ยอดคุณหมอสกุลเฉินตอนที่252 ฟื้นอย่างปาฏิหารย์

Now you are reading ยอดคุณหมอสกุลเฉิน Chapter ตอนที่252 ฟื้นอย่างปาฏิหารย์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่​252 ฟื้น​อย่าง​ปา​ฏิหารย์​

ฉีเล่ย​ไม่เข้าใจ​จริงๆ​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​ตนเอง​กัน​แน่​ แต่​เขา​สัมผัส​ได้​ว่า​ เวลานี้​เริ่ม​มีการเปลี่ยนแปลง​เกิดขึ้น​ภายใน​ร่างกาย​ของ​เขา​

เช่นเดียวกับ​ที่​ภายใน​หลุมดำ​ลึกลับ​แห่ง​นี้​ ที่​ได้​เริ่ม​มีควัน​สีแดง​พวยพุ่ง​ออกมา​หลังจากที่​จัดการ​กับ​แมลง​สีดำ​ตัวเล็ก​นั้น​ได้​แล้ว​

ควัน​สีแดง​ที่​พวยพุ่ง​ออกมา​นั้น​ ให้​ความรู้สึก​ร้อนแรง​แข็งแกร่ง​อย่าง​เพศชาย​

ฉีเล่ยพอ​จะคาดเดา​ได้​บ้าง​ว่า​ นี่​อาจจะ​เป็น​เหตุผล​ที่​นักพรต​ซวน​จื่อซือ​ได้​มอบ​ประคำ​โลหิต​ม่วง​ให้​กัย​เขา​ เพราะ​ภายใน​มีพลัง​หยาง​บริสุทธิ์​

เวลานี้​ ฉีเล่ย​รู้สึก​ได้​ว่า​ร่างกาย​ของ​เขา​นั้น​มีการเปลี่ยนแปลง​ไป​ใน​ทาง​ที่​ดีขึ้น​มาก​ ส่วน​บริเวณ​ไหล่​ขวา​ที่​มีหนอน​กู่​อยู่​นั้น​ อาการ​ปวด​ก็​ค่อยๆ​บรรเทา​ลง​ ไม่ได้​รู้สึก​เจ็บปวด​เหมือนก่อน​อีก​

ทีม​แพทย์​ที่ทำการ​รักษา​ฉีเล่ย​อยู่​นั้น​เริ่ม​จะยอมแพ้​ พวกเขา​ต่าง​ก็​ไม่เคย​พบ​เจอ​อาการ​เจ็บป่วย​เช่นนี้​มาก่อน​ และ​หาก​ฉีเล่ย​ถูก​วางยา​จริงๆ​ การ​ฉีดยา​ที่​มีฤทธิ์​ใน​การ​สลาย​พิษ​ก็​น่าจะ​ช่วย​อะไร​ได้​บ้าง​ แต่​ไม่ว่า​พวกเขา​จะพยายาม​ทำ​อะไร​ลง​ไป​ ก็​ดูเหมือน​จะเปล่าประโยชน์​ ไม่มีอะไร​ดีขึ้น​เลย​แม้แต่น้อย​ ทำให้​ทีม​แพทย์​เริ่ม​ท้อแท้​สิ้นหวัง​

“ผู้อำนวยการ​คะ​ จะเอา​ยังไง​ต่อ​ดี​คะ​?”

พยาบาล​คน​หนึ่ง​ใน​ห้อง​ฉุกเฉิน​ได้​แต่​ร้องถาม​ออก​ไป​ด้วย​สีหน้า​ตื่นตระหนก​ นั่น​เพราะ​ฉีเล่ย​มีฐานะ​เป็น​ถึงประธาน​แพทย์​สภาที่​มีชื่อเสียง​ในเวลานี้​ หาก​เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​เขา​ โรงพยาบาล​ที่ทำการ​รักษา​เขา​อยู่​ก็​คงจะ​หลีกเลี่ยง​ความรับผิดชอบ​ไม่ได้​

“รอ​ดู​ต่อ​อีกหน่อย​จะดีกว่า​ ไม่แน่​ว่า​ยา​ที่​ฉีด​เข้าไป​อาจจะ​ยัง​ไม่ออกฤทธิ์​เต็มที่​..”

ผู้อำนวยการ​ได้​แต่​ตอบกลับ​ไป​ด้วย​สีหน้าที่​ดู​ท้อแท้​สิ้นหวัง​

แต่​ในขณะที่​ทุกคน​เริ่ม​จะถอดใจ​ยอมแพ้​ พยาบาล​คน​เดิม​ก็​ร้อง​อุทาน​ออกมา​เสียงดัง​ด้วย​ความ​ตกอกตกใจ​ ระคน​ประหลาดใจ​

“ผะ​.. ผู้อำนวยการ​คะ​ ดู​นั่นสิ​คะ​!”

ท่ามกลาง​สายตา​ของ​ทีม​แพทย์​และ​พยาบาล​ภายใน​ห้อง​ฉุกเฉิน​ จู่ๆ บาดแผล​เน่า​เฟะที่​ไหล่​ และ​มีทั้ง​เลือด​ทั้ง​น้ำหนอง​ไหล​เยิ้ม​ออกมา​อย่าง​น่าสยดสยอง​นั้น​ ก็​ค่อยๆ​กลับคืน​สู่สภาพเดิม​อย่าง​รวดเร็ว​ ทุก​คนใน​ห้อง​ต่าง​ก็​เห็น​เหตุการณ์​ที่​เกิดขึ้น​ด้วย​ดวงตา​ทั้งสอง​ของ​ตัวเอง​

และ​ใน​เวลา​ไม่ถึงหนึ่ง​นาที​ บาดแผล​ที่​น่ากลัว​นั้น​ก็ได้​กลับคืน​สู่สภาพ​ปกติ​ ส่วน​ใบหน้า​ของ​ฉีเล่ย​นั้น​ กลับ​กลายเป็น​มีเลือดฝาด​และ​ดู​สุขภาพ​ดีกว่า​เดิม​ด้วยซ้ำ​ไป​

การเปลี่ยนแปลง​อัน​น่าอัศจรรย์​ที่​ปรากฏ​ต่อ​สายตา​เวลานี้​ ได้​ทำให้​ทุกคน​ใน​ห้อง​ทั้ง​ประหลาดใจ​และ​อัศจรรย์​ใจไป​พร้อม​ๆกัน​ ทุกคน​รู้สึก​ราวกับว่า​ นี่​เป็น​ฉาก​หนึ่ง​ใน​การถ่ายทำภาพยนตร์​

กระทั่ง​เวลา​ผ่าน​ไป​ราว​สอง​สามนาที​ ทุก​คนใน​ห้อง​ต่าง​ก็​ยัง​คงอยู่​ใน​อาการ​ตกตะลึง​ และ​ตกอกตกใจ​ ในขณะที่​ฉีเล่ย​เอง​ก็​รู้สึกตัว​ตื่นขึ้น​มา

แต่​เมื่อ​ลืมตา​ขึ้น​มาและ​พบ​ว่า​ตนเอง​กำลัง​นอน​อยู่​บน​เตียง​ที่​คล้าย​กับ​เตียง​ผ่าตัด​ตาม​โรงพยาบาล​ ฉีเล่ย​ก็​ไม่รู้​ว่า​ตนเอง​ควรจะ​หัวเราะ​ หรือว่า​ร้องไห้​ดี​ และ​ได้​แต่​เอ่ย​ถามออก​ไป​ด้วย​ความ​งุนงง​

“นี่​พวกคุณ​ทำ​อะไร​กัน​?”

แต่​หลังจาก​พูด​จบ​ เขา​นึก​อะไร​บางอย่าง​ขึ้น​มาได้​ ถงเซียว​เซียว​น่าจะเป็น​คน​ส่งเขา​มาโรงพยาบาล​หลังจากที่​เขา​หมดสติ​ไป​ ส่วน​เหตุการณ์​ที่​เกิดขึ้น​ระหว่าง​ที่​เขา​หมดสติ​นั้น​ น่าจะเป็น​เพียงแค่​ความฝัน​

ก่อนหน้านี้​ฉีเล่ย​มีอาการสาหัส​อย่าง​มาก​ แต่​เขา​รับรู้​ได้​ว่า​ร่างกาย​ของ​ตนเอง​นั้น​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​ขึ้น​จริงๆ​ เขา​จึงได้​แต่​หันไป​มอง​ทีม​แพทย์​ และ​พยาบาล​ที่อยู่​รอบตัว​ พร้อมกับ​กำชับ​ด้วย​น้ำเสียง​หนักแน่น​ว่า​

“ขอบคุณ​ทุกคน​ที่​พยายาม​ช่วยชีวิต​ของ​ผม​นะ​ครับ​ แต่​เรื่อง​ที่เกิด​การเปลี่ยนแปลง​กับ​ร่างกาย​ของ​ผม​อย่าง​ที่​ทุกคน​ได้​เห็น​นั้น​ ผม​อยาก​จะขอร้อง​ทุกคน​ให้​เก็บ​เรื่อง​นี้​เป็นความลับ​ อย่า​ได้​ไป​บอก​ให้​คนอื่น​รู้​ ไม่อย่างนั้น​ ผล​ที่​ตามมา​อาจจะ​เลวร้าย​กว่า​ที่​คิด​”

ความจริง​แล้วก็​ไม่ได้​มีผลร้าย​อะไร​หรอก​ เพียงแต่​เรื่อง​แบบนี้​ ไป​บอก​ให้​ใคร​ฟัง ใคร​บ้าง​ที่จะ​เชื่อ​!

ขืน​แพทย์​และ​พยาบาล​ใน​ห้อง​ฉุกเฉิน​ไปเที่ยว​เล่า​ว่า​ ร่างกาย​ของ​ฉีเล่ย​สามารถ​เยียวยา​ตัวเอง​จน​กลาย​เป็นปกติ​ได้​ คน​ที่​ได้​ฟังคงจะ​หัวเราะเยาะ​ และ​เห็น​เป็นเรื่อง​เพ้อเจ้อ​อย่าง​แน่นอน​

เมื่อ​ได้ยิน​น้ำเสียง​ที่​เคร่งเครียด​จริงจัง​ของ​ฉีเล่ย​ ผู้อำนวยการ​โรงพยาบาล​เอง​ก็​สามารถ​เข้าใจ​ได้​ในทันที​ เขา​ได้​แต่​พยักหน้า​และ​ตอบกลับ​ไป​ว่า​

“ครับ​ พวกเรา​ทั้งหมด​ใน​ห้อง​นี้​เข้า​ใจดี​ ดูเหมือนว่า​จะไม่มีใคร​เห็น​อะไร​เลย​ นอกจาก​เครื่องมือแพทย์​ต่างๆ​ พวกคุณ​มีใคร​เห็น​อะไร​บ้าง​ไหม​?”

ใน​เมื่อ​ผู้อำนวยการ​พูด​ออกมา​แบบนี้​ แน่นอน​ว่า​ คนอื่นๆ​ที่อยู่​ภายใน​ห้อง​ผ่าตัด​ ย่อม​ต้อง​เห็น​ตาม​ไป​ใน​ทิศทาง​เดียวกัน​ ทุกคน​จึงได้​แต่​ตอบ​กลับมา​อย่าง​พร้อมเพรียงกัน​

“ไม่เลย​ครับ​ พวกเรา​ก็​เห็น​แต่​เครื่องมือแพทย์​เหมือนกัน​ครับ​!”

ฉีเล่ย​พยักหน้า​พร้อมกับ​ยืดตัว​บิดขี้เกียจ​ ก่อน​จะลุกขึ้น​จาก​เตียง​ แล้ว​เดิน​ออกจาก​ห้อง​ฉุกเฉิน​ไป​ทันที​ ทิ้ง​ให้​แพทย์​และ​พยาบาล​ที่อยู่​ด้านหลัง​ ยืน​จ้องมอง​เขา​ด้วย​ดวงตา​เบิกโพลง​ราวกับ​พบเห็น​ปีศาจ​อสูร​กาย​

เมื่อ​ฉีเล่ย​เดิน​ออกมา​จาก​ห้อง​ฉุกเฉิน​ สายตา​ของ​เขา​ก็​พลัน​เหลือบ​ไป​เห็น​หญิงสาว​สอง​คน​ที่​กำลัง​นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้​หน้า​ห้อง​ และ​ทันทีที่​ถงเซียว​เซียว​กับ​หลิน​ชูว​โม่เห็น​ฉีเล่ย​เดิน​ออกมา​ ทั้งคู่​ก็​จ้องมอง​เขา​ด้วย​ความประหลาดใจ​

“นี่​นาย​คือ​ฉีเล่ย​จริงๆ​น่ะ​เหรอ​?”

ถงเซียว​เซียว​ร้องถาม​ออกมา​อย่าง​ไม่อยาก​จะเชื่อ​สายตา​ตัวเอง​

ฉีเล่ย​ฟังแล้ว​ก็ได้​แต่​หัวเราะ​ออกมา​ ก่อน​จะตอบ​หญิงสาว​กลับ​ไป​ว่า​ “ฮ่าๆๆ ถ้าไม่ใช่ผม​ แล้ว​จะเป็น​ใคร​ได้​อีก​ล่ะ​ห๊ะ?”​

ถงเซียว​เซียว​ที่​ยังคง​จ้องมอง​ฉีเล่ย​ด้วย​สีหน้าตื่น​ตระหนกตกใจ​นั้น​ หลังจากที่​ฉีเล่ย​พูด​จบ​ เธอ​ก็​ถึงกับ​ร้องไห้​โฮออกมา​ทันที​ พร้อมกับ​โผ​เข้า​กอด​ชายหนุ่ม​แนบแน่น​ ปาก​ก็​ร้อง​ตะโกน​ออกมา​ว่า​

“ฮือ​ๆๆ ฉัน​กลัว​ว่า​นาย​จะตาย​ไป​จริงๆ​ซะอีก​ นี่​นาย​รู้​บ้าง​ไหม​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​ตัวเอง​บ้าง​?”

“กลัว​ว่า​ผม​จะตาย​งั้น​เหรอ​?”

ฉีเล่ย​ถึงกับ​หัวเราะ​ร่วน​ ก่อน​จะพูด​ต่อว่า​ “ฮ่าๆๆ ไม่ต้อง​กลัว​หรอก​น่า​ คน​อย่าง​ผม​ไม่ตาย​ง่ายๆ​แน่​ ผม​แค่​ตกหลุมพราง​ของ​คน​พวก​นั้น​เข้า​เท่านั้นเอง​ล่ะ​!”

หญิงสาว​ทั้งสอง​คน​ไม่มีใคร​ถามฉีเล่ย​เลย​ว่า​ เขา​ฟื้น​ขึ้น​มาได้​ยังไง​? ราวกับว่า​สิ่งที่​ฉีเล่ย​เป็นอยู่​นั้น​ เป็นเรื่อง​ปกติ​ธรรมชาติ​ และ​เป็น​เหตุ​เป็นผล​

หลังจากที่​ถงเซียว​เซียว​หยุด​ร้องห่มร้องไห้​แล้ว​ หลิน​ชูว​โม่ก็ได้​เดิน​เข้า​ไปหา​ฉีเล่ย​พร้อมกับ​เอ่ย​ถามขึ้น​ว่า​ “นี่​นาย​รู้​ไหม​ว่า​เป็น​ฝีมือ​ของ​ใคร​?”

แม้ว่า​หลิน​ชูว​โม่จะรีบรุด​บิน​มาจาก​ปักกิ่ง​เพราะ​ความเป็นห่วง​ แต่​ใน​ฐานะ​ที่​เธอ​เป็นเจ้าของ​ธุรกิจ​ที่​ต้อง​ผ่าน​การแก้ปัญหา​ และ​ตัดสิน​ใจมามาก​ เธอ​จึงรู้​ว่า​ใน​เวลา​ไหน​ควรจะ​พูด​อะไร​?

“รู้​สิ! เป็น​ฝีมือ​ของ​สามีภรรยา​เผ่า​เหมี่ยว​คู่​หนึ่ง​ ก่อนหน้านี้​ผม​ก็​รู้สึก​ว่า​ทั้งคู่​ดู​แปลก​ๆอยู่แล้ว​ แต่​ก็​คิดไม่ถึง​ว่า​ พวก​มัน​จะชั่วช้า​ถึงขนาด​กล้า​ใช้หนอน​กู่​เล่นงาน​ผม​ตอน​เผลอ​ มิหนำซ้ำ​ยัง​กล้า​โกหก​ผม​อีกด้วย​”

ฉีเล่ย​เล่า​ให้​หลิน​ชูว​โม่ฟังด้วย​น้ำเสียง​ที่​บ่งบอก​ว่า​กำลัง​โกรธเกรี้ยว​อย่าง​มาก​ และ​ต่อให้​เขา​จะระมัดระวัง​มาก​แค่​ไหน​ ก็​คง​ยาก​ที่จะ​ต้านทาน​วิชา​กู่​นี้​ได้​

ดูเหมือน​หลิน​ชูว​โม่เอง​ก็​จะเคย​ได้ยิน​เรื่องราว​เกี่ยวกับ​ชน​เผ่า​เหมี่ยว​มาบ้าง​แล้ว​เช่นกัน​ จึงได้​ยิงคำถาม​ที่​ค่อนข้าง​ล้วงลึก​มากมาย​ แต่​เป็น​เพราะ​ยังอยู่​ใน​เขต​ของ​โรงพยาบาล​ ฉีเล่ย​จึงไม่ต้องการ​ที่จะ​พูด​อะไร​มาก​นัก​ และ​ได้​ตอบกลับ​ไป​เพียงแค่​ว่า​

“กลับ​โรงแรม​กัน​ก่อน​ดีกว่า​ แล้ว​ค่อย​คุย​เรื่อง​นี้​กัน​”

เนื่องจาก​หลิน​ชูว​โม่รีบร้อน​มาที่นี่​ จึงยัง​ไม่ได้​จอง​ห้องพัก​ไว้​ แม้โรงแรม​ที่​ฉีเล่ย​กับ​ถงเซียว​เซียว​พัก​นั้น​ จะอยู่​ค่อนข้าง​ห่างไกล​จาก​โรงพยาบาล​ แต่​ทั้งหมด​ก็​ต้อง​ไป​รวมตัวกัน​ที่นั่น​

…….

“ไหน​เล่า​มาสิว่า​มัน​เกิดเรื่อง​บ้า​ๆแบบนี้​ขึ้น​ได้​ยังไง​?”

ทันทีที่​กลับ​ไป​ถึงห้องพัก​ของ​ฉีเล่ย​ หลิน​ชูว​โม่ก็​ร้องถาม​ออกมา​ด้วย​ความ​ร้อนใจ​ทันที​

ฉีเล่ย​ได้​เล่า​เหตุการณ์​ที่​เกิดขึ้น​ภายในบ้าน​ของ​ซือ​ไถให้​หญิงสาว​ฟัง จากนั้น​จึงได้​จ้องหน้า​หลิน​ชูว​โม่พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ด้วย​ความสงสัย​

“ผม​รู้สึก​ว่า​ เรื่อง​ทั้งหมด​ที่​เกิดขึ้น​ มัน​เหมือน​มีการ​สมรู้ร่วมคิด​กัน​ แล้วก็​มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง​ยังไง​ก็​ไม่รู้​สินะ​!”

หลังจาก​พยายาม​เชื่อมโยง​เรื่องราว​ทั้งหมด​เข้าด้วยกัน​ ฉีเล่ย​ก็​รู้สึก​ว่า​ เรื่อง​ที่​ซิ่ว​เอ๋อ​กับ​อี้​ชาต้องการ​สะสางปัญหา​ส่วนตัว​กับ​ซือ​ไถนั้น​ มัน​ดูเหมือน​มีความพยายาม​ที่​ไม่จริงจัง​อะไร​นัก​

“สอง​ผัวเมีย​เผ่า​เหมี่ยว​นั่น​รู้​ว่า​ผม​กำลัง​ตามหา​พวกเขา​ พวกเขา​ก็​เลย​ตั้งใจ​ให้​ผม​หา​พวกเขา​พบ​ และ​ระหว่าง​ที่​พูดคุย​กัน​นั้น​ ก็​อาศัย​จังหวะ​ที่​ผม​เผลอไผล​ไม่ระมัดระวัง​ตัว​ ใช้วิชา​กู่​ฝังหนอน​กู่​เข้าไป​ที่​ไหล่​ของ​ผม​ ผม​รู้สึก​ว่า​ มัน​มีความลับ​อะไร​บางอย่าง​ที่​ผม​ยัง​ไม่รู้​…”

ระหว่าง​ที่​ฉีเล่ย​พูด​นั้น​ ถงเซียว​เซียว​ก็ได้​แต่​นั่ง​ทำตา​ปริบๆ​ พร้อมกับ​จ้องมอง​ฉีเล่ย​ด้วย​สีหน้า​แววตา​เป็นประกาย​ราวกับ​เด็ก​ไร้เดียงสา​

“แล้ว​นี่​นาย​จะทำ​ยังไง​ต่อ​?”

หลิน​ชูว​โม่ร้องถาม​ออก​ไป​ทันที​

“ผมคง​ต้อง​อยู่​ที่นี่​ต่อ​อีก​สักพัก​ เพื่อที่จะ​สืบ​ให้​รู้​แน่​ว่า​ สอง​ผัวเมีย​เผ่า​เหมี่ยว​นั่น​ต้องการ​อะไร​กัน​แน่​? อีก​อย่าง​ ผม​ก็​ต้องการ​ตามหา​ถงซีด้วย​”

“ห​ลี่​ถงซีน่ะ​เหรอ​?! แล้ว​เธอ​มาเกี่ยว​อะไร​กับ​เรื่อง​นี้​ด้วย​?”

หลิน​ชูว​โม่ร้องถาม​ออกมา​ด้วย​สีหน้า​งุนงง​ และ​เริ่ม​รู้สึก​ว่า​เรื่องราว​ที่​เกิดขึ้น​ใน​ตอนนี้​ ดูเหมือน​จะแปลกประหลาด​และ​ซับซ้อน​กว่า​ที่​คิด​ เพราะ​ไม่เพียง​เกี่ยว​ข้อ​กับ​ชน​เผ่า​เหมี่ยว​ แต่​ยังมี​ห​ลี่​ถงซีเข้ามา​เกี่ยวข้อง​อีก​

“ผม​เอง​ก็​ไม่แน่ใจ​เหมือนกัน​ มัน​มีบางอย่าง​เกิดขึ้น​ ซึ่งผม​เอง​ก็​ยัง​หา​เหตุผล​ไม่ได้​ และ​ไม่รู้​ว่า​เธอ​มาทำ​อะไร​ที่​เจียง​ห​ลิง​?”

ฉีเล่ย​ตอบกลับ​เสียง​เบา​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด