ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 1068 ชะตากรรมอันเลวร้าย + 1069 รักทำให้ตาบอด

Now you are reading ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น Chapter 1068 ชะตากรรมอันเลวร้าย + 1069 รักทำให้ตาบอด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

ตอนที่ 1068 ชะตากรรมอันเลวร้าย

เหยียนหมิงต๋างุดหน้าลงด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว หัวสมองของเขาฟุ้งซ่านไปหมด คุณตาเหยียยพูดอะไรออกมา เขาไม่ได้ยินเลยสักคำ ตอนนี้เขาคิดแค่เพียงจะไปหาอู่เยวี่ย ถามเธอว่าที่จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้น!”

“ผมจะไปหาเยวี่ยเยวี่ย ผมอยากจะถามเธอ……”

อยู่ดี ๆ เหยียนหมิงต๋าก็วิ่งออกไปด้านนอกด้วยความเร็วสูง  ผู้เฒ่าทั้งสองคนรู้สึกตัวเหยียนหมิงต๋าก็ไปถึงลานบ้านแล้ว

“ห้ามไป! แกนี่มันช่างน่าผิดหวังจริงๆ!” คุณยายหยางผิดหวังเป็นอย่างมาก นี่อยากจะรนหาที่ตายจริงๆใช่ไหม?

ชั่วพริบตาเดียวร่างของเหยียนหมิงซุ่นก็ตามหลังของเหยียนหมิงต๋า ฉวยโอกาสที่ไม่ทันตั้งตัวเหวี่ยงฝ่ามือลงไป เหยียนหมิงต๋าก็ตาเหลือกสลบล้มไปในอ้อมกอดของเหยียนหมิงซุ่น

“ไม่เป็นไร เพียงแค่หมดสติไปก็เท่านั้นเอง”

เหยียนหมิงซุ่นพูดปลอบใจคุณยายหยางที่กำลังอกสั่นขวัญเสีย เธอผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ ทั้งโมโหทั้งจนใจ และยังเจ็บปวดด้วย

“มารหัวขนจริงๆ……ทำไมถึงได้คลอดลูกที่เลวขนาดนี้ออกมาได้นะ!” คุณยายหยางส่ายหัวถอนหายใจ แค่ชั่วพริบตาเดียวก็ดูแก่ไปเยอะ

สีหน้าของคุณตาเหยียยก็ดูไม่ได้เป็นอย่างมาก เขาครุ่นคิดอยู่นาน ก็กัดฟันพูดว่า “หมิงซุ่น ให้เหยียนหมิงต๋าไปเป็นทหารปีนี้เลย!”

แทนที่จะปล่อยให้หลานชายคนเล็กถูกทำลายด้วยเงื้อมือของผู้หญิง สู้ไปฝึกฝนที่กองกำลังทหารยังจะดีกว่า บางทีอาจจะมีอนาคตได้บ้าง

นับว่าเขาดูออกแล้ว เหยียนหมิงต๋าเป็นคนที่หัวรั้น ไม่สามารถรอดพ้นจากเงื้อมมือของอู่เยวี่ยได้โดยสิ้นเชิง คุณตาเหยียนเพียงแต่รู้สึกเยาะเย้ย ลูกชายที่เขาให้กำเนิดนั้นโหดเหี้ยมและไม่ชอบธรรม แต่หลานชายทั้งสองต่างกลับเป็นพวกลุ่มหลงในความรัก

คนโตชอบจ้าวเหมยก็ช่างเถอะ นอกจากจะดูเย่อหยิ่งอวดดีไปหน่อยแต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่อู่เยวี่ยผู้หญิงแบบนี้ เขาจะเห็นด้วยได้ยังไง?

ต่อให้ชั่วชีวิตนี้เหยียนหมิงต๋าไม่แต่งงาน ก็ดีกว่าแต่งกับผู้หญิงที่นำมาซึ่งหายนะอย่างอู่เยวี่ย!

คุณยายหยางถามอย่างตื่นตระหนก “ถึงอย่างไรก็ต้องให้เหยียนหมิงต๋าได้วุฒิมัธยมปลายใช่ไหม?

คุณตาเหยียนถามกลับ “สภาพเขาแบบนี้จะสามารถเรียนจบได้อย่างราบรื่น? หัวใจของมันทั้งดวงอยู่ที่อู่เยวี่ยหมดแล้ว ถึงอย่างไรกองทหารก็ไม่ได้ดูวุฒิอยู่แล้ว ก็ให้มันไปอยู่ที่กองทหารนั่นแหละ ฉันก็อยากเห็นเหมือนกันว่ามันจะยังเจอกับอู่เยวี่ยได้ยังไง!”

คุณยายหยางยังไม่ค่อยเต็มใจ หลานชายคนโตก็ไปเป็นทหารแล้ว ให้หลานชายคนเล็กไปเป็นทหารอีก เธอจะตัดใจลงได้ยังไง!

“หมิงต๋าคงไม่สติเลอะเลือนขนาดนั้นหรอก อู่เยวี่ยเป็นแบบนั้นแล้ว หมิงต๋าจะยัง……”

คุณตาเหยียนพูดขัดเธอขึ้นมา ตำหนิว่า “ผู้หญิงชั้นต่ำแบบนั้น  เอาตามนี้แหละ พรุ่งนี้ฉันจะไปลงชื่อสมัครให้เหยียนหมิงต๋าที่กองกำลังทหาร”

อย่ามองว่าในเวลาปกติคุณยายหยางมักจะตวาดใส่คุณตา แต่พอเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น คนที่รับผิดชอบตัดสินใจกลับเป็นคุณตาเหยียน ไม่อนุญาตให้คนอื่นมาโต้แย้งแน่นอน

แม้กระทั่งเหยียนโฮ่วเต๋อก็ยังไม่กล้า นอกจากเหยียนหมิงซุ่น

“ต้องบอกกับโฮ่วเต๋อสักหน่อยไหม?” คุณยายหยางถอนหายใจ ในใจร้อนรุ่ม ในบ้านทำไมถึงได้ไม่สุขสงบสักที!

หรือว่านี่คือกรรมตามสนอง?

ปีนั้นเหยียนโฮ่วเต๋อและถานซูฟางทำผิดต่อลูกสะใภ้ของเธอ ดังนั้นพระเจ้าก็เลยให้อู่เยวี่ยมาทำให้หลานชายของเธอเจ็บปวดทุกข์ทรมาน กงกรรมกงเกวียน ช่างเป็นชะตากรรมอันเลวร้ายจริงๆ!

คุณตาเหยียนแค่นเสียงฮึ ตั้งแต่ที่เหยียนหมิงซุ่นเปิดเผยเรื่องพวกนั้นออกมาเมื่อสามปีก่อน เขาก็ไม่ได้ไปมาหาสู่ลูกชายสักเท่าไร มักจะรู้สึกว่าหากมีความสัมพันธ์ดีกับลูกชายก็จะรู้สึกผิดต่อลูกสะใภ้ใหญ่

“รอฉันสมัครเสร็จก็ค่อยโทรศัพท์ไปบอกแล้วกัน”

คุณยายหยางพูดอย่างระแวงเสียงเบาว่า “ถานซูฟางจะต้องคิดก่อเรื่องอีกแน่นอน!”

“เขากล้าก่อเรื่อง? ถ้าก่อเรื่องอีกก็ไล่ออกจากตระกูลเหยียนไป หมิงต๋าแซ่เหยียน เป็นหลานชายของฉัน ฉันจะจัดการไม่ได้เหรอ!”

คุณตาเหยียนตะคอกออกมาเสียงดัง ดวงตาเบิกกว้าง คุณยายหยางรีบปิดปากไม่พูดยั่วยุอะไรให้คุณตาโมโหอีก

เหยียนหมิงซุ่นไม่สนใจว่าน้องชายของเขาจะเข้าร่วมกองทหารในปีนี้หรือปีหน้า คุณตาพูดไม่ผิด ผลการเรียนแย่ๆของเหยียนหมิงต๋าแบบนั้น เรียนหรือไม่เรียนก็ไม่ต่างกัน ไปเรียนรู้ในกองทัพอาจจะเรียนรู้อะไรได้มากกว่า

ครั้งนี้คุณตาของเขาตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด เพียงแค่หวังว่าเขาจะอดทนต่อไปได้ ถานซูฟางผู้หญิงคนนั้น ต้องการให้ลูกชายเป็นข้าราชการเพื่อความก้าวหน้า จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะตกลงให้เหยียนหมิงต๋าไปเป็นทหารชั้นน้อยในกองทัพ?

โชคดีที่เขาจะไปหมู่บ้านตระกูลโม่ในช่วงบ่าย ไม่ต้องมาเจออะไรรกหูรกตา ไม่ต้องมาสนใจเรื่องเน่า ๆ พวกนี้!

………………………………………….

ตอนที่ 1069 รักทำให้ตาบอด

เหยียนหมิงซุ่นอยู่ที่หมู่บ้านสองวันก็กลับมา เอาของกินมาให้ครอบครัวเหมยเหมยหนึ่งคันรถ หอย ปลาน้ำจืด ปลาหนีชิว ปลาไหล ถั่วสดใหม่ มันหวาน เป็นต้น ล้วนเป็นสินค้าเฉพาะท้องถิ่นทั้งหมด เต็มคันรถไปหมด

“หมิงซุ่นทำไมถึงได้เอามาเยอะขนาดนี้? ไม่อย่างนั้นเอาพวกนี้……”

เหยียนซินหย่าพูดอย่างเกรงใจ เหมยเหมยดึงแขนเสื้อเธอเอาไว้ พูดตัดบทเสียงดังว่า “เยอะที่ไหน พวกนี้ยังไม่พอกินด้วยซ้ำ!”

เมื่อกี้เหยียนซินหย่าก็แค่โต้ตอบกลับไปตามสัญชาตญาณ  คิดอยากจะเหลือให้ผู้เฒ่าตระกูลเหยียนทั้งสองไว้บ้าง ลูกสาวตั้งใจตัดบท เธอก็รู้อย่างรวดเร็วว่าตัวเองพูดผิดแล้วก็พลันหงุดหงิดตัวเองไม่หาย

ยิ่งนานเธอยิ่งเลอะเลือนเสียจริง ๆ รู้อยู่เต็มอกว่าครอบครัวของแม่และครอบครัวตระกูลเหยียนเป็นเหมือนศัตรูคู่อาฆาตกัน เธอก็ยังพูดคำพูดพวกนั้นอีก นี่มันคือการทำให้เหยียนหมิงซุ่นลำบากใจไม่ใช่เหรอ!

“หมิงซุ่นตอนเย็นกินข้าวบ้านฉันนะ เหมยเหมย ลูกไปดูทีวีเป็นเพื่อนหมิงซุ่นเถอะ แม่จะไปทำกับข้าว”

เหยียนซินหย่าทักอย่างกระตือรือร้น แน่นอนว่าเหยียนหมิงซุ่นไม่ปฏิเสธ กินข้าวที่บ้านตระกูลจ้าวก็ไม่ใช่ครั้งแรกเสียหน่อย ตอนเย็นก็มักจะมากินข้าวอยู่เสมอ สบายใจเป็นอิสระมากกว่าบ้านตัวเองเยอะ!

“น้าเหยียน ผมไปฆ่าปลาและก็พวกปลาไหลนะครับ แล้วก็จะตัดก้นหอยออก เหมยเหมยเธอชอบกินหอย”

เหยียนหมิงซุ่นหยิบกรรไกรแล้วเดินไปลานบ้านเพื่อฆ่าปลาด้วยตัวเอง ต้นองุ่นที่ปลูกเมื่อห้าปีที่แล้วกิ่งก้านใบงอกงามเขียวชอุ่ม แถมยังเต็มไปด้วยพวงองุ่น เลขาโจวทำงานได้ยอดเยี่ยมมาก องุ่นที่ให้คนปลูกเป็นพันธุ์ที่ได้รับการตัดแต่งอย่างดี รสชาติหวานเป็นพิเศษ

เหยียนซินหย่าก็ไม่เกรงใจอะไรกับเขาอีก ในใจของเธอถือว่าเหยียนหมิงซุ่นเป็นลูกเขยแล้ว มีอะไรที่ยังต้องเกรงใจกันอีก

และสิ่งที่ทำให้เธอมีความสุขที่สุดคือ เหยียนหมิงซุ่นวางเหมยเหมยไว้เป็นอันดับแรกเสมอ ทุกเรื่องก็จะนึกถึงลูกสาวของเธอ ผู้หญิงแต่งงานกับผู้ชายเพื่ออะไร ไม่ใช่เพื่อบงการหัวใจของผู้ชายหรอกหรอ?

เหมยเหมยไปกับเหยียนหมิงซุ่น เพียงแต่ขยับปากไม่ขยับมือ ปากเล็กพูดจุ๊บๆจิ๊บๆ เหมือนกับนกกระจิบนกกระจาบยังไงอย่างนั้น

“เหยียนหมิงต๋าเห็นรูปภาพแล้วมีปฏิกิริยาเป็นยังไงบ้าง?”

เหมยเหมยไต่ถามเสียงเบา อยากจะรู้ปฏิกิริยาของเหยียนหมิงต๋ามากๆ ตอนนี้คงไม่เหมือนกับชาติที่แล้วแบบนั้นที่จะเป็นจะตายเพราะอู่เยวี่ยแล้วล่ะมั้ง!

“จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ยอมเชื่อ โง่จริงๆ”

เหยียนหมิงซุ่นตัดหัวปลาไหลออกด้วยกรรไกร ในดวงตามีความเย็นชาพาดผ่านออกมา

เหยียนหมิงซุ่นกลับไปที่บ้านตระกูลเหยียนก่อน คุณตาคุณยายบอกกับเขาว่า สองวันมานี้เหยียนหมิงต๋าจะต้องไปหาอู่เยวี่ยแน่ เพราะว่าไอโง่นี่กลับมาก็พูดว่าอู่เยวี่ยโดนคนข่มเหงรังแกโดยไม่ได้เต็มใจ ทำเอาคนแก่ทั้งสองโมโหเกือบจะเป็นลม

เห็นได้จากจุดนี้ว่า อู่เยวี่ยมีอิทธิพลต่อเหยียนหมิงต๋าอย่างลึกซึ้ง!

ปิดตาและหูของเขา ทำให้เขากลายเป็นคนตาบอดและหูหนวก ทำให้เขาหลงใหล กลายเป็นหุ่นเชิดในเงื้อมมือของอู่เยวี่ย

“เหยียนหมิงต๋าเจ้าหน้าโง่หัวสมองหมู โมโหจะตายอยู่แล้ว!”

เหมยเหมยฉันอยากจะสาดน้ำแข็งเพื่อดึงสติเหยียนหมิงต๋าจริงๆ ถูกถ่ายภาพจัง ๆ ขนาดนั้นแล้ว เจ้าหมอนี่ก็ยังไม่เชื่อ สมน้ำหน้าที่ชาติที่แล้วมีเขางอกอยู่บนหัว

เหยียนหมิงซุ่นฆ่าปลาเสร็จหมดแล้ว ก็เริ่มขอดเกล็ดปลาออก เสียงขอดเกล็ดปลาดังขึ้นไม่หยุด

“ฤดูใบไม้ร่วงนี้จะส่งหมิงต๋าไปที่กองทัพ ฉันจะให้คนไปเฝ้าไว้”

เหมยเหมยพยักหน้าไม่หยุด “ใช่ ขังเขาเอาไว้ ดูสิจะยังทำตัวติดหนึบกับอู่เยวี่ยได้ยังไงอีก”

เหยียนหมิงซุ่นเอาปลาที่ฆ่าเสร็จแล้วมาล้างให้สะอาด วางไว้ในกะละมัง ให้เหมยเหมยเอาไปไว้ในห้องครัว เขาตัดก้นหอยต่อ ส่วนพวกเครื่องใน อีกเดี๋ยวเอาไปฝังไว้ใต้ต้นองุ่น ทำเป็นปุ๋ย

เสียงกริ่งประตูดังขึ้น เหมยเหมยที่ออกมาพร้อมกับที่ตักขยะรีบไปเปิดประตู เห็นคนนอกประตูก็อดขมวดคิ้วไม่ได้

คนที่มาคือหานป๋อหย่วนและอยู่กับจ้าวอิงหัว เธอไม่อยากจะเปิดประตูก็ไม่ได้

…………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด