ยอดคุณหมอสกุลเฉินตอนที่260 หญ้าท้อ

Now you are reading ยอดคุณหมอสกุลเฉิน Chapter ตอนที่260 หญ้าท้อ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่​260 หญ้า​ท้อ​

ว่าน​เซี่ยงตง​รู้ดี​ว่า​คนใน​เผ่า​ของ​ตน​นั้น​กำลัง​คิด​อะไร​ ประกอบ​กับ​เหตุการณ์​ที่เกิด​ขึ้นกับ​ลูกชาย​ของ​ตนเอง​ ทำให้​เขา​ไม่สามารถ​ควบคุม​อารมณ์​ได้​อีกต่อไป​ จึงได้​ส่งจดหมาย​ไป​ท้า​ประลอง​กับ​หวัง​เซิ่งอี้​

-นับแต่​นี้​เป็นต้นไป​ สอง​ตระกูล​ที่​เคย​เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน​คง​ต้อง​ขาดสะบั้น​ลง​ หลังจากนี้​สามวัน​ พวกเรา​สอง​คน​ไป​พบ​กันที่​ลาน​ประลอง​ ใคร​ที่​เป็น​ฝ่าย​ชนะ​จะมีสิทธิ์​ได้​อยู่​ใน​จงหยวน​ต่อไป​ ส่วน​ผู้แพ้​ต้อง​ยอม​ออก​ไป​จาก​ที่นี่​แต่​โดยดี​-

หลังจาก​ที่หวัง​เซิ่งอี้​ได้​อ่าน​จดหมาย​ท้า​ประลอง​แล้ว​ เขา​ก็​รู้สึก​ชาไป​ทั่ว​ทั้ง​ร่าง​ ดวงตา​ทั้งคู่​จ้องมอง​เนื้อหา​ใน​จดหมาย​ท้า​ประลอง​ใน​สภาพ​เหม่อลอย​ เขา​คิดไม่ถึง​จริงๆ​ว่า​ น้องชาย​ร่วม​สาบาน​ที่​แสน​ดี​จะกลับกลาย​มาเป็น​คน​ไร้เหตุผล​แบบนี้​ไป​ได้​

“แล้ว​หลังจากนั้น​เกิด​อะไร​ขึ้น​อีก​เหรอ​ครับ​? พวกเขา​ทั้งสอง​คน​ไป​ประลอง​กัน​จริงๆ​น่ะ​เหรอ​?”

ความจริง​แล้ว​ ก่อนหน้านี้​ฉีเล่ย​ตั้งใจ​ที่จะ​มาถามอาจารย์​ของ​เขา​เกี่ยวกับ​วิธีการ​กำจัด​หนอน​กู่​ แต่กลับ​คิดไม่ถึง​ว่า​ จะต้อง​มานั่ง​ฟังเป่ย​ฉวน​เทียน​เล่า​เรื่องราว​บาดหมาง​ใน​อดีต​ ระหว่าง​ชน​เผ่า​เหมี่ยว​กับ​แพทย์​แผน​จีน​เสีย​ยืดยาว​

แต่​เพราะ​เรื่อง​นี้​เป็น​ความบาดหมาง​ที่​ฝังราก​ลึก​ของ​ทั้งสองฝ่าย​ ฉีเล่ย​จึงตั้งใจฟัง​ด้วย​ความ​สนอกสนใจ​ และ​ไม่สามารถ​อดใจ​รอ​ได้​จน​ต้อง​รีบ​ชิงถามออก​ไป​ก่อน​

“หลังจากนั้น​น่ะ​เหรอ​?”

เป่ย​ฉวน​เทียน​ยิ้ม​บาง​ ก่อน​จะเล่า​ต่อว่า​

“เฮ้อ​.. แพทย์​แผน​จีน​เป็น​วิชา​ที่​ใช้สำหรับ​ช่วยชีวิต​คน​ จะเอา​มาเป็น​เครื่องมือ​ต่อสู้​กัน​ได้​ยังไง​กัน​ แต่​จุดประสงค์​ของ​ว่าน​เซี่ยงตง​ใน​การ​ท้า​ประลอง​นั้น​ ก็​เพียงแค่​ต้องการ​จะสื่อ​ให้​หวัง​เซิ่งอี้​รู้​ว่า​ วิชาแพทย์​แผน​จีน​จะต้อง​เป็น​ของ​ชน​เผ่า​เหมี่ยว​เท่านั้น​”

“แต่​อาวุโส​หวัง​เป็น​คน​ที่​มีจิตใจ​เหมือน​ธรรมดา​ทั่วไป​ซะที่ไหน​กัน​ล่ะ​ หลังจากที่​ใคร่ครวญ​วิเคราะห์​ถึงต้นสายปลายเหตุ​ของ​เรื่องราว​ที่​เกิดขึ้น​ทั้งหมด​แล้ว​ เขา​ก็​ไม่ได้​ตอบ​รับคำ​ท้า​ประลอง​ แต่​ได้​ระดม​เหล่า​นักพรต​จำนวนมาก​ให้​ช่วยกัน​นำ​ยา​กำจัด​หนอน​กู่​ที่​เขา​ได้​คิดค้น​ขึ้น​มา ให้​ไป​ช่วยกัน​จัดการ​กับ​คน​เผ่า​เหมี่ยว​ทั้งหมด​ใน​คืน​นั้น​ทันที​”

“ลูกน้อง​ของ​ว่าน​เหว่​ย​ที่​เคย​ช่วยกัน​ทำร้าย​คนบริสุทธิ์​ก็​ถูก​กำจัด​ในทันที​ ส่วน​คนอื่นๆ​ที่​คิด​จะต่อต้าน​ ก็​จะถูก​พวกเขา​ทำลาย​หนอน​กู่​ทิ้ง​ ในขณะที่​คน​เอ​ื่นๆ​ที่​เหลือ​ ก็ได้​แต่​ถอยร่น​กลับ​ไป​อยู่​ใน​ดินแดน​ที่​ตนเอง​จาก​มา ซึ่งก็​คือ​ตาม​ชายแดน​กุ้ย​โจว​แล​หยุ​น​หนาน​”

“และ​นับ​ตั้งแต่นั้นมา​ แพทย์​แผน​จีน​และ​ชน​เผ่า​เหมี่ยว​ก็ได้​ตัดขาด​จากกัน​ และ​กลายเป็น​อย่าง​ที่​เห็น​อยู่​ใน​ทุกวันนี้​นับแต่​นั้น​เป็นต้นมา​”

“ความจริง​แล้ว​ที่ผ่านมา​ ก็​ใช่ว่า​คน​เผ่า​เหมี่ยว​จะไม่เคย​มาปรากฏตัว​ใน​เมือง​มาก่อน​เลย​ แต่​เป็น​เพราะ​เหตุการณ์​ใน​ครั้งนั้น​ ทำให้​ความ​แข็งแกร่ง​ของ​พวกเขา​ลดลง​ไป​อย่าง​มาก​ ก็​เลย​ไม่มีใคร​สนใจ​พวกเขา​มาก​นัก​ แล้ว​ทำไม​จู่ๆตอนนี้​เธอ​ซึ่งนับ​ได้​ว่า​มีทักษะ​ทางการแพทย์​แผน​จีน​ล้ำเลิศ​มาก​คน​หนึ่ง​ ถึงได้​เกิด​สนอกสนใจ​เรื่อง​พวก​นี้​ขึ้น​มาได้​?”

เป่ย​ฉวน​เทียน​เอ่ย​ถามก่อน​จะยิ้ม​กว้าง​ให้​ลูกศิษย์​

“เฮ้อ​.. ผม​เอง​ก็​ไม่รู้​เหมือนกัน​ครับ​ แต่​ผม​แค่​รู้สึก​ว่า​ ตัวเอง​ไม่สามารถ​ปล่อย​ให้​ชาว​เจียง​ห​ลิง​ต้อง​เผชิญ​กับ​หายนะ​ใน​ชีวิต​ เพียง​เพราะ​การกระทำ​ของ​สอง​ผัวเมีย​เผ่า​เหมี่ยว​นั่น​ได้​ และ​ถ้าผม​ปล่อย​ให้​เรื่อง​เลวร้าย​เกิดขึ้น​โดย​ตัวเอง​ไม่ทำ​อะไร​เลย​ วันหน้า​ต่อให้​ผม​จะมีทักษะ​ทางการแพทย์​ที่​ล้ำเลิศ​แค่​ไหน​ ก็​คงจะ​ต้อง​รู้สึก​ผิด​อยู่​ใน​ใจไป​ตลอดชีวิต​อย่าง​แน่นอน​”

ฉีเล่ย​เอ่ย​ตอบ​ด้วย​ด้วย​สีหน้า​งที่​บ่งบอกถึง​ความโกรธ​

“เอาล่ะ​ๆ ฉัน​รู้​ว่า​ปราชญ์​ทางการแพทย์​อย่าง​เธอ​นั้น​ เป็นธรรมดา​ที่จะ​ต้อง​มีจิตใจ​สูงส่ง ถ้าเธอ​ต้องการ​จะกำจัด​หนอน​กู่​แล้ว​ล่ะ​ก็​ เธอ​จะต้องหา​สมุนไพร​ชนิด​หนึ่ง​ให้​พบ​ก่อน​”

“สมุนไพร​อะไร​เหรอ​ครับ​อาจารย์​?”

และ​นี่​คือ​สิ่งที่​เขา​ต้องการ​รู้มาก​ที่สุด​ และ​เป็น​เหตุผล​เดียว​ที่​ทำให้​เขา​ดั้นด้น​มาตามหา​เป่ย​ฉวน​เทียน​ถึงห​ยู​หนาน​

“หญ้า​ท้อ​! มัน​เป็น​สมุนไพร​ที่​หา​ได้​ยาก​มาก​ และ​มีอยู่​บน​ยอดเขา​หง​ห​ยา​ซาน​นี้​ สำหรับ​สถานการณ์​ที่​เธอ​เผชิญหน้า​อยู่​ใน​ตอนนี้​ ฉัน​ว่า​เพียงแค่​ต้น​เดียว​ก็​น่าจะ​เพียง​พอแล้ว​ล่ะ​”

เป่ย​ฉวน​เทียน​เอ่ย​ตอบ​ด้วย​ใบหน้า​เปื้อน​ยิ้ม​

แม้ว่า​ทักษะ​ทางการแพทย์​แผน​จีน​ของ​เป่ย​ฉวน​เทียน​จะไม่อาจ​เทียบ​ได้​กับ​ชายหนุ่ม​อย่าง​ฉีเล่ย​ แต่​หาก​เป็นเรื่อง​ของ​ประสบการณ์​แล้ว​ล่ะ​ก็​ เขา​นับว่า​เหนือกว่า​มาก​ชายหนุ่ม​อย่าง​ฉีเล่ย​มาก​ทีเดียว​

หลังจาก​ได้​ฟังคำแนะนำ​จาก​เป่ย​ฉวน​เทียน​แล้ว​ และ​สภาพอากาศ​ภายนอก​ก็​เริ่ม​ดีขึ้น​กว่า​เดิม​ ฉีเล่ย​จึงได้​เตรียมตัว​ที่จะ​ออก​ไป​ค้นหา​หญ้า​ท้อ​ท่ามกลาง​สายฝน​ที่​ยังคง​โปรยปราย​อยู่​เล็กน้อย​

“นั่น​เธอ​จะรีบ​ไป​ไหน​?”

เป่ย​ฉวน​เทียน​รีบ​ร้อง​ตะโกน​ห้าม​ฉีเล่ย​ที่​กำลังจะ​ผลุน​ผัน​อก​จาก​เต็นท์​ไป​ พร้อมกับ​พูด​ต่อ​ด้วย​น้ำเสียง​เชิงตำหนิ​

“เธอ​ยัง​ไม่รู้​เลย​ว่า​หน้าตา​ของ​หญ้า​ท้อ​เป็น​ยังไง​ ถึงไป​พบ​เจอ​เข้า​ก็​คง​ไม่รู้​ว่า​นั่น​คือ​สมุนไพร​ที่​ตัวเอง​กำลัง​ตามหา​”

และ​นั่น​ทำให้​ฉีเล่ย​รู้ตัว​ และ​ตระหนักถึง​ความ​โง่เขลา​ใจร้อน​ของ​ตัวเอง​ เป่ย​ฉวน​เทียน​หยิบ​หนังสือ​ภาพ​เล่ม​หนึ่ง​ออก​มาจาก​กระเป๋า​ มัน​เป็น​หนังสือ​ที่​ค่อนข้าง​เก่า​มาก​ กระทั่ง​ขอบ​หนังสือ​บางส่วน​ก็ได้​ฉีกขาด​แล้ว​

“นี่​มัน​หนังสือ​อะไร​เหรอ​ครับ​?”

“นี่​คือ​ตำรา​ร้อย​สมุนไพร​”

เป่ย​ฉวน​เทียน​เอ่ย​ตอบ​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ไม่ดัง​และ​ไม่เบา​จน​เกินไป​ ในขณะเดียวกัน​ ฝ่ามือ​ก็​พลิก​หน้า​หนังสือ​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​ จนกระทั่ง​พบ​ภาพ​ของ​หญ้า​ท้อ​อยู่​ใน​หน้า​สุดท้าย​ของ​หนังสือ​พอดี​

“เธอ​ต้อง​จำเอาไว้​ให้​ดี​ล่ะ​ รอบ​ๆสมุนไพร​ชนิด​นี้​มักจะ​มีแมลง​แปลก​ๆอาศัย​อยู่​ เธอ​จะต้อง​ระมัดระวัง​แมลง​พวก​นี้​ให้​มาก​ เห็น​แล้วก็​อย่า​ไป​เผลอ​จับ​มัน​เข้า​ล่ะ​ ไม่อย่างนั้น​เธอ​ต้อง​จบเห่​แน่​”

เป่ย​ฉวน​เทียน​กำชับ​ฉีเล่ย​ให้​ระมัดระวัง​ใน​สิ่งที่​ควร​ต้อง​ระวัง​ และ​เป็นอันตราย​

“ครับ​อาจารย์​ ผม​เข้าใจ​แล้ว​! แต่​ระดับ​ผม​เนี่ย​ อาจารย์​คิด​ว่า​จะได้รับบาดเจ็บ​ง่ายๆ​เหรอ​ครับ​?”

ฉีเล่ย​ร้องบอก​เป่ย​ฉวน​เทียน​พร้อมกับ​หัวเราะ​ออกมา​อย่าง​อารมณ์ดี​ จากนั้น​ เขา​ก็ได้​จ้องมอง​ชาย​ชรา​แน่นิ่ง​ ก่อน​จะพูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​จริงจัง​

“ท่าน​อาจารย์​ ตำรา​เล่ม​นี้​.. ขอให้​ลูกศิษย์​ได้​ไหม​ครับ​?”

เพียงแค่​เห็น​ตำรา​ร้อย​พิษ​เก่าๆ​ขาด​ๆเล่ม​นี้​ ฉีเล่ย​ก็​รู้​แล้ว​ว่า​มัน​คือ​สมบัติ​ล้ำค่า​ชิ้น​หนึ่ง​ และ​แน่นอน​ว่า​เขา​ย่อม​ต้อง​อยาก​จะได้​มัน​มาครอง​

“ไป​ๆ จะไป​ไหน​ก็​รีบ​ๆไป​! อยาก​จะได้​ตำรา​เล่ม​นี้​น่ะ​เหรอ​ อย่า​ได้​ฝันกลางวัน​ไป​เลย​!”

เป่ย​ฉวน​เทียน​ส่งสายตา​ค้อน​ให้​ฉีเล่ย​พร้อมกับ​โบกมือ​ไล่​ทันที​

หลังจากที่​ฉีเล่ย​มุด​ออกจาก​เต็นท์​ไป​แล้ว​ ท้องฟ้า​ด้าน​นอ​ก็​เริ่ม​มืดครึ้ม​พอดี​ เขา​จึงต้อง​ใช้ไฟฉาย​เปิด​ส่อง​ และ​ค่อยๆ​เดินตาม​ทาง​ขึ้นไป​บน​ยอดเขา​

แม้ว่า​เป่ย​ฉวน​เทียน​จะไม่ต้องการ​ให้​ลูกศิษย์​ของ​ตนเอง​ต้อง​ออก​ไป​เสี่ยง​ใน​ยามค่ำคืน​ แต่​จะทำ​อย่างไร​ได้​ ใน​เมื่อ​สมุนไพร​ชนิด​นี้​ขึ้นอยู่​บน​ยอดเขา​สูงสุด​เท่านั้น​ เขา​จึงไม่มีทางเลือก​ และ​จำต้อง​บอก​กับ​ฉีเล่ย​ไป​

อีก​ทั้ง​ฉีเล่ย​เอง​ก็​มีเวลา​เหลือ​ไม่มาก​นัก​ หาก​เขา​ไม่รีบ​จัดการ​เรื่อง​นี้​ในทันที​ ซิ่ว​เอ๋อ​กับ​อี้​ชาอาจจะ​ลงมือ​กระทำการ​อะไร​บางอย่าง​เสีย​ก่อน​

เพราะฉะนั้น​ เวลา​ทุก​วินาที​จึงเปรียบเสมือน​สมบัติ​ล้ำค่า​ ที่​เขา​จะต้อง​ใช้มัน​อย่าง​เต็มที่​และ​คุ้มค่า​

การ​เดิน​ขึ้น​เขา​ใน​สภาพ​หลัง​ฝนตก​นั้น​ไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​เลย​ ตลอด​เส้นทาง​ล้วน​เต็มไปด้วย​โคลน​ ฉีเล่ย​จึงต้อง​ค่อยๆ​ก้าวเดิน​ขึ้นไป​ทีละ​ก้าว​อย่าง​ยากลำบาก​

“เมื่อไหร่​จะถึงยอดเขา​ซะที​นะ​?!”

ฉีเล่ย​มีสีหน้า​อมทุกข์​อย่าง​มาก​ใน​ระหว่าง​ที่​เดิน​ขึ้น​เขา​ และ​ที่​สำคัญ​ เขา​ไม่รู้​ว่า​เมื่อ​ขึ้นไป​ถึงยอดเขา​แล้ว​ จะสามารถ​หา​หญ้า​ท้อ​พบ​หรือไม่​? และ​เมื่อ​นึกถึง​การกระทำ​ที่​หุนหันพลันแล่น​ของ​ตัวเอง​ เขา​ก็ได้​แต่​นึก​เสียใจ​ขึ้น​มาบ้าง​เล็กน้อย​

……

ใน​ยามค่ำคืน​ของ​เมือง​เจียง​ห​ลิง​เวลานี้​ เริ่ม​มีฝนตก​โปรยปราย​ลงมา​ และ​ดูเหมือนว่า​ที่นี่​จะไม่มีฝนตก​มานาน​หลาย​วัน​แล้ว​

ซือ​ไถได้​แต่​ยืน​เหม่อ​มองออก​ไปนอก​หน้าต่าง​ สายตา​ของ​เขา​จับจ้อง​อยู่​ที่​แผ่น​ฟ้าแน่นิ่ง​ และ​ไม่รู้​ว่า​กำลัง​คิด​อะไร​อยู่​ เขา​อาศัย​อยู่​ใน​ห้องพัก​ของ​โรงแรม​มานาน​หลาย​วัน​แล้ว​ นับตั้งแต่​ที่​ฉีเล่ย​มาพูดคุย​กับ​เขา​ใน​วันนั้น​ นี่​ก็​ผ่าน​ไป​หนึ่ง​วัน​แล้ว​ที่​เขา​ยัง​ไม่พบ​หน้า​ฉีเล่ย​อีก​เลย​

คนเรา​บางครั้ง​ยิ่ง​แก่​ก็​ยิ่ง​กลัว​ความเหงา​ เดิมที​ซือ​ไถคิด​ว่า​ ถ้าตนเอง​ตาย​ๆไป​เสีย​ ทุกอย่าง​ก็​จะได้​จบ​ๆไป​ แต่​โชคร้าย​ที่​ฉีเล่ย​กลับมา​ช่วยชีวิต​ของ​เขา​ไว้​เสีย​ก่อน​ และ​ท้ายที่สุด​ เขา​กลับมา​หายตัว​ไป​เสีย​เอง​แบบนี้​

ยิ่ง​ครุ่นคิด​เรื่อง​ของ​ฉีเล่ย​มาก​เท่าไหร่​ ซือ​ไถก็​ยิ่ง​รู้สึก​อ้างว้าง​โดดเดี่ยว​ และ​เหงา​มากขึ้น​เท่านั้น​ กระทั่ง​ท้ายที่สุด​ เขา​จึงได้​ตัดสินใจ​ออก​ไป​เดินเล่น​ข้างนอก​คนเดียว​

ซือ​ไถผ่าน​ประสบการณ์​ทั้ง​จุดสูงสุด​และ​ต่ำสุด​มาแล้ว​ ความรู้สึกนึกคิด​ต่อ​ชีวิต​ของ​เขา​ใน​ยาม​นี้​ จึงแตกต่าง​จาก​เดิม​ที่​เคย​เป็น​อย่าง​สิ้นเชิง​

แต่​ในขณะที่​ซือ​ไถกำลัง​ถือ​ร่ม​จะก้าวเดิน​ออกจาก​ประตู​นั้น​ ด้านหน้า​ของ​เขา​ก็​ปรากฏ​คน​สอง​คน​ที่​คุ้นเคย​เข้ามา​ยืน​ขวาง​ไว้​เสีย​ก่อน​

“พะ​.. พวก​แก​มาที่นี่​ได้​ยังไง​?”

ซือ​ไถร้องถาม​ออกมา​ด้วย​ความ​ตกอกตกใจ​ และ​เวลานี้​เขา​ก็​รู้สึก​ระ​วน​กระวาย​ใจอย่าง​มาก​

“ดี​จริงๆ​ พวกเรา​กำลัง​คิด​อยู่​ว่า​ จะหาทาง​ให้​แก​เปิด​ประตู​ได้​ยังไง​อยู่​พอดี​ แต่กลับ​คิดไม่ถึง​ว่า​ แก​จะเปิด​ประตู​ออกมา​เอง​ง่ายๆ​แบบนี้​ ทำให้​พวกเรา​สอง​คน​ไม่ต้อง​เสียเวลา​แล้วก็​พลังงาน​ไป​กับ​เรื่องไร้สาระ​”

ซิ่ว​เอ๋อ​หัวเราะ​คิกคัก​ ก่อน​จะพูด​ต่อว่า​ “เอาล่ะ​ ใน​เมื่อ​เปิด​ประตู​ออกมา​แล้ว​ ก็ตาม​พวกเรา​กลับ​ไป​เดี๋ยวนี้​ คิด​ว่า​แก​คงจะ​ไม่อยาก​ให้​พวกเรา​ใช้วิธี​บีบบังคับ​ใช่ไหม​?”

เมื่อ​เห็น​รอยยิ้ม​ที่​น่ากลัว​บน​ใบหน้า​ของ​ซิ่ว​เอ๋อ​ ซือ​ไถก็​เข้าใจ​ความหมาย​ได้​ในทันที​ และ​นี่​เป็น​อีกครั้ง​ที่​เขา​รู้สึก​ว่า​ ตัวเอง​ได้​ตัดสินใจ​อย่าง​ผิดพลาด​ที่สุด​ใน​ชีวิต​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด