ยอดคุณหมอสกุลเฉินตอนที่290 มุ่งหน้าสู่เขาจิ่วเหลียน

Now you are reading ยอดคุณหมอสกุลเฉิน Chapter ตอนที่290 มุ่งหน้าสู่เขาจิ่วเหลียน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่​290 มุ่งหน้า​สู่เขา​จิ่ว​เหลียน​

การ​เดินทาง​ไป​เขา​จิ่ว​เหลียน​ครั้งนี้​ ฉีเล่ย​ไม่ได้​พา​ใคร​ไป​ด้วย​เลย​ แม้ความจริง​แล้ว​ การ​เดินทาง​ในลักษณะ​ผจญภัย​แบบนี้​ ควรจะ​ต้อง​มีคน​มาด้วย​สัก​สอง​สามคน​ เพราะ​หาก​เกิด​อันตราย​อะไร​ ก็​จะได้​สามารถ​ช่วยเหลือ​กัน​ได้​ทันท่วงที​

แต่​เพราะ​ฉีเล่ย​รู้​ว่า​ การ​เดินทาง​ในครั้งนี้​ดูเหมือน​จะมีแต่​อันตราย​ เขา​จึงเลือก​ที่จะ​เดินทาง​มาเพียง​คนเดียว​ลำพัง​

การ​เดินทาง​ครั้งนี้​ต้อง​ใช้เวลานาน​ถึง 30 กว่า​ชั่วโมง​เลย​ทีเดียว​ ฉีเล่ย​จึงเลือก​นั่ง​รถไฟ​ตู้​นอน​ซึ่งมีที่นอน​นุ่มๆ อาจ​เป็น​เพราะ​จุดหมายปลายทาง​ยังอีก​ไกล​มาก​ หรือ​อาจ​เป็น​เพราะ​เขา​ก็​ยัง​ไม่พบ​เจอ​ใคร​ที่​ดู​เป็นอันตราย​กับ​ตนเอง​ ฉีเล่ย​จึงได้​นอน​หลับไหล​อยู่​บน​ที่นอน​นุ่ม​นั้น​ได้​อย่าง​สบายใจ​

ภายใน​เคบิน​มีเตียง​อยู่​สี่เตียง​ แต่กลับ​มีเขา​นอน​อยู่​แค่​คนเดียว​ เขา​จึงรู้สึก​ว่า​มัน​ช่างสบาย​มาก​จริงๆ​

แต่​ขณะที่​รถไฟ​จอดเทียบ​ชานชลา​ ฉีเล่ย​ก็​ถูก​เสียงดัง​จาก​ด้านนอก​ปลุก​ให้​ตื่น​ เขา​ยก​มือขึ้น​ขยี้ตา​ เพื่อ​จะมองออก​ไปนอก​หน้า​ต่างว่า​มัน​เกิด​อะไร​ขึ้น​ แต่​แล้ว​จู่ๆ ประตู​เคบิน​ก็​เปิด​ออก​ แล้ว​ใคร​บางคน​ก็​เดิน​เข้ามา​

หญิงสาว​คน​หนึ่ง​ที่​แบก​เป้​ใบ​ใหญ่​ไว้​ข้างหลัง​

“สวัสดี​เพื่อนร่วมทาง​ อยู่​เคบิน​เดียวกัน​เหรอ​?”

ฉีเล่ย​งุนงง​เล็กน้อย​ เพราะ​ไม่ได้​คาดคิด​ว่า​จะมีคน​เข้ามา​ ส่วนตัว​หญิงสาว​เอง​ก็​ดู​ตกใจ​นิดๆ​ คง​ไม่คิด​ว่า​จะมีใคร​อยู่​ใน​เคบิน​เหมือนกัน​ จึงได้​ร้องถาม​ออกมา​แก้เก้อ​

ฉีเล่ย​สังเกตเห็น​ว่า​ หญิงสาว​ที่​ปรากฏตัว​ขึ้น​ใน​ตอนนี้​ หน้าตา​ท่าทาง​ไม่เลว​เลย​ แม้จะไม่จัด​ว่า​สวย​เลิศเลอ​ แต่​ก็​ไม่ใช่คน​ขี้ริ้วขี้เหร่​อะไร​

“ครับ​ มาผม​ช่วย​ยก​ระ​เป๋า​เก็บ​ให้​เอง​!”

อีก​ฝ่าย​เป็น​หญิงสาว​ ฉีเล่ย​จึงต้อง​แสดง​ความ​เป็น​สุภาพบุรุษ​

“ไม่เป็นไร​ค่ะ​ ไม่เป็นไร​! เป้​นี่​อาจจะ​ดูเหมือน​หนัก​ แต่​ความจริง​มัน​ไม่ได้​หนัก​อะไร​มากมาย​”

หญิงสาว​หันมา​บอก​ฉีเล่ย​ด้วย​ใบหน้า​ยิ้มแย้ม​ ก่อน​จะยก​กระเป๋า​ขึ้นไป​เก็บ​ด้วยตัวเอง​

หลังจากนั้น​ไม่นาน​ รถไฟ​ก็​เริ่ม​เคลื่อนตัว​ออกจาก​ชาน​ชะลา​ ฉีเล่ย​จึงหยิบ​ขนมขบเคี้ยว​ที่​เตรียม​ไว้​ขึ้น​มากิน​ พร้อมกับ​เอ่ย​ชวน​หญิงสาว​ด้วย​ แต่​เธอ​ก็​รีบ​โบกไม้โบกมือ​ปฏิเสธ​

หลังจาก​ทั้งคู่​นั่ง​กระอักกระอ่วน​กัน​อยู่​สอง​สามนาที​ ฉีเล่ย​ก็​หาเรื่อง​ชวน​คุย​ขึ้น​มาได้​

“ผม​ชื่อ​ฉีควน​นะ​ครับ​ เป็น​คน​เจียง​ห​ลิง​ แล้ว​คุณ​ล่ะ​ชื่อ​อะไร​?”

แม้ว่า​เขา​จะต้องการ​ทำ​ความคุ้นเคย​กับ​หญิงสาว​ เพื่อ​ไล่​บรรยากาศ​กระอักกระอ่วน​ภายใน​เคบิน​ แต่​เขา​ก็​ยังคง​ต้อง​ระมัดระวัง​ตัว​อยู่​มาก​

“ฉัน​ชื่อ​ฮวา​โหล่​ว​ เป็น​คน​ที่นี่​เลย​ค่ะ​”

“คน​ที่นี่​?!”

ฉีเล่ย​สำรวจ​ดู​รูปลักษณ์ภายนอก​ของ​หญิงสาว​อย่าง​ละเอียด​ และ​พบ​ว่า​ เป็น​เพราะ​แสงไฟใน​รถไฟ​สลัว​เกินไป​หรือเปล่า​ ถึงได้​ทำให้​หญิงสาว​คน​นี้​ดู​ไม่ใช่คน​ที่​ขาว​มากมาย​อะไร​นัก​ และ​ด้วย​ผิวพรรณ​ที่​ดู​แข็งแรง​มีชีวิตชีวา​กว่า​หญิงสาว​ทั่วๆ​ไป​ ทำให้​เธอ​ดูเหมือน​คน​ที่​มาจาก​ภูเขา​

“นี่​มัน​ที่ไหน​เหรอ​ครับ​?”

ฉีเล่ย​เพิ่งจะ​ตื่นนอน​ จึงไม่ทัน​ได้​ฟังประกาศ​ว่า​ถึงสถาน​ที​อะไร​ เขา​จึงรีบ​ชะโงก​หัวออก​ไปดู​ป้าย​สถานี​ แต่กลับ​พบ​ว่า​รถไฟ​ได้​เคลื่อน​เลย​ป้าย​บอก​สถานี​มาไกล​แล้ว​

“หมู่บ้าน​ฮวา​จิ่งค่ะ​”

ฮวา​โหล่​ว​หัวเราะ​เบา​ๆ พร้อมกับ​ยก​มือขึ้น​ชี้ไป​ที่​ภูเขา​ลูก​ใหญ่​ลูก​หนึ่ง​ ปาก​ก็​ร้องบอก​ว่า​

“ฉัน​มาจาก​ที่นั่น​ และ​ทุกคน​บน​นั้น​ก็​จะใช้แซ่ฮวา​กัน​ทุกคน​ ชาวบ้าน​ที่นั่น​ต่าง​ก็​รู้จัก​กัน​หมด​”

“แล้ว​นี่​คุณ​กำลังจะ​ไป​ไหน​เหรอ​ครับ​?”

ฉีเล่ย​ก็​แค่​ถามไป​อย่างนั้น​ แต่กลับ​คิดไม่ถึง​ว่า​ หลังจากที่​เขา​เอ่ย​ถามออก​ไป​แล้ว​ สีหน้า​ของ​หญิงสาว​จะเปลี่ยนไป​อย่าง​น่าประหลาด​ทันที​

“ความจริง​แล้ว​ฉัน​เอง​ก็​ยัง​ไม่รู้​ว่า​จะไป​ไหน​ดี​ อยาก​จะท่องเที่ยว​ไป​เรื่อยๆ​ ยัง​ไม่มีจุดหมายปลายทาง​ที่​แน่นอน​ ฉัน​เพิ่งจะ​โต​เป็นผู้ใหญ่​ปี​นี้​เอง​ ก็​เลย​อยาก​จะออกมา​ท่อง​โลก​ภายนอก​”

หลังจาก​ฮวา​โหล่​ว​พูด​จบ​ ฉีเล่ย​ก็​ไม่ได้​ถามอะไร​อีก​เลย​ เพราะ​เห็น​สีหน้าท่าทาง​ของ​อีก​ฝ่าย​ ดู​ไม่ค่อย​สบายใจ​ที่จะ​ตอบ​เท่าไหร่​นัก​ อีก​อย่าง​ ทั้ง​เธอ​และ​เขา​ยัง​ต้อง​เดินทาง​ร่วมกัน​อีก​หลาย​ชั่วโมง​ ฉีเล่ย​จึงไม่ต้องการ​สร้าง​บรรยากาศ​ที่​น่าอึดอัด​ขึ้น​มา

รถไฟ​ยังคง​มุ่งหน้า​ไป​เรื่อยๆ​ และ​หลังจาก​สถานี​ฮวา​จิ่งแล้ว​ ก็​ไม่มีใคร​เข้ามา​ใน​เคบิน​ที่​ทั้งสอง​คน​อยู่​อีก​เลย​

ระหว่าง​นั้น​ สอง​คน​ก็​ดูเหมือน​จะเริ่ม​สนิทสนม​คุ้นเคย​กัน​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ หลังจากที่​ทั้งคู่​มีท่าที​กระอักกระอ่วน​ไป​บ้าง​แล้ว​ ก็​เริ่ม​หาเรื่อง​พูดคุย​กัน​ได้​มากขึ้น​

และ​ในที่สุด​ รถไฟ​ขบวน​นี้​ก็​แล่น​เข้าใกล้​จุดหมายปลายทาง​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ เหลือ​เพียงแค่​หนึ่ง​ชั่วโมง​เท่านั้น​ ก็​จะถึงเทือกเขา​จิ่ว​เหลียน​ ฉีเล่ย​จึงเริ่ม​เตรียม​เก็บ​ข้าวของ​เพื่อ​ลง​จาก​รถไฟ​

แต่​เขา​กลับ​สังเกตเห็น​ว่า​ ฮวา​โหล่​ว​เอง​ก็​เริ่ม​เก็บ​ของ​ด้วย​เช่นกัน​

“ฮวา​โหล่​ว​ ผม​ว่า​คุณ​คง​มีอะไร​บางอย่าง​ปิดบัง​ผม​แล้ว​ล่ะ​ นี่​คุณ​เก็บ​ข้าว​เก็บ​ของ​เร็ว​มาก​เลย​ อย่า​บอก​นะ​ว่า​คุณ​ไม่รู้เรื่อง​เขา​จิ่ว​เหลียน​?”

หลังจาก​พูด​จบ​ ฉีเล่ย​ก็​ถึงกับ​หัวเราะ​ออกมา​

สีหน้า​ของ​ฮวา​โหล่​ว​เปลี่ยนไป​ในทันที​ พร้อมกับ​เอ่ย​ถามกลับ​ไป​ว่า​

“หรือว่า​พวกเรา​สอง​คน​จะมีจุดหมายปลายทาง​เดียวกัน​งั้น​เหรอ​?”

ฉีเล่ย​จึงตอบกลับ​ไป​ว่า​ “ผม​เอง​ก็​คิดไม่ถึง​จริงๆ​ นั่ง​อยู่​ใน​เคบิน​เดียวกัน​มาตั้ง​นาน​ แต่กลับ​ไม่รู้​ว่า​มีจุดหมายปลายทาง​เดียวกัน​”

เมื่อ​ฮวา​โหล่​ได้ยิน​แบบ​นั้น​ เธอ​ก็​หยุด​เก็บ​ข้าวของ​ไป​ชั่วครู่​ และ​หันไป​มอง​ฉีเล่ย​ตรงๆ​ พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​

“เอาล่ะ​ พวกเรา​มาตกลง​กัน​ดีกว่า​!”

ดูเหมือน​ฮวา​โหล่​วจะ​เป็น​หญิงสาว​ที่​มีนิสัย​ตรงไปตรงมา​อย่าง​ที่​ฉีเล่ย​ไม่คาดคิด​ เขา​จึงได้​แต่​พยักหน้า​ และ​ตอบกลับ​ไป​ว่า​

“เอาล่ะ​ บอก​ความต้องการ​ของ​คุณ​มาได้​เลย​?”

ความจริง​แล้ว​ ก่อนที่​ต่าง​ฝ่าย​จะต่าง​เปิดเผย​ความจริง​ออกมา​นั้น​ ทั้งคู่​ก็​นับว่า​ได้​ใช้ชีวิต​ร่วมกัน​บน​เส้น​ทางการ​เดินทาง​อัน​ยาว​ไกล​ที่​แสน​จะน่าเบื่อ​นี้​ แม้จะเป็น​ความบังเอิญ​ก็ตามที​

“ฉัน​รู้​ว่า​คุณ​มาที่นี่​เพราะ​เรื่อง​คัมภีร์​เจินจิ่วเจี่ย​อี่​จิง ใน​เมื่อ​เรา​สอง​คน​ต่าง​ก็​มาคนเดียว​ ไม่มีเพื่อน​ร่วม​ทีม​มาด้วย​ ทำไม​พวกเรา​ไม่มาอยู่​ทีม​เดียวกัน​ล่ะ​? หลังจากที่​ได้​คัมภีร์​เล่ม​นั้น​มาแล้ว​ ทั้ง​คุณ​กับ​ฉัน​ พวกเรา​ก็​มาแบ่ง​กัน​อ่าน​ แบ่ง​กัน​ศึกษา​เรียนรู้​ นี่​น่าจะเป็น​วิธี​ที่​ดี​ต่อ​เรา​สอง​คน​ไม่ใช่เหรอ​?”

“ถ้าเรา​สอง​คน​ตกลง​กัน​ได้​ ก็​เท่ากับ​วิน​-วิน​ทั้งสองฝ่าย​!”

“ตกลง​!” ฉีเล่ย​ตอบกลับ​ทันที​

“แล้ว​ห้าม​กลับคำ​ล่ะ​!”

ไม่มีใคร​รู้​ว่า​จะต้อง​ไป​พบ​เจอ​อะไร​บน​เขา​จิ่ว​เหลียน​ กระทั่ง​ชาวบ้าน​แถบ​นั้น​เอง​ยัง​ไม่รู้​เลย​

“เท่าที่​ฉัน​รู้​มา การปรากฏ​ขึ้น​ของ​คัมภีร์​เจินจิ่วเจี่ย​อี่​จิง ดูเหมือน​จะทำให้​ภูมิประเทศ​แถบ​เขา​จิ๋ว​เหลียน​เปลี่ยนไป​ไม่น้อย​เลย​ ไป​ถึงที่นั่น​เมื่อไหร่​ พวกเรา​สอง​คน​จะต้อง​ระมัดระวัง​ตัว​กัน​ให้​มาก​ๆ”

“ดู​คุณ​มีความรู้​ไม่น้อย​เลย​นี่​!” ฉีเล่​ยอด​ที่จะ​เอ่ยปาก​ชื่นชม​หญิงสาว​ไม่ได้​

“ฉีควน​ ดูท่า​เรา​สอง​คน​น่าจะ​เข้าขากัน​ดี​นะ​ แต่​ฉัน​รู้สึก​ว่า​นาย​ออกจะ​อ่อนแอ​ไป​หน่อย​ แต่​ก็​ไม่เป็นไร​ เอาเป็นว่า​นาย​คอย​ติดตาม​ฉัน​ให้​ดี​ก็แล้วกัน​ ขอ​แค่​นาย​ไม่หักหลัง​ฉัน​ ฉัน​รับรอง​ว่า​พวกเรา​สอง​คน​จะต้อง​กลับ​ลง​เขา​มาได้​อย่าง​ปลอดภัย​แน่​”

ฮวา​โหล่​ว​หันไป​ยิ้ม​ให้​ฉีเล่ย​ด้วย​สีหน้า​ภูมิอก​ภูมิใจ

“ครับ​! ครั้งนี้​ผม​คง​ต้อง​พึ่งพา​คุณ​ฮวา​แล้ว​นะ​ครับ​เนี่ย​!”

ใน​เมื่อ​อีก​ฝ่าย​มีน้ำใจ​ ฉีเล่ย​ก็​ไม่จำเป็นต้อง​พูด​อะไร​ให้​อีก​ฝ่าย​รู้สึก​แย่​ เขา​จึงได้​แต่​ยิ้ม​ให้​กับ​หญิงสาว​

“ไม่ๆๆ อย่า​เรียก​ฉัน​ว่า​คุณ​ฮวา​ นาย​ต้อง​เรียก​ฉัน​ว่า​อาจารย์​ฮวา​”

ฮวา​โหล่​ว​บอก​ฉีเล่ย​พร้อมกับ​ยิ้ม​กว้าง​

อาจ​เป็น​เพราะ​ทั้งคู่​พูดจา​ถูกคอกัน​มาตลอด​ ฮวา​โหล่​ว​จึงได้​ตัดสินใจ​ที่จะ​ให้​ฉีเล่ย​ร่วม​ทีม​เดียว​กับ​เธอ​ด้วย​

ในที่สุด​ รถไฟ​ขบวน​นี้​ก็ได้​แล่น​ไป​จอด​ที่​เมือง​เล็ก​ๆเมือง​หนึ่ง​ ซึ่งอยู่​ใกล้​กับ​เทือกเขา​จิ่ว​เหลียน​มาก​ที่สุด​ และ​หาก​ต้องการ​จะไป​ที่​เขา​แห่ง​นี้​ อย่างไร​เสีย​ก็​ต้อง​ผ่านเมือง​นี้​ไป​

เมื่อ​ฉีเล่ย​ก้าว​ลง​จาก​รถไฟ​ไป​ เขา​กลับ​พบ​ว่า​ ผู้คน​อีก​มากมาย​ที่​โดยสาร​มากับ​รถไฟ​ขบวน​นี้​กว่า​เก้า​สิบ​เปอร์เซ็นต์​ ต่าง​ก็​พา​กัน​แบก​กระเป๋า​เดิน​ลงมา​เมื่อ​ถึงชานชลา​ และ​เพียงแค่​มองหน้า​กัน​ก็​รู้​ว่า​ จุดหมายปลายทาง​ของ​ทุกคน​ล้วนแล้วแต่​เป็น​เขา​จิ่ว​เหลียน​

ที่​ทางออก​ของ​สถานีรถไฟ​ มีกลุ่มคน​มายืน​คอย​ร้อง​ตะโกนเรียก​ลูกค้า​กัน​เป็น​ภาษาท้องถิ่น​ เสนอ​บริการ​รถ​บ้าง​ ที่พัก​ราคา​ถูก​บ้าง​ จน​ดู​โกลาหล​วุ่นวาย​ไป​หมด​

เสียงร้อง​ตะโกน​พวก​นั้น​ทำให้​ฉีเล่ย​รู้สึก​รำคาญใจ​อย่าง​มาก​ เขา​จึงรีบ​ดึง​ฮวา​โหล่​ว​เดิน​ออกจาก​สถานีรถไฟ​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​

หลัง​เดิน​ออกจาก​สถานีรถไฟ​ไป​ได้​ราว​สอง​สามร้อย​เมตร​ ฉีเล่ย​ค่อย​รู้สึก​ดีขึ้น​มาบ้าง​ เพราะ​ไม่มีเสียงร้อง​ตะโกน​ หรือ​การ​ฉุดกระชาก​เพื่อ​เรียก​ลูกค้า​ให้​รำคาญใจ​

อาจ​เป็น​เพราะ​ที่นี่​เป็น​เมือง​เล็ก​ๆ อีก​ทั้ง​ยังอยู่​ใกล้​กับ​เขา​จิ่ว​เหลียน​ ทำให้​เศรษฐกิจ​ภายใน​เมือง​นี้​ไม่สู้จะดี​นัก​ รถ​รา​บน​ท้องถนน​ก็​แทบจะ​ไม่มี สภาพ​จึงดู​รกร้าง​วังเวง​อย่าง​มาก​

“ก่อนอื่น​เรา​ต้องหา​ที่พัก​กัน​ก่อน​ ไม่รู้​ว่า​ขึ้นไป​บน​เขา​จิ่ว​เหลียน​แล้ว​ พวกเรา​จะพบ​เจอ​อะไร​บ้าง​?”

ฮวา​โหล่​ว​ขยี้ตา​พร้อมกับ​หันไป​ร้องบอก​ฉีเล่ย​

ตอนนี้​ดูเหมือน​ทั้งคู่​จะทำได้​เพียง​แค่นั้น​ นั่น​เพราะ​เขา​จิ่ว​เหลียน​นอกจาก​จะดู​ลึกลับ​แล้ว​ ยัง​เป็น​สถานที่​ที่​ทั้งคู่​ไม่คุ้นเคย​และ​รู้จัก​มาก่อน​ด้วย​ หาก​ไม่มีการ​เตรียมการ​ก่อน​เดินทาง​ให้​พร้อม​ อาจ​ต้อง​กลาย​มาเป็น​เป้า​ที่​มีชีวิต​เมื่อ​ไป​ถึงที่นั่น​ก็ได้​

มีโรงแรม​เล็ก​ๆอยู่​ใกล้​กับ​สถานีรถไฟ​หลาย​แห่ง​ ถึงแม้จะราคา​ แต่​ไม่ว่า​จะมอง​ยังไง​ก็​หา​ความปลอดภัย​แทบ​ไม่มี

“เข้าไป​ใจกลางเมือง​กว่า​นี้​หน่อย​ดีกว่า​ น่าจะ​มีโรงแรม​เกรด​ดีกว่า​นี้​หน่อย​”

ทั้งคู่​ลง​จาก​รถไฟ​ตอน​สิบ​โมงเช้า แต่​กว่า​จะเข้าไป​ใจกลางเมือง​ และ​หา​ที่พัก​ถูกใจ​ได้​นั้น​ ก็​ปา​เข้าไป​เกือบ​หก​โมงเย็น​แล้ว​

แม้ใจกลางเมือง​จะมีโรงแรม​อยู่​หลาย​แห่ง​ก็​จริง​ แต่กลับ​มีคน​จอง​จน​เต็ม​เกือบ​หมด​ ซึ่งคน​ท้องถิ่น​เอง​ก็​ไม่เข้าใจ​ว่า​ เพราะเหตุใด​จึงได้​มีผู้คน​มากัน​อย่าง​ล้นหลาม​ แต่​พวกเขา​ก็​รู้สึก​ดีใจ​ เพราะ​นั่น​หมายถึง​ราย​ได้ที่​เพิ่มขึ้น​

แต่​โรงแรม​ที่​ทั้งคู่​ต้องการ​ก็​เหลืออยู่​เพียง​ห้อง​เดียว​เท่านั้น​ สำหรับ​หญิง​ชาย​ที่​เพิ่งจะ​รู้จัก​กัน​ หาก​ต้อง​มาอยู่​ห้อง​เดียวกัน​คงจะ​รู้สึก​อึดอัด​ไม่น้อย​ ฉีเล่ย​จึงหันไป​บอก​กับ​ฮวา​โหล่​ว​ว่า​

“เอา​อย่างนี้​ก็แล้วกัน​ คุณ​พัก​ที่นี่​ไป​ เดี๋ยว​ผม​จะไป​พัก​โรงแรม​อื่น​เอง​”

ใน​ฐานะ​ที่​เป็น​ผู้ชาย​ ฉีเล่ย​จึงต้อง​เป็น​ฝ่าย​เสียสละ​ให้​กับ​ฮวา​โหล่​ว​ แต่​พนักงาน​โรงแรม​ก็​รีบ​แจ้งให้​ทั้งสอง​คน​ว่า​

“ตอนนี้​ที่พัก​ใน​เมือง​เต็ม​ทุกแห่ง​เลย​นะคะ​ คงจะ​หา​ห้อง​ว่าง​ยาก​แล้ว​ล่ะ​ค่ะ​”

ฮวา​โหล่​ว​เดิน​ตรง​ไป​ที่​หน้า​ฟรอนท์​ พร้อมกับ​แจ้งพนักงาน​ว่า​ “ถ้างั้น​ก็​เปิด​ห้อง​เลย​ค่ะ​ ห้อง​เดียว​ก็​ห้อง​เดียว​”

“ไม่ทราบ​ว่า​จะอยู่​กี่​คืน​คะ​?”

“หนึ่ง​อาทิตย์​ หรือ​อาจจะ​นาน​กว่า​นั้น​ ถ้าเรา​ไม่มาเช็ค​เอาท์​ตามกำหนด​ ทาง​โรงแรม​ช่วย​จัดการ​ขยายเวลา​ออก​ไป​อีก​สามวัน​ให้​เลย​นะคะ​”

จาก​ท่าทาง​ที่​คล่องแคล่ว​ของ​ฮวา​โหล่​ว​ ดู​เธอ​ไม่เหมือน​หญิงสาว​ที่​เพิ่งจะ​อายุ​สิบ​แปด​ และ​เพิ่งจะ​ออกมา​ท่อง​โลก​อย่าง​ที่​พูด​เลย​แม้แต่น้อย​

และ​เมื่อ​ทั้งสอง​คน​เข้าไป​ใน​ห้องพัก​ ฉีเล่ย​ก็ได้​เอ่ย​ถามขึ้น​ด้วย​สีหน้า​กระอักกระอ่วน​ใจ “แล้ว​คืนนี้​เรา​สอง​คน​จะนอน​กัน​ยังไง​?”

ฮวา​โหล่​วต​อบ​กลับ​ไป​โดย​แทบ​ไม่ต้อง​คิด​ “ไม่เห็นจะ​ยาก​ นาย​นอน​พื้น​ หรือไม่​ก็​โซฟา ส่วน​ฉัน​นอน​บน​เตียง​ เว้น​แต่ว่า​นาย​อยาก​จะมานอน​เตียง​เดียว​กับ​ฉัน​!”

ฉีเล่ย​ได้​แต่​หัวเราะ​ขื่น​ แต่​ก็​ขอให้​พนักงาน​โรงแรม​นำ​หมอน​กับ​ผ้าห่ม​มาเพิ่ม​ให้​ จากนั้น​ เขา​ก็​ปักหลัก​นอน​บน​พื้น​ ปาก​ก็​เอ่ย​ถามฮวา​โหล่​ว​ด้วย​ความอยากรู้​ว่า​

“นี่​โรงแรม​ทุกแห่ง​ถึงกับ​เต็ม​หมด​ แสดงว่า​ต้อง​มีคน​มาเยอะ​มาก​ทีเดียว​!”

“ไม่แปลก​”

หลังจากที่​ต่าง​คน​ต่าง​เปิดใจ​ และ​ตกลง​ที่จะ​อยู่​ทีม​เดียวกัน​แล้ว​ ฮวา​โหล่​ว​ก็​ดูจะ​เปิดเผย​กับ​ฉีเล่ย​ขึ้น​มา และ​ได้​อธิบาย​ให้​เขา​ฟังว่า​

“เพราะ​มีคน​คอย​ประโคมข่าว​เรื่อง​คัมภีร์​เจินจิ่วเจี่ย​อี่​จิง ไม่งั้น​คน​จะแห่​กัน​มาที่นี่​เยอะ​ขนาด​นี้​เชียว​เหรอ​?”

“คน​ประโคมข่าว​งั้น​เหรอ​?”

ฉีเล่ย​เอ่ย​ถามขึ้น​ด้วย​ความ​อยากรู้อยากเห็น​ แล้ว​จู่ๆ เขา​ก็​นึกถึง​จดหมาย​ลึกลับ​ฉบับ​นั้น​ขึ้น​มาได้​ ระหว่าง​นั้น​ ฮวา​โหล่​ว​ก็ได้​เอ่ย​ตอบ​เขา​

“ก็​ใช่น่ะ​สิ! ความจริง​ฉัน​เป็น​แพทย์​ประจำ​หมู่บ้าน​ แต่​วันหนึ่ง​ จู่ๆก็​มีใคร​บางคน​โผล่​มาตรงหน้า​ฉัน​ แล้วก็​ยื่น​จดหมาย​ให้​ฉบับ​หนึ่ง​ แต่​ยัง​ไม่ทัน​ที่​ฉัน​จะได้​เห็น​หน้า​คน​ๆนั้น​ เขา​ก็​หายตัว​ไป​แล้ว​ นี่​ถ้าไม่ใช่เพราะ​ซองจดหมาย​นั่น​อยู่​ใน​มือ​ฉัน​ ฉัน​ก็​คง​คิด​ว่า​ตัวเอง​ตาฝาด​ไป​ หรือไม่​ก็​ถูก​ผีหลอก​แน่​!”

กระทั่ง​ระหว่าง​เล่า​ ฮวา​โหล่​ว​ยัง​ทำ​สีหน้า​อย่าง​ไม่อยาก​จะเชื่อ​

“ผม​ก็​ได้รับ​เหมือนกัน​ แต่​ผม​ไม่รู้​ว่า​ใคร​ เพราะ​เขา​เอา​ไป​ฝาก​ไว้​กับ​คน​ของ​ผม​”

ฉีเล่ย​ร้องบอก​ทันที​ ก่อนหน้านี้​เขา​ยัง​คิด​ว่า​ นี่​จะเป็น​โอกาส​ที่​ดี​สำหรับ​ตนเอง​ ที่จะ​ได้​นำ​เอา​คัมภีร์​เจินจิ่วเจี่ย​อี่​จิง นี้​ มาฝึกฝน​เสริมสร้าง​ทักษะ​ทางการแพทย์​ให้​แข็งแกร่ง​ขึ้น​ แต่​ตอนนี้​ กลับ​ดูเหมือนว่า​ ทั้งหมด​เป็น​เพียง​กับดัก​ที่​ใคร​บางคน​สร้าง​ขึ้น​มาแทน​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด