ยอดนักรบจอมราชัน 161 อาหารค่ำของครอบครัวที่อบอุ่น

Now you are reading ยอดนักรบจอมราชัน Chapter 161 อาหารค่ำของครอบครัวที่อบอุ่น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลินโรโร่วเหลือบมองเย่เชียนแล้วพูดว่า “คุณน่ะรู้ดีเลยล่ะ!”

ปากของเย่เชียนโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม

“ฉันว่าฉันไปช่วยพวกเขาดีกว่า!” หลินโรโร่วพูดขณะที่เธอวางของลงและเดินเข้าไปในครัว

เย่เชียนหยิบรีโมทขึ้นมาเปิดโทรทัศน์ดูเพื่อฆ่าเวลา เพราะตอนนี้ทุกคนทิ้งเขาเข้าไปอยู่ในครัวกันหมด เสียงของการสนทนาแลกเปลี่ยนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างหลินโรโร่วกับพ่อดังแว่วมาจากในครัว ซึ่งมันทำให้เย่เชียนอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เขาเดาได้ไม่ยากเลยว่าพ่อของเขาต้องกำลังบอกหลินโรวโร่ว่าไม่จำเป็นที่จะต้องมาช่วยแน่ ๆ แต่หลินโรโร่วก็ยังคงยืนกรานที่จะช่วยอยู่ดี

หลังจากนั้นไม่นานอาหารทั้งหมดก็ถูกนำมาวางที่โต๊ะ หยางเจียนกัวหยิบไวน์ขวดหนึ่งออกมาจากตู้และพูดว่า “เราไม่ได้ดื่มด้วยกันมานานแล้วนะ แกมาดื่มกับพ่อสักหน่อยมา” เขาพูดขณะที่รินไวน์ให้กับเย่เชียน

ไวน์แก้วแรกหมดไปอย่างรวดเร็ว เย่เชียนรีบลุกขึ้นหยิบขวดไวน์มารินให้พ่อแล้วจากนั้นเขาก็รินให้ตัวเอง “พ่อครับ สุขภาพของพ่อไม่ค่อยดี อย่าดื่มมากเกินไปนะ”

“ฮ่า ๆ ๆ พ่อของแกยังแข็งแรงอยู่หน่า” หยางเจียนกัวหัวเราะและพูดว่า “ว่าแต่แกยังไม่ได้แนะนำให้พ่อรู้จักกับแม่หนูคนนี้อย่างเป็นทางการกันเลยนะ”

เย่เชียนยิ้ม “โรโร่ว นี่พ่อของผมเองที่ผมเคยพูดให้คุณฟังอยู่บ่อย ๆ ไง ถ้าไม่ใช่เพราะเขาแล้ว ผมก็คงไม่มีวันนี้ พ่อครับ นี่แฟนของผมครับ เธอชื่อหลินโรโร่วเป็นพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลเหรินหมินไงครับ พ่อจำได่รึเปล่า ทั้งสองคนเคยเจอกันมาก่อนแล้วนี่”

“สวัสดีค่ะคุณลุง!” หลินโรโร่วพูดอย่างสุภาพเรียบร้อย

“ฮ่า ๆ ๆ สวัสดี!” หยางเจียนกัวหัวเราะและพูดต่อ “ตอนที่ฉันเห็นหนูครั้งแรกน่ะ ฉันก็รู้สึกได้ทันทีเลยว่าหนูน่ะเป็นเด็กดี และฉันก็แอบหวังอยู่นิด ๆ ว่าอยากจะได้หนูมาเป็นลูกสะใภ้ของบ้านนี้ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าความปรารถนาของฉันนั้นมันจะเป็นจริงในวันนี้” หยางเจียนกัวพูดในขณะที่กำลังดึงซองสีแดงออกมาจากกระเป๋าเสื้อ “อ่ะ… นี่เป็นของขวัญสำหรับการพบกันครั้งแรกของเรา”

“คุณลุงคะ… ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันไม่กล้ารับไว้หรอกค่ะ” หลินโรโร่วปฏิเสธด้วยความตื่นตระหนก

“ฉันตั้งใจมอบมันให้หนู ดังนั้นโปรดรับมันไว้เถอะ ถึงฉันจะไม่ได้มีมาก แต่ฉันก็ไม่สามารถละเลยการต้อนรับได้” หยางเจียนกัวพูดอย่างจริงใจ

หลินโรโร่วยังคงพยายามปฏิเสธ แต่เย่เชียนหันมายิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน จากนั้นก็พูดว่า “พ่อเขาตั้งใจให้คุณ… คุณรับมันไว้เถอะ”

“ขอบคุณค่ะคุณลุง!” ในเมื่อเย่เชียนออกปากพูดมาเช่นนี้แล้ว มันจึงเป็นการดีที่สุดที่หลินโรโร่วจะยอมรับเอาไว้

“มากินกันเถอะ” หยางเจียนกัวพูดด้วยรอยยิ้ม “เสี่ยวเชียนเอ๋อร์! ชนแก้ว!”

“ครับพ่อ!” เย่เชียนยกแก้วขึ้นและพูด

หลังจากที่วางแก้วลงแล้ว เย่เชียนก็หันไปมองฮันเซ่ลที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาอยู่ “เสี่ยวเซ่ล ผลสอบออกมาหรือยัง ? เธอได้โรงเรียนอะไรเหรอ ?”

“โรงเรียนมัธยมปลายในเครือของมหาวิทยาลัยฟู่ตั้นค่ะ” ฮันเซ่ลพูดเสียงเบา

“โอ้…! โรงเรียนนั่นดีนี่ เสี่ยวเซ่ลตั้งใจเรียนให้ดีนะ อย่าทำให้พ่อกับพี่ผิดหวังล่ะ” เย่เชียนพูดต่อ “ถ้ามีปัญหาอะไร เธอถามพี่สองคนนี้ได้ตลอดเลยนะ… เข้าใจมั้ย?”

“ค่ะ” ฮันเซ่ลพยักหน้าและพูดว่า “ขอบคุณค่ะพี่สอง!”

เย่เชียนจ้องมองไปที่เสื้อผ้าของน้องสาวและเห็นว่าพวกมันเก่ามากแล้ว แม้ว่ามันมิอาจจะบดบังความงดงามของฮันเซ่ลได้ แต่เย่เชียนก็รู้สึกหดหู่ที่เห็นเธอไม่มีเสื้อผ้าสวย ๆ ใหม่ ๆ ใส่เหมมือนคนอื่น ๆ “เสี่ยวเซ่ล เธออย่ามัวแต่จดจ่อแต่กับการเรียนเพียงอย่างเดียวสิ พี่ว่าเธอควรไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ ซะบ้างนะ รู้มั้ยว่าพวกพ้องมันก็สำคัญมากเหมือนกัน พี่ว่าเสื้อผ้าของเธอมันชักจะเก่าเกินไปแล้ว ไว้วันหลังพี่จะพาเธอไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ ๆ ที่ห้างดีไหม ? แต่ถ้าพี่ยุ่งมาก พี่อาจจะให้โรโร่วพาเธอไปแทน ตอนนี้น้องพี่โตเป็นสาวแล้วนา เพราะงั้นต้องแต่งตัวให้สวย ๆ เข้าไว้สิ”

“เอางี้มั้ยเสี่ยวเซ่ล ฉันว่างอาทิตย์นี้ เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปเอง” หลินโรโร่วพูดด้วยความยินดี

“ไม่เป็นไรค่ะพี่สอง… ฉันไม่ต้องการเสื้อผ้าใหม่ ๆ หรอก” ฮันเซ่ลพูด

เย่เชียนเข้าใจความคิดความรู้สึกนึกคิดของเด็กผู้หญิงคนนี้ดี แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้รู้จักกันมานานมากนัก แต่เย่เชียนก็สามารถรับรู้ได้ว่าน้องสาวของเขานั้นเป็นคนที่ขี้เกรงใจและไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลย ซึ่งมันเป็นเรื่องที่อันตรายมากสำหรับเด็กสาวในวัยแรกรุ่นหากมีความมั่นใจในตัวเองต่ำ ในเมื่อฮันเซ่ลนั้นเป็นน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา เขาก็ต้องการให้เธอมีความสุขให้มากที่สุดเท่าที่เขาจะสามารถทำให้เธอได้

เย่เชียนยิ้มอย่างอ่อนโยน จากนั้นก็พูดว่า “เด็กโง่… เธอไม่จำเป็นต้องมาเกรงใจอะไรพี่หรอก”

“ค่ะ…” ฮันเซ่ลตอบและไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม ดูเหมือนว่าเธอมีบางอย่างที่แอบซ่อนอยู่ในใจของเธอ ซึ่งเย่เชียนเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน

มื้อเย็นจบลงด้วยความอบอุ่นและผ่อนคลาย มีเพียงฮันเซ่ลเท่านั้นที่นิ่งเงียบอยู่ตลอดเวลา..

ก่อนที่พวกเขาจะจากไปหยางเจียนกัวก็ไม่ลืมบอกให้หลินโรโร่วแวะมาเยี่ยมอีกเมื่อเธอมีเวลา ซึ่งหลินโรโร่วก็ตอบตกลงอย่างมีความสุข เพราะเธอนั้นรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและผ่อนคลายของบ้านนี้ แม้ว่าบ้านของเธอนั้นจะดีมากก็ตาม แต่ตั้งแต่เล็กจนโตเธอก็แทบไม่รู้สึกถึงความอบอุ่นและผ่อนคลายในบ้านของตัวเองเลย

หลังจากที่เย่เชียนและหลินโรโร่วจากไป ฮันเซ่ลก็ให้พ่อไปพักผ่อน เธอลงมือทำความสะอาดจานทั้งหมดด้วยตัวเธอเอง เมื่อเธออาบน้ำชำระล้างร่างกายเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็กลับเข้าไปในห้องนอนของเธอเอง เธอนั่งอยู่บนเตียงสักพักแล้วดึงลิ้นชักออกมาพร้อมกับหยิบรูปถ่ายของครอบครัวที่ถ่ายด้วยกันในโรงพยาบาล ถึงแม้ว่ามันจะเป็นรูปถ่ายครอบครัวแต่ทว่าในรูปใบนั้นกลับไม่ได้มีพี่ใหญ่จ้าวอยู่ในนั่นด้วย

ฮันเซ่ลจ้องมองไปที่ภาพถ่ายพร้อมกับใช้นิ้วลูบตรงใบหน้าของเย่เชียนในภาพถ่ายอย่างเคว้งคว้างล่องลอย…

……

หลังจากเย่เชียนส่งหลินโรโร่วถึงบ้านแล้ว หลินโรโร่วก็จูบเย่เชียนพร้อมกับพูดว่า “ฝันดีนะ… กลับบ้านเร็ว ๆ ล่ะ อย่าลืมพักผ่อนด้วย”

เย่เชียนยิ้มอย่างมีความสุขและพูดว่า “ผมคิดว่าคุณจะขอให้ผมค้างคืนกับคุณด้วยเสียอีก”

หลินโรโร่วจ้องมองเย่เชียนพลางพูดว่า “ฉันเห็นคุณเหม่อลอยตั้งหลายครั้งหลังกินอาหารเย็นกันเสร็จน่ะ ฉันก็เลยคิดว่าคืนนี้คุณจะต้องมีธุระอะไรแน่ ๆ อีกอย่าง… ถ้าฉันให้คุณอยู่ คุณจะอยู่มั้ยล่ะ ?”

เย่เชียนยิ้มเจื่อน ๆ และพูดว่า “คืนนี้ผมมีประชุมกับท่านผู้ว่าน่ะ เรามีเรื่องที่จะต้องคุยกันนิดหน่อย”

“ขับรถระวัง ๆ ด้วยล่ะ” หลินโรโร่วพูดด้วยความเป็นห่วง

“ครับผม… คุณภรรยา” เย่เชียนยิ้มขณะที่เขาพูดต่อ “อย่าลืมคิดถึงผมก่อนนอนล่ะ”

“แน่นอนอยู่แล้วค่า ฮิ ๆ ๆ ” หลินโรโร่วพูดพลางหัวเราะชอบใจ จากนั้นก็เดินเข้าไปในบ้าน

หลังจากเห็นหลินโรโร่วเข้าไปในบ้านแล้ว เย่เชียนก็สตาร์ทรถและมุ่งหน้าตรงไปยังสำนักงานรักษาความปลอยภัยไอร่อนบลัดเพื่อไปรับแจ็ค จากนั้นพวกเขาก็ขับรถต่อไปที่บ้านของหวังปิงในทันที

“เอกสารต่าง ๆ เสร็จหรือยัง ?” เย่เชียนหันไปถามแจ็คขณะที่พวกเขาอยู่ระหว่างทาง

“เสร็จแล้วครับบอส… ผมสรุปแบบรวบรัด มันก็เลยไม่ได้มีรายละเอียดยิบย่อยมากนัก แต่ข้อมูลสำคัญ ๆ ทั้งหมดอยู่ในนั้นหมดแล้วล่ะ ถ้ามีบางส่วนตกหล่นไป เดี๋ยวผมอธิบายให้ได้ แบบนั้นมันน่าจะดีกว่า” แจ็คพูดอย่างมั่นใจ

“ขอบใจนายมากที่ทำงานหนักนะ” เย่เชียนพูดอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย

“โธ่บอส! ใครบอกว่าผมทำงานหนักกัน ? แค่นี้สบายมากสำหรับผม บอสอย่ากังวลไปเลย” แจ็คยักไหล่

เย่เชียนหัวเราะเบา ๆ และไม่พูดอะไรต่อ หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็มาถึงบ้านของหวังปิง เย่เชียนจอดรถและเดินเข้าไปพร้อมกับแจ็ค

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ยอดนักรบจอมราชัน 161 อาหารค่ำของครอบครัวที่อบอุ่น

Now you are reading ยอดนักรบจอมราชัน Chapter 161 อาหารค่ำของครอบครัวที่อบอุ่น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลินโรโร่วเหลือบมองเย่เชียนแล้วพูดว่า “คุณน่ะรู้ดีเลยล่ะ!”

ปากของเย่เชียนโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม

“ฉันว่าฉันไปช่วยพวกเขาดีกว่า!” หลินโรโร่วพูดขณะที่เธอวางของลงและเดินเข้าไปในครัว

เย่เชียนหยิบรีโมทขึ้นมาเปิดโทรทัศน์ดูเพื่อฆ่าเวลา เพราะตอนนี้ทุกคนทิ้งเขาเข้าไปอยู่ในครัวกันหมด เสียงของการสนทนาแลกเปลี่ยนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างหลินโรโร่วกับพ่อดังแว่วมาจากในครัว ซึ่งมันทำให้เย่เชียนอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เขาเดาได้ไม่ยากเลยว่าพ่อของเขาต้องกำลังบอกหลินโรวโร่ว่าไม่จำเป็นที่จะต้องมาช่วยแน่ ๆ แต่หลินโรโร่วก็ยังคงยืนกรานที่จะช่วยอยู่ดี

หลังจากนั้นไม่นานอาหารทั้งหมดก็ถูกนำมาวางที่โต๊ะ หยางเจียนกัวหยิบไวน์ขวดหนึ่งออกมาจากตู้และพูดว่า “เราไม่ได้ดื่มด้วยกันมานานแล้วนะ แกมาดื่มกับพ่อสักหน่อยมา” เขาพูดขณะที่รินไวน์ให้กับเย่เชียน

ไวน์แก้วแรกหมดไปอย่างรวดเร็ว เย่เชียนรีบลุกขึ้นหยิบขวดไวน์มารินให้พ่อแล้วจากนั้นเขาก็รินให้ตัวเอง “พ่อครับ สุขภาพของพ่อไม่ค่อยดี อย่าดื่มมากเกินไปนะ”

“ฮ่า ๆ ๆ พ่อของแกยังแข็งแรงอยู่หน่า” หยางเจียนกัวหัวเราะและพูดว่า “ว่าแต่แกยังไม่ได้แนะนำให้พ่อรู้จักกับแม่หนูคนนี้อย่างเป็นทางการกันเลยนะ”

เย่เชียนยิ้ม “โรโร่ว นี่พ่อของผมเองที่ผมเคยพูดให้คุณฟังอยู่บ่อย ๆ ไง ถ้าไม่ใช่เพราะเขาแล้ว ผมก็คงไม่มีวันนี้ พ่อครับ นี่แฟนของผมครับ เธอชื่อหลินโรโร่วเป็นพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลเหรินหมินไงครับ พ่อจำได่รึเปล่า ทั้งสองคนเคยเจอกันมาก่อนแล้วนี่”

“สวัสดีค่ะคุณลุง!” หลินโรโร่วพูดอย่างสุภาพเรียบร้อย

“ฮ่า ๆ ๆ สวัสดี!” หยางเจียนกัวหัวเราะและพูดต่อ “ตอนที่ฉันเห็นหนูครั้งแรกน่ะ ฉันก็รู้สึกได้ทันทีเลยว่าหนูน่ะเป็นเด็กดี และฉันก็แอบหวังอยู่นิด ๆ ว่าอยากจะได้หนูมาเป็นลูกสะใภ้ของบ้านนี้ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าความปรารถนาของฉันนั้นมันจะเป็นจริงในวันนี้” หยางเจียนกัวพูดในขณะที่กำลังดึงซองสีแดงออกมาจากกระเป๋าเสื้อ “อ่ะ… นี่เป็นของขวัญสำหรับการพบกันครั้งแรกของเรา”

“คุณลุงคะ… ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันไม่กล้ารับไว้หรอกค่ะ” หลินโรโร่วปฏิเสธด้วยความตื่นตระหนก

“ฉันตั้งใจมอบมันให้หนู ดังนั้นโปรดรับมันไว้เถอะ ถึงฉันจะไม่ได้มีมาก แต่ฉันก็ไม่สามารถละเลยการต้อนรับได้” หยางเจียนกัวพูดอย่างจริงใจ

หลินโรโร่วยังคงพยายามปฏิเสธ แต่เย่เชียนหันมายิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน จากนั้นก็พูดว่า “พ่อเขาตั้งใจให้คุณ… คุณรับมันไว้เถอะ”

“ขอบคุณค่ะคุณลุง!” ในเมื่อเย่เชียนออกปากพูดมาเช่นนี้แล้ว มันจึงเป็นการดีที่สุดที่หลินโรโร่วจะยอมรับเอาไว้

“มากินกันเถอะ” หยางเจียนกัวพูดด้วยรอยยิ้ม “เสี่ยวเชียนเอ๋อร์! ชนแก้ว!”

“ครับพ่อ!” เย่เชียนยกแก้วขึ้นและพูด

หลังจากที่วางแก้วลงแล้ว เย่เชียนก็หันไปมองฮันเซ่ลที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาอยู่ “เสี่ยวเซ่ล ผลสอบออกมาหรือยัง ? เธอได้โรงเรียนอะไรเหรอ ?”

“โรงเรียนมัธยมปลายในเครือของมหาวิทยาลัยฟู่ตั้นค่ะ” ฮันเซ่ลพูดเสียงเบา

“โอ้…! โรงเรียนนั่นดีนี่ เสี่ยวเซ่ลตั้งใจเรียนให้ดีนะ อย่าทำให้พ่อกับพี่ผิดหวังล่ะ” เย่เชียนพูดต่อ “ถ้ามีปัญหาอะไร เธอถามพี่สองคนนี้ได้ตลอดเลยนะ… เข้าใจมั้ย?”

“ค่ะ” ฮันเซ่ลพยักหน้าและพูดว่า “ขอบคุณค่ะพี่สอง!”

เย่เชียนจ้องมองไปที่เสื้อผ้าของน้องสาวและเห็นว่าพวกมันเก่ามากแล้ว แม้ว่ามันมิอาจจะบดบังความงดงามของฮันเซ่ลได้ แต่เย่เชียนก็รู้สึกหดหู่ที่เห็นเธอไม่มีเสื้อผ้าสวย ๆ ใหม่ ๆ ใส่เหมมือนคนอื่น ๆ “เสี่ยวเซ่ล เธออย่ามัวแต่จดจ่อแต่กับการเรียนเพียงอย่างเดียวสิ พี่ว่าเธอควรไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ ซะบ้างนะ รู้มั้ยว่าพวกพ้องมันก็สำคัญมากเหมือนกัน พี่ว่าเสื้อผ้าของเธอมันชักจะเก่าเกินไปแล้ว ไว้วันหลังพี่จะพาเธอไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ ๆ ที่ห้างดีไหม ? แต่ถ้าพี่ยุ่งมาก พี่อาจจะให้โรโร่วพาเธอไปแทน ตอนนี้น้องพี่โตเป็นสาวแล้วนา เพราะงั้นต้องแต่งตัวให้สวย ๆ เข้าไว้สิ”

“เอางี้มั้ยเสี่ยวเซ่ล ฉันว่างอาทิตย์นี้ เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปเอง” หลินโรโร่วพูดด้วยความยินดี

“ไม่เป็นไรค่ะพี่สอง… ฉันไม่ต้องการเสื้อผ้าใหม่ ๆ หรอก” ฮันเซ่ลพูด

เย่เชียนเข้าใจความคิดความรู้สึกนึกคิดของเด็กผู้หญิงคนนี้ดี แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้รู้จักกันมานานมากนัก แต่เย่เชียนก็สามารถรับรู้ได้ว่าน้องสาวของเขานั้นเป็นคนที่ขี้เกรงใจและไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลย ซึ่งมันเป็นเรื่องที่อันตรายมากสำหรับเด็กสาวในวัยแรกรุ่นหากมีความมั่นใจในตัวเองต่ำ ในเมื่อฮันเซ่ลนั้นเป็นน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา เขาก็ต้องการให้เธอมีความสุขให้มากที่สุดเท่าที่เขาจะสามารถทำให้เธอได้

เย่เชียนยิ้มอย่างอ่อนโยน จากนั้นก็พูดว่า “เด็กโง่… เธอไม่จำเป็นต้องมาเกรงใจอะไรพี่หรอก”

“ค่ะ…” ฮันเซ่ลตอบและไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม ดูเหมือนว่าเธอมีบางอย่างที่แอบซ่อนอยู่ในใจของเธอ ซึ่งเย่เชียนเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน

มื้อเย็นจบลงด้วยความอบอุ่นและผ่อนคลาย มีเพียงฮันเซ่ลเท่านั้นที่นิ่งเงียบอยู่ตลอดเวลา..

ก่อนที่พวกเขาจะจากไปหยางเจียนกัวก็ไม่ลืมบอกให้หลินโรโร่วแวะมาเยี่ยมอีกเมื่อเธอมีเวลา ซึ่งหลินโรโร่วก็ตอบตกลงอย่างมีความสุข เพราะเธอนั้นรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและผ่อนคลายของบ้านนี้ แม้ว่าบ้านของเธอนั้นจะดีมากก็ตาม แต่ตั้งแต่เล็กจนโตเธอก็แทบไม่รู้สึกถึงความอบอุ่นและผ่อนคลายในบ้านของตัวเองเลย

หลังจากที่เย่เชียนและหลินโรโร่วจากไป ฮันเซ่ลก็ให้พ่อไปพักผ่อน เธอลงมือทำความสะอาดจานทั้งหมดด้วยตัวเธอเอง เมื่อเธออาบน้ำชำระล้างร่างกายเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็กลับเข้าไปในห้องนอนของเธอเอง เธอนั่งอยู่บนเตียงสักพักแล้วดึงลิ้นชักออกมาพร้อมกับหยิบรูปถ่ายของครอบครัวที่ถ่ายด้วยกันในโรงพยาบาล ถึงแม้ว่ามันจะเป็นรูปถ่ายครอบครัวแต่ทว่าในรูปใบนั้นกลับไม่ได้มีพี่ใหญ่จ้าวอยู่ในนั่นด้วย

ฮันเซ่ลจ้องมองไปที่ภาพถ่ายพร้อมกับใช้นิ้วลูบตรงใบหน้าของเย่เชียนในภาพถ่ายอย่างเคว้งคว้างล่องลอย…

……

หลังจากเย่เชียนส่งหลินโรโร่วถึงบ้านแล้ว หลินโรโร่วก็จูบเย่เชียนพร้อมกับพูดว่า “ฝันดีนะ… กลับบ้านเร็ว ๆ ล่ะ อย่าลืมพักผ่อนด้วย”

เย่เชียนยิ้มอย่างมีความสุขและพูดว่า “ผมคิดว่าคุณจะขอให้ผมค้างคืนกับคุณด้วยเสียอีก”

หลินโรโร่วจ้องมองเย่เชียนพลางพูดว่า “ฉันเห็นคุณเหม่อลอยตั้งหลายครั้งหลังกินอาหารเย็นกันเสร็จน่ะ ฉันก็เลยคิดว่าคืนนี้คุณจะต้องมีธุระอะไรแน่ ๆ อีกอย่าง… ถ้าฉันให้คุณอยู่ คุณจะอยู่มั้ยล่ะ ?”

เย่เชียนยิ้มเจื่อน ๆ และพูดว่า “คืนนี้ผมมีประชุมกับท่านผู้ว่าน่ะ เรามีเรื่องที่จะต้องคุยกันนิดหน่อย”

“ขับรถระวัง ๆ ด้วยล่ะ” หลินโรโร่วพูดด้วยความเป็นห่วง

“ครับผม… คุณภรรยา” เย่เชียนยิ้มขณะที่เขาพูดต่อ “อย่าลืมคิดถึงผมก่อนนอนล่ะ”

“แน่นอนอยู่แล้วค่า ฮิ ๆ ๆ ” หลินโรโร่วพูดพลางหัวเราะชอบใจ จากนั้นก็เดินเข้าไปในบ้าน

หลังจากเห็นหลินโรโร่วเข้าไปในบ้านแล้ว เย่เชียนก็สตาร์ทรถและมุ่งหน้าตรงไปยังสำนักงานรักษาความปลอยภัยไอร่อนบลัดเพื่อไปรับแจ็ค จากนั้นพวกเขาก็ขับรถต่อไปที่บ้านของหวังปิงในทันที

“เอกสารต่าง ๆ เสร็จหรือยัง ?” เย่เชียนหันไปถามแจ็คขณะที่พวกเขาอยู่ระหว่างทาง

“เสร็จแล้วครับบอส… ผมสรุปแบบรวบรัด มันก็เลยไม่ได้มีรายละเอียดยิบย่อยมากนัก แต่ข้อมูลสำคัญ ๆ ทั้งหมดอยู่ในนั้นหมดแล้วล่ะ ถ้ามีบางส่วนตกหล่นไป เดี๋ยวผมอธิบายให้ได้ แบบนั้นมันน่าจะดีกว่า” แจ็คพูดอย่างมั่นใจ

“ขอบใจนายมากที่ทำงานหนักนะ” เย่เชียนพูดอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย

“โธ่บอส! ใครบอกว่าผมทำงานหนักกัน ? แค่นี้สบายมากสำหรับผม บอสอย่ากังวลไปเลย” แจ็คยักไหล่

เย่เชียนหัวเราะเบา ๆ และไม่พูดอะไรต่อ หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็มาถึงบ้านของหวังปิง เย่เชียนจอดรถและเดินเข้าไปพร้อมกับแจ็ค

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+