แสงแดดส่องลงสู่ท้องทะเลสีฟ้าทำให้เกิดประกายระยิบระยับ

　เรือขนาดใหญ่หลายลำลอยอยู่ในอ่าวเอเรียด ที่สวยงาม

　เรือขนาดใหญ่เชื่อมต่อกันด้วยสะพานและมีลักษณะเป็นเกาะใหญ่แห่งหนึ่ง

　บนเรือมีอาหารเรียงรายอยู่มากมาย และผู้คนมากมายก็พูดคุยกันระหว่างรับประทานอาหาร

　มาดูคนบนเรือกัน

　ทุกคนสวมเสื้อผ้าที่สวยงาม

　เครื่องประดับที่เธอสวมใส่ก็ดูหรูหราเช่นกัน

　ชิซึเฟะถอนหายใจขณะที่เธอมองดูผู้คนรอบตัวเธอ

“เฮ้ ชิซึจัง… ให้เราอยู่ที่นี่ได้ไหม?”

　แมดดี้ที่อยู่ถัดจากชิซึเฟถามอย่างเป็นกังวล

“มันคงจะดี… หากคุณสามารถเข้ามาที่นี่ได้จริง…”

　ชิซึเฟยังพูดอย่างกังวลใจอีกด้วย

　ชิซึเฟและคนอื่นๆ กำลังเข้าร่วมงานเลี้ยงเพื่อยกย่องกล้าแห่งแสงสว่าง

　เหตุผลก็คือเรย์จิเชิญชิซึเฟและคนอื่นๆ

　แน่นอนว่าชิซึเฟและคนอื่นๆ ต่างยินดีที่ได้เข้าร่วมเมื่อได้ยินว่าพวกเขาจะได้รับประทานอาหารสุดหรู

　อย่างไรก็ตาม ฉันเสียใจที่มาที่สถานที่จัดงาน

　มีราชวงศ์และขุนนางมากมายจากประเทศโดยรอบที่นี่

　ชิซึเฟสงสัยว่าพวกเราคนรับใช้จะเข้าร่วมได้ไหม

“ฉัน…มันไม่แปลกเหรอชิซึจัง?”

　แมดดี้แสดงเสื้อผ้าที่เธอใส่ให้ชิซุเฟะดู

　แมดดี้ในวันนี้ไม่ใช่รูปลักษณ์จอมเวทย์ตามปกติของเธอ สวมเสื้อผ้าที่สวยงาม

　เสื้อผ้าเป็นเสื้อผ้าหรูหราที่ยืมมาจากร้านค้า

　ชิซึเฟคิดว่าเสื้อผ้าสีน้ำเงินเป็นตัวแทนของความงามของเธอ แต่เธอก็ไม่แน่ใจ

“ถึงแม้คุณจะพูดแบบนั้น…ฉันก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน”

　ชิซึเฟก้มมองและตอบ

　ชิซึเฟยังยืมเสื้อผ้าหรูหรามาสวมใส่ด้วย

　ดังนั้นในแง่ของเสื้อผ้า เธอไม่ควรด้อยกว่าสตรีผู้สูงศักดิ์ที่อยู่รอบตัวเธอ

　อย่างไรก็ตาม เธอไม่รู้สึกสบายใจเพราะปกติแล้วเธอมักจะสวมเสื้อผ้าราคาถูก

　ในตอนแรกฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเสื้อผ้านั้นเหมาะกับฉันหรือไม่

“ไม่ ฉันคิดว่าชิซึเฟน่าจะมั่นใจมากกว่านี้ เธอเกือบจะเหมือนกับลูกสาวขุนนางเลย”

　เคร์น่าพูดขณะที่เธอมองไปที่ชิซึเฟที่ดูไม่มั่นใจ

　เคร์น่ายังสวมเสื้อผ้าที่หรูหราอีกด้วย

　เสื้อผ้าสีแดงดูดีสำหรับคุณ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีการเปิดเผยผิวหนังมากเกินไป เธอจึงดูเหมือนโสเภณี

“ใช่แล้ว ในหมู่พวกเรา ฉันคิดว่าชิซึเฟซังเป็นคนเดียวที่สามารถมั่นใจได้”

　เลเลียยกย่องชิซึเฟ

“อา ชิซึเฟควรจะมั่นใจนะ ไม่สังเกตเหรอ? มีผู้ชายหลายคนกำลังมองชิซึเฟอยู่”

“เอ๊ะ มันจะเป็นแบบนั้นไม่ได้…”

　ชิซึเฟมองไปรอบๆ ด้วยคำพูดของนอร่า

(ลองคิดดูก็รู้สึกเหมือนมีผู้ชายมองอยู่นะ จริงๆ แล้วมันน่าอายนะ)

　นั่นคือเวลา

　ชิซึเฟสบตาชายคนหนึ่ง

　เขาเป็นชายหนุ่มที่แต่งตัวดีมาก

　ผู้ชายเข้ามาใกล้

　หัวใจของชิซึเฟเต้นแรงอยู่ครู่หนึ่ง แต่แล้วเธอก็รู้ว่าชายคนนั้นคือใครและสงบลง

　เป็นผู้ชายที่ฉันเคยพบมาก่อน

“นี่ชิซึเฟไม่ใช่เหรอ? นานแล้วนะ”

　ผู้ชายทักทายกันอย่างสง่างาม

“โอ้ ท่านลอร์ดเดซิอุส… นานแล้ว ฉันไม่ได้สังเกตเห็นคุณเพราะคุณแต่งตัวแตกต่างไปจากปกติ”

　ชิซึเฟก็ทักทายเช่นกัน

　เดซิอุสเป็นนักบวชที่รับใช้ราชาเทพเจ้าโอดิส และเป็นอัศวินผู้รักษากฎหมาย

　เดซิอุสมาที่เมืองเธเซเซียที่เป็นอิสระในอดีตเพื่อสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

　ในเวลานั้น ชิซึเฟ และเพื่อนๆ ของเธอได้ร่วมมือกับการสืบสวนกับ เดซิอุส ตามคำขอของวิหาร เฟเรีย

　เรารู้จักกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

　ซิซึเฟเห็นเดซิอุส

　ปกติเขาดูเหมือนอัศวิน แต่ตอนนี้เขาดูเหมือนขุนนางแล้ว

　นั่นเป็นสาเหตุที่ฉันไม่สังเกตเห็นมันในตอนแรก

　ประการแรก เดซิอุสเป็นขุนนางที่แท้จริง

　เขามาจากครอบครัวที่มีชื่อเสียงในสาธารณรัฐอาร์เรียเดีย และไม่ใช่คนที่ชิซึเฟ ควรจะพูดคุยด้วยแบบสบายๆ ได้

　อย่างไรก็ตาม เดซิอุสสุภาพกับทุกคนและมีพฤติกรรมที่อ่อนโยน

　แม้ว่าเราจะสืบสวนด้วยกัน เราก็สามารถพูดคุยได้อย่างง่ายดาย

　เขามีหน้าตา ต้นกำเนิด และบุคลิกภาพที่ดี นั่นคือการประเมินเดชิอุส ของชิซึเฟ

　ซิซึเฟต้องการให้โนวิสทำตามแบบอย่างของท่านเดซิอุส

“ฉันก็เหมือนกัน ชิซึเฟตอนที่ฉันเห็นเธอ ฉันคิดว่าเธอเป็นคนแบบไหน เธอทำเสื้อผ้าพวกนั้นเองเหรอ?”

　เดชิอุสมองไปที่เสื้อผ้าของชิซึเฟแล้วพูดว่า

“ไม่ ไม่มีทาง… ไม่ว่าฉันจะเป็นผู้ศรัทธาจากท่านเฟเรีย มากแค่ไหนก็ตาม ฉันก็ไม่สามารถทำเสื้อผ้าแบบนี้ได้ สิ่งเหล่านี้เป็นของยืมมา มันไม่เหมาะกับคุณเหรอ?”

　ชิซึเฟโบกมือเป็นการตอบสนอง

　เฟเรีย เทพีแห่งการแต่งงานและการคลอดบุตร ยังเป็นเทพีแห่งการทอผ้าอีกด้วย

　นอกจากนี้ผู้ศรัทธาในเฟเรีย หลายคนสามารถสร้างเสื้อผ้าของตัวเองได้

　ในความเป็นจริง ในบ้านเกิดที่พังทลายของชิซึเฟ เป็นเรื่องปกติที่ผู้คนจะตัดเย็บเสื้อผ้าในชีวิตประจำวันและชุดเจ้าสาวของตนเอง

　ชิซึเฟยังเรียนรู้การตัดเย็บจากแม่ของเธอด้วย

　เธอยังคงเย็บและถักเสื้อผ้าของเธอเอง

　อย่างไรก็ตาม เสื้อผ้าที่ฉันใส่อยู่ตอนนี้เป็นเสื้อผ้าที่ยืมมาจริงๆ

“ไม่ มันเหมาะกับคุณมาก มันสวยมาก ชิซึเฟ ฉันไม่เคยคิดว่าเราจะได้พบกันที่นี่”

　เมื่อ เดชิอุสหัวเราะ ชิซึเฟรู้สึกว่าใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง

　ท้ายที่สุด เดชิอุสก็เป็นผู้ชายที่หล่อเหลา

　เขามีผมสีทอง ใบหน้าที่มีรูปร่างดี และหลังที่เรียวยาว

　มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะรู้สึกเขินอายถ้าคนแบบนี้ชมเชยเขาด้วยซ้ำ

“ใช่แล้ว ขอบคุณท่านผู้กล้าที่ทำให้ฉันมีส่วนร่วมได้”

　ชิซึเฟโค้งคำนับเพื่อซ่อนใบหน้าที่แดงก่ำของเธอ

“อา ชิซึเฟคุ้นเคยกับผู้กล้าแห่งแสง ดูเหมือนว่าพวกเขาจะยังไม่ได้พบกัน แต่ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนที่ยอดเยี่ยม”

“ใช่ ฉันไม่เคยพบสุภาพบุรุษที่ใจดี สวย และวิเศษเช่นนี้มาก่อน”

　เดซิอุสเป็นคนดี แต่ชิซึเฟคิดว่าเรย์จิเก่งกว่าเขา

　นั่นคือบุตรแห่งแสงสว่างอย่างแท้จริง

“ฮ่าๆ เข้าใจแล้ว ดูเหมือนว่าผู้กล้าแห่งแสงจะได้รับความนิยมในหมู่สาวๆ มาก”

　เดซิอุสพูดพร้อมกับหัวเราะ

　แต่ฉันรู้ว่ามีอารมณ์บางอย่างอยู่ในเสียงหัวเราะนั้น

　นั่นคือความอิจฉา

　ชิซึเฟรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย นี่เป็นเพราะเขาคิดว่าเดซิอุสจะไม่มีวันมีความรู้สึกด้านลบเช่นนี้

“ยังไงก็ตาม ชิซึเฟ คุณเคยเห็นผู้หญิงผมสีเงินหรือเปล่า?”

　จู่ๆ เดซิอุสก็ถามขึ้น

　ชิซึเฟจำได้ว่าเธอสับสนแค่ไหนเมื่อเห็นเดซิอุสครั้งแรก

“คุณคือผู้หญิงผมสีเงินใช่ไหม นั่นหมายความว่าเธอแก่แล้ว?”

“ไม่ ฉันคิดว่าเธออายุพอๆ กับชิซึเฟ ฉันคิดว่าเธอเป็นหญิงสาวจากบางประเทศ…”

“ไม่ ฉันไม่เห็นมันเลย”

“ฉันเข้าใจแล้ว… คนรับใช้ของเธอบอกว่าเธอมาพบผู้กล้า ฉันก็เลยคิดว่าเธออยู่ที่นี่… แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่อยู่ที่นี่”

　เดซิอุสดูผิดหวัง

“คุณเป็นผู้หญิงที่สวยมากใช่ไหม?”

“ใช่…นั่นคือเทพีแห่งแสงจันทร์จริงๆ…ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากจะพบเธออีกครั้ง”

　เมื่อ ชิซึเฟ ถาม เดชิอุส ก็มองไปในระยะไกลแล้วพูดว่า

　ชิซึเฟและคนอื่นๆ ทุกคนต่างประหลาดใจกับสถานการณ์นี้

(นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นเดซิอุสแบบนี้)

　ชายที่ซิซึเฟรู้จักนั้นมีชื่อเสียงในฐานะนักบวชโอดิสที่มีเชือกเส้นตรง

　ฉันไม่เคยคาดหวังว่าเดซิอุสจะทำหน้าแบบนี้

“ฉันรู้สึกประหลาดใจมาก… ฉันไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าสามีคนซื่อตรงของเดซิอุสจะทำหน้าแบบนั้น…”

“ฉันแปลกใจจริงๆ…”

　เคร์น่าและแมดดี้ พูดด้วยเสียงต่ำขณะมองไปที่ เดชิอุส

　ชิซึเฟก็รู้สึกแบบเดียวกับพวกเขาสองคนเช่นกัน

(ท่านเดซิอุสอาจจะตกหลุมรักหญิงสาวผมสีเงินตั้งแต่แรกพบ ผู้หญิงแบบนี้จะดูเป็นคนแบบไหนต่อท่านเดซิอุส ผู้จริงจังมาก และไม่มีอะไรน่าสนใจจะพูดถึง?)

　จากข้อมูลของ ชิซึเฟ ผู้หญิงหลายคนจากครอบครัวที่มีชื่อเสียงติดต่อ เดชิอุส

　อย่างไรก็ตาม ฉันได้ยินมาว่า เดชิอุส ปฏิเสธทุกอย่างเพราะเขาอยู่ระหว่างการฝึก

　เนื่องจากท่านเดซิอุสหลงรักผู้หญิงคนนี้ จึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะต้องสงสัยว่าเธอจะเป็นผู้หญิงแบบไหน แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ซิซึเฟ่ก็ตาม

“อา… ขอโทษนะ ชิซึเฟ ฉันแสดงท่าทางเขินอายให้คุณเห็นแล้ว”

　เดซิอุสไอและเปลี่ยนใบหน้าให้เป็นปกติ

“ไม่…ไม่จริง…ถูกต้อง ถ้าฉันเห็นผู้หญิงคนนั้น ฉันจะตะโกนให้เธอฟัง”

“ขอบคุณนะชิซึเฟ ตอนนี้ฉันต้องกล่าวสวัสดีท่านผู้กล้า ดังนั้นได้โปรดขอโทษด้วย”

“อา อย่างนั้นเหรอ? ในกรณีที่เรายังไม่ได้ทักทายท่านเรย์จิเลย เป็นไปได้ไหมถ้าฉันเข้าร่วมกับคุณ? ทุกคนก็คงสบายดีเหมือนกันใช่ไหม?”

　ชิซึเฟมองไปข้างหลังเธอแล้วถามเพื่อนๆ ของเธอ ทุกคนเห็นด้วย

“แน่นอน ไม่เป็นไร งั้นเราไปกันเถอะ”

　ด้วยวิธีนี้ ชิซึเฟ และ เดชิอุส จึงมุ่งหน้าไปยังสถานที่ของผู้กล้าด้วยกัน

◆

　สาธารณรัฐอาเรียเดียเริ่มต้นด้วยท่าเรือที่สร้างขึ้นบนเกาะเล็กเกาะน้อยจำนวนหนึ่งที่ปากแม่น้ำคีช

　อ่าวเอเรียด มีน้ำตื้นจำนวนมาก ดังนั้นจึงมีสัตว์ประหลาดทะเลเพียงไม่กี่ตัวที่สามารถเป็นศัตรูกับมนุษย์ได้ และสัตว์ประหลาดบนบกจะไม่รุกรานโดยการข้ามทะเล

　ผู้คนมากมายมารวมตัวกันที่ป้อมปราการธรรมชาติแห่งนี้ และสร้างประเทศโดยเชื่อมต่อเกาะต่างๆ ด้วยสะพาน

　นี่คือสาธารณรัฐอาเรียเดียในยุคแรก

　หลังจากนั้นสาธารณรัฐอาเรียเดียก็ขยายพื้นที่ภายในประเทศและถึงขนาดปัจจุบัน

　นอกจากนี้ สาธารณรัฐอาเรียเดียยังตั้งอยู่ที่จุดยุทธศาสตร์ด้านการคมนาคมขนส่งบนพรมแดนระหว่างตะวันออกและตะวันตกของทวีป ซึ่งเจริญรุ่งเรืองผ่านการค้าทางเรือในแม่น้ำคีช และอ่าวเอเรียด และปัจจุบันเป็นหนึ่งในมหาอำนาจที่ใหญ่ที่สุดในโลก

　และปัจจุบันมีเรือขนาดใหญ่จำนวนมากลอยอยู่ในอ่าวเอเรียด

　เรือขนาดใหญ่ผูกติดกันที่ส่วนท้าย ให้ความรู้สึกเหมือนสร้างเกาะเทียมขึ้นมา

　มีคนมากมายขึ้นๆ ลงๆ บนเรือ แต่เรือไม่เคยจม

　เนื่องจากก้นเรือได้จมลงสู่พื้นมหาสมุทรแล้ว

　เป็นไปได้เพราะมีน้ำตื้นบริเวณนี้

　มีอาหารเลิศรสมากมายเสิร์ฟบนโต๊ะบนเรือแต่ละลำ

　ชายหน้าตาสวยคนหนึ่งมาหาชิยูกิและรินเครื่องดื่มให้เธอ

　ดูจากสีแล้วน่าจะเป็นไวน์ผลไม้นะ

“ขอบคุณ”

　ชิยูกิขอบคุณผู้ชายที่เทมันให้เธอ

“เสียคำพูดจริงๆ ท่านชิยูกิ ปราชญ์ผมดำ”

　ชายคนนั้นโค้งคำนับอย่างสง่างามแล้วจากไป

　ชิยูกิคาดเดาว่าเขาน่าจะเป็นสาวกของอควาริโอ เทพผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของน้ำหวาน เทพแห่งไวน์

　ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามีสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์เป็นรูปขวดน้ำอยู่บนหน้าอกของเขา

　อควาริโอเป็นเทพเจ้าที่จัดการเครื่องดื่มและเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร และทำหน้าที่เป็นบริกรในวังสวรรค์

　เขายังเป็นเทพเจ้าของคนรับใช้ชาย และภรรยาของเขาคือไมเดรีย เทวดาผู้พิทักษ์ของคนรับใช้หญิงผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของเทพธิดาเฟเรีย

　นอกเหนือจากหน้าที่ปกติของเขาแล้ว กล่าวกันว่า อควาริโอ ยังทำงานเป็นเลขานุการของโอดิส และ เนสเตอร์

　ความหลากหลายของมันถือได้ว่าเป็นเฟเรียเวอร์ชั่นผู้ชาย

　เนื่องจากอาชีพของเขา อควาริโอ จึงถูกเรียกว่าเทพเจ้าแห่งบัตเลอร์

　อควาริโอยังเป็นเทพที่รู้จักจากชายหนุ่มรูปงาม เช่นเดียวกับเทพอัลฟอส

　มีผู้ชายสวยๆ มากมายในหมู่ผู้ศรัทธา ซึ่งทำให้ชิยูกิพอใจ

“เขาเป็นชายหนุ่มที่สวยมากจริงๆ ชิยูกิซัง”

　นาโอะตะโกนเรียกชิยูกิจากข้างๆ ด้วยท่าทีขี้เล่น

“ไม่เป็นไร นาโอะซัง มันเป็นงานฉลองสำหรับพวกเรา”

　ชิยูกิตอบขณะถือถ้วย

“แต่ท่านเรย์จิเป็นคนดีกว่านะ”

　ยูเรียที่เดินกับฉันพูด

　ด้วยเหตุผลบางอย่าง ยูเรียจึงแสดงร่วมกับชิยูกิและคนอื่นๆ

“ยูเลียซัง ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่กับฉันล่ะ?”

　ชิยูกิพูดด้วยสายตาเย็นชา

“นั่นสินะ… หนาวนะชิยูกิซัง ฉันไม่รังเกียจถ้าคุณจะอยู่กับฉัน เรย์จิ?”

　ยูเรียพูดขณะกอดแขนของเรย์จิ

“โอ้ ฉันไม่สนหรอก จะดีกว่าถ้ามีผู้หญิงมากกว่านี้”

　เรย์จิพูดด้วยรอยยิ้ม

(เอาล่ะ คุณสบายดี)

　ชิยูกิสาปแช่งอยู่ในใจ

　ไม่ใช่แค่ยูเรียเท่านั้น แต่ยังมีสาวๆ อีกหลายคนที่ติดตามเรย์จิอยู่

　ฉันเห็นริโนะและซาโฮโกะทำหน้าแปลกๆ เมื่อเห็นสิ่งนี้

“ว่าไง ชิโรเนะซังจะโอเคไหม?”

　เคียวกะที่เดินร่วมกับชิโรเนะกำลังกังวลเรื่องชิโรเนะ

　ชิโรเนะเมาและถูกเรจิน่าพาไปก่อนหน้านี้

　นี่เป็นสิ่งที่หายากมาก

　ปกติแล้วชิโรเนะไม่เมา

　ชิยูกิและคนอื่นๆ สามารถควบคุมความเมาสุราได้ด้วยพลังเวทย์มนตร์

　นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เคียวกะซึ่งไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้อย่างเหมาะสม กลับกลายเป็นเมาเหล้า

　ดังนั้นภายใต้สถานการณ์ปกติ ชิโรเนะจะไม่มีวันเมา

　อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้อย่างเหมาะสมและเมามาย

　คงเป็นเรื่องน่าตกใจที่เห็นเพื่อนสมัยเด็กของเขาจากไป

“จริงสิ… ปกติแล้วเคียวกะจะเป็นคนแรกที่เมา”

　นาโอะมองเคียวกะแล้วพูดแปลกๆ

　โดยปกติแล้วเคียวกะจะเมา แต่ชิโรเนะไม่เมา แต่ครั้งนี้กลับตรงกันข้าม

“ใช่ นี่เป็นการขอบคุณคุโรกิซังด้วย ฉันอยากพบคุณอีกครั้ง”

　เคียวกะพูดด้วยสีหน้าฝัน

　เคียวกะสามารถใช้เวทย์มนตร์ได้แล้ว

　นี่เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ

　ไม่ว่าชิยูกิจะสอนเขากี่ครั้ง เขาก็ไม่เคยพัฒนาเลย

(ดูเหมือนฉันจะไม่ถูกตัดขาดในการสอน ฉันยอมรับว่าฉันเป็นคนใจร้อนนิดหน่อย แต่ก็รู้สึกหดหู่เล็กน้อยเมื่อมีคนเรียนรู้อะไรง่ายๆ นาโอะซังและคายะซังบอกว่าแค่เราไม่ ไม่เข้ากันแต่ก็จริง จริงมั้ย?)

　จากคำบอกเล่าของชิยูกิ เพื่อนสมัยเด็กของชิโรเนะใจดีกับเคียวกะมาก และไม่เคยดุเธอแม้ว่าเธอจะทำผิดพลาดก็ตาม

　ชิยูกิคิดว่าเคียวกะอาจเป็นคนประเภทที่เติบโตมาด้วยการชมเชยเธอ และเสียใจที่เธอควรจะใจดีกับเธอมากกว่านี้แทนที่จะดุเธอ

“หยุดนะเคียวกะ ฉันจำใบหน้าของเขาได้ไม่มาก แต่ฉันมั่นใจว่าเขาเป็นคนลามกบูดบึ้ง”

　เรย์จิพูดอะไรบางอย่างที่โหดร้าย

　ถ้าชิโรเนะอยู่ที่นี่ ฉันแน่ใจว่าเธอจะต้องโกรธ

“นั่นเป็นความจริงอย่างแน่นอน…”

　อย่างไรก็ตาม เคียวกะก็เห็นด้วย

　ชิยูกิแทบจะเป็นลมเมื่อได้ยินสิ่งนี้

　ฉันอยากจะเตือนเขาว่าอย่าพูดอะไรที่ไม่ดีเกี่ยวกับผู้มีพระคุณของเขาที่สอนเวทมนตร์ให้เขา

“ฉันก็ว่าอย่างนั้น มันแตกต่างออกไปถ้าคุณเต็มใจทำสิ่งที่น่ารังเกียจกับฉัน แต่ถ้าคุณไม่ทำ ฉันคิดว่าอยู่ห่างจากคุณจะดีกว่า”

“ฉันเข้าใจแล้ว ท่านพี่ คุณพูดถูก”

　เคียวกะยังพยักหน้าและพูด

(ไม่ได้บอกว่าอยากเจออีกหรือเตรียมตัวไว้แล้ว?)

　จู่ๆ ชิยูกิก็คิดถึงเรื่องนี้

“แต่ฉันก็ผิดหวังนิดหน่อยนะชิโรเนะซัง มันเป็นงานปาร์ตี้ที่วุ่นวาย”

　ริโนะพูดอย่างเสียใจ

“ไม่ ท่านริโนะ นั่นอาจจะดีกว่าสำหรับท่านชิโรเนะ”

　คายะที่ยืนอยู่ด้านหลังเคียวกะ มองไปยังทิศทางที่ชิโรเนะถูกพาตัวไปแล้วพูด

　เรือลำหนึ่งลอยออกจากเรือลำใหญ่ที่ผูกติดกับทะเลซึ่งอยู่ไกลออกไปเล็กน้อย

　มีหลังคาอยู่เหนือเรือ และด้านในถูกซ่อนไว้ด้วยผ้าไหมบางๆ ไม่ให้ใครเห็น

　ในนั้นลิซาร์ดแมนน่าจะมีคนอยู่ตรงนั้น

　เพื่อพิชิตเขาวงกตลิซาร์ดแมนพวกเขาก็กระตือรือร้นเช่นกัน ดังนั้น เรจิน่าจึงนำพวกเขาเข้ามา

　แต่ในลิซาร์ดแมนถ้าเราอยู่ที่นั่นคงเกิดความโกลาหล เลยจัดปาร์ตี้บนเรือที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อย

“ทำไมฉันต้องไปที่นั่นล่ะ คายะซัง”

　ริโนะถามอย่างสงสัย

　ชิยูกิยังสงสัยว่าทำไมเธอถึงพูดแบบนั้น

“ไม่ เรากำลังพูดถึงเรื่องนี้ ดูเหมือนว่านายพลจะมาถึงก่อนเวลานั้น”

　เมื่อชิยูกิมองไปในทิศทางที่คายะเอ่ยถึง ครัสซัส นายพลแห่งสาธารณรัฐอาเรียเดียก็มา

“เป็นยังไงบ้าง ผู้กล้าสนุกมั้ย?”

“ครับ ท่านนายพล ครัสซัส ผมกำลังสนุก แล้วคนที่อยู่กับผมคือใคร?”

　ครัสซัส ไม่ได้อยู่คนเดียว แต่มีคนสองคนอยู่ข้างหลังเขา

　คนหนึ่งเป็นหญิงอ้วนวัยกลางคนสวมเสื้อผ้าและเครื่องประดับหรูหรา

　อีกคนหนึ่งเป็นชายวัยกลางคนที่สวมเสื้อผ้าเรียบๆ แต่ค่อนข้างหล่อ

“อา ชิยูกิ ฉันขอแนะนำให้รู้จัก สองคนนี้เป็นผู้นำด้านการเมืองและการเงินของประเทศเรา”

　ครัสซัส ย้ายไปด้านข้างและแนะนำทั้งสอง

“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้พบคุณ ผู้กล้าแห่งแสง ฉันชื่อทูเรีย ฉันเป็นประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมของประเทศนี้ โฮ้โฮ้โฮ้”

　ผู้หญิงอ้วนที่เรียกตัวเองว่าทูเรียทักทายชิยูกิและคนอื่นๆ

　ประธานหอการค้าหมายความว่าเขาเกี่ยวข้องกับวิหารเฮย์บอส

　อันที่จริง ทูเรียมีเครื่องประดับค้อนอันเล็กๆ ที่บ่งบอกว่าเธอเป็นผู้ศรัทธาในเฮย์บอส

　เทพเจ้าแห่งสมบัติ เฮย์บอสเป็นเทพเจ้าที่พ่อค้าบูชา

　เดิมที เฮย์บอส เป็นเทพเจ้าของคนแคระและช่างฝีมือ และไม่มีบุคลิกเหมือนเทพเจ้าเชิงพาณิชย์

　อย่างไรก็ตาม พ่อค้าจำนวนมากที่ต้องการเป็นเพื่อนกับคนแคระที่ผลิตสินค้าคุณภาพสูงและเป็นเจ้าของเหมืองจำนวนมาก กลายเป็นผู้ติดตามเฮย์บอส

　เป็นผลให้เทพเจ้า เฮย์บอส กลายเป็นเทพเจ้าแห่งการค้า

　ค้อนที่เทพเจ้า เฮย์บอส ถือไว้นั้นว่ากันว่าเป็นค้อนที่เมื่อตีแล้วจะทำให้เกิดสมบัติทองและเงิน

　พ่อค้ามักนิยมพกของประดับตกแต่งด้วยค้อนหลังจากนี้

“ ประธานหอการค้าเป็นผู้ศรัทธาใน เฮย์บอส หรือไม่”

“ครับ ท่านนักปราชญ์ ฉันเป็นผู้ติดตามของคเวเรีย เทพีแห่งการค้า ผู้รับใช้เฮย์บอสผู้ยิ่งใหญ่ ปรมาจารย์แห่งสมบัติใต้ดิน”

　เมื่อทูเรียหัวเราะ เครื่องประดับที่เธอใส่ก็สั่นไหว

　เทพธิดา คเวเลีย เป็นเทพธิดาที่รับใช้เทพเจ้า เฮย์บอส และควบคุมวัสดุและสิ่งของสำหรับงานฝีมือ

　เนื่องจากเขาเป็นเทพแห่งวัสดุและการจัดการวัสดุ เราจึงมักจะคิดว่าเขาเป็นเทพแห่งพนักงานคลังสินค้า แต่สิ่งของที่เขาจัดการยังรวมถึงเหรียญเช่นทองคำและเงินด้วย

　จากนั้นผู้ศรัทธาใน คเวเลีย ก็ให้ยืมเหรียญที่พวกเขาเก็บไว้และรวบรวมดอกเบี้ย

　กล่าวอีกนัยหนึ่งเทพธิดา คเวเลีย เป็นเทพเจ้าแห่งการธนาคารและการเงิน

　วิหาร คเวเลีย มักสร้างขึ้นติดกับวิหาร เฮย์บอส และยังทำหน้าที่เป็นคนแลกเงินอีกด้วย

　ในโลกนี้ แต่ละประเทศและแม้แต่บุคคลก็สามารถสร้างรายได้ได้

　ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีร้านรับแลกเงิน

　อย่างไรก็ตาม น้ำหนักและการวัดอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นเหรียญทูคัม ของ สาธารณรัฐอาเรียเดีย

　ร้านแลกเปลี่ยนเงินไม่เพียงแต่ต้องสามารถระบุเหรียญที่ด้อยกว่าได้เท่านั้น แต่ยังต้องมีทักษะในการประเมินปริมาณทองคำและเงิน ซึ่งเป็นพื้นฐานในการกำหนดอัตราส่วนการแลกเปลี่ยนของแต่ละสกุลเงิน

　แน่นอนว่าสิ่งนี้ทำโดยคนแคระที่ถูกคนรับแลกเงินขอให้ทำ

　ท้ายที่สุดแล้ว คนแคระสามารถตัดสินปริมาณทองคำและเงินได้เพียงแค่สัมผัสมัน

　เช่นเดียวกับเทพเจ้า คนแคระ และผู้เชื่อของ คเวเลีย อาจกล่าวได้ว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิด

“เช่นกัน ท่านชิยูกิ ทูเรียก็เป็นสมาชิกวุฒิสภาของประเทศเราด้วย”

　ครัสซัส อธิบายเกี่ยวกับเธอจากข้างๆ ชิยูกิ

　วุฒิสภาก็เหมือนกับสภาไดเอทในญี่ปุ่น

　อย่างไรก็ตาม สมาชิกวุฒิสภาไม่มีวาระการดำรงตำแหน่ง แต่จะทำหน้าที่ตลอดชีวิต ต่างจากสมาชิกสภาไดเอท

　ในโลกนี้ ไม่มีการแบ่งแยกคริสตจักรและรัฐ และกลุ่มศาสนาก็มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างเปิดเผยในกิจการทางโลก

　ไม่ใช่เรื่องแปลกที่บุคคลสำคัญทางศาสนาจะดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่สำคัญ และนักการเมืองหญิงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเช่นกัน

　จริงๆ แล้ว มีราชินีมากมายทั่วโลก

　ในโลกนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้หญิงจะก้าวเข้าสู่สังคม และไม่มีปัญหาสำหรับผู้หญิงที่จะเข้าร่วมงานเลี้ยงดังกล่าว

　ไม่ใช่เพราะแนวคิดเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ แต่เป็นเพราะผู้ชายมีอัตราการเสียชีวิตที่สูงกว่า

　ในโลกนี้ที่มีสัตว์ประหลาดมากมาย ผู้ชายถูกคาดหวังให้เป็นนักรบ

　ผู้ชายทำไร่นาและต่อสู้กับสัตว์ประหลาดนอกกำแพงเมือง ในขณะที่ผู้หญิงทำงานภายในกำแพง

　นอกกำแพงเมืองมีสัตว์ประหลาดมากมายและมันอันตราย ดังนั้นอัตราการตายจึงสูง

　ความจริงก็คือครึ่งหนึ่งของผู้ที่เกิดเป็นผู้ชายตายเพราะสัตว์ประหลาด

　ดังนั้นอัตราส่วนชายต่อหญิงในโลกนี้คือ 1:2

　ในพื้นที่ที่มีมอนสเตอร์มากกว่า อัตราส่วนของผู้หญิงจะอยู่ที่ประมาณ 1:3

　ในกรณีนี้ผู้ชายไม่สามารถบริหารจัดการประเทศโดยลำพังได้อีกต่อไป ผู้หญิงจึงก้าวหน้าในสังคมได้

　อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องปกติที่ผู้ศรัทธาในเฟเรียจะอยู่บ้าน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ค่อยออกมาข้างนอกเมื่อมีสามีอยู่ด้วย

　อย่างไรก็ตาม ทูเรียซึ่งไม่ใช่ผู้ศรัทธาของเฟเรีย มักจะปรากฏตัวในสถานที่เช่นนี้

“ฉันชื่อนาคิอุส  ผู้กล้าแห่งแสง ฉันรับใช้ลอร์ดโอดิส ราชาแห่งเทพเจ้า”

　ชายวัยกลางคนอีกคนทักทายฉัน

“นาคิอุส …? บางทีอาจจะเป็นนาเซียส เพอริเคลตุส สมาชิกวุฒิสภาหมายเลขหนึ่ง?”

　ชิยูกิเห็นชายวัยกลางคนที่เรียกตัวเองว่านาคิอุส  

　บุรุษที่ 1 หมายถึง สมาชิกวุฒิสภาคนแรก

　“บุคคลที่หนึ่ง’’ เป็นเพียงตำแหน่ง แต่คำพูดของบุคคลที่ถือตำแหน่งนี้มีน้ำหนักมาก และ นาคิอุส  อาจกล่าวได้ว่าเป็นผู้นำโดยพฤตินัยในการเมืองของประเทศนี้

　และนาเซียสเป็นทายาทของเพอริเคลตุส หนึ่งในผู้ก่อตั้ง 12 คนดั้งเดิมของประเทศนี้

　ในโลกนี้นามสกุลไม่ได้ถูกกำหนดไว้ชัดเจน

　เมื่อแนะนำตัวเอง เป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะพูดเช่น ลูกของ ○○ △△ และลูกของ △△ ที่จะเรียกตัวเองว่า △△ ลูกของ □□

　นอกจากนี้เวลามีคนชื่อเดียวกันก็มักจะให้ชื่อเล่นด้วย

　ตัวอย่างเช่น ผมสีดำ ○○ หรือผมสีน้ำตาล △△

　ปราชญ์ผมสีดำของชิยูกิ ก็เป็นชื่อเล่นเช่นกัน

　เมื่อเวลาผ่านไป ผู้ที่มีผมสีดำอาจใช้นามสกุลเป็นสีดำ และผู้ที่มีผมสีน้ำตาลอาจใช้นามสกุลเป็นสีน้ำตาล แต่ก็ยังไม่ถึงจุดที่สามารถเรียกว่านามสกุลได้

　นอกจากนี้ลักษณะทางกายภาพ เช่น “จิบิ” หรือ “นพโปะ” อาจใช้เป็นชื่อเล่นได้ หรือสำหรับชาวต่างชาติอาจใช้สถานที่เกิดเป็นชื่อเล่นก็ได้

　แน่นอนว่ายังไม่มีใครสามารถเรียกนามสกุลได้

　นาคิอุส  เพอริเคลตุส เป็นข้อยกเว้นสำหรับเรื่องนี้

　ตระกูล เพอริเคลตุส ตั้งชื่อตามรุ่นแรก ไม่ใช่ตามชื่อบิดา

　ชิยูกิคิดว่ามันอาจจะโอเคที่จะเรียกนามสกุลนี้

　และคนที่มีนามสกุลดังกล่าวก็ถือว่าอยู่ในตระกูลที่มีชื่อเสียง

　ตามที่ชิยูกิได้ยินมา มีกงสุลหลายคนจากตระกูลเพอริเคิลทัส

　ตระกูล เพอริเคลตุส ยังเป็นตระกูลนักบวชที่รับใช้เทพเจ้า โอดิส มาหลายชั่วอายุคน

　สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ของโอดิสบนหน้าอกของเขาเป็นข้อพิสูจน์เรื่องนี้

　สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ของโอดิสคือวงกลมที่มีไม้กางเขน รูปร่างเดียวกับตราประจำตระกูลซัตสึมะ-ชิมะสึ

　สิ่งนี้เรียกว่าวงล้อแห่งดวงอาทิตย์ และสัญลักษณ์นี้ยังใช้นอกประเทศญี่ปุ่นด้วย

　ในโลกนี้มันเป็นสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้ากษัตริย์โอดิส

“โอ้ ฉันแปลกใจมากที่มีคนสวยอย่างปราชญ์ผมดำรู้จักฉัน ฉันชื่อ นาคิอุส  เพอริเคลตุส ฉันอยากจะแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อคุณที่ช่วยกอบกู้ประเทศของเรา”

　นาคิอุส  หัวเราะและก้มศีรษะ

　ชิยูกิมองดูนาคิอุส  โดยคิดว่านี่เป็นเรื่องผิดปกติสำหรับผู้ศรัทธาชาวโอดิส

　นี่เป็นเพราะฉันคิดว่าผู้ศรัทธาในโอดิสจริงจังและจะไม่ยกยอฉัน

　อย่างไรก็ตาม ฉันไม่มีอะไรจะพูดเพราะว่าฉันน่ารักมากกว่าอย่างแน่นอนเมื่อเทียบกับคนที่เข้มงวดเกินไป

　ชิยูกิมองดูคนสามคนที่เป็นบุคคลสำคัญในประเทศนี้

　นี่คือชั้นเรียนทหาร ทูร่า แห่งการเงิน ผู้คนที่เคลื่อนไหวเอเรียดเน่ ซึ่งเป็นนาคิอุส  ทางการเมืองได้รวมตัวกันที่นี่

“พ่อ!!”

　มีคนมาจากด้านหลัง ครัสซัส และคนอื่นๆ

　เมื่อมองดูก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งและผู้หญิงอีกหลายคนเดินมาข้างหลังเขา

　นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นหน้าชายหนุ่ม แต่ใบหน้าของผู้หญิงกลับคุ้นเคย

“โอ้ นั่นสินะ ชิซึเฟซังและคนอื่นๆ เธออยู่กับใคร?”

“ฉันสงสัยว่าจริงๆ แล้วเขาเป็นใคร เขาเป็นคนดีทีเดียว”

　อย่างที่นาโอะและริโนะพูด นั่นคือชิซึเฟและคนอื่นๆ ที่มากับชายหนุ่ม

“โอ้ เดชิอุส มาแล้วเหรอ? ให้ฉันแนะนำหน่อยเถอะ ผู้กล้า นี่คือเดชิอุส ลูกชายของฉัน”

　นาคิอุสแนะนำชายหนุ่ม

　ชายหนุ่มชื่อเดชิอุสมีดวงตาสีน้ำตาลและผมสีบลอนด์

　เขามีใบหน้าที่ดูดีและมีรูปร่างเพรียวและสูง

　เขาเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างหล่อเหมือนกับเรย์จิ อย่างไรก็ตาม เขาดูจริงใจไม่เหมือนกับเรย์จิ

“นี่คือเดซิอุส ท่านเรย์จิ ผู้กล้าแห่งแสงสว่าง ขอบคุณที่ช่วยสาธารณรัฐอาเรียเดีย”

　เดซิอุสทักทายพวกเขาอย่างสุภาพ

“สวัสดีชิซึเฟจัง ยินดีที่ได้พบคุณที่นี่ ชุดนั้นเหมาะกับคุณมาก คุณดูเหมือนเจ้าหญิงจริงๆ”

　เรย์จิเมินเดซิอุสและคุยกับชิซึเฟ

“ฉัน… ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณ!!”

　อย่างไรก็ตาม ชิซึเฟ ซ่อนตัวอยู่ข้างหลัง นาคิอุส  

　ชิยูกิบอกได้เลยว่าเธอกลัวมากกว่ามีความสุขที่เรย์จิชมเธอ

　เมื่อฉันมองไปด้านข้าง ยูเรียและผู้หญิงคนอื่นๆ ยกเว้นฉัน นาโอะ และริโนะ กำลังจ้องมองชิซึเฟด้วยสายตาที่น่ากลัว

　ถ้าเป็นเด็กธรรมดาคงน่ากลัว

“เฮ้…นั่นคือชิซึเฟซังเหรอ? ฉันสงสัยว่าคุณมีความสัมพันธ์แบบไหนกับท่านเรย์จิ”

　ยูเรีย น่าทึ่งมากที่ ชิซึเฟ

　อย่างที่คาดไว้ พ่อของเขาเป็นเทพเจ้าที่ชั่วร้าย ดังนั้นมันจึงน่าประทับใจมาก ชิยูกิสงสัยว่าในที่สุดเขาจะมีเขางอกขึ้นมาบนหัวของเธอหรือไม่

“ไม่ นั่น…”

　ชิซึเฟ มีขนาดเล็กลงตามหลัง เดชิอุส มันดูน่าสงสารนิดหน่อย

“ฮ่าๆๆ ดูเหมือนเป็นตามข่าวลือเลย ผู้กล้าดูจะได้รับความนิยมจากสาวๆ สวยๆ นะ”

　เดชิอุส ยืนอยู่ตรงหน้า ชิซึเฟ และหัวเราะ

　เป็นรอยยิ้มที่สดชื่น

　และในขณะที่ปกป้องชิซึเฟ เขาก็ยกย่องยูเรียและคนอื่นๆ อย่างไม่เป็นทางการ

　เมื่อเห็นรอยยิ้มนั้น ฉันจึงเห็นว่าความโกรธของยูเรียและคนอื่นๆ บรรเทาลง

　เนื่องจากเขามีหน้าตาดีเอฟเฟกต์จึงโดดเด่น

“เดซิอุส ทำไมไม่ทำตามแบบผู้กล้าสักหน่อยล่ะ? ถึงอายุมากแล้วก็ยังโสดอยู่นะ ท่านผู้กล้า ถ้าไม่รังเกียจ มีใครดีกว่านี้ไหม ช่วยแนะนำฉันหน่อยสิ” ถึงลูกชายของฉัน ฮะ?”

　นาคิอัสพูดพร้อมกับถอนหายใจ

　ในโลกนี้ ผู้คนมักจะแต่งงานกันในช่วงวัยรุ่นตอนกลางถึงตอนปลาย

　จากสิ่งที่ชิยูกิเห็น เดซิอุสดูเหมือนเขาอายุยี่สิบต้นๆ

　ในโลกของชิยูกิ มันไม่สายเกินไป แต่ตามมาตรฐานของโลกนี้ มันช้า

(ถ้าเป็นทายาทที่ดีๆคงหาง่ายหรืออาจจะเป็นเกย์?)

　ชิยูกิสังเกตเห็นเดซิอุสและคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้

“พ่อ…ผมยังอยู่ในช่วงฝึกอยู่ คู่ของผมใจดีมาก…”

　เดซิอุสดูลำบากใจ

“หืม? ท่านเดชิอุส ไม่มีผู้หญิงที่ท่านสนใจเหรอ?”

“เฮ้ เคร์น่านี่!!!”

　ชิซึเฟ ตื่นตระหนกกับคำพูดของผู้หญิงที่อยู่เบื้องหลัง เดชิอุส

“จริงเหรอเดชิอุส?”

　นาคิอัสถามลูกชายด้วยความประหลาดใจ

“ไม่… คือ… ฉันแน่ใจว่าฉันอยากรู้ แต่…”

　เดซิอุสดูเหมือนจะพูดยาก

“นี่เป็นเรื่องผิดปกติ ลอร์ดเดชิอุสมีลูกสาวคนหนึ่งที่เขาสนใจ”

“ถูกต้อง ทูเรีย ฉันไม่เคยคิดเลยว่าผู้หญิงแบบนี้จะปรากฏต่อลอร์ดเดซิอุส ผู้จริงจังขนาดนี้และปฏิเสธข้อเสนอการแต่งงานทั้งหมด…”

　ทูเรีย และ ครัสซัส ก็พูดด้วยสีหน้าประหลาดใจเช่นกัน

“โอ้ลูกเอ๋ย เจ้าสนใจสาวคนไหน?”

　อย่างไรก็ตาม เดชิอุส ส่ายหัวกับคำพูดของพ่อ

“ผมไม่เข้าใจครับพ่อ เมื่อคืนผมเจอคุณแค่ครั้งเดียว…”

“หือ? บังเอิญเจอผู้หญิงสวยและตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น?”

“เฮ้ เธอไม่สวยจริงๆเหรอ?”

　นาโอะและริโนะฟังอย่างมีความสุข

“ใช่ นั่นเป็นเทพธิดาจริงๆ”

　เดซิอุสเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าแล้วพูดว่า บางทีอาจจะนึกถึงช่วงเวลานั้นก็ได้

“ฉันอยากรู้เรื่องนั้น เธอมาหาฉันใช่ไหม? แล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะ ฉันอยากเจอเธอ”

　เรย์จิพูดพร้อมกับหัวเราะ

　ชิยูกิสับสนกับคำพูดเหล่านั้น

(คุณกำลังพยายามขโมยความรักของ เดชิอุส หรือไม่? เรย์จิมีความงามที่ไม่มีใครเทียบได้ เรน่าแต่นั่นยังไม่เพียงพอหรือ?)

　ชิยูกิคิดว่าเมื่องานเลี้ยงนี้จบลง คงจะดีกว่าถ้ากลับไปที่สาธารณรัฐเซนต์เลนาเรียและปิดผนึกประตูเทเลพอร์ต

“ก๊ายยยยย!!”

　ในขณะนั้นก็มีเสียงกรีดร้องดังดังมาจากระยะไกล

“เกิดอะไรขึ้น!!”

　ครัสซัส เปล่งเสียงอันดังและมุ่งหน้าไปตามทิศทางของเสียงกรีดร้อง

(น่าจะมีคนบันเทิงอยู่ที่นั่นที่ได้รับเชิญไปร่วมงานเลี้ยง เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?)

　ชิยูกิและคนอื่นๆ ติดตาม ครัสซัส และมุ่งหน้าไปที่นั่น

　ดูเหมือนมีบางอย่างเกิดขึ้น