เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก 465 เมื่อกลับมาแล้วทุกคนต่างก็บอกว่า เธอหนีไปแล้วหรือเปล่า

Now you are reading เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก Chapter 465 เมื่อกลับมาแล้วทุกคนต่างก็บอกว่า เธอหนีไปแล้วหรือเปล่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

      กู้จิ้งเหยียนคร้านที่จะสนใจ บอก “เอาล่ะ พวกคุณไปเถอะ แผลไม่เป็นอะไรมากหรอก”       กู้จิ้งเหยียนรู้ดี เขาเองก็ทำเพื่อเธอ       เพียงแต่ช่องว่างระหว่างพวกเขาสองคนนั้นใหญ่เกินไป คงคุยกันดีๆ ไม่ได้แล้ว       เมื่อเจอหน้าก็ต้องหาเรื่องทะเลาะ       เธออยากเป็นศัตรูกับเขา เขาก็อยากเป็นศัตรูกับเธอ ทั้งสองต่อต้านกันแบบนี้ คนรอบข้าง ต่างก็ต้องมาเดือดร้อนเพราะพวกเขา       ด้านนอก       หลินเช่อมองกู้จิ้งเจ๋อ “พวกเขาจะไม่เป็นไรใช่ไหมคะ”       “แน่นอนว่าไม่เป็นไร จะมีอะไรได้ล่ะ” กู้จิ้งเจ๋อบอก       “แต่ว่า เหมือนพวกเขาจะทะเลาะกันอยู่นะคะ”       “สามีภรรยาทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติ”       “พวกเขาเป็นข้าวใหม่ปลามันนะ ทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติเหรอคะ”       กู้จิ้งเจ๋อบอก “พวกเขารู้จักกันมานานหลายปีแล้ว มันไม่เกี่ยวกับข้าวใหม่ปลามันหรอก ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อก่อนสองคนนี้ก็ทะเลาะกันไปมา เธอทำตัวให้ชินก็พอแล้ว”       “ไม่มั้ง…ยังมีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอคะ” หลินเช่อบอก “ทะเลาะกันตลอด แล้วทำไมไม่เลิกกันล่ะคะ ยังแต่งงานกันอีก”       “เธอคิดว่ายังไงล่ะ”       “ฉันคิดว่า…มันคงเป็นความรักมั้งคะ ทะเลาะกันแต่ไม่แยกจากกัน จะเป็นจะตายยังไงก็อยู่ด้วยกัน เหอะๆ”       กู้จิ้งเจ๋อหัวเราะมองไปที่หลินเช่อ เด็กคนนี้…       ความคิดไม่เหมือนใครจริงๆ       กู้จิ้งเจ๋อบอก “แต่ว่า พวกเขาทะเลาะกันบ่อยจริงๆ เมื่อก่อนสมัยเรียน ก็เป็นแบบนี้ ทะเลาะกันเป็นประจำ”       “อ้อ คงจะเป็นแบบนั้นค่ะ ล้วนเป็นคนโปรดของสวรรค์ ไม่มีใครยอมใครเลย”       ตอนนั้นเอง ลู่เป่ยเฉินก็เดินออกมา       ใบหน้าไม่น่ามอง เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว       เมื่อมองเห็นกู้จิ้งเจ๋อแล้ว เขาทำเพียงชายตามอง เดินหนีออกไป       หลินเช่อแปลกใจ เงยหน้ามองกู้จิ้งเจ๋อที่ยังมีท่าทางปกติ       พอดีกับสาวใช้ของตระกูลลู่เดินออกมา เห็นหลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อยืนอยู่ตรงนั้น สาวใช้บอกท่าทางรู้สึกผิด “เมื่อสักครู่คุณผู้หญิงโดนน้ำร้อนลวก ทั้งสองจึงโต้เถียงกันค่ะ”       “น้ำร้อนลวก เป็นยังไงบ้าง” หลินเช่อรีบถาม       สาวใช้รายงาน “ไม่เป็นอะไรมากแล้วค่ะ หมออยู่ด้านในแล้ว ปกติแล้วคุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายก็ชอบทะเลาะกันแบบนี้ หวังว่าคุณกู้และคุณนายกู้จะไม่ถือสานะคะ”       หลินเช่อบอก “ไม่หรอก พวกเขาไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”       สาวใช้บอก “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ครั้งนี้นับว่าดีที่ไม่โยนของและไม่ลงมือกัน”       “ห๊ะ…มีลงไม้ลงมือด้วยเหรอ” หลินเช่อถาม       “ใช่ค่ะ พวกเราชินกันแล้วค่ะ ทั้งคู่ทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติ แต่ว่า ทุกครั้งคุณผู้ชายก็เอาชนะคุณผู้หญิงไม่ได้ มีครั้งหนึ่งคุณผู้ชายยังโดนคุณผู้หญิงเตะตกเตียงด้วยนะคะ คุณผู้ชายโกรธจนไม่ยอมกลับบ้านตั้งหลายวัน”       “…”       ตอนนั้นเอง ลู่ฉินอวี่ก็ส่งเสียงกระแอมไอมาจากด้านหลัง       สาวใช้ปากมากรีบหุบปากทันที ก้มหน้าเดินออกไป       ลู่ฉินอวี่มองเข้าไปด้านใน สูดหายใจเข้าลึก “ไม่เชื่อฟังกันเลยจริงๆ …”       หลินเช่อเองก็ไม่เข้าใจในความสัมพันธ์ของพวกเขา บางทีอาจจะเหมือนเธอกับกู้จิ้งเจ๋อก็ได้ เพียงแต่การแสดงออกนั้นแตกต่างกันออกไป       เพียงพวกเขาสองคนคิดว่ามันไม่เป็นไร คนอื่นก็ไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่ง       หลังจากทานอาหารเย็นที่บ้านตระกูลลู่แล้ว หลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อก็รีบกลับเมืองบี       วันต่อมา หลินเช่อไปทานอาหารกับคนในกองภาพยนตร์ก่อน เพราะภาพยนตร์นั้นใกล้จะถึงช่วงสุดท้ายแล้ว ดังนั้นเหล่านักแสดงต่างก็พากันเริ่มโปรโมทแล้ว วิ่งไปวิ่งมา เห็นว่าหลินเช่อที่หายไปนาน ในที่สุดก็ปรากฏตัวแล้ว ทุกคนต่างเข้ามารุมล้อมและทักทายกับเธอ       “หลายวันมานี้เธอไปตายที่ไหนมา ไม่มีข่าวเลยสักนิด”       หลินเช่อหัวเราะ “เปล่าหรอกค่ะ อยู่ที่บ้านจัดการเรื่องส่วนตัวนิดหน่อย”       “เหรอ ด้านนอกนั่นมีข่าวลือ ว่าเพราะฉินหวานหว่านคนนั้น เธอจึงถูกบริษัทปิดกั้นแล้ว”       หลินเช่อท่าทางเบื่อหน่ายบอก “เป็นไปได้ยังไงคะ ทำไมบริษัทต้องปิดกั้นฉันด้วยล่ะ เปล่าหรอกค่ะ ฉันลากับที่บริษัทไปจัดการธุระส่วนตัวน่ะ”       “แค่พูดน่ะ เราก็พากันคาดเดาว่าเป็นไปไม่ได้ จริงสิ ยินดีกับรางวัลทองคำด้วยนะ นับว่าเป็นหน้าเป็นตาให้กับภาพยนตร์ของเรามาก”       “เป็นเพราะทุกคนตั้งใจทำงานด้วยค่ะ”       หลินเช่อเอ่ยกับทุกคนด้วยท่าทางเกรงอกเกรงใจ มองเห็นซ่งซูไห่เดินเข้ามา เธอยิ้มทักทาย “พี่ซูไห่คะ พี่ก็อยู่ด้วยเหรอคะ”       “ใช่ เธอมาแล้วเหรอ”       ซ่งซูไห่พิจารณาหลินเช่อ “รู้สึกว่ารูปร่างเธอเปลี่ยนไปไม่น้อยเลยนะ”       หลินเช่อมองตัวเองอย่างแปลกใจ “เปลี่ยนไปมากเหรอคะ เปลี่ยนตรงไหนคะ”       “ไม่ได้ผอมบางแล้ว รูปร่างเด่นชัด อีกทั้งส่วนโค้งเว้ายังชัดเจนขึ้น เธอแอบไปฝึกอะไรหรือเปล่า” ซ่งซูไห่ถามยิ้มๆ       หลินเช่อก้มหน้าตอบ “จริงเหรอคะ ความจริงช่วงนี้ฉันออกกำลังกายเยอะจริงๆ แต่ว่าไม่ได้สังเกตการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตัวเองเท่าไหร่”       “แน่นอนสิ เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เธอแค่ไม่สังเกต”       หลินเช่อเองก็คิดแบบนั้น เพราะการฝึกตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ก็เพื่องานเลี้ยงดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยู แต่ตอนนี้มันทำให้รูปร่างได้รับการออกกำลังกายไปด้วย       นี่ถือว่าเป็นผลพลอยได้สินะ       ซ่งซูไห่บอก “คนที่บริษัทยังบอกอีกว่าเธอลาไปเพื่อเปลี่ยนแปลงรูปร่างตัวเอง”       ซ่งซูไห่กับเธออยู่บริษัทเดียวกัน แน่นอนว่าต้องได้ยินข่าวลือมาเยอะพอสมควร       หลินเช่อบอกอย่างเบื่อหน่าย “ที่ไหนกันล่ะคะ ฉันไม่ได้มีเวลาว่างขนาดนั้นซะหน่อย”       “ฉันก็ว่างั้น ยังไงเธอก็ต้องระวังตัวเอาไว้บ้าง ฉินหวานหว่านคนนี้…รับมือไม่ง่ายเลย” ซ่งซูไห่เองก็มีประสบการณ์ เธอเข้าใจลึกซึ้งถึงการกระทำแบบนี้ของบริษัท       ดังนั้นตอนนี้จึงอยากเตือนหลินเช่อเอาไว้สักหน่อย       หลินเช่อหัวเราะ “ทหารมาก็เอาแม่ทัพขวาง น้ำมาเอาดินถม ยังไงทุกคนก็ยุติธรรมมากพอ ฉันไม่กลัวเธอหรอกค่ะ”       “ดี เกิดมาไม่กลัวเสือ นี่ เป็นฉันไม่ไหวหรอกนะ ตอนนี้กลัวว่าจะเกิดอะไรเปลี่ยนแปลงขึ้น”       ทุกคนต่างมองหลินเช่อ รู้สึกว่าเธอเปลี่ยนไปเยอะมาก       ทุกคนพูดคุยถึงการโปรโมท หลินเช่อเห็นส่วนของการโปรโมทแล้ว คิดว่าการที่ภาพยนตร์ได้รับรางวัลทองคำนั้น มันสมเหตุสมผล ทำออกมาได้ดีและมีเสน่ห์มาก สมกับเป็นฝีมือของกู้จิ้งอวี่       หลังจากนั้น หลินเช่อก็กลับไปที่บริษัท คนที่บริษัทคิดว่าเธอหนีไปแล้ว เมื่อเห็นเธอกลับมา ก็อดไม่ได้ที่จะมองสังเกตเธอ       หลินเช่อเองก็ไม่ใส่ใจ ทำเพียงเข้าไปจัดการธุระเล็กน้อย       ไม่สนใจสายตาแปลกประหลาดพวกนั้น       ทุกคนมองหลินเช่อออกไป ยังพูดอีกว่า “หลินเช่อยังกล้ากลับมาอีกเหรอ ฉันนึกว่าเธอหนีไปแล้วซะอีก”       “ฉันนึกว่าเธอจะแอบติดต่อกับบริษัทอื่นไปแล้ว อยู่ห่างจากฉินหวานหว่าน หลีกเลี่ยงที่จะแข่งกับเธอ”       “ตอนนี้ดูเหมือน เธอไม่ได้มีความสามารถเท่าฉินหวานหว่าน บางทีอาจจะสู้ต่อไปไหมไหว หนีไปเลยก็ได้”       ตอนนั้นเองหลินเช่อได้รับโทรศัพท์จากซือถูฉยง       เสียงเขาส่งผ่านมา “ผมอยู่หน้าบริษัทคุณ คุณออกมาหน่อย”       หลินเช่อตกใจ รีบวิ่งออกไป       และตรงหน้าประตู คนที่กำลังนินทาหลินเช่อว่าไม่มีความสามารถ ต่างพากันตกใจไปตามๆ กัน เมื่อเห็นหลินเช่อวิ่งออกไป หยุดลงที่รถคันหรูที่จอดอยู่หน้าบริษัท       และเมื่อคนบนรถเดินลงมา ยิ่งทำให้ตกตะลึงกันยิ่งขึ้นไปอีก       “ว้าว ไม่ใช่มั้ง นั่นซือถูฉยงใช่หรือเปล่า”       “ซือถูอะไรนะ”       “คุณชายฉยงไง เธอไม่เคยได้ยินเหรอ”  

 

 

 

กู้จิ้งเหยียนคร้านที่จะสนใจ บอก “เอาล่ะ พวกคุณไปเถอะ แผลไม่เป็นอะไรมากหรอก”  

 

 

กู้จิ้งเหยียนรู้ดี เขาเองก็ทำเพื่อเธอ  

 

 

เพียงแต่ช่องว่างระหว่างพวกเขาสองคนนั้นใหญ่เกินไป คงคุยกันดีๆ ไม่ได้แล้ว  

 

 

เมื่อเจอหน้าก็ต้องหาเรื่องทะเลาะ  

 

 

เธออยากเป็นศัตรูกับเขา เขาก็อยากเป็นศัตรูกับเธอ ทั้งสองต่อต้านกันแบบนี้ คนรอบข้าง ต่างก็ต้องมาเดือดร้อนเพราะพวกเขา  

 

 

ด้านนอก  

 

 

หลินเช่อมองกู้จิ้งเจ๋อ “พวกเขาจะไม่เป็นไรใช่ไหมคะ”  

 

 

“แน่นอนว่าไม่เป็นไร จะมีอะไรได้ล่ะ” กู้จิ้งเจ๋อบอก  

 

 

“แต่ว่า เหมือนพวกเขาจะทะเลาะกันอยู่นะคะ”  

 

 

“สามีภรรยาทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติ”  

 

 

“พวกเขาเป็นข้าวใหม่ปลามันนะ ทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติเหรอคะ”  

 

 

กู้จิ้งเจ๋อบอก “พวกเขารู้จักกันมานานหลายปีแล้ว มันไม่เกี่ยวกับข้าวใหม่ปลามันหรอก ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อก่อนสองคนนี้ก็ทะเลาะกันไปมา เธอทำตัวให้ชินก็พอแล้ว”  

 

 

“ไม่มั้ง…ยังมีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอคะ” หลินเช่อบอก “ทะเลาะกันตลอด แล้วทำไมไม่เลิกกันล่ะคะ ยังแต่งงานกันอีก”  

 

 

“เธอคิดว่ายังไงล่ะ”  

 

 

“ฉันคิดว่า…มันคงเป็นความรักมั้งคะ ทะเลาะกันแต่ไม่แยกจากกัน จะเป็นจะตายยังไงก็อยู่ด้วยกัน เหอะๆ”  

 

 

กู้จิ้งเจ๋อหัวเราะมองไปที่หลินเช่อ เด็กคนนี้…  

 

 

ความคิดไม่เหมือนใครจริงๆ  

 

 

กู้จิ้งเจ๋อบอก “แต่ว่า พวกเขาทะเลาะกันบ่อยจริงๆ เมื่อก่อนสมัยเรียน ก็เป็นแบบนี้ ทะเลาะกันเป็นประจำ”  

 

 

“อ้อ คงจะเป็นแบบนั้นค่ะ ล้วนเป็นคนโปรดของสวรรค์ ไม่มีใครยอมใครเลย”  

 

 

ตอนนั้นเอง ลู่เป่ยเฉินก็เดินออกมา  

 

 

ใบหน้าไม่น่ามอง เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว  

 

 

เมื่อมองเห็นกู้จิ้งเจ๋อแล้ว เขาทำเพียงชายตามอง เดินหนีออกไป  

 

 

หลินเช่อแปลกใจ เงยหน้ามองกู้จิ้งเจ๋อที่ยังมีท่าทางปกติ  

 

 

พอดีกับสาวใช้ของตระกูลลู่เดินออกมา เห็นหลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อยืนอยู่ตรงนั้น สาวใช้บอกท่าทางรู้สึกผิด “เมื่อสักครู่คุณผู้หญิงโดนน้ำร้อนลวก ทั้งสองจึงโต้เถียงกันค่ะ”  

 

 

“น้ำร้อนลวก เป็นยังไงบ้าง” หลินเช่อรีบถาม  

 

 

สาวใช้รายงาน “ไม่เป็นอะไรมากแล้วค่ะ หมออยู่ด้านในแล้ว ปกติแล้วคุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายก็ชอบทะเลาะกันแบบนี้ หวังว่าคุณกู้และคุณนายกู้จะไม่ถือสานะคะ”  

 

 

หลินเช่อบอก “ไม่หรอก พวกเขาไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”  

 

 

สาวใช้บอก “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ครั้งนี้นับว่าดีที่ไม่โยนของและไม่ลงมือกัน”  

 

 

“ห๊ะ…มีลงไม้ลงมือด้วยเหรอ” หลินเช่อถาม  

 

 

“ใช่ค่ะ พวกเราชินกันแล้วค่ะ ทั้งคู่ทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติ แต่ว่า ทุกครั้งคุณผู้ชายก็เอาชนะคุณผู้หญิงไม่ได้ มีครั้งหนึ่งคุณผู้ชายยังโดนคุณผู้หญิงเตะตกเตียงด้วยนะคะ คุณผู้ชายโกรธจนไม่ยอมกลับบ้านตั้งหลายวัน”  

 

 

“…”  

 

 

ตอนนั้นเอง ลู่ฉินอวี่ก็ส่งเสียงกระแอมไอมาจากด้านหลัง  

 

 

สาวใช้ปากมากรีบหุบปากทันที ก้มหน้าเดินออกไป  

 

 

ลู่ฉินอวี่มองเข้าไปด้านใน สูดหายใจเข้าลึก “ไม่เชื่อฟังกันเลยจริงๆ …”  

 

 

หลินเช่อเองก็ไม่เข้าใจในความสัมพันธ์ของพวกเขา บางทีอาจจะเหมือนเธอกับกู้จิ้งเจ๋อก็ได้ เพียงแต่การแสดงออกนั้นแตกต่างกันออกไป  

 

 

เพียงพวกเขาสองคนคิดว่ามันไม่เป็นไร คนอื่นก็ไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่ง  

 

 

หลังจากทานอาหารเย็นที่บ้านตระกูลลู่แล้ว หลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อก็รีบกลับเมืองบี  

 

 

วันต่อมา หลินเช่อไปทานอาหารกับคนในกองภาพยนตร์ก่อน เพราะภาพยนตร์นั้นใกล้จะถึงช่วงสุดท้ายแล้ว ดังนั้นเหล่านักแสดงต่างก็พากันเริ่มโปรโมทแล้ว วิ่งไปวิ่งมา เห็นว่าหลินเช่อที่หายไปนาน ในที่สุดก็ปรากฏตัวแล้ว ทุกคนต่างเข้ามารุมล้อมและทักทายกับเธอ  

 

 

“หลายวันมานี้เธอไปตายที่ไหนมา ไม่มีข่าวเลยสักนิด”  

 

 

หลินเช่อหัวเราะ “เปล่าหรอกค่ะ อยู่ที่บ้านจัดการเรื่องส่วนตัวนิดหน่อย”  

 

 

“เหรอ ด้านนอกนั่นมีข่าวลือ ว่าเพราะฉินหวานหว่านคนนั้น เธอจึงถูกบริษัทปิดกั้นแล้ว”  

 

 

หลินเช่อท่าทางเบื่อหน่ายบอก “เป็นไปได้ยังไงคะ ทำไมบริษัทต้องปิดกั้นฉันด้วยล่ะ เปล่าหรอกค่ะ ฉันลากับที่บริษัทไปจัดการธุระส่วนตัวน่ะ”  

 

 

“แค่พูดน่ะ เราก็พากันคาดเดาว่าเป็นไปไม่ได้ จริงสิ ยินดีกับรางวัลทองคำด้วยนะ นับว่าเป็นหน้าเป็นตาให้กับภาพยนตร์ของเรามาก”  

 

 

“เป็นเพราะทุกคนตั้งใจทำงานด้วยค่ะ”  

 

 

หลินเช่อเอ่ยกับทุกคนด้วยท่าทางเกรงอกเกรงใจ มองเห็นซ่งซูไห่เดินเข้ามา เธอยิ้มทักทาย “พี่ซูไห่คะ พี่ก็อยู่ด้วยเหรอคะ”  

 

 

“ใช่ เธอมาแล้วเหรอ”  

 

 

ซ่งซูไห่พิจารณาหลินเช่อ “รู้สึกว่ารูปร่างเธอเปลี่ยนไปไม่น้อยเลยนะ”  

 

 

หลินเช่อมองตัวเองอย่างแปลกใจ “เปลี่ยนไปมากเหรอคะ เปลี่ยนตรงไหนคะ”  

 

 

“ไม่ได้ผอมบางแล้ว รูปร่างเด่นชัด อีกทั้งส่วนโค้งเว้ายังชัดเจนขึ้น เธอแอบไปฝึกอะไรหรือเปล่า” ซ่งซูไห่ถามยิ้มๆ  

 

 

หลินเช่อก้มหน้าตอบ “จริงเหรอคะ ความจริงช่วงนี้ฉันออกกำลังกายเยอะจริงๆ แต่ว่าไม่ได้สังเกตการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตัวเองเท่าไหร่”  

 

 

“แน่นอนสิ เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เธอแค่ไม่สังเกต”  

 

 

หลินเช่อเองก็คิดแบบนั้น เพราะการฝึกตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ก็เพื่องานเลี้ยงดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยู แต่ตอนนี้มันทำให้รูปร่างได้รับการออกกำลังกายไปด้วย  

 

 

นี่ถือว่าเป็นผลพลอยได้สินะ  

 

 

ซ่งซูไห่บอก “คนที่บริษัทยังบอกอีกว่าเธอลาไปเพื่อเปลี่ยนแปลงรูปร่างตัวเอง”  

 

 

ซ่งซูไห่กับเธออยู่บริษัทเดียวกัน แน่นอนว่าต้องได้ยินข่าวลือมาเยอะพอสมควร  

 

 

หลินเช่อบอกอย่างเบื่อหน่าย “ที่ไหนกันล่ะคะ ฉันไม่ได้มีเวลาว่างขนาดนั้นซะหน่อย”  

 

 

“ฉันก็ว่างั้น ยังไงเธอก็ต้องระวังตัวเอาไว้บ้าง ฉินหวานหว่านคนนี้…รับมือไม่ง่ายเลย” ซ่งซูไห่เองก็มีประสบการณ์ เธอเข้าใจลึกซึ้งถึงการกระทำแบบนี้ของบริษัท  

 

 

ดังนั้นตอนนี้จึงอยากเตือนหลินเช่อเอาไว้สักหน่อย  

 

 

หลินเช่อหัวเราะ “ทหารมาก็เอาแม่ทัพขวาง น้ำมาเอาดินถม ยังไงทุกคนก็ยุติธรรมมากพอ ฉันไม่กลัวเธอหรอกค่ะ”  

 

 

“ดี เกิดมาไม่กลัวเสือ นี่ เป็นฉันไม่ไหวหรอกนะ ตอนนี้กลัวว่าจะเกิดอะไรเปลี่ยนแปลงขึ้น”  

 

 

ทุกคนต่างมองหลินเช่อ รู้สึกว่าเธอเปลี่ยนไปเยอะมาก  

 

 

ทุกคนพูดคุยถึงการโปรโมท หลินเช่อเห็นส่วนของการโปรโมทแล้ว คิดว่าการที่ภาพยนตร์ได้รับรางวัลทองคำนั้น มันสมเหตุสมผล ทำออกมาได้ดีและมีเสน่ห์มาก สมกับเป็นฝีมือของกู้จิ้งอวี่  

 

 

หลังจากนั้น หลินเช่อก็กลับไปที่บริษัท คนที่บริษัทคิดว่าเธอหนีไปแล้ว เมื่อเห็นเธอกลับมา ก็อดไม่ได้ที่จะมองสังเกตเธอ  

 

 

หลินเช่อเองก็ไม่ใส่ใจ ทำเพียงเข้าไปจัดการธุระเล็กน้อย  

 

 

ไม่สนใจสายตาแปลกประหลาดพวกนั้น  

 

 

ทุกคนมองหลินเช่อออกไป ยังพูดอีกว่า “หลินเช่อยังกล้ากลับมาอีกเหรอ ฉันนึกว่าเธอหนีไปแล้วซะอีก”  

 

 

“ฉันนึกว่าเธอจะแอบติดต่อกับบริษัทอื่นไปแล้ว อยู่ห่างจากฉินหวานหว่าน หลีกเลี่ยงที่จะแข่งกับเธอ”  

 

 

“ตอนนี้ดูเหมือน เธอไม่ได้มีความสามารถเท่าฉินหวานหว่าน บางทีอาจจะสู้ต่อไปไหมไหว หนีไปเลยก็ได้”  

 

 

ตอนนั้นเองหลินเช่อได้รับโทรศัพท์จากซือถูฉยง  

 

 

เสียงเขาส่งผ่านมา “ผมอยู่หน้าบริษัทคุณ คุณออกมาหน่อย”  

 

 

หลินเช่อตกใจ รีบวิ่งออกไป  

 

 

และตรงหน้าประตู คนที่กำลังนินทาหลินเช่อว่าไม่มีความสามารถ ต่างพากันตกใจไปตามๆ กัน เมื่อเห็นหลินเช่อวิ่งออกไป หยุดลงที่รถคันหรูที่จอดอยู่หน้าบริษัท  

 

 

และเมื่อคนบนรถเดินลงมา ยิ่งทำให้ตกตะลึงกันยิ่งขึ้นไปอีก  

 

 

“ว้าว ไม่ใช่มั้ง นั่นซือถูฉยงใช่หรือเปล่า”  

 

 

“ซือถูอะไรนะ”  

 

 

“คุณชายฉยงไง เธอไม่เคยได้ยินเหรอ”  

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก 465 เมื่อกลับมาแล้วทุกคนต่างก็บอกว่า เธอหนีไปแล้วหรือเปล่า

Now you are reading เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก Chapter 465 เมื่อกลับมาแล้วทุกคนต่างก็บอกว่า เธอหนีไปแล้วหรือเปล่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

      กู้จิ้งเหยียนคร้านที่จะสนใจ บอก “เอาล่ะ พวกคุณไปเถอะ แผลไม่เป็นอะไรมากหรอก”       กู้จิ้งเหยียนรู้ดี เขาเองก็ทำเพื่อเธอ       เพียงแต่ช่องว่างระหว่างพวกเขาสองคนนั้นใหญ่เกินไป คงคุยกันดีๆ ไม่ได้แล้ว       เมื่อเจอหน้าก็ต้องหาเรื่องทะเลาะ       เธออยากเป็นศัตรูกับเขา เขาก็อยากเป็นศัตรูกับเธอ ทั้งสองต่อต้านกันแบบนี้ คนรอบข้าง ต่างก็ต้องมาเดือดร้อนเพราะพวกเขา       ด้านนอก       หลินเช่อมองกู้จิ้งเจ๋อ “พวกเขาจะไม่เป็นไรใช่ไหมคะ”       “แน่นอนว่าไม่เป็นไร จะมีอะไรได้ล่ะ” กู้จิ้งเจ๋อบอก       “แต่ว่า เหมือนพวกเขาจะทะเลาะกันอยู่นะคะ”       “สามีภรรยาทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติ”       “พวกเขาเป็นข้าวใหม่ปลามันนะ ทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติเหรอคะ”       กู้จิ้งเจ๋อบอก “พวกเขารู้จักกันมานานหลายปีแล้ว มันไม่เกี่ยวกับข้าวใหม่ปลามันหรอก ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อก่อนสองคนนี้ก็ทะเลาะกันไปมา เธอทำตัวให้ชินก็พอแล้ว”       “ไม่มั้ง…ยังมีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอคะ” หลินเช่อบอก “ทะเลาะกันตลอด แล้วทำไมไม่เลิกกันล่ะคะ ยังแต่งงานกันอีก”       “เธอคิดว่ายังไงล่ะ”       “ฉันคิดว่า…มันคงเป็นความรักมั้งคะ ทะเลาะกันแต่ไม่แยกจากกัน จะเป็นจะตายยังไงก็อยู่ด้วยกัน เหอะๆ”       กู้จิ้งเจ๋อหัวเราะมองไปที่หลินเช่อ เด็กคนนี้…       ความคิดไม่เหมือนใครจริงๆ       กู้จิ้งเจ๋อบอก “แต่ว่า พวกเขาทะเลาะกันบ่อยจริงๆ เมื่อก่อนสมัยเรียน ก็เป็นแบบนี้ ทะเลาะกันเป็นประจำ”       “อ้อ คงจะเป็นแบบนั้นค่ะ ล้วนเป็นคนโปรดของสวรรค์ ไม่มีใครยอมใครเลย”       ตอนนั้นเอง ลู่เป่ยเฉินก็เดินออกมา       ใบหน้าไม่น่ามอง เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว       เมื่อมองเห็นกู้จิ้งเจ๋อแล้ว เขาทำเพียงชายตามอง เดินหนีออกไป       หลินเช่อแปลกใจ เงยหน้ามองกู้จิ้งเจ๋อที่ยังมีท่าทางปกติ       พอดีกับสาวใช้ของตระกูลลู่เดินออกมา เห็นหลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อยืนอยู่ตรงนั้น สาวใช้บอกท่าทางรู้สึกผิด “เมื่อสักครู่คุณผู้หญิงโดนน้ำร้อนลวก ทั้งสองจึงโต้เถียงกันค่ะ”       “น้ำร้อนลวก เป็นยังไงบ้าง” หลินเช่อรีบถาม       สาวใช้รายงาน “ไม่เป็นอะไรมากแล้วค่ะ หมออยู่ด้านในแล้ว ปกติแล้วคุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายก็ชอบทะเลาะกันแบบนี้ หวังว่าคุณกู้และคุณนายกู้จะไม่ถือสานะคะ”       หลินเช่อบอก “ไม่หรอก พวกเขาไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”       สาวใช้บอก “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ครั้งนี้นับว่าดีที่ไม่โยนของและไม่ลงมือกัน”       “ห๊ะ…มีลงไม้ลงมือด้วยเหรอ” หลินเช่อถาม       “ใช่ค่ะ พวกเราชินกันแล้วค่ะ ทั้งคู่ทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติ แต่ว่า ทุกครั้งคุณผู้ชายก็เอาชนะคุณผู้หญิงไม่ได้ มีครั้งหนึ่งคุณผู้ชายยังโดนคุณผู้หญิงเตะตกเตียงด้วยนะคะ คุณผู้ชายโกรธจนไม่ยอมกลับบ้านตั้งหลายวัน”       “…”       ตอนนั้นเอง ลู่ฉินอวี่ก็ส่งเสียงกระแอมไอมาจากด้านหลัง       สาวใช้ปากมากรีบหุบปากทันที ก้มหน้าเดินออกไป       ลู่ฉินอวี่มองเข้าไปด้านใน สูดหายใจเข้าลึก “ไม่เชื่อฟังกันเลยจริงๆ …”       หลินเช่อเองก็ไม่เข้าใจในความสัมพันธ์ของพวกเขา บางทีอาจจะเหมือนเธอกับกู้จิ้งเจ๋อก็ได้ เพียงแต่การแสดงออกนั้นแตกต่างกันออกไป       เพียงพวกเขาสองคนคิดว่ามันไม่เป็นไร คนอื่นก็ไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่ง       หลังจากทานอาหารเย็นที่บ้านตระกูลลู่แล้ว หลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อก็รีบกลับเมืองบี       วันต่อมา หลินเช่อไปทานอาหารกับคนในกองภาพยนตร์ก่อน เพราะภาพยนตร์นั้นใกล้จะถึงช่วงสุดท้ายแล้ว ดังนั้นเหล่านักแสดงต่างก็พากันเริ่มโปรโมทแล้ว วิ่งไปวิ่งมา เห็นว่าหลินเช่อที่หายไปนาน ในที่สุดก็ปรากฏตัวแล้ว ทุกคนต่างเข้ามารุมล้อมและทักทายกับเธอ       “หลายวันมานี้เธอไปตายที่ไหนมา ไม่มีข่าวเลยสักนิด”       หลินเช่อหัวเราะ “เปล่าหรอกค่ะ อยู่ที่บ้านจัดการเรื่องส่วนตัวนิดหน่อย”       “เหรอ ด้านนอกนั่นมีข่าวลือ ว่าเพราะฉินหวานหว่านคนนั้น เธอจึงถูกบริษัทปิดกั้นแล้ว”       หลินเช่อท่าทางเบื่อหน่ายบอก “เป็นไปได้ยังไงคะ ทำไมบริษัทต้องปิดกั้นฉันด้วยล่ะ เปล่าหรอกค่ะ ฉันลากับที่บริษัทไปจัดการธุระส่วนตัวน่ะ”       “แค่พูดน่ะ เราก็พากันคาดเดาว่าเป็นไปไม่ได้ จริงสิ ยินดีกับรางวัลทองคำด้วยนะ นับว่าเป็นหน้าเป็นตาให้กับภาพยนตร์ของเรามาก”       “เป็นเพราะทุกคนตั้งใจทำงานด้วยค่ะ”       หลินเช่อเอ่ยกับทุกคนด้วยท่าทางเกรงอกเกรงใจ มองเห็นซ่งซูไห่เดินเข้ามา เธอยิ้มทักทาย “พี่ซูไห่คะ พี่ก็อยู่ด้วยเหรอคะ”       “ใช่ เธอมาแล้วเหรอ”       ซ่งซูไห่พิจารณาหลินเช่อ “รู้สึกว่ารูปร่างเธอเปลี่ยนไปไม่น้อยเลยนะ”       หลินเช่อมองตัวเองอย่างแปลกใจ “เปลี่ยนไปมากเหรอคะ เปลี่ยนตรงไหนคะ”       “ไม่ได้ผอมบางแล้ว รูปร่างเด่นชัด อีกทั้งส่วนโค้งเว้ายังชัดเจนขึ้น เธอแอบไปฝึกอะไรหรือเปล่า” ซ่งซูไห่ถามยิ้มๆ       หลินเช่อก้มหน้าตอบ “จริงเหรอคะ ความจริงช่วงนี้ฉันออกกำลังกายเยอะจริงๆ แต่ว่าไม่ได้สังเกตการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตัวเองเท่าไหร่”       “แน่นอนสิ เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เธอแค่ไม่สังเกต”       หลินเช่อเองก็คิดแบบนั้น เพราะการฝึกตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ก็เพื่องานเลี้ยงดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยู แต่ตอนนี้มันทำให้รูปร่างได้รับการออกกำลังกายไปด้วย       นี่ถือว่าเป็นผลพลอยได้สินะ       ซ่งซูไห่บอก “คนที่บริษัทยังบอกอีกว่าเธอลาไปเพื่อเปลี่ยนแปลงรูปร่างตัวเอง”       ซ่งซูไห่กับเธออยู่บริษัทเดียวกัน แน่นอนว่าต้องได้ยินข่าวลือมาเยอะพอสมควร       หลินเช่อบอกอย่างเบื่อหน่าย “ที่ไหนกันล่ะคะ ฉันไม่ได้มีเวลาว่างขนาดนั้นซะหน่อย”       “ฉันก็ว่างั้น ยังไงเธอก็ต้องระวังตัวเอาไว้บ้าง ฉินหวานหว่านคนนี้…รับมือไม่ง่ายเลย” ซ่งซูไห่เองก็มีประสบการณ์ เธอเข้าใจลึกซึ้งถึงการกระทำแบบนี้ของบริษัท       ดังนั้นตอนนี้จึงอยากเตือนหลินเช่อเอาไว้สักหน่อย       หลินเช่อหัวเราะ “ทหารมาก็เอาแม่ทัพขวาง น้ำมาเอาดินถม ยังไงทุกคนก็ยุติธรรมมากพอ ฉันไม่กลัวเธอหรอกค่ะ”       “ดี เกิดมาไม่กลัวเสือ นี่ เป็นฉันไม่ไหวหรอกนะ ตอนนี้กลัวว่าจะเกิดอะไรเปลี่ยนแปลงขึ้น”       ทุกคนต่างมองหลินเช่อ รู้สึกว่าเธอเปลี่ยนไปเยอะมาก       ทุกคนพูดคุยถึงการโปรโมท หลินเช่อเห็นส่วนของการโปรโมทแล้ว คิดว่าการที่ภาพยนตร์ได้รับรางวัลทองคำนั้น มันสมเหตุสมผล ทำออกมาได้ดีและมีเสน่ห์มาก สมกับเป็นฝีมือของกู้จิ้งอวี่       หลังจากนั้น หลินเช่อก็กลับไปที่บริษัท คนที่บริษัทคิดว่าเธอหนีไปแล้ว เมื่อเห็นเธอกลับมา ก็อดไม่ได้ที่จะมองสังเกตเธอ       หลินเช่อเองก็ไม่ใส่ใจ ทำเพียงเข้าไปจัดการธุระเล็กน้อย       ไม่สนใจสายตาแปลกประหลาดพวกนั้น       ทุกคนมองหลินเช่อออกไป ยังพูดอีกว่า “หลินเช่อยังกล้ากลับมาอีกเหรอ ฉันนึกว่าเธอหนีไปแล้วซะอีก”       “ฉันนึกว่าเธอจะแอบติดต่อกับบริษัทอื่นไปแล้ว อยู่ห่างจากฉินหวานหว่าน หลีกเลี่ยงที่จะแข่งกับเธอ”       “ตอนนี้ดูเหมือน เธอไม่ได้มีความสามารถเท่าฉินหวานหว่าน บางทีอาจจะสู้ต่อไปไหมไหว หนีไปเลยก็ได้”       ตอนนั้นเองหลินเช่อได้รับโทรศัพท์จากซือถูฉยง       เสียงเขาส่งผ่านมา “ผมอยู่หน้าบริษัทคุณ คุณออกมาหน่อย”       หลินเช่อตกใจ รีบวิ่งออกไป       และตรงหน้าประตู คนที่กำลังนินทาหลินเช่อว่าไม่มีความสามารถ ต่างพากันตกใจไปตามๆ กัน เมื่อเห็นหลินเช่อวิ่งออกไป หยุดลงที่รถคันหรูที่จอดอยู่หน้าบริษัท       และเมื่อคนบนรถเดินลงมา ยิ่งทำให้ตกตะลึงกันยิ่งขึ้นไปอีก       “ว้าว ไม่ใช่มั้ง นั่นซือถูฉยงใช่หรือเปล่า”       “ซือถูอะไรนะ”       “คุณชายฉยงไง เธอไม่เคยได้ยินเหรอ”  

 

 

 

กู้จิ้งเหยียนคร้านที่จะสนใจ บอก “เอาล่ะ พวกคุณไปเถอะ แผลไม่เป็นอะไรมากหรอก”  

 

 

กู้จิ้งเหยียนรู้ดี เขาเองก็ทำเพื่อเธอ  

 

 

เพียงแต่ช่องว่างระหว่างพวกเขาสองคนนั้นใหญ่เกินไป คงคุยกันดีๆ ไม่ได้แล้ว  

 

 

เมื่อเจอหน้าก็ต้องหาเรื่องทะเลาะ  

 

 

เธออยากเป็นศัตรูกับเขา เขาก็อยากเป็นศัตรูกับเธอ ทั้งสองต่อต้านกันแบบนี้ คนรอบข้าง ต่างก็ต้องมาเดือดร้อนเพราะพวกเขา  

 

 

ด้านนอก  

 

 

หลินเช่อมองกู้จิ้งเจ๋อ “พวกเขาจะไม่เป็นไรใช่ไหมคะ”  

 

 

“แน่นอนว่าไม่เป็นไร จะมีอะไรได้ล่ะ” กู้จิ้งเจ๋อบอก  

 

 

“แต่ว่า เหมือนพวกเขาจะทะเลาะกันอยู่นะคะ”  

 

 

“สามีภรรยาทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติ”  

 

 

“พวกเขาเป็นข้าวใหม่ปลามันนะ ทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติเหรอคะ”  

 

 

กู้จิ้งเจ๋อบอก “พวกเขารู้จักกันมานานหลายปีแล้ว มันไม่เกี่ยวกับข้าวใหม่ปลามันหรอก ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อก่อนสองคนนี้ก็ทะเลาะกันไปมา เธอทำตัวให้ชินก็พอแล้ว”  

 

 

“ไม่มั้ง…ยังมีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอคะ” หลินเช่อบอก “ทะเลาะกันตลอด แล้วทำไมไม่เลิกกันล่ะคะ ยังแต่งงานกันอีก”  

 

 

“เธอคิดว่ายังไงล่ะ”  

 

 

“ฉันคิดว่า…มันคงเป็นความรักมั้งคะ ทะเลาะกันแต่ไม่แยกจากกัน จะเป็นจะตายยังไงก็อยู่ด้วยกัน เหอะๆ”  

 

 

กู้จิ้งเจ๋อหัวเราะมองไปที่หลินเช่อ เด็กคนนี้…  

 

 

ความคิดไม่เหมือนใครจริงๆ  

 

 

กู้จิ้งเจ๋อบอก “แต่ว่า พวกเขาทะเลาะกันบ่อยจริงๆ เมื่อก่อนสมัยเรียน ก็เป็นแบบนี้ ทะเลาะกันเป็นประจำ”  

 

 

“อ้อ คงจะเป็นแบบนั้นค่ะ ล้วนเป็นคนโปรดของสวรรค์ ไม่มีใครยอมใครเลย”  

 

 

ตอนนั้นเอง ลู่เป่ยเฉินก็เดินออกมา  

 

 

ใบหน้าไม่น่ามอง เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว  

 

 

เมื่อมองเห็นกู้จิ้งเจ๋อแล้ว เขาทำเพียงชายตามอง เดินหนีออกไป  

 

 

หลินเช่อแปลกใจ เงยหน้ามองกู้จิ้งเจ๋อที่ยังมีท่าทางปกติ  

 

 

พอดีกับสาวใช้ของตระกูลลู่เดินออกมา เห็นหลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อยืนอยู่ตรงนั้น สาวใช้บอกท่าทางรู้สึกผิด “เมื่อสักครู่คุณผู้หญิงโดนน้ำร้อนลวก ทั้งสองจึงโต้เถียงกันค่ะ”  

 

 

“น้ำร้อนลวก เป็นยังไงบ้าง” หลินเช่อรีบถาม  

 

 

สาวใช้รายงาน “ไม่เป็นอะไรมากแล้วค่ะ หมออยู่ด้านในแล้ว ปกติแล้วคุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายก็ชอบทะเลาะกันแบบนี้ หวังว่าคุณกู้และคุณนายกู้จะไม่ถือสานะคะ”  

 

 

หลินเช่อบอก “ไม่หรอก พวกเขาไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”  

 

 

สาวใช้บอก “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ครั้งนี้นับว่าดีที่ไม่โยนของและไม่ลงมือกัน”  

 

 

“ห๊ะ…มีลงไม้ลงมือด้วยเหรอ” หลินเช่อถาม  

 

 

“ใช่ค่ะ พวกเราชินกันแล้วค่ะ ทั้งคู่ทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติ แต่ว่า ทุกครั้งคุณผู้ชายก็เอาชนะคุณผู้หญิงไม่ได้ มีครั้งหนึ่งคุณผู้ชายยังโดนคุณผู้หญิงเตะตกเตียงด้วยนะคะ คุณผู้ชายโกรธจนไม่ยอมกลับบ้านตั้งหลายวัน”  

 

 

“…”  

 

 

ตอนนั้นเอง ลู่ฉินอวี่ก็ส่งเสียงกระแอมไอมาจากด้านหลัง  

 

 

สาวใช้ปากมากรีบหุบปากทันที ก้มหน้าเดินออกไป  

 

 

ลู่ฉินอวี่มองเข้าไปด้านใน สูดหายใจเข้าลึก “ไม่เชื่อฟังกันเลยจริงๆ …”  

 

 

หลินเช่อเองก็ไม่เข้าใจในความสัมพันธ์ของพวกเขา บางทีอาจจะเหมือนเธอกับกู้จิ้งเจ๋อก็ได้ เพียงแต่การแสดงออกนั้นแตกต่างกันออกไป  

 

 

เพียงพวกเขาสองคนคิดว่ามันไม่เป็นไร คนอื่นก็ไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่ง  

 

 

หลังจากทานอาหารเย็นที่บ้านตระกูลลู่แล้ว หลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อก็รีบกลับเมืองบี  

 

 

วันต่อมา หลินเช่อไปทานอาหารกับคนในกองภาพยนตร์ก่อน เพราะภาพยนตร์นั้นใกล้จะถึงช่วงสุดท้ายแล้ว ดังนั้นเหล่านักแสดงต่างก็พากันเริ่มโปรโมทแล้ว วิ่งไปวิ่งมา เห็นว่าหลินเช่อที่หายไปนาน ในที่สุดก็ปรากฏตัวแล้ว ทุกคนต่างเข้ามารุมล้อมและทักทายกับเธอ  

 

 

“หลายวันมานี้เธอไปตายที่ไหนมา ไม่มีข่าวเลยสักนิด”  

 

 

หลินเช่อหัวเราะ “เปล่าหรอกค่ะ อยู่ที่บ้านจัดการเรื่องส่วนตัวนิดหน่อย”  

 

 

“เหรอ ด้านนอกนั่นมีข่าวลือ ว่าเพราะฉินหวานหว่านคนนั้น เธอจึงถูกบริษัทปิดกั้นแล้ว”  

 

 

หลินเช่อท่าทางเบื่อหน่ายบอก “เป็นไปได้ยังไงคะ ทำไมบริษัทต้องปิดกั้นฉันด้วยล่ะ เปล่าหรอกค่ะ ฉันลากับที่บริษัทไปจัดการธุระส่วนตัวน่ะ”  

 

 

“แค่พูดน่ะ เราก็พากันคาดเดาว่าเป็นไปไม่ได้ จริงสิ ยินดีกับรางวัลทองคำด้วยนะ นับว่าเป็นหน้าเป็นตาให้กับภาพยนตร์ของเรามาก”  

 

 

“เป็นเพราะทุกคนตั้งใจทำงานด้วยค่ะ”  

 

 

หลินเช่อเอ่ยกับทุกคนด้วยท่าทางเกรงอกเกรงใจ มองเห็นซ่งซูไห่เดินเข้ามา เธอยิ้มทักทาย “พี่ซูไห่คะ พี่ก็อยู่ด้วยเหรอคะ”  

 

 

“ใช่ เธอมาแล้วเหรอ”  

 

 

ซ่งซูไห่พิจารณาหลินเช่อ “รู้สึกว่ารูปร่างเธอเปลี่ยนไปไม่น้อยเลยนะ”  

 

 

หลินเช่อมองตัวเองอย่างแปลกใจ “เปลี่ยนไปมากเหรอคะ เปลี่ยนตรงไหนคะ”  

 

 

“ไม่ได้ผอมบางแล้ว รูปร่างเด่นชัด อีกทั้งส่วนโค้งเว้ายังชัดเจนขึ้น เธอแอบไปฝึกอะไรหรือเปล่า” ซ่งซูไห่ถามยิ้มๆ  

 

 

หลินเช่อก้มหน้าตอบ “จริงเหรอคะ ความจริงช่วงนี้ฉันออกกำลังกายเยอะจริงๆ แต่ว่าไม่ได้สังเกตการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตัวเองเท่าไหร่”  

 

 

“แน่นอนสิ เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เธอแค่ไม่สังเกต”  

 

 

หลินเช่อเองก็คิดแบบนั้น เพราะการฝึกตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ก็เพื่องานเลี้ยงดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยู แต่ตอนนี้มันทำให้รูปร่างได้รับการออกกำลังกายไปด้วย  

 

 

นี่ถือว่าเป็นผลพลอยได้สินะ  

 

 

ซ่งซูไห่บอก “คนที่บริษัทยังบอกอีกว่าเธอลาไปเพื่อเปลี่ยนแปลงรูปร่างตัวเอง”  

 

 

ซ่งซูไห่กับเธออยู่บริษัทเดียวกัน แน่นอนว่าต้องได้ยินข่าวลือมาเยอะพอสมควร  

 

 

หลินเช่อบอกอย่างเบื่อหน่าย “ที่ไหนกันล่ะคะ ฉันไม่ได้มีเวลาว่างขนาดนั้นซะหน่อย”  

 

 

“ฉันก็ว่างั้น ยังไงเธอก็ต้องระวังตัวเอาไว้บ้าง ฉินหวานหว่านคนนี้…รับมือไม่ง่ายเลย” ซ่งซูไห่เองก็มีประสบการณ์ เธอเข้าใจลึกซึ้งถึงการกระทำแบบนี้ของบริษัท  

 

 

ดังนั้นตอนนี้จึงอยากเตือนหลินเช่อเอาไว้สักหน่อย  

 

 

หลินเช่อหัวเราะ “ทหารมาก็เอาแม่ทัพขวาง น้ำมาเอาดินถม ยังไงทุกคนก็ยุติธรรมมากพอ ฉันไม่กลัวเธอหรอกค่ะ”  

 

 

“ดี เกิดมาไม่กลัวเสือ นี่ เป็นฉันไม่ไหวหรอกนะ ตอนนี้กลัวว่าจะเกิดอะไรเปลี่ยนแปลงขึ้น”  

 

 

ทุกคนต่างมองหลินเช่อ รู้สึกว่าเธอเปลี่ยนไปเยอะมาก  

 

 

ทุกคนพูดคุยถึงการโปรโมท หลินเช่อเห็นส่วนของการโปรโมทแล้ว คิดว่าการที่ภาพยนตร์ได้รับรางวัลทองคำนั้น มันสมเหตุสมผล ทำออกมาได้ดีและมีเสน่ห์มาก สมกับเป็นฝีมือของกู้จิ้งอวี่  

 

 

หลังจากนั้น หลินเช่อก็กลับไปที่บริษัท คนที่บริษัทคิดว่าเธอหนีไปแล้ว เมื่อเห็นเธอกลับมา ก็อดไม่ได้ที่จะมองสังเกตเธอ  

 

 

หลินเช่อเองก็ไม่ใส่ใจ ทำเพียงเข้าไปจัดการธุระเล็กน้อย  

 

 

ไม่สนใจสายตาแปลกประหลาดพวกนั้น  

 

 

ทุกคนมองหลินเช่อออกไป ยังพูดอีกว่า “หลินเช่อยังกล้ากลับมาอีกเหรอ ฉันนึกว่าเธอหนีไปแล้วซะอีก”  

 

 

“ฉันนึกว่าเธอจะแอบติดต่อกับบริษัทอื่นไปแล้ว อยู่ห่างจากฉินหวานหว่าน หลีกเลี่ยงที่จะแข่งกับเธอ”  

 

 

“ตอนนี้ดูเหมือน เธอไม่ได้มีความสามารถเท่าฉินหวานหว่าน บางทีอาจจะสู้ต่อไปไหมไหว หนีไปเลยก็ได้”  

 

 

ตอนนั้นเองหลินเช่อได้รับโทรศัพท์จากซือถูฉยง  

 

 

เสียงเขาส่งผ่านมา “ผมอยู่หน้าบริษัทคุณ คุณออกมาหน่อย”  

 

 

หลินเช่อตกใจ รีบวิ่งออกไป  

 

 

และตรงหน้าประตู คนที่กำลังนินทาหลินเช่อว่าไม่มีความสามารถ ต่างพากันตกใจไปตามๆ กัน เมื่อเห็นหลินเช่อวิ่งออกไป หยุดลงที่รถคันหรูที่จอดอยู่หน้าบริษัท  

 

 

และเมื่อคนบนรถเดินลงมา ยิ่งทำให้ตกตะลึงกันยิ่งขึ้นไปอีก  

 

 

“ว้าว ไม่ใช่มั้ง นั่นซือถูฉยงใช่หรือเปล่า”  

 

 

“ซือถูอะไรนะ”  

 

 

“คุณชายฉยงไง เธอไม่เคยได้ยินเหรอ”  

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+