจากโคลนย่อมปรารถนาความชุ่มชื้นจากผู้หญิงที่เปรียบเสมือนน้ำเข้ามาเติมเต็ม

เธอกำลังจับจ้องภาพเหตุเหตุการณ์ผ่านม่านกระจกราวกับกำลังดูเรื่องตลกเรื่องหนึ่งเท่านั้น บนใบหน้าสวยนเผยปรากฏรอยยิ้มอันแสนอบอุ่นปรากฏขึ้นมา ไม่ว่าใครได้เห็นรอยยิ้มดังกล่าวต่างรู้สึกราวกับกำลังนอนอาบแสงแดดสีอ่อนอย่างสบายอารมณ์และผ่อนคลายเกินพรรณนาท่ามกลางดงหิมะ

เธอคนนั้นยกแก้วไวน์แดงขึ้นมาริมจิบพลางหัวเราะเสียงทรงเสน่ห์เอ่ยขึ้นรว่า

“เขาว่ากันว่าสาวทางใต้มักจะแกร่งกว่าสาวทางเหนือนะ แต่ฉันว่ามันไม่เสมอไป ในแง่ของความอ่อนโยน บางทีสาวทางใต้อาจจะเหนือกว่าเล็กน้อย แต่ถ้าในด้านความกล้าได้กล้าชน ยังไงก็ต้องสาวจากทางเหนือแหละนะ สาวน้อยคนนั้นเอาเรื่องใช่เล่น ฉันชอบแหะ”

ทันใดนั้นสุ้มเสียงของผู้ชายที่หลบซ่อนตัวในมุมมืดก็เอ่ยดังขึ้น เนื้อเสียงภายในเปี่ยมล้นไปด้วยความทรงเสน่ห์

“หายากนะการที่ผู้หญิงอย่างหรู่หยานจะเอ่ยปากชมใครสักคน”

ชายคนนั้นยังคงนั่งนิ่งอยู่ในมุมมืดคนเดียวในสถานที่แห่งนี้ ปรากฏเผยเพียงเค้าโครงใบหน้าที่แสนจะคลุมเครือ กำลังแกว้งแก้วไวน์อยู่ในมืออย่างเกียจคร้านบนโซฟา

น้ำเสียงฟังดูเชิงเย้าหยอกเป็นกันเอง ท่านั่งผ่อนคลายไม่ค่อยเหมาะสม นี่แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าพวกเขาทั้งสามสนิทกัน

ทันใดนั้น ชายหนุ่มอีกคนที่ยืนท่ามกลางแสงสีก็กล่าวเสียงดังขึ้นค้านว่า

“แต่มองยังไงก็ไม่ได้ดีไปกว่าพี่หยาน”

เมื่อคู่สายตาของเขาหันไปประกบกับฮั่วหรู่หยาน แววตานั่นเปี่ยมล้นไปด้วยความรักใคร่ เปล่งประกายเป็นพิเศษ ทว่าปราศจากราคะเข้ามาปะปนใดๆ ถ้าจะให้บรรยายคงเปรียบเสมือนดวงตาของเด็กน้อยที่ไม่เต็มใจนัก หากแม่คนนี้จะทิ้งเขาไปอย่างใดอย่างนั้น

ฮั่วหรู่หยางหันไปจ้องมองใบหน้าของชูซินฮังเล็กน้อย พลางหัวเราะคิกคักกล่าวขึ้นว่า

“เสี่ยวฮัง นี่เอารสนิยมตัวเองเป็นที่ตั้งรึเปล่า? ตราบใดที่ผู้หญิงอายุน้อยกว่าฉัน ไม่ว่าจะสวยแค่ไหนคือด้อยกว่าฉันหมดเลยใช่ไหม?”

ผู้หญิงคนนี้เองก็มีความประทับใจอันดีต่อเด็กหนุ่มหน้าสวยคนนี้เช่นกัน

แน่นอน ยามที่เด็กน้อยหลงเสน่ห์ ไม่ว่าจะพูดอะไรก็หลงไปหมด

ชูซินฮังใบหน้าแดงระเรื่อขึ้นในทันที กล่าวปักอย่างเก้อๆ เขินๆ ว่า

“มะ-ไม่ใช่แบบนั้น…”

ไม่ทราบเช่นกันว่าฮั่วหรู่หยานรู้มากจากไหน เรื่องที่ชูซินฮังมีรสนิยมชอบผู้หญิงแก่กว่า ดังนั้นเธอจึงแกล้งยิงคำถามนี้เข้าใส่

และฮั่วหรู่หยานยังทราบอีกว่า เด็กหนุ่มคนนี้หลงรักคนรุ่นแม่ได้ง่าย นี่จึงเป็นสาเหตุที่เธอนึกคำถามนี้ขึ้นได้เช่นกัน

ดั่งที่ว่าเสน่ห์ของอิสตรีคือลูกเล่นร้อยเล่มเกวียน ฮั่วหรู่หยานมีลูกล่อลูกชนใช้เย้าหยอกที่ไร้ที่ติ เธอดึงจังหวะเลือกที่จะไม่เค้นหาคำตอบจากคำถามเมื่อครู่อีกต่อไป แต่ฉลาดเลือกที่จะโปรยเสน่ห์ของเธอต่อไป โดยกล่าวว่า

“ในใจของเสี่ยวฮัง ฉันถือเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบพอรึเปล่านะ? แต่จะว่าไปจะมีหญิงสาวรุ่นแม่คนไหนที่ทั้งสวย และหุ่นดีแบบฉันอีก? เธอว่าจริงไหมจ๊ะเสี่ยวฮัง?”

ชูซินฮังใบหน้าแดงก่ำ ก้มหน้าก้มตาเอ่ยตอบเสียงอ่อนไปว่า

“ครับ…พี่หยานเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติในใจของผม…”

ชูซินฮังไม่ได้โกหกแม้แต่น้อย สาวน้อยสวยใสแบบเหอจือ มันไม่ใช่สเป็กของเขาเลย

ทันใดนั้นชายที่หลบซ่อนอยู่ในมุมมืดก็เอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มว่า

“หรู่หยานเพิ่งมาถึงปักกิ่งได้แค่ไม่กี่เดือน เธอก็มีชื่อเสียงขนาดนี้แล้ว คงไม่เกินจริงไปหรอกนะถ้าจะบอกว่า อีกไม่นานเธอจะขึ้นกลายเป็นสาวงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองหลวง”

ฮั่วหรู่หยานขมวดคิ้วเล็กน้อย กล่าวว่า

“อย่างฉันจะไปเทียบกับคุณหนูคนโตของสกุลชูได้ยังไง?”

ชายคนนั้นเองก็ตอบกลับไปตามตรงเช่นกัน

“แน่นอน ซินซูสวยกว่าเธอ”

ฮั่วหรู่หยานถึงกับหัวเราะคิกคักดังออกมา

“นี่มันไม่ดูย้อนแย้งไปหน่อยเหรอ? เมื่อกี้นายยังพูดอยู่เลยว่า ฉันจะกลายเป็นสาวงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองหลวง?”

ชายคนนั้นยิ้มตอบไปว่า

“นี่ก็ไม่ได้โกหกเหมือนกัน คนที่เรารักย่อมสวยกว่าทุกสิ่งในสายตาของเรา ชูซินเป็นผู้หญิงที่ฉันรักย่อมต้องสวยที่สุดอยู่แล้ว ส่วนที่ว่าเธอเป็นสาวงามอันดับหนึ่ง ฉันพูดแทนผู้ชายทุกคนในปักกิ่ง”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ยอดคุณหมอสกุลเฉินตอนที่194 เสมือนแสงแดดอันอบอุ่น

Now you are reading ยอดคุณหมอสกุลเฉิน Chapter ตอนที่194 เสมือนแสงแดดอันอบอุ่น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่194 เสมือนแสงแดดอันอบอุ่น

“บอดี้การ์ดปล่อยให้พวกติดดินแบบนี้เข้ามาได้ยังไง? ยัดใต้โต๊ะแหงๆ ”

“คนหนึ่งด่าไม่หยุด ส่วนชะนีกลุ่มนั้นก็ดูขี้อวดจัง ไม่เข้าใจเลยจริงๆ นี่พวกคุณเข้ามาในนี้ได้ยังไง”

เมื่อกลุ่มของคังฟานต้องเผชิญหน้ากับคำถากถางของพวกไฮโซโดยรอบงาน ทันทีทันใดไม่รู้ว่าหูหนิ่วโผล่มาจากไหน เธอตะโกนด่าเสริมไปว่า

“คุณบอดี้การ์ดค่า~ ปล่อยพวกบ้านนอกพวกนี้เข้ามาแหกปากโวยวายได้ยังไง? ทำไมถึงอนุญาตให้คนแบบนี้เข้ามา?”

“นั่นสิคะ บางคนความรู้เท่าหางอึ่งแต่ชอบอวดไปทั่ว ไม่ทราบว่านั่นหนังหน้าหรือโถส้วมค่ะ? ทำไมทั้งด้านทั้งเหม็น?”

ข้างซ้ายมือของหูหนิ่วปรากฏเป็นสาวน้อยร่างบอบบาง สวมแว่นกรอบกลมสีทอง ดูผิวเผินเหมือนสาวเนิร์ดพูดน้อย แต่เวลาปริปากออกมาเมื่อไหร่ อย่างกับใบมีดคมกระหม่พทิ่มแทงไม่มีปราณี

ชายหนุ่มรักสนุกกลุ่มหนึ่งที่มาเที่ยว ณ ที่แห่งนี้เริ่มสังเกตเห็นแล้วเช่นกัน พวกเขาตรงเข้ามาถามเหอจือด้วยรอยยิ้มว่า

“พี่เหอ เกิดอะไรขึ้น? ถึงพี่จะไม่ชอบสร้างปัญหา แต่ใช่ว่าจะปล่อยให้ถูกรังแกได้ง่ายๆ จริงไหม?”

พวกเขาเหล่านั้นล้วนแต่เป็นเพื่อนสนิทของเหอจือ พ่อแม่ของพวกเขาบางคนจำเป็นต้องพึ่งพาเส้นสายความสัมพันธ์ของพ่อเธอเช่นกัน ถึงพยายามเข้าหาและให้ความช่วยเหลือ ทั้งยังมีบางกลุ่มที่แอบหลงรักเธอเช่นกัน ดังนั้นแล้ว เมื่อพวกเขาทั้งหมดเห็นว่าเหอจือเกิดเรื่องขึ้น แต่ละคนจึงแห่กับเข้ามาตีกรอบรุมล้อมพวกคังฟานโดยทันที

เกิดกลายมาเป็นการจลาจลขึ้นจนได้ภายในที่แห่งนี้ จากที่ฉีเล่ยยืนรอเครื่องดื่มจากเหอจืออย่างเงียบงันหน้าประตูทางเข้า

ปัจจุบันกลับกลายเป็นจุดสนใจของบรรดาผู้คนทั้งหมดในคลับแห่งนี้ไปแล้ว

คังฟานเหลือบสายตาขึ้นมองเหอจือที่ตรงเข้ามาช่วยเหลือฉีเล่ยเล็กน้อย ก่อนจะเคลื่อนสายตาไปมองกลุ่มผู้ชายที่กำลังล้อมกรอบคตนเองอยู่ พวกเขาเหล่านี้ล้วนแต่ลุกขึ้นยืนหยัดเพื่อช่วยเหอจืออีกทีหนึ่ง

ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เขาอดหันไปมองหลู่หยานพร้อมส่ายหัวไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ธรรมดาเลยจริงๆ

คังฟาน หลู่หยานและเหวินเจียน ชายหนุ่มทั้งสามถึงกับถอนหายใจโดยพร้อมเพรียง

ใครจะไปคิดว่าสาวน้อยตรงหน้าจะมีภูมิหลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้กัน?

คังฟานพยายามปั้นหน้าให้ดูไม่ตื่นตระหนัก ข่มอารมณ์กลัวเอาไว้ในใจ คลี่ยิ้มหวานอันทรงเสน่ห์ขึ้นมาอีกครั้งพร้อมเงยหน้ามองฉีเล่ยและกล่าวว่า

“แค่เรื่องเข้าใจผิดกันเล็กน้อย ไม่ต้องถึงขั้นทะเลาะวิวาทหรอกจริงไหม? เดี๋ยวทำให้งานเลี้ยงของเจ้าภาพวันนี้กร่อยพอดี ยังไงคราวนี้พวกเขาผิดเองจริงๆ ถ้ายังไงก็ขอตัวก่อนดีกว่าครับ คราวหน้า หวังว่าเราจะมีโอกาสได้มาดื่มด้วยกันสักครับนะครับคุณฉี”

กลุ่มผู้หญิงที่มาด้วยกันกับซินซิน ย่อมรู้จักคังฟานดี เพราะเขาเคยเป็นนักเต้นที่มีชื่อเสียงในปักกิ่งประมาณหลายปีก่อน

แต่แน่นอนว่าผู้หญิงคนอื่นๆ ภายในงานย่อมไม่รู้จัก พอได้เห็นปฏิกิริยาตอบสนองอันแสนสุขุมของอีกฝ่าย พวกเธอเองก็ถึงกับทึ่งเช่นกัน ประกอบกับความหล่อเหลาและกิริยาท่าทางอันสง่างามนั้นอีก บางคนภึงขั้นกระซิบถามเพื่อนฝูงว่า ชายคนนี้เป็นใครมาจากไหน?

ในเสี้ยวอึดใจต่อมา คังฟานกลายมาเป็นจุดสนใจของผู้ชมโดยรอบทันที

ก่อนที่ฉีเล่ยจะได้ปริปากกล่าวอะไรออกมา เหอจือที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาก็ระเบิดหัวเราะเยาะและกล่าวน้ำเสียงเย็นออกมาว่า

“เหอะ ไอ้ขี้เก๊ก นี่แกกล้าเบี่ยงประเด็นรึไง? ฉันบอกให้พวกแกคุกเข่าขอโทษอาจารย์ฉี!ทำไมยังไม่คุกเข่ากันอีก? อยากตายคาตีนฉันมากใช่ไหม?!”

“….”

“….”

ณ มุมหนึ่งลึกลงไปในคลับหรูแห่งนี้ ปรากฏเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่ค่อนข้างเงียบสงบ

แม้ว่าพื้นที่ภายในนี้จะไม่ได้ใหญ่มาก แต่ค่อนข้างอยู่ไกลจากพื้นที่จัดปาร์ตี้ด้านนอก ภายในมีการตกแต่งสไตล์เรียบหรู ดูงดงามสบายสายตาอย่างยิ่ง ระดับค่อนข้างห่างไกลจากการตกแต่งภายนอกไม่ใช่น้อยเลย

ซึ่งในห้องดังกล่าวมีเพียงสามคนเท่านั้นที่นั่งอยู่ ประกอบไปด้วยผู้ชายสองและผู้หญิงอีกหนี่งคน

ชายคนหนึ่งยืนกลางแสงสี ทว่าชายอีกคนกลับนั่งซ่อนตัวในมุมมืด

ส่วนชายหนุ่มคนที่ยืนกลางแสงสีกำลังจจ้องชื่นชมใบหน้าอันงดงามของหญิงสาวบนโซฟาตัวหรู สปอตไลท์โทนเย็นสีอ่อนสาดเข้าใส่เผยให้เห็นเรือนร่างน่าดึงดูด โดยเฉพาะกับส่วนที่ชัดที่สุดอย่างหน้าอกคู่สวยขนาดใหญ่ของเธอ และบั้นท้ายกลมสวย เอวเพรียวเล็กกำลังดี เรียวขาสีขาวกระจ่างใส เธอเป็นผู้หญิงที่โดดเด่นแทบจะทุกด้าน แม้ว่าใบหน้าของเธอจะไม่ได้สวยเลิศเลออะไรขนาดนั้นเพราะมีเรื่องอายุเข้ามาเกี่ยว แต่มันก็มากเพียงพอแล้วที่จะสะกดผู้ชายให้ต้องคุกเข่าแทบเท้า

ยิ่งไปกว่านั้น เสน่ห์ร้อยเล่มเกวียนซึ่งเป็นจุดแข็งของเธอยังทำให้ผู้ชายหลงรักหัวปักหัวปำได้ไม่ยากเลย

แน่นอน ที่ว่าไม่สวยเลิศเลอ มันไม่ได้หมายความว่าจะไม่สวย เพียงว่าไม่สวยเทียบเท่าระดับนางงามระดับโลกเท่านั้น

และแท้ที่จริงแล้ว ส่วนที่น่าดึงดูดที่สุดของผู้หญิงคนนี้คือ ดวงตาที่เปล่งประกาย

แค่เธอนั่งอยู่บนโซฟาเงียบๆ มันก็มากเพียงพอแล้ว ที่จะทำให้ผู้คนสัมผัสได้ถึงวุฒิภาวะอันสูงส่งราวกับราชินีเสด็จมาเอง เสมือนหยดน้ำที่ชุ่มฉ่ำมอบความสดชื่นในเวลาเดียวกัน

ใช่แล้ว ผู้หญิงสวยควรเปรียบเสมือนหยดน้ำ

เพราะผู้ชายทำมาจากโคลนย่อมปรารถนาความชุ่มชื้นจากผู้หญิงที่เปรียบเสมือนน้ำเข้ามาเติมเต็ม

เธอกำลังจับจ้องภาพเหตุเหตุการณ์ผ่านม่านกระจกราวกับกำลังดูเรื่องตลกเรื่องหนึ่งเท่านั้น บนใบหน้าสวยนเผยปรากฏรอยยิ้มอันแสนอบอุ่นปรากฏขึ้นมา ไม่ว่าใครได้เห็นรอยยิ้มดังกล่าวต่างรู้สึกราวกับกำลังนอนอาบแสงแดดสีอ่อนอย่างสบายอารมณ์และผ่อนคลายเกินพรรณนาท่ามกลางดงหิมะ

เธอคนนั้นยกแก้วไวน์แดงขึ้นมาริมจิบพลางหัวเราะเสียงทรงเสน่ห์เอ่ยขึ้นรว่า

“เขาว่ากันว่าสาวทางใต้มักจะแกร่งกว่าสาวทางเหนือนะ แต่ฉันว่ามันไม่เสมอไป ในแง่ของความอ่อนโยน บางทีสาวทางใต้อาจจะเหนือกว่าเล็กน้อย แต่ถ้าในด้านความกล้าได้กล้าชน ยังไงก็ต้องสาวจากทางเหนือแหละนะ สาวน้อยคนนั้นเอาเรื่องใช่เล่น ฉันชอบแหะ”

ทันใดนั้นสุ้มเสียงของผู้ชายที่หลบซ่อนตัวในมุมมืดก็เอ่ยดังขึ้น เนื้อเสียงภายในเปี่ยมล้นไปด้วยความทรงเสน่ห์

“หายากนะการที่ผู้หญิงอย่างหรู่หยานจะเอ่ยปากชมใครสักคน”

ชายคนนั้นยังคงนั่งนิ่งอยู่ในมุมมืดคนเดียวในสถานที่แห่งนี้ ปรากฏเผยเพียงเค้าโครงใบหน้าที่แสนจะคลุมเครือ กำลังแกว้งแก้วไวน์อยู่ในมืออย่างเกียจคร้านบนโซฟา

น้ำเสียงฟังดูเชิงเย้าหยอกเป็นกันเอง ท่านั่งผ่อนคลายไม่ค่อยเหมาะสม นี่แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าพวกเขาทั้งสามสนิทกัน

ทันใดนั้น ชายหนุ่มอีกคนที่ยืนท่ามกลางแสงสีก็กล่าวเสียงดังขึ้นค้านว่า

“แต่มองยังไงก็ไม่ได้ดีไปกว่าพี่หยาน”

เมื่อคู่สายตาของเขาหันไปประกบกับฮั่วหรู่หยาน แววตานั่นเปี่ยมล้นไปด้วยความรักใคร่ เปล่งประกายเป็นพิเศษ ทว่าปราศจากราคะเข้ามาปะปนใดๆ ถ้าจะให้บรรยายคงเปรียบเสมือนดวงตาของเด็กน้อยที่ไม่เต็มใจนัก หากแม่คนนี้จะทิ้งเขาไปอย่างใดอย่างนั้น

ฮั่วหรู่หยางหันไปจ้องมองใบหน้าของชูซินฮังเล็กน้อย พลางหัวเราะคิกคักกล่าวขึ้นว่า

“เสี่ยวฮัง นี่เอารสนิยมตัวเองเป็นที่ตั้งรึเปล่า? ตราบใดที่ผู้หญิงอายุน้อยกว่าฉัน ไม่ว่าจะสวยแค่ไหนคือด้อยกว่าฉันหมดเลยใช่ไหม?”

ผู้หญิงคนนี้เองก็มีความประทับใจอันดีต่อเด็กหนุ่มหน้าสวยคนนี้เช่นกัน

แน่นอน ยามที่เด็กน้อยหลงเสน่ห์ ไม่ว่าจะพูดอะไรก็หลงไปหมด

ชูซินฮังใบหน้าแดงระเรื่อขึ้นในทันที กล่าวปักอย่างเก้อๆ เขินๆ ว่า

“มะ-ไม่ใช่แบบนั้น…”

ไม่ทราบเช่นกันว่าฮั่วหรู่หยานรู้มากจากไหน เรื่องที่ชูซินฮังมีรสนิยมชอบผู้หญิงแก่กว่า ดังนั้นเธอจึงแกล้งยิงคำถามนี้เข้าใส่

และฮั่วหรู่หยานยังทราบอีกว่า เด็กหนุ่มคนนี้หลงรักคนรุ่นแม่ได้ง่าย นี่จึงเป็นสาเหตุที่เธอนึกคำถามนี้ขึ้นได้เช่นกัน

ดั่งที่ว่าเสน่ห์ของอิสตรีคือลูกเล่นร้อยเล่มเกวียน ฮั่วหรู่หยานมีลูกล่อลูกชนใช้เย้าหยอกที่ไร้ที่ติ เธอดึงจังหวะเลือกที่จะไม่เค้นหาคำตอบจากคำถามเมื่อครู่อีกต่อไป แต่ฉลาดเลือกที่จะโปรยเสน่ห์ของเธอต่อไป โดยกล่าวว่า

“ในใจของเสี่ยวฮัง ฉันถือเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบพอรึเปล่านะ? แต่จะว่าไปจะมีหญิงสาวรุ่นแม่คนไหนที่ทั้งสวย และหุ่นดีแบบฉันอีก? เธอว่าจริงไหมจ๊ะเสี่ยวฮัง?”

ชูซินฮังใบหน้าแดงก่ำ ก้มหน้าก้มตาเอ่ยตอบเสียงอ่อนไปว่า

“ครับ…พี่หยานเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติในใจของผม…”

ชูซินฮังไม่ได้โกหกแม้แต่น้อย สาวน้อยสวยใสแบบเหอจือ มันไม่ใช่สเป็กของเขาเลย

ทันใดนั้นชายที่หลบซ่อนอยู่ในมุมมืดก็เอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มว่า

“หรู่หยานเพิ่งมาถึงปักกิ่งได้แค่ไม่กี่เดือน เธอก็มีชื่อเสียงขนาดนี้แล้ว คงไม่เกินจริงไปหรอกนะถ้าจะบอกว่า อีกไม่นานเธอจะขึ้นกลายเป็นสาวงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองหลวง”

ฮั่วหรู่หยานขมวดคิ้วเล็กน้อย กล่าวว่า

“อย่างฉันจะไปเทียบกับคุณหนูคนโตของสกุลชูได้ยังไง?”

ชายคนนั้นเองก็ตอบกลับไปตามตรงเช่นกัน

“แน่นอน ซินซูสวยกว่าเธอ”

ฮั่วหรู่หยานถึงกับหัวเราะคิกคักดังออกมา

“นี่มันไม่ดูย้อนแย้งไปหน่อยเหรอ? เมื่อกี้นายยังพูดอยู่เลยว่า ฉันจะกลายเป็นสาวงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองหลวง?”

ชายคนนั้นยิ้มตอบไปว่า

“นี่ก็ไม่ได้โกหกเหมือนกัน คนที่เรารักย่อมสวยกว่าทุกสิ่งในสายตาของเรา ชูซินเป็นผู้หญิงที่ฉันรักย่อมต้องสวยที่สุดอยู่แล้ว ส่วนที่ว่าเธอเป็นสาวงามอันดับหนึ่ง ฉันพูดแทนผู้ชายทุกคนในปักกิ่ง”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+