ตอนที่245 ตื่นเต้นประหลาดใจ

หากเหตุการณ์ครั้งนี้หนักหนาอย่างมาก แน่นอนว่ารายการในคืนนี้คงต้องถูกตัดจบก่อนหมดเวลาอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นยังอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมได้

ฉีเล่ยรู้ดีว่าตอนนี้เขากำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์แบบไหนอยู่ และเหตุผลใหญ่ที่เขาตกลงรับปากมาออกรายการก็คือ ต้องการใช้โอกาสนี้โปรโมทสภาแพทย์แผนจีนของตนให้เป็นที่รู้จักของคนในประเทศ

แล้วหากปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้น จากนี้ไปยังจะมีใครเชื่อถือสภาแพทย์แผนจีนของเขาอีกเล่า?

และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลานี้จึงมีทั้งข้อดี และข้อเสียในคราวเดียว

เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์ผิดพลาดเกิดขึ้น ฉีเล่ยจึงต้องตรวจอาการผู้ป่วยอย่างละเอียด

ในฐานะที่เป็นประธานสภาแพทย์แผนจีน และมีผู้ชมนั่งอยู่เต็มห้องส่งแบบนี้ หากฉีเล่ยปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เลวร้าย ที่แม้แต่เขายังไม่สามารถแก้ไขได้แล้วล่ะก็ คำพูดทั้งหมดที่เขาพูดในรายการคืนนี้ คงจะต้องเป็นเรื่องหลอกลวงอย่างแน่นอน

และในขณะที่ทุกคนกำลังตกอกตกใจ ทั้งทีมงานและพิธีกรต่างก็หันไปมองฉีเล่ยเพื่อส่งสัญญาณบอกฉีเล่ยว่า จะต้องหยุดการถ่ายทอดกลางคัน แต่ฉีเล่ยกลับพยักหน้าส่งสัญญาณตอบไปว่า เขาสามารถจัดการกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ได้ ไม่ต้องกังวลใจไป

หลังจากที่ทีมงานได้รับสัญญาณจากฉีเล่ยเช่นนั้น พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่า สิ่งที่พวกเขาควรทำต่อจากนี้คืออะไร

ตากล้องจัดการแพนกล้องไปจับที่ใบหน้าของฉีเล่ย ก่อนจะค่อยๆ ดึงห่างออกมาให้เห็นท่าทางการเคลื่อนไหวของฉีเล่ยในตอนนี้แทน

หลังจากทำการตรวจอาการของผู้ป่วยด้วยเข็มเงินจนมั่นใจ และสามารถยืนยันอาการป่วยได้เป็นอย่างดีแล้ว จึงได้หยิบเอาขวดยาดินเผาสีขาวประดับลายสีน้ำเงินออกมา แล้วค่อยนำยาที่อยู่ด้านในไปวางไว้บนริมฝีปากของผู้ป่วยด้วยท่าทีที่ไม่รีบร้อน

ในเวลาเพียงเสี้ยววินาที เม็ดยาบนริมฝีปากค่อยๆละลายอย่างช้าๆ กระทั่งกลายเป็นของเหลวที่ไหลซึมลงไปในลำคอของผู้ป่วย

ทั้งผู้ชมในห้องส่ง ทีมงาน และพิธีกรต่างก็ทำสีหน้างุนงง เพราะไม่มีใครเคยเห็นยาเม็ดประเภทนี้มาก่อนเลย ในสถานการณ์เร่งด่วนที่ต้องกินยาแพทย์แผนตะวันตกนั้น ถ้าไม่กลืนก็ต้องเคี้ยวเอา หรือไม่ก็เป็นยาน้ำไปเลย

แต่ยาเม็ดของฉีเล่ยนั้น กลับเป็นประโยชน์อย่างมากต่อคนไข้ที่หมดสติเช่นนี้!

และหลังจากที่ฉีเล่ยนำยาไปวางไว้บนริมฝีปากของผู้ป่วยผ่านไปราวสิบนาที ผู้ป่วยคนนั้นก็ค่อยๆลืมตาขึ้น แม้ว่าริมฝีปากของเขาจะยังคงขาวซีด แต่อย่างน้อยเวลานี้ก็ได้ฟื้นคืนสติขึ้นมาแล้ว

เมื่อเห็นว่าผู้ป่วยฟื้นคืนสติขึ้นมาได้ ทุกคนในห้องส่งก็ถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ในเวลาเช่นนี้ ขอเพียงแค่อีกฝ่ายไม่เสียชีวิตในรายการ ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีมากแล้ว

จากนั้น ฉีเล่ยก็ได้ปล่อยให้ทีมงานนำตัวผู้ป่วยรายนั้นออกไปจากห้องส่งที่กำลังถ่ายทอดสด และหลังจากที่พูดอะไรไปราวสองสามประโยค ฉีเล่ยก็กลับไปนั่งประจำที่บนเวทีตามเดิม

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนั้น ได้ทำให้พิธีกรถึงกับตกใจกลัวอย่างมาก แต่เมื่อเห็นว่า ทุกอย่างสามารถผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และฉีเล่ยกลับขึ้นมาบนเวทีด้วยสีหน้าท่าทางเป็นปกติ พิธีกรจึงเริ่มการสัมภาษณ์ต่อทันที

การการทำของฉีเล่ยในครั้งนี้ ไม่เพียงช่วยให้รายการสดสามารถดำเนินรายการต่อไปได้อย่างราบรื่น แต่ยังช่วยทำให้รายการมีความตื่นเต้นน่าสนใจมากกว่าเดิมอีกด้วย

ที่ผ่านมา ทางรายการจะเพียงแค่เชิญแพทย์แผนจีนที่มีชื่อเสียงมาสัมภาษณ์เท่านั้น แต่สิ่งที่ฉีเล่ยทำในรายการวันนี้ ได้เปลี่ยนจากรายการที่น่าเบื่อหน่ายให้เป็นลุ้นระทึกแทน

ไม่เพียงฉีเล่ยจะแก้ไขสถานการณ์ฉุกละหุกที่เกิดขึ้นได้ แต่เขายังสามารถปลุกผู้คนให้ตื่นขึ้นด้วยเทคนิคการรักษาอันน่าอัศจรรย์ และยาเม็ดมหัศจรรย์ สิ่งเหล่านี้ได้ดึงดูดความสนใจของคนอีกมากมาย

“อาจารย์ฉีครับ หากการรักษาเมื่อครู่ไม่เป็นความลับ ช่วยแชร์ให้พวกเราได้รู้บ้างจะได้ไหมครับ?”

ฉีเล่ยหัวเราะในลำคอ ก่อนจะตอบพิธีกรกลับไปว่า

“ด้วยความยินดีครับ การรักษาผู้ป่วย หรือช่วยชีวิตคนไม่ควรต้องเป็นความลับอะไร ยาเม็ดที่ผมใช้รักษาผู้ป่วยเมื่อครู่นี้ เป็นยาเม็ดที่สภาแพทย์แผนจีนของเราเพิ่งทำการวิจัย และพัฒนาขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยในยามฉุกเฉิน เห็นไหมครับว่า ยาจีนไม่ได้มีแต่ยาต้มอย่างเดียว เพียงแต่ตอนนี้ทางเรายังไม่ได้นำออกขายสู่ตลาดอย่างเป็นทางการ ต้องรอให้ผ่านขั้นตอนการขอการรับรองเรื่องความปลอดภัยจากองค์กรที่เกี่ยวข้องก่อนครับ”

“ผมว่าทุกคนคงจะตั้งหน้าตั้งตารอให้ยานี้ออกสู่ตลาดเลยล่ะครับ” พิธีกรกล่าวเสริมขึ้น

ฉีเล่ยเพียงแค่หัวเราะเบาๆ ส่วนผู้ชมในห้องส่งต่างก็พากันปรบมืออย่างพร้อมเพรียง

หลังจากเกิดเหตุการณ์กะทันหันขึ้นในรายการถ่ายทอดสดแล้ว ก็ได้เกิดการค้นหาชื่อรายการ ‘เวทีแพทย์แผนจีน’ ขึ้นภายในโลกโซเชียล อีกทั้งเรตติ้งของรายการก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างกะทันหันอีกด้วย และเกือบจะกลายเป็นรายการที่มีคนดูระดับประเทศเลยทีเดียว

แต่แน่นอนว่า ไม่ได้มีเพียงแค่เสียงชื่นชม แต่ยังมีเสียงของความสงสัยคลางแคลงใจอีกด้วย!

เสียงจากผู้คนในโลกโซเชียลส่วนหนึ่งนั้น ต่างก็รู้สึกทึ่งในความสามารถทางการแพทย์ของประธานสภาแพทย์แผนจีนคนนี้ และยังนึกอัศจรรย์ใจในความมหัศจรรย์ของยาเม็ดที่ฉีเล่ยใช้ หลายคนต่างก็ชื่นชม และประสงค์อยากจะซื้อยาที่ว่านี้มาเก็บไว้ที่บ้าน

แต่ก็มีเสียงแตกที่พากันวิพากษ์วิจารณ์ว่า เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นการจัดฉากของทางรายการ เพื่อสร้างกระแสเรียกเรทติ้งเท่านั้นเอง จะเป็นไปได้ยังไงที่รายกายถ่ายทอดสดจะปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกลางรายการจริงๆ?

แต่แน่นอนว่า ฉีเล่ยที่นั่งสัมภาษณ์อยู่ในรายการสด ย่อมไม่ล่วงรู้ถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ภายในโลกโซเชียลเวลานี้ และยังคงถ่ายทำรายการต่อไปเรื่อยๆ

จนกระทั่งผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง การถ่ายทอดสดในคืนนี้จึงได้สิ้นสุดลง และทันทีที่ทีมงานร้องตะโกนบอกว่า ‘จบการถ่ายทอดสด’ ฉีเล่ยก็ถึงกับทิ้งตัวเอนพิงโซฟา และไม่กล้าคาดคิดว่าเหตุการณ์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไร หรือจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?

แม้ว่าสีหน้าของฉีเล่ยจะยังคงดูสงบนิ่งเช่นเดิม แต่ใครจะไปรู้ว่า ตอนนี้ขาทั้งสองข้างของเขานั้นสั่นสะท้านเลยทีเดียว นั่นเพราะเหตุการณ์ฉุกละหุกที่เกิดขึ้นกลางรายการนั้น ไม่เพียงมีผลต่อรายการ แต่ยังมีผลต่อภาพพจน์ของสภาแพทย์แผนจีนของเขาด้วย

แต่นับว่าโชคดีที่เหตุการณ์ทั้งหมดได้ผ่านพ้นไปด้วยดี หลังสิ้นสุดรายการ ทีมงานต่างก็พากันเดินเข้ามาขอบคุณฉีเล่ยจากใจจริง และในวันนี้ ฉีเล่ยก็ได้กลายเป็นผู้มีพระคุณของทางรายการไปแล้ว!

ฉีเล่ยหัวเราะเบาๆพร้อมกับยกมือขึ้นโบกไปมา “ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องขอบคุณผม การรักษาคนไข้เป็นหน้าที่ของแพทย์อย่างผมอยู่แล้วครับ”

หลังจากนั้น ฉีเล่ยก็ได้เดินไปขึ้นรถที่ทางรายการจัดเตรียมไว้ให้ แล้วมุ่งหน้ากลับไปโรงแรมทันที

…….

หลังจากที่ชายชรารู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ถงเซียวเซียวก็ได้ไปนั่งดูแลอยู่ข้างๆ และทั้งคู่ก็ได้นั่งดูรายการเวทีแพทย์แผนจีนที่กำลังถ่ายทอดสดอยู่ด้วยกันจนจบ

ฉีเล่ยที่เปิดประตูห้องพักเข้ามา เห็นทั้งคู่ยังคงไม่นอนจึงได้ร้องถามออกไปว่า “ยังไม่นอนกันอีกเหรอครับนี่?”

“นอนอะไรกันล่ะ? นี่ฉันกะว่าจะเปิดคลิปรายการดูย้อนหลังอีกรอบ นายสุดยอดมากเลยฉีเล่ย! รับรองว่าพรุ่งนี้นายต้องกลายเป็นข่าวโด่งดังในโลกอินเทอร์เน็ตแน่ๆ ดูสิ! หลังจากรายการจบไปไม่เท่าไหร่ ก็มีการพูดถึงเรื่องของนายมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว”

ฉีเล่ยล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาเปิดดูบ้าง และไปสะดุดกับพาดหัวข่าวหนึ่งที่เขียนว่า ‘หมอที่หล่อที่สุด!’ พร้อมกับภาพของฉีเล่ยที่ปรากฏอยู่

หลายคนในโลกอินเทอร์เน็ตได้แคปภาพหน้าจอในรายการ ซึ่งเป็นใบหน้าที่แสดงอาการตกอกตกใจของฉีเล่ยและพิธีกรในขณะที่เกิดเหตุการณ์กะทันหันนั้น และช่วยกันวิเคราะห์ว่ามันไม่ได้ดูเหมือนการจัดฉากแต่อย่างใดเลย

ต้องยอมรับว่า ฉีเล่ยทั้งตื่นเต้นตกใจแล้วก็ประหม่า แต่เมื่อได้มาอ่านความเห็นเหล่านี้ในโลกโซเชียล มันก็ทำให้เขาทั้งประหลาดใจ และชื่นใจไปพร้อมๆกัน

นั่นเพราะจุดที่เป็นประเด็นสำคัญนั้นไม่ได้อยู่ที่ตัวเขา แต่เป็นความฮือฮาของยาเม็ดในมือฉีเล่ย และชื่อของสภาแพทย์แผนจีนนั่นเอง

และหลังจากที่รายการออกอากาศไปแล้ว ชื่อของสภาแพทย์แผนจีน ก็ได้เข้าไปอยู่ในชีวิตของผู้คนในสังคมมากขึ้น หลายคนที่ไม่เคยได้ยินชื่อองค์กรนี้มาก่อน ต่างก็พากันไปค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรนี้

ยิ่งอ่านฉีเล่ยก็ยิ่งตื่นเต้นดีใจอย่างที่สุด นั่นเพราะนี่นับเป็นข่าวที่ดีมากทีเดียว เขาจึงรีบโทรหาหลินชูวโม่ทันที เพื่อให้เธอวางแผนใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์ครั้งนี้โปรโมทสภาแพทย์แผนจีนต่อไป!