ยอดนักรบจอมราชัน 317 ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

Now you are reading ยอดนักรบจอมราชัน Chapter 317 ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 317 ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
ไม่มีใครอื่นนอกเสียจากเย่เชียนและม่อหลงนั่นเอง ซึ่งด้วยการดึงดูดความสนใจและการหลอกล่อของชิงเฟิงนั้นทำให้สมาชิกของแก๊งยามากุจิส่วนใหญ่ออกไปปะทะกับชิงเฟิงกันหมด ดังนั้นจึงทำให้เย่เชียนเย่เชียนกับม่อหลงแอบลอบเข้ามาได้อย่างง่ายดาย

เมื่อเห็นเย่เชียนและม่อหลงเข้าอย่างกะทันหันเช่นนี้น้องสามก็ประหลาดใจและตะคอกว่า “เฮ้ยพวกแกเป็นใครวะ!”

ม่อหลงจ่อปืนเล็งไปที่พวกเขาแต่ก็น่าเสียดายที่พวกเขากำลังเปลือยเปล่าอยู่และไม่สามารถที่จะตอบโต้ใดๆ ได้เลย เย่เชียนก็หัวเราะอย่างอำมหิตและพูดว่า “ฮ่าๆ ..พวกเราก็คือเขี้ยวหมาป่าพี่พวกคุณเพิ่งจะพูดถึงยังไงล่ะ”

เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เชียนเช่นนี้ผู้หญิงน้องสามคนนั้นก็ขมวดคิ้วแน่นและยืนขึ้นจากบ่อน้ำพุร้อนโดยไม่มีท่าทีเขินอายเลยแม้แต่น้อยและเธอก็แสยะยิ้มและพูดว่า “พวกแกเข้ามาที่นี่ได้ยังไง..มีเด็กๆ ของแก๊งยามากุจิอยู่ตั้งหลายร้อยคน..ถึงยังไงแกก็ออกไปไหนไม่ได้อยู่ดี”

เมื่อเย่เชียนเห็นเธอลุกขึ้นมาเย่เชียนก็กำลังจะพูดแต่ม่อหลงก็ตะคอกกลับไปเสียก่อนว่า “ถ้าไม่อยากตายก็นั่งอยู่นิ่งๆ ซะ..ไม่งั้นฉันจะส่งคุณไปเยือนนรกตอนนี้ซะเลย”

ทั้งสามคนก็กัดฟันทนและไม่สบอารมณ์อย่างมาก ส่วนเย่เชียนก็ฉีกยิ้มและพูดว่า “ก็ในเมื่อเราเข้ามาได้ง่ายๆ แล้วทำไมเราจะออกไปง่ายๆ ไม่ได้กันล่ะ”

“มาเถอะ! ..แกต้องการอะไร” พี่ใหญ่ขมวดคิ้วและถาม

“มันก็ไม่มีอะไรมากหรอก..เหล่าพี่น้องเขี้ยวหมาป่าของพวกเราน่ะเป็นเด็กๆ ที่มาจากครอบครัวที่ยากจนและยากไร้..พวกเรามีไม่จะกิน..ไม่มีจะอยู่..แม้แต่ชุดที่ใส่ก็เก่าๆ ปราศจากความอบอุ่นมาเสมอ..แต่พวกคุณมีเงินตั้งมากมายมหาศาลที่สามารถใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายได้อย่างสบายๆ ..เพราะงั้นผมจึงมาขออาหารประทังชีวิต..ผมหวังว่าคุณจะแสดงความเมตตาใช่มั้ยครับ” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มและทำหน้าตาน่าสงสาร

“เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา..คุยกันได้” น้องสามพูดต่อ “พวกเรามาร่วมมือกันเถอะ..ฉันรับปากเลยว่าพวกแกจะมีรายได้อีกมากมาย”

“แต่ผมรอไม่ไหวแล้ว..พี่ๆ น้องๆ แทบจะอดตายกันหมดแล้ว..และตอนนี้ยังมีอีกตั้งหลายร้อยคนในองค์กรที่รอกินข้าวกันอยู่” เย่เชียนพูด ซึ่งตอนนี้ถึงยังไงเขาก็อยู่ที่นี่แล้วเพราะฉะนั้นเย่เชียนก็จะไม่ปล่อยความได้เปรียบนี้ไปโดยธรรมชาติและแน่นอนว่ายิ่งมีเงินมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งดีมากเท่านั้น อย่างไรก็ตามเหล่าผู้นำนายน้อยนายหญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ก็ล้วนเป็นคนที่ร่ำรวยและมั่งคั่งทั้งนั้น

“ถ้าอย่างนั้นแกต้องการอะไรล่ะ?” พี่ใหญ่พูดด้วยความโกรธเกรี้ยวเล็กน้อยเพราะด้วยรสชาติของการถูกข่มขู่ด้วยปืนนั้นมันช่างน่าอึดอัดจริงๆ และพวกเขาก็ไม่เคยพบประสบการณ์เช่นนี้มาก่อนเพราะพวกเขาเคยแต่จ่อปืนไปที่หัวของคนอื่นเพียงเท่านั้นไม่เคยถูกปืนจ่อเอง

เย่เชียนก็แสยะยิ้มและเหลือบมองไปที่ผู้หญิงน้องสองและพูดว่า “ก่อนอื่นเลย..คุณช่วยนั่งลงไปในน้ำก่อนจะได้มั้ย..เห็นสิ่งที่เหี่ยวเฉาของคุณแล้วผมรู้สึกคลื่นไส้เลยน่ะ” ผู้หญิงคนนั้นก็จ้องเขม็งด้วยความโกรธเกรี้ยวและถึงแม้ว่าเธอจะไม่สบอารมณ์มากแค่ไหนก็ตามถึงยังไงในเวลานี้เธอก็ต้องอดทนอดกลั้นเอาไว้ก่อน

พวกเขาจะคาดถึงผลลัพธ์เช่นนี้ได้ที่ไหนเพราะภายใต้การคุ้มกันที่แน่นหน้าและเข้มงวดเช่นนี้กลับมีคนที่สามารถบุกเข้ามาได้เช่นนี้ ซึ่งดูเหมือนว่าพวกเขาจะประเมินความแข็งแกร่งของคนอื่นมากเกินไป ในขณะนี้เย่เชียนก็กวาดสายตามองไปรอบๆ และก็เห็นคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คที่อยู่ใกล้ๆ และเขาก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูดว่า “มาเถอะๆ ..ผมรู้ว่าพวกคุณใจดีและมีเมตตา..และจะให้เงินค่าขนมผมสักหน่อย”

ถึงแม้ว่าพี่ใหญ่จะไม่เต็มใจเลยสักนิดก็ตามแต่ถึงยังไงเขาก็ไม่มีทางอื่นเขาจึงต้องลุกขึ้นมาและห่อตัวด้วยผ้าขนหนูอาบน้ำแล้วเดินไปที่คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค “แล้วอยากได้เท่าไหร่?” พี่ใหญ่ถาม

“ผมสิที่ต้องถามคุณว่าพวกคุณมีค่าสักแค่ไหนกัน..หืม?” เย่เชียนจ้องมองเขาอย่างขี้เล่นและพูดอย่างเย้ยหยัน ส่วนม่อหลงก็ยังคงเล็งปืนจ่อไปที่น้องสองและน้องสามที่อยู่ในบ่อน้ำร้อนเพื่อไม่ให้พวกเขาตอบโต้หรือขัดขืนใดๆ

พี่ใหญ่ก็กัดฟันเข้าเว็บไซต์ธนาคารระหว่างประเทศอย่างรวดเร็วด้วยความโกรธเกรี้ยวและป้อนรหัสผ่านบัญชีของเขาจากนั้นเย่เชียนก็บอกเลขบัญชีกลางขององค์กรเขี้ยวหมาป่าให้ พี่ใหญ่ก็ใส่จำนวนตัวเลขไปประมาณ 300 ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งเย่เชียนก็ฉีกยิ้มอย่างชั่วร้ายและในทันใดนั้นเจตนาฆ่าก็ปรากฏขึ้นภายในดวงตาของเขาและเขาก็คว้ามีดโลหิตหมาป่าออกมาจากนั้นก็ปาดเข้าไปที่ลำคอของพี่ใหญ่อย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเย่เชียนก็โอนเงินทั้งหมดในบัญชีของอีกฝ่ายเข้าไปยังบัญชีของเขี้ยวหมาป่าโดยตรงด้วยตัวเอง

เงินจำนวนนี้ไม่ได้มากไปหรือน้อยเกินไปสำหรับเย่เชียนซึ่งนั่นก็เพราะว่ายังมีคนอีกจำนวนมากภายใต้เขี้ยวหมาป่าไม่ว่าจะเป็นเงินเดือนและค่าตอบแทนที่จะต้องจ่ายในทุกๆ เดือนและยังต้องแบ่งส่วนไปช่วยเหลือครอบครัวของพวกเขาอีกด้วย และนอกจากนี้เย่เชียนก็ยังต้องสะสมเงินจำนวนมากเพื่อเตรียมจัดตั้งฐานทัพเรือของเขี้ยวหมาป่าในมหาสมุทรแปซิฟิกในอนาคตซึ่งมันไม่ใช่ต้นทุนเพียงเล็กน้อยเลย

เมื่อเห็นว่าพี่ใหญ่ของพวกเขาถูกเย่เชียนฆ่าโดยใช้มีดปาดคอไปแล้วน้องสองและน้องสามก็ตกใจอย่างมากและพวกเขาก็รู้แล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไม่สามารถหลบหนีไปไหนได้อีก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถที่จะรอความตายมาเยือนได้และจู่ๆ ทันใดนั้นน้องสองก็ดึงผ้าขนหนูมาพันรอบตัวเอาไว้และกระโดดออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนและกลิ้งเข้าไปหาม่อหลงซึ่งในขณะเดียวกันน้องสามก็ตะโกนอย่างดังว่า “เฮ้ย..เข้ามานี่..มีศัตรูบุก” ในขณะที่พูดเขาก็ห่อร่างของเขาด้วยผ้าขนหนูอย่างรวดเร็วและกระโดดออกจากบ่อน้ำพุร้อนและกลิ้งตามน้องสองมายังม่อหลงและเตะม่อหลงที่ขา

ในฐานะพลซุ่มยิงหรือมือสไนเปอร์ที่ทรงพลังที่สุดในเขี้ยวหมาป่าแล้วม่อหลงนั้นจึงมีความอดทนและสมาธิของมนุษย์สูงมาก ซึ่งมันเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับมือปืนคือไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไรถึงยังไงเขาก็ต้องรักษาสมาธิและไม่ถูกรบกวนจากทุกสรรพสิ่งของโลกภายนอกและเมื่อน้องสองกลิ้งเข้าหาเขาม่อหลงก็ยิงสวนกลับไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามทักษะของน้องสองนั้นไม่ได้อ่อนแอแต่อย่างใดเพราะเธอสามารถหลบหลีกการยิงของสุดยอดนักแม่นปืนได้และโดนยิ่งแค่แขนเพียงเท่านั้นไม่โดยจุดสำคัญใดๆ

เมื่อเห็นการเตะจากน้องสามแล้วม่อหลงก็บล็อกการโจมตีเอาไว้ด้วยมือข้างเดียวและในขณะเดียวกันปืนในมือของม่อหลงก็ลั่นไกเข้าใส่น้องสองทันที

ทันทีที่เสียงปืนดังขึ้นสมาชิกของแก๊งยามากุจิที่อยู่ด้านนอกต่างก็รีบวิ่งกรูกันเข้ามาอย่างรวดเร็ว ซึ่งเย่เชียนก็ไม่รีรอแต่อย่างใดเขารีบชักปืนพกออกมาและยิงสวนออกไปอย่างรวดเร็วซึ่งทันทีที่เหล่าสมาชิกของแก๊งยามากุจิถีบประตูเข้ามาพวกเขาต่างก็ล้มลงไปทีละคนๆ เพราะถูกเย่เชียนยิงอย่างแม่นยำ

ด้วยปืนที่อยู่ในมือของม่อหลงแล้วนั้นจึงทำให้หญิงสาวน้องสองไม่สามารถมีโชคใดๆ ที่จะช่วยเธอให้หลบหลีกได้อีกครั้งเธอจึงถูกกระสุนเจาะเข้าไปที่หัวใจและแทบจะไม่มีโอกาสกระเสือกกระสนหรือดิ้นรนใดๆ และล้มลงไปทันทีและเลือดก็ค่อยๆ ไหลลงไปในบ่อน้ำ ซึ่งหลังจากที่ยิงน้องสองไปแล้วม่อหลงก็หันกลับมาอย่างรวดเร็วและด้วยการที่ศัตรูเข้ามาระยะประชิดแล้วปืนจึงไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไปโดยเฉพาะเมื่อเผชิญหน้ากับนักสู้อย่างน้องสามคนนี้เพราะดูเหมือนว่าคาราเต้ของเขานั้นไม่ธรรมดาเลย

ม่อหลงก็ดึงมีดของเขาออกมาอย่างรวดเร็วและรีบวิ่งสวนเข้าไป ซึ่งนอกเหนือจากการฝึกฝนตามความสามารถเฉพาะตัวแล้วถึงยังไงประสิทธิภาพการต่อสู้ระยะประชิดของเหล่าเขี้ยวหมาป่าก็ยังได้รับการฝึกฝนและใช้จริงผ่านชีวิตและความตายมาครั้งแล้วครั้งเล่าจนนับไม่ถ้วนและโดยปกติแล้วน้องสามนั้นก็ไม่สามารถเทียบอะไรกับม่อหลงได้เลย นั่นอาจเรียกได้ว่าความอยู่ยงคงกระพันนั่นเอง

ศพที่หน้าประตูก็กองสะสมสูงขึ้นเรื่อยๆ ภายใต้การโจมตีของเย่เชียนนั้นสมาชิกแก๊งยามากุจิที่เหลือก็ไม่มีโอกาสที่จะเข้ามาเลยแม้แต่น้อย ในเวลาเดียวกันเย่เชียนก็พูดกับวิทยุว่า “ชิงเฟิง..คุ้มกันด้วย!”

เมื่อได้ยินคำสั่งระยะไกลจากวิทยุชิงเฟิงก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งและใช้เครื่องยิงจรวดและยิงมันเข้าไปในสโมสรโดยตรงและในทันใดนั้นก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นไปทั่วพื้นที่

ม่อหลงก็หมุนตัวและใช้มีดแทงเข้าไปที่อกของน้องสามทันที ซึ่งด้านหลังของเขานั้นมันเป็นกำแพงหินดังนั้นน้องสามจึงไม่สามารถถอยหนีได้เขาจึงต้องยกมือขึ้นเพื่อรับการแทงของม่อหลงเอาไว้และคว้าข้อมือของม่อหลงเอาไว้ ซึ่งในระหว่างที่กำลังยื้อกันไปยื้อกันมาอยู่นั้นน้องสามก็ได้สัมผัสกับพละกำลังที่แข็งแกร่งพลังของม่อหลงและหลังจากนั้นพวกเขาทั้งสองก็ปล่อยหมัดใส่กันอย่างดุเดือดแต่ทว่าทุกๆ ครั้งที่หมัดของทั้งสองปะทะกันนั้นดูเหมือนว่ากระดูกแขนของน้องสามจะหักไปข้างหนึ่งแล้วหากเป็นเช่นนั้นเขาจะใช้มือเดียวเพื่อเผชิญหน้ากับม่อหลงได้อย่างไร?

อย่างไรก็ตามในขณะที่น้องสามใช้มือทั้งสองข้างรับการโจมตีของม่อหลงที่ใช้มือเพียงข้างเดียวนั้นจู่ๆ มืออีกข้างของม่อหลงก็เอื้อมไปหยิบมีดจากมืออีกข้างที่โดนบล็อกเอาไว้และเขาก็ใช้มีดนั้นปาดเข้าไปที่คอของน้องสามอย่างรวดเร็วและโหดร้าย และแรงมือของน้องสามนั้นก็ค่อยๆ อ่อนแรงลงเรื่อยๆ และม่อหลงก็ผลิกตัวกลับและใช้มีดแทงเข้าไปที่หน้าอกของคู่ต่อสู้และมันก็ทะลุเข้าไปในทันที

“ไปเถอะ! ..” เย่เชียนเหลือบมองไปที่ม่อหลงและพูด ทั้งสองคนก็คอยดูหน้าดูหลังให้กันและกันและก็เดินไปทางหน้าต่างซึ่งระหว่างทางนั้นสมาชิกของแก๊งยามากุจิก็กลายเป็นศพและล้มลงต่อหน้าพวกเขาไปทีละคนๆ หลังจากนั้นเย่เชียนก็คว้าเชือกนอกหน้าต่างเอาไว้และพูดอย่างเร่งรีบว่า “พี่ม่อหลง..ถอนตัวเร็ว!”

ม่อหลงก็หันกลับมาและวิ่งไปกระโดดคว้าเอวของเย่เชียนเอาไว้และเย่เชียนก็ตัดเชือกอีกเส้นไปและในทันใดนั้นทั้งสองก็โหนเชือกไปยังอาคารใกล้เคียงที่กำหนดเอาไว้ ส่วนชิงเฟิงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเห็นเย่เชียนและม่อหลงออกมาได้อย่างปลอดภัยแล้วเขาจึงไม่ต้องกังวลอะไรอีกและหลังจากนั้นจรวดทีละนัดพุ่งตรงไปที่สโมสรและใทันใดนั้นสโมสรน้ำพุร้อนซากุระทั้งหมดก็จมอยู่ใต้ทะเลเพลิง ซึ่งสมาชิกของแก๊งยามากุจิที่เหลืออยู่ก็ไม่สนใจอะไรอีกต่อไปแล้วพวกเขาจึงรีบหนีกันออกมา

หลังจากที่โหนเชือกและโรยเชือกลงสู่พื้นกันเสร็จแล้วเย่เชียนก็เหลือบมองไปที่ม่อหลงและทั้งสองก็พุ่งเข้าไปในความมืดอย่างรวดเร็ว และเมื่อมาถึงสถานที่นัดพบที่ระบุเอาไว้ล่วงหน้าแล้วเขาก็รีบเข้าไปในรถและหลังจากนั้นไม่นานชิงเฟิงก็รีบเข้ามา และก็สตาร์ทรถจากนั้นพวกเขาทั้งสามก็หายไปในความมืดอย่างรวดเร็ว

ปฏิบัติการทั้งหมดรวดเร็วและแม่นยำซึ่งไม่เพียงแค่กำจัดผู้นำทั้งสามของแก๊งยามากุจิเพียงเท่านั้นแต่ยังส่งผลให้มีรายได้อย่างมหาศาลอีกด้วย ซึ่งอาจกล่าวได้เลยว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

เมื่อมาถึงร้านอาหารจีนภายใต้แก๊งฝูชิงแล้วนั้นก็พบว่าเซี่ยตงไป่,เซี่ยจือยี่,โย่วซวนและหวงฟู่เส้าเจี๋ยรออยู่ที่นั่นกันแล้ว และเมื่อพวกเขาเห็นเย่เชียน,ม่อหลงและชิงเฟิงที่ลงจากรถกันมาเซี่ยตงไป่ก็รีบเดินไปรับพวกเขาและพาเย่เชียนเข้าไปในร้านอาหารอย่างจริงใจ

หลังจากเข้าไปในร้านอาหารกันแล้วเซี่ยจือยี่ก็ช่วยม่อหลงถอดเสื้อโค้ตของเขาและปัดเกล็ดหิมะออกให้อย่างอ่อนโยนซึ่งม่อหลงก็เขินอายเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธใดๆ เลยแม้แต่น้อย

“เป็นไงบ้าง..เรียบร้อยดีมั้ย” เซี่ยตงไป่นั้นไม่สามารถระงับความตื่นเต้นของเขาเอาไว้ได้เขาจึงถามเมื่อพวกเขาเข้ามาในห้องอาหารกันแล้ว เพราะท้ายที่สุดถ้าหากเย่เชียนสามารถกำจัดยักษ์ใหญ่ทั้งสามของแก๊งยามากุจิได้ล่ะก็มันก็จะเป็นประโยชน์และผลดีอย่างมากต่อแก๊งฝูชิงและแก๊งฝูชิงก็จะใช้โอกาสนี้กอบโกยผลประโยชน์และธุรกิจต่างๆ ในเมืองได้อย่างง่ายดาย

“เรียบร้อยครับ!” เย่เชียนพูดง่ายๆ

“ฮ่าๆ ..เขี้ยวหมาป่าสมกับเป็นเขี้ยวหมาป่าที่ร่ำลือกันจริงๆ ..ฉันเชื่อเลยว่าไม่มีสิ่งใดในโลกใบนี้ที่เขี้ยวหมาป่าทำไม่ได้! ..ช่างเป็นเกียรติสำหรับเซี่ยตงไป่คนนี้จริงๆ ที่สามารถเป็นพี่น้องกับเย่เชียนผู้ยิ่งใหญ่ได้” เซี่ยตงไป่ยิ้มกว้างๆ และพูด

“อ้อไม่เป็นไรครับ..มันมากเกินไปที่พี่ใหญ่จะขอบคุณผม..ครั้งนี้ที่เป็นไปอย่างราบรื่นได้ทางเราก็ต้องขอบคุณพี่ใหญ่สำหรับความช่วยเหลือของพวกคุณ..ไม่งั้นเราก็ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าพวกมันอยู่ที่ไหนกันน่ะ” เย่เชียนพูด

“โอ้ๆ ..อย่าสุภาพแบบนั้นสิ” เซี่ยตงไป่พูด “เราจะมีการติดต่อกันมากขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน..ว่าแต่น้องเย่..ตอนนี้ทุกอย่างก็เรียบร้อยแล้ว..เพราะงั้นน้องเย่จะไม่อยู่ต่ออีกสักหน่อยหรือ..ฉันจะได้ตอบแทนให้ดีที่สุดในฐานะเจ้าบ้านน่ะ..หวังว่าการต้อนรับครั้งนี้น้องเย่จะไม่โกรธเคืองกันนะ”

“อ้อไม่เลยครับ..ขอบคุณมากๆ เลย..แต่วันตรุษจีนกำลังจะมาถึงเร็วๆ นี้เพราะงั้นผมจึงต้องรีบกลับไปหาครอบครัวโดยเร็วที่สุด..ผมไม่อยากพลาดวันดีๆ แบบนั้นไป” เย่เชียนพูด

“จะไปแล้วหรือ..ฉันไม่อยากให้น้องเย่รีบกลับเลย” เซี่ยตงไป่พูดจากนั้นเขาก็หันไปมองที่ม่อหลงและถามว่า “แล้วน้องม่อหลงล่ะ..จะกลับด้วยหรือ?”

เมื่อถูกถามเช่นนี้การจ้องมองของเซี่ยจือยี่ก็จดจ่ออยู่กับม่อหลงในทันที ส่วนเย่เชียนก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยโดยไม่ได้พูดอะไรใดๆ เพราะโดยปกติแล้วเขาไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงในเรื่องแบบนี้ได้และเขาก็ต้องการให้ม่อหลงตัดสินใจด้วยตัวเอง ซึ่งเมื่อถูกถามเช่นนั้นม่อหลงก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นเขาก็พูดว่า “จริงๆ แล้วผมก็อยากจะกลับไป..และผมก็ต้องขอโทษจริงๆ ที่รบกวนพวกคุณมานาน”

“คุณ…คุณอยู่ต่ออีกหน่อยไม่ได้หรอคะ?” เซี่ยจือยี่จ้องมองไปที่ม่อหลงด้วยความคาดหวัง

.

.

.

.

.

.

.

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ยอดนักรบจอมราชัน 317 ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

Now you are reading ยอดนักรบจอมราชัน Chapter 317 ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 317 ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
ไม่มีใครอื่นนอกเสียจากเย่เชียนและม่อหลงนั่นเอง ซึ่งด้วยการดึงดูดความสนใจและการหลอกล่อของชิงเฟิงนั้นทำให้สมาชิกของแก๊งยามากุจิส่วนใหญ่ออกไปปะทะกับชิงเฟิงกันหมด ดังนั้นจึงทำให้เย่เชียนเย่เชียนกับม่อหลงแอบลอบเข้ามาได้อย่างง่ายดาย

เมื่อเห็นเย่เชียนและม่อหลงเข้าอย่างกะทันหันเช่นนี้น้องสามก็ประหลาดใจและตะคอกว่า “เฮ้ยพวกแกเป็นใครวะ!”

ม่อหลงจ่อปืนเล็งไปที่พวกเขาแต่ก็น่าเสียดายที่พวกเขากำลังเปลือยเปล่าอยู่และไม่สามารถที่จะตอบโต้ใดๆ ได้เลย เย่เชียนก็หัวเราะอย่างอำมหิตและพูดว่า “ฮ่าๆ ..พวกเราก็คือเขี้ยวหมาป่าพี่พวกคุณเพิ่งจะพูดถึงยังไงล่ะ”

เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เชียนเช่นนี้ผู้หญิงน้องสามคนนั้นก็ขมวดคิ้วแน่นและยืนขึ้นจากบ่อน้ำพุร้อนโดยไม่มีท่าทีเขินอายเลยแม้แต่น้อยและเธอก็แสยะยิ้มและพูดว่า “พวกแกเข้ามาที่นี่ได้ยังไง..มีเด็กๆ ของแก๊งยามากุจิอยู่ตั้งหลายร้อยคน..ถึงยังไงแกก็ออกไปไหนไม่ได้อยู่ดี”

เมื่อเย่เชียนเห็นเธอลุกขึ้นมาเย่เชียนก็กำลังจะพูดแต่ม่อหลงก็ตะคอกกลับไปเสียก่อนว่า “ถ้าไม่อยากตายก็นั่งอยู่นิ่งๆ ซะ..ไม่งั้นฉันจะส่งคุณไปเยือนนรกตอนนี้ซะเลย”

ทั้งสามคนก็กัดฟันทนและไม่สบอารมณ์อย่างมาก ส่วนเย่เชียนก็ฉีกยิ้มและพูดว่า “ก็ในเมื่อเราเข้ามาได้ง่ายๆ แล้วทำไมเราจะออกไปง่ายๆ ไม่ได้กันล่ะ”

“มาเถอะ! ..แกต้องการอะไร” พี่ใหญ่ขมวดคิ้วและถาม

“มันก็ไม่มีอะไรมากหรอก..เหล่าพี่น้องเขี้ยวหมาป่าของพวกเราน่ะเป็นเด็กๆ ที่มาจากครอบครัวที่ยากจนและยากไร้..พวกเรามีไม่จะกิน..ไม่มีจะอยู่..แม้แต่ชุดที่ใส่ก็เก่าๆ ปราศจากความอบอุ่นมาเสมอ..แต่พวกคุณมีเงินตั้งมากมายมหาศาลที่สามารถใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายได้อย่างสบายๆ ..เพราะงั้นผมจึงมาขออาหารประทังชีวิต..ผมหวังว่าคุณจะแสดงความเมตตาใช่มั้ยครับ” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มและทำหน้าตาน่าสงสาร

“เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา..คุยกันได้” น้องสามพูดต่อ “พวกเรามาร่วมมือกันเถอะ..ฉันรับปากเลยว่าพวกแกจะมีรายได้อีกมากมาย”

“แต่ผมรอไม่ไหวแล้ว..พี่ๆ น้องๆ แทบจะอดตายกันหมดแล้ว..และตอนนี้ยังมีอีกตั้งหลายร้อยคนในองค์กรที่รอกินข้าวกันอยู่” เย่เชียนพูด ซึ่งตอนนี้ถึงยังไงเขาก็อยู่ที่นี่แล้วเพราะฉะนั้นเย่เชียนก็จะไม่ปล่อยความได้เปรียบนี้ไปโดยธรรมชาติและแน่นอนว่ายิ่งมีเงินมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งดีมากเท่านั้น อย่างไรก็ตามเหล่าผู้นำนายน้อยนายหญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ก็ล้วนเป็นคนที่ร่ำรวยและมั่งคั่งทั้งนั้น

“ถ้าอย่างนั้นแกต้องการอะไรล่ะ?” พี่ใหญ่พูดด้วยความโกรธเกรี้ยวเล็กน้อยเพราะด้วยรสชาติของการถูกข่มขู่ด้วยปืนนั้นมันช่างน่าอึดอัดจริงๆ และพวกเขาก็ไม่เคยพบประสบการณ์เช่นนี้มาก่อนเพราะพวกเขาเคยแต่จ่อปืนไปที่หัวของคนอื่นเพียงเท่านั้นไม่เคยถูกปืนจ่อเอง

เย่เชียนก็แสยะยิ้มและเหลือบมองไปที่ผู้หญิงน้องสองและพูดว่า “ก่อนอื่นเลย..คุณช่วยนั่งลงไปในน้ำก่อนจะได้มั้ย..เห็นสิ่งที่เหี่ยวเฉาของคุณแล้วผมรู้สึกคลื่นไส้เลยน่ะ” ผู้หญิงคนนั้นก็จ้องเขม็งด้วยความโกรธเกรี้ยวและถึงแม้ว่าเธอจะไม่สบอารมณ์มากแค่ไหนก็ตามถึงยังไงในเวลานี้เธอก็ต้องอดทนอดกลั้นเอาไว้ก่อน

พวกเขาจะคาดถึงผลลัพธ์เช่นนี้ได้ที่ไหนเพราะภายใต้การคุ้มกันที่แน่นหน้าและเข้มงวดเช่นนี้กลับมีคนที่สามารถบุกเข้ามาได้เช่นนี้ ซึ่งดูเหมือนว่าพวกเขาจะประเมินความแข็งแกร่งของคนอื่นมากเกินไป ในขณะนี้เย่เชียนก็กวาดสายตามองไปรอบๆ และก็เห็นคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คที่อยู่ใกล้ๆ และเขาก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูดว่า “มาเถอะๆ ..ผมรู้ว่าพวกคุณใจดีและมีเมตตา..และจะให้เงินค่าขนมผมสักหน่อย”

ถึงแม้ว่าพี่ใหญ่จะไม่เต็มใจเลยสักนิดก็ตามแต่ถึงยังไงเขาก็ไม่มีทางอื่นเขาจึงต้องลุกขึ้นมาและห่อตัวด้วยผ้าขนหนูอาบน้ำแล้วเดินไปที่คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค “แล้วอยากได้เท่าไหร่?” พี่ใหญ่ถาม

“ผมสิที่ต้องถามคุณว่าพวกคุณมีค่าสักแค่ไหนกัน..หืม?” เย่เชียนจ้องมองเขาอย่างขี้เล่นและพูดอย่างเย้ยหยัน ส่วนม่อหลงก็ยังคงเล็งปืนจ่อไปที่น้องสองและน้องสามที่อยู่ในบ่อน้ำร้อนเพื่อไม่ให้พวกเขาตอบโต้หรือขัดขืนใดๆ

พี่ใหญ่ก็กัดฟันเข้าเว็บไซต์ธนาคารระหว่างประเทศอย่างรวดเร็วด้วยความโกรธเกรี้ยวและป้อนรหัสผ่านบัญชีของเขาจากนั้นเย่เชียนก็บอกเลขบัญชีกลางขององค์กรเขี้ยวหมาป่าให้ พี่ใหญ่ก็ใส่จำนวนตัวเลขไปประมาณ 300 ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งเย่เชียนก็ฉีกยิ้มอย่างชั่วร้ายและในทันใดนั้นเจตนาฆ่าก็ปรากฏขึ้นภายในดวงตาของเขาและเขาก็คว้ามีดโลหิตหมาป่าออกมาจากนั้นก็ปาดเข้าไปที่ลำคอของพี่ใหญ่อย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเย่เชียนก็โอนเงินทั้งหมดในบัญชีของอีกฝ่ายเข้าไปยังบัญชีของเขี้ยวหมาป่าโดยตรงด้วยตัวเอง

เงินจำนวนนี้ไม่ได้มากไปหรือน้อยเกินไปสำหรับเย่เชียนซึ่งนั่นก็เพราะว่ายังมีคนอีกจำนวนมากภายใต้เขี้ยวหมาป่าไม่ว่าจะเป็นเงินเดือนและค่าตอบแทนที่จะต้องจ่ายในทุกๆ เดือนและยังต้องแบ่งส่วนไปช่วยเหลือครอบครัวของพวกเขาอีกด้วย และนอกจากนี้เย่เชียนก็ยังต้องสะสมเงินจำนวนมากเพื่อเตรียมจัดตั้งฐานทัพเรือของเขี้ยวหมาป่าในมหาสมุทรแปซิฟิกในอนาคตซึ่งมันไม่ใช่ต้นทุนเพียงเล็กน้อยเลย

เมื่อเห็นว่าพี่ใหญ่ของพวกเขาถูกเย่เชียนฆ่าโดยใช้มีดปาดคอไปแล้วน้องสองและน้องสามก็ตกใจอย่างมากและพวกเขาก็รู้แล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไม่สามารถหลบหนีไปไหนได้อีก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถที่จะรอความตายมาเยือนได้และจู่ๆ ทันใดนั้นน้องสองก็ดึงผ้าขนหนูมาพันรอบตัวเอาไว้และกระโดดออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนและกลิ้งเข้าไปหาม่อหลงซึ่งในขณะเดียวกันน้องสามก็ตะโกนอย่างดังว่า “เฮ้ย..เข้ามานี่..มีศัตรูบุก” ในขณะที่พูดเขาก็ห่อร่างของเขาด้วยผ้าขนหนูอย่างรวดเร็วและกระโดดออกจากบ่อน้ำพุร้อนและกลิ้งตามน้องสองมายังม่อหลงและเตะม่อหลงที่ขา

ในฐานะพลซุ่มยิงหรือมือสไนเปอร์ที่ทรงพลังที่สุดในเขี้ยวหมาป่าแล้วม่อหลงนั้นจึงมีความอดทนและสมาธิของมนุษย์สูงมาก ซึ่งมันเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับมือปืนคือไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไรถึงยังไงเขาก็ต้องรักษาสมาธิและไม่ถูกรบกวนจากทุกสรรพสิ่งของโลกภายนอกและเมื่อน้องสองกลิ้งเข้าหาเขาม่อหลงก็ยิงสวนกลับไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามทักษะของน้องสองนั้นไม่ได้อ่อนแอแต่อย่างใดเพราะเธอสามารถหลบหลีกการยิงของสุดยอดนักแม่นปืนได้และโดนยิ่งแค่แขนเพียงเท่านั้นไม่โดยจุดสำคัญใดๆ

เมื่อเห็นการเตะจากน้องสามแล้วม่อหลงก็บล็อกการโจมตีเอาไว้ด้วยมือข้างเดียวและในขณะเดียวกันปืนในมือของม่อหลงก็ลั่นไกเข้าใส่น้องสองทันที

ทันทีที่เสียงปืนดังขึ้นสมาชิกของแก๊งยามากุจิที่อยู่ด้านนอกต่างก็รีบวิ่งกรูกันเข้ามาอย่างรวดเร็ว ซึ่งเย่เชียนก็ไม่รีรอแต่อย่างใดเขารีบชักปืนพกออกมาและยิงสวนออกไปอย่างรวดเร็วซึ่งทันทีที่เหล่าสมาชิกของแก๊งยามากุจิถีบประตูเข้ามาพวกเขาต่างก็ล้มลงไปทีละคนๆ เพราะถูกเย่เชียนยิงอย่างแม่นยำ

ด้วยปืนที่อยู่ในมือของม่อหลงแล้วนั้นจึงทำให้หญิงสาวน้องสองไม่สามารถมีโชคใดๆ ที่จะช่วยเธอให้หลบหลีกได้อีกครั้งเธอจึงถูกกระสุนเจาะเข้าไปที่หัวใจและแทบจะไม่มีโอกาสกระเสือกกระสนหรือดิ้นรนใดๆ และล้มลงไปทันทีและเลือดก็ค่อยๆ ไหลลงไปในบ่อน้ำ ซึ่งหลังจากที่ยิงน้องสองไปแล้วม่อหลงก็หันกลับมาอย่างรวดเร็วและด้วยการที่ศัตรูเข้ามาระยะประชิดแล้วปืนจึงไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไปโดยเฉพาะเมื่อเผชิญหน้ากับนักสู้อย่างน้องสามคนนี้เพราะดูเหมือนว่าคาราเต้ของเขานั้นไม่ธรรมดาเลย

ม่อหลงก็ดึงมีดของเขาออกมาอย่างรวดเร็วและรีบวิ่งสวนเข้าไป ซึ่งนอกเหนือจากการฝึกฝนตามความสามารถเฉพาะตัวแล้วถึงยังไงประสิทธิภาพการต่อสู้ระยะประชิดของเหล่าเขี้ยวหมาป่าก็ยังได้รับการฝึกฝนและใช้จริงผ่านชีวิตและความตายมาครั้งแล้วครั้งเล่าจนนับไม่ถ้วนและโดยปกติแล้วน้องสามนั้นก็ไม่สามารถเทียบอะไรกับม่อหลงได้เลย นั่นอาจเรียกได้ว่าความอยู่ยงคงกระพันนั่นเอง

ศพที่หน้าประตูก็กองสะสมสูงขึ้นเรื่อยๆ ภายใต้การโจมตีของเย่เชียนนั้นสมาชิกแก๊งยามากุจิที่เหลือก็ไม่มีโอกาสที่จะเข้ามาเลยแม้แต่น้อย ในเวลาเดียวกันเย่เชียนก็พูดกับวิทยุว่า “ชิงเฟิง..คุ้มกันด้วย!”

เมื่อได้ยินคำสั่งระยะไกลจากวิทยุชิงเฟิงก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งและใช้เครื่องยิงจรวดและยิงมันเข้าไปในสโมสรโดยตรงและในทันใดนั้นก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นไปทั่วพื้นที่

ม่อหลงก็หมุนตัวและใช้มีดแทงเข้าไปที่อกของน้องสามทันที ซึ่งด้านหลังของเขานั้นมันเป็นกำแพงหินดังนั้นน้องสามจึงไม่สามารถถอยหนีได้เขาจึงต้องยกมือขึ้นเพื่อรับการแทงของม่อหลงเอาไว้และคว้าข้อมือของม่อหลงเอาไว้ ซึ่งในระหว่างที่กำลังยื้อกันไปยื้อกันมาอยู่นั้นน้องสามก็ได้สัมผัสกับพละกำลังที่แข็งแกร่งพลังของม่อหลงและหลังจากนั้นพวกเขาทั้งสองก็ปล่อยหมัดใส่กันอย่างดุเดือดแต่ทว่าทุกๆ ครั้งที่หมัดของทั้งสองปะทะกันนั้นดูเหมือนว่ากระดูกแขนของน้องสามจะหักไปข้างหนึ่งแล้วหากเป็นเช่นนั้นเขาจะใช้มือเดียวเพื่อเผชิญหน้ากับม่อหลงได้อย่างไร?

อย่างไรก็ตามในขณะที่น้องสามใช้มือทั้งสองข้างรับการโจมตีของม่อหลงที่ใช้มือเพียงข้างเดียวนั้นจู่ๆ มืออีกข้างของม่อหลงก็เอื้อมไปหยิบมีดจากมืออีกข้างที่โดนบล็อกเอาไว้และเขาก็ใช้มีดนั้นปาดเข้าไปที่คอของน้องสามอย่างรวดเร็วและโหดร้าย และแรงมือของน้องสามนั้นก็ค่อยๆ อ่อนแรงลงเรื่อยๆ และม่อหลงก็ผลิกตัวกลับและใช้มีดแทงเข้าไปที่หน้าอกของคู่ต่อสู้และมันก็ทะลุเข้าไปในทันที

“ไปเถอะ! ..” เย่เชียนเหลือบมองไปที่ม่อหลงและพูด ทั้งสองคนก็คอยดูหน้าดูหลังให้กันและกันและก็เดินไปทางหน้าต่างซึ่งระหว่างทางนั้นสมาชิกของแก๊งยามากุจิก็กลายเป็นศพและล้มลงต่อหน้าพวกเขาไปทีละคนๆ หลังจากนั้นเย่เชียนก็คว้าเชือกนอกหน้าต่างเอาไว้และพูดอย่างเร่งรีบว่า “พี่ม่อหลง..ถอนตัวเร็ว!”

ม่อหลงก็หันกลับมาและวิ่งไปกระโดดคว้าเอวของเย่เชียนเอาไว้และเย่เชียนก็ตัดเชือกอีกเส้นไปและในทันใดนั้นทั้งสองก็โหนเชือกไปยังอาคารใกล้เคียงที่กำหนดเอาไว้ ส่วนชิงเฟิงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเห็นเย่เชียนและม่อหลงออกมาได้อย่างปลอดภัยแล้วเขาจึงไม่ต้องกังวลอะไรอีกและหลังจากนั้นจรวดทีละนัดพุ่งตรงไปที่สโมสรและใทันใดนั้นสโมสรน้ำพุร้อนซากุระทั้งหมดก็จมอยู่ใต้ทะเลเพลิง ซึ่งสมาชิกของแก๊งยามากุจิที่เหลืออยู่ก็ไม่สนใจอะไรอีกต่อไปแล้วพวกเขาจึงรีบหนีกันออกมา

หลังจากที่โหนเชือกและโรยเชือกลงสู่พื้นกันเสร็จแล้วเย่เชียนก็เหลือบมองไปที่ม่อหลงและทั้งสองก็พุ่งเข้าไปในความมืดอย่างรวดเร็ว และเมื่อมาถึงสถานที่นัดพบที่ระบุเอาไว้ล่วงหน้าแล้วเขาก็รีบเข้าไปในรถและหลังจากนั้นไม่นานชิงเฟิงก็รีบเข้ามา และก็สตาร์ทรถจากนั้นพวกเขาทั้งสามก็หายไปในความมืดอย่างรวดเร็ว

ปฏิบัติการทั้งหมดรวดเร็วและแม่นยำซึ่งไม่เพียงแค่กำจัดผู้นำทั้งสามของแก๊งยามากุจิเพียงเท่านั้นแต่ยังส่งผลให้มีรายได้อย่างมหาศาลอีกด้วย ซึ่งอาจกล่าวได้เลยว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

เมื่อมาถึงร้านอาหารจีนภายใต้แก๊งฝูชิงแล้วนั้นก็พบว่าเซี่ยตงไป่,เซี่ยจือยี่,โย่วซวนและหวงฟู่เส้าเจี๋ยรออยู่ที่นั่นกันแล้ว และเมื่อพวกเขาเห็นเย่เชียน,ม่อหลงและชิงเฟิงที่ลงจากรถกันมาเซี่ยตงไป่ก็รีบเดินไปรับพวกเขาและพาเย่เชียนเข้าไปในร้านอาหารอย่างจริงใจ

หลังจากเข้าไปในร้านอาหารกันแล้วเซี่ยจือยี่ก็ช่วยม่อหลงถอดเสื้อโค้ตของเขาและปัดเกล็ดหิมะออกให้อย่างอ่อนโยนซึ่งม่อหลงก็เขินอายเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธใดๆ เลยแม้แต่น้อย

“เป็นไงบ้าง..เรียบร้อยดีมั้ย” เซี่ยตงไป่นั้นไม่สามารถระงับความตื่นเต้นของเขาเอาไว้ได้เขาจึงถามเมื่อพวกเขาเข้ามาในห้องอาหารกันแล้ว เพราะท้ายที่สุดถ้าหากเย่เชียนสามารถกำจัดยักษ์ใหญ่ทั้งสามของแก๊งยามากุจิได้ล่ะก็มันก็จะเป็นประโยชน์และผลดีอย่างมากต่อแก๊งฝูชิงและแก๊งฝูชิงก็จะใช้โอกาสนี้กอบโกยผลประโยชน์และธุรกิจต่างๆ ในเมืองได้อย่างง่ายดาย

“เรียบร้อยครับ!” เย่เชียนพูดง่ายๆ

“ฮ่าๆ ..เขี้ยวหมาป่าสมกับเป็นเขี้ยวหมาป่าที่ร่ำลือกันจริงๆ ..ฉันเชื่อเลยว่าไม่มีสิ่งใดในโลกใบนี้ที่เขี้ยวหมาป่าทำไม่ได้! ..ช่างเป็นเกียรติสำหรับเซี่ยตงไป่คนนี้จริงๆ ที่สามารถเป็นพี่น้องกับเย่เชียนผู้ยิ่งใหญ่ได้” เซี่ยตงไป่ยิ้มกว้างๆ และพูด

“อ้อไม่เป็นไรครับ..มันมากเกินไปที่พี่ใหญ่จะขอบคุณผม..ครั้งนี้ที่เป็นไปอย่างราบรื่นได้ทางเราก็ต้องขอบคุณพี่ใหญ่สำหรับความช่วยเหลือของพวกคุณ..ไม่งั้นเราก็ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าพวกมันอยู่ที่ไหนกันน่ะ” เย่เชียนพูด

“โอ้ๆ ..อย่าสุภาพแบบนั้นสิ” เซี่ยตงไป่พูด “เราจะมีการติดต่อกันมากขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน..ว่าแต่น้องเย่..ตอนนี้ทุกอย่างก็เรียบร้อยแล้ว..เพราะงั้นน้องเย่จะไม่อยู่ต่ออีกสักหน่อยหรือ..ฉันจะได้ตอบแทนให้ดีที่สุดในฐานะเจ้าบ้านน่ะ..หวังว่าการต้อนรับครั้งนี้น้องเย่จะไม่โกรธเคืองกันนะ”

“อ้อไม่เลยครับ..ขอบคุณมากๆ เลย..แต่วันตรุษจีนกำลังจะมาถึงเร็วๆ นี้เพราะงั้นผมจึงต้องรีบกลับไปหาครอบครัวโดยเร็วที่สุด..ผมไม่อยากพลาดวันดีๆ แบบนั้นไป” เย่เชียนพูด

“จะไปแล้วหรือ..ฉันไม่อยากให้น้องเย่รีบกลับเลย” เซี่ยตงไป่พูดจากนั้นเขาก็หันไปมองที่ม่อหลงและถามว่า “แล้วน้องม่อหลงล่ะ..จะกลับด้วยหรือ?”

เมื่อถูกถามเช่นนี้การจ้องมองของเซี่ยจือยี่ก็จดจ่ออยู่กับม่อหลงในทันที ส่วนเย่เชียนก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยโดยไม่ได้พูดอะไรใดๆ เพราะโดยปกติแล้วเขาไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงในเรื่องแบบนี้ได้และเขาก็ต้องการให้ม่อหลงตัดสินใจด้วยตัวเอง ซึ่งเมื่อถูกถามเช่นนั้นม่อหลงก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นเขาก็พูดว่า “จริงๆ แล้วผมก็อยากจะกลับไป..และผมก็ต้องขอโทษจริงๆ ที่รบกวนพวกคุณมานาน”

“คุณ…คุณอยู่ต่ออีกหน่อยไม่ได้หรอคะ?” เซี่ยจือยี่จ้องมองไปที่ม่อหลงด้วยความคาดหวัง

.

.

.

.

.

.

.

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ยอดนักรบจอมราชัน 317 ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

Now you are reading ยอดนักรบจอมราชัน Chapter 317 ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 317 ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
ไม่มีใครอื่นนอกเสียจากเย่เชียนและม่อหลงนั่นเอง ซึ่งด้วยการดึงดูดความสนใจและการหลอกล่อของชิงเฟิงนั้นทำให้สมาชิกของแก๊งยามากุจิส่วนใหญ่ออกไปปะทะกับชิงเฟิงกันหมด ดังนั้นจึงทำให้เย่เชียนเย่เชียนกับม่อหลงแอบลอบเข้ามาได้อย่างง่ายดาย

เมื่อเห็นเย่เชียนและม่อหลงเข้าอย่างกะทันหันเช่นนี้น้องสามก็ประหลาดใจและตะคอกว่า “เฮ้ยพวกแกเป็นใครวะ!”

ม่อหลงจ่อปืนเล็งไปที่พวกเขาแต่ก็น่าเสียดายที่พวกเขากำลังเปลือยเปล่าอยู่และไม่สามารถที่จะตอบโต้ใดๆ ได้เลย เย่เชียนก็หัวเราะอย่างอำมหิตและพูดว่า “ฮ่าๆ ..พวกเราก็คือเขี้ยวหมาป่าพี่พวกคุณเพิ่งจะพูดถึงยังไงล่ะ”

เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เชียนเช่นนี้ผู้หญิงน้องสามคนนั้นก็ขมวดคิ้วแน่นและยืนขึ้นจากบ่อน้ำพุร้อนโดยไม่มีท่าทีเขินอายเลยแม้แต่น้อยและเธอก็แสยะยิ้มและพูดว่า “พวกแกเข้ามาที่นี่ได้ยังไง..มีเด็กๆ ของแก๊งยามากุจิอยู่ตั้งหลายร้อยคน..ถึงยังไงแกก็ออกไปไหนไม่ได้อยู่ดี”

เมื่อเย่เชียนเห็นเธอลุกขึ้นมาเย่เชียนก็กำลังจะพูดแต่ม่อหลงก็ตะคอกกลับไปเสียก่อนว่า “ถ้าไม่อยากตายก็นั่งอยู่นิ่งๆ ซะ..ไม่งั้นฉันจะส่งคุณไปเยือนนรกตอนนี้ซะเลย”

ทั้งสามคนก็กัดฟันทนและไม่สบอารมณ์อย่างมาก ส่วนเย่เชียนก็ฉีกยิ้มและพูดว่า “ก็ในเมื่อเราเข้ามาได้ง่ายๆ แล้วทำไมเราจะออกไปง่ายๆ ไม่ได้กันล่ะ”

“มาเถอะ! ..แกต้องการอะไร” พี่ใหญ่ขมวดคิ้วและถาม

“มันก็ไม่มีอะไรมากหรอก..เหล่าพี่น้องเขี้ยวหมาป่าของพวกเราน่ะเป็นเด็กๆ ที่มาจากครอบครัวที่ยากจนและยากไร้..พวกเรามีไม่จะกิน..ไม่มีจะอยู่..แม้แต่ชุดที่ใส่ก็เก่าๆ ปราศจากความอบอุ่นมาเสมอ..แต่พวกคุณมีเงินตั้งมากมายมหาศาลที่สามารถใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายได้อย่างสบายๆ ..เพราะงั้นผมจึงมาขออาหารประทังชีวิต..ผมหวังว่าคุณจะแสดงความเมตตาใช่มั้ยครับ” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มและทำหน้าตาน่าสงสาร

“เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา..คุยกันได้” น้องสามพูดต่อ “พวกเรามาร่วมมือกันเถอะ..ฉันรับปากเลยว่าพวกแกจะมีรายได้อีกมากมาย”

“แต่ผมรอไม่ไหวแล้ว..พี่ๆ น้องๆ แทบจะอดตายกันหมดแล้ว..และตอนนี้ยังมีอีกตั้งหลายร้อยคนในองค์กรที่รอกินข้าวกันอยู่” เย่เชียนพูด ซึ่งตอนนี้ถึงยังไงเขาก็อยู่ที่นี่แล้วเพราะฉะนั้นเย่เชียนก็จะไม่ปล่อยความได้เปรียบนี้ไปโดยธรรมชาติและแน่นอนว่ายิ่งมีเงินมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งดีมากเท่านั้น อย่างไรก็ตามเหล่าผู้นำนายน้อยนายหญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ก็ล้วนเป็นคนที่ร่ำรวยและมั่งคั่งทั้งนั้น

“ถ้าอย่างนั้นแกต้องการอะไรล่ะ?” พี่ใหญ่พูดด้วยความโกรธเกรี้ยวเล็กน้อยเพราะด้วยรสชาติของการถูกข่มขู่ด้วยปืนนั้นมันช่างน่าอึดอัดจริงๆ และพวกเขาก็ไม่เคยพบประสบการณ์เช่นนี้มาก่อนเพราะพวกเขาเคยแต่จ่อปืนไปที่หัวของคนอื่นเพียงเท่านั้นไม่เคยถูกปืนจ่อเอง

เย่เชียนก็แสยะยิ้มและเหลือบมองไปที่ผู้หญิงน้องสองและพูดว่า “ก่อนอื่นเลย..คุณช่วยนั่งลงไปในน้ำก่อนจะได้มั้ย..เห็นสิ่งที่เหี่ยวเฉาของคุณแล้วผมรู้สึกคลื่นไส้เลยน่ะ” ผู้หญิงคนนั้นก็จ้องเขม็งด้วยความโกรธเกรี้ยวและถึงแม้ว่าเธอจะไม่สบอารมณ์มากแค่ไหนก็ตามถึงยังไงในเวลานี้เธอก็ต้องอดทนอดกลั้นเอาไว้ก่อน

พวกเขาจะคาดถึงผลลัพธ์เช่นนี้ได้ที่ไหนเพราะภายใต้การคุ้มกันที่แน่นหน้าและเข้มงวดเช่นนี้กลับมีคนที่สามารถบุกเข้ามาได้เช่นนี้ ซึ่งดูเหมือนว่าพวกเขาจะประเมินความแข็งแกร่งของคนอื่นมากเกินไป ในขณะนี้เย่เชียนก็กวาดสายตามองไปรอบๆ และก็เห็นคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คที่อยู่ใกล้ๆ และเขาก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูดว่า “มาเถอะๆ ..ผมรู้ว่าพวกคุณใจดีและมีเมตตา..และจะให้เงินค่าขนมผมสักหน่อย”

ถึงแม้ว่าพี่ใหญ่จะไม่เต็มใจเลยสักนิดก็ตามแต่ถึงยังไงเขาก็ไม่มีทางอื่นเขาจึงต้องลุกขึ้นมาและห่อตัวด้วยผ้าขนหนูอาบน้ำแล้วเดินไปที่คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค “แล้วอยากได้เท่าไหร่?” พี่ใหญ่ถาม

“ผมสิที่ต้องถามคุณว่าพวกคุณมีค่าสักแค่ไหนกัน..หืม?” เย่เชียนจ้องมองเขาอย่างขี้เล่นและพูดอย่างเย้ยหยัน ส่วนม่อหลงก็ยังคงเล็งปืนจ่อไปที่น้องสองและน้องสามที่อยู่ในบ่อน้ำร้อนเพื่อไม่ให้พวกเขาตอบโต้หรือขัดขืนใดๆ

พี่ใหญ่ก็กัดฟันเข้าเว็บไซต์ธนาคารระหว่างประเทศอย่างรวดเร็วด้วยความโกรธเกรี้ยวและป้อนรหัสผ่านบัญชีของเขาจากนั้นเย่เชียนก็บอกเลขบัญชีกลางขององค์กรเขี้ยวหมาป่าให้ พี่ใหญ่ก็ใส่จำนวนตัวเลขไปประมาณ 300 ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งเย่เชียนก็ฉีกยิ้มอย่างชั่วร้ายและในทันใดนั้นเจตนาฆ่าก็ปรากฏขึ้นภายในดวงตาของเขาและเขาก็คว้ามีดโลหิตหมาป่าออกมาจากนั้นก็ปาดเข้าไปที่ลำคอของพี่ใหญ่อย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเย่เชียนก็โอนเงินทั้งหมดในบัญชีของอีกฝ่ายเข้าไปยังบัญชีของเขี้ยวหมาป่าโดยตรงด้วยตัวเอง

เงินจำนวนนี้ไม่ได้มากไปหรือน้อยเกินไปสำหรับเย่เชียนซึ่งนั่นก็เพราะว่ายังมีคนอีกจำนวนมากภายใต้เขี้ยวหมาป่าไม่ว่าจะเป็นเงินเดือนและค่าตอบแทนที่จะต้องจ่ายในทุกๆ เดือนและยังต้องแบ่งส่วนไปช่วยเหลือครอบครัวของพวกเขาอีกด้วย และนอกจากนี้เย่เชียนก็ยังต้องสะสมเงินจำนวนมากเพื่อเตรียมจัดตั้งฐานทัพเรือของเขี้ยวหมาป่าในมหาสมุทรแปซิฟิกในอนาคตซึ่งมันไม่ใช่ต้นทุนเพียงเล็กน้อยเลย

เมื่อเห็นว่าพี่ใหญ่ของพวกเขาถูกเย่เชียนฆ่าโดยใช้มีดปาดคอไปแล้วน้องสองและน้องสามก็ตกใจอย่างมากและพวกเขาก็รู้แล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไม่สามารถหลบหนีไปไหนได้อีก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถที่จะรอความตายมาเยือนได้และจู่ๆ ทันใดนั้นน้องสองก็ดึงผ้าขนหนูมาพันรอบตัวเอาไว้และกระโดดออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนและกลิ้งเข้าไปหาม่อหลงซึ่งในขณะเดียวกันน้องสามก็ตะโกนอย่างดังว่า “เฮ้ย..เข้ามานี่..มีศัตรูบุก” ในขณะที่พูดเขาก็ห่อร่างของเขาด้วยผ้าขนหนูอย่างรวดเร็วและกระโดดออกจากบ่อน้ำพุร้อนและกลิ้งตามน้องสองมายังม่อหลงและเตะม่อหลงที่ขา

ในฐานะพลซุ่มยิงหรือมือสไนเปอร์ที่ทรงพลังที่สุดในเขี้ยวหมาป่าแล้วม่อหลงนั้นจึงมีความอดทนและสมาธิของมนุษย์สูงมาก ซึ่งมันเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับมือปืนคือไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไรถึงยังไงเขาก็ต้องรักษาสมาธิและไม่ถูกรบกวนจากทุกสรรพสิ่งของโลกภายนอกและเมื่อน้องสองกลิ้งเข้าหาเขาม่อหลงก็ยิงสวนกลับไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามทักษะของน้องสองนั้นไม่ได้อ่อนแอแต่อย่างใดเพราะเธอสามารถหลบหลีกการยิงของสุดยอดนักแม่นปืนได้และโดนยิ่งแค่แขนเพียงเท่านั้นไม่โดยจุดสำคัญใดๆ

เมื่อเห็นการเตะจากน้องสามแล้วม่อหลงก็บล็อกการโจมตีเอาไว้ด้วยมือข้างเดียวและในขณะเดียวกันปืนในมือของม่อหลงก็ลั่นไกเข้าใส่น้องสองทันที

ทันทีที่เสียงปืนดังขึ้นสมาชิกของแก๊งยามากุจิที่อยู่ด้านนอกต่างก็รีบวิ่งกรูกันเข้ามาอย่างรวดเร็ว ซึ่งเย่เชียนก็ไม่รีรอแต่อย่างใดเขารีบชักปืนพกออกมาและยิงสวนออกไปอย่างรวดเร็วซึ่งทันทีที่เหล่าสมาชิกของแก๊งยามากุจิถีบประตูเข้ามาพวกเขาต่างก็ล้มลงไปทีละคนๆ เพราะถูกเย่เชียนยิงอย่างแม่นยำ

ด้วยปืนที่อยู่ในมือของม่อหลงแล้วนั้นจึงทำให้หญิงสาวน้องสองไม่สามารถมีโชคใดๆ ที่จะช่วยเธอให้หลบหลีกได้อีกครั้งเธอจึงถูกกระสุนเจาะเข้าไปที่หัวใจและแทบจะไม่มีโอกาสกระเสือกกระสนหรือดิ้นรนใดๆ และล้มลงไปทันทีและเลือดก็ค่อยๆ ไหลลงไปในบ่อน้ำ ซึ่งหลังจากที่ยิงน้องสองไปแล้วม่อหลงก็หันกลับมาอย่างรวดเร็วและด้วยการที่ศัตรูเข้ามาระยะประชิดแล้วปืนจึงไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไปโดยเฉพาะเมื่อเผชิญหน้ากับนักสู้อย่างน้องสามคนนี้เพราะดูเหมือนว่าคาราเต้ของเขานั้นไม่ธรรมดาเลย

ม่อหลงก็ดึงมีดของเขาออกมาอย่างรวดเร็วและรีบวิ่งสวนเข้าไป ซึ่งนอกเหนือจากการฝึกฝนตามความสามารถเฉพาะตัวแล้วถึงยังไงประสิทธิภาพการต่อสู้ระยะประชิดของเหล่าเขี้ยวหมาป่าก็ยังได้รับการฝึกฝนและใช้จริงผ่านชีวิตและความตายมาครั้งแล้วครั้งเล่าจนนับไม่ถ้วนและโดยปกติแล้วน้องสามนั้นก็ไม่สามารถเทียบอะไรกับม่อหลงได้เลย นั่นอาจเรียกได้ว่าความอยู่ยงคงกระพันนั่นเอง

ศพที่หน้าประตูก็กองสะสมสูงขึ้นเรื่อยๆ ภายใต้การโจมตีของเย่เชียนนั้นสมาชิกแก๊งยามากุจิที่เหลือก็ไม่มีโอกาสที่จะเข้ามาเลยแม้แต่น้อย ในเวลาเดียวกันเย่เชียนก็พูดกับวิทยุว่า “ชิงเฟิง..คุ้มกันด้วย!”

เมื่อได้ยินคำสั่งระยะไกลจากวิทยุชิงเฟิงก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งและใช้เครื่องยิงจรวดและยิงมันเข้าไปในสโมสรโดยตรงและในทันใดนั้นก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นไปทั่วพื้นที่

ม่อหลงก็หมุนตัวและใช้มีดแทงเข้าไปที่อกของน้องสามทันที ซึ่งด้านหลังของเขานั้นมันเป็นกำแพงหินดังนั้นน้องสามจึงไม่สามารถถอยหนีได้เขาจึงต้องยกมือขึ้นเพื่อรับการแทงของม่อหลงเอาไว้และคว้าข้อมือของม่อหลงเอาไว้ ซึ่งในระหว่างที่กำลังยื้อกันไปยื้อกันมาอยู่นั้นน้องสามก็ได้สัมผัสกับพละกำลังที่แข็งแกร่งพลังของม่อหลงและหลังจากนั้นพวกเขาทั้งสองก็ปล่อยหมัดใส่กันอย่างดุเดือดแต่ทว่าทุกๆ ครั้งที่หมัดของทั้งสองปะทะกันนั้นดูเหมือนว่ากระดูกแขนของน้องสามจะหักไปข้างหนึ่งแล้วหากเป็นเช่นนั้นเขาจะใช้มือเดียวเพื่อเผชิญหน้ากับม่อหลงได้อย่างไร?

อย่างไรก็ตามในขณะที่น้องสามใช้มือทั้งสองข้างรับการโจมตีของม่อหลงที่ใช้มือเพียงข้างเดียวนั้นจู่ๆ มืออีกข้างของม่อหลงก็เอื้อมไปหยิบมีดจากมืออีกข้างที่โดนบล็อกเอาไว้และเขาก็ใช้มีดนั้นปาดเข้าไปที่คอของน้องสามอย่างรวดเร็วและโหดร้าย และแรงมือของน้องสามนั้นก็ค่อยๆ อ่อนแรงลงเรื่อยๆ และม่อหลงก็ผลิกตัวกลับและใช้มีดแทงเข้าไปที่หน้าอกของคู่ต่อสู้และมันก็ทะลุเข้าไปในทันที

“ไปเถอะ! ..” เย่เชียนเหลือบมองไปที่ม่อหลงและพูด ทั้งสองคนก็คอยดูหน้าดูหลังให้กันและกันและก็เดินไปทางหน้าต่างซึ่งระหว่างทางนั้นสมาชิกของแก๊งยามากุจิก็กลายเป็นศพและล้มลงต่อหน้าพวกเขาไปทีละคนๆ หลังจากนั้นเย่เชียนก็คว้าเชือกนอกหน้าต่างเอาไว้และพูดอย่างเร่งรีบว่า “พี่ม่อหลง..ถอนตัวเร็ว!”

ม่อหลงก็หันกลับมาและวิ่งไปกระโดดคว้าเอวของเย่เชียนเอาไว้และเย่เชียนก็ตัดเชือกอีกเส้นไปและในทันใดนั้นทั้งสองก็โหนเชือกไปยังอาคารใกล้เคียงที่กำหนดเอาไว้ ส่วนชิงเฟิงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเห็นเย่เชียนและม่อหลงออกมาได้อย่างปลอดภัยแล้วเขาจึงไม่ต้องกังวลอะไรอีกและหลังจากนั้นจรวดทีละนัดพุ่งตรงไปที่สโมสรและใทันใดนั้นสโมสรน้ำพุร้อนซากุระทั้งหมดก็จมอยู่ใต้ทะเลเพลิง ซึ่งสมาชิกของแก๊งยามากุจิที่เหลืออยู่ก็ไม่สนใจอะไรอีกต่อไปแล้วพวกเขาจึงรีบหนีกันออกมา

หลังจากที่โหนเชือกและโรยเชือกลงสู่พื้นกันเสร็จแล้วเย่เชียนก็เหลือบมองไปที่ม่อหลงและทั้งสองก็พุ่งเข้าไปในความมืดอย่างรวดเร็ว และเมื่อมาถึงสถานที่นัดพบที่ระบุเอาไว้ล่วงหน้าแล้วเขาก็รีบเข้าไปในรถและหลังจากนั้นไม่นานชิงเฟิงก็รีบเข้ามา และก็สตาร์ทรถจากนั้นพวกเขาทั้งสามก็หายไปในความมืดอย่างรวดเร็ว

ปฏิบัติการทั้งหมดรวดเร็วและแม่นยำซึ่งไม่เพียงแค่กำจัดผู้นำทั้งสามของแก๊งยามากุจิเพียงเท่านั้นแต่ยังส่งผลให้มีรายได้อย่างมหาศาลอีกด้วย ซึ่งอาจกล่าวได้เลยว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

เมื่อมาถึงร้านอาหารจีนภายใต้แก๊งฝูชิงแล้วนั้นก็พบว่าเซี่ยตงไป่,เซี่ยจือยี่,โย่วซวนและหวงฟู่เส้าเจี๋ยรออยู่ที่นั่นกันแล้ว และเมื่อพวกเขาเห็นเย่เชียน,ม่อหลงและชิงเฟิงที่ลงจากรถกันมาเซี่ยตงไป่ก็รีบเดินไปรับพวกเขาและพาเย่เชียนเข้าไปในร้านอาหารอย่างจริงใจ

หลังจากเข้าไปในร้านอาหารกันแล้วเซี่ยจือยี่ก็ช่วยม่อหลงถอดเสื้อโค้ตของเขาและปัดเกล็ดหิมะออกให้อย่างอ่อนโยนซึ่งม่อหลงก็เขินอายเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธใดๆ เลยแม้แต่น้อย

“เป็นไงบ้าง..เรียบร้อยดีมั้ย” เซี่ยตงไป่นั้นไม่สามารถระงับความตื่นเต้นของเขาเอาไว้ได้เขาจึงถามเมื่อพวกเขาเข้ามาในห้องอาหารกันแล้ว เพราะท้ายที่สุดถ้าหากเย่เชียนสามารถกำจัดยักษ์ใหญ่ทั้งสามของแก๊งยามากุจิได้ล่ะก็มันก็จะเป็นประโยชน์และผลดีอย่างมากต่อแก๊งฝูชิงและแก๊งฝูชิงก็จะใช้โอกาสนี้กอบโกยผลประโยชน์และธุรกิจต่างๆ ในเมืองได้อย่างง่ายดาย

“เรียบร้อยครับ!” เย่เชียนพูดง่ายๆ

“ฮ่าๆ ..เขี้ยวหมาป่าสมกับเป็นเขี้ยวหมาป่าที่ร่ำลือกันจริงๆ ..ฉันเชื่อเลยว่าไม่มีสิ่งใดในโลกใบนี้ที่เขี้ยวหมาป่าทำไม่ได้! ..ช่างเป็นเกียรติสำหรับเซี่ยตงไป่คนนี้จริงๆ ที่สามารถเป็นพี่น้องกับเย่เชียนผู้ยิ่งใหญ่ได้” เซี่ยตงไป่ยิ้มกว้างๆ และพูด

“อ้อไม่เป็นไรครับ..มันมากเกินไปที่พี่ใหญ่จะขอบคุณผม..ครั้งนี้ที่เป็นไปอย่างราบรื่นได้ทางเราก็ต้องขอบคุณพี่ใหญ่สำหรับความช่วยเหลือของพวกคุณ..ไม่งั้นเราก็ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าพวกมันอยู่ที่ไหนกันน่ะ” เย่เชียนพูด

“โอ้ๆ ..อย่าสุภาพแบบนั้นสิ” เซี่ยตงไป่พูด “เราจะมีการติดต่อกันมากขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน..ว่าแต่น้องเย่..ตอนนี้ทุกอย่างก็เรียบร้อยแล้ว..เพราะงั้นน้องเย่จะไม่อยู่ต่ออีกสักหน่อยหรือ..ฉันจะได้ตอบแทนให้ดีที่สุดในฐานะเจ้าบ้านน่ะ..หวังว่าการต้อนรับครั้งนี้น้องเย่จะไม่โกรธเคืองกันนะ”

“อ้อไม่เลยครับ..ขอบคุณมากๆ เลย..แต่วันตรุษจีนกำลังจะมาถึงเร็วๆ นี้เพราะงั้นผมจึงต้องรีบกลับไปหาครอบครัวโดยเร็วที่สุด..ผมไม่อยากพลาดวันดีๆ แบบนั้นไป” เย่เชียนพูด

“จะไปแล้วหรือ..ฉันไม่อยากให้น้องเย่รีบกลับเลย” เซี่ยตงไป่พูดจากนั้นเขาก็หันไปมองที่ม่อหลงและถามว่า “แล้วน้องม่อหลงล่ะ..จะกลับด้วยหรือ?”

เมื่อถูกถามเช่นนี้การจ้องมองของเซี่ยจือยี่ก็จดจ่ออยู่กับม่อหลงในทันที ส่วนเย่เชียนก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยโดยไม่ได้พูดอะไรใดๆ เพราะโดยปกติแล้วเขาไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงในเรื่องแบบนี้ได้และเขาก็ต้องการให้ม่อหลงตัดสินใจด้วยตัวเอง ซึ่งเมื่อถูกถามเช่นนั้นม่อหลงก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นเขาก็พูดว่า “จริงๆ แล้วผมก็อยากจะกลับไป..และผมก็ต้องขอโทษจริงๆ ที่รบกวนพวกคุณมานาน”

“คุณ…คุณอยู่ต่ออีกหน่อยไม่ได้หรอคะ?” เซี่ยจือยี่จ้องมองไปที่ม่อหลงด้วยความคาดหวัง

.

.

.

.

.

.

.

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ยอดนักรบจอมราชัน 317 ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

Now you are reading ยอดนักรบจอมราชัน Chapter 317 ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 317 ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
ไม่มีใครอื่นนอกเสียจากเย่เชียนและม่อหลงนั่นเอง ซึ่งด้วยการดึงดูดความสนใจและการหลอกล่อของชิงเฟิงนั้นทำให้สมาชิกของแก๊งยามากุจิส่วนใหญ่ออกไปปะทะกับชิงเฟิงกันหมด ดังนั้นจึงทำให้เย่เชียนเย่เชียนกับม่อหลงแอบลอบเข้ามาได้อย่างง่ายดาย

เมื่อเห็นเย่เชียนและม่อหลงเข้าอย่างกะทันหันเช่นนี้น้องสามก็ประหลาดใจและตะคอกว่า “เฮ้ยพวกแกเป็นใครวะ!”

ม่อหลงจ่อปืนเล็งไปที่พวกเขาแต่ก็น่าเสียดายที่พวกเขากำลังเปลือยเปล่าอยู่และไม่สามารถที่จะตอบโต้ใดๆ ได้เลย เย่เชียนก็หัวเราะอย่างอำมหิตและพูดว่า “ฮ่าๆ ..พวกเราก็คือเขี้ยวหมาป่าพี่พวกคุณเพิ่งจะพูดถึงยังไงล่ะ”

เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เชียนเช่นนี้ผู้หญิงน้องสามคนนั้นก็ขมวดคิ้วแน่นและยืนขึ้นจากบ่อน้ำพุร้อนโดยไม่มีท่าทีเขินอายเลยแม้แต่น้อยและเธอก็แสยะยิ้มและพูดว่า “พวกแกเข้ามาที่นี่ได้ยังไง..มีเด็กๆ ของแก๊งยามากุจิอยู่ตั้งหลายร้อยคน..ถึงยังไงแกก็ออกไปไหนไม่ได้อยู่ดี”

เมื่อเย่เชียนเห็นเธอลุกขึ้นมาเย่เชียนก็กำลังจะพูดแต่ม่อหลงก็ตะคอกกลับไปเสียก่อนว่า “ถ้าไม่อยากตายก็นั่งอยู่นิ่งๆ ซะ..ไม่งั้นฉันจะส่งคุณไปเยือนนรกตอนนี้ซะเลย”

ทั้งสามคนก็กัดฟันทนและไม่สบอารมณ์อย่างมาก ส่วนเย่เชียนก็ฉีกยิ้มและพูดว่า “ก็ในเมื่อเราเข้ามาได้ง่ายๆ แล้วทำไมเราจะออกไปง่ายๆ ไม่ได้กันล่ะ”

“มาเถอะ! ..แกต้องการอะไร” พี่ใหญ่ขมวดคิ้วและถาม

“มันก็ไม่มีอะไรมากหรอก..เหล่าพี่น้องเขี้ยวหมาป่าของพวกเราน่ะเป็นเด็กๆ ที่มาจากครอบครัวที่ยากจนและยากไร้..พวกเรามีไม่จะกิน..ไม่มีจะอยู่..แม้แต่ชุดที่ใส่ก็เก่าๆ ปราศจากความอบอุ่นมาเสมอ..แต่พวกคุณมีเงินตั้งมากมายมหาศาลที่สามารถใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายได้อย่างสบายๆ ..เพราะงั้นผมจึงมาขออาหารประทังชีวิต..ผมหวังว่าคุณจะแสดงความเมตตาใช่มั้ยครับ” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มและทำหน้าตาน่าสงสาร

“เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา..คุยกันได้” น้องสามพูดต่อ “พวกเรามาร่วมมือกันเถอะ..ฉันรับปากเลยว่าพวกแกจะมีรายได้อีกมากมาย”

“แต่ผมรอไม่ไหวแล้ว..พี่ๆ น้องๆ แทบจะอดตายกันหมดแล้ว..และตอนนี้ยังมีอีกตั้งหลายร้อยคนในองค์กรที่รอกินข้าวกันอยู่” เย่เชียนพูด ซึ่งตอนนี้ถึงยังไงเขาก็อยู่ที่นี่แล้วเพราะฉะนั้นเย่เชียนก็จะไม่ปล่อยความได้เปรียบนี้ไปโดยธรรมชาติและแน่นอนว่ายิ่งมีเงินมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งดีมากเท่านั้น อย่างไรก็ตามเหล่าผู้นำนายน้อยนายหญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ก็ล้วนเป็นคนที่ร่ำรวยและมั่งคั่งทั้งนั้น

“ถ้าอย่างนั้นแกต้องการอะไรล่ะ?” พี่ใหญ่พูดด้วยความโกรธเกรี้ยวเล็กน้อยเพราะด้วยรสชาติของการถูกข่มขู่ด้วยปืนนั้นมันช่างน่าอึดอัดจริงๆ และพวกเขาก็ไม่เคยพบประสบการณ์เช่นนี้มาก่อนเพราะพวกเขาเคยแต่จ่อปืนไปที่หัวของคนอื่นเพียงเท่านั้นไม่เคยถูกปืนจ่อเอง

เย่เชียนก็แสยะยิ้มและเหลือบมองไปที่ผู้หญิงน้องสองและพูดว่า “ก่อนอื่นเลย..คุณช่วยนั่งลงไปในน้ำก่อนจะได้มั้ย..เห็นสิ่งที่เหี่ยวเฉาของคุณแล้วผมรู้สึกคลื่นไส้เลยน่ะ” ผู้หญิงคนนั้นก็จ้องเขม็งด้วยความโกรธเกรี้ยวและถึงแม้ว่าเธอจะไม่สบอารมณ์มากแค่ไหนก็ตามถึงยังไงในเวลานี้เธอก็ต้องอดทนอดกลั้นเอาไว้ก่อน

พวกเขาจะคาดถึงผลลัพธ์เช่นนี้ได้ที่ไหนเพราะภายใต้การคุ้มกันที่แน่นหน้าและเข้มงวดเช่นนี้กลับมีคนที่สามารถบุกเข้ามาได้เช่นนี้ ซึ่งดูเหมือนว่าพวกเขาจะประเมินความแข็งแกร่งของคนอื่นมากเกินไป ในขณะนี้เย่เชียนก็กวาดสายตามองไปรอบๆ และก็เห็นคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คที่อยู่ใกล้ๆ และเขาก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูดว่า “มาเถอะๆ ..ผมรู้ว่าพวกคุณใจดีและมีเมตตา..และจะให้เงินค่าขนมผมสักหน่อย”

ถึงแม้ว่าพี่ใหญ่จะไม่เต็มใจเลยสักนิดก็ตามแต่ถึงยังไงเขาก็ไม่มีทางอื่นเขาจึงต้องลุกขึ้นมาและห่อตัวด้วยผ้าขนหนูอาบน้ำแล้วเดินไปที่คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค “แล้วอยากได้เท่าไหร่?” พี่ใหญ่ถาม

“ผมสิที่ต้องถามคุณว่าพวกคุณมีค่าสักแค่ไหนกัน..หืม?” เย่เชียนจ้องมองเขาอย่างขี้เล่นและพูดอย่างเย้ยหยัน ส่วนม่อหลงก็ยังคงเล็งปืนจ่อไปที่น้องสองและน้องสามที่อยู่ในบ่อน้ำร้อนเพื่อไม่ให้พวกเขาตอบโต้หรือขัดขืนใดๆ

พี่ใหญ่ก็กัดฟันเข้าเว็บไซต์ธนาคารระหว่างประเทศอย่างรวดเร็วด้วยความโกรธเกรี้ยวและป้อนรหัสผ่านบัญชีของเขาจากนั้นเย่เชียนก็บอกเลขบัญชีกลางขององค์กรเขี้ยวหมาป่าให้ พี่ใหญ่ก็ใส่จำนวนตัวเลขไปประมาณ 300 ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งเย่เชียนก็ฉีกยิ้มอย่างชั่วร้ายและในทันใดนั้นเจตนาฆ่าก็ปรากฏขึ้นภายในดวงตาของเขาและเขาก็คว้ามีดโลหิตหมาป่าออกมาจากนั้นก็ปาดเข้าไปที่ลำคอของพี่ใหญ่อย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเย่เชียนก็โอนเงินทั้งหมดในบัญชีของอีกฝ่ายเข้าไปยังบัญชีของเขี้ยวหมาป่าโดยตรงด้วยตัวเอง

เงินจำนวนนี้ไม่ได้มากไปหรือน้อยเกินไปสำหรับเย่เชียนซึ่งนั่นก็เพราะว่ายังมีคนอีกจำนวนมากภายใต้เขี้ยวหมาป่าไม่ว่าจะเป็นเงินเดือนและค่าตอบแทนที่จะต้องจ่ายในทุกๆ เดือนและยังต้องแบ่งส่วนไปช่วยเหลือครอบครัวของพวกเขาอีกด้วย และนอกจากนี้เย่เชียนก็ยังต้องสะสมเงินจำนวนมากเพื่อเตรียมจัดตั้งฐานทัพเรือของเขี้ยวหมาป่าในมหาสมุทรแปซิฟิกในอนาคตซึ่งมันไม่ใช่ต้นทุนเพียงเล็กน้อยเลย

เมื่อเห็นว่าพี่ใหญ่ของพวกเขาถูกเย่เชียนฆ่าโดยใช้มีดปาดคอไปแล้วน้องสองและน้องสามก็ตกใจอย่างมากและพวกเขาก็รู้แล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไม่สามารถหลบหนีไปไหนได้อีก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถที่จะรอความตายมาเยือนได้และจู่ๆ ทันใดนั้นน้องสองก็ดึงผ้าขนหนูมาพันรอบตัวเอาไว้และกระโดดออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนและกลิ้งเข้าไปหาม่อหลงซึ่งในขณะเดียวกันน้องสามก็ตะโกนอย่างดังว่า “เฮ้ย..เข้ามานี่..มีศัตรูบุก” ในขณะที่พูดเขาก็ห่อร่างของเขาด้วยผ้าขนหนูอย่างรวดเร็วและกระโดดออกจากบ่อน้ำพุร้อนและกลิ้งตามน้องสองมายังม่อหลงและเตะม่อหลงที่ขา

ในฐานะพลซุ่มยิงหรือมือสไนเปอร์ที่ทรงพลังที่สุดในเขี้ยวหมาป่าแล้วม่อหลงนั้นจึงมีความอดทนและสมาธิของมนุษย์สูงมาก ซึ่งมันเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับมือปืนคือไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไรถึงยังไงเขาก็ต้องรักษาสมาธิและไม่ถูกรบกวนจากทุกสรรพสิ่งของโลกภายนอกและเมื่อน้องสองกลิ้งเข้าหาเขาม่อหลงก็ยิงสวนกลับไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามทักษะของน้องสองนั้นไม่ได้อ่อนแอแต่อย่างใดเพราะเธอสามารถหลบหลีกการยิงของสุดยอดนักแม่นปืนได้และโดนยิ่งแค่แขนเพียงเท่านั้นไม่โดยจุดสำคัญใดๆ

เมื่อเห็นการเตะจากน้องสามแล้วม่อหลงก็บล็อกการโจมตีเอาไว้ด้วยมือข้างเดียวและในขณะเดียวกันปืนในมือของม่อหลงก็ลั่นไกเข้าใส่น้องสองทันที

ทันทีที่เสียงปืนดังขึ้นสมาชิกของแก๊งยามากุจิที่อยู่ด้านนอกต่างก็รีบวิ่งกรูกันเข้ามาอย่างรวดเร็ว ซึ่งเย่เชียนก็ไม่รีรอแต่อย่างใดเขารีบชักปืนพกออกมาและยิงสวนออกไปอย่างรวดเร็วซึ่งทันทีที่เหล่าสมาชิกของแก๊งยามากุจิถีบประตูเข้ามาพวกเขาต่างก็ล้มลงไปทีละคนๆ เพราะถูกเย่เชียนยิงอย่างแม่นยำ

ด้วยปืนที่อยู่ในมือของม่อหลงแล้วนั้นจึงทำให้หญิงสาวน้องสองไม่สามารถมีโชคใดๆ ที่จะช่วยเธอให้หลบหลีกได้อีกครั้งเธอจึงถูกกระสุนเจาะเข้าไปที่หัวใจและแทบจะไม่มีโอกาสกระเสือกกระสนหรือดิ้นรนใดๆ และล้มลงไปทันทีและเลือดก็ค่อยๆ ไหลลงไปในบ่อน้ำ ซึ่งหลังจากที่ยิงน้องสองไปแล้วม่อหลงก็หันกลับมาอย่างรวดเร็วและด้วยการที่ศัตรูเข้ามาระยะประชิดแล้วปืนจึงไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไปโดยเฉพาะเมื่อเผชิญหน้ากับนักสู้อย่างน้องสามคนนี้เพราะดูเหมือนว่าคาราเต้ของเขานั้นไม่ธรรมดาเลย

ม่อหลงก็ดึงมีดของเขาออกมาอย่างรวดเร็วและรีบวิ่งสวนเข้าไป ซึ่งนอกเหนือจากการฝึกฝนตามความสามารถเฉพาะตัวแล้วถึงยังไงประสิทธิภาพการต่อสู้ระยะประชิดของเหล่าเขี้ยวหมาป่าก็ยังได้รับการฝึกฝนและใช้จริงผ่านชีวิตและความตายมาครั้งแล้วครั้งเล่าจนนับไม่ถ้วนและโดยปกติแล้วน้องสามนั้นก็ไม่สามารถเทียบอะไรกับม่อหลงได้เลย นั่นอาจเรียกได้ว่าความอยู่ยงคงกระพันนั่นเอง

ศพที่หน้าประตูก็กองสะสมสูงขึ้นเรื่อยๆ ภายใต้การโจมตีของเย่เชียนนั้นสมาชิกแก๊งยามากุจิที่เหลือก็ไม่มีโอกาสที่จะเข้ามาเลยแม้แต่น้อย ในเวลาเดียวกันเย่เชียนก็พูดกับวิทยุว่า “ชิงเฟิง..คุ้มกันด้วย!”

เมื่อได้ยินคำสั่งระยะไกลจากวิทยุชิงเฟิงก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งและใช้เครื่องยิงจรวดและยิงมันเข้าไปในสโมสรโดยตรงและในทันใดนั้นก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นไปทั่วพื้นที่

ม่อหลงก็หมุนตัวและใช้มีดแทงเข้าไปที่อกของน้องสามทันที ซึ่งด้านหลังของเขานั้นมันเป็นกำแพงหินดังนั้นน้องสามจึงไม่สามารถถอยหนีได้เขาจึงต้องยกมือขึ้นเพื่อรับการแทงของม่อหลงเอาไว้และคว้าข้อมือของม่อหลงเอาไว้ ซึ่งในระหว่างที่กำลังยื้อกันไปยื้อกันมาอยู่นั้นน้องสามก็ได้สัมผัสกับพละกำลังที่แข็งแกร่งพลังของม่อหลงและหลังจากนั้นพวกเขาทั้งสองก็ปล่อยหมัดใส่กันอย่างดุเดือดแต่ทว่าทุกๆ ครั้งที่หมัดของทั้งสองปะทะกันนั้นดูเหมือนว่ากระดูกแขนของน้องสามจะหักไปข้างหนึ่งแล้วหากเป็นเช่นนั้นเขาจะใช้มือเดียวเพื่อเผชิญหน้ากับม่อหลงได้อย่างไร?

อย่างไรก็ตามในขณะที่น้องสามใช้มือทั้งสองข้างรับการโจมตีของม่อหลงที่ใช้มือเพียงข้างเดียวนั้นจู่ๆ มืออีกข้างของม่อหลงก็เอื้อมไปหยิบมีดจากมืออีกข้างที่โดนบล็อกเอาไว้และเขาก็ใช้มีดนั้นปาดเข้าไปที่คอของน้องสามอย่างรวดเร็วและโหดร้าย และแรงมือของน้องสามนั้นก็ค่อยๆ อ่อนแรงลงเรื่อยๆ และม่อหลงก็ผลิกตัวกลับและใช้มีดแทงเข้าไปที่หน้าอกของคู่ต่อสู้และมันก็ทะลุเข้าไปในทันที

“ไปเถอะ! ..” เย่เชียนเหลือบมองไปที่ม่อหลงและพูด ทั้งสองคนก็คอยดูหน้าดูหลังให้กันและกันและก็เดินไปทางหน้าต่างซึ่งระหว่างทางนั้นสมาชิกของแก๊งยามากุจิก็กลายเป็นศพและล้มลงต่อหน้าพวกเขาไปทีละคนๆ หลังจากนั้นเย่เชียนก็คว้าเชือกนอกหน้าต่างเอาไว้และพูดอย่างเร่งรีบว่า “พี่ม่อหลง..ถอนตัวเร็ว!”

ม่อหลงก็หันกลับมาและวิ่งไปกระโดดคว้าเอวของเย่เชียนเอาไว้และเย่เชียนก็ตัดเชือกอีกเส้นไปและในทันใดนั้นทั้งสองก็โหนเชือกไปยังอาคารใกล้เคียงที่กำหนดเอาไว้ ส่วนชิงเฟิงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเห็นเย่เชียนและม่อหลงออกมาได้อย่างปลอดภัยแล้วเขาจึงไม่ต้องกังวลอะไรอีกและหลังจากนั้นจรวดทีละนัดพุ่งตรงไปที่สโมสรและใทันใดนั้นสโมสรน้ำพุร้อนซากุระทั้งหมดก็จมอยู่ใต้ทะเลเพลิง ซึ่งสมาชิกของแก๊งยามากุจิที่เหลืออยู่ก็ไม่สนใจอะไรอีกต่อไปแล้วพวกเขาจึงรีบหนีกันออกมา

หลังจากที่โหนเชือกและโรยเชือกลงสู่พื้นกันเสร็จแล้วเย่เชียนก็เหลือบมองไปที่ม่อหลงและทั้งสองก็พุ่งเข้าไปในความมืดอย่างรวดเร็ว และเมื่อมาถึงสถานที่นัดพบที่ระบุเอาไว้ล่วงหน้าแล้วเขาก็รีบเข้าไปในรถและหลังจากนั้นไม่นานชิงเฟิงก็รีบเข้ามา และก็สตาร์ทรถจากนั้นพวกเขาทั้งสามก็หายไปในความมืดอย่างรวดเร็ว

ปฏิบัติการทั้งหมดรวดเร็วและแม่นยำซึ่งไม่เพียงแค่กำจัดผู้นำทั้งสามของแก๊งยามากุจิเพียงเท่านั้นแต่ยังส่งผลให้มีรายได้อย่างมหาศาลอีกด้วย ซึ่งอาจกล่าวได้เลยว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

เมื่อมาถึงร้านอาหารจีนภายใต้แก๊งฝูชิงแล้วนั้นก็พบว่าเซี่ยตงไป่,เซี่ยจือยี่,โย่วซวนและหวงฟู่เส้าเจี๋ยรออยู่ที่นั่นกันแล้ว และเมื่อพวกเขาเห็นเย่เชียน,ม่อหลงและชิงเฟิงที่ลงจากรถกันมาเซี่ยตงไป่ก็รีบเดินไปรับพวกเขาและพาเย่เชียนเข้าไปในร้านอาหารอย่างจริงใจ

หลังจากเข้าไปในร้านอาหารกันแล้วเซี่ยจือยี่ก็ช่วยม่อหลงถอดเสื้อโค้ตของเขาและปัดเกล็ดหิมะออกให้อย่างอ่อนโยนซึ่งม่อหลงก็เขินอายเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธใดๆ เลยแม้แต่น้อย

“เป็นไงบ้าง..เรียบร้อยดีมั้ย” เซี่ยตงไป่นั้นไม่สามารถระงับความตื่นเต้นของเขาเอาไว้ได้เขาจึงถามเมื่อพวกเขาเข้ามาในห้องอาหารกันแล้ว เพราะท้ายที่สุดถ้าหากเย่เชียนสามารถกำจัดยักษ์ใหญ่ทั้งสามของแก๊งยามากุจิได้ล่ะก็มันก็จะเป็นประโยชน์และผลดีอย่างมากต่อแก๊งฝูชิงและแก๊งฝูชิงก็จะใช้โอกาสนี้กอบโกยผลประโยชน์และธุรกิจต่างๆ ในเมืองได้อย่างง่ายดาย

“เรียบร้อยครับ!” เย่เชียนพูดง่ายๆ

“ฮ่าๆ ..เขี้ยวหมาป่าสมกับเป็นเขี้ยวหมาป่าที่ร่ำลือกันจริงๆ ..ฉันเชื่อเลยว่าไม่มีสิ่งใดในโลกใบนี้ที่เขี้ยวหมาป่าทำไม่ได้! ..ช่างเป็นเกียรติสำหรับเซี่ยตงไป่คนนี้จริงๆ ที่สามารถเป็นพี่น้องกับเย่เชียนผู้ยิ่งใหญ่ได้” เซี่ยตงไป่ยิ้มกว้างๆ และพูด

“อ้อไม่เป็นไรครับ..มันมากเกินไปที่พี่ใหญ่จะขอบคุณผม..ครั้งนี้ที่เป็นไปอย่างราบรื่นได้ทางเราก็ต้องขอบคุณพี่ใหญ่สำหรับความช่วยเหลือของพวกคุณ..ไม่งั้นเราก็ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าพวกมันอยู่ที่ไหนกันน่ะ” เย่เชียนพูด

“โอ้ๆ ..อย่าสุภาพแบบนั้นสิ” เซี่ยตงไป่พูด “เราจะมีการติดต่อกันมากขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน..ว่าแต่น้องเย่..ตอนนี้ทุกอย่างก็เรียบร้อยแล้ว..เพราะงั้นน้องเย่จะไม่อยู่ต่ออีกสักหน่อยหรือ..ฉันจะได้ตอบแทนให้ดีที่สุดในฐานะเจ้าบ้านน่ะ..หวังว่าการต้อนรับครั้งนี้น้องเย่จะไม่โกรธเคืองกันนะ”

“อ้อไม่เลยครับ..ขอบคุณมากๆ เลย..แต่วันตรุษจีนกำลังจะมาถึงเร็วๆ นี้เพราะงั้นผมจึงต้องรีบกลับไปหาครอบครัวโดยเร็วที่สุด..ผมไม่อยากพลาดวันดีๆ แบบนั้นไป” เย่เชียนพูด

“จะไปแล้วหรือ..ฉันไม่อยากให้น้องเย่รีบกลับเลย” เซี่ยตงไป่พูดจากนั้นเขาก็หันไปมองที่ม่อหลงและถามว่า “แล้วน้องม่อหลงล่ะ..จะกลับด้วยหรือ?”

เมื่อถูกถามเช่นนี้การจ้องมองของเซี่ยจือยี่ก็จดจ่ออยู่กับม่อหลงในทันที ส่วนเย่เชียนก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยโดยไม่ได้พูดอะไรใดๆ เพราะโดยปกติแล้วเขาไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงในเรื่องแบบนี้ได้และเขาก็ต้องการให้ม่อหลงตัดสินใจด้วยตัวเอง ซึ่งเมื่อถูกถามเช่นนั้นม่อหลงก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นเขาก็พูดว่า “จริงๆ แล้วผมก็อยากจะกลับไป..และผมก็ต้องขอโทษจริงๆ ที่รบกวนพวกคุณมานาน”

“คุณ…คุณอยู่ต่ออีกหน่อยไม่ได้หรอคะ?” เซี่ยจือยี่จ้องมองไปที่ม่อหลงด้วยความคาดหวัง

.

.

.

.

.

.

.

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+