ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ — I Woke Up Piloting the Strongest Starship, so I Became a Space Mercenary 240 ได้รับประสบการณ์จากเผ่าเอลฟ์

Now you are reading ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ — I Woke Up Piloting the Strongest Starship, so I Became a Space Mercenary Chapter 240 ได้รับประสบการณ์จากเผ่าเอลฟ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

240 ได้รับประสบการณ์จากเผ่าเอลฟ์

ไม่มีพี่เขยแปลกๆมาต้องการดวลเท่าที่ผ่านมา และเราเดินหน้ามีความสุขกับการเที่ยวชมหมู่บ้านเอลฟ์ ซึ่งจริงๆเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสร้างอยู่ใกล้กับท่ายานผสมของทีต้า

เราไปที่พักของเราก่อน ซึ่งเป็นโรงแรมชั้นเดียวใหญ่พร้อมบรรยากาศคล้ายกับโรงแรมญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ก่อตั้งมานานที่ผมเห็นบนทีวี

น่าจะมีคำอธิบายดีกว่านี้ แต่ผมไม่รู้เลยเกี่ยวกับอะไรเหล่านั้น เพราะทั้งหมดผมไม่ได้เที่ยวไปทั่ว เพราะผมไม่สนใจ ผมไม่ได้ตรวจดูอะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว

และที่สุดของทั้งหมด ผมเป็นเกมเมอร์ผู้ทุ่มเท

“มันเป็นที่ซึ่งมหัศจรรย์มากๆ”

“นั่นถูกแล้ว แน่นอนมันทำให้สงบใจ ไม่ใช่เหรอ?”

“มันมีเสน่ห์พิเศษไม่เหมือนใครหรือบางอย่าง”

“นั่นความสวยแบบไม่จีรัง1อะไรเทือกนั้น ใช่มั้ย พี่สาว?”

“คุณภาพการบริการไม่แย่ด้วย”

เหล่าคุณนายดูเหมมือนจะชอบที่พักสไตล์โรงแรมดั้งเดิม มันดูเหมือนพวกเขาก็มีบ่อน้ำพุร้อนในบริเวณนี้ด้วย ดังนั้นโรงแรมก็มีทั้งห้องน้ำในอาคารและนอกอาคาร ห้องเราเองนั้นมีห้องน้ำนอกอาคารขนาดกลางมีของตกแต่งด้วยซ้ำ แน่นอน ห้องน้ำใหญ่ที่สุด ถูกแยกเพศ แต่เราใช้ห้องน้ำนอกห้องเราได้อย่างอิสระแทน ผมรอคอยคืนนี้จริงๆ

หลังจากทิ้งของส่วนใหญ่ไว้ในห้องเรา เราทำการเที่ยวชมสถานทีใกล้ๆรอบๆ

“มีสถานที่ท่องเที่ยวไหนเปิดอยู่บ้าง?”

“มาดูกัน มีพิพิธภัณโบราณคดีและประวัติศาสตร์ที่เปิดแสดงวัฒนธรรมของเอลฟ์และผลิตภัณฑ์ที่พบบนทีต้า, ห้องแสดงงานศิลปะที่แสดงงานศิลปะเอลฟ์หลากหลาย, และพิพิธภัณธรรมชาติที่แสดงดอกไม้และสัตว์ประจำภูมิภาคของทีต้า”

ผู้นำทางเอลฟ์หญิงจากเผ่าโรส ลิเลียมซังแนะนำแต่ละสถานที่ให้เรา ฟุมุ พวกมันทั้งหมดฟังดูค่อนข้างน่าสนใจ แต่ในหมู่สามที่ ผมสนใจพิพิธภัณธรรมชาติ

“ฉันอยากเห็นพวกพิพิธภัณ”

“ฉันอะไรก็ได้”

“หนูสนใจในห้องแสดงงานศิลปะ”

“หนูก็โอเคกับอะไรก็ได้ด้วยเหมือนกัน”

ในสถานการณ์แบบนี้ เมย์ยั้งตัวเองจากการออกความคิดเห็นตลอด อืม มันน่าจะเพราะดรอยด์แม่บ้านพบว่ามันถูกต้องแล้วที่จะปล่อยการตัดสินใจให้นายท่านของพวกเธอในเวลาแบบนี้หรือบางอย่างแบบนั้น

“เราซื้อของฝากได้ที่ไหนน่ะพูดถึง?”

“ท่านซื้อของทำมือจากเอลฟ์ได้ที่ห้องแสดงงานศิลปะ ท่านก็ซื้อของฝากได้ที่พิพิธภัณโบราณคดีและธรรชาติ อย่างไรก็ตาม แต่ละพิพิธภัณถูกดูแลโดยเผ่าเอลฟ์ต่างกัน และท่านชิมจานพิเศษพื้นที่ของแต่ละเผ่าที่พวกเขาจัดการได้”

“เข้าใจแล้ว ถ้าเป็นแบบนั้น เรามุ่งหน้าไปพิพิธภัณโบราณคดีก่อรนและกินอาหารที่นั่นจากนั้นเดินหน้าไปห้องแสดงงานศิลปะ และถ้าเรายังมีเวลาหลังจากนั้น เราไปพิพิธภัณธรรมชาติด้วยเหมือนกัน อย่างนี้ดีมั้ย?”

ข้อเสนอของผมถูกยอมรับเป็นเสียงเดียวกัน และมันถูกตัดสินใจว่าเราจะมุ่งหน้าไปที่พิพิธภัณโบราณคดีก่อน มันเกือบได้เวลาข้าวเที่ยงแล้วด้วย ดังนั้นมันสมบูรณ์แบบ

“คุณมากับเราด้วยหือ”

“ค่ะ ดิฉันและฮิอิชิถูกมอบหน้าที่ให้นำทางท่านโดยหัวหน้าเผ่า ดังนั้นเราจะไปด้วยกันกับท่านระหว่างการเที่ยวชมของท่าน”

ลิเลียมซังตอบระหว่างแสดงรอยยิ้มสง่างาม

ฮิอิชิคือชื่อของผู้ชายเอลฟ์หนุ่มผู้ทำหน้าที่เป็นคนขับบัสของเรา เขามาจากเผ่ามินฟาเหมือนเน็กผู้ผมช่วยจากยานโจรสลัดนั้นและเป็นคนเงียบขรึม แม้อย่างนั้น เขาทำงานของเขาได้ค่อนข้างดี ดังนั้นผมเดาว่าไม่มีปัญหา

อืม เขาจะรอพร้อมอยู่ในบัสและจะไม่เข้าร่วมกับเราข้างในพิพิธภัณทีหลังอยู่ดี

“ท่านอาจไม่คิดเยอะเกี่ยวกับมัน แต่เราขอบคุณท่านมากๆสำหรับการช่วยเหลือคนของเราและนำพาความยุติธรรมไปสู่โจรสลัดเหล่านั้น นอกเหนือจากฆ่าคนของเราไปเยอะ โจรสลัดก็เผาป่าด้วย โถงพิธีก็ถูกทำลายส่วนหนึ่งและแม้แต่ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ก็ได้รับความเสียหายจากการโจมตี มันแค่เป็นธรรมชาติสำหรับเราเท่านั้นที่จะมอบการขอบคุณมากที่สุดสู่ผู้มีพระคุณของเราผู้แก้แค้นให้ทั้งคนของเราและต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์?”

“เข้าใจแล้ว”

แม้ว่าผมไม่คุ้นเคยกับโถงพิธีและต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่เธอพูดถึง พวกมันน่าจะเป็นที่ซึ่งสำคัญทางศาสนากับเอลฟ์หรือแม้แต่เป็นของไว้บูชา ถ้าอย่างนั้นระหว่างบุกโจมตี โจรสลัดสร้างความเสียหายแด่พวกนั้นและเรียกความโมโหจากเผ่าเอลฟ์

แม้อย่างนั้น สำหรับเรา เราแค่ช่วยนักโทษจากยานโจรสลัดที่เราบังเอิญเจอบนการตัดสินใจไวๆ

นั่นทำไมมันรู้สึกค่อนข้างอึดอัดที่ตกเป็นเป้าของความชื่นชอบเช่นนี้

ขณะผมคิดเกี่ยวกับอะไรเช่นนั้น ในที่สุดเราก็สามารถมาถึงพิพิธภัณโบราณคดี เนื้อหาของการจัดแสดงค่อนข้างน่าสนใจ แต่ไม่ถึงขนาดน่าพูดถึง การจัดแสดงประกอบไปด้วยภาพสามมิติที่แสดงถึงเอลฟ์ทีต้าใช้ชีวิตของพวกเขาอย่างไรตั้งแต่สมัยโบราณ และอะไรเปลี่ยนไปเนื่องจากการมาถึงของจักรวรรดิ

“มันดูเหมือนวิถีชีวิตของเอลฟ์ทีต้าไม่ได้เปลี่ยนไปมากแม้ว่าหลังจากได้ถูกปกครองโดยจักรวรรดิหือ”

“ดูเหมือนเป็นอย่างนั้น แม้ว่ามันดูเหมือนอะไรเช่นสิทธิการรักษาล้ำหน้าและเทคโนโลยีอื่นก็ถูกแนะนำ”

มันดูเหมือนพวกเขาใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์และสิ่งก่อสร้างร่วมกับอย่างอื่นอย่างแข็งขันในบางพื้นที่ แต่วิถีชีวิตดั้งเดิมที่อยู่อาศัยในป่าและบูชาภูติระหว่างหากินด้วยการล่าและทำฟาร์มส่วนใหญ่ไม่เปลี่ยนไป

“หืมม วิธีการล่าโดยใช้ธนูและมีดก็ดูค่อนข้างโบราณด้วย”

“พวกเขาก็ใช้กับดักเพื่อล่าเหยื่อด้วย แต่…… ใช่ มันดูเหมือนค่อนข้างโบราณหือพี่สาว”

อย่าได้กล้าพูดผิดเป็นป่าเถื่อนเชียวเข้าใจไหม วิสเกอร์

“สำหรับเอลฟ์ การล่าไม่ได้เกี่ยวกับการกำจัดสัตว์อันตราย มันเหมือนกับท้าทายขีดจำกัดของพวกเขาเองภายในป่าที่พวกเขาบูชาและเป็นการกระทำศักดิ์สิทธิ์ของการทำมันระหว่างได้รับพร ไม่คิดว่าใช้อาวุธล้ำสมัยและโดรนอัตโนมัติหรือหุ่นยนต์ต่อสู้โปรแกรมล่วงหน้าจะผิดจรรยาบรรณเมื่อคนหนึ่งมองมันในมุมนั้นหรือ?”

“ใช่ ฉันว่า แต่มันยังค่อนข้างยากที่จะเข้าใจสำหรับเรา ไม่ใช่ใช้พวกนั้นแทนธนูและมีดมีประสิทธิภาพมากกว่าเหรอ?”

“มันไม่ได้เกี่ยวกับมีประสิทธิภาพหรือไม่จริงๆหรอก ฉันแน่ใจ เอ่อ มาดูกัน มันค่อนข้างเหมือนความรู้สึกโรแมนติกและผจญภัยที่เธอได้เมื่อเธอซ่อมเครื่องจักรคลาสสิคแล้วจูนเต็มที่เพื่อที่มันจะเทียบได้กับรุ่นล่าสุด เอลฟ์เลือกวิถีชีวิตปัจจุบันของพวกเขาวันนี้เนื่องจากความรู้สึกหลงใหลคล้ายกับนั่น ฉันว่า”

“เข้าใจแล้ว หนูค่อนข้างเข้าใจนิดหน่อยแล้วตอนนี้”

มันดูเหมือนในที่สุดพี่น้องดวอร์ฟก็มั่นใจโดยคำอธิบายของผม ดวอร์ฟส่วนใหญ่มีความชอบอะไรทุกอย่างที่ใหม่และล้ำยุค มันดูเหมือนเผ่าพวกเธอโดยรวมๆยอมรับสิ่งใหม่ได้อย่างง่าย และรักการสร้างและพัฒนาของที่ดีขึ้นและดีขึ้น ดังนั้นพวกเขาจะพบว่ามันยากที่จะเข้าใจความคิดของเผ่าเอลฟ์ที่ให้ค่าความดั้งเดิมและยอมรับความไม่มีประสิทธิภาพที่ตีคู่กับมัน

“ฮิโระซามะ มันดูเหมือนเรายิงธนูเอลฟ์ดั้งเดิมได้ตรงนั้น”

“เฮฮ๋ ธนูหือ หนูไม่เคยลองยิงอะไรด้วยธนูและลูกธนูเลย”

ผมจำได้ว่ามีหนึ่งคันถูกแสดงอยู่ในที่พักที่เราอยู่เมื่อเราเยือนดาวเคราะห์พักตากอากาศสักพักนานมาแล้ว แต่ผมไม่ได้จับมันด้วยซ้ำ มันดูน่าสนใจนิดหน่อย ดังนั้นทำไมไม่ลองมัน?

“ถ้าอยากจะลองมันจริงๆเธอต้องใส่เสื้อเกราะหน้าอกด้วย มีมิ เพราะทั้งหมดมันเจ็บเมื่อเชือกโดนหน้าอก”

“มาลองด้วยกันเถอะ เอลม่าซัง”

“เราจะลองมันด้วย!”

ทุกคนรวมกัน ณ มุมรับประสบการณ์ธนูและลูกธนูและทำการเล่นกับธนูและลูกธนู หัวธนูทำมาจากบางอย่างคล้ายผ้าม้วนดังนั้นมันเกือบไม่มีพลังการสังหาร แต่พวกมันยังอันตรายเมื่อยิงใส่คนตรงๆ ดังนั้นมันไม่แนะนำที่จะแค่เล่นไปทั่วกับพวกมัน เจ้าหน้าที่พิพิธภัณที่ดูแลมุมธนูและลูกธนูอธิบายและสอนเราว่าจะยิงธนูอย่างปลอดภัยได้อย่างไรพร้อมกันกับลิเลียม

“หนูทำให้มันบินตรงๆไม่ได้!”

“นี่ยากมากๆเลยนะ”

“อ๊ะ! หนูพลาด!”

มันดูเหมือนมีมิที, ทีน่า, และวิสเกอร์แค่ทำให้ลูกธนูโดนเป้าหมายของมันไม่ได้ ผมสงสัยว่าสินทรัพย์หน้าอกของมีมิเข้าไปขวางทางไหม

ขณะสำหรับทีน่าและวิสเกอร์ขนาดของธนูไม่ได้เหมาะสมกับความสูงของทั้งสองคน มันจะดีกว่าถ้าพวกเธอเอาธนูที่ทำมาให้ร่างเล็กๆของพวกเธอ

“อืม มันไม่เหมือนว่าฉันมีประสบการณ์มากกับการใช้ของเหล่านี้ด้วย ดังนั้นนี่มันแค่ความรู้สึกมันหือ”

เอลม่า ในทางกลับกัน ยิงโดนเป้าบ่อยครั้ง ผมเดาว่าหน้าอกธรรมดาเหล่านั้นมีเวลารับมือกับธนูง่ายกว่า

“พี่ค่อนข้างเก่งกับนี่นะ ฮิโระซามะ”

“เพราะทั้งหมดพี่ค่อนข้างโกงน่ะสิ”

ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ผมกลั้นหายใจ รอบข้างผมช้าลงและมันจะรู้สึกเหมือนเวลาคลาน ในสภาพเช่นนั้น ผมสามารถปรับการเล็งของผมได้อย่างอิสระก่อนยิงลูกธนูของผม ดังนั้นผลลัพธ์คือ ความแม่นยำผมสูงมาก มันค่อนข้างคล้ายกับที่ผมยิงปืนเลเซอร์ ทั้งสองความสามารถนี้ดูเหมือนได้รับเวลาช้าระดับคลานไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ผมกลั้นหายใจและทักษะความแม่นยำสูงผิดธรรรมชาติของผมเป็นอะไรที่บางคนแบบผมไม่เกี่ยวข้อง และต้นกำเนิดของมันเป็นความลึกลับอย่างสมบูรณ์

เมื่อผมทำการตรวจดูระบบดาวเอลีนอย่างละเอียดผมถูกมอบใบเสร็จรักษาสุขภาพที่ไม่เสียอะไรเลย ดังนั้นผมเดาว่าไม่มีความจำเป็นต้องกังวลมาก แต่คนหนึ่งช่วยไม่ได้นอกจากสงสัยเนื่องจากมันทั้งหมดแปลกมาก จากนั้นมีความจริงที่เห็นว่าผมไม่มีเครื่องแปลอเนกประสงค์ฝังอยู่ข้างในสมองของผม แต่เท่าที่ผ่านมา ผมไม่มีปัญหากับการเข้าใจภาษาที่ผมเจอในมิตินี้

เรายิงธนูในมุมรับประสบการณ์ธนูและลูกธนูจนกว่าเราพอใจและกินข้าวเที่ยงในโรงอาหารพิพิธภัณหลังจากนั้น จากนั้นเราเดินหน้าไปยังห้องแสดงงานศิลปะ ของทำมือดั้งเดิมของเอลฟ์หือ ผมสงสัยว่ามันเป็นอย่างไร ผมรอคอยที่จะได้เห็นพวกมัน

 

 

[1] วายุ: วาบิซาบิ – ศิลปะญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม วาบิซาบิ (侘寂) มีหลักอยู่บนการยอมรับความไม่จีรังและความไม่สมบูรณ์แบบ ศิลปะบางทีอธิบายได้เป็นหนึ่งคนชื่นชมความสวยงามที่ “ไม่สมบูรณ์แบบ, ไม่ถาวร, และยังไม่เสร็จ” ในธรรมชาติ

แปลโดย: wayuwayu

tipme : tipme.in.th/wayuwayutl

ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: ​http://linktr.ee/wayuwayu

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด