ยอดนักรบจอมราชัน 461 การต่อสู้ในเงามืด

Now you are reading ยอดนักรบจอมราชัน Chapter 461 การต่อสู้ในเงามืด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 461 การต่อสู้ในเงามืด

บางครั้งถ้าใครนิ่งเงียบนานเกินไปคนอื่นจะจำเขาคนนั้นไม่ได้และลืมสิ่งที่เขาเคยทำอย่างหนักหน่วงและรู้สึกว่าเขาคนนั้นตกต่ำลงไปอย่างยิ่ง ดังนั้นเย่เชียนจึงตัดสินใจเคลื่อนไหวครั้งใหญ่โดยการกวาดล้างองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะแห่งรัสเซียในบัดดลและประกาศศักดา ซึ่งด้วยวิธีนี้ลูกแมวและลูกสุนัขทุกตัวจะต้องตกใจกลัวและตระหนักว่าพวกมันไม่รู้ว่าท้องฟ้านั้นสูงแค่ไหนและพื้นดินนั้นหนาแค่ไหนและหยุดความคิดที่ว่าเขี้ยวหมาป่าเป็นสิ่งที่สามารถท้าทายได้อีก

องค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะแห่งอาร์กติกเหนือนั้นถือเป็นทหารรับจ้างแนวหน้าในโลกของทหารรับจ้างและมีส่วนร่วมในสงครามครั้งใหญ่หลายครั้งและสมาชิกหลายคนก็เคยเป็นถึงทหารในกองทัพที่เกษียณแล้วของกองกำลังหน่วยรบพิเศษหมีขั้วโลกแห่งประเทศรัสเซียและไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการรบส่วนบุคคลหรือการทำงานเป็นทีมนั้นพวกเขาก็สามารถผสมผสานระหว่างกลยุทธ์และยุทธวิธีให้เข้ากันได้เป็นอย่างดี

ตามข้อมูลที่ได้มาองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะนั้นมีสมาชิกประมาณ 200 คนโดยมีอายุเฉลี่ยประมาณ 30 ปี และพวกเขาก็ไม่เคยล้มเหลวในภารกิจใดๆ มาก่อนยกเว้นครั้งที่แล้วในดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน ซึ่งในโลกของทหารรับจ้างนั้นความน่าเชื่อถือของจิ้งจอกหิมะก็ค่อนข้างดีและได้ร่วมมือกับรัฐบาลของประเทศรัสเซียอยู่หลายครั้ง

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่ารัฐบาลของประเทศรัสเซียจะให้ความร่วมมือกับองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะก็ตามแต่ก็ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลของประเทศรัสเซียจะดูแลและเอื้ออำนวยพวกเขาเพราะในสายตาของรัฐบาลรัสเซียนั้นทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะก็เป็นเพียงเบี้ยสำหรับการใช้งานเพราะทุกครั้งที่มีสงครามหรือการปะทะที่รุนแรงนั้นทางรัฐบาลของรัสเซียก็จะปล่อยให้พวกเขารับหน้าการต่อสู้และไม่มีอะไรมากไปกว่าการลดความบาดเจ็บและการล้มตายของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะก็รู้อยู่แก่ใจเพราะที่จริงแล้วมันก็ไม่ใช่แค่องค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะเท่านั้นแต่องค์กรทหารรับจ้างทั้งหมดต่างก็รู้ดีว่านี่เป็นกฎที่ซ่อนอยู่ของโลกแห่งทหารรับจ้าง

ในฐานะองค์กรที่ขายชีวิตเพื่อแลกกับเงินนั้นมันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีสิ่งเหล่านี้ ซึ่งถ้าหากถามว่าทางรัฐบาลสามารถสั่งให้กองทหารประจำการของประเทศชาติเหล่านั้นไปทำความสะอาดหรือลงสนามรบได้หรือไม่? ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าเป็นไปไม่ได้เพราะเพื่อเป็นการลดการบาดเจ็บล้มตายนั้นจึงต้องใช้ทหารรับจ้างเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ของตัวเองและนี่คือก็สิ่งที่จิวยี่ใช้ต่อสู้กับอุยกายในประวัติศาสตร์ของจีนนั่นเอง

ครั้งนี้มีเพียง 30 คนเท่านั้นที่ถูกเรียกตัวมาจากสำนักงานใหญ่ของเขี้ยวหมาป่าบวกกับคนจากองค์กรเซเว่นคิลอีกหนึ่งโหลซึ่งโดยรวมแล้วมีไม่ถึง 50 คน ดังนั้นก็เห็นได้ชัดว่ามันยากที่จะกวาดล้างฐานที่มั่นขององค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะ ซึ่งถ้าหากประมาทไปล่ะก็ไม่เพียงแค่จะล้มเหลวในการบรรลุเป้าหมายแต่จะทำให้ชีวิตพี่น้องของเขาต้องดับสูญไปด้วย

ดังนั้นถึงแม้ว่าเย่เชียนต้องการที่จะกวาดล้างองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะให้หมดไปจากโลกใบนี้ก็ตามแต่ถึงยังไงเขาก็จะไม่ทำการใดๆ อย่างสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะเรื่องแบบนี้ต้องใช้การพิจารณาในระยะยาวและไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ในชั่วข้ามคืน ซึ่งสิ่งที่เย่เชียนต้องทำในตอนนี้ก็คือการให้หน่วยข่าวกรองของเขี้ยวหมาป่าทำการรวบรวมข้อมูลต่างๆ โดยเร็วที่สุดเพื่อให้การดำเนินการในครั้งนั้นประสบความสำเร็จ

หลินเฟิงก็พาเย่เชียนไปที่ร้านกาแฟและเมื่อนั่งลงกันแล้วเย่เชียนก็กดเบอร์โทรศัพท์ของเซอร์เก้วิชพุชกิน แต่เย่เชียนนั้นไม่ได้คิดที่จะบอกเขาว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนี้ เพราะไม่ว่าจุดประสงค์จะเป็นอย่างไรนั้นเขาก็คิดว่าต้องรู้จากทางฝ่ายของโปดันโนว่าก่อนตัดสินใจอะไร

หลังจากที่เห็นเย่เชียนโทรเข้ามาแล้วเซอร์เก้วิชพุชกินซึ่งอยู่ในการประชุมก็ได้บอกกับอเล็กซารเดอร์โซโรวิยอฟว่าเย่เชียนโทรเข้ามา ซึ่งอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟก็พยักหน้าดังนั้นเซอร์เก้วิชพุชกินจึงรีบเดินออกไปจากห้องประชุม ส่วนโปดันโนว่าที่เห็นฉากนี้เธอก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วทันทีซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าเธอกังวลและไม่รู้ว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเธอทำงานสำเร็จหรือไม่

ครั้งนี้ท่าทีและการแสดงออกของอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟที่มีต่อเซอร์เก้วิชพุชกินนั้นทำให้โปดูนโนว่าอึดอัดใจมากเพราะในความคิดของเธอนั้นภารกิจของเซอร์เก้วิชพุชกิจนั้นล้มเหลวไม่เป็นท่าและถึงแม้ว่าอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟจะไม่ฆ่าเขาก็ตามแต่ทว่าอย่างน้อยๆ เซอร์เก้วิชพุชกินก็ต้องเหมือนถูกส่งเข้าวังเย็นใช่ไหม? อย่างไรก็ตามเจ้านายไม่เพียงแต่ไม่คิดที่จะลงโทษเขาเลยยังแต่ปล่อยให้เขาจัดการเรื่องต่างๆ เหล่านั้นต่อไป ซึ่งในตอนแรกนั้นโปดันโนว่าเป็นคนจงใจปล่อยแผนการต่างๆ ของเซอร์เก้วิชพุชกินไปยังประเทศจีนและเจ้าหน้าที่ของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ เพราะเธอต้องการใช้เหตุการณ์นี้เพื่อเอาชนะเซอร์เก้วิชพุชกินแต่ทว่าจากสถานการณ์ปัจจุบันนั้นทำให้เธออึดอัดใจอย่างมาก

ก่อนหน้านี้โปดันโนว่าก็ได้ข่าวจากคนของเซอร์เก้วิชพุชกินปรากฎว่าเขานั้นพบราชาหมาป่าเย่เชียนและจะแนะนำราชาหมาป่าเย่เชียนไปหารือกับอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟในเรื่องของความร่วมมือ ดังนั้นอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟจึงไม่ได้สนใจความผิดพลาดของเซอร์เก้วิชพุชกินเลย ซึ่งข้อมูลและชื่อเสียงของเขี้ยวหมาป่านั้นแน่นอนว่าคนระดับโปดันโนว่าก็รู้เช่นกันว่าองค์กรทหารรับจ้างนี้มีสัมพันธไมตรีที่ดีกับทวีปตะวันออกกลางและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเหล่านั้นและยังมีพันธมิตรเป็นผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมน้ำมันในทวีปตะวันออกกลางและดูเหมือนว่าอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟจะสนใจเรื่องนี้เช่นกันเพราะผลประโยชน์มหาศาลที่มีอยู่จนทำให้ความผิดของเซอร์เก้วิชพุชกินได้รับการยกเว้นไปโดยปริยาย

หลังจากที่เซอร์เก้วิชพุชกินออกไปข้างนอกห้องประชุมแล้วเขาก็รีบรับโทรศัพท์และพูดว่า “คุณเย่! ..คุณเป็นยังไงบ้าง..คุณพบคนของผมไหม..ผมต้องขอโทษจริงๆ เพราะวันนี้หัวหน้าเรียกประชุมกะทันหัน..ผมหวังว่าคุณเย่จะยกโทษให้ผม”

“ไม่เป็นไรมิสเตอร์พุชกิน..คุณมีธุระที่ต้องทำผมก็เข้าใจ” เย่เชียนพูด “แต่ผมรอมาตั้งนานแล้วแต่ผมก็ยังไม่เห็นคนของมิสเตอร์พุชกินเลย”

เซอร์เก้วิชพุชกินก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเพราะเขาได้ส่งคนของเขาออกไปตั้งนานแล้วและไม่มีเหตุผลที่พวกเขาเหล่านั้นจะไม่รับเย่เชียน ซึ่งเซอร์เก้วิชพุชกินก็รู้สึกเบาๆ ว่ามันจะต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นและรีบพูดว่า: “มิสเตอร์เย่..เดี๋ยวผมจะโทรไปหาคนของผมก่อนแล้วผมจะติดต่อคุณไปอีกครั้งนะ? ”

“อืม..นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมาที่มอสโก..งั้นผมขอไปเดินดูรอบๆ ก่อนก็แล้วกัน..คุณเซอร์เก้วิชพุชกินน่าจะยุ่งอยู่ถ้าคุณมีอะไรทำก็ไม่ต้องมารับผมก็ได้ฮ่าๆ ..ผมจะได้มีเวลาเดินเที่ยวเล่น” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม

“งั้นเดี๋ยวผมจะรีบติดต่อกลับไป!” เซอร์เก้วิชพุชกินพูดจบเขาก็วางสายโทรศัพท์ไป

หลังจากวางสายโทรศัพท์ไปเซอร์เก้วิชพุชกินก็ไม่กล้าลังเลใดๆ อีกเลยและรีบกดเบอร์โทรศัพท์ของผู้ใต้บังคับบัญชาสองคนที่เขาส่งออกไปเพื่อรับเซอร์เก้วิชแต่ทว่ากลับมีเสียงปิดเครื่องเท่านั้นจนทำให้เซอร์เก้วิชพุชกินขมวดคิ้วโดยตระหนักว่ามันต้องมีบางอย่างผิดปกติ เป็นเหตุผลว่าไม่มีใครรู้เรื่องการส่งคนไปรับเย่เชียน? ถึงจะมีคนรู้แต่ก็คงจะไม่มีใครกล้าคิดเองตามอำเภอใจหรอกใช่มั้ย? และยิ่งไปกว่านั้นนี่ก็คือคำสั่งจากหัวหน้านั่นเอง

ความคิดแรกของเซอร์เก้วิชพุชกินคือโปดันโนว่าที่ทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้เพราะนอกจากเธอแล้วเซอร์เก้วิชพุชกินก็ไม่สามารถนึกถึงใครได้อีก ซึ่งทุกคนก็รู้ดีถึงความขัดแย้งระหว่างเซอร์เก้วิชพุชกินและโปดันโนว่า อย่างไรก็ตามอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟก็ไม่สนใจอะไรมากนักทั้งคู่ไม่กล้าทำอะไรมากเกินไปท้ายที่สุดก็ยังมีเจ้านายอยู่

หลังจากนั้นไม่นานเซอร์เก้วิชพุชกินก็โทรหาเย่เชียนอีกครั้งขอโทษเขาแล้วบอกว่าเขาจะติดต่อไปหาเย่เชียนอีกครั้งหลังการประชุม เย่เชียนก็ไม่ได้คิดอะไรมากเขาเพียงฉีกยิ้มและวางสายโทรศัพท์ไป เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วเซอร์เก้วิชก็หันหลังกลับไปที่ห้องประชุมและเหลือบมองโปดันโนว่าอย่างโกรธแค้นแต่ทว่าโปดันโนว่ากลับทำเป็นไม่เห็นอะไรเลย

ถึงแม้ว่าโปดันโนว่าจะรู้ว่าเซอร์เก้วิชพุชกินจะรู้ตัวแล้วว่าเธอกำลังขัดขวางเขาก็ตามแต่เธอก็ยังคงสงบเสงี่ยมได้เพราะหลังจากเผชิญโลกมากมายโปดันโนว่าก็ไม่ใช่เด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่ไม่รู้อะไรอีกต่อไป ซึ่งตอนนี้พิษร้ายของเธอก็เจ้าเล่ห์อย่างไม่ธรรมดาจริงๆ

หลังจากที่เย่เชียนและเซอร์เยวิชพุชกินคุยโทรศัพท์กันเสร็จหลินเฟิงก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและถามว่า “เขาว่าไงบ้าง? ”

เย่เชียนก็ยักไหล่เบาๆ แล้วพูดว่า “ฟังจากน้ำเสียงของเขาแล้วดูเหมือนว่ามันมีบางอย่างเกิดขึ้นกับผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา แต่เขาต้องเดาได้แน่ๆ ว่าใครเป็นคนทำ..แต่พี่หลินพูดถูกเกี่ยวกับสถานการณ์ที่นี่..แล้วพี่รู้จักโปดันโนว่ามากน้อยแค่ไหนหรอ”

“ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาๆ เลย..เธอเป็นผู้หญิงที่ไร้สิ่งยึดติดและความเชื่ออื่นๆ โดยสิ้นเชิง..เธอคิดแต่ผลประโยชน์เท่านั้น..ในสายตาของเธอนอกจากผลประโยชน์แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นแค่เรื่องไร้สาระ..ซึ่งผู้หญิงคนนี้มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศ..และถึงแม้ว่าเธอกับเซอร์เก้วิชพุชกินจะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟก็ตามแต่อิทธิพลของเธอก็ยิ่งใหญ่กว่าของเซอร์เก้วิชพุชกินโดยสิ้นเชิง..อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ก็ไม่ชัดเจนนักเพราะเธอเก่งในการปลอมตัวและแฝงตัวเสมอ..การที่เธอทำตัวอ่อนแอนั้นก็เพราะเพียงเพื่อทำให้ศัตรูของเธอชะล่าใจจนประมาทนั่นเอง” หลินเฟิงอย่างช้าๆ “แต่เซอร์เก้วิชพุชกินนั้นแตกต่างออกไปเพราะในบรรดาคนที่อยู่ภายใต้อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟนั้นเขามีจุดยืนที่แข็งแกร่งที่สุดและเขาก็คอยควบคุมอุตสาหกรรมส่วนใหญ่เอาไว้..ดังนั้นเขาจึงทำให้เขาต้องมีศัตรูมากมายไปโดยปริยาย”

เย่เชียนก็ขมวดคิ้วแน่นเพราะถ้าหากเป็นไปตามที่หลินเฟิงพูดล่ะก็เซอร์เก้วิชพุชกินนั้นก็ไม่ใช่คู่หูที่ดีเพราะท้ายที่สุดเขากลับมีศัตรูอยู่มากมายและจะทำให้ตนตกที่นั่งลำบากไปด้วย ส่วนโปดันโนว่านั้นมีความทะเยอทะยานและมีศัตรูน้อยและเก่งในการปลอมตัวและแฝงตัวซึ่งบุคคลเช่นนี้จะดีที่สุดถ้าได้เธอมาเป็นหุ้นส่วนและพันธมิตร ซึ่งแน่นอนว่าคนประเภทนี้ก็เป็นคนที่ควบคุมและผูกมัดได้ง่ายที่สุดเช่นกันแต่สำหรับเย่เชียนแล้วมันก็ไม่สำคัญเพราะมันเป็นเพียงความสัมพันธ์แบบร่วมมือกันเท่านั้นและแน่นอนว่าสิ่งที่โปดันโนว่าทำในวันนี้ก็ทำให้เย่เชียนรู้สึกรำคาญอย่างมาก ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะต้องร่วมมือกับเธอก็ตามแต่อย่างน้อยก็ต้องทำให้เธอตระหนักและเข้าใจสิ่งต่างๆ เกี่ยวกับเขาเสียบ้าง ไม่เช่นนั้นเธอก็คงจะไม่รู้จุดยืนของตัวเองในการร่วมมือกันในอนาคตใช่ไหม?

หลังจากที่หยุดคิดไปสักพักหนึ่งเย่เชียนก็พูดว่า “อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้กันเลย..นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้มาที่มอสโก..เห็นว่าที่นี่มีสถานที่ดีๆ ให้เที่ยวเยอะแยะเลยหนิ..เอาล่ะพี่หลินช่วยทำหน้าที่เป็นไกด์นำเที่ยวให้หน่อยได้หรือเปล่า”

“ยินดีให้บริการ!” หลินเฟิงยิ้มเล็กยิ้มน้อยแล้วตอบ

.

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ยอดนักรบจอมราชัน 461 การต่อสู้ในเงามืด

Now you are reading ยอดนักรบจอมราชัน Chapter 461 การต่อสู้ในเงามืด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 461 การต่อสู้ในเงามืด

บางครั้งถ้าใครนิ่งเงียบนานเกินไปคนอื่นจะจำเขาคนนั้นไม่ได้และลืมสิ่งที่เขาเคยทำอย่างหนักหน่วงและรู้สึกว่าเขาคนนั้นตกต่ำลงไปอย่างยิ่ง ดังนั้นเย่เชียนจึงตัดสินใจเคลื่อนไหวครั้งใหญ่โดยการกวาดล้างองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะแห่งรัสเซียในบัดดลและประกาศศักดา ซึ่งด้วยวิธีนี้ลูกแมวและลูกสุนัขทุกตัวจะต้องตกใจกลัวและตระหนักว่าพวกมันไม่รู้ว่าท้องฟ้านั้นสูงแค่ไหนและพื้นดินนั้นหนาแค่ไหนและหยุดความคิดที่ว่าเขี้ยวหมาป่าเป็นสิ่งที่สามารถท้าทายได้อีก

องค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะแห่งอาร์กติกเหนือนั้นถือเป็นทหารรับจ้างแนวหน้าในโลกของทหารรับจ้างและมีส่วนร่วมในสงครามครั้งใหญ่หลายครั้งและสมาชิกหลายคนก็เคยเป็นถึงทหารในกองทัพที่เกษียณแล้วของกองกำลังหน่วยรบพิเศษหมีขั้วโลกแห่งประเทศรัสเซียและไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการรบส่วนบุคคลหรือการทำงานเป็นทีมนั้นพวกเขาก็สามารถผสมผสานระหว่างกลยุทธ์และยุทธวิธีให้เข้ากันได้เป็นอย่างดี

ตามข้อมูลที่ได้มาองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะนั้นมีสมาชิกประมาณ 200 คนโดยมีอายุเฉลี่ยประมาณ 30 ปี และพวกเขาก็ไม่เคยล้มเหลวในภารกิจใดๆ มาก่อนยกเว้นครั้งที่แล้วในดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน ซึ่งในโลกของทหารรับจ้างนั้นความน่าเชื่อถือของจิ้งจอกหิมะก็ค่อนข้างดีและได้ร่วมมือกับรัฐบาลของประเทศรัสเซียอยู่หลายครั้ง

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่ารัฐบาลของประเทศรัสเซียจะให้ความร่วมมือกับองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะก็ตามแต่ก็ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลของประเทศรัสเซียจะดูแลและเอื้ออำนวยพวกเขาเพราะในสายตาของรัฐบาลรัสเซียนั้นทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะก็เป็นเพียงเบี้ยสำหรับการใช้งานเพราะทุกครั้งที่มีสงครามหรือการปะทะที่รุนแรงนั้นทางรัฐบาลของรัสเซียก็จะปล่อยให้พวกเขารับหน้าการต่อสู้และไม่มีอะไรมากไปกว่าการลดความบาดเจ็บและการล้มตายของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะก็รู้อยู่แก่ใจเพราะที่จริงแล้วมันก็ไม่ใช่แค่องค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะเท่านั้นแต่องค์กรทหารรับจ้างทั้งหมดต่างก็รู้ดีว่านี่เป็นกฎที่ซ่อนอยู่ของโลกแห่งทหารรับจ้าง

ในฐานะองค์กรที่ขายชีวิตเพื่อแลกกับเงินนั้นมันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีสิ่งเหล่านี้ ซึ่งถ้าหากถามว่าทางรัฐบาลสามารถสั่งให้กองทหารประจำการของประเทศชาติเหล่านั้นไปทำความสะอาดหรือลงสนามรบได้หรือไม่? ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าเป็นไปไม่ได้เพราะเพื่อเป็นการลดการบาดเจ็บล้มตายนั้นจึงต้องใช้ทหารรับจ้างเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ของตัวเองและนี่คือก็สิ่งที่จิวยี่ใช้ต่อสู้กับอุยกายในประวัติศาสตร์ของจีนนั่นเอง

ครั้งนี้มีเพียง 30 คนเท่านั้นที่ถูกเรียกตัวมาจากสำนักงานใหญ่ของเขี้ยวหมาป่าบวกกับคนจากองค์กรเซเว่นคิลอีกหนึ่งโหลซึ่งโดยรวมแล้วมีไม่ถึง 50 คน ดังนั้นก็เห็นได้ชัดว่ามันยากที่จะกวาดล้างฐานที่มั่นขององค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะ ซึ่งถ้าหากประมาทไปล่ะก็ไม่เพียงแค่จะล้มเหลวในการบรรลุเป้าหมายแต่จะทำให้ชีวิตพี่น้องของเขาต้องดับสูญไปด้วย

ดังนั้นถึงแม้ว่าเย่เชียนต้องการที่จะกวาดล้างองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะให้หมดไปจากโลกใบนี้ก็ตามแต่ถึงยังไงเขาก็จะไม่ทำการใดๆ อย่างสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะเรื่องแบบนี้ต้องใช้การพิจารณาในระยะยาวและไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ในชั่วข้ามคืน ซึ่งสิ่งที่เย่เชียนต้องทำในตอนนี้ก็คือการให้หน่วยข่าวกรองของเขี้ยวหมาป่าทำการรวบรวมข้อมูลต่างๆ โดยเร็วที่สุดเพื่อให้การดำเนินการในครั้งนั้นประสบความสำเร็จ

หลินเฟิงก็พาเย่เชียนไปที่ร้านกาแฟและเมื่อนั่งลงกันแล้วเย่เชียนก็กดเบอร์โทรศัพท์ของเซอร์เก้วิชพุชกิน แต่เย่เชียนนั้นไม่ได้คิดที่จะบอกเขาว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนี้ เพราะไม่ว่าจุดประสงค์จะเป็นอย่างไรนั้นเขาก็คิดว่าต้องรู้จากทางฝ่ายของโปดันโนว่าก่อนตัดสินใจอะไร

หลังจากที่เห็นเย่เชียนโทรเข้ามาแล้วเซอร์เก้วิชพุชกินซึ่งอยู่ในการประชุมก็ได้บอกกับอเล็กซารเดอร์โซโรวิยอฟว่าเย่เชียนโทรเข้ามา ซึ่งอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟก็พยักหน้าดังนั้นเซอร์เก้วิชพุชกินจึงรีบเดินออกไปจากห้องประชุม ส่วนโปดันโนว่าที่เห็นฉากนี้เธอก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วทันทีซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าเธอกังวลและไม่รู้ว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเธอทำงานสำเร็จหรือไม่

ครั้งนี้ท่าทีและการแสดงออกของอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟที่มีต่อเซอร์เก้วิชพุชกินนั้นทำให้โปดูนโนว่าอึดอัดใจมากเพราะในความคิดของเธอนั้นภารกิจของเซอร์เก้วิชพุชกิจนั้นล้มเหลวไม่เป็นท่าและถึงแม้ว่าอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟจะไม่ฆ่าเขาก็ตามแต่ทว่าอย่างน้อยๆ เซอร์เก้วิชพุชกินก็ต้องเหมือนถูกส่งเข้าวังเย็นใช่ไหม? อย่างไรก็ตามเจ้านายไม่เพียงแต่ไม่คิดที่จะลงโทษเขาเลยยังแต่ปล่อยให้เขาจัดการเรื่องต่างๆ เหล่านั้นต่อไป ซึ่งในตอนแรกนั้นโปดันโนว่าเป็นคนจงใจปล่อยแผนการต่างๆ ของเซอร์เก้วิชพุชกินไปยังประเทศจีนและเจ้าหน้าที่ของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ เพราะเธอต้องการใช้เหตุการณ์นี้เพื่อเอาชนะเซอร์เก้วิชพุชกินแต่ทว่าจากสถานการณ์ปัจจุบันนั้นทำให้เธออึดอัดใจอย่างมาก

ก่อนหน้านี้โปดันโนว่าก็ได้ข่าวจากคนของเซอร์เก้วิชพุชกินปรากฎว่าเขานั้นพบราชาหมาป่าเย่เชียนและจะแนะนำราชาหมาป่าเย่เชียนไปหารือกับอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟในเรื่องของความร่วมมือ ดังนั้นอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟจึงไม่ได้สนใจความผิดพลาดของเซอร์เก้วิชพุชกินเลย ซึ่งข้อมูลและชื่อเสียงของเขี้ยวหมาป่านั้นแน่นอนว่าคนระดับโปดันโนว่าก็รู้เช่นกันว่าองค์กรทหารรับจ้างนี้มีสัมพันธไมตรีที่ดีกับทวีปตะวันออกกลางและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเหล่านั้นและยังมีพันธมิตรเป็นผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมน้ำมันในทวีปตะวันออกกลางและดูเหมือนว่าอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟจะสนใจเรื่องนี้เช่นกันเพราะผลประโยชน์มหาศาลที่มีอยู่จนทำให้ความผิดของเซอร์เก้วิชพุชกินได้รับการยกเว้นไปโดยปริยาย

หลังจากที่เซอร์เก้วิชพุชกินออกไปข้างนอกห้องประชุมแล้วเขาก็รีบรับโทรศัพท์และพูดว่า “คุณเย่! ..คุณเป็นยังไงบ้าง..คุณพบคนของผมไหม..ผมต้องขอโทษจริงๆ เพราะวันนี้หัวหน้าเรียกประชุมกะทันหัน..ผมหวังว่าคุณเย่จะยกโทษให้ผม”

“ไม่เป็นไรมิสเตอร์พุชกิน..คุณมีธุระที่ต้องทำผมก็เข้าใจ” เย่เชียนพูด “แต่ผมรอมาตั้งนานแล้วแต่ผมก็ยังไม่เห็นคนของมิสเตอร์พุชกินเลย”

เซอร์เก้วิชพุชกินก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเพราะเขาได้ส่งคนของเขาออกไปตั้งนานแล้วและไม่มีเหตุผลที่พวกเขาเหล่านั้นจะไม่รับเย่เชียน ซึ่งเซอร์เก้วิชพุชกินก็รู้สึกเบาๆ ว่ามันจะต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นและรีบพูดว่า: “มิสเตอร์เย่..เดี๋ยวผมจะโทรไปหาคนของผมก่อนแล้วผมจะติดต่อคุณไปอีกครั้งนะ? ”

“อืม..นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมาที่มอสโก..งั้นผมขอไปเดินดูรอบๆ ก่อนก็แล้วกัน..คุณเซอร์เก้วิชพุชกินน่าจะยุ่งอยู่ถ้าคุณมีอะไรทำก็ไม่ต้องมารับผมก็ได้ฮ่าๆ ..ผมจะได้มีเวลาเดินเที่ยวเล่น” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม

“งั้นเดี๋ยวผมจะรีบติดต่อกลับไป!” เซอร์เก้วิชพุชกินพูดจบเขาก็วางสายโทรศัพท์ไป

หลังจากวางสายโทรศัพท์ไปเซอร์เก้วิชพุชกินก็ไม่กล้าลังเลใดๆ อีกเลยและรีบกดเบอร์โทรศัพท์ของผู้ใต้บังคับบัญชาสองคนที่เขาส่งออกไปเพื่อรับเซอร์เก้วิชแต่ทว่ากลับมีเสียงปิดเครื่องเท่านั้นจนทำให้เซอร์เก้วิชพุชกินขมวดคิ้วโดยตระหนักว่ามันต้องมีบางอย่างผิดปกติ เป็นเหตุผลว่าไม่มีใครรู้เรื่องการส่งคนไปรับเย่เชียน? ถึงจะมีคนรู้แต่ก็คงจะไม่มีใครกล้าคิดเองตามอำเภอใจหรอกใช่มั้ย? และยิ่งไปกว่านั้นนี่ก็คือคำสั่งจากหัวหน้านั่นเอง

ความคิดแรกของเซอร์เก้วิชพุชกินคือโปดันโนว่าที่ทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้เพราะนอกจากเธอแล้วเซอร์เก้วิชพุชกินก็ไม่สามารถนึกถึงใครได้อีก ซึ่งทุกคนก็รู้ดีถึงความขัดแย้งระหว่างเซอร์เก้วิชพุชกินและโปดันโนว่า อย่างไรก็ตามอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟก็ไม่สนใจอะไรมากนักทั้งคู่ไม่กล้าทำอะไรมากเกินไปท้ายที่สุดก็ยังมีเจ้านายอยู่

หลังจากนั้นไม่นานเซอร์เก้วิชพุชกินก็โทรหาเย่เชียนอีกครั้งขอโทษเขาแล้วบอกว่าเขาจะติดต่อไปหาเย่เชียนอีกครั้งหลังการประชุม เย่เชียนก็ไม่ได้คิดอะไรมากเขาเพียงฉีกยิ้มและวางสายโทรศัพท์ไป เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วเซอร์เก้วิชก็หันหลังกลับไปที่ห้องประชุมและเหลือบมองโปดันโนว่าอย่างโกรธแค้นแต่ทว่าโปดันโนว่ากลับทำเป็นไม่เห็นอะไรเลย

ถึงแม้ว่าโปดันโนว่าจะรู้ว่าเซอร์เก้วิชพุชกินจะรู้ตัวแล้วว่าเธอกำลังขัดขวางเขาก็ตามแต่เธอก็ยังคงสงบเสงี่ยมได้เพราะหลังจากเผชิญโลกมากมายโปดันโนว่าก็ไม่ใช่เด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่ไม่รู้อะไรอีกต่อไป ซึ่งตอนนี้พิษร้ายของเธอก็เจ้าเล่ห์อย่างไม่ธรรมดาจริงๆ

หลังจากที่เย่เชียนและเซอร์เยวิชพุชกินคุยโทรศัพท์กันเสร็จหลินเฟิงก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและถามว่า “เขาว่าไงบ้าง? ”

เย่เชียนก็ยักไหล่เบาๆ แล้วพูดว่า “ฟังจากน้ำเสียงของเขาแล้วดูเหมือนว่ามันมีบางอย่างเกิดขึ้นกับผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา แต่เขาต้องเดาได้แน่ๆ ว่าใครเป็นคนทำ..แต่พี่หลินพูดถูกเกี่ยวกับสถานการณ์ที่นี่..แล้วพี่รู้จักโปดันโนว่ามากน้อยแค่ไหนหรอ”

“ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาๆ เลย..เธอเป็นผู้หญิงที่ไร้สิ่งยึดติดและความเชื่ออื่นๆ โดยสิ้นเชิง..เธอคิดแต่ผลประโยชน์เท่านั้น..ในสายตาของเธอนอกจากผลประโยชน์แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นแค่เรื่องไร้สาระ..ซึ่งผู้หญิงคนนี้มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศ..และถึงแม้ว่าเธอกับเซอร์เก้วิชพุชกินจะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟก็ตามแต่อิทธิพลของเธอก็ยิ่งใหญ่กว่าของเซอร์เก้วิชพุชกินโดยสิ้นเชิง..อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ก็ไม่ชัดเจนนักเพราะเธอเก่งในการปลอมตัวและแฝงตัวเสมอ..การที่เธอทำตัวอ่อนแอนั้นก็เพราะเพียงเพื่อทำให้ศัตรูของเธอชะล่าใจจนประมาทนั่นเอง” หลินเฟิงอย่างช้าๆ “แต่เซอร์เก้วิชพุชกินนั้นแตกต่างออกไปเพราะในบรรดาคนที่อยู่ภายใต้อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟนั้นเขามีจุดยืนที่แข็งแกร่งที่สุดและเขาก็คอยควบคุมอุตสาหกรรมส่วนใหญ่เอาไว้..ดังนั้นเขาจึงทำให้เขาต้องมีศัตรูมากมายไปโดยปริยาย”

เย่เชียนก็ขมวดคิ้วแน่นเพราะถ้าหากเป็นไปตามที่หลินเฟิงพูดล่ะก็เซอร์เก้วิชพุชกินนั้นก็ไม่ใช่คู่หูที่ดีเพราะท้ายที่สุดเขากลับมีศัตรูอยู่มากมายและจะทำให้ตนตกที่นั่งลำบากไปด้วย ส่วนโปดันโนว่านั้นมีความทะเยอทะยานและมีศัตรูน้อยและเก่งในการปลอมตัวและแฝงตัวซึ่งบุคคลเช่นนี้จะดีที่สุดถ้าได้เธอมาเป็นหุ้นส่วนและพันธมิตร ซึ่งแน่นอนว่าคนประเภทนี้ก็เป็นคนที่ควบคุมและผูกมัดได้ง่ายที่สุดเช่นกันแต่สำหรับเย่เชียนแล้วมันก็ไม่สำคัญเพราะมันเป็นเพียงความสัมพันธ์แบบร่วมมือกันเท่านั้นและแน่นอนว่าสิ่งที่โปดันโนว่าทำในวันนี้ก็ทำให้เย่เชียนรู้สึกรำคาญอย่างมาก ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะต้องร่วมมือกับเธอก็ตามแต่อย่างน้อยก็ต้องทำให้เธอตระหนักและเข้าใจสิ่งต่างๆ เกี่ยวกับเขาเสียบ้าง ไม่เช่นนั้นเธอก็คงจะไม่รู้จุดยืนของตัวเองในการร่วมมือกันในอนาคตใช่ไหม?

หลังจากที่หยุดคิดไปสักพักหนึ่งเย่เชียนก็พูดว่า “อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้กันเลย..นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้มาที่มอสโก..เห็นว่าที่นี่มีสถานที่ดีๆ ให้เที่ยวเยอะแยะเลยหนิ..เอาล่ะพี่หลินช่วยทำหน้าที่เป็นไกด์นำเที่ยวให้หน่อยได้หรือเปล่า”

“ยินดีให้บริการ!” หลินเฟิงยิ้มเล็กยิ้มน้อยแล้วตอบ

.

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+