เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก 347 เพราะมีใครบางคนต้องการเล่นงานตระกูลกู้

Now you are reading เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก Chapter 347 เพราะมีใครบางคนต้องการเล่นงานตระกูลกู้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เอ๊ะ คุณรู้เรื่องนี้มาก่อนมั้ยคะ” หลินเช่อมองไปที่กู้จิ้งเจ๋อด้วยความประหลาดใจ

 

 

กู้จิ้งเจ๋อว่า “ฉันสั่งให้คนร่างคำปราศรัยนั่นเองแหละ เธอคิดว่ายังไง”

 

 

“…” หลินเช่อถาม “กู้จิ้งเจ๋อ คุณเป็นคนจัดการเรื่องนี้ด้วยหรือคะ”

 

 

“เธอคิดว่าแต่ละวันฉันต้องรับมือกับอะไรบ้างล่ะ”

 

 

“โอเค แน่ล่ะ ฉันไม่เข้าใจงานของผู้ทรงอิทธิพลอย่างพวกคุณหรอก สิ่งที่ฉันต้องเป็นห่วงก็มีแค่พรุ่งนี้จะทานอะไรเป็นอาหารเช้าดีหรืออะไรทำนองนั้น แต่พอคิดว่าฉันมีผู้ชายเก่งกาจขนาดนี้อยู่เคียงข้าง ฉันรู้สึกภูมิใจเหลือเกินค่ะ ฮี่ๆ”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อเห็นท่าทางปลื้มปริ่มของเธอ “ตอนนี้เธอรู้แล้วใช่มั้ยว่าผู้ชายของเธอมีความสามารถแค่ไหน”

 

 

“ใช่ ใช่ คุณกำหนดชะตาของคนมากมายได้แค่เพียงขยับมือ ให้ตายเถอะ แค่คิดฉันก็รู้สึกยิ่งใหญ่เหลือเกินแล้ว”

 

 

“ฉันก็มีฝีมือมาตลอดน่ะแหละ ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้นี่นา” เขาหัวเราะแล้วจับมือของเธอแน่นขึ้น

 

 

หลินเช่อหยุดกึกและเข้าใจทันทีว่า ‘มีฝีมือ’ ที่เธอพูดนั้นหมายถึงในทางอื่น

 

 

อา ตานี่ เดี๋ยวนี้คำพูดของเขามักชวนให้คิดไปเรื่องอื่นได้ง่ายๆ เลยทีเดียว

 

 

หลินเช่อเลื่อนอ่านใจความของข่าวแล้วพูดว่า “ฉันไม่เคยคิดเลยว่าคนที่เคร่งครัดอย่างพี่ใหญ่จะไปเข้าโรงแรมกับคู่หมั้น แต่มันก็เป็นไปได้ พี่ใหญ่เป็นผู้ชายคนนึงเหมือนกัน เขาอาจจะดูเข้มงวด แต่เอาเข้าจริงก็ร้ายไม่เบา”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อหัวเราะหึแล้วถาม “เธอเชื่อจริงเหรอว่าทุกอย่างที่เขียนในหนังสือพิมพ์เป็นเรื่องจริง”

 

 

“คุณหมายความว่ายังไงคะ” หลินเช่อเงยหน้าไปมองกู้จิ้งเจ๋อด้วยความตกใจ

 

 

กู้จิ้งเจ๋อตอบ “ข่าวนี้ไม่จริง”

 

 

“อะไรนะ”

 

 

“พี่ใหญ่มาปรึกษาฉันเมื่อวานนี้ เขาบังเอิญไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนนึงเมื่อปีกลาย ตอนหลังถึงรู้ว่าเป็นการจัดฉาก และมีใครบางคนปล่อยรูปพวกนี้ออกมาเป็นระยะๆ พวกมันฉวยโอกาสตอนที่ฉันบาดเจ็บครั้งนี้ ขณะที่ทุกคนในตระกูลกู้มัวแต่วุ่นวายจัดการเรื่องของฉัน ไอ้คนพวกนี้เลยเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้งและปล่อยภาพออกมาอีก”

 

 

“ห๊า มีใครบางคนกำลังแอบเล่นงานตระกูลกู้อยู่หรือคะ”

 

 

“ใช่แล้ว เธอคิดใช่มั้ยว่าตระกูลกู้ไม่เกรงกลัวใครหน้าไหนเพราะเราเป็นตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประเทศซี ที่นี่พวกเราไม่ต้องกลัวใครทั้งนั้น แต่ครั้งนี้ ตัวแทนพิเศษจากประเทศเอ็มมาเพื่อพบฉันแต่ต้องมาประสบอุบัติเหตุ ฉันเกรงว่าคนร้ายน่าจะเป็นอริเก่าของพวกเราน่ะแหละ”

 

 

“ศัตรูเก่าของตระกูลกู้คือ…”

 

 

“ศัตรูเก่าของตระกูลกู้ก็คือตระกูลหลิน ลูกชายคนโตของพวกเขาที่ชื่อหลิน อวี่หยางได้พัฒนากลยุทธ์น่ากลัวหลายอย่างเพื่อที่จะเล่นงานพวกเรา การเคลื่อนไหวและวิธีการของเขาต่างจากของเรา เขาไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่เขาควบคุมชีพจรของประเทศเอชไว้ เขาโหดเ**้ยมอย่างที่เธอได้เห็นในครั้งนี้ พวกนั้นเด็ดขาดมาก ดังนั้น เราจึงค่อนข้างกังวลว่าพวกนั้นจะก่อเรื่องไม่ดีให้กับทางเรา พวกเราทำได้แค่ใช้วิธีนี้เพื่อหยุดปากของพวกมันไว้”

 

 

หลินเช่อว่า “ซับซ้อนอะไรอย่างนี้…”

 

 

“แหงล่ะ ระดับสมองอย่างเธอถึงไม่เหมาะอย่างมากกับการเมืองไงเล่า”

 

 

“ฉันนึกว่าพวกคุณก็เก่งมากพอแล้วในประเทศซีนี่”

 

 

“เด็กโง่ ตอนนั้นเธอไม่รู้จริงๆ สินะว่าฉันเป็นใครและยังมาวางยาฉันอีก” กู้จิ้งเจ๋อถามพลางจ้องที่เธอ

 

 

หลินเช่อพูด “ก็ใช่น่ะสิ ฉันคงไม่กล้ายุ่งกับคุณหรอกถ้ารู้ว่าคุณเป็นคนบ้าจอมเผด็จการแบบนี้ เมื่อก่อนนี้ ฉันเคยคิดว่าครอบครัวของพี่ฉินชิงก็เก่งมากแล้ว ฝั่งทางพ่อของฉันก็เก่งเหมือนกัน ฉันไม่ค่อยอ่านข่าวการเมืองและไม่ค่อยสนใจข่าวเศรษฐกิจ อย่างพวกข่าวซุบซิบ ฉันก็อ่านแต่ข่าวของกู้จิ้งอวี่…”

 

 

“ประเทศซีมีอยู่สองสามตระกูลที่ทรงอิทธิพล ตอนนี้ที่เธอรู้ ตระกูลกู้มีประวัติยาวนานกว่าร้อยปีในประเทศซี แล้วก็ตระกูลลู่ที่ช่วยโค่นครอบครัวในเจี๋ยงซาน หนึ่งปีหลังจากนั้นพวกเขาก็มีชื่อเสียงขึ้นมา และยังมีตระกูลหว่านที่เป็นเหมือนไม้ประดับทางการเมืองในปีนั้น เธอน่าจะได้เรียนพวกนี้แล้วในหนังสือเรียนมัธยมต้น อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีการบันทึกไว้แน่ชัดว่าตระกูลหว่านมีอำนาจมากแค่ไหน ถ้าจะเปรียบเทียบกัน ตระกูลฉินชิงนั่นไม่มีความหมายอะไรเลย” เขาต่อประโยคท้ายด้วยเสียงเย้ยหยันเมื่อพูดถึงฉินชิง

 

 

หลินเช่อเหลือบมองชายหนุ่มแอบคิดว่า ตาคนคิดหยุมหยิม นี่เขายังพูดถึงฉินชิงอยู่อีกเหรอ

 

 

“ถ้าอย่างนั้น คนที่พยายามจะเล่นงานพวกคุณอยู่…แล้วพวกคุณ…จะเป็นอันตรายอะไรมั้ยคะ”

 

 

“ไม่มีปัญหาหรอก มันไม่ได้อันตรายขนาดนั้น พวกเราแค่ต้องระวังตัวให้มากกว่าขึ้นเดิม” กู้จิ้งเจ๋อชินกับเรื่องพวกนี้แล้ว และเขาไม่อยากบอกอะไรมากเพราะไม่อยากให้หลินเช่อกลัว

 

 

ขณะที่มองไปยังหลินเช่อ เขาคิดกับตัวเองว่าถึงมันจะอันตรายแค่ไหนและเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายเพียงใด เขาไม่ต้องการให้หลินเช่อต้องเข้ามาพัวพันด้วย

 

 

เขานึกไม่ออกเลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าหลินเช่อต้องมาตกอยู่ในอันตรายอย่างเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นกับเขา

 

 

ชายหนุ่มคิดว่าน่าจะเป็นการดีกว่าที่จะคอยระวังเรื่องความปลอดภัยของหลินเช่อในอนาคต

 

 

หลินเช่อมองไปที่ข่าวแล้วถาม “ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครหรือคะ พี่ใหญ่ถึงกับพูดเองว่าเธอไม่ได้มีพื้นเพอะไร เธอเป็นแค่คนธรรมดาใช่มั้ยคะ”

 

 

“เอาเถอะ อีกหน่อยเธอก็รู้เองแหละ เรื่องนี้ยังไม่แน่ว่าจะมีการขุดคุ้ยในอนาคตหรือไม่ ตอนนี้อย่าเพิ่งไปคิดอะไรมากเลย”

 

 

หลินเช่อเห็นด้วย เธอควรจะสนใจแต่เรื่องของตัวเอง เธอคงไม่มีปัญญาไปเกี่ยวข้องกับเรื่องซับซ้อนพวกนั้น

 

 

กู้จิ้งเจ๋อเกือบจะหายเป็นปกติแล้ว ทันเวลาพอดีกับคำเชิญของตระกูลลู่ พวกเขาเชิญตระกูลกู้ให้ไปเยี่ยมที่ฟาร์มม้าของตระกูลลู่

 

 

กู้จิ้งเจ๋อตอบรับถึงแม้ว่าตามร่างกายของเขาจะยังคงมีบาดแผลอยู่บ้าง ถึงอย่างไร งานนี้คืองานรวมตัวครั้งแรกของทั้งสองตระกูลหลังจากงานแต่งงาน มันคงไม่เหมาะถ้าเขาปฏิเสธ

 

 

หลินเช่อเองก็โดนกู้จิ้งเจ๋อลากไปเลือกชุดขี่ม้าของเธอ

 

 

หลินเช่อไม่เคยขี่ม้ามาก่อน เมื่อได้เห็นชุดขี่ม้าเธอคิดว่ามันดูน่าสนใจดี

 

 

“ชุดพวกนี้สวยจังเลยค่ะ” เธอกล่าวชม “ให้ความรู้สึกถึงความประณีต”

 

 

“เธอเลือกชุดนึงและฉันจะเลือกชุดนึง” กู้จิ้งเจ๋อบอก “เธอจะรู้ว่ามันดูดีมั้ยก็ต้องไปลองใส่ดูก่อน เธอกำลังจ้องอะไรอยู่”

 

 

“ฉันแค่สงสัยน่ะเพราะฉันไม่เคยเห็นเสื้อผ้าพวกนี้มาก่อน เฮ้ ฉันคิดว่าชุดนี้สวยดีนะ” เธอหยิบชุดสีเขียวขึ้นมา

 

 

หลินเช่อเลือกดูอีกชุดหนึ่งที่มีสีเดียวกัน เป็นสีดำขอบเขียว ซึ่งเข้ากับชุดที่เธอเลือกไว้ เธอรีบแนะทันที “กู้จิ้งเจ๋อ ทำไมคุณไม่ใส่ชุดนี้ล่ะคะ”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อเหลือบมองเล็กน้อยแล้วพูดอย่างเหยียดๆ “ไม่ล่ะ ฉันจะเอาสีเทา”

 

 

หลินเช่อว่า “อย่าทำแบบนี้สิคะ ฉันจะใส่สีเขียวและคุณก็ควรใส่สีเขียวด้วย เราจะได้เหมือนใส่ชุดคู่กันไงคะ”

 

 

“ไม่ล่ะ ฉันไม่ชอบสีสดแบบนั้น”

 

 

“อย่าทำอย่างนี้สิคะ กู้จิ้งเจ๋อ ฉันไม่เคยใส่ชุดคู่กับใครมาก่อนเลยและฉันอยากจะลองดูซักครั้ง ฉันว่ามันต้องดูดีมากแน่ๆ”

 

 

ไม่เคยใส่ชุดคู่กับใครมาก่อนหรือ

 

 

ก็คงจะจริง นอกจากมีใจให้ไอ้เลวนั่น เธอไม่เคยเดตกับใครเลย

 

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาเล็กน้อย

 

 

หลินเช่อดึงแขนของชายหนุ่ม “สามี สามีขา เห็นมั้ย ใครๆ เขาก็ใส่ชุดพวกนี้กันทั้งนั้น ฉันแก่จะแย่แล้วยังไม่เคยลองทำบ้างเลย ฉันแพ้คนอื่นเขาหมดแล้ว ใส่กับฉันหน่อยนะ ใส่กับฉันนะคะ…”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อทนสายตาอ้อนวอนเหมือนลูกหมาของหลินเช่อไม่ได้มากที่สุด

 

 

เธอส่งสายตาน่าสงสารมาหาเขาเหมือนลูกหมาตัวน้อยที่ถูกทิ้งอยู่ข้างทาง ดวงตาและปากที่ทำท่าออดอ้อนและเธอยังเอาแต่เรียกเขา ‘สามี’ สุดท้าย กู้จิ้งเจ๋อได้แต่ถอนใจมองชุดสีเขียวนั่นด้วยสีหน้าระอาใจ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด