ยอดนักรบจอมราชัน 316 บุกเยือนสามผู้นำในยามราตรี

Now you are reading ยอดนักรบจอมราชัน Chapter 316 บุกเยือนสามผู้นำในยามราตรี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 316 บุกเยือนสามผู้นำในยามราตรี
เย่เชียนก็พยักหน้าแต่สายตาของเขานั้นยังคงจ้องมองไปที่หิมะที่กำลังตกหนักอยู่นอกหน้าต่างโดยไม่หันกลับมามอง

เป็นฤดูหนาวที่หนาวเหน็บซึ่งในเวลานี้สิ่งที่ผู้คนต้องการมากที่สุดก็คือการกลับบ้านและการรวมครอบครัวหรือเครือญาตินั่นเอง

“เกิดอะไรขึ้นกับดาร์คลิลลี่งั้นหรอ?” เย่เชียนถาม

“เราจัดการเรียบร้อยแล้วครับบอส…พวกเธอไม่ต้องการวางมือ..พวกเธอเต็มใจที่จะอยู่ต่อครับ” ชิงเฟิงพูดต่อ “บอส..เราจะเปลี่ยนชื่อของดาร์คลิลลี่มั้ย..เพราะตอนนี้พวกเธอเป็นสมาชิกของเขี้ยวหมาป่าแล้ว”

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเย่เชียนก็พยักหน้าและพูดว่า “ถ้างั้นก็เรียกพวกเธอว่ากรงเล็บหมาป่าก็แล้วกัน..ฉันเห็นว่าพวกเธอสามารถแทงทะลุหัวใจของศัตรูได้เหมือนกรงเล็บที่แหลมคม”

“กรงเล็บหมาป่างั้นหรอ..ชื่อนี้ยอดเยี่ยมไปเลย..เดี๋ยวผมจะไปคุยกับชินนะภายหลังเอง” ชิงเฟิงพูด

“ที่วางอยู่บนโต๊ะน่ะเป็นข้อมูลผู้นำทั้งสามของแก๊งยามากูจิ..ซึ่งเป็นเป้าหมายของเราในครั้งนี้..จากข่าวกรองของแก๊งฝูชิงแล้วยักษ์ใหญ่ทั้งสามของแก๊งยามากุจิจะมาปรากฏตัวกันที่สโมสรน้ำพุร้อนในคืนนี้และเราก็จะเริ่มลงมือกันในคืนนี้เลย” เย่เชียนพูด

“อ้อคืนนี้เลยหรอ..เอ่อ..แล้วเราจะกลับจีนหลังจากภารกิจนี้เลยหรอ” ชิงเฟิงพูด

เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเบาๆ เพราะแน่นอนว่าน้องชายคนนี้จิตใจของเขาจดจ่ออยู่กับนากาจิมะชินนะซึ่งเย่เชียนเองก็รู้ดีว่าชิงเฟิงคิดอะไรอยู่ “หลังจากที่เรื่องนี้จบนายก็อยู่ที่ญี่ปุ่นต่อและคอยช่วยนากาจิมะชินนะดูแลและจัดการกับกรงเล็กหมาป่าและคอยเตรียมการให้เขี้ยวหมาป่าของเราเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นก็แล้วกัน..ญี่ปุ่นน่ะเป็นประเทศกองเงินกองทองและในไม่ช้าก็เร็วเครือน่านฟ้ากรุ๊ปก็จะมาเปิดสาขาใหม่ที่นี่..เพราะงั้นนายก็อยู่ต่อเถอะ”

รอยยิ้มที่ตื่นเต้นและมีความสุขก็ปรากฏอยู่บนใบหน้าของชิงเฟิงและเขาก็พูดว่า “รับทราบครับบอส! ..ผมสัญญาเลยว่าจะทำทุกอย่างให้ดี!”

“เอาล่ะๆ ..จดจำข้อมูลต่างๆ ซะ..เราจะลุยกันตอนสองทุ่มตรง!” เย่เชียนพูดพร้อมกับบีบก้นบุหรี่ออก

ในตอนกลางคืนนั้นหิมะตกหนักกว่ามากซึ่งทำให้ท้องฟ้ามืดครึ้มเพราะหิมะที่ตกหนักผสมกับลมทางตอนเหนือที่โหมกระหน่ำจนทำให้ถนนและตรอกซอกซอยต่างๆ กลายเป็นสีขาวโพลนในทันที ลมเหนือที่โหยหวนอย่างโหมกระหน่ำดูเหมือนจะคล้ายเสียงคำรามของวิญญาณที่แหบแห้งและหนาวเหน็บไปถึงกระดูกที่ผุดขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจ

สถานที่นัดพบของผู้นำทั้งสามของแก๊งยากุซ่ายามากุจินั้นก็คือสโมสรน้ำพุร้อนซากุระ ซึ่งสโมสรแห่งนี้ทั้งหมดแทบจะไม่สามารถเข้าถึงได้นอกจากคนของแก๊งยามากุจิและแทบจะไม่มีแมลงวันตัวใดเข้าไปได้เลย ซึ่งในเวลานี้เย่เชียน,ม่อหลงและชิงเฟิงก็ได้มาถึงรอบนอกของสโมสรน้ำพุร้อนแล้ว

ถึงแม้ว่าการกำจัดผู้นำทั้งสามของแก๊งยามากุจินั้นจะไม่ใช่การกวาดล้างการมีอยู่ของแก๊งก็ตามแต่ถึงยังไงมันก็ไม่ต่างจากการกวาดล้างแบบถอนรากถอนโคนเพราะประเทศญี่ปุ่นนี้มีการแบ่งแยกชนชั้นอย่างลึกซึ้ง ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คนจีนจะอยู่รอดได้ในประเทศญี่ปุ่นแห่งนี้ เพราะแม้แต่แก๊งฝูชิงก็ยังถูกปราบปรามโดยแก๊งยามากุจิและรวมไปถึงรัฐบาลของประเทศญี่ปุ่นด้วย อย่างไรก็ตามด้วยความแข็งแกร่งของแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงนั้นจึงทำให้แก๊งยามากุจิและรัฐบาลญี่ปุ่นไม่สามารถดำเนินการใหญ่กับพวกเขาได้เลย

เขี้ยวหมาป่านั้นไม่มีรากฐานในประเทศญี่ปุ่นเลยและการที่จะกวาดล้างแก๊งยามากุจิออกไปให้หมดอย่าสิ้นซากนั้นมันก็ค่อนข้างยากลำบากอยู่พอสมควร อย่างไรก็ตามหลังจากล่าหัวของผู้นำทั้งสามของแก๊งยามากุจิแล้วอย่างน้อยๆ แก๊งยามากุจิก็ต้องตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายอย่างแน่นอน ดังนั้นเขี้ยวหมาป่าจะสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบของสถานการณ์ควบคู่ไปกับหน่วยกรงเล็บหมาป่าหรือองค์กรดาร์คลิลลี่ในอดีตนั่นเอง เพราะพวกเธอทั้งหมดก็จะค่อยๆ กลายเป็นสมาชิกและเหล่าพี่น้องของเขี้ยวหมาป่าไปโดยปริยาย

จากนั้นก็จะมีการมาเยือนของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปสาขาญี่ปุ่น โดยการมีตัวตนของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปเป็นเบื้องหน้าแล้วเขี้ยวหมาป่าก็จะสามารถเข้ามาได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่ทว่าเป้าหมายสูงสุดของเย่เชียนก็คือการพิชิตประเทศญี่ปุ่นในเชิงเศรษฐกิจเพื่อให้เขาสามารถบรรลุเป้าหมายสูงสุดได้อย่างเต็มที่ และแน่นอนว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืนเพราะมันไม่เพียงแค่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายเพียงเท่านั้นแต่ยังต้องมีการวางแผนที่ยาวนานและละเอียดถี่ถ้วนอย่างมากอีกด้วย

“บอส! ..พวกคนเฝ้ายามค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว..ดูเหมือนจะไม่ง่ายเลยนะที่จะเข้าไป” ชิงเฟิงเหลือบมองไปที่สโมสรจากระยะไกลและพูด

“บอส! ..ไม่งั้นเราก็สแตนด์บายอยู่ที่นี่สิ..แล้วรอให้พวกมันออกมา..เดี๋ยวฉันจะรับผิดชอบในการซุ่มยิงเอง..บอสและชิงเฟิงก็ซ่อนตัวอยู่แถวๆ นี้ก็ได้นะ” ม่อหลงพูด

เย่เชียนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า “ถ้าพวกเขาไม่ออกมาล่ะ..เราคงไม่อยากเสียเวลารอกันหรอกใช่มั้ย” หลังจากพูดจบแล้วเย่เชียนก็กวาดสายตามองไปรอบๆ และชี้ไปที่อาคารที่อยู่ถัดไปจากสโมสรและพูดว่า “นั่น..ตรงนั้นน่าจะเหมาะ..ยังไงก็เถอะเพื่อความปลอดภัย..เราจะแบ่งกันออกเป็นสามกลุ่มนะ..ชิงเฟิงนายมีหน้าที่ไปปั่นหัวพวกมันและดึงดูดความสนใจของพวกมันเอาไว้..พี่ม่อหลง..พี่ไปซุ่มยิงตรงจุดที่ผมเพิ่งจะบอกไป..เดี๋ยวผมจะแอบเข้าไปตรงๆ เลย..สี่ทุ่มตรงเริ่มโจมตี..มีคำถามอะไรเพิ่มมั้ย?”

“ไม่!” ชิงเฟิงและม่อหลงตอบอย่างพร้อมเพรียงกัน

“เอาล่ะ..เตรียมพร้อม!” เมื่อเย่เชียนพูดจบทั้งสามคนก็ตั้งเวลานาฬิกากันและแยกย้ายกันไป

ทั้งสามคนก็เข้าสแตนด์บายตามจุดของตัวเองและเตรียมพร้อม ณ เวลาสี่ทุ่มตรงชิงเฟิงก็เดินไปที่ประตูทางเข้าของสโมสรและสมาชิกของแก๊งยามากุจิสองคนก็หยุดเขาที่หน้าประตูและบ่นว่า “นี่เป็นสโมสรส่วนตัว..คุณเข้าไม่ได้..โปรดออกไป”

“แล้วไงวะ!” ชิงเฟิงตะโกนและต่อยหน้าคนที่จากนั้นผู้ชายคนนั้นก็พูดเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า “แกรู้มั้ยว่าพวกเราเป็นใคร..เดี๋ยวฉันไปจะรายงานหัวหน้า!”

หลังจากนั้นไม่นานการ์ดทั้งสองคนหน้าประตูก็พ่ายแพ้ไปอย่างสิ้นเชิงและถึงกับตกตะลึงเมื่อฝีมือของชิงเฟิงและพวกเขาต่างก็งุนงงกันอย่างมาก “ท่านผู้นำสั่งเอาไว้ว่าห้ามให้ใครหน้าไหนเข้าไป!” หนึ่งในนั้นพูด

“พล่ามอะไรวะ!” ชิงเฟิงก็ตะโกนขึ้นมาอีกครั้งและชักปืนพกออกมาอย่างรวดเร็วและยิงการ์ดหน้าประตูทั้งสองทิ้งในทันที และในทันใดนั้นสมาชิกของแก๊งยามากุจิที่อยู่ด้านในสโมสรก็ได้ยินเสียงปืนและก็ถึงกับผงะไปและตื่นตระหนกกันอย่างมาก ซึ่งชิงเฟิงเองก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ เขาโยนระเบิดมือสวนเข้าไปข้างในนั้นทันทีและในทันใดนั้นเสียงระเบิดก็ดังขึ้นอย่างรุนแรงภายในห้องโถงของสโมสร

เมื่อมีการระเบิดเกิดขึ้นมันก็ได้ดึงดูดความสนใจของสมาชิกทุกคนในแก๊งยามากุจิทันทีและในขณะนี้เย่เชียนกับม่อหลงนั้นก็เข้าไปสโมสรน้ำพุร้อนจากสองทิศทางที่ตรงกันข้ามไปตามแนวเชือก

ในขณะนี้ชิงเฟิงก็หนีออกมาจากหน้าประตูแล้วและเขาก็วิ่งไปที่ฝั่งตรงข้ามของสโมสรจากนั้นก็ซุ่มอยู่และเปลี่ยนเป็นปืนไรเฟิลจูโจ่มและเล็งไปที่ประตูของสโมสร ซึ่งเมื่อเห็นสมาชิกของแก๊งยามากุจิออกมาเขาก็ยิงสวนเข้าไปทีละคนๆ เมื่อเห็นเช่นนั้นสมาชิกของแก๊งยามากุจิต่างก็ตื่นตระหนกและไม่นานพวกเขาก็ค้นพบตำแหน่งที่ซุ่มของชิงเฟิงและกราดยิงกันไปที่ตำแหน่งของชิงเฟิงทีละคนๆ อย่างไรก็ตามระยะทางนั้นไกลมากจนเห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่สามารถสร้างผลกระทบใดๆ ต่อชิงเฟิงได้เลยแม้แต่น้อย หลังจากนั้นสมาชิกของแก๊งยามากุจิบางคนก็เริ่มเข้าใกล้จุดของชิงเฟิงที่ชิงเฟิงซุ่มอยู่มาเรื่อยๆ

ด้านในของสโมสรน้ำพุร้อนนั้นมีผู้ชายอยู่สองคนและผู้หญิงอีกหนึ่งคนกำลังแช่น้ำร้อนกันอยู่ในนั้นซึ่งร่างกายของพวกเขาก็เต็มไปด้วยรอยสักโดยเฉพาะผู้หญิงคนนั้นที่มีรอยสักที่น่าเกรงขามขนาดใหญ่บนหลังของเธอซึ่งดูเป็นเอกลักษณ์อย่างยิ่ง

เมื่อได้ยินเสียงปืนดังขึ้นแล้วผู้หญิงและผู้ชายที่ดูยังหนุ่มยังแน่นอยู่ก็ตกตะลึงเล็กน้อยและชายวัยกลางคนก็หัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ไม่เป็นไรๆ ..ไม่ต้องกังวลไป..การคุ้มกันของที่นี่น่ะแน่นหนาจนแม้แต่เทพแห่งความตายยังเข้ามาไม่ได้เลย” เมื่อได้ยินสิ่งที่ชายวัยกลางพูดแล้วทั้งสองคนก็หันหน้ากลับไปและแช่น้ำร้อนอย่างสบายใจภายในบ่อน้ำพุร้อน

“น้องสอง..รูปร่างและสัดส่วนของเธอเนี่ยนับวันยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ จริงๆ ..แม้แต่เด็กสาวก็ยังเทียบกับเธอไม่ได้เลย” ดวงตาของผู้ชายที่ดูมีอายุมากกว่าเผยให้เห็นถึงร่องรอยของตัณหาและความหลงใหลในกามพร้อมกับหัวเราะ

ผู้หญิงคนนั้นก็หัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ที่พี่ใหญ่พูดแบบนั้นก็เพราะว่าฉันแก่แล้วงั้นหรอ”

“ไม่ๆ ..ไม่ใช่เด็ดขาด..น้องสาวของฉันยังสาวยังแซ่อยู่!” พี่ใหญ่พูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ จากนั้นเขาก็หันไปสบตากับชายหนุ่มอีกคนและพูดว่า “น้องสาม! ..การติดต่อกับพวกสามเหลี่ยมทองคำเป็นยังไงบ้าง..เป็นเพราะไอ้พวกตงเซียงกรุ๊ปแท้ๆ ที่ล้มเหลวเลยทำให้เส้นสายและเครือข่ายในสามเหลี่ยมทองคำดูเหมือนจะขาดช่วงไปเลย..น้องสาม! ..นี่เป็นความผิดพลาดของแก”

“ผมกำลังติดต่ออยู่ครับพี่ใหญ่..ผมเพิ่งจะไปที่สามเหลี่ยมทองคำมาเมื่อสองสามวันก่อนเอง..แต่กองโจรที่นั่นมันไม่สนใจเราเลย..ดูเหมือนว่ามันจะมีใครบางคนที่ตัดหน้าเราและเสนอราคาสูงกว่าเราด้วย” น้องสามพูด

“ต้นทุนสูงขึ้นถ้างั้นราคาขายก็ต้องสูงขึ้นสิ..แกควรจะรีบทำสิ่งต่างๆ ที่นั่นให้เร็วกว่านี้นะ!” พี่ใหญ่พูด

“ได้ครับ!” น้องสามตอบอย่างเคารพ

“น้องสอง! ..แล้วพวกนักฆ่าขององค์กรดาร์คลิลลี่เป็นยังไงบ้าง..เอ่อ..แล้วดูเหมือนว่าฉันจะได้ยินข่าวร้ายมานะว่าพวกเขี้ยวหมาป่าได้ทำลายฐานของเราในจีนแล้ว..แต่เรายังไม่มีโอกาสที่จะโต้กลับเลย..ถ้าหากสิ่งเหล่านี้ถูกแพร่กระจายออกไปล่ะก็..มันจะทำให้แก๊งอื่นๆ หัวเราะเยาะเราได้นะ” พี่ใหญ่ชำเลืองมองผู้หญิงคนนั้นแล้วพูด แต่ทว่าน้ำเสียงนั้นก็ดูอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัดและไม่จริงจังและดุดันเท่ากับการพูดคุยกับน้องสามเมื่อครู่นี้เลย

“ดาร์คลิลลี่ส่งนักฆ่าออกไปตั้งหลายคนแต่ไม่มีใครรอดกลับมาได้เลย..ผู้นำของเขี้ยวหมาป่าน่ะเป็นทหารรับจ้างที่มีชื่อเสียงระดับโลก..มันไม่ง่ายเลยนะที่จะจัดการกับพวกเขา..ฉันคิดว่าเราควรหาวิธีอื่นกันดีกว่า” น้องสองพูด

“หืม! ..เธอหมายถึงให้ไปนั่งจับเข่าคุยกับพวกเขี้ยวหมาป่าน่ะเหรอ?” พี่ใหญ่ขมวดคิ้วแน่นและพูดอย่างไม่สบอารมณ์เล็กน้อย

“ไม่ๆ พี่ใหญ่..ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น..พี่ใหญ่ก็รู้หนิว่าพวกเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขี้ยวหมาป่าเลย..และถ้าไม่ใช่เพราะข้อมูลของตงเซียงกรุ๊ปล่ะก็เราคงจะไม่รู้อะไรเลยด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายคือองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าที่ยิ่งใหญ่นั่นน่ะ..แต่! ..ลองคิดดูสิว่าถ้าพวกเราว่าจ้างพวกทหารรับจ้างมาจัดการกับพวกเขี้ยวหมาป่าแล้วคงจะมีประโยชน์กว่าพวกนักฆ่าของดาร์คลิลลี่อีก” น้องสองพูดต่อ “และเท่าที่ฉันรู้มาน่ะความแข็งแกรงของเหล่าสมาชิกเขี้ยวหมาป่าแต่ละคนก็ไม่ใช่ธรรมดาๆ เลย..และถ้าเราแค่จัดการผู้นำของพวกมันเพียงไม่กี่คนแค่นั้นมันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะหยุดพวกมัน..เพราะการที่เราจะสามารถลบล้างพวกมันได้นั้นก็มีแต่ต้องกวาดล้างพวกมันทั้งหมดในคราวเดียว”

“แต่องค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่ามีชื่อเสียงมากในโลกของทหารรับจ้างน่ะสิ..แล้วแบบนี้จะมีองค์กรทหารรับจ้างไหนที่กล้าต่อกรกับพวกมันกันล่ะ?” พี่ใหญ่พูดด้วยความกังวล

“ฮ่าๆ ..พี่ใหญ่สบายใจได้เลย..เพราะว่าพวกทหารรับจ้างน่ะมันก็อยู่เพื่อเงินกันทั้งนั้น..เราก็แค่ต้องเสนอเงินที่มากพอที่จะทำให้พวกมันสนใจ..ฉันเชื่อเลยว่าพวกมันจะต้องเต็มใจรับงานอย่างแน่นอน..และถ้าหากทหารรับจ้างองค์กรเดียวไม่สามารถกำจัดเขี้ยวหมาได้ล่ะก็..เราก็แค่จ้างเพิ่ม..สององค์กร..สามองค์กรไปสิ..ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเราจะฆ่าพวกมันไม่ได้..พวกมันไม่ใช่พระเจ้าสักหน่อย!”

“พี่สอง..แต่ว่าเงินที่จะต้องไปว่าจ้างพวกทหารรับจ้างเหล่านั้นมันไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ..อย่าไปมองว่าทหารรับจ้างเหล่านั้นจะเป็นคนที่เอาชีวิตไปแลกกับเงินสิ..เพราะพวกเขาเหล่านั้นล้วนแต่เอาเงินไปแลกชีวิตกันต่างหากล่ะ” น้องสามพูด

“แกนี่มันโง่จริงๆ” น้องสองจ้องเขม็งไปที่น้องสามแล้วพูดว่า “นี่แกไม่เข้าใจความจริงเลยหรือไงว่าต่อให้เราเสียเงินไปถึงยังไงเราก็หามันใหม่ได้อยู่ดี..แต่การปล่อยศัตรูเอาไว้แบบนี้มันก็เป็นเหมือนกับเรื้อรังและโรคระบาดที่จะมาคุกคามเราเมื่อไหร่ก็ไม่รู้”

หลังจากที่เงียบไปนานพี่ใหญ่ก็พูดขึ้นมาว่า “ถูกต้อง! ..ที่น้องสองพูดก็มีเหตุผล..ถ้างั้นเธอก็จัดการเรื่องนี้โดยเร็วที่สุดและทำตามแบบที่เธอพูดนั่นแหละ”

“โว้วๆ ..เป็นแผนที่ดีเลยหนิ..ช่างเป็นแผนการที่ดีจริงๆ” ในขณะนี้จู่ๆ ก็มีเสียงปรบมือดังขึ้นมาจากข้างนอกและพบว่ามีคนสองคนกำลังเดินเข้ามาจากด้านนอก

.

.

.

.

.

.

.

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ยอดนักรบจอมราชัน 316 บุกเยือนสามผู้นำในยามราตรี

Now you are reading ยอดนักรบจอมราชัน Chapter 316 บุกเยือนสามผู้นำในยามราตรี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 316 บุกเยือนสามผู้นำในยามราตรี
เย่เชียนก็พยักหน้าแต่สายตาของเขานั้นยังคงจ้องมองไปที่หิมะที่กำลังตกหนักอยู่นอกหน้าต่างโดยไม่หันกลับมามอง

เป็นฤดูหนาวที่หนาวเหน็บซึ่งในเวลานี้สิ่งที่ผู้คนต้องการมากที่สุดก็คือการกลับบ้านและการรวมครอบครัวหรือเครือญาตินั่นเอง

“เกิดอะไรขึ้นกับดาร์คลิลลี่งั้นหรอ?” เย่เชียนถาม

“เราจัดการเรียบร้อยแล้วครับบอส…พวกเธอไม่ต้องการวางมือ..พวกเธอเต็มใจที่จะอยู่ต่อครับ” ชิงเฟิงพูดต่อ “บอส..เราจะเปลี่ยนชื่อของดาร์คลิลลี่มั้ย..เพราะตอนนี้พวกเธอเป็นสมาชิกของเขี้ยวหมาป่าแล้ว”

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเย่เชียนก็พยักหน้าและพูดว่า “ถ้างั้นก็เรียกพวกเธอว่ากรงเล็บหมาป่าก็แล้วกัน..ฉันเห็นว่าพวกเธอสามารถแทงทะลุหัวใจของศัตรูได้เหมือนกรงเล็บที่แหลมคม”

“กรงเล็บหมาป่างั้นหรอ..ชื่อนี้ยอดเยี่ยมไปเลย..เดี๋ยวผมจะไปคุยกับชินนะภายหลังเอง” ชิงเฟิงพูด

“ที่วางอยู่บนโต๊ะน่ะเป็นข้อมูลผู้นำทั้งสามของแก๊งยามากูจิ..ซึ่งเป็นเป้าหมายของเราในครั้งนี้..จากข่าวกรองของแก๊งฝูชิงแล้วยักษ์ใหญ่ทั้งสามของแก๊งยามากุจิจะมาปรากฏตัวกันที่สโมสรน้ำพุร้อนในคืนนี้และเราก็จะเริ่มลงมือกันในคืนนี้เลย” เย่เชียนพูด

“อ้อคืนนี้เลยหรอ..เอ่อ..แล้วเราจะกลับจีนหลังจากภารกิจนี้เลยหรอ” ชิงเฟิงพูด

เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเบาๆ เพราะแน่นอนว่าน้องชายคนนี้จิตใจของเขาจดจ่ออยู่กับนากาจิมะชินนะซึ่งเย่เชียนเองก็รู้ดีว่าชิงเฟิงคิดอะไรอยู่ “หลังจากที่เรื่องนี้จบนายก็อยู่ที่ญี่ปุ่นต่อและคอยช่วยนากาจิมะชินนะดูแลและจัดการกับกรงเล็กหมาป่าและคอยเตรียมการให้เขี้ยวหมาป่าของเราเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นก็แล้วกัน..ญี่ปุ่นน่ะเป็นประเทศกองเงินกองทองและในไม่ช้าก็เร็วเครือน่านฟ้ากรุ๊ปก็จะมาเปิดสาขาใหม่ที่นี่..เพราะงั้นนายก็อยู่ต่อเถอะ”

รอยยิ้มที่ตื่นเต้นและมีความสุขก็ปรากฏอยู่บนใบหน้าของชิงเฟิงและเขาก็พูดว่า “รับทราบครับบอส! ..ผมสัญญาเลยว่าจะทำทุกอย่างให้ดี!”

“เอาล่ะๆ ..จดจำข้อมูลต่างๆ ซะ..เราจะลุยกันตอนสองทุ่มตรง!” เย่เชียนพูดพร้อมกับบีบก้นบุหรี่ออก

ในตอนกลางคืนนั้นหิมะตกหนักกว่ามากซึ่งทำให้ท้องฟ้ามืดครึ้มเพราะหิมะที่ตกหนักผสมกับลมทางตอนเหนือที่โหมกระหน่ำจนทำให้ถนนและตรอกซอกซอยต่างๆ กลายเป็นสีขาวโพลนในทันที ลมเหนือที่โหยหวนอย่างโหมกระหน่ำดูเหมือนจะคล้ายเสียงคำรามของวิญญาณที่แหบแห้งและหนาวเหน็บไปถึงกระดูกที่ผุดขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจ

สถานที่นัดพบของผู้นำทั้งสามของแก๊งยากุซ่ายามากุจินั้นก็คือสโมสรน้ำพุร้อนซากุระ ซึ่งสโมสรแห่งนี้ทั้งหมดแทบจะไม่สามารถเข้าถึงได้นอกจากคนของแก๊งยามากุจิและแทบจะไม่มีแมลงวันตัวใดเข้าไปได้เลย ซึ่งในเวลานี้เย่เชียน,ม่อหลงและชิงเฟิงก็ได้มาถึงรอบนอกของสโมสรน้ำพุร้อนแล้ว

ถึงแม้ว่าการกำจัดผู้นำทั้งสามของแก๊งยามากุจินั้นจะไม่ใช่การกวาดล้างการมีอยู่ของแก๊งก็ตามแต่ถึงยังไงมันก็ไม่ต่างจากการกวาดล้างแบบถอนรากถอนโคนเพราะประเทศญี่ปุ่นนี้มีการแบ่งแยกชนชั้นอย่างลึกซึ้ง ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คนจีนจะอยู่รอดได้ในประเทศญี่ปุ่นแห่งนี้ เพราะแม้แต่แก๊งฝูชิงก็ยังถูกปราบปรามโดยแก๊งยามากุจิและรวมไปถึงรัฐบาลของประเทศญี่ปุ่นด้วย อย่างไรก็ตามด้วยความแข็งแกร่งของแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงนั้นจึงทำให้แก๊งยามากุจิและรัฐบาลญี่ปุ่นไม่สามารถดำเนินการใหญ่กับพวกเขาได้เลย

เขี้ยวหมาป่านั้นไม่มีรากฐานในประเทศญี่ปุ่นเลยและการที่จะกวาดล้างแก๊งยามากุจิออกไปให้หมดอย่าสิ้นซากนั้นมันก็ค่อนข้างยากลำบากอยู่พอสมควร อย่างไรก็ตามหลังจากล่าหัวของผู้นำทั้งสามของแก๊งยามากุจิแล้วอย่างน้อยๆ แก๊งยามากุจิก็ต้องตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายอย่างแน่นอน ดังนั้นเขี้ยวหมาป่าจะสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบของสถานการณ์ควบคู่ไปกับหน่วยกรงเล็บหมาป่าหรือองค์กรดาร์คลิลลี่ในอดีตนั่นเอง เพราะพวกเธอทั้งหมดก็จะค่อยๆ กลายเป็นสมาชิกและเหล่าพี่น้องของเขี้ยวหมาป่าไปโดยปริยาย

จากนั้นก็จะมีการมาเยือนของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปสาขาญี่ปุ่น โดยการมีตัวตนของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปเป็นเบื้องหน้าแล้วเขี้ยวหมาป่าก็จะสามารถเข้ามาได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่ทว่าเป้าหมายสูงสุดของเย่เชียนก็คือการพิชิตประเทศญี่ปุ่นในเชิงเศรษฐกิจเพื่อให้เขาสามารถบรรลุเป้าหมายสูงสุดได้อย่างเต็มที่ และแน่นอนว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืนเพราะมันไม่เพียงแค่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายเพียงเท่านั้นแต่ยังต้องมีการวางแผนที่ยาวนานและละเอียดถี่ถ้วนอย่างมากอีกด้วย

“บอส! ..พวกคนเฝ้ายามค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว..ดูเหมือนจะไม่ง่ายเลยนะที่จะเข้าไป” ชิงเฟิงเหลือบมองไปที่สโมสรจากระยะไกลและพูด

“บอส! ..ไม่งั้นเราก็สแตนด์บายอยู่ที่นี่สิ..แล้วรอให้พวกมันออกมา..เดี๋ยวฉันจะรับผิดชอบในการซุ่มยิงเอง..บอสและชิงเฟิงก็ซ่อนตัวอยู่แถวๆ นี้ก็ได้นะ” ม่อหลงพูด

เย่เชียนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า “ถ้าพวกเขาไม่ออกมาล่ะ..เราคงไม่อยากเสียเวลารอกันหรอกใช่มั้ย” หลังจากพูดจบแล้วเย่เชียนก็กวาดสายตามองไปรอบๆ และชี้ไปที่อาคารที่อยู่ถัดไปจากสโมสรและพูดว่า “นั่น..ตรงนั้นน่าจะเหมาะ..ยังไงก็เถอะเพื่อความปลอดภัย..เราจะแบ่งกันออกเป็นสามกลุ่มนะ..ชิงเฟิงนายมีหน้าที่ไปปั่นหัวพวกมันและดึงดูดความสนใจของพวกมันเอาไว้..พี่ม่อหลง..พี่ไปซุ่มยิงตรงจุดที่ผมเพิ่งจะบอกไป..เดี๋ยวผมจะแอบเข้าไปตรงๆ เลย..สี่ทุ่มตรงเริ่มโจมตี..มีคำถามอะไรเพิ่มมั้ย?”

“ไม่!” ชิงเฟิงและม่อหลงตอบอย่างพร้อมเพรียงกัน

“เอาล่ะ..เตรียมพร้อม!” เมื่อเย่เชียนพูดจบทั้งสามคนก็ตั้งเวลานาฬิกากันและแยกย้ายกันไป

ทั้งสามคนก็เข้าสแตนด์บายตามจุดของตัวเองและเตรียมพร้อม ณ เวลาสี่ทุ่มตรงชิงเฟิงก็เดินไปที่ประตูทางเข้าของสโมสรและสมาชิกของแก๊งยามากุจิสองคนก็หยุดเขาที่หน้าประตูและบ่นว่า “นี่เป็นสโมสรส่วนตัว..คุณเข้าไม่ได้..โปรดออกไป”

“แล้วไงวะ!” ชิงเฟิงตะโกนและต่อยหน้าคนที่จากนั้นผู้ชายคนนั้นก็พูดเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า “แกรู้มั้ยว่าพวกเราเป็นใคร..เดี๋ยวฉันไปจะรายงานหัวหน้า!”

หลังจากนั้นไม่นานการ์ดทั้งสองคนหน้าประตูก็พ่ายแพ้ไปอย่างสิ้นเชิงและถึงกับตกตะลึงเมื่อฝีมือของชิงเฟิงและพวกเขาต่างก็งุนงงกันอย่างมาก “ท่านผู้นำสั่งเอาไว้ว่าห้ามให้ใครหน้าไหนเข้าไป!” หนึ่งในนั้นพูด

“พล่ามอะไรวะ!” ชิงเฟิงก็ตะโกนขึ้นมาอีกครั้งและชักปืนพกออกมาอย่างรวดเร็วและยิงการ์ดหน้าประตูทั้งสองทิ้งในทันที และในทันใดนั้นสมาชิกของแก๊งยามากุจิที่อยู่ด้านในสโมสรก็ได้ยินเสียงปืนและก็ถึงกับผงะไปและตื่นตระหนกกันอย่างมาก ซึ่งชิงเฟิงเองก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ เขาโยนระเบิดมือสวนเข้าไปข้างในนั้นทันทีและในทันใดนั้นเสียงระเบิดก็ดังขึ้นอย่างรุนแรงภายในห้องโถงของสโมสร

เมื่อมีการระเบิดเกิดขึ้นมันก็ได้ดึงดูดความสนใจของสมาชิกทุกคนในแก๊งยามากุจิทันทีและในขณะนี้เย่เชียนกับม่อหลงนั้นก็เข้าไปสโมสรน้ำพุร้อนจากสองทิศทางที่ตรงกันข้ามไปตามแนวเชือก

ในขณะนี้ชิงเฟิงก็หนีออกมาจากหน้าประตูแล้วและเขาก็วิ่งไปที่ฝั่งตรงข้ามของสโมสรจากนั้นก็ซุ่มอยู่และเปลี่ยนเป็นปืนไรเฟิลจูโจ่มและเล็งไปที่ประตูของสโมสร ซึ่งเมื่อเห็นสมาชิกของแก๊งยามากุจิออกมาเขาก็ยิงสวนเข้าไปทีละคนๆ เมื่อเห็นเช่นนั้นสมาชิกของแก๊งยามากุจิต่างก็ตื่นตระหนกและไม่นานพวกเขาก็ค้นพบตำแหน่งที่ซุ่มของชิงเฟิงและกราดยิงกันไปที่ตำแหน่งของชิงเฟิงทีละคนๆ อย่างไรก็ตามระยะทางนั้นไกลมากจนเห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่สามารถสร้างผลกระทบใดๆ ต่อชิงเฟิงได้เลยแม้แต่น้อย หลังจากนั้นสมาชิกของแก๊งยามากุจิบางคนก็เริ่มเข้าใกล้จุดของชิงเฟิงที่ชิงเฟิงซุ่มอยู่มาเรื่อยๆ

ด้านในของสโมสรน้ำพุร้อนนั้นมีผู้ชายอยู่สองคนและผู้หญิงอีกหนึ่งคนกำลังแช่น้ำร้อนกันอยู่ในนั้นซึ่งร่างกายของพวกเขาก็เต็มไปด้วยรอยสักโดยเฉพาะผู้หญิงคนนั้นที่มีรอยสักที่น่าเกรงขามขนาดใหญ่บนหลังของเธอซึ่งดูเป็นเอกลักษณ์อย่างยิ่ง

เมื่อได้ยินเสียงปืนดังขึ้นแล้วผู้หญิงและผู้ชายที่ดูยังหนุ่มยังแน่นอยู่ก็ตกตะลึงเล็กน้อยและชายวัยกลางคนก็หัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ไม่เป็นไรๆ ..ไม่ต้องกังวลไป..การคุ้มกันของที่นี่น่ะแน่นหนาจนแม้แต่เทพแห่งความตายยังเข้ามาไม่ได้เลย” เมื่อได้ยินสิ่งที่ชายวัยกลางพูดแล้วทั้งสองคนก็หันหน้ากลับไปและแช่น้ำร้อนอย่างสบายใจภายในบ่อน้ำพุร้อน

“น้องสอง..รูปร่างและสัดส่วนของเธอเนี่ยนับวันยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ จริงๆ ..แม้แต่เด็กสาวก็ยังเทียบกับเธอไม่ได้เลย” ดวงตาของผู้ชายที่ดูมีอายุมากกว่าเผยให้เห็นถึงร่องรอยของตัณหาและความหลงใหลในกามพร้อมกับหัวเราะ

ผู้หญิงคนนั้นก็หัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ที่พี่ใหญ่พูดแบบนั้นก็เพราะว่าฉันแก่แล้วงั้นหรอ”

“ไม่ๆ ..ไม่ใช่เด็ดขาด..น้องสาวของฉันยังสาวยังแซ่อยู่!” พี่ใหญ่พูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ จากนั้นเขาก็หันไปสบตากับชายหนุ่มอีกคนและพูดว่า “น้องสาม! ..การติดต่อกับพวกสามเหลี่ยมทองคำเป็นยังไงบ้าง..เป็นเพราะไอ้พวกตงเซียงกรุ๊ปแท้ๆ ที่ล้มเหลวเลยทำให้เส้นสายและเครือข่ายในสามเหลี่ยมทองคำดูเหมือนจะขาดช่วงไปเลย..น้องสาม! ..นี่เป็นความผิดพลาดของแก”

“ผมกำลังติดต่ออยู่ครับพี่ใหญ่..ผมเพิ่งจะไปที่สามเหลี่ยมทองคำมาเมื่อสองสามวันก่อนเอง..แต่กองโจรที่นั่นมันไม่สนใจเราเลย..ดูเหมือนว่ามันจะมีใครบางคนที่ตัดหน้าเราและเสนอราคาสูงกว่าเราด้วย” น้องสามพูด

“ต้นทุนสูงขึ้นถ้างั้นราคาขายก็ต้องสูงขึ้นสิ..แกควรจะรีบทำสิ่งต่างๆ ที่นั่นให้เร็วกว่านี้นะ!” พี่ใหญ่พูด

“ได้ครับ!” น้องสามตอบอย่างเคารพ

“น้องสอง! ..แล้วพวกนักฆ่าขององค์กรดาร์คลิลลี่เป็นยังไงบ้าง..เอ่อ..แล้วดูเหมือนว่าฉันจะได้ยินข่าวร้ายมานะว่าพวกเขี้ยวหมาป่าได้ทำลายฐานของเราในจีนแล้ว..แต่เรายังไม่มีโอกาสที่จะโต้กลับเลย..ถ้าหากสิ่งเหล่านี้ถูกแพร่กระจายออกไปล่ะก็..มันจะทำให้แก๊งอื่นๆ หัวเราะเยาะเราได้นะ” พี่ใหญ่ชำเลืองมองผู้หญิงคนนั้นแล้วพูด แต่ทว่าน้ำเสียงนั้นก็ดูอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัดและไม่จริงจังและดุดันเท่ากับการพูดคุยกับน้องสามเมื่อครู่นี้เลย

“ดาร์คลิลลี่ส่งนักฆ่าออกไปตั้งหลายคนแต่ไม่มีใครรอดกลับมาได้เลย..ผู้นำของเขี้ยวหมาป่าน่ะเป็นทหารรับจ้างที่มีชื่อเสียงระดับโลก..มันไม่ง่ายเลยนะที่จะจัดการกับพวกเขา..ฉันคิดว่าเราควรหาวิธีอื่นกันดีกว่า” น้องสองพูด

“หืม! ..เธอหมายถึงให้ไปนั่งจับเข่าคุยกับพวกเขี้ยวหมาป่าน่ะเหรอ?” พี่ใหญ่ขมวดคิ้วแน่นและพูดอย่างไม่สบอารมณ์เล็กน้อย

“ไม่ๆ พี่ใหญ่..ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น..พี่ใหญ่ก็รู้หนิว่าพวกเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขี้ยวหมาป่าเลย..และถ้าไม่ใช่เพราะข้อมูลของตงเซียงกรุ๊ปล่ะก็เราคงจะไม่รู้อะไรเลยด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายคือองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าที่ยิ่งใหญ่นั่นน่ะ..แต่! ..ลองคิดดูสิว่าถ้าพวกเราว่าจ้างพวกทหารรับจ้างมาจัดการกับพวกเขี้ยวหมาป่าแล้วคงจะมีประโยชน์กว่าพวกนักฆ่าของดาร์คลิลลี่อีก” น้องสองพูดต่อ “และเท่าที่ฉันรู้มาน่ะความแข็งแกรงของเหล่าสมาชิกเขี้ยวหมาป่าแต่ละคนก็ไม่ใช่ธรรมดาๆ เลย..และถ้าเราแค่จัดการผู้นำของพวกมันเพียงไม่กี่คนแค่นั้นมันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะหยุดพวกมัน..เพราะการที่เราจะสามารถลบล้างพวกมันได้นั้นก็มีแต่ต้องกวาดล้างพวกมันทั้งหมดในคราวเดียว”

“แต่องค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่ามีชื่อเสียงมากในโลกของทหารรับจ้างน่ะสิ..แล้วแบบนี้จะมีองค์กรทหารรับจ้างไหนที่กล้าต่อกรกับพวกมันกันล่ะ?” พี่ใหญ่พูดด้วยความกังวล

“ฮ่าๆ ..พี่ใหญ่สบายใจได้เลย..เพราะว่าพวกทหารรับจ้างน่ะมันก็อยู่เพื่อเงินกันทั้งนั้น..เราก็แค่ต้องเสนอเงินที่มากพอที่จะทำให้พวกมันสนใจ..ฉันเชื่อเลยว่าพวกมันจะต้องเต็มใจรับงานอย่างแน่นอน..และถ้าหากทหารรับจ้างองค์กรเดียวไม่สามารถกำจัดเขี้ยวหมาได้ล่ะก็..เราก็แค่จ้างเพิ่ม..สององค์กร..สามองค์กรไปสิ..ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเราจะฆ่าพวกมันไม่ได้..พวกมันไม่ใช่พระเจ้าสักหน่อย!”

“พี่สอง..แต่ว่าเงินที่จะต้องไปว่าจ้างพวกทหารรับจ้างเหล่านั้นมันไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ..อย่าไปมองว่าทหารรับจ้างเหล่านั้นจะเป็นคนที่เอาชีวิตไปแลกกับเงินสิ..เพราะพวกเขาเหล่านั้นล้วนแต่เอาเงินไปแลกชีวิตกันต่างหากล่ะ” น้องสามพูด

“แกนี่มันโง่จริงๆ” น้องสองจ้องเขม็งไปที่น้องสามแล้วพูดว่า “นี่แกไม่เข้าใจความจริงเลยหรือไงว่าต่อให้เราเสียเงินไปถึงยังไงเราก็หามันใหม่ได้อยู่ดี..แต่การปล่อยศัตรูเอาไว้แบบนี้มันก็เป็นเหมือนกับเรื้อรังและโรคระบาดที่จะมาคุกคามเราเมื่อไหร่ก็ไม่รู้”

หลังจากที่เงียบไปนานพี่ใหญ่ก็พูดขึ้นมาว่า “ถูกต้อง! ..ที่น้องสองพูดก็มีเหตุผล..ถ้างั้นเธอก็จัดการเรื่องนี้โดยเร็วที่สุดและทำตามแบบที่เธอพูดนั่นแหละ”

“โว้วๆ ..เป็นแผนที่ดีเลยหนิ..ช่างเป็นแผนการที่ดีจริงๆ” ในขณะนี้จู่ๆ ก็มีเสียงปรบมือดังขึ้นมาจากข้างนอกและพบว่ามีคนสองคนกำลังเดินเข้ามาจากด้านนอก

.

.

.

.

.

.

.

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ยอดนักรบจอมราชัน 316 บุกเยือนสามผู้นำในยามราตรี

Now you are reading ยอดนักรบจอมราชัน Chapter 316 บุกเยือนสามผู้นำในยามราตรี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 316 บุกเยือนสามผู้นำในยามราตรี
เย่เชียนก็พยักหน้าแต่สายตาของเขานั้นยังคงจ้องมองไปที่หิมะที่กำลังตกหนักอยู่นอกหน้าต่างโดยไม่หันกลับมามอง

เป็นฤดูหนาวที่หนาวเหน็บซึ่งในเวลานี้สิ่งที่ผู้คนต้องการมากที่สุดก็คือการกลับบ้านและการรวมครอบครัวหรือเครือญาตินั่นเอง

“เกิดอะไรขึ้นกับดาร์คลิลลี่งั้นหรอ?” เย่เชียนถาม

“เราจัดการเรียบร้อยแล้วครับบอส…พวกเธอไม่ต้องการวางมือ..พวกเธอเต็มใจที่จะอยู่ต่อครับ” ชิงเฟิงพูดต่อ “บอส..เราจะเปลี่ยนชื่อของดาร์คลิลลี่มั้ย..เพราะตอนนี้พวกเธอเป็นสมาชิกของเขี้ยวหมาป่าแล้ว”

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเย่เชียนก็พยักหน้าและพูดว่า “ถ้างั้นก็เรียกพวกเธอว่ากรงเล็บหมาป่าก็แล้วกัน..ฉันเห็นว่าพวกเธอสามารถแทงทะลุหัวใจของศัตรูได้เหมือนกรงเล็บที่แหลมคม”

“กรงเล็บหมาป่างั้นหรอ..ชื่อนี้ยอดเยี่ยมไปเลย..เดี๋ยวผมจะไปคุยกับชินนะภายหลังเอง” ชิงเฟิงพูด

“ที่วางอยู่บนโต๊ะน่ะเป็นข้อมูลผู้นำทั้งสามของแก๊งยามากูจิ..ซึ่งเป็นเป้าหมายของเราในครั้งนี้..จากข่าวกรองของแก๊งฝูชิงแล้วยักษ์ใหญ่ทั้งสามของแก๊งยามากุจิจะมาปรากฏตัวกันที่สโมสรน้ำพุร้อนในคืนนี้และเราก็จะเริ่มลงมือกันในคืนนี้เลย” เย่เชียนพูด

“อ้อคืนนี้เลยหรอ..เอ่อ..แล้วเราจะกลับจีนหลังจากภารกิจนี้เลยหรอ” ชิงเฟิงพูด

เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเบาๆ เพราะแน่นอนว่าน้องชายคนนี้จิตใจของเขาจดจ่ออยู่กับนากาจิมะชินนะซึ่งเย่เชียนเองก็รู้ดีว่าชิงเฟิงคิดอะไรอยู่ “หลังจากที่เรื่องนี้จบนายก็อยู่ที่ญี่ปุ่นต่อและคอยช่วยนากาจิมะชินนะดูแลและจัดการกับกรงเล็กหมาป่าและคอยเตรียมการให้เขี้ยวหมาป่าของเราเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นก็แล้วกัน..ญี่ปุ่นน่ะเป็นประเทศกองเงินกองทองและในไม่ช้าก็เร็วเครือน่านฟ้ากรุ๊ปก็จะมาเปิดสาขาใหม่ที่นี่..เพราะงั้นนายก็อยู่ต่อเถอะ”

รอยยิ้มที่ตื่นเต้นและมีความสุขก็ปรากฏอยู่บนใบหน้าของชิงเฟิงและเขาก็พูดว่า “รับทราบครับบอส! ..ผมสัญญาเลยว่าจะทำทุกอย่างให้ดี!”

“เอาล่ะๆ ..จดจำข้อมูลต่างๆ ซะ..เราจะลุยกันตอนสองทุ่มตรง!” เย่เชียนพูดพร้อมกับบีบก้นบุหรี่ออก

ในตอนกลางคืนนั้นหิมะตกหนักกว่ามากซึ่งทำให้ท้องฟ้ามืดครึ้มเพราะหิมะที่ตกหนักผสมกับลมทางตอนเหนือที่โหมกระหน่ำจนทำให้ถนนและตรอกซอกซอยต่างๆ กลายเป็นสีขาวโพลนในทันที ลมเหนือที่โหยหวนอย่างโหมกระหน่ำดูเหมือนจะคล้ายเสียงคำรามของวิญญาณที่แหบแห้งและหนาวเหน็บไปถึงกระดูกที่ผุดขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจ

สถานที่นัดพบของผู้นำทั้งสามของแก๊งยากุซ่ายามากุจินั้นก็คือสโมสรน้ำพุร้อนซากุระ ซึ่งสโมสรแห่งนี้ทั้งหมดแทบจะไม่สามารถเข้าถึงได้นอกจากคนของแก๊งยามากุจิและแทบจะไม่มีแมลงวันตัวใดเข้าไปได้เลย ซึ่งในเวลานี้เย่เชียน,ม่อหลงและชิงเฟิงก็ได้มาถึงรอบนอกของสโมสรน้ำพุร้อนแล้ว

ถึงแม้ว่าการกำจัดผู้นำทั้งสามของแก๊งยามากุจินั้นจะไม่ใช่การกวาดล้างการมีอยู่ของแก๊งก็ตามแต่ถึงยังไงมันก็ไม่ต่างจากการกวาดล้างแบบถอนรากถอนโคนเพราะประเทศญี่ปุ่นนี้มีการแบ่งแยกชนชั้นอย่างลึกซึ้ง ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คนจีนจะอยู่รอดได้ในประเทศญี่ปุ่นแห่งนี้ เพราะแม้แต่แก๊งฝูชิงก็ยังถูกปราบปรามโดยแก๊งยามากุจิและรวมไปถึงรัฐบาลของประเทศญี่ปุ่นด้วย อย่างไรก็ตามด้วยความแข็งแกร่งของแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงนั้นจึงทำให้แก๊งยามากุจิและรัฐบาลญี่ปุ่นไม่สามารถดำเนินการใหญ่กับพวกเขาได้เลย

เขี้ยวหมาป่านั้นไม่มีรากฐานในประเทศญี่ปุ่นเลยและการที่จะกวาดล้างแก๊งยามากุจิออกไปให้หมดอย่าสิ้นซากนั้นมันก็ค่อนข้างยากลำบากอยู่พอสมควร อย่างไรก็ตามหลังจากล่าหัวของผู้นำทั้งสามของแก๊งยามากุจิแล้วอย่างน้อยๆ แก๊งยามากุจิก็ต้องตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายอย่างแน่นอน ดังนั้นเขี้ยวหมาป่าจะสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบของสถานการณ์ควบคู่ไปกับหน่วยกรงเล็บหมาป่าหรือองค์กรดาร์คลิลลี่ในอดีตนั่นเอง เพราะพวกเธอทั้งหมดก็จะค่อยๆ กลายเป็นสมาชิกและเหล่าพี่น้องของเขี้ยวหมาป่าไปโดยปริยาย

จากนั้นก็จะมีการมาเยือนของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปสาขาญี่ปุ่น โดยการมีตัวตนของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปเป็นเบื้องหน้าแล้วเขี้ยวหมาป่าก็จะสามารถเข้ามาได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่ทว่าเป้าหมายสูงสุดของเย่เชียนก็คือการพิชิตประเทศญี่ปุ่นในเชิงเศรษฐกิจเพื่อให้เขาสามารถบรรลุเป้าหมายสูงสุดได้อย่างเต็มที่ และแน่นอนว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืนเพราะมันไม่เพียงแค่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายเพียงเท่านั้นแต่ยังต้องมีการวางแผนที่ยาวนานและละเอียดถี่ถ้วนอย่างมากอีกด้วย

“บอส! ..พวกคนเฝ้ายามค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว..ดูเหมือนจะไม่ง่ายเลยนะที่จะเข้าไป” ชิงเฟิงเหลือบมองไปที่สโมสรจากระยะไกลและพูด

“บอส! ..ไม่งั้นเราก็สแตนด์บายอยู่ที่นี่สิ..แล้วรอให้พวกมันออกมา..เดี๋ยวฉันจะรับผิดชอบในการซุ่มยิงเอง..บอสและชิงเฟิงก็ซ่อนตัวอยู่แถวๆ นี้ก็ได้นะ” ม่อหลงพูด

เย่เชียนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า “ถ้าพวกเขาไม่ออกมาล่ะ..เราคงไม่อยากเสียเวลารอกันหรอกใช่มั้ย” หลังจากพูดจบแล้วเย่เชียนก็กวาดสายตามองไปรอบๆ และชี้ไปที่อาคารที่อยู่ถัดไปจากสโมสรและพูดว่า “นั่น..ตรงนั้นน่าจะเหมาะ..ยังไงก็เถอะเพื่อความปลอดภัย..เราจะแบ่งกันออกเป็นสามกลุ่มนะ..ชิงเฟิงนายมีหน้าที่ไปปั่นหัวพวกมันและดึงดูดความสนใจของพวกมันเอาไว้..พี่ม่อหลง..พี่ไปซุ่มยิงตรงจุดที่ผมเพิ่งจะบอกไป..เดี๋ยวผมจะแอบเข้าไปตรงๆ เลย..สี่ทุ่มตรงเริ่มโจมตี..มีคำถามอะไรเพิ่มมั้ย?”

“ไม่!” ชิงเฟิงและม่อหลงตอบอย่างพร้อมเพรียงกัน

“เอาล่ะ..เตรียมพร้อม!” เมื่อเย่เชียนพูดจบทั้งสามคนก็ตั้งเวลานาฬิกากันและแยกย้ายกันไป

ทั้งสามคนก็เข้าสแตนด์บายตามจุดของตัวเองและเตรียมพร้อม ณ เวลาสี่ทุ่มตรงชิงเฟิงก็เดินไปที่ประตูทางเข้าของสโมสรและสมาชิกของแก๊งยามากุจิสองคนก็หยุดเขาที่หน้าประตูและบ่นว่า “นี่เป็นสโมสรส่วนตัว..คุณเข้าไม่ได้..โปรดออกไป”

“แล้วไงวะ!” ชิงเฟิงตะโกนและต่อยหน้าคนที่จากนั้นผู้ชายคนนั้นก็พูดเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า “แกรู้มั้ยว่าพวกเราเป็นใคร..เดี๋ยวฉันไปจะรายงานหัวหน้า!”

หลังจากนั้นไม่นานการ์ดทั้งสองคนหน้าประตูก็พ่ายแพ้ไปอย่างสิ้นเชิงและถึงกับตกตะลึงเมื่อฝีมือของชิงเฟิงและพวกเขาต่างก็งุนงงกันอย่างมาก “ท่านผู้นำสั่งเอาไว้ว่าห้ามให้ใครหน้าไหนเข้าไป!” หนึ่งในนั้นพูด

“พล่ามอะไรวะ!” ชิงเฟิงก็ตะโกนขึ้นมาอีกครั้งและชักปืนพกออกมาอย่างรวดเร็วและยิงการ์ดหน้าประตูทั้งสองทิ้งในทันที และในทันใดนั้นสมาชิกของแก๊งยามากุจิที่อยู่ด้านในสโมสรก็ได้ยินเสียงปืนและก็ถึงกับผงะไปและตื่นตระหนกกันอย่างมาก ซึ่งชิงเฟิงเองก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ เขาโยนระเบิดมือสวนเข้าไปข้างในนั้นทันทีและในทันใดนั้นเสียงระเบิดก็ดังขึ้นอย่างรุนแรงภายในห้องโถงของสโมสร

เมื่อมีการระเบิดเกิดขึ้นมันก็ได้ดึงดูดความสนใจของสมาชิกทุกคนในแก๊งยามากุจิทันทีและในขณะนี้เย่เชียนกับม่อหลงนั้นก็เข้าไปสโมสรน้ำพุร้อนจากสองทิศทางที่ตรงกันข้ามไปตามแนวเชือก

ในขณะนี้ชิงเฟิงก็หนีออกมาจากหน้าประตูแล้วและเขาก็วิ่งไปที่ฝั่งตรงข้ามของสโมสรจากนั้นก็ซุ่มอยู่และเปลี่ยนเป็นปืนไรเฟิลจูโจ่มและเล็งไปที่ประตูของสโมสร ซึ่งเมื่อเห็นสมาชิกของแก๊งยามากุจิออกมาเขาก็ยิงสวนเข้าไปทีละคนๆ เมื่อเห็นเช่นนั้นสมาชิกของแก๊งยามากุจิต่างก็ตื่นตระหนกและไม่นานพวกเขาก็ค้นพบตำแหน่งที่ซุ่มของชิงเฟิงและกราดยิงกันไปที่ตำแหน่งของชิงเฟิงทีละคนๆ อย่างไรก็ตามระยะทางนั้นไกลมากจนเห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่สามารถสร้างผลกระทบใดๆ ต่อชิงเฟิงได้เลยแม้แต่น้อย หลังจากนั้นสมาชิกของแก๊งยามากุจิบางคนก็เริ่มเข้าใกล้จุดของชิงเฟิงที่ชิงเฟิงซุ่มอยู่มาเรื่อยๆ

ด้านในของสโมสรน้ำพุร้อนนั้นมีผู้ชายอยู่สองคนและผู้หญิงอีกหนึ่งคนกำลังแช่น้ำร้อนกันอยู่ในนั้นซึ่งร่างกายของพวกเขาก็เต็มไปด้วยรอยสักโดยเฉพาะผู้หญิงคนนั้นที่มีรอยสักที่น่าเกรงขามขนาดใหญ่บนหลังของเธอซึ่งดูเป็นเอกลักษณ์อย่างยิ่ง

เมื่อได้ยินเสียงปืนดังขึ้นแล้วผู้หญิงและผู้ชายที่ดูยังหนุ่มยังแน่นอยู่ก็ตกตะลึงเล็กน้อยและชายวัยกลางคนก็หัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ไม่เป็นไรๆ ..ไม่ต้องกังวลไป..การคุ้มกันของที่นี่น่ะแน่นหนาจนแม้แต่เทพแห่งความตายยังเข้ามาไม่ได้เลย” เมื่อได้ยินสิ่งที่ชายวัยกลางพูดแล้วทั้งสองคนก็หันหน้ากลับไปและแช่น้ำร้อนอย่างสบายใจภายในบ่อน้ำพุร้อน

“น้องสอง..รูปร่างและสัดส่วนของเธอเนี่ยนับวันยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ จริงๆ ..แม้แต่เด็กสาวก็ยังเทียบกับเธอไม่ได้เลย” ดวงตาของผู้ชายที่ดูมีอายุมากกว่าเผยให้เห็นถึงร่องรอยของตัณหาและความหลงใหลในกามพร้อมกับหัวเราะ

ผู้หญิงคนนั้นก็หัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ที่พี่ใหญ่พูดแบบนั้นก็เพราะว่าฉันแก่แล้วงั้นหรอ”

“ไม่ๆ ..ไม่ใช่เด็ดขาด..น้องสาวของฉันยังสาวยังแซ่อยู่!” พี่ใหญ่พูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ จากนั้นเขาก็หันไปสบตากับชายหนุ่มอีกคนและพูดว่า “น้องสาม! ..การติดต่อกับพวกสามเหลี่ยมทองคำเป็นยังไงบ้าง..เป็นเพราะไอ้พวกตงเซียงกรุ๊ปแท้ๆ ที่ล้มเหลวเลยทำให้เส้นสายและเครือข่ายในสามเหลี่ยมทองคำดูเหมือนจะขาดช่วงไปเลย..น้องสาม! ..นี่เป็นความผิดพลาดของแก”

“ผมกำลังติดต่ออยู่ครับพี่ใหญ่..ผมเพิ่งจะไปที่สามเหลี่ยมทองคำมาเมื่อสองสามวันก่อนเอง..แต่กองโจรที่นั่นมันไม่สนใจเราเลย..ดูเหมือนว่ามันจะมีใครบางคนที่ตัดหน้าเราและเสนอราคาสูงกว่าเราด้วย” น้องสามพูด

“ต้นทุนสูงขึ้นถ้างั้นราคาขายก็ต้องสูงขึ้นสิ..แกควรจะรีบทำสิ่งต่างๆ ที่นั่นให้เร็วกว่านี้นะ!” พี่ใหญ่พูด

“ได้ครับ!” น้องสามตอบอย่างเคารพ

“น้องสอง! ..แล้วพวกนักฆ่าขององค์กรดาร์คลิลลี่เป็นยังไงบ้าง..เอ่อ..แล้วดูเหมือนว่าฉันจะได้ยินข่าวร้ายมานะว่าพวกเขี้ยวหมาป่าได้ทำลายฐานของเราในจีนแล้ว..แต่เรายังไม่มีโอกาสที่จะโต้กลับเลย..ถ้าหากสิ่งเหล่านี้ถูกแพร่กระจายออกไปล่ะก็..มันจะทำให้แก๊งอื่นๆ หัวเราะเยาะเราได้นะ” พี่ใหญ่ชำเลืองมองผู้หญิงคนนั้นแล้วพูด แต่ทว่าน้ำเสียงนั้นก็ดูอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัดและไม่จริงจังและดุดันเท่ากับการพูดคุยกับน้องสามเมื่อครู่นี้เลย

“ดาร์คลิลลี่ส่งนักฆ่าออกไปตั้งหลายคนแต่ไม่มีใครรอดกลับมาได้เลย..ผู้นำของเขี้ยวหมาป่าน่ะเป็นทหารรับจ้างที่มีชื่อเสียงระดับโลก..มันไม่ง่ายเลยนะที่จะจัดการกับพวกเขา..ฉันคิดว่าเราควรหาวิธีอื่นกันดีกว่า” น้องสองพูด

“หืม! ..เธอหมายถึงให้ไปนั่งจับเข่าคุยกับพวกเขี้ยวหมาป่าน่ะเหรอ?” พี่ใหญ่ขมวดคิ้วแน่นและพูดอย่างไม่สบอารมณ์เล็กน้อย

“ไม่ๆ พี่ใหญ่..ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น..พี่ใหญ่ก็รู้หนิว่าพวกเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขี้ยวหมาป่าเลย..และถ้าไม่ใช่เพราะข้อมูลของตงเซียงกรุ๊ปล่ะก็เราคงจะไม่รู้อะไรเลยด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายคือองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าที่ยิ่งใหญ่นั่นน่ะ..แต่! ..ลองคิดดูสิว่าถ้าพวกเราว่าจ้างพวกทหารรับจ้างมาจัดการกับพวกเขี้ยวหมาป่าแล้วคงจะมีประโยชน์กว่าพวกนักฆ่าของดาร์คลิลลี่อีก” น้องสองพูดต่อ “และเท่าที่ฉันรู้มาน่ะความแข็งแกรงของเหล่าสมาชิกเขี้ยวหมาป่าแต่ละคนก็ไม่ใช่ธรรมดาๆ เลย..และถ้าเราแค่จัดการผู้นำของพวกมันเพียงไม่กี่คนแค่นั้นมันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะหยุดพวกมัน..เพราะการที่เราจะสามารถลบล้างพวกมันได้นั้นก็มีแต่ต้องกวาดล้างพวกมันทั้งหมดในคราวเดียว”

“แต่องค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่ามีชื่อเสียงมากในโลกของทหารรับจ้างน่ะสิ..แล้วแบบนี้จะมีองค์กรทหารรับจ้างไหนที่กล้าต่อกรกับพวกมันกันล่ะ?” พี่ใหญ่พูดด้วยความกังวล

“ฮ่าๆ ..พี่ใหญ่สบายใจได้เลย..เพราะว่าพวกทหารรับจ้างน่ะมันก็อยู่เพื่อเงินกันทั้งนั้น..เราก็แค่ต้องเสนอเงินที่มากพอที่จะทำให้พวกมันสนใจ..ฉันเชื่อเลยว่าพวกมันจะต้องเต็มใจรับงานอย่างแน่นอน..และถ้าหากทหารรับจ้างองค์กรเดียวไม่สามารถกำจัดเขี้ยวหมาได้ล่ะก็..เราก็แค่จ้างเพิ่ม..สององค์กร..สามองค์กรไปสิ..ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเราจะฆ่าพวกมันไม่ได้..พวกมันไม่ใช่พระเจ้าสักหน่อย!”

“พี่สอง..แต่ว่าเงินที่จะต้องไปว่าจ้างพวกทหารรับจ้างเหล่านั้นมันไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ..อย่าไปมองว่าทหารรับจ้างเหล่านั้นจะเป็นคนที่เอาชีวิตไปแลกกับเงินสิ..เพราะพวกเขาเหล่านั้นล้วนแต่เอาเงินไปแลกชีวิตกันต่างหากล่ะ” น้องสามพูด

“แกนี่มันโง่จริงๆ” น้องสองจ้องเขม็งไปที่น้องสามแล้วพูดว่า “นี่แกไม่เข้าใจความจริงเลยหรือไงว่าต่อให้เราเสียเงินไปถึงยังไงเราก็หามันใหม่ได้อยู่ดี..แต่การปล่อยศัตรูเอาไว้แบบนี้มันก็เป็นเหมือนกับเรื้อรังและโรคระบาดที่จะมาคุกคามเราเมื่อไหร่ก็ไม่รู้”

หลังจากที่เงียบไปนานพี่ใหญ่ก็พูดขึ้นมาว่า “ถูกต้อง! ..ที่น้องสองพูดก็มีเหตุผล..ถ้างั้นเธอก็จัดการเรื่องนี้โดยเร็วที่สุดและทำตามแบบที่เธอพูดนั่นแหละ”

“โว้วๆ ..เป็นแผนที่ดีเลยหนิ..ช่างเป็นแผนการที่ดีจริงๆ” ในขณะนี้จู่ๆ ก็มีเสียงปรบมือดังขึ้นมาจากข้างนอกและพบว่ามีคนสองคนกำลังเดินเข้ามาจากด้านนอก

.

.

.

.

.

.

.

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ยอดนักรบจอมราชัน 316 บุกเยือนสามผู้นำในยามราตรี

Now you are reading ยอดนักรบจอมราชัน Chapter 316 บุกเยือนสามผู้นำในยามราตรี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 316 บุกเยือนสามผู้นำในยามราตรี
เย่เชียนก็พยักหน้าแต่สายตาของเขานั้นยังคงจ้องมองไปที่หิมะที่กำลังตกหนักอยู่นอกหน้าต่างโดยไม่หันกลับมามอง

เป็นฤดูหนาวที่หนาวเหน็บซึ่งในเวลานี้สิ่งที่ผู้คนต้องการมากที่สุดก็คือการกลับบ้านและการรวมครอบครัวหรือเครือญาตินั่นเอง

“เกิดอะไรขึ้นกับดาร์คลิลลี่งั้นหรอ?” เย่เชียนถาม

“เราจัดการเรียบร้อยแล้วครับบอส…พวกเธอไม่ต้องการวางมือ..พวกเธอเต็มใจที่จะอยู่ต่อครับ” ชิงเฟิงพูดต่อ “บอส..เราจะเปลี่ยนชื่อของดาร์คลิลลี่มั้ย..เพราะตอนนี้พวกเธอเป็นสมาชิกของเขี้ยวหมาป่าแล้ว”

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเย่เชียนก็พยักหน้าและพูดว่า “ถ้างั้นก็เรียกพวกเธอว่ากรงเล็บหมาป่าก็แล้วกัน..ฉันเห็นว่าพวกเธอสามารถแทงทะลุหัวใจของศัตรูได้เหมือนกรงเล็บที่แหลมคม”

“กรงเล็บหมาป่างั้นหรอ..ชื่อนี้ยอดเยี่ยมไปเลย..เดี๋ยวผมจะไปคุยกับชินนะภายหลังเอง” ชิงเฟิงพูด

“ที่วางอยู่บนโต๊ะน่ะเป็นข้อมูลผู้นำทั้งสามของแก๊งยามากูจิ..ซึ่งเป็นเป้าหมายของเราในครั้งนี้..จากข่าวกรองของแก๊งฝูชิงแล้วยักษ์ใหญ่ทั้งสามของแก๊งยามากุจิจะมาปรากฏตัวกันที่สโมสรน้ำพุร้อนในคืนนี้และเราก็จะเริ่มลงมือกันในคืนนี้เลย” เย่เชียนพูด

“อ้อคืนนี้เลยหรอ..เอ่อ..แล้วเราจะกลับจีนหลังจากภารกิจนี้เลยหรอ” ชิงเฟิงพูด

เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเบาๆ เพราะแน่นอนว่าน้องชายคนนี้จิตใจของเขาจดจ่ออยู่กับนากาจิมะชินนะซึ่งเย่เชียนเองก็รู้ดีว่าชิงเฟิงคิดอะไรอยู่ “หลังจากที่เรื่องนี้จบนายก็อยู่ที่ญี่ปุ่นต่อและคอยช่วยนากาจิมะชินนะดูแลและจัดการกับกรงเล็กหมาป่าและคอยเตรียมการให้เขี้ยวหมาป่าของเราเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นก็แล้วกัน..ญี่ปุ่นน่ะเป็นประเทศกองเงินกองทองและในไม่ช้าก็เร็วเครือน่านฟ้ากรุ๊ปก็จะมาเปิดสาขาใหม่ที่นี่..เพราะงั้นนายก็อยู่ต่อเถอะ”

รอยยิ้มที่ตื่นเต้นและมีความสุขก็ปรากฏอยู่บนใบหน้าของชิงเฟิงและเขาก็พูดว่า “รับทราบครับบอส! ..ผมสัญญาเลยว่าจะทำทุกอย่างให้ดี!”

“เอาล่ะๆ ..จดจำข้อมูลต่างๆ ซะ..เราจะลุยกันตอนสองทุ่มตรง!” เย่เชียนพูดพร้อมกับบีบก้นบุหรี่ออก

ในตอนกลางคืนนั้นหิมะตกหนักกว่ามากซึ่งทำให้ท้องฟ้ามืดครึ้มเพราะหิมะที่ตกหนักผสมกับลมทางตอนเหนือที่โหมกระหน่ำจนทำให้ถนนและตรอกซอกซอยต่างๆ กลายเป็นสีขาวโพลนในทันที ลมเหนือที่โหยหวนอย่างโหมกระหน่ำดูเหมือนจะคล้ายเสียงคำรามของวิญญาณที่แหบแห้งและหนาวเหน็บไปถึงกระดูกที่ผุดขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจ

สถานที่นัดพบของผู้นำทั้งสามของแก๊งยากุซ่ายามากุจินั้นก็คือสโมสรน้ำพุร้อนซากุระ ซึ่งสโมสรแห่งนี้ทั้งหมดแทบจะไม่สามารถเข้าถึงได้นอกจากคนของแก๊งยามากุจิและแทบจะไม่มีแมลงวันตัวใดเข้าไปได้เลย ซึ่งในเวลานี้เย่เชียน,ม่อหลงและชิงเฟิงก็ได้มาถึงรอบนอกของสโมสรน้ำพุร้อนแล้ว

ถึงแม้ว่าการกำจัดผู้นำทั้งสามของแก๊งยามากุจินั้นจะไม่ใช่การกวาดล้างการมีอยู่ของแก๊งก็ตามแต่ถึงยังไงมันก็ไม่ต่างจากการกวาดล้างแบบถอนรากถอนโคนเพราะประเทศญี่ปุ่นนี้มีการแบ่งแยกชนชั้นอย่างลึกซึ้ง ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คนจีนจะอยู่รอดได้ในประเทศญี่ปุ่นแห่งนี้ เพราะแม้แต่แก๊งฝูชิงก็ยังถูกปราบปรามโดยแก๊งยามากุจิและรวมไปถึงรัฐบาลของประเทศญี่ปุ่นด้วย อย่างไรก็ตามด้วยความแข็งแกร่งของแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงนั้นจึงทำให้แก๊งยามากุจิและรัฐบาลญี่ปุ่นไม่สามารถดำเนินการใหญ่กับพวกเขาได้เลย

เขี้ยวหมาป่านั้นไม่มีรากฐานในประเทศญี่ปุ่นเลยและการที่จะกวาดล้างแก๊งยามากุจิออกไปให้หมดอย่าสิ้นซากนั้นมันก็ค่อนข้างยากลำบากอยู่พอสมควร อย่างไรก็ตามหลังจากล่าหัวของผู้นำทั้งสามของแก๊งยามากุจิแล้วอย่างน้อยๆ แก๊งยามากุจิก็ต้องตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายอย่างแน่นอน ดังนั้นเขี้ยวหมาป่าจะสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบของสถานการณ์ควบคู่ไปกับหน่วยกรงเล็บหมาป่าหรือองค์กรดาร์คลิลลี่ในอดีตนั่นเอง เพราะพวกเธอทั้งหมดก็จะค่อยๆ กลายเป็นสมาชิกและเหล่าพี่น้องของเขี้ยวหมาป่าไปโดยปริยาย

จากนั้นก็จะมีการมาเยือนของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปสาขาญี่ปุ่น โดยการมีตัวตนของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปเป็นเบื้องหน้าแล้วเขี้ยวหมาป่าก็จะสามารถเข้ามาได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่ทว่าเป้าหมายสูงสุดของเย่เชียนก็คือการพิชิตประเทศญี่ปุ่นในเชิงเศรษฐกิจเพื่อให้เขาสามารถบรรลุเป้าหมายสูงสุดได้อย่างเต็มที่ และแน่นอนว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืนเพราะมันไม่เพียงแค่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายเพียงเท่านั้นแต่ยังต้องมีการวางแผนที่ยาวนานและละเอียดถี่ถ้วนอย่างมากอีกด้วย

“บอส! ..พวกคนเฝ้ายามค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว..ดูเหมือนจะไม่ง่ายเลยนะที่จะเข้าไป” ชิงเฟิงเหลือบมองไปที่สโมสรจากระยะไกลและพูด

“บอส! ..ไม่งั้นเราก็สแตนด์บายอยู่ที่นี่สิ..แล้วรอให้พวกมันออกมา..เดี๋ยวฉันจะรับผิดชอบในการซุ่มยิงเอง..บอสและชิงเฟิงก็ซ่อนตัวอยู่แถวๆ นี้ก็ได้นะ” ม่อหลงพูด

เย่เชียนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า “ถ้าพวกเขาไม่ออกมาล่ะ..เราคงไม่อยากเสียเวลารอกันหรอกใช่มั้ย” หลังจากพูดจบแล้วเย่เชียนก็กวาดสายตามองไปรอบๆ และชี้ไปที่อาคารที่อยู่ถัดไปจากสโมสรและพูดว่า “นั่น..ตรงนั้นน่าจะเหมาะ..ยังไงก็เถอะเพื่อความปลอดภัย..เราจะแบ่งกันออกเป็นสามกลุ่มนะ..ชิงเฟิงนายมีหน้าที่ไปปั่นหัวพวกมันและดึงดูดความสนใจของพวกมันเอาไว้..พี่ม่อหลง..พี่ไปซุ่มยิงตรงจุดที่ผมเพิ่งจะบอกไป..เดี๋ยวผมจะแอบเข้าไปตรงๆ เลย..สี่ทุ่มตรงเริ่มโจมตี..มีคำถามอะไรเพิ่มมั้ย?”

“ไม่!” ชิงเฟิงและม่อหลงตอบอย่างพร้อมเพรียงกัน

“เอาล่ะ..เตรียมพร้อม!” เมื่อเย่เชียนพูดจบทั้งสามคนก็ตั้งเวลานาฬิกากันและแยกย้ายกันไป

ทั้งสามคนก็เข้าสแตนด์บายตามจุดของตัวเองและเตรียมพร้อม ณ เวลาสี่ทุ่มตรงชิงเฟิงก็เดินไปที่ประตูทางเข้าของสโมสรและสมาชิกของแก๊งยามากุจิสองคนก็หยุดเขาที่หน้าประตูและบ่นว่า “นี่เป็นสโมสรส่วนตัว..คุณเข้าไม่ได้..โปรดออกไป”

“แล้วไงวะ!” ชิงเฟิงตะโกนและต่อยหน้าคนที่จากนั้นผู้ชายคนนั้นก็พูดเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า “แกรู้มั้ยว่าพวกเราเป็นใคร..เดี๋ยวฉันไปจะรายงานหัวหน้า!”

หลังจากนั้นไม่นานการ์ดทั้งสองคนหน้าประตูก็พ่ายแพ้ไปอย่างสิ้นเชิงและถึงกับตกตะลึงเมื่อฝีมือของชิงเฟิงและพวกเขาต่างก็งุนงงกันอย่างมาก “ท่านผู้นำสั่งเอาไว้ว่าห้ามให้ใครหน้าไหนเข้าไป!” หนึ่งในนั้นพูด

“พล่ามอะไรวะ!” ชิงเฟิงก็ตะโกนขึ้นมาอีกครั้งและชักปืนพกออกมาอย่างรวดเร็วและยิงการ์ดหน้าประตูทั้งสองทิ้งในทันที และในทันใดนั้นสมาชิกของแก๊งยามากุจิที่อยู่ด้านในสโมสรก็ได้ยินเสียงปืนและก็ถึงกับผงะไปและตื่นตระหนกกันอย่างมาก ซึ่งชิงเฟิงเองก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ เขาโยนระเบิดมือสวนเข้าไปข้างในนั้นทันทีและในทันใดนั้นเสียงระเบิดก็ดังขึ้นอย่างรุนแรงภายในห้องโถงของสโมสร

เมื่อมีการระเบิดเกิดขึ้นมันก็ได้ดึงดูดความสนใจของสมาชิกทุกคนในแก๊งยามากุจิทันทีและในขณะนี้เย่เชียนกับม่อหลงนั้นก็เข้าไปสโมสรน้ำพุร้อนจากสองทิศทางที่ตรงกันข้ามไปตามแนวเชือก

ในขณะนี้ชิงเฟิงก็หนีออกมาจากหน้าประตูแล้วและเขาก็วิ่งไปที่ฝั่งตรงข้ามของสโมสรจากนั้นก็ซุ่มอยู่และเปลี่ยนเป็นปืนไรเฟิลจูโจ่มและเล็งไปที่ประตูของสโมสร ซึ่งเมื่อเห็นสมาชิกของแก๊งยามากุจิออกมาเขาก็ยิงสวนเข้าไปทีละคนๆ เมื่อเห็นเช่นนั้นสมาชิกของแก๊งยามากุจิต่างก็ตื่นตระหนกและไม่นานพวกเขาก็ค้นพบตำแหน่งที่ซุ่มของชิงเฟิงและกราดยิงกันไปที่ตำแหน่งของชิงเฟิงทีละคนๆ อย่างไรก็ตามระยะทางนั้นไกลมากจนเห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่สามารถสร้างผลกระทบใดๆ ต่อชิงเฟิงได้เลยแม้แต่น้อย หลังจากนั้นสมาชิกของแก๊งยามากุจิบางคนก็เริ่มเข้าใกล้จุดของชิงเฟิงที่ชิงเฟิงซุ่มอยู่มาเรื่อยๆ

ด้านในของสโมสรน้ำพุร้อนนั้นมีผู้ชายอยู่สองคนและผู้หญิงอีกหนึ่งคนกำลังแช่น้ำร้อนกันอยู่ในนั้นซึ่งร่างกายของพวกเขาก็เต็มไปด้วยรอยสักโดยเฉพาะผู้หญิงคนนั้นที่มีรอยสักที่น่าเกรงขามขนาดใหญ่บนหลังของเธอซึ่งดูเป็นเอกลักษณ์อย่างยิ่ง

เมื่อได้ยินเสียงปืนดังขึ้นแล้วผู้หญิงและผู้ชายที่ดูยังหนุ่มยังแน่นอยู่ก็ตกตะลึงเล็กน้อยและชายวัยกลางคนก็หัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ไม่เป็นไรๆ ..ไม่ต้องกังวลไป..การคุ้มกันของที่นี่น่ะแน่นหนาจนแม้แต่เทพแห่งความตายยังเข้ามาไม่ได้เลย” เมื่อได้ยินสิ่งที่ชายวัยกลางพูดแล้วทั้งสองคนก็หันหน้ากลับไปและแช่น้ำร้อนอย่างสบายใจภายในบ่อน้ำพุร้อน

“น้องสอง..รูปร่างและสัดส่วนของเธอเนี่ยนับวันยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ จริงๆ ..แม้แต่เด็กสาวก็ยังเทียบกับเธอไม่ได้เลย” ดวงตาของผู้ชายที่ดูมีอายุมากกว่าเผยให้เห็นถึงร่องรอยของตัณหาและความหลงใหลในกามพร้อมกับหัวเราะ

ผู้หญิงคนนั้นก็หัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ที่พี่ใหญ่พูดแบบนั้นก็เพราะว่าฉันแก่แล้วงั้นหรอ”

“ไม่ๆ ..ไม่ใช่เด็ดขาด..น้องสาวของฉันยังสาวยังแซ่อยู่!” พี่ใหญ่พูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ จากนั้นเขาก็หันไปสบตากับชายหนุ่มอีกคนและพูดว่า “น้องสาม! ..การติดต่อกับพวกสามเหลี่ยมทองคำเป็นยังไงบ้าง..เป็นเพราะไอ้พวกตงเซียงกรุ๊ปแท้ๆ ที่ล้มเหลวเลยทำให้เส้นสายและเครือข่ายในสามเหลี่ยมทองคำดูเหมือนจะขาดช่วงไปเลย..น้องสาม! ..นี่เป็นความผิดพลาดของแก”

“ผมกำลังติดต่ออยู่ครับพี่ใหญ่..ผมเพิ่งจะไปที่สามเหลี่ยมทองคำมาเมื่อสองสามวันก่อนเอง..แต่กองโจรที่นั่นมันไม่สนใจเราเลย..ดูเหมือนว่ามันจะมีใครบางคนที่ตัดหน้าเราและเสนอราคาสูงกว่าเราด้วย” น้องสามพูด

“ต้นทุนสูงขึ้นถ้างั้นราคาขายก็ต้องสูงขึ้นสิ..แกควรจะรีบทำสิ่งต่างๆ ที่นั่นให้เร็วกว่านี้นะ!” พี่ใหญ่พูด

“ได้ครับ!” น้องสามตอบอย่างเคารพ

“น้องสอง! ..แล้วพวกนักฆ่าขององค์กรดาร์คลิลลี่เป็นยังไงบ้าง..เอ่อ..แล้วดูเหมือนว่าฉันจะได้ยินข่าวร้ายมานะว่าพวกเขี้ยวหมาป่าได้ทำลายฐานของเราในจีนแล้ว..แต่เรายังไม่มีโอกาสที่จะโต้กลับเลย..ถ้าหากสิ่งเหล่านี้ถูกแพร่กระจายออกไปล่ะก็..มันจะทำให้แก๊งอื่นๆ หัวเราะเยาะเราได้นะ” พี่ใหญ่ชำเลืองมองผู้หญิงคนนั้นแล้วพูด แต่ทว่าน้ำเสียงนั้นก็ดูอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัดและไม่จริงจังและดุดันเท่ากับการพูดคุยกับน้องสามเมื่อครู่นี้เลย

“ดาร์คลิลลี่ส่งนักฆ่าออกไปตั้งหลายคนแต่ไม่มีใครรอดกลับมาได้เลย..ผู้นำของเขี้ยวหมาป่าน่ะเป็นทหารรับจ้างที่มีชื่อเสียงระดับโลก..มันไม่ง่ายเลยนะที่จะจัดการกับพวกเขา..ฉันคิดว่าเราควรหาวิธีอื่นกันดีกว่า” น้องสองพูด

“หืม! ..เธอหมายถึงให้ไปนั่งจับเข่าคุยกับพวกเขี้ยวหมาป่าน่ะเหรอ?” พี่ใหญ่ขมวดคิ้วแน่นและพูดอย่างไม่สบอารมณ์เล็กน้อย

“ไม่ๆ พี่ใหญ่..ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น..พี่ใหญ่ก็รู้หนิว่าพวกเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขี้ยวหมาป่าเลย..และถ้าไม่ใช่เพราะข้อมูลของตงเซียงกรุ๊ปล่ะก็เราคงจะไม่รู้อะไรเลยด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายคือองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าที่ยิ่งใหญ่นั่นน่ะ..แต่! ..ลองคิดดูสิว่าถ้าพวกเราว่าจ้างพวกทหารรับจ้างมาจัดการกับพวกเขี้ยวหมาป่าแล้วคงจะมีประโยชน์กว่าพวกนักฆ่าของดาร์คลิลลี่อีก” น้องสองพูดต่อ “และเท่าที่ฉันรู้มาน่ะความแข็งแกรงของเหล่าสมาชิกเขี้ยวหมาป่าแต่ละคนก็ไม่ใช่ธรรมดาๆ เลย..และถ้าเราแค่จัดการผู้นำของพวกมันเพียงไม่กี่คนแค่นั้นมันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะหยุดพวกมัน..เพราะการที่เราจะสามารถลบล้างพวกมันได้นั้นก็มีแต่ต้องกวาดล้างพวกมันทั้งหมดในคราวเดียว”

“แต่องค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่ามีชื่อเสียงมากในโลกของทหารรับจ้างน่ะสิ..แล้วแบบนี้จะมีองค์กรทหารรับจ้างไหนที่กล้าต่อกรกับพวกมันกันล่ะ?” พี่ใหญ่พูดด้วยความกังวล

“ฮ่าๆ ..พี่ใหญ่สบายใจได้เลย..เพราะว่าพวกทหารรับจ้างน่ะมันก็อยู่เพื่อเงินกันทั้งนั้น..เราก็แค่ต้องเสนอเงินที่มากพอที่จะทำให้พวกมันสนใจ..ฉันเชื่อเลยว่าพวกมันจะต้องเต็มใจรับงานอย่างแน่นอน..และถ้าหากทหารรับจ้างองค์กรเดียวไม่สามารถกำจัดเขี้ยวหมาได้ล่ะก็..เราก็แค่จ้างเพิ่ม..สององค์กร..สามองค์กรไปสิ..ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเราจะฆ่าพวกมันไม่ได้..พวกมันไม่ใช่พระเจ้าสักหน่อย!”

“พี่สอง..แต่ว่าเงินที่จะต้องไปว่าจ้างพวกทหารรับจ้างเหล่านั้นมันไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ..อย่าไปมองว่าทหารรับจ้างเหล่านั้นจะเป็นคนที่เอาชีวิตไปแลกกับเงินสิ..เพราะพวกเขาเหล่านั้นล้วนแต่เอาเงินไปแลกชีวิตกันต่างหากล่ะ” น้องสามพูด

“แกนี่มันโง่จริงๆ” น้องสองจ้องเขม็งไปที่น้องสามแล้วพูดว่า “นี่แกไม่เข้าใจความจริงเลยหรือไงว่าต่อให้เราเสียเงินไปถึงยังไงเราก็หามันใหม่ได้อยู่ดี..แต่การปล่อยศัตรูเอาไว้แบบนี้มันก็เป็นเหมือนกับเรื้อรังและโรคระบาดที่จะมาคุกคามเราเมื่อไหร่ก็ไม่รู้”

หลังจากที่เงียบไปนานพี่ใหญ่ก็พูดขึ้นมาว่า “ถูกต้อง! ..ที่น้องสองพูดก็มีเหตุผล..ถ้างั้นเธอก็จัดการเรื่องนี้โดยเร็วที่สุดและทำตามแบบที่เธอพูดนั่นแหละ”

“โว้วๆ ..เป็นแผนที่ดีเลยหนิ..ช่างเป็นแผนการที่ดีจริงๆ” ในขณะนี้จู่ๆ ก็มีเสียงปรบมือดังขึ้นมาจากข้างนอกและพบว่ามีคนสองคนกำลังเดินเข้ามาจากด้านนอก

.

.

.

.

.

.

.

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+