ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 1384 สวยมาแต่เกิด + 1385 พี่สามบุกมา

Now you are reading ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น Chapter 1384 สวยมาแต่เกิด + 1385 พี่สามบุกมา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1384 สวยมาแต่เกิด + ตอนที่ 1385 พี่สามบุกมา
โดย
Ink Stone_Romance
ตอนที่ 1384 สวยมาแต่เกิด

หลังจากจบงานพิธีปฐมนิเทศเปิดการศึกษาเหมยเหมยก็ย้ายเข้าหอพักแต่ค้างเพียงคืนเดียว ในเช้าวันที่สามของภาคการศึกษาใหม่นักศึกษาใหม่จะต้องเข้าฝึกทหาร ค่ายทหารอยู่เขตชานเมืองที่ห่างไปจากมหาวิทยาลัยหลายสิบลี้ และมีกำหนดการหนึ่งเดือน

“ฉันจะต้องเอาครีมกันแดดแล้วก็ครีมให้ความชุ่มชื้น อายครีม แผ่นมาส์กหน้า…โอ๊ย ของที่ฉันต้องเอาไปด้วยเยอะจังเลย กระเป๋าเดียวใส่ไม่พอ แต่กฎก็กำหนดไว้ว่าเอาไปได้แค่กระเป๋าเดียว…ฉันจะทำยังไงดีเนี่ย?”

สีอันน่ามองกองเครื่องสำอางของเธอด้วยความเครียด กฎของการฝึกทหารกำหนดไว้ว่านักศึกษาทุกคนพกกระเป๋าไปได้เพียงใบเดียว แค่เครื่องสำอางของสีอันน่าก็ใส่กระเป๋าใบเดียวไม่พอแล้วจึงกำลังเครียดอยู่!

แค่นี้ก็ช่างมันเถอะแต่น้ำเสียงกระเง้ากระงอดของเธอฉันอย่างนู้นฉันอย่างนี้ น้ำเสียงขึ้น ๆ ลง ๆทำเอานฟังไม่ไหวจริง ๆ

“ของพวกนี้ไว้ทำอะไรบ้างเหรอ?” ถังม่านลี่ถามเป็นความรู้ด้วยความถ่อมตัวพร้อมดวงตาที่ประกาย

นับตั้งแต่เข้าเมืองหลวงมาเธอเหมือนฟองน้ำที่แห้งเหี่ยวราวกับคอยซึมซับความรู้ด้วยความกระหาย แน่นอนว่าเฉพาะเรื่องเสื้อผ้าเครื่องสำอางเท่านั้น

“เครื่องสำอางไง ผู้หญิงสมัยนี้ใครบ้างที่ออกจากบ้านแล้วไม่แต่งหน้า!” สีอันน่าเอามือปิดปากหัวเราะเคอะเขิน สายตาฉายแววหยามเหยียดวูบหนึ่ง ช่างเชยเสียจริง

ถังม่านลี่เบ้ปาก เธอรู้อยู่แล้วว่าเป็นเครื่องสำอาง เมื่อก่อนเธอก็เคยปัดแก้มมาก่อนนะแต่เธออยากรู้ว่ากระปุกและขวดเป็นกองของสีอันน่าคืออะไร ต้องใช้เงินเท่าไรถึงซื้อได้

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนจงใจหาเรื่องสีอันน่า “เธอเอาไปมากแค่ไหนก็เปล่าประโยชน์ ต่อให้ไม่ตากแดดเธอก็ดำขนาดนี้แล้ว ดำกว่านี้ก็ไม่เป็นไรหรอก กลัวอะไร!”

“เหอะ!”

สีอันน่าถลึงตาใส่เธอแวบหนึ่งแล้วก้มหน้าจัดเครื่องสำอางต่อ เธอยังไม่กล้าหาเรื่องเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนมากนัก ยายอ้วนนี่ดูช่ำชองเกินไปแถมยังเป็นเจ้าถิ่น ก่อนที่จะรู้เบื้องลึกเบื้องหลังเธอต้องคอยสังเกตการณ์อยู่เงียบ ๆ

“จ้าวเหมยเธอเตรียมเสร็จหรือยัง?”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนไม่ได้เสียงตอบรับจากสีอันน่าเลยหมดอารมณ์ หันสายตาไปยังเหมยเหมยที่กำลังอ่านหนังสืออยู่จึงถามด้วยสีหน้าเจี๋ยมเจี้ยม คิดอยากจะผูกมิตรไว้สักหน่อย

“เสร็จแล้ว” เหมยเหมยชี้ไปที่กระเป๋าเดินทางบนโต๊ะที่ไม่ได้ถูกยัดจนเต็ม มีเพียงเสื้อผ้าไว้เปลี่ยนรวมถึงของใช้สำหรับทำความสะอาดร่างกายแล้วก็ครีมบำรุงอีกหนึ่งขวด

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนร้องออกมาด้วยความตกใจ “จ้าวเหมยทำไมเธอถึงเอาไปแค่นี้ล่ะ? ครีมกันแดดเธอเอาไปหรือยัง? ครีมบำรุงผิวเอาไปหรือยัง? แล้วก็ขนม ฉันได้ยินว่ากับข้าวที่ค่ายเหมือนข้าวหมูเลยนะ ละแวกนั้นไม่มีร้านขายของชำอีก ไม่เตรียมขนมไปก็แย่สิ”

อย่างเธอก็เอาไปเพียงครีมกันแดดกับครีมมาส์กหน้า พื้นที่ที่เหลือในกระเป๋าไว้สำหรับขนมขบเคี้ยวทั้งสิ้น!

เหมยเหมยยิ้มส่ายหน้า “ฉันเอาครีมบำรุงไปขวดหนึ่งพอแล้ว แค่มีของกินก็พอ ฉันไม่เรื่องมาก”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยิ้มพลางจงใจพูดว่า “นั่นสิ เธอสวยมาตั้งแต่เกิด ไม่จำเป็นต้องอาศัยเครื่องสำอางตบแต่ง คนบางคนต่อให้โบะจนหน้าหนาเหมือนกำแพง มันจะดำก็ดำอยู่ดี”

เหมยเหมยฉีกยิ้มกล่าวอย่างระอา “ฉันก็ตากแดดจนผิวคล้ำเหมือนกันแต่ไม่กี่วันก็จะกลับมาขาวเหมือนเดิม”

“นั่นก็เพราะเธอสวยผิวดีมาแต่เกิดไง” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพูดเสียงรั้นซึ่งเหมยเหมยก็ปล่อยเลยตามเลยก่อนจะอ่านหนังสือต่อแต่หัวใจกลับบินหายไปตั้งนานแล้ว

สีอันน่าที่อยู่หนึ่งในนั้นทำหน้าถมึงทึงแล้วกระแทกกระปุกและขวดเสียงดังกระทบกระทั่ง เธอต้องลดจำนวนเครื่องสำอางลงหน่อยแล้วแต่เธอไม่ทันสังเกตว่าเผลอทำครีมกันแดดหลุดตกใส่ในลิ้นชักที่เปิดออก ซึ่งสีอันน่าก็ไม่เห็นแต่อย่างใด

ถังม่านลี่มองไปที่กระเป๋าลายดอกไม้แสนเชยของตัวเองแล้วพูดเอาใจ “อันน่า เอางี้เธอฝากไว้ที่ฉันก็ได้ กระเป๋าฉันว่างอยู่”

สีอันน่าตาลุกวาวแล้วยิ้มให้ถังม่านลี่ “ขอบคุณนะ ถึงตอนนั้นฉันจะสอนวิธีบำรุงผิวให้เธอ”

ถังม่านลี่เองก็ยิ้มตอบ กำลังรอประโยคนี้อยู่เชียว!

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนแค่นหัวเราะทีหนึ่งโดยไม่พูดอะไร แม้ฐานะทางบ้านสีอันน่าจะดีอยู่บ้างแต่หล่อนเป็นคนขี้เหนียวที่สุด ถังม่านลี่ไม่มีทางได้ผลประโยชน์อะไรจากหล่อนหรอก

…………………….

ตอนที่ 1385 พี่สามบุกมา

ช่วงพลบค่ำเหมยเหมยตั้งใจโทรหาลุงเหลาโดยเฉพาะกำชับเขาให้โทรบอกเธอทันทีที่ได้ข่าวเหยียนหมิงซุ่น ไม่ว่าเวลาไหนก็ตาม ลุงเหลาตอบตกลง เขารู้มากกว่าเหมยเหมยเล็กน้อยและรู้ถึงความเสี่ยงของเหยียนหมิงซุ่นมากกว่าเขาเองก็เป็นห่วงเช่นกัน

อู่เชากับเจียงซินเหมยต่างส่งข้อความหาเหมยเหมย พอเหมยเหมยได้บัตรโทรศัพท์มาก็รีบโทรกลับทันที

ตอนแรกอู่เชาเองก็อยากสอบเข้ามหาวิทยาลัยในเมืองหลวง แต่คะแนนสังคมและวัฒนธรรมของเขาไม่ดีเท่าไรสอบเข้าได้แต่คณะภาษาจีนของวิทยาลัยครูของเมืองหลวง ส่วนเจียงซินเหมยก็ไม่ได้เข้าร่วมหน่วยยุทโธปกรณ์เหมือนชาติที่แล้วแต่กลับสอบเข้าวิทยาลัยภาพยนตร์ของเมืองหลวงแทน ได้ก้าวเข้าสู่เส้นทางที่ต่างไปจากอดีตชาติอย่างสิ้นเชิง

มหาวิทยาลัยของพวกเขาสองคนอยู่ใกล้กันแต่กลับอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยเหมยเหมยค่อนข้างมาก สองคนนี้ก็ต้องไปฝึกทหารในวันพรุ่งนี้เช่นกันเลยโทรมาบอกล่วงหน้า นัดไว้ว่าหลังจบการฝึกทหารค่อยหาเวลาทานข้าวด้วยกัน

เหมยเหมยย่อมไม่คัดค้านอยู่แล้ว ช่วงนี้มีเวลาเจอเพื่อนเก่าน้อยเกินไป

ตอนนี้สยงมู่มู่โด่งดังจนฉุดไม่อยู่ ไม่เพียงแค่แต่งเพลงแต่ยังร้องเพลงเองเลยงานยุ่งจนหัวหมุน เซียวเซ่อเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วแต่กำลังวุ่นอยู่กับการสืบกิจการครอบครัว ซึ่งก็งานยุ่งเช่นกันเลยไม่ได้เจอกันนาน

ใต้ตึกหอพักมีตู้โทรศัพท์สาธารณะ ป้าหอขายบัตรโทรศัพท์พอดี มีทั้งสิบหยวนยี่สิบสามสิบห้าสิบหยวน เหมยเหมยซื้อห้าสิบหยวนเพียงพอให้เธอโทรคุยไปอีกเดือน

เพิ่งดึงบัตรโทรศัพท์ออกมาเพจเจอร์ในมือก็แผดเสียงดังทันที เป็นข้อความจากจ้าวเสวียเอ๋อร์ “อีกครึ่งชั่วโมงจะไปหา”

เหมยเหมยอมยิ้มน้อย ๆ หลังจากแตกคอกับตระกูลจ้าวเมื่อสองปีก่อนเธอกับเหล่าลูกพี่ลูกน้องอย่างจ้าวเสวียไห่จึงไม่ค่อยติดต่อกันบ่อยนัก หนึ่งปียังไม่โทรหากันสักครั้งเพราะทุกคนต่างจงใจหลบหน้ากันอยู่

จ้าวเสวียกงกลับโทรหาเธออยู่บ่อยครั้งแต่ก็รู้สึกได้ว่าไม่สนิทเหมือนวัยเด็กอีกแล้ว แต่นับว่ายังมีความสัมพันธ์ที่สนิทกว่าใคร จ้าวเสวียเอ๋อร์กลับเป็นคนที่ติดต่อบ่อยมากกว่า

ตอนที่เกิดเรื่องที่บ้านเมื่อสองปีก่อนจ้าวเสวียเอ๋อร์ไปต่างประเทศไม่ได้อยู่เมืองหลวง กลับมาถึงเพิ่งรู้เรื่องพวกนี้ซึ่งปฏิกิริยาแรกของเขาก็คือตักเตือนจ้าวอิงหย่งพ่อของตัวเอง อย่างที่สองฟื้นฟูความสัมพันธ์กับน้องสาวคนนี้

จ้าวเสวียเอ๋อร์ฉลาดมาก เขาเข้าใจดีกว่าใคร

ตระกูลจ้าวในตอนนี้ครอบครัวจ้าวอิงหัวต่างหากที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด อีกทั้งลูกพี่ลูกน้องคนนี้ยังเป็นคู่หมั้นของคุณชายหมิงผู้ลึกลับคนนั้นอีก เขาคงโง่หากจะเลือกตีตัวออกห่างจากครอบครัวคุณอาเล็กอยู่แล้ว!

แม่ของเขาเฉยชาเกินไป พ่อของเขาก็สติเลอะเลือนเกินไป เฮ้อ!

ความพยายามของจ้าวเสวียเอ๋อร์ยังมีผล ตระกูลจ้าวมีคนตั้งมากมาย มีเพียงจ้าวเสวียเอ๋อร์ที่ค่อนข้างสนิทกับเหมยเหมยซึ่งติดต่อกันเป็นอยู่บ่อยครั้ง แม้แต่คุณปู่จ้าวเองนอกจากโทรไปสุขสันต์วันปีใหม่และวันเกิดปกติก็แทบไม่โทรหาด้วยซ้ำ

สองปีนี้จ้าวเสวียเอ๋อร์ขยายบริษัทใหญ่โตมากขึ้นเรื่อย ๆ สร้างสรรค์รูปแบบอาหารจานด่วนฉบับภาษาจีนสไตล์ใหม่และเปิดสาขาไปตามเมืองต่าง ๆ นอกจากนี้ยังลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ตัวเองเงินทุนไม่พอเลยเกลี้ยกล่อมให้เหมยเหมยลงทุนด้วยกันจำนวนหนึ่งก่อนจะได้กำไรไปเต็ม ๆ รถยนต์เปลี่ยนจากซีดานขนาดกลางเป็นโตโยต้า คราวน์ทันที แถมยังซื้อมาในราคาสูงถึงหกแสนหยวน

เพื่อรถคันนี้จ้าวเสวียเอ๋อร์ยังปวดใจอยู่นานกว่าครึ่งปีก็ยังทำใจไม่ได้!

ในเมื่อยังมีเวลาอีกครึ่งชั่วโมงเหมยเหมยเลยไม่ได้รอที่ใต้อาคารแต่โทรหาจ้าวเสวียเอ๋อร์ “พี่สาม พี่มามีเรื่องอะไร?”

“ทำไม? ไม่มีธุระก็ไปหาเธอไม่ได้เหรอ? ฉันเป็นพี่ของเธอนะ!” จ้าวเสวียเอ๋อร์ตัดสินใจเทียบจอดรถข้างทางเพราะโทรศัพท์เคลื่อนที่หนักเกินไปแค่มือข้างเดียวเขายกไม่ไหว

ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เขายังมีอนาคตที่ยาวไกลแถมยังหาเงินได้ตั้งมากมาย ตายแล้วไม่คุ้ม!

จ้าวเสวียเอ๋อร์ไม่เสียเวลาพูดกับเธอมากเลยตัดบทพูด “ฉันเพิ่งกลับมาจากฮ่องกง ซื้อเครื่องประดับกับเสื้อผ้าออกใหม่จากที่นั่นมาให้เธอด้วย แล้วก็มีเรื่องจะปรึกษาเธอหน่อย”

“แต่เสื้อผ้าเครื่องประดับของฉันมีเยอะมากแล้วนะ!” เหมยเหมยเอือมระอาเหลือเกิน

……………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด