ยอดนักรบจอมราชัน 386 งานเลี้ยงสุดหรู

Now you are reading ยอดนักรบจอมราชัน Chapter 386 งานเลี้ยงสุดหรู at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 386 งานเลี้ยงสุดหรู

หลินโรวโร่วนั้นได้ทำการตรวจสอบเกี่ยวกับพฤติกรรมของเฟิงกั๋วฟู่มาแล้วและเธอก็ได้รู้ว่าเขานั้นเป็นคนขี้เหนียวมากและเธอก็ไม่ได้หวังที่จะให้เขาบริจาคเงินจำนวนมากแต่อย่างใด ซึ่งถ้าหากเย่เชียนไม่ทำเช่นนี้แล้วล่ะก็หลินโรวโร่วก็คิดว่าเฟิงกั๋วฟู่คงจะบริจาคเพียงแค่ไม่กี่ล้านเท่านั้น แต่ทว่าในตอนนี้เย่เชียนได้เติมเชื้อไฟลงไปในเปลวเพลิงจนเฟิงกั๋วฟู่ต้องบริจาคถึง 10 ล้านเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเสียหน้า ซึ่งแผนการของเย่เชียนนั้นเปรียบได้ดั่งกลยุทธ์ของขงเบ้งในสมัยโบราณเลยทีเดียว

“ถ้าอย่างงั้นฉันก็ต้องขอขอบคุณมากเลยค่ะคุณเฟิง..เด็กๆ ที่ยากไร้ต้องการความช่วยเหลือของคุณมาก” หลินโรวโร่วพูด

“ยินดีๆ ..นี่คือสิ่งที่ฉันควรทำ” เฟิงกั๋วฟู่กัดฟันพูดเล็กน้อยแต่เขาก็ยังต้องแสร้งทำเป็นสงบเสงี่ยมมากและทำเย้ยหยันเย่เชียน อย่างไรก็ตามตอนนี้เฟิงกั๋วฟู่ก็มีความสุขในใจของเขามากเช่นกันเพราะในความคิดของเขานั้นคนที่ไม่มีอะไรเลยอย่างเย่เชียนคงไม่สามารถทำอะไรเขาได้ถ้าหากว่าเขาผลักหลินโรวโร่ลงบนเตียงด้วยความพยายามเล็กๆ น้อยๆ ของเขาเช่นนี้

หลังจากที่ใช้เงินไปมากเช่นนี้แล้วเฟิงกั๋วฟู่ก็ไม่ต้องการแค่เล่นหลินโรวโร่วเพื่อสนุกเพียงเท่านั้นเพราะเป้าหมายของเขานั้นเปลี่ยนจากการเล่นสนุกกลายเป็นการครอบครองหลินโรวโร่วไปตลอดเพื่อที่เขาจะได้ลบล้างความร้าวฉานนี้ไป

อย่างไรก็ตามทั้งเย่เชียนและหลินโรวโร่วต่างก็เป็นคนที่ฉลาดมากและเขาก็สามารถคาดเดาความคิดที่เลวทรามของเฟิงกั๋วฟู่ได้โดยดูจากการแสดงออกของเฟิงกั๋วฟู่ ซึ่งหลินโรวโร่วนั้นก็ยังใจดีอยู่มากไม่เช่นนั้นเธอก็คงจะเติมเชื้อไฟมากกว่านี้และเรียกร้องเงินค่าบริจาคของเฟิงกั๋วฟู่จนหมดตัว เพราะเย่เชียนนั้นจำได้ว่าตอนที่เครือน่านฟ้ากรุ๊ปเพิ่งจะเริ่มก่อตั้งในประเทศฝรั่งเศสก็มีนักธุรกิจชาวจีนคนหนึ่งที่ต้องการสนับสนุนซ่งหลัน ซึ่งไม่เพียงแค่เขาไม่ได้สัมผัสแม้แต่มือของซ่งหรันเพียงเท่านั้นแต่ยังถูกซ่งหลันกลืนกินทรัพย์สินของเขาอย่างหมดตัว

บางครั้งเย่เชียนก็มักจะพูดติดตลกว่าซ่งหลันนางมารร้ายในคาบของนางฟ้า ซึ่งจริงๆ แล้วซ่งหลันนั้นมีพิษสงอย่างมากและไม่มีใครที่สามารถสัมผัสเธอได้เลย ซึ่งซ่งหลันเองก็ยังกังวลเกี่ยวกับชื่อเรื่องนี้เช่นกันเพราะในความคิดของเธอนั้นคนเหล่านั้นล้วนเป็นคนที่ถูกสาปแช่งให้หลงรักเธอและต้องมนต์ในเสน่ห์ของเธอจนทำให้เธอสามารถกลืนทรัพย์สินของนักธุรกิจรายใหญ่ๆ ได้อย่างง่ายดาย

เมื่อพูดถึงการวางแผนเฟิงกั๋วฟู่เองก็เป็นสุนัขจิ้งจอกแก่ๆ แต่เป็นเพราะการที่เขานั้นมั่นใจในตัวเองเกินไปเขาจึงประเมินเย่เชียนต่ำอย่างมากตั้งแต่แรก ดังนั้นเขาจึงไม่มีการป้องกันเลยแม้แต่น้อยจนเขานั้นได้พูดเรื่องของตัวเองอย่างโออ่าชัดเจนรวมไปถึงอุตสาหกรรมที่เขาเป็นเจ้าของทั้งหมด ซึ่งแน่นอนว่าบางทีโดยไม่รู้ตัวเฟิงกั๋วฟู่ก็ยังคงพยายามอวดความมั่งคั่งและฐานะของเขาต่อหน้าหลินโรวโร่วเพื่อให้ภาคภูมิใจไปกับเขา

เย่เชียนนั้นก็รู้เรื่องของเฟิงกั๋วฟู่มาบ้างซึ่งถึงแม้ว่าเฟิงกั๋วฟู่จะเป็นที่รู้จักในฐานะเจ้าสัวแห่งอาหารจีนก็ตามแต่อาชีพของเขานั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในอุตสาหกรรมอาหารเท่านั้นแต่ยังมีอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้างและการค้าระหว่างประเทศซึ่งแต่ละอย่างนั้นล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ทั้งนั้น

ตัวอย่างเช่นในจังหวัดมณฑลกวางตุ้งนั้นเฟิงกั๋วฟู่ก็สามารถถือได้ว่าเป็นผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ซึ่งถ้าหากขายที่ดินทั้งหมดในมือของเขาก็จะมีจำนวนมหาศาลมากและเมื่อรับรู้ถึงอุตสาหกรรมมากมายของเฟิงกั๋วฟู่แล้วหัวใจของเย่เชียนก็เริ่มเต้นรัวแต่ไม่ใช่เพราะทรัพย์สินของเฟิงกั๋วฟู่แต่เป็นเพราะสถานที่และที่ดินทั้งหมดที่เฟิงกั๋วฟู่ครอบครองนั่นเอง

มณฑลกวางตุ้งซึ่งเป็นเมืองแรกตามการปฏิรูปและการเปิดประเทศของจีนที่อยู่ใกล้กับชายฝั่งและมีพรมแดนติดกับเขตการปกครองฮ่องกงอีกด้วยหรือที่เรียกว่าศูนย์กลางการเงินของเอเชีย ซึ่งเป็นสถานที่ที่เหล่านักลงทุนต่างก็ปรารถนากันทั้งนั้น เพราะถ้าหากเย่เชียนนั้นสามารถมีอำนาจในมณฑลกว้างตุ้งได้ล่ะก็มันก็จะเป็นการดีอย่างมากในอนาคต ตัวอย่างเช่นการติดต่อกลุ่มโจรสลัดซาตานที่ทำให้การขนส่งทางทะเลนั้นสะดวกอย่างมาก

นี่คือสิ่งที่เย่เชียนสนใจจริงๆ และเย่เชียนก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีโอกาสดีๆ เช่นนี้และเขาก็ไม่ควรพลาดโอกาสนี้ไปเนื่องจากเฟิงกั๋วฟู่ดูถูกตัวเองในตอนนี้เขาจึงอยากที่จะกำจัดเฟิงกั๋วฟู่ไปและใช้สิ่งนี้เพื่อพัฒนาพลังของเขี้ยวหมาป่าในมณฑลกวางตุ้งจากนั้นก็ชายแดนเหนือถึงใต้และด้วยวิธีนี้พื้นที่ทางตอนใต้ของจีนเกือบทั้งหมดก็จะถูกควบคุมด้วยมือของเขาและเขี้ยวหมาป่าเอง

“คุณเฟิงมาที่เมืองเซี่ยงไฮ้เพื่อทำธุรกิจหรือมาเที่ยวครับ? ” เย่เชียนถามอย่างไม่เป็นทางการ “ถ้ามาเที่ยวผมสามารถเป็นไกด์ยำให้คุณเฟิงได้นะครับ!”

“มันก็ไม่ใช่ธุระอย่างเป็นทางการหรอก..ฉันแค่ได้ยินมาว่ากำลังจะมีงานประมูลครั้งใหญ่ในเซี่ยงไฮ้เร็วๆ นี้ฉันจึงคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะฉันชอบการสะสมของเก่าเป็นงานอดิเรกของฉัน..และครั้งนี้ฉันก็ได้ยินมาว่าจะมีการประมูลของชาวยุโรปเป็นศาสตราวุธในศตวรรษที่ 17 กริชดาวตกแห่งเพลิง..เพราะงั้นฉันก็เลยมาที่นี่เพื่อชมมัน” เฟิงกั๋วฟู่พูด

เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง ‘กริชดาวตกแห่งเพลิง’ นี่คือมีดวิเศษในตำนาน ซึ่งเมื่อหลินโรวโร่วเห็นการแสดงออกที่ดูตื่นเต้นของเย่เชียนแล้วหลินโรวโร่วก็อดไม่ได้ที่จะแน่นิ่งไปชั่วขณะและเธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเย่เชียนถึงได้ตื่นเต้นมากขนาดนี้เมื่อได้ยินชื่อกริชดาวตก นั่นก็เพราะว่าผู้หญิงนั้นไม่เข้าใจความรักของผู้ชายที่มีต่ออาวุธเช่นเดียวกับที่ผู้ชายไม่เข้าใจความหลงใหลในเสื้อผ้าและเครื่องสำอางของผู้หญิงนั่นเอง

กริชดาวตกนั้นกล่าวขานกันว่าถูกทำขึ้นมาโดยชาวนาในยุโรปในศตวรรษที่สิบเจ็ดโดยการใช้เศษอุกกาบาตที่ตกลงมาจากท้องฟ้าเพื่อหลอมมันขึ้นมา ซึ่งมันเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมากเพราะกริชเล่มนี้สามารถรักษาอุณหภูมิคงที่เอาไว้ที่ 20 ° C ได้และไม่ว่าอุณหภูมิจะต่ำมากเพียงใดมันก็ไม่ลดลงเลยและบาดแผลที่ถูกกรีดด้วยกริชนี้ก็จะมีเลือดออกและบาดแผลที่เหมือนถูกไฟเผาทันที ซึ่งภรรยาและลูกของชาวนานั้นถูกกริชเล่มนี้บาดและเลือดออกไม่หยุดจนเสียชีวิตและต่อมาชาวนาก็ได้มอบสิ่งนี้ให้กับนักบวชที่ผ่านมาโดยขนาดนักบวชก็ยังล้มลงและเสียชีวิตไประหว่างทางดังนั้นจึงมีการกล่าวขานกันว่านี่เป็นแหล่งพลังงานมืดอย่างแท้จริง!

รูปร่างของกริชนั้นแปลกประหลาดมากเพราะมันคล้ายปืนคาบศิลาในยุคแรกๆ ในยุโรปและมีดก็มีลวดลายที่แปลกมากโดยบนตัวด้ามมีดนั้นเหมือนรุ้งและมีแสงหลากสีและท้ายของมันก็มีตะขออยู่สองอัน ซึ่งต้องบอกว่ามันเหมือนดาบมากกว่ากริชหรือมีดจริงๆ

ตั้งแต่ที่นักบวชนั้นเสียชีวิตไปกริชดาวตกก็หายลับไปแต่ไม่มีใครคาดคิดเลยว่ามันจะมาปรากฏในประเทศจีนเช่นนี้ ซึ่งตอนนั้นน่าจะเป็นช่วงเวลาที่รุ่งเรืองที่สุดของราชวงศ์ชิงในจีนเมื่อจักรพรรดิคังซีครองราชย์จึงมีการค้าระหว่างยุโรปในเวลานั้นจึงเป็นไปได้ที่มันจะมาปรากฏอยู่ในประเทศจีน

ความโปรดปรานและความผูกพันที่มีต่อกริชและมีดสั้นของเย่เชียนนั้นแข็งแกร่งมาก ซึ่งเย่เชียนนั้นมีห้องที่ชื่อ ‘หอศาสตราวุธ’ ที่สำนักงานใหญ่เขี้ยวหมาป่า ซึ่งภายในมีมีดสั้นและกริชทุกชนิดแต่เมื่อพูดถึงสิ่งที่เย่เชียนโปรดปรานแล้วเย่เชียนก็ชอบมีดโลหิตหมาป่ามากที่สุดเพราะใบมีดนั้นเป็นเหมือนคลื่นที่ไหลไปมาและพร้อมที่จะฆ่าคนในชั่วพริบตา เป็นเพราะความโปรดปรานต่อมีดสั้นและกริชของเย่เชียนนั้นที่อู๋หวนเฟิงต้องเสียแขนไปเพราะการนำมีดโลหิตหมาป่ามาจากพิพิธภัณฑ์ในประเทศอังกฤษนั่นเอง

ทว่าในตอนนี้กริชดาวตกได้มาปรากฏตัวในประเทศจีนโดยไม่คาดคิดจึงทำให้หัวใจของเย่เชียนอดไม่ได้ที่จะเริ่มปั่นป่วนจนมีดโลหิตหมาป่านั้นดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นของเย่เชียนจนมันสั่นเหมือนมันมีชีวิตของมันเอง ในความเป็นจริงแล้วมีดสั้นในคอลเลคชั่นของเย่เชียนนั้นนอกเหนือจากมีดโลหิตหมาป่าแล้วก็ยังไม่มีอะไรที่เย่เชียนโปรดปรานเลยแต่ทว่าตอนนี้กริชดาวตกได้ปรากฏขึ้นแล้วซึ่งแน่นอนว่าเย่เชียนจะไม่ปล่อยมันไปอยู่แล้ว

“ไม่คิดเลยว่าคุณเฟิงจะชอบของแบบนี้ด้วย” เย่เชียนยิ้มและระงับความตื่นเต้นเอาไว้และพูดอย่างเป็นธรรมชาติ

“ฉันไม่ได้สนใจที่จะสะสมอาวุธหรืออะไรพวกนั้นหรอก..เพียงแต่ว่ามันเป็นของในตำนานและมันถูกสร้างขึ้นในยุโรปช่วงศตวรรษที่ 17 แล้วมันก็เป็นของโบราณ..ฉันชอบของเก่าน่ะ” จากนั้นเขาก็เหลือบมองไปที่หลินโรวโร่วและยิ้มเล็กยิ้มน้อยและถามว่า “คุณหลินชอบของเก่าหรือเปล่า?”

“ชอบค่ะ..แต่ฉันไม่สนับสนุนให้คนเรานำของเก่ามาเก็งกำไรเพราะฉันคิดว่าของเก่าโบราณก็ควรถูกวางเอาไว้ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเพื่อให้ผู้คนได้ชื่นชมเพื่อให้มันมีคุณค่าอย่างแท้จริง” หลินโรวโร่วพูด

“คุณหลินนี่ช่างเป็นคนที่สง่างามเทียบไม่ได้กับคนอย่างฉันจริงๆ” เฟิงกั๋วฟู่พูดด้วยรอยยิ้ม แต่ในใจเขาก็แอบคิดอย่างลับๆ ว่า ‘ยัยโง่..ของโบราณมีมูลค่ามากมายจะเอาไปเก็บเอาไว้ทำไมให้มันไร้ประโยชน์’ หลังจากหยุดไปชั่วขณะเฟิงกั๋วฟู่ก็พูดว่า “ฉันเองก็มีของเก่าโบราณอยู่บ้าง..แต่ไม่ใช่สำหรับเอาไว้ขาย..เพราะฉันรู้สึกว่าถ้าหากมันตกอยู่ในมือของคนที่ไม่เข้าใจมันคงจะน่าเสียดายไปหน่อย..ดูเหมือนว่าคุณหลินจะคิดแบบเดียวกับฉันถ้าอย่างงั้นว่างๆ ก็ไปที่บ้านของฉันเพื่อชมมันสิ”

‘ไอ้แก่น่าสมเพช!’ เย่เชียนสบถอย่างลับๆ หลังจากนั้นเย่เชียนก็พูดว่า “ได้ครับคุณเฟิง..ผมกับโรวโร่วจะไปเยี่ยมเมื่อมีเวลาว่าง..หลังจากนั้นเย่เชียนก็หันหน้าไปทางอื่นและพูดว่า “คุณเฟิงครับ..มันต้องมีคนจำนวนมากที่คิดจะแย่งกริชเล่มนี้ใช่มั้ย..ผมเกรงว่าคุณคงจะไม่ชนะการประมูลง่ายๆ แน่นอน”

“ใช่! ..มันไม่ง่ายแน่นอน..เท่าที่ฉันรู้น่ะแม้แต่มหาเศรษฐีชาวยุโรปก็จะมาที่นี่เพื่อเข้าร่วมการประมูลครั้งนี้..อย่างไรก็ตามถึงยังไงมังกรก็ไม่สามารถเอาชนะงูเจ้าถิ่นได้อยู่ดี..ถึงยังไงฉันก็จะต้องชนะการประมูลครั้งนี้อย่างแน่นอน!” เฟิงกั๋วฟู่พูด

“ใช่มังกรที่แข็งแกร่งต้องถูกบดขยี้ด้วยงู!” เย่เชียนนั้นเห็นด้วย เพราะสิ่งที่เย่เชียนคิดก็คือถึงแม้ว่าเฟิงกั๋วฟู่จะยิ่งใหญ่ในมณฑลกวางตุ้งก็ตามแต่เมื่อเขามาที่เมืองเซี่ยงไฮ้แล้วนี่ก็คือโลกของเย่เชียน ดังนั้นการประมูลครั้งนี้เย่เชียนก็ต้องได้ครอบครองกริชดาวตกเท่านั้น

“การประมูลเริ่มเมื่อไหร่หรอ..ผมอยากเข้าร่วมด้วย” เย่เชียนพูด

“อีกสามวันหลังจากนี้..แต่ถ้าใครไม่มีบัตรเชิญมันก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าไป” เฟิงกั๋วฟู่พูดต่อ “แต่ถ้าคุณหลินอยากไปฉันก็มีการ์ดเชิญพิเศษอยู่ด้วย..ถ้าเป็นคุณหลินฉันก็ยินดีที่จะให้ถ้าคุณต้องการ”

‘ไอ้แก่เจ้าเล่ห์’ เย่เชียนก็สบถอย่างดุเดือดในใจของเขาเพราะเฟิงกั๋วฟู่ปฏิเสธเขาแต่ตอนนี้เฟิงกั๋วฟู่กลับมอบมันให้กับหลินโรวโร่วต่อหน้าต่อตาเย่เชียน

“ไม่ฉันไม่สนใจงานแบบนั้นหรอกค่ะ..อีกไม่กี่วันนี้ฉันมีธุระต้องทำค่ะ..ขอบคุณประธานเฟิงสำหรับความกรุณาของคุณมากค่ะ” หลินโรวโร่วปฏิเสธอย่างมีชั้นเชิง

เย่เชียนก็ยิ้มอย่างมีความสุขในใจและคิดว่า ‘ไอ้แก่ผู้น่าสมเพช..นี่แกไม่รู้เลยใช่มั้ยว่าโรวโร่วน่ะรับเฉพาะของขวัญของฉันเท่านั้น..คนเฒ่าคนแก่แบบนี้จะไปได้ไกลแค่ไหนกัน” ยิ่งไปกว่านั้นเย่เชียนก็รู้ดีว่าหลินโรวโร่วนั้นรักตัวเองอย่างสุดซึ้งและเขาก็ไม่ได้กังวลอะไรเลย

.

.

.

.

.

.

.

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ยอดนักรบจอมราชัน 386 งานเลี้ยงสุดหรู

Now you are reading ยอดนักรบจอมราชัน Chapter 386 งานเลี้ยงสุดหรู at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 386 งานเลี้ยงสุดหรู

หลินโรวโร่วนั้นได้ทำการตรวจสอบเกี่ยวกับพฤติกรรมของเฟิงกั๋วฟู่มาแล้วและเธอก็ได้รู้ว่าเขานั้นเป็นคนขี้เหนียวมากและเธอก็ไม่ได้หวังที่จะให้เขาบริจาคเงินจำนวนมากแต่อย่างใด ซึ่งถ้าหากเย่เชียนไม่ทำเช่นนี้แล้วล่ะก็หลินโรวโร่วก็คิดว่าเฟิงกั๋วฟู่คงจะบริจาคเพียงแค่ไม่กี่ล้านเท่านั้น แต่ทว่าในตอนนี้เย่เชียนได้เติมเชื้อไฟลงไปในเปลวเพลิงจนเฟิงกั๋วฟู่ต้องบริจาคถึง 10 ล้านเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเสียหน้า ซึ่งแผนการของเย่เชียนนั้นเปรียบได้ดั่งกลยุทธ์ของขงเบ้งในสมัยโบราณเลยทีเดียว

“ถ้าอย่างงั้นฉันก็ต้องขอขอบคุณมากเลยค่ะคุณเฟิง..เด็กๆ ที่ยากไร้ต้องการความช่วยเหลือของคุณมาก” หลินโรวโร่วพูด

“ยินดีๆ ..นี่คือสิ่งที่ฉันควรทำ” เฟิงกั๋วฟู่กัดฟันพูดเล็กน้อยแต่เขาก็ยังต้องแสร้งทำเป็นสงบเสงี่ยมมากและทำเย้ยหยันเย่เชียน อย่างไรก็ตามตอนนี้เฟิงกั๋วฟู่ก็มีความสุขในใจของเขามากเช่นกันเพราะในความคิดของเขานั้นคนที่ไม่มีอะไรเลยอย่างเย่เชียนคงไม่สามารถทำอะไรเขาได้ถ้าหากว่าเขาผลักหลินโรวโร่ลงบนเตียงด้วยความพยายามเล็กๆ น้อยๆ ของเขาเช่นนี้

หลังจากที่ใช้เงินไปมากเช่นนี้แล้วเฟิงกั๋วฟู่ก็ไม่ต้องการแค่เล่นหลินโรวโร่วเพื่อสนุกเพียงเท่านั้นเพราะเป้าหมายของเขานั้นเปลี่ยนจากการเล่นสนุกกลายเป็นการครอบครองหลินโรวโร่วไปตลอดเพื่อที่เขาจะได้ลบล้างความร้าวฉานนี้ไป

อย่างไรก็ตามทั้งเย่เชียนและหลินโรวโร่วต่างก็เป็นคนที่ฉลาดมากและเขาก็สามารถคาดเดาความคิดที่เลวทรามของเฟิงกั๋วฟู่ได้โดยดูจากการแสดงออกของเฟิงกั๋วฟู่ ซึ่งหลินโรวโร่วนั้นก็ยังใจดีอยู่มากไม่เช่นนั้นเธอก็คงจะเติมเชื้อไฟมากกว่านี้และเรียกร้องเงินค่าบริจาคของเฟิงกั๋วฟู่จนหมดตัว เพราะเย่เชียนนั้นจำได้ว่าตอนที่เครือน่านฟ้ากรุ๊ปเพิ่งจะเริ่มก่อตั้งในประเทศฝรั่งเศสก็มีนักธุรกิจชาวจีนคนหนึ่งที่ต้องการสนับสนุนซ่งหลัน ซึ่งไม่เพียงแค่เขาไม่ได้สัมผัสแม้แต่มือของซ่งหรันเพียงเท่านั้นแต่ยังถูกซ่งหลันกลืนกินทรัพย์สินของเขาอย่างหมดตัว

บางครั้งเย่เชียนก็มักจะพูดติดตลกว่าซ่งหลันนางมารร้ายในคาบของนางฟ้า ซึ่งจริงๆ แล้วซ่งหลันนั้นมีพิษสงอย่างมากและไม่มีใครที่สามารถสัมผัสเธอได้เลย ซึ่งซ่งหลันเองก็ยังกังวลเกี่ยวกับชื่อเรื่องนี้เช่นกันเพราะในความคิดของเธอนั้นคนเหล่านั้นล้วนเป็นคนที่ถูกสาปแช่งให้หลงรักเธอและต้องมนต์ในเสน่ห์ของเธอจนทำให้เธอสามารถกลืนทรัพย์สินของนักธุรกิจรายใหญ่ๆ ได้อย่างง่ายดาย

เมื่อพูดถึงการวางแผนเฟิงกั๋วฟู่เองก็เป็นสุนัขจิ้งจอกแก่ๆ แต่เป็นเพราะการที่เขานั้นมั่นใจในตัวเองเกินไปเขาจึงประเมินเย่เชียนต่ำอย่างมากตั้งแต่แรก ดังนั้นเขาจึงไม่มีการป้องกันเลยแม้แต่น้อยจนเขานั้นได้พูดเรื่องของตัวเองอย่างโออ่าชัดเจนรวมไปถึงอุตสาหกรรมที่เขาเป็นเจ้าของทั้งหมด ซึ่งแน่นอนว่าบางทีโดยไม่รู้ตัวเฟิงกั๋วฟู่ก็ยังคงพยายามอวดความมั่งคั่งและฐานะของเขาต่อหน้าหลินโรวโร่วเพื่อให้ภาคภูมิใจไปกับเขา

เย่เชียนนั้นก็รู้เรื่องของเฟิงกั๋วฟู่มาบ้างซึ่งถึงแม้ว่าเฟิงกั๋วฟู่จะเป็นที่รู้จักในฐานะเจ้าสัวแห่งอาหารจีนก็ตามแต่อาชีพของเขานั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในอุตสาหกรรมอาหารเท่านั้นแต่ยังมีอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้างและการค้าระหว่างประเทศซึ่งแต่ละอย่างนั้นล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ทั้งนั้น

ตัวอย่างเช่นในจังหวัดมณฑลกวางตุ้งนั้นเฟิงกั๋วฟู่ก็สามารถถือได้ว่าเป็นผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ซึ่งถ้าหากขายที่ดินทั้งหมดในมือของเขาก็จะมีจำนวนมหาศาลมากและเมื่อรับรู้ถึงอุตสาหกรรมมากมายของเฟิงกั๋วฟู่แล้วหัวใจของเย่เชียนก็เริ่มเต้นรัวแต่ไม่ใช่เพราะทรัพย์สินของเฟิงกั๋วฟู่แต่เป็นเพราะสถานที่และที่ดินทั้งหมดที่เฟิงกั๋วฟู่ครอบครองนั่นเอง

มณฑลกวางตุ้งซึ่งเป็นเมืองแรกตามการปฏิรูปและการเปิดประเทศของจีนที่อยู่ใกล้กับชายฝั่งและมีพรมแดนติดกับเขตการปกครองฮ่องกงอีกด้วยหรือที่เรียกว่าศูนย์กลางการเงินของเอเชีย ซึ่งเป็นสถานที่ที่เหล่านักลงทุนต่างก็ปรารถนากันทั้งนั้น เพราะถ้าหากเย่เชียนนั้นสามารถมีอำนาจในมณฑลกว้างตุ้งได้ล่ะก็มันก็จะเป็นการดีอย่างมากในอนาคต ตัวอย่างเช่นการติดต่อกลุ่มโจรสลัดซาตานที่ทำให้การขนส่งทางทะเลนั้นสะดวกอย่างมาก

นี่คือสิ่งที่เย่เชียนสนใจจริงๆ และเย่เชียนก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีโอกาสดีๆ เช่นนี้และเขาก็ไม่ควรพลาดโอกาสนี้ไปเนื่องจากเฟิงกั๋วฟู่ดูถูกตัวเองในตอนนี้เขาจึงอยากที่จะกำจัดเฟิงกั๋วฟู่ไปและใช้สิ่งนี้เพื่อพัฒนาพลังของเขี้ยวหมาป่าในมณฑลกวางตุ้งจากนั้นก็ชายแดนเหนือถึงใต้และด้วยวิธีนี้พื้นที่ทางตอนใต้ของจีนเกือบทั้งหมดก็จะถูกควบคุมด้วยมือของเขาและเขี้ยวหมาป่าเอง

“คุณเฟิงมาที่เมืองเซี่ยงไฮ้เพื่อทำธุรกิจหรือมาเที่ยวครับ? ” เย่เชียนถามอย่างไม่เป็นทางการ “ถ้ามาเที่ยวผมสามารถเป็นไกด์ยำให้คุณเฟิงได้นะครับ!”

“มันก็ไม่ใช่ธุระอย่างเป็นทางการหรอก..ฉันแค่ได้ยินมาว่ากำลังจะมีงานประมูลครั้งใหญ่ในเซี่ยงไฮ้เร็วๆ นี้ฉันจึงคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะฉันชอบการสะสมของเก่าเป็นงานอดิเรกของฉัน..และครั้งนี้ฉันก็ได้ยินมาว่าจะมีการประมูลของชาวยุโรปเป็นศาสตราวุธในศตวรรษที่ 17 กริชดาวตกแห่งเพลิง..เพราะงั้นฉันก็เลยมาที่นี่เพื่อชมมัน” เฟิงกั๋วฟู่พูด

เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง ‘กริชดาวตกแห่งเพลิง’ นี่คือมีดวิเศษในตำนาน ซึ่งเมื่อหลินโรวโร่วเห็นการแสดงออกที่ดูตื่นเต้นของเย่เชียนแล้วหลินโรวโร่วก็อดไม่ได้ที่จะแน่นิ่งไปชั่วขณะและเธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเย่เชียนถึงได้ตื่นเต้นมากขนาดนี้เมื่อได้ยินชื่อกริชดาวตก นั่นก็เพราะว่าผู้หญิงนั้นไม่เข้าใจความรักของผู้ชายที่มีต่ออาวุธเช่นเดียวกับที่ผู้ชายไม่เข้าใจความหลงใหลในเสื้อผ้าและเครื่องสำอางของผู้หญิงนั่นเอง

กริชดาวตกนั้นกล่าวขานกันว่าถูกทำขึ้นมาโดยชาวนาในยุโรปในศตวรรษที่สิบเจ็ดโดยการใช้เศษอุกกาบาตที่ตกลงมาจากท้องฟ้าเพื่อหลอมมันขึ้นมา ซึ่งมันเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมากเพราะกริชเล่มนี้สามารถรักษาอุณหภูมิคงที่เอาไว้ที่ 20 ° C ได้และไม่ว่าอุณหภูมิจะต่ำมากเพียงใดมันก็ไม่ลดลงเลยและบาดแผลที่ถูกกรีดด้วยกริชนี้ก็จะมีเลือดออกและบาดแผลที่เหมือนถูกไฟเผาทันที ซึ่งภรรยาและลูกของชาวนานั้นถูกกริชเล่มนี้บาดและเลือดออกไม่หยุดจนเสียชีวิตและต่อมาชาวนาก็ได้มอบสิ่งนี้ให้กับนักบวชที่ผ่านมาโดยขนาดนักบวชก็ยังล้มลงและเสียชีวิตไประหว่างทางดังนั้นจึงมีการกล่าวขานกันว่านี่เป็นแหล่งพลังงานมืดอย่างแท้จริง!

รูปร่างของกริชนั้นแปลกประหลาดมากเพราะมันคล้ายปืนคาบศิลาในยุคแรกๆ ในยุโรปและมีดก็มีลวดลายที่แปลกมากโดยบนตัวด้ามมีดนั้นเหมือนรุ้งและมีแสงหลากสีและท้ายของมันก็มีตะขออยู่สองอัน ซึ่งต้องบอกว่ามันเหมือนดาบมากกว่ากริชหรือมีดจริงๆ

ตั้งแต่ที่นักบวชนั้นเสียชีวิตไปกริชดาวตกก็หายลับไปแต่ไม่มีใครคาดคิดเลยว่ามันจะมาปรากฏในประเทศจีนเช่นนี้ ซึ่งตอนนั้นน่าจะเป็นช่วงเวลาที่รุ่งเรืองที่สุดของราชวงศ์ชิงในจีนเมื่อจักรพรรดิคังซีครองราชย์จึงมีการค้าระหว่างยุโรปในเวลานั้นจึงเป็นไปได้ที่มันจะมาปรากฏอยู่ในประเทศจีน

ความโปรดปรานและความผูกพันที่มีต่อกริชและมีดสั้นของเย่เชียนนั้นแข็งแกร่งมาก ซึ่งเย่เชียนนั้นมีห้องที่ชื่อ ‘หอศาสตราวุธ’ ที่สำนักงานใหญ่เขี้ยวหมาป่า ซึ่งภายในมีมีดสั้นและกริชทุกชนิดแต่เมื่อพูดถึงสิ่งที่เย่เชียนโปรดปรานแล้วเย่เชียนก็ชอบมีดโลหิตหมาป่ามากที่สุดเพราะใบมีดนั้นเป็นเหมือนคลื่นที่ไหลไปมาและพร้อมที่จะฆ่าคนในชั่วพริบตา เป็นเพราะความโปรดปรานต่อมีดสั้นและกริชของเย่เชียนนั้นที่อู๋หวนเฟิงต้องเสียแขนไปเพราะการนำมีดโลหิตหมาป่ามาจากพิพิธภัณฑ์ในประเทศอังกฤษนั่นเอง

ทว่าในตอนนี้กริชดาวตกได้มาปรากฏตัวในประเทศจีนโดยไม่คาดคิดจึงทำให้หัวใจของเย่เชียนอดไม่ได้ที่จะเริ่มปั่นป่วนจนมีดโลหิตหมาป่านั้นดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นของเย่เชียนจนมันสั่นเหมือนมันมีชีวิตของมันเอง ในความเป็นจริงแล้วมีดสั้นในคอลเลคชั่นของเย่เชียนนั้นนอกเหนือจากมีดโลหิตหมาป่าแล้วก็ยังไม่มีอะไรที่เย่เชียนโปรดปรานเลยแต่ทว่าตอนนี้กริชดาวตกได้ปรากฏขึ้นแล้วซึ่งแน่นอนว่าเย่เชียนจะไม่ปล่อยมันไปอยู่แล้ว

“ไม่คิดเลยว่าคุณเฟิงจะชอบของแบบนี้ด้วย” เย่เชียนยิ้มและระงับความตื่นเต้นเอาไว้และพูดอย่างเป็นธรรมชาติ

“ฉันไม่ได้สนใจที่จะสะสมอาวุธหรืออะไรพวกนั้นหรอก..เพียงแต่ว่ามันเป็นของในตำนานและมันถูกสร้างขึ้นในยุโรปช่วงศตวรรษที่ 17 แล้วมันก็เป็นของโบราณ..ฉันชอบของเก่าน่ะ” จากนั้นเขาก็เหลือบมองไปที่หลินโรวโร่วและยิ้มเล็กยิ้มน้อยและถามว่า “คุณหลินชอบของเก่าหรือเปล่า?”

“ชอบค่ะ..แต่ฉันไม่สนับสนุนให้คนเรานำของเก่ามาเก็งกำไรเพราะฉันคิดว่าของเก่าโบราณก็ควรถูกวางเอาไว้ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเพื่อให้ผู้คนได้ชื่นชมเพื่อให้มันมีคุณค่าอย่างแท้จริง” หลินโรวโร่วพูด

“คุณหลินนี่ช่างเป็นคนที่สง่างามเทียบไม่ได้กับคนอย่างฉันจริงๆ” เฟิงกั๋วฟู่พูดด้วยรอยยิ้ม แต่ในใจเขาก็แอบคิดอย่างลับๆ ว่า ‘ยัยโง่..ของโบราณมีมูลค่ามากมายจะเอาไปเก็บเอาไว้ทำไมให้มันไร้ประโยชน์’ หลังจากหยุดไปชั่วขณะเฟิงกั๋วฟู่ก็พูดว่า “ฉันเองก็มีของเก่าโบราณอยู่บ้าง..แต่ไม่ใช่สำหรับเอาไว้ขาย..เพราะฉันรู้สึกว่าถ้าหากมันตกอยู่ในมือของคนที่ไม่เข้าใจมันคงจะน่าเสียดายไปหน่อย..ดูเหมือนว่าคุณหลินจะคิดแบบเดียวกับฉันถ้าอย่างงั้นว่างๆ ก็ไปที่บ้านของฉันเพื่อชมมันสิ”

‘ไอ้แก่น่าสมเพช!’ เย่เชียนสบถอย่างลับๆ หลังจากนั้นเย่เชียนก็พูดว่า “ได้ครับคุณเฟิง..ผมกับโรวโร่วจะไปเยี่ยมเมื่อมีเวลาว่าง..หลังจากนั้นเย่เชียนก็หันหน้าไปทางอื่นและพูดว่า “คุณเฟิงครับ..มันต้องมีคนจำนวนมากที่คิดจะแย่งกริชเล่มนี้ใช่มั้ย..ผมเกรงว่าคุณคงจะไม่ชนะการประมูลง่ายๆ แน่นอน”

“ใช่! ..มันไม่ง่ายแน่นอน..เท่าที่ฉันรู้น่ะแม้แต่มหาเศรษฐีชาวยุโรปก็จะมาที่นี่เพื่อเข้าร่วมการประมูลครั้งนี้..อย่างไรก็ตามถึงยังไงมังกรก็ไม่สามารถเอาชนะงูเจ้าถิ่นได้อยู่ดี..ถึงยังไงฉันก็จะต้องชนะการประมูลครั้งนี้อย่างแน่นอน!” เฟิงกั๋วฟู่พูด

“ใช่มังกรที่แข็งแกร่งต้องถูกบดขยี้ด้วยงู!” เย่เชียนนั้นเห็นด้วย เพราะสิ่งที่เย่เชียนคิดก็คือถึงแม้ว่าเฟิงกั๋วฟู่จะยิ่งใหญ่ในมณฑลกวางตุ้งก็ตามแต่เมื่อเขามาที่เมืองเซี่ยงไฮ้แล้วนี่ก็คือโลกของเย่เชียน ดังนั้นการประมูลครั้งนี้เย่เชียนก็ต้องได้ครอบครองกริชดาวตกเท่านั้น

“การประมูลเริ่มเมื่อไหร่หรอ..ผมอยากเข้าร่วมด้วย” เย่เชียนพูด

“อีกสามวันหลังจากนี้..แต่ถ้าใครไม่มีบัตรเชิญมันก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าไป” เฟิงกั๋วฟู่พูดต่อ “แต่ถ้าคุณหลินอยากไปฉันก็มีการ์ดเชิญพิเศษอยู่ด้วย..ถ้าเป็นคุณหลินฉันก็ยินดีที่จะให้ถ้าคุณต้องการ”

‘ไอ้แก่เจ้าเล่ห์’ เย่เชียนก็สบถอย่างดุเดือดในใจของเขาเพราะเฟิงกั๋วฟู่ปฏิเสธเขาแต่ตอนนี้เฟิงกั๋วฟู่กลับมอบมันให้กับหลินโรวโร่วต่อหน้าต่อตาเย่เชียน

“ไม่ฉันไม่สนใจงานแบบนั้นหรอกค่ะ..อีกไม่กี่วันนี้ฉันมีธุระต้องทำค่ะ..ขอบคุณประธานเฟิงสำหรับความกรุณาของคุณมากค่ะ” หลินโรวโร่วปฏิเสธอย่างมีชั้นเชิง

เย่เชียนก็ยิ้มอย่างมีความสุขในใจและคิดว่า ‘ไอ้แก่ผู้น่าสมเพช..นี่แกไม่รู้เลยใช่มั้ยว่าโรวโร่วน่ะรับเฉพาะของขวัญของฉันเท่านั้น..คนเฒ่าคนแก่แบบนี้จะไปได้ไกลแค่ไหนกัน” ยิ่งไปกว่านั้นเย่เชียนก็รู้ดีว่าหลินโรวโร่วนั้นรักตัวเองอย่างสุดซึ้งและเขาก็ไม่ได้กังวลอะไรเลย

.

.

.

.

.

.

.

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+