ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ — I Woke Up Piloting the Strongest Starship, so I Became a Space Mercenary 209 ระดมยิงเลเซอร์

Now you are reading ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ — I Woke Up Piloting the Strongest Starship, so I Became a Space Mercenary Chapter 209 ระดมยิงเลเซอร์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

209 ระดมยิงเลเซอร์

ตู้ม! แสงของดาวที่เป็นเส้นสายทั่วเราเหมือนลูกธนูกลับไปอยู่เฉยๆหลังจากเสียงดังสนั่นลั่นหู

“หน่วยขับครส.เลิกใช้งาน กำลังคำนวณพิกัดเข้าชั้นบรรยากาศสู่ตำแหน่งเป้าหมาย!”

”ได้เลย ทุกคนทำให้มั่นใจว่ากินน้ำเยอะๆก่อนจะดำเนินการไปทำการเข้าชั้นบรรยากาศ มีสารสนเทศเกี่ยวกับตำแหน่งเป้าหมายมั้ย มีมิ?”

“ค่ะ อืม…… เจอแล้ว หนูจะเอามันขึ้นจอ”

มีมิใช้งานเครื่องต้นทางเธอและแสดงสารสนเทศเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตอันตรายที่กำลังโจมตีคนโคโลนี่โคแม็ต III ขึ้นมาบนจอห้องนักบิน

“พวกนั่นค่อนข้างดูหน้าตาดุจัง พวกมันเห็นแล้วน่ากลัวเหมือนโดนขู่เยอะเลย หรือ พวกมันดูเหมือนชั่วร้ายไม่มีอื่นปนแทนเลย พวกมันดูเหมือนก้อนสารของความชั่วร้ายที่มีรูปร่างทางกายภาพเลย”

“ยังไงซะ แน่นอนว่าพวกมันไม่ได้ดูเหมือนสิ่งมีชีวิตดีๆ เรื่องนั้นนั่นแน่นอน”

อะไรซึ่งแสดงอยู่บนจอคือบางอย่างที่ผมอธิบายได้แค่ว่าน่ากลัวจับใจ

สิ่งมีชีวิตนั่นสวนใหญ่สีน้ำตาลเหลืองและผิวของร่างกายมันถูกปกคลุมไปด้วยหนังที่ค่อนข้างจะดูน่ากลัวตะหงิดคล้ายกับผิวหนังมนุษย์ ทำให้พวกมันดูเหมือนยิ่งน่ากลัวมากเข้าไปอีก

รูปลักษณ์ของพวกมันแบ่งเป็นสามประเภทประเภทแรกคือสูงประมาณ 5 เมตร มันมีมากกว่ายี่สิบขาอันคล้ายคลึงกับขามนุษย์ และมันใช้หลายขาเหล่านั้นเพื่อเคลื่อนที่ ณ ความเร็วสูงเพื่อจับเหยื่อ จากนั้นมันจะทุบตีอย่างย่ำแย่ด้วยสองมือ และจากนั้นเคี้ยวคนนั้นด้วยอะไรที่ดูเหมือนปากมัน ปากของมันมีแถวของฟันเหมือนมนุษย์และดูค่อนข้างน่าต่อต้าน ปลายของทั้งสองแขนถูกปกคลุมไปด้วยผิวชั้นนอกแข็งขรุขระที่ดูเหมือนค่อนข้างคมด้วย พวกมันดูเหมือนพวกมันฆ่ามนุษย์ได้ด้วยการโจมตีครั้งเดียวจริงๆ

ประเภทอื่นก็มีหลายขา แต่พวกมันคล้ายกับขาของช้าง ร่างกายของมันค่อนข้างคล้ายกับเรือท่องทะเลกลับหัวกลับหาง และมันดูเหมือนสามารถที่จะทำการพุ่งไปด้านหน้าด้วยความเร็วสูง มันยาวประมาณประมาณ 15 เมตรและความสูง 7 เมตร มันถูกพิจารณาได้ว่าใหญ่กว่าประเภทแรก เกราะหน้าขรุขระของมันค่อนข้างทนทานดูค่อนข้างอึดและแข็ง

และในทั้งสามรูปแบบ ตัวสุดท้ายดูมีปัญหามากที่สุด มันยืนสูง 2 เมตรและค่อนข้างเล็กกว่าประเภทอื่น มันมีหลายขาด้วยเหมือนกัน – หกถ้าพ​ูดให้แม่นยำ มันไม่ได้ดูเหมือนจะเร็วปานนั้นแล้วก็ไม่มีเกราะขรุขระ แต่มันมีปืนใหญ่เลเซอร์เซอร์พลังชีวภาพบางประเภทบนร่างกายของมันที่ดูเหมือนเท่าเทียมกันกับเครื่องยิงเลเซอร์มาตรฐานและระยะไกลเอาชนะอาวุธของคนโคโลนีที่ติดมาด้วย และพวกมันแม้แต่สามารถยิงเครื่องบิน, มิสไซล์ค้นหา, และโดรนโจมตีให้ร่วงลงได้

”นั่นคือเรียงแถวกันแล้วหือ พวกมันมีแนวหน้าและแนวหลังที่ต้องให้ความสนใจด้วย มีสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นโดยธรรมชาติที่ยิงลำแสงจากร่างกายพวกมันแบบนี้ได้ด้วยเหรอ?”

“ยังไงซะ มีตัวอย่างเป็นสิ่งมีชีวิตผลึกไงยกตัวอย่างอ่ะ”

“เอ่อ ใช่ พวกนั้นค่อนข้างเป็นสิ่งมีชีวิตที่ตีความไม่ได้ด้วยเหมือนกันหือ……”

แน่นอนว่ามันจริงที่สิ่งมีชีวิตผลึกคือหนึ่งในสิ่งมีชีวิตประหลาดที่สุดในกาแล็กซี พวกมันดุร้ายสุดขีดกับสิ่งมีชีวิตที่มีพื้นฐานเป็นชีวิต  และสามารถทำการเดินทางข้ามจักรวาลได้ และที่มันพ่นออกมาได้ไม่ใช่แค่เลเซอร์แต่เป็นกระสุนพลังงานลึกลับจากร่างกายมันด้วยเหมือนกัน

อะไรที่ผมกำลังจะถามคือมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติที่เชี่ยวชาญการไปอยู่บนดาวเคราะห์อยู่อาศัยได้อย่างไร และที่พ่นเส้นสายกรดทรงพลังออกมาคือเรื่องนึง แต่เมื่อสิ่งเหล่านี้แม้แต่กำลังพ่นการยิงเลเซอร์ที่ทำลายล้างเท่ากระสุนบินของเครื่องยิงเลเซอร์ นั่นมันเกินไปไม่ว่าเมื่อไรที่คนหนึ่งเห็นมัน

“ยังไงซะ…… ฉันพูดไปแล้วก่อนหน้า พวกมันไม่ได้ดูเหมือนสิ่งมีชีวิตดีๆเลย”

“ใช่ โอ้แต่ยังไงซะ แค่ไปข้างหน้าและกำจัดพวกมันกัน”

“แน่ใจว่าจะทำเฉยๆกับทั้งหมดนี้เหรอ หรือ คุณไม่ได้ดูเหมือนรู้สึกอันตรายเลยสักนิด”

ซูเอียพูดสั้นๆคมๆขณะเขานั่งลงบนที่นั่งเสริม ผมแค่ยักไหล่เท่านั้นโดยไม่ชำเลืองมองกลับไป

“เพราะทั้งหมดไม่ว่าเมื่อไหร่ทีมีตัวพวกนั้นเป็นหมื่นหรือเป็นล้านตัว พวกมันไม่เป็นภัยกับกฤษณะแน่นอน”

“ถ้าแรงส่งพลังงานของพวกมันเท่าเทียบกับเครื่องยิงเลเซอร์ พวกมันจะไม่มีระยะภายในบรรยากาศดาวเคราะห์ ปืนใหญ่เลเซอร์กฤษณะมีแรงส่งพลังงานและระยะสูงมากกว่ามาก ดังนั้นเราแค่ยิงพวกมันอยู่ฝ่ายเดียวจากนอกระยะโจมตีของพวกมันได้”

“และนั่นก็บัวดำด้วยเหมือนกัน มันใช้ประโยชน์จากข้อมูลเฝ้าสังเกตของกฤษณะได้อย่างต่อเนื่องเพื่อส่งวิธีระดมยิงสู่พื้นด้วยการยิงชุดปืนใหญ่และคมฟ.จากสตาโตสเฟียร์”

เมื่อพูดถึงชุดปืนใหญ่ บางครั้งพวกมันถูกตรีตราว่าเป็นปืนยิงถั่ว แต่จริงๆแล้วพวกมันค่อนข้างถึงชีวิตกับศัตรูไม่มีโล่ อัตราการยิงรัวของมันเหมือนปืนกลเล็ก แต่เพราะทั้งหมดพวกมันเป็นปืนใหญ่ยาน ผมไม่คุ้นเคยกับขนาดกระสุนของพวกมัน  แต่ผมแทบจะอุ้มกระสุนนัดหนึ่งด้วยสองมือไม่ได้ ถ้ามนุษย์ถูกยิงโดยตรงด้วยบางอย่างแบบนั้น พวกเขาจะเปลี่ยนเป็นเนื้อสับในพริบตา แน่นอน สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นซึ่งอาละวาดอยู่บนพื้นดาวเคราะจะเจอจุดจบโหดร้ายเช่นกันด้วยเช่นกัน

แต่ถ้าคนหนึ่งยิงคมฟ.อย่างไม่สนหน้าหลังออกไป มันอาจมีผลกับโคโลนีดาวเคราะห์ด้วยเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม เราแค่ปรับมุมยิงและแนวโค้งแรงดึงดูดของกระสุนคมฟ.ได้ด้วยเหมือนกัน และผมแน่ใจว่าเมย์จะไม่สร้างความผิดพลาดใดๆ

“เข้าใจแล้ว…… พูดอีกอย่างความต่างในความทรงพลังของเรากับพวกมันนั้นแค่ท่วมท้น”

“นั่นถูกแล้ว ฉันคิดว่ามันจะเป็นธุระฝ่ายเดียว จริงๆแล้ว”

“หนูเสร็จการติดตั้งการเข้าสู่มุมชั้นบรรยากาศแล้ว! หนูจะส่งมันให้ระบบนำทาง”

“รับทราบ ทำให้มั่นใจว่าบัวดำตามเรามาใกล้ๆ เมย์”

『อายอาย ท่าน』

เราดำเนินการเข้าชั้นบรรยากาศจากเส้นทางซึ่งมีมิตั้งและลงไปสู่โคแม็ต III”

“โวววววว่!? ร-เราจะไม่เป็นไรจริงๆเหรอ!?”

อย่างไรก็ตาม เมื่อเริ่มบินลง ซูเอียร้องโหยหวนในความกลัวทันที เห็นได้ชัดว่า นี่คือครั้งแรกที่เขากำลังได้รับประสบการเข้าชั้นบรรยากาศบนดาวเคราะห์

“ใช่ การเข้าชั้นบรรยากาศแน่นอนว่ามีแรงกระตุ้นเยอะ ไม่ใช่เหรอ?”

มีการสั่นรุนแรงและเสียงหนวกหูชวนไม่สบายใจ แล้วก็มีบรรยากาศข้างนอกกำลังเผาโล่เป็นแดงฉาด ผมรู้ว่าวัตถุทำให้การเข้าชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์ได้รับประสการณ์การถูกลากโดยขั้นบรรยากาศและอากาศพลศาสตร์ทำให้ความร้อนนั้นก่อจากอัดกันของลมรอบวัตถุ แต่ผมสงสัยว่าทำไมโล่พลังงานก็ก่อให้เกิดปรากฏการณ์เช่นนั้น มันสร้างพลาสมาเนื่องจากความร้อนสูงสุดยอดหรือบางอย่างหรือ?

“เรามาถึงบนพิกัดเป้าหมายตรงๆ”

“เฮ้ตอนนี้ พวกมันอยู่นั่นไง”

ยานอวกาศต่อสู้นอกจากพวกเขาก็กำลังบินเหนือพิกัดเป้าหมายและกำลังไถคลื่นสิ่งมีชีวิตไม่เป็นมิตรที่รุกเข้ามาบนพื้นดั่งพวกมันเป็นเมฆแยก กระสุนเลเซอร์พลังสูงยิงออกมาจากยานต่อสู้อย่างต่อเนื่อง ลงสู่พื้นและเป่าสิ่งมีชีวิตไม่เป็นมิตรกระจายพร้อมดินและหิน

ขั้นตอนถูกเข้าใจผิดบ่อยครั้ง แต่ปืนใหญ่เลเซอร์ไม่ได้เป็นอาวุธที่ก่อให้เกิดการระเบิดเป้าหมายโดยตรงเนื่องด้วยกระสุนเลเซอร์พลังงานสูงของพวกมัน จริงๆแล้ว พื้นของเป้าหมายที่ถูกยิงก่อนหน้านี้จะเดือดเนื่องจากควาร้อนสูงสุดยอด ทำให้เกิดการระเบิดหลังจากนั้น และความร้อนและการกระแทกที่เกี่ยวข้องนั้นเกิดขึ้นทำให้เป้าหมายถูกทำลาย

พูดอีกอย่าง ธรรมชาติที่แท้จริงของพื้นกำจัดสิ่งมีชิวิตไม่เป็นมิตรนั้นคือพายุของการกระจายระเบิดและความร้อนที่ก่อขึ้นโดยการฉายรังสีเลเซอร์พลังงานสูง

“เริ่มใช้งานระบบอาวุธ จำกัดแรงส่งพลังงานสู่ต่ำสุดเพื่อเน้นความสำคัญกับความสามารถยิงเร็ว”

“รับทราบ ปรับแรงส่งพลังงาน”

“ขณะที่สำหรับบัวดำ ใช้ปืนใหญ่เลเซอร์เพื่อโจมตีเป็นหลัก อย่าใช้ชุดปืนใหญ่ยกเว้นว่าฐานโคโลนีดาวเคราะห์ตกอยู่ในภัยอันตราย”

『อายอายค่ะท่าน』

เพราะทั้งหมดเพราะกระสุนชุดปืนใหญ่กับคฟ.ค่อนข้างแพง เพราะป้อมปืนเลเซอร์นั้นง่ายต่อกระเป๋ามากกว่า เราจะใช้พวกมันแทน

“แต่แน่นอนว่ามีพวกมันอยู่เยอะ”

“การกำลังเห็นพวกมันคืบคลานพล่านเหมือนอย่างนั้นมันทำให้ฉันคลื่นไส้ได้ยังไงก็ไม่รู้……”

มันดูเหมือนสิ่งมีชีวิตพ่นเลเซอร์ส่วนใหญ่ถูกจัดการแล้ว และมีแค่สองประเภทที่เหลืออยู่ – ประเภทแนวหน้า และประเภทโจมตี ที่จะไม่มีอะไรนอกจากการเก็บกวาดถ้าอย่างนั้น เพราะสิ่งมีชีวิตบินไม่ได้ พวกมันไม่มีความสามารถโจมตียานต่อสู้ที่ลอยทั่วอยู่ในท้องฟ้า เราจะแค่จำเห็นต้องระวังกับความเสียหายอันเกิดขึ้นสู่โล่พลังงานที่ปกคลุมฐานโคโลนี

จากปืนใหญ่สี่กระบอก อันที่อยู่ต่ำที่สุดเล็งเป้ามายไปใกล้กับฐานและอันบนทำลายอะไรก็ตามเหล่านั้นที่ไกลจากมัน เพราะเราลดแรงส่งพลังงานสู่ระดับต่ำที่สุดการระยะการยิงรังสีเลเซอร์นั้นนานมากกว่าปรกติ และเกิดขึ้นในช่วงเว้นสั้นลง ดังนั้นการเก็บกวาดดำเนินหน้าไปอย่างมั่นคงเรื่อยๆ

“ด้วยนี่ ฐานจะไม่ต้องมีความกังวลใดๆเมื่อมันเรื่องอาหารสักพัก”

“เอ๋?”

“เออ๋!?”

หลังจากได้ยินคำพูดบอกของเอลม่า มีมิและผมขึ้นเสียงตกใจ

เอ๋? อาหาร? จริงๆแล้วคนหนึ่งกินสิ่งเหล่านี้ได้เหรอ?

“มันแค่การคาดคะเนจากเหตุการณ์ แต่พวกมันเป็น สิ่งมีชีวิตชีวภาพสุดท้ายท้ายสุด พวกเขาน่าจะแยกพวกมันลงสู่แหล่งโปรตีนที่กินได้หลังจากการผ่านขั้นตอนนิดหน่อย

“นี่น่ากลัวจริงจัง”

“หนูสงสัยว่าพวกมันจะรสชาติยังไง?”

“เอ๋”

“เอ๋?”

ผมทำการตรวจหูตัวเองสองรอบและหันไปสู่มีมิ  ผู้ที่กำลังนั่งที่นั่งโอเปอร์เรเตอร์ มีมิตกใจจากการตอบสนองของเราและมองผมค้างอย่างตั้งใจ เอ่อ น้องไม่คิดจริงๆว่ารูปลักษณ์พวกมันก็น่าเกลียดเป็นอย่างน้อยเหรอ? หรือความต้องการอาหารและวัตถุดิบเลิศรสที่ไม่เป็นที่รู้จักน้อง เอาชนะออกไปในท้ายที่สุด?

“อ-อืม รู้ไหม… อืม บางทีจริงๆแล้วพวกมันอร่อยเมื่อพี่ได้ลองพวกมัน?”

“ช-ใช่ เข้าใจละ น้องพูดถูก”

แต่ประเภทแนวหน้ามีขาเหมือนมนุษย์หลายขา ผมไม่รู้สึกเหมือนอยากชิมมันเลยสักนิดหลังจากเห็นขาเหล่านั้น

อืม เพราะทั้งหมดความฝันของมีมินั้นเพื่อกินอาหารเลิศรสทั่วทั้งกาแล็กซี ผมคิดว่าจิตวิญญาผู้ท้าทายนั้นสำคัญเพื่อที่จะให้ได้มัน ใช่

ผมหรือ? ไม่หรอก ผมจะขอผ่านแทน พวก

แปลโดย: wayuwayu

tipme : tipme.in.th/wayuwayutl

โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: ​http://linktr.ee/wayuwayu

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด